ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TIMELESS (NewJiew TS1)

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 8 : จอมเกเร

    • อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 57


    บทที่


    จอมเกเร



     

     

     

    January 10, 2014 | (Fri)

     

     

    วันหยุดยาวผ่านพ้นไป ถึงเวลาที่ทุกชีวิตต้องกลับสู่วงจรเดิม ๆ อีกครั้ง เรียนและทำงานตามกำหนดเวลาอย่างที่เคยเป็น นิวและจิ๋วเองก็มีหน้าที่ของตนที่ต้องรับผิดชอบ เกือบทั้งสัปดาห์แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่ได้นอนด้วยกันทุกคืนเหมือนตอนอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรไป เพราะชีวิตที่เคยว่างเปล่าถูกเติมเต็มแล้วตั้งแต่หวนกลับมาจับมือกันอีกครั้ง แต่วันไหนที่จิ๋วว่างนิวก็มักจะหาเวลามาอยู่ด้วยเสมอ เช่นวันนี้เป็นต้น

     

    นิวมาหาจิ๋วที่บ้านตั้งแต่เที่ยงพร้อมนำ DVD ของงานเมื่อวันปีใหม่มาให้จิ๋วและฝากที่เหลือไปให้เอ็มและรุ่นพี่วง etc ทั้งภาพที่นิวเป็นคนถ่ายเองและไฟล์วิดีโอที่นิวรับมาจากอีกคนได้ถูกไรท์ลงในแผ่น DVD เพื่อแจกจ่ายแก่เพื่อนฝูงในวันนั้นทุกคนโดยไม่คิดเงิน จนคนตัวเล็กอดที่จะค่อนนิวขอดไม่ได้

     

    “ใจป้ำจริงนะเถ้าแก่เนี้ย”

     

    คนที่กำลังง่วนอยู่กับเครื่องเล่น DVD หันมายิ้มแฉ่งให้อย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างกัน ยกมือขึ้นโอบไหล่เล็กแล้วรั้งอีกคนเข้าหาตัว ขณะที่ภาพบนทีวีจอใหญ่ก็เคลื่อนไหวไปตามหน้าที่ของมัน

     

    “ถือเป็นของขวัญปีใหม่เล็ก ๆ น้อย ๆ จากนิวกับจิ๋วไง แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

     

    “แล้วจิ๋วเกี่ยวอะไรด้วย” เธอเอียงคอมองนิวอย่างไม่เข้าใจ

     

    “ก็จิ๋วเป็นกำลังใจให้นิวผลิตผลงานดี ๆ อย่างนี้ออกมายังไงล่ะ” นิวอธิบายหน้าทะเล้น

     

    “ไม่เกี่ยวกันเลยซักนิด”

     

    “เกี่ยวสิ… เกี่ยวมากเลยด้วย” แววตาที่มองมาอย่างลึกซึ้งทำให้ใบหน้าเธอร้อนวูบวาบ หากนิวไม่เหลือบมองไปยังกอง DVD บนโต๊ะเธอคงต้องเป็นฝ่ายหลบตาก่อนอย่างเคย

     

    “เนี่ย จิ๋วเห็นมั้ย บนแผ่นมีโลโก้ร้านนิว แถมบนซองยังมีที่อยู่เบอร์โทร ถือว่าเป็นการโปรโมทร้านอีกทางด้วยไง เผื่อพวกพี่เค้าชอบฝีมือของนิวแล้วอยากใช้บริการในภายภาคหน้า” นิวเลือกหยิบ DVD มาหนึ่งแผ่นเป็นหลักฐานให้จิ๋วดู

     

    “แหม ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว ช่างคิดจังนะ”

     

    พอจิ๋วออกปากชมเข้าหน่อยนิวก็ได้ทียืดอกอย่างภูมิใจ “ของมันแน่อยู่แล้ว”

     

    “ไม่ต้องมายืดเลย ดูนู่น” จิ๋วพยักพเยิดไปยังหน้าจอทีวี ภาพบรรยากาศในงานฉลองปีใหม่ของพวกเธอและเพื่อนเก่ากำลังฉายอยู่บนจอ นิวหันมองตามแล้วค่อย ๆ ไถลตัวจากโซฟาลงไปนั่งบนพื้นตรงหน้าจิ๋วก่อนถือวิสาสะแทรกตัวเข้าไประหว่างขาของอีกคน เอนหลังพิงกับหมอนบนตักของจิ๋วอย่างสบายอารมณ์

     

    “ทำไมไปนั่งตรงนั้นล่ะ”

     

    “มันสบายดี นิวชอบ” ว่าพลางดึงมืออีกคนมาวางไว้บนไหล่ของตน เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของตักอุ่นด้วยรอยยิ้มซื่อ ๆ จิ๋วเลยใจร้ายไม่ลง

               

     

    .

                .          

                .

     

     

    “ยืมตักหน่อยนะ” หลังจากปิดปากหาวหวอดใหญ่นิวก็ทิ้งศีรษะลงนอนหนุนตักอุ่นโดยไม่ให้โอกาสอีกคนปฏิเสธ จิ๋วก้มมองคนหน้าเป็นอย่างหมั่นไส้

     

    “หนีงานมาอู้แบบนี้มันน่าให้นอนมั้ยฮึ” หลังจากดูวิดีโอจากงานปีใหม่จบนิวก็ไม่ยอมกลับสตูดิโอจนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายโมงครึ่ง เคี่ยวเข็ญให้กลับโดยใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งแต่ก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี

     

    “อู้วันเดียวเองนะ ลูกน้องนิวเค้าเก่งดูแลกันเองได้” พูดแล้วก็ฉีกยิ้มหวานให้คนขี้บ่น

     

    “ถ้าวันหลังมีอีกนะจะไม่ยอมให้เข้าบ้านเลยคอยดู” จิ๋วขู่ แต่ก็ไม่แน่ว่าเธออาจจะทำจริง ๆ หากนิวยังดื้อดึงอยู่อย่างนี้

     

    “ค่า~ วันหลังน้องนิวจะไม่ดื้อนะคะพี่จิ๋ว” ว่าแล้วก็จับมือเล็กมาแนบแก้มถูไถไปมาอย่างออดอ้อนจนจิ๋วหลุดขำออกมาพรืดใหญ่

     

    “นี่คุณนิว ดูตัวเองหน่อยอายุเท่าไหร่แล้ว”

     

    “อายุมันเป็นเพียงตัวเลข แต่หัวใจหนูนิวยังใสกิ๊งเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้มเลยนะ”

     

    “แย้มฝาโลงป่ะ?” จิ๋วแซวอีกคนกลั้วหัวเราะ

     

    “โหย.. แรงอะ” เบะปากแง่งอนที่ถูกตัดอารมณ์ด้วยมุกตลกร้ายของจิ๋ว ซ้ำยังมองค้อนปะหลับปะเหลือก จิ๋วมองยิ้ม ๆ แต่ไม่ได้ง้ออย่างที่อีกคนแอบหวังไว้ในใจ นิ้วเรียวเล็กแทรกเข้าไปในกลุ่มผมสีสว่าง สางเบา ๆ จนสุดความยาว

     

    “น้องนิวผมเริ่มยาวแล้วนะ เป็นสาวแล้วสิเรา” เธอตั้งข้อสังเกตโดยใช้น้ำเสียงล้อเลียนอีกคน มีไม่บ่อยนักหรอกที่มีโอกาสได้เห็นนิวผมยาวจนเกือบจะเลยบ่า

     

    “อยากตัดอยู่เหมือนกันนะ แต่ไม่ได้ไปซักที”

     

    “นึกว่าจะไว้ยาวซะอีก”

     

    “ไม่ล่ะ มันเกะกะ ไม่เหมาะกับขาลุยอย่างนิวหรอก” นิวหลับตาลง พูดเสียงยานคางเพราะง่วงนอนเต็มที

     

    “งั้นไปกันวันนี้เลยมั้ยล่ะ จะต้องเอา DVD ไปส่งไปรษณีย์อยู่แล้วนี่”

     

    นิวขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ไม่กี่อึดใจก่อนตอบตกลง “อื้อ.. แต่นิวงีบก่อนค่อยไปนะ”

     

    “งั้นก็นอนซะเถอะ ซักพักจิ๋วจะปลุก”

     

    รอยยิ้มจาง ๆ ตรงมุมปากที่ค้างอยู่ของคนหลับทำให้เธอยิ้มตาม แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าที่เธอทำอยู่นี่จะเป็นการอ่อนข้อให้นิวเกินไปหรือเปล่า ตามใจมากเกรงว่านิวจะเคยตัวและกลายเป็นเธอเองที่ต้องลำบาก… หลังจากนี้เธอควรจะเอาจริงกับนิวบ้างดีไหมนะ

     

     

    .

    .

    .

     

     

    นิวมองสำรวจตนเองในกระจกกับผมสีบลอนด์หม่นประกายเขียวที่ไม่สว่างเท่าเดิม ปลายผมถูกตัดเล็มให้สั้นลงเล็กน้อย ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้มากมายอะไรแต่กับคนที่เห็นหน้าตนเองทุกวันมันก็ดูแปลกตาไปบ้าง เธอชักถูกใจช่างทำผมร้านโปรดของจิ๋วเสียแล้ว ทั้งฝีมือและอัธยาศัยใจคอ คราวหลังถ้ามีโอกาสจะมาใช้บริการที่นี่อีก และต้องมาพร้อมกับจิ๋วเหมือนอย่างเคย

     

    นิวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปตนเอง ฉีกยิ้มกว้างแล้วกดบันทึกภาพ

     

    ทันทีที่นิวอัพรูปนั้นลงอินสตราแกรมพร้อมข้อความ “เปลี่ยนสีผมใหม่” ไม่ถึงนาทีลูกน้องที่ถูกทิ้งอยู่ในสตูดิโอก็เข้ามาคอมเม้นท์กระเซ้าแกมเหน็บแนมโดยพร้อมเพรียง คงกำลังสุมหัวอยู่ด้วยกันถึงได้คอมเม้นท์กระหน่ำใส่เธอรัว ๆ แบบนี้

     

    (ขิง) khing_008 : “สวยเนอะพี่นิว #ทางนั้นท่าทางจะสบาย #คงไม่ยุ่งเหมือนทางนี้”

     

    (อ๊อด) oddy_ravit : “นึกว่าอู้เป็นแต่กำเมือง อู้งานก่อเป็นก่า?”

     

    (เหน่ง) neng_photo : “สงสัยสตูดิโอพี่นิวจะมีตำแหน่งว่างเพิ่มอีกสองตำแหน่งแน่ ๆ เลยว่ามั้ย?”

     

    (นิว) brandnew_st : @ khing_008 @oddy_ravit ตกลงใครเป็นคนจ่ายเงินเดือน ฉันหรือพวกแก @neng_photo เหน่งฝากพี่ท็อปปิดร้านให้ด้วยนะคงกลับค่ำ”

     

    พอส่งข้อความเสร็จ นิวก็เก็บโทรศัพท์ไว้อย่างเดิม ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องอย่างสาแก่ใจที่ได้เยาะเย้ยลูกน้อง

     

    “จิ๋ว.. อ้าว ไปไหนแล้วล่ะ” กำลังจะหันไปถามความเห็นจากคนที่นั่งรออยู่บนโซฟามุมหนึ่งของร้านแต่ก็หายตัวไปเสียแล้ว

     

    “พี่คะ เห็นจิ๋วมั้ยคะ”

     

    “อ๋อ น้องจิ๋วเหรอคะ เห็นคุยกับพี่สาวเค้าโขมงโฉงเฉงอยู่นู่นแหนะค่ะ” ช่างทำผมชี้บอก นิวเดาว่า “พี่สาว” ที่เธอบอกต้องเป็นเพื่อนคนใดคนหนึ่งของจิ๋วที่นิวคงไม่รู้จัก

     

    พอไปถึงก็เห็นว่าจิ๋วกำลังคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่นิวเดาอายุไม่ถูกอย่างออกรส ถึงแม้เธอคนนั้นจะวางตัวสบาย ๆ แต่ก็ยังดูสง่างามราวกับนางพญา ครู่หนึ่งเธอบังเอิญหันมาสบตานิวเข้าพอดี  นิวจึงยิ้มบาง ๆ ให้พร้อมผงกศีรษะเป็นเชิงขออนุญาตก่อนเดินเข้าไปหาคนที่นั่งหันหลังให้ แต่เสียงกำไลที่กระทบกันของนิวทำให้อีกคนรู้ตัวตั้งแต่ยังไม่ทันสะกิด

     

     “นิว เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย… ดูดีใช้ได้เลยนะเนี่ย” จิ๋วหันมามองหยุดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งแล้วชมเปาะ นิวอมยิ้มเขิน ๆ เมื่อเห็นสายตาชื่นชมของอีกคน มือไม้แทบจะวางไม่ถูกที่

     

    “แล้วจิ๋วล่ะเสร็จแล้วเหรอ” ถามออกไปเบา ๆ เพราะเกรงใจคู่สนทนาที่กำลังมองมา

     

    “เสร็จแล้วล่ะ อ้อ.. นี่พี่เพลินนะนิว  นิวเพื่อนจิ๋วค่ะพี่เพลิน” จิ๋วแนะนำผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามให้รู้จักกับ “เพื่อนคนพิเศษ” ของตน นิวยกมือไหว้คนอายุมากกว่าด้วยรอยยิ้ม

     

    “พี่ไม่เห็นรู้เลยว่าน้องจิ๋วมีเพื่อนสวยขนาดนี้” แววตาที่สาวรุ่นพี่ใช้มองนิวไม่ได้บอกว่าแกล้งชม ยิ่งทำให้นิววางตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่

     

    “จิ๋วก็ไม่ได้เจอเค้านานเหมือนกันค่ะ เพิ่งเจอตัวที่เชียงใหม่จิ๋วเลยหิ้วกลับมาด้วย” จิ๋วพูดติดตลก อมยิ้มภูมิใจแทนนิวพลางเหลือบมองหน้าคนถูกชม

     

    “มิน่าถึงไม่เคยเจอเลย” เธอพึมพำครุ่นคิด “น้องจิ๋วกับน้องนิวก็ตามสบายนะ พี่คงอยู่ในนี้อีกนาน” เธอเปิดทางให้เมื่อเห็นว่าจิ๋วเสร็จธุระแล้ว

     

    “งั้นเดี๋ยวจิ๋วแวะไปที่ร้านนะคะ วันนี้ต้องขอตัวก่อน ต้องไปซื้อของเข้าบ้านอีก” จิ๋วออกตัว

     

    “ตามสบายเลยค่ะ ไว้เจอกันนะ”

     

    หลังจากที่ทั้งหมดล่ำลากันเสร็จนิวก็ขึ้นไปนั่งบนเบาะรถหลังพวงมาลัยโดยมีจิ๋วนั่งข้าง ๆ เป็นผู้โดยสารอย่างเคย

     

    “พี่เค้าเป็นใครเหรอจิ๋ว สวยดีเนอะ”

     

    “พี่เพลินเค้าเป็นเจ้าของร้านเพชรน่ะ รู้จักกันเพราะเรื่องเครื่องประดับนี่แหละ”

     

    “โห… มิน่าดูรวย” นิวพูดกลั้วหัวเราะ

     

    “สวย รวย เก่ง ครบสูตรเลยล่ะ สามีเค้าเป็นคนแคนาดา เป็นเจ้าของเหมืองเพชรเหมืองพลอยด้วย ธุรกิจครบวงจร” จิ๋วพูดอย่างชื่นชมทั้งแววตาและน้ำเสียง คงจะเป็นอย่างที่คนในร้านพูดจริง ๆ ว่าจิ๋วนับถือผู้หญิงคนนั้นเป็นเหมือนพี่สาว

     

    “สนิทกันเหรอ”

     

    “ก็ทำนองนั้น พี่เพลินปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องเพชรพลอย”

     

    โทรศัพท์ที่สั่นครืด ๆ อยู่ในกระเป๋าของจิ๋วทำให้บทสนทนาหยุดชะงัก ควานมือหาครู่เดียวก็พบต้นตอของเสียง

     

    “รับโทรศัพท์แป๊บนะ”  

     

    นิวพยักหน้ารับแล้วเคลื่อนรถออกไปอย่างนิ่มนวล มีจิ๋วโดยสารอยู่ด้วยอีกคนทำให้นิวเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถมากเป็นพิเศษ

     

    “หือ? วันนี้เลยเหรอพี่เจน”

     

    “อยู่ด้วยกันนี่แหละ นิวเพิ่งทำผมเสร็จ พี่เจนจะคุยมั้ย?”  นิวเหลือบมองแว้บหนึ่ง เงี่ยหูฟังอย่างสนใจเมื่อในบทสนทนานั้นมีชื่อของตนร่วมอยู่ด้วย ได้ยินเสียงทักทายของเจนรบดังมาจากโทรศัพท์เมื่อจิ๋วเปิดสปีคเกอร์โฟน

               

    [Hi น้องนิว เย็นนี้กินข้าวกันนอกบ้านด้วยกันมั้ย เดี๋ยวพาเดอะแก๊งเพื่อนร่วมงานของภรรยาไปให้รู้จักด้วย]

               

    “พี่เจน” จิ๋วปรามเมื่อปลายสายชักจะเลอะเทอะ ส่วนนิวก็หัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ

               

    “ก็ดีเหมือนกันนะคะ แต่ทำกินเองที่บ้านจิ๋วไม่ดีกว่าเหรอคะ บรรยากาศจะได้ดูเป็นกันเองหน่อย” นิวเสนอแต่จิ๋วกลับมองอย่างไม่เห็นด้วย

               

    [อืม.. ก็ดีเหมือนกันนะ แต่ว่าพี่จะไปเลทหน่อยน่ะสิคะ เดี๋ยวทำกับข้าวไม่ทัน คนเยอะด้วย]

               

    “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยค่ะ เดี๋ยวนิวโชว์ฝีมือเอง พี่เจนมาก็ทำอะไรง่าย ๆ หรือว่าซื้ออะไรที่อยากทานมาเพิ่มหน่อยก็เรียบร้อย” นิวพูดเหมือนทุกอย่างง่ายดายไปหมด

               

    “จะไหวเหรอนิว” จิ๋วไม่มั่นใจในความคิดของนิวนัก เธอรู้ว่าพอนิวมีฝีมือในการทำอาหาร แต่ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย ถ้าพูดถึงเมื่อก่อน

               

    “ไหวสิจิ๋ว… ว่าแต่มากันกี่คนคะ” นิวพูดอย่างมั่นใจ

               

    [รวมพี่แล้วก็สี่คนค่ะ วันนี้ว่างแค่นี้ แต่น้องนิวทำคนเดียวได้แน่เหรอ?] ดูเหมือนเจนรบจะคิดไม่ต่างจากจิ๋ว นิวยกยิ้มมุมปาก ไม่ได้ถือสาที่ทั้งคู่เหมือนกำลังสบประมาทเธอกลาย ๆ  มันก็ไม่แปลกเพราะทั้งจิ๋วและเจนรบรู้จักขีดความสามารถของนิวในอดีตดี แต่พวกเธอคงลืมนึกไปว่าเวลามันก็เปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่าง

               

    “เชื่อมือเถอะค่ะ ไม่ทำให้พี่เจนขายหน้าแน่นอน… อีกอย่างนิวไม่ได้ทำคนเดียวมีจิ๋วเป็นผู้ช่วยอีกทั้งคน”

     

     

    .

    .

    .

     

     

    นิวกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อค่ำในครัว โดยมีจิ๋วเป็นลูกมือคอยหยิบนู่นหยิบนี่ให้ แม้จะเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บ้างแต่ก็ช่วยแบ่งเบาภาระนิวได้มาก และจิ๋วก็เรียนรู้งานที่นิวสอนให้ผ่านการเป็นผู้ช่วยอย่างเต็มใจ ทั้งสองคนอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนน่ารักในแบบเดียวกัน ดูแล้วยังใหม่เหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน พอ ๆ กับเครื่องครัวที่ถูกวางทิ้งไว้จนฝุ่นจับ ถ้าให้นิวเดาก็คงจะมีแค่ผู้จัดการคนเก่งเท่านั้นที่แวะเวียนเข้ามาใช้งานมันบ้าง แต่เจ้าของบ้านเองคงไม่ค่อยย่างกรายเข้ามาในนี้บ่อยนัก

     

    กลิ่นเครื่องเทศหอมอบอวลทั่วห้องครัวเล็ก ๆ คลอกับเสียงเพลงจากนักร้องคนโปรดของจิ๋วที่เปิดไว้ ส่งให้บรรยากาศในบ้านหลังน้อยดูมีวีชิตชีวามากกว่าเมื่อก่อน อาจเป็นผลมาจากการที่เธอเปิดโอกาสให้นิวหวนกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอีกครั้ง

     

    “เก่งมากคนดี” นิวกล่าวชมลูกศิษย์จำเป็นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเมื่อเธอทำได้อย่างที่นิวสอน จิ๋วรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นเด็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้านิวในเวลานี้

     

    …แต่แบบนี้มันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ…

     

     “จิ๋ว ดูหม้อให้ทีว่าน้ำมันเดือดรึยัง”

     

    “แป๊บนะ” จิ๋ววางมือจากผักที่กำลังหั่นแล้ววิ่งไปดูหม้อที่ตั้งอยู่บนเตาแก๊ส

     

    “ยังไม่เดือดเลย ต้องรอซักพัก”  นิวมองตามแล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่ทั้งคู่จะทำงานของตนต่อไป อาจจะวุ่นวายขลุกขลักไปบ้างแต่ก็ไม่มีใครหงุดหงิดรำคาญใจกับอุปสรรคเล็กน้อยเหล่านั้น ความผิดพลาดที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังประสานกันเป็นระยะ

     

    อาหารมื้อนี้ถือเป็นงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของนิวกลาย ๆ  โดยมีแขกเพียงไม่กี่คนคือเจนรบและทีมงานที่สนิทกัน นิวได้พิสูจน์ให้จิ๋วเห็นด้วยตาตนเองแล้วว่านิวทำได้อย่างที่พูดทุกอย่างและดูเหมือนจะทำได้ดีเกินคาดเสียด้วย ท่าทางคล่องแคล่วทะมัดทะแมงเวลาหยิบจับเครื่องครัวทำให้จิ๋ววางใจ รสชาติอาหารที่ได้ลองชิมก็อร่อยกว่าเมื่อก่อนจนผิดหูผิดตา คิด ๆ แล้วจิ๋วก็นึกหมั่นไส้อีกคนที่หยิบจับอะไรก็ดูจะเก่งไปเสียทุกอย่าง โดยใช้เวลาพัฒนาความสามารถเพียงแค่ห้าปีเท่านั้น

     

    กริ๊ง…

     

    “สงสัยจะมากันแล้ว จิ๋วไปดูก่อนนะ” จิ๋ววางมีดลงแล้วปลดผ้ากันเปื้อนออกหลังจากได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น นิวพยักหน้ารับคำแต่ก็แอบนึกเสียดายที่จะไม่ได้เห็นจิ๋วในชุดผ้ากันเปื้อนอีก บอกได้เลยว่าน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด

     

    “ไงลูก ๆ ทำอะไรทานคะวันนี้” เสียงเจนรบดังเข้ามาถึงในครัวก่อนตัว ตามมาด้วยกลุ่มเพื่อนอีกสามคน เป็นสาวแท้หนึ่งและไม่แท้อีกสอง นิวก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อเห็นหน้าผู้มาเยือน นี่คงเป็นสาเหตุที่จริตจะก้านของจิ๋วจัดจ้านขึ้นทุกวันเวลาอยู่บนเวที เป็นเพราะได้เทรนเนอร์ดี ๆ ตั้งหลายคนนี่เอง

     

    “ต๊ายยย นี่น้องนิวเพื่อนน้องจิ๋วใช่มั้ยคะ” หนึ่งในนั้นปราดเข้ามาจับแขนนิวแล้วมองสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างตื่นเต้น นิวเคี้ยวกับข้าวในปากที่กำลังชิมช้าลง หันไปมองจิ๋วตาปริบ ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่อีกคนกลับยืนมองเธออย่างขำ ๆ  โดยไม่พูดอะไร จึงหันไปขอความเห็นใจจากเจนรบแทน

     

    “ผิวพรรณก็ดี หน้าตาก็สวย สนใจเป็นดารามั้ยคะน้องนิว”  นิวรีบกลืนกับข้าวที่เคี้ยวอยู่ลงคอแล้วยิ้มแห้ง ๆ ให้คนตรงหน้า

     

    “นังภัทร แกดูหน้าน้องนิวก่อนสิ อะไรกัน อยู่ ๆ ไปจู่โจมน้องเค้า ขวัญเสียหมดแล้วนั่น” เจนรบพูดแทรกขึ้นเพื่อช่วยชีวิตนิว

     

    “อุ๊ย พี่ขอโทษค่ะคุณน้องขา เห็นแล้ววิญญาณโมเดลลิ่งมันเข้าสิง” ภัทรพูดกรีดกราย ยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต

     

    “โมเดลลิ่งอะไรยะ หล่อนน่ะมันช่างแต่งหน้าไม่ใช่รึไง?” เสียงใครสักคนขัดขึ้นทำให้ภัทรส่งค้อนให้วงใหญ่ ถึงแม้ภัทรจะถอยออกไปจากนิวแล้วแต่ความสนใจของเขาก็ยังคงอยู่ นิวรู้สึกได้

     

    “กว่าจะได้เจอตัวนี่ยากแสนยากได้ยินแต่เจนพูดถึง ขนาดไปบ้านก็แล้วยังไม่เจอ”

     

    “ตอนสงกรานต์ใช่มั้ยคะ?”

     

    “ใช่ค่ะคุณน้อง”

     

    “แต่ต่อไปนี้จะเจอนิวบ่อยจนเบื่อหน้าเลยล่ะค่ะ ไม่หายไปไหนแน่ ๆ รับรองได้” ฟังเหมือนพูดกับเพื่อนร่วมก๊วนของจิ๋ว แต่กลับปรายตามองเจ้าของบ้านด้วยแววตาลึกซึ้งเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย เพราะคนอื่น ๆ มัวแต่ชื่นชมฝีมือการทำอาหารของนิว จึงไม่มีใครทันสังเกตเห็นนอกจากคนที่ได้รับมันเท่านั้น คำมั่นสัญญาที่ส่งผ่านทางสายตาและคำพูดลอย ๆ แบบไม่เจาะจง แต่กลับฟังดูหนักแน่นเหลือเกินในความรู้สึกของคนฟัง

    .

    .

    .

    January 11, 2014 | (SAT)

                                                                         (ชุดที่พี่จิ๋วใส่ ประมาณนี้ค่ะ)

    “เสร็จละ เดี๋ยวคุณแม่ขอตัวก่อนนะหนู รีบลงไปล่ะ” เจนรบบอกกับทั้งคู่หลังจากแต่งหน้าให้จิ๋วเสร็จ เหมือนรู้ว่านิวต้องการจะพูดอะไรกับคนที่ยืนอยู่หน้ากระจก เจนรบพยักพเยิดให้นิวเป็นสัญญาณ นิวยิ้มบาง ๆ ตอบแทนคำขอบคุณก่อนประตูห้องจะปิดลง

     

    นิวเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังคนตัวเล็กเพียงไม่กี่ก้าว มองจิ๋วผ่านกระจกเงาบานใหญ่ด้วยสายตาชื่นชม แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลฉาบอยู่บางเบาและจิ๋วก็ไม่ทันสังเกตเห็นมัน ดวงตาคู่หวานภายใต้ขอบตาที่ถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์จนคมกริบเผลอไปมองสบกับดวงตาวามวาวของคนข้างหลัง มือที่กำลังจัดการกับต่างหูคู่งามหยุดชะงัก เลิกคิ้วเป็นเชิงถามผ่านเงาในกระจก นิวจึงพูดขึ้น

     

    “จิ๋ว”

     

    “ฮื้อ?”

     

    “วันนี้นิวขอไปดูจิ๋วนะ” นิวขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น เพียงกระซิบเบา ๆ จิ๋วก็ได้ยินชัดเจนทุกคำ มืออุ่นวางลงบนเอวคอดใต้เดรสผ้าชีฟองสีฟ้าอ่อน หัวไหล่มนที่เปิดเปลือยอยู่ใกล้กับปลายจมูกโด่งเพียงแค่ลมหายใจเป่ารด คนที่ตัวเล็กกว่าเผลอห่อไหล่น้อย ๆ ด้วยความรู้สึกวูบวาบตรงช่องท้อง ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจัดจะทาบลงบนผิวเนื้อเนียนอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ กลิ่นหอมกรุ่นยั่วใจจนนิวทนไม่ไหว

     

    ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งในกระจกอยู่ครู่หนึ่งกว่าที่จิ๋วจะหาเสียงตนเองเจอ

     

     “หือ? นึกยังไงถึงอยากไปล่ะ” คิ้วเรียวที่ถูกวาดไว้อย่างประณีตขมวดมุ่น

     

    “ก็อยากไปดู นิวไม่ได้เห็นจิ๋วร้องเพลงในผับมานานมากแล้วนะ” ขณะที่พูดริมฝีปากก็เฉียดกับผิวบางเป็นครั้งคราว อุณหภูมิในร่างกายของจิ๋วเริ่มร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ พอนิวเปลี่ยนจากโหมดขี้เล่นมาโหมดนี้ทีไรเธอก็ต้องอ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งโดนไฟทุกที กลายเป็นลูกไก่ในกำมือของอีกคนไปได้อย่างน่าโมโห ไม่ใช่นิวที่เธอนึกตำหนิ แต่เป็นตัวเธอเองนั่นแหละที่เผลอใจไปกับสัมผัสอ่อนโยนของอีกคนอยู่เรื่อย

     

    “เคยสิก็ตอนปีใหม่ไง” จิ๋วแกล้งเฉไฉ

     

    “โธ่ นั่นมันร้องกันเล่น ๆ ในหมู่เพื่อนฝูง ไม่ใช่ร้องในงานนี่นา” นิวเลื่อนมือมาโอบกระชับเอวบางไว้หลวม ๆ ส่งผลให้ร่างกายแนบชิดกันจนไร้ช่องว่าง หลุบตาลงมองไหล่นวลเนียนก่อนบรรจงประทับจูบลงไปบนผิวผุดผาด จิ๋วเริ่มทนอยู่เฉยไม่ไหวกับการถึงเนื้อถึงตัวของนิว เบี่ยงไหล่หลบแล้วพลิกตัวกลับไปเผชิญหน้าอีกคนแทนเพื่อความปลอดภัย

     

    “ไม่เอาน่านิว เดี๋ยวจิ๋วต้องไปทำงาน” แต่ถึงอย่างนั้นนิวก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวคอด

     

    “งั้นเดี๋ยวนิวตามไปนะ จะพาลูกน้องไปเลี้ยงปีใหม่ย้อนหลังด้วย” นิวทำตาละห้อยออดอ้อน จิ๋วหรี่ตามองเหมือนกำลังครุ่นคิด ทั้งหมดนั่นก็เพื่อทำให้ไม่ดูเป็นการตามใจนิวจนเกินไป ยอมง่าย ๆ เดี๋ยวก็ได้ใจกันไปใหญ่… ทั้งที่ในความเป็นจริงเธอใจอ่อนตั้งแต่เจอสายตาเว้าวอนคู่นั้นแล้วล่ะ

     

    “นะจิ๋วนะ เนี่ย นิวก็จองโต๊ะไว้นานแล้วด้วย” นิวขอร้องอีกคนเสียงอ่อนเหมือนเด็กอ้อนขอขนม

     

    “แล้วทำไมไม่บอกกันก่อนแต่แรกล่ะ แล้วรู้ล่วงหน้าได้ไงว่าวันนี้จิ๋วจะไปร้องเพลงที่ไหน” คนตัวเล็กเริ่มจับผิดแทนที่จะให้คำตอบออกไปตรง ๆ

     

    “โธ่จิ๋วอะ” นิวเริ่มหน้างอ

     

    “พี่เจนบอกใช่มั้ย?”

     

    “เปล่า… คิวงานจิ๋วน่ะ หาดูไม่ยากหรอก”

     

    “โอเค ๆ แต่คราวหลังบอกกันก่อนนะ ไม่ใช่มัดมือชกกันแบบนี้” ทันทีที่จิ๋วตอบตกลงนิวก็ฉีกยิ้มกว้าง แทบจะกระโดดจนตัวลอย

     

    “รับทราบค่ะทูนหัว” นิวรวบตัวจิ๋วเข้ามากอดแน่นด้วยความดีใจที่อีกคนอนุญาต

     

    “นิว จิ๋วหายใจไม่ออก” จิ๋วบ่นอยู่ข้างหู

     

    “อุ๊ย เค้าขอโทษ” นิวรีบคลายอ้อมกอดออกอย่างรวดเร็ว หัวเราะแห้ง ๆ ให้อีกคนแก้เก้อ

     

    “งั้น…ดึก ๆ เจอกันนะ” จิ๋วขยับเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อหย่อนบางสิ่งลงในกระเป๋าสะพายข้างใบเก่งของนิวก่อนถอยออกมาห่าง ๆ แล้วยิ้มหวานให้ นิวนึกสงสัยกับเสียงดังกริ๊กที่ได้ยิน มือล้วงเข้าไปควานหา  “สิ่งนั้น” ในกระเป๋าของตนอย่างรวดเร็ว เมื่อปลายนิ้วสัมผัสกับโลหะเย็นเฉียบที่แปลกไปจากของในกระเป๋านิวก็หยิบมันติดมือขึ้นมา

     

    “พวงกุญแจอะไรอะจิ๋ว”

     

    “คิดเองสิ ทีเรื่องอื่นล่ะไวนัก ซื่อบื้อเอ๊ย” จิ๋วหัวเราะก่อนยกมือขึ้นขยี้ผมนิวด้วยความหมั่นไส้ระคนเอ็นดู แล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทั้งรอยยิ้ม

     

    “นี่มัน.. กุญแจบ้านจิ๋วใช่มั้ย” นิวยกมันขึ้นมาพิจารณาใกล้ ๆ กว่าจะถึงบางอ้อ หัวเราะให้กับความซื่อบื้อของตนอย่างที่จิ๋วพูด ทั้งยังปลาบปลื้มกับความไว้ใจที่จิ๋วมีให้

     

    “ก็ไม่รู้สินะ” คนตัวเล็กยักไหล่ให้ มือแตะลูกบิดประตูเตรียมจะเปิดออกไป ท่าทางแบบนั้นทำให้นิวทนไม่ไหว.. และนิวก็จะไม่ทน!

     

    “มีอะไรอีกล่ะนิว” จิ๋วเอ่ยถามอย่างหวาด ๆ เมื่อนิวรั้งตัวเธอเข้ามาจนชิดกันอีกครั้ง และด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย

     

    “…” นิวไม่ได้ตอบคำถามเธอเป็นคำพูด มีเพียงความอบอุ่นจนร้อนเร่าจากริมฝีปากบางที่บดเบียดลงมาราวกับหิวโหยมาแรมปี จนเมื่อเรียวลิ้นชื้นรุกรานเข้ามาทักทายเธอก็เริ่มอ่อนแรง มือเล็กเกาะเกี่ยวไหล่บางอีกคนเพื่อประคองร่างให้ทรงตัวอยู่ได้ ปล่อยให้นิวระบายความรักและหวงแหนผ่านจุมพิตแผดเผาอย่างไร้เรี่ยวแรงขัดขืน กระทั่งความกระหายในรสจูบของนิวสิ้นสุดลงเรียวปากอิ่มจึงได้รับอิสระ

     

     “ขอบคุณนะสำหรับพวงกุญแจ” นิวกระซิบบอกน้ำเสียงไม่มั่นคง อาจเป็นเพราะหัวใจที่เต้นแรงแข่งกันเป็นสาเหตุหลัก มุมปากที่กดยิ้มลึกจนเห็นลักยิ้มเล็ก ๆ ข้างแก้มขวาทำให้จิ๋วรู้สึกเหมือนกำลังพ่ายแพ้ นัยน์ตาคู่หวานที่มองนิวอย่างงุนงงกำลังปรือฉ่ำด้วยอารมณ์เสน่หา เห็นแล้วนิวนึกอยากจะประทับจุมพิตร้อน ๆ ลงไปอีกครั้ง แต่ก็ต้องหักห้ามใจเพราะจิ๋วยังมีงานต้องไปทำ

     

    แม้อีกใจหนึ่งจะไม่อยากให้จิ๋วออกไปเจอใครในชุดนี้ก็ตาม เพราะมันสวยมากก็จริง แต่ทั้งเปิดหลังเปิดไหล่อวดผิวขาวที่ควรจะของนิวเพียงคนเดียวให้ใครต่อใครได้ชื่นชมด้วย  ยอมรับว่าหวงแต่ไม่อยากจะทำตัวงี่เง่าให้จิ๋วไม่สบายใจ

     

    “คืนนี้เจอกันนะคนเก่ง”  นิวหมุนตัวคนที่ยังมึนงงกับรสจูบให้หันไปหาประตู จัดการเปิดมันออกให้เสร็จสรรพ แต่ภาพของเจนรบที่ยืนกอดอกรออยู่หน้าห้องทำให้ทั้งคู่สะดุ้งตกใจ

     

    “พี่เจน”

     

    “ปิยนุชคะ ลิปสติกเลอะค่ะลูก”

     

    เป็นปฏิกิริยาตอบรับอัตโนมัติทั้งคู่ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตนพร้อมกัน ต่างตรงที่นิวรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อสำรวจตนเองในกระจก มือคว้าเอากระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปากเพื่อพิสูจน์หลักฐาน และมันก็ชัดเจนเมื่อเห็นลิปติกสีเดียวกับที่จิ๋วใช้ติดอยู่บนนั้น

     

    “ร้อนแรงกันจริงนะลูก ๆ” เจนรบแซวด้วยสีหน้าล้อเลียน จิ๋วหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที ปั้นหน้าไม่ถูกกับคำพูดและสายตาของผู้จัดการคนเก่ง ได้แต่ก้มหน้างุด ๆ แล้วเดินเลี่ยงออกไปจากห้อง ทั้งอายทั้งฉุนนิวที่มาทำอะไรบ้า ๆ ตอนนี้ ซ้ำยังปล่อยให้เธอเผชิญหน้าอยู่กับเจนรบคนเดียว ส่วนตัวต้นเหตุกลับหนีเข้าไปในห้องน้ำซะงั้น มันน่านัก!

     

     

     
     

    หลังจากตอนนี้แล้วเราคงไม่ได้พบกันอีกนานเลย

    และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสมาอัพตอนต่อไป

    อาจจะเป็นเดือน สองเดือน หรือนานกว่านั้น

    แต่ก็ไม่ได้ทิ้งไปไหนค่ะ มีโอกาสเมื่อไหร่จะอัพให้อ่านกันแน่นอน

    เพราะเค้าเองก็รักฟิคเรื่องนี้มาก

    และระหว่างที่หายไปก็จะแต่งไว้เรื่อย ๆ จนกว่าจะมีโอกาสใช้อินเตอร์เน็ต
    ต้องขออภัยในความไม่สะดวกจริง ๆ ค่ะ
     

     

    เข้ามาแก้คำผิดและแถลงการณ์ฉบับใหม่ค่ะ 555
    คำผิดมันเยอะมากจริง ๆ เพราะวันนั้นเค้ารีบอัพ

    ดูสถานการณ์แล้วอาจจะไม่ได้หายไปไหน

    อินเตอร์เน็ตน่าจะยังใช้ได้แต่คงไม่บ่อยมาก โดนขู่ไว้ซะเกินจริง ถถถ

    ยังไงก็ต้องรอดูเหตุการณ์ตอนต่อไปค่ะว่าตกลงจะเป็นไง

     

     สุขสันต์วันเกิดพี่นิวค่ะ บังเอิญลงตรงกับวันเกิดพอดี ตอนแรกลืมนึกไปเลย ฮี่ ๆ 

     

    ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ 

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×