คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 8 : จอมเกเร
บทที่ ๘
จอมเกเร
January 10, 2014 | (Fri)
วันหยุดยาวผ่านพ้นไป ถึงเวลาที่ทุกชีวิตต้องกลับสู่วงจรเดิม ๆ อีกครั้ง เรียนและทำงานตามกำหนดเวลาอย่างที่เคยเป็น นิวและจิ๋วเองก็มีหน้าที่ของตนที่ต้องรับผิดชอบ เกือบทั้งสัปดาห์แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน ไม่ได้นอนด้วยกันทุกคืนเหมือนตอนอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรไป เพราะชีวิตที่เคยว่างเปล่าถูกเติมเต็มแล้วตั้งแต่หวนกลับมาจับมือกันอีกครั้ง แต่วันไหนที่จิ๋วว่างนิวก็มักจะหาเวลามาอยู่ด้วยเสมอ เช่นวันนี้เป็นต้น
นิวมาหาจิ๋วที่บ้านตั้งแต่เที่ยงพร้อมนำ DVD ของงานเมื่อวันปีใหม่มาให้จิ๋วและฝากที่เหลือไปให้เอ็มและรุ่นพี่วง etc ทั้งภาพที่นิวเป็นคนถ่ายเองและไฟล์วิดีโอที่นิวรับมาจากอีกคนได้ถูกไรท์ลงในแผ่น DVD เพื่อแจกจ่ายแก่เพื่อนฝูงในวันนั้นทุกคนโดยไม่คิดเงิน จนคนตัวเล็กอดที่จะค่อนนิวขอดไม่ได้
“ใจป้ำจริงนะเถ้าแก่เนี้ย”
คนที่กำลังง่วนอยู่กับเครื่องเล่น DVD หันมายิ้มแฉ่งให้อย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างกัน ยกมือขึ้นโอบไหล่เล็กแล้วรั้งอีกคนเข้าหาตัว ขณะที่ภาพบนทีวีจอใหญ่ก็เคลื่อนไหวไปตามหน้าที่ของมัน
“ถือเป็นของขวัญปีใหม่เล็ก ๆ น้อย ๆ จากนิวกับจิ๋วไง แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
“แล้วจิ๋วเกี่ยวอะไรด้วย” เธอเอียงคอมองนิวอย่างไม่เข้าใจ
“ก็จิ๋วเป็นกำลังใจให้นิวผลิตผลงานดี ๆ อย่างนี้ออกมายังไงล่ะ” นิวอธิบายหน้าทะเล้น
“ไม่เกี่ยวกันเลยซักนิด”
“เกี่ยวสิ… เกี่ยวมากเลยด้วย” แววตาที่มองมาอย่างลึกซึ้งทำให้ใบหน้าเธอร้อนวูบวาบ หากนิวไม่เหลือบมองไปยังกอง DVD บนโต๊ะเธอคงต้องเป็นฝ่ายหลบตาก่อนอย่างเคย
“เนี่ย จิ๋วเห็นมั้ย บนแผ่นมีโลโก้ร้านนิว แถมบนซองยังมีที่อยู่เบอร์โทร ถือว่าเป็นการโปรโมทร้านอีกทางด้วยไง เผื่อพวกพี่เค้าชอบฝีมือของนิวแล้วอยากใช้บริการในภายภาคหน้า” นิวเลือกหยิบ DVD มาหนึ่งแผ่นเป็นหลักฐานให้จิ๋วดู
“แหม ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว ช่างคิดจังนะ”
พอจิ๋วออกปากชมเข้าหน่อยนิวก็ได้ทียืดอกอย่างภูมิใจ “ของมันแน่อยู่แล้ว”
“ไม่ต้องมายืดเลย ดูนู่น” จิ๋วพยักพเยิดไปยังหน้าจอทีวี ภาพบรรยากาศในงานฉลองปีใหม่ของพวกเธอและเพื่อนเก่ากำลังฉายอยู่บนจอ นิวหันมองตามแล้วค่อย ๆ ไถลตัวจากโซฟาลงไปนั่งบนพื้นตรงหน้าจิ๋วก่อนถือวิสาสะแทรกตัวเข้าไประหว่างขาของอีกคน เอนหลังพิงกับหมอนบนตักของจิ๋วอย่างสบายอารมณ์
“ทำไมไปนั่งตรงนั้นล่ะ”
“มันสบายดี นิวชอบ” ว่าพลางดึงมืออีกคนมาวางไว้บนไหล่ของตน เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของตักอุ่นด้วยรอยยิ้มซื่อ ๆ จิ๋วเลยใจร้ายไม่ลง
.
.
.
“ยืมตักหน่อยนะ” หลังจากปิดปากหาวหวอดใหญ่นิวก็ทิ้งศีรษะลงนอนหนุนตักอุ่นโดยไม่ให้โอกาสอีกคนปฏิเสธ จิ๋วก้มมองคนหน้าเป็นอย่างหมั่นไส้
“หนีงานมาอู้แบบนี้มันน่าให้นอนมั้ยฮึ” หลังจากดูวิดีโอจากงานปีใหม่จบนิวก็ไม่ยอมกลับสตูดิโอจนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายโมงครึ่ง เคี่ยวเข็ญให้กลับโดยใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งแต่ก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี
“อู้วันเดียวเองนะ ลูกน้องนิวเค้าเก่งดูแลกันเองได้” พูดแล้วก็ฉีกยิ้มหวานให้คนขี้บ่น
“ถ้าวันหลังมีอีกนะจะไม่ยอมให้เข้าบ้านเลยคอยดู” จิ๋วขู่ แต่ก็ไม่แน่ว่าเธออาจจะทำจริง ๆ หากนิวยังดื้อดึงอยู่อย่างนี้
“ค่า~ วันหลังน้องนิวจะไม่ดื้อนะคะพี่จิ๋ว” ว่าแล้วก็จับมือเล็กมาแนบแก้มถูไถไปมาอย่างออดอ้อนจนจิ๋วหลุดขำออกมาพรืดใหญ่
“นี่คุณนิว ดูตัวเองหน่อยอายุเท่าไหร่แล้ว”
“อายุมันเป็นเพียงตัวเลข แต่หัวใจหนูนิวยังใสกิ๊งเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้มเลยนะ”
“แย้มฝาโลงป่ะ?” จิ๋วแซวอีกคนกลั้วหัวเราะ
“โหย.. แรงอะ” เบะปากแง่งอนที่ถูกตัดอารมณ์ด้วยมุกตลกร้ายของจิ๋ว ซ้ำยังมองค้อนปะหลับปะเหลือก จิ๋วมองยิ้ม ๆ แต่ไม่ได้ง้ออย่างที่อีกคนแอบหวังไว้ในใจ นิ้วเรียวเล็กแทรกเข้าไปในกลุ่มผมสีสว่าง สางเบา ๆ จนสุดความยาว
“น้องนิวผมเริ่มยาวแล้วนะ เป็นสาวแล้วสิเรา” เธอตั้งข้อสังเกตโดยใช้น้ำเสียงล้อเลียนอีกคน มีไม่บ่อยนักหรอกที่มีโอกาสได้เห็นนิวผมยาวจนเกือบจะเลยบ่า
“อยากตัดอยู่เหมือนกันนะ แต่ไม่ได้ไปซักที”
“นึกว่าจะไว้ยาวซะอีก”
“ไม่ล่ะ มันเกะกะ ไม่เหมาะกับขาลุยอย่างนิวหรอก” นิวหลับตาลง พูดเสียงยานคางเพราะง่วงนอนเต็มที
“งั้นไปกันวันนี้เลยมั้ยล่ะ จะต้องเอา DVD ไปส่งไปรษณีย์อยู่แล้วนี่”
นิวขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ไม่กี่อึดใจก่อนตอบตกลง “อื้อ.. แต่นิวงีบก่อนค่อยไปนะ”
“งั้นก็นอนซะเถอะ ซักพักจิ๋วจะปลุก”
รอยยิ้มจาง ๆ ตรงมุมปากที่ค้างอยู่ของคนหลับทำให้เธอยิ้มตาม แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าที่เธอทำอยู่นี่จะเป็นการอ่อนข้อให้นิวเกินไปหรือเปล่า ตามใจมากเกรงว่านิวจะเคยตัวและกลายเป็นเธอเองที่ต้องลำบาก… หลังจากนี้เธอควรจะเอาจริงกับนิวบ้างดีไหมนะ
.
.
.
นิวมองสำรวจตนเองในกระจกกับผมสีบลอนด์หม่นประกายเขียวที่ไม่สว่างเท่าเดิม ปลายผมถูกตัดเล็มให้สั้นลงเล็กน้อย ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้มากมายอะไรแต่กับคนที่เห็นหน้าตนเองทุกวันมันก็ดูแปลกตาไปบ้าง เธอชักถูกใจช่างทำผมร้านโปรดของจิ๋วเสียแล้ว ทั้งฝีมือและอัธยาศัยใจคอ คราวหลังถ้ามีโอกาสจะมาใช้บริการที่นี่อีก และต้องมาพร้อมกับจิ๋วเหมือนอย่างเคย
นิวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปตนเอง ฉีกยิ้มกว้างแล้วกดบันทึกภาพ
ทันทีที่นิวอัพรูปนั้นลงอินสตราแกรมพร้อมข้อความ “เปลี่ยนสีผมใหม่” ไม่ถึงนาทีลูกน้องที่ถูกทิ้งอยู่ในสตูดิโอก็เข้ามาคอมเม้นท์กระเซ้าแกมเหน็บแนมโดยพร้อมเพรียง คงกำลังสุมหัวอยู่ด้วยกันถึงได้คอมเม้นท์กระหน่ำใส่เธอรัว ๆ แบบนี้
(ขิง) khing_008 : “สวยเนอะพี่นิว #ทางนั้นท่าทางจะสบาย #คงไม่ยุ่งเหมือนทางนี้”
(อ๊อด) oddy_ravit : “นึกว่าอู้เป็นแต่กำเมือง อู้งานก่อเป็นก่า?”
(เหน่ง) neng_photo : “สงสัยสตูดิโอพี่นิวจะมีตำแหน่งว่างเพิ่มอีกสองตำแหน่งแน่ ๆ เลยว่ามั้ย?”
(นิว) brandnew_st : “@ khing_008 @oddy_ravit ตกลงใครเป็นคนจ่ายเงินเดือน ฉันหรือพวกแก @neng_photo เหน่งฝากพี่ท็อปปิดร้านให้ด้วยนะคงกลับค่ำ”
พอส่งข้อความเสร็จ นิวก็เก็บโทรศัพท์ไว้อย่างเดิม ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องอย่างสาแก่ใจที่ได้เยาะเย้ยลูกน้อง
“จิ๋ว.. อ้าว ไปไหนแล้วล่ะ” กำลังจะหันไปถามความเห็นจากคนที่นั่งรออยู่บนโซฟามุมหนึ่งของร้านแต่ก็หายตัวไปเสียแล้ว
“พี่คะ เห็นจิ๋วมั้ยคะ”
“อ๋อ น้องจิ๋วเหรอคะ เห็นคุยกับพี่สาวเค้าโขมงโฉงเฉงอยู่นู่นแหนะค่ะ” ช่างทำผมชี้บอก นิวเดาว่า “พี่สาว” ที่เธอบอกต้องเป็นเพื่อนคนใดคนหนึ่งของจิ๋วที่นิวคงไม่รู้จัก
พอไปถึงก็เห็นว่าจิ๋วกำลังคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่นิวเดาอายุไม่ถูกอย่างออกรส ถึงแม้เธอคนนั้นจะวางตัวสบาย ๆ แต่ก็ยังดูสง่างามราวกับนางพญา ครู่หนึ่งเธอบังเอิญหันมาสบตานิวเข้าพอดี นิวจึงยิ้มบาง ๆ ให้พร้อมผงกศีรษะเป็นเชิงขออนุญาตก่อนเดินเข้าไปหาคนที่นั่งหันหลังให้ แต่เสียงกำไลที่กระทบกันของนิวทำให้อีกคนรู้ตัวตั้งแต่ยังไม่ทันสะกิด
“นิว เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย… ดูดีใช้ได้เลยนะเนี่ย” จิ๋วหันมามองหยุดพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งแล้วชมเปาะ นิวอมยิ้มเขิน ๆ เมื่อเห็นสายตาชื่นชมของอีกคน มือไม้แทบจะวางไม่ถูกที่
“แล้วจิ๋วล่ะเสร็จแล้วเหรอ” ถามออกไปเบา ๆ เพราะเกรงใจคู่สนทนาที่กำลังมองมา
“เสร็จแล้วล่ะ อ้อ.. นี่พี่เพลินนะนิว นิวเพื่อนจิ๋วค่ะพี่เพลิน” จิ๋วแนะนำผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามให้รู้จักกับ “เพื่อนคนพิเศษ” ของตน นิวยกมือไหว้คนอายุมากกว่าด้วยรอยยิ้ม
“พี่ไม่เห็นรู้เลยว่าน้องจิ๋วมีเพื่อนสวยขนาดนี้” แววตาที่สาวรุ่นพี่ใช้มองนิวไม่ได้บอกว่าแกล้งชม ยิ่งทำให้นิววางตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่
“จิ๋วก็ไม่ได้เจอเค้านานเหมือนกันค่ะ เพิ่งเจอตัวที่เชียงใหม่จิ๋วเลยหิ้วกลับมาด้วย” จิ๋วพูดติดตลก อมยิ้มภูมิใจแทนนิวพลางเหลือบมองหน้าคนถูกชม
“มิน่าถึงไม่เคยเจอเลย” เธอพึมพำครุ่นคิด “น้องจิ๋วกับน้องนิวก็ตามสบายนะ พี่คงอยู่ในนี้อีกนาน” เธอเปิดทางให้เมื่อเห็นว่าจิ๋วเสร็จธุระแล้ว
“งั้นเดี๋ยวจิ๋วแวะไปที่ร้านนะคะ วันนี้ต้องขอตัวก่อน ต้องไปซื้อของเข้าบ้านอีก” จิ๋วออกตัว
“ตามสบายเลยค่ะ ไว้เจอกันนะ”
หลังจากที่ทั้งหมดล่ำลากันเสร็จนิวก็ขึ้นไปนั่งบนเบาะรถหลังพวงมาลัยโดยมีจิ๋วนั่งข้าง ๆ เป็นผู้โดยสารอย่างเคย
“พี่เค้าเป็นใครเหรอจิ๋ว สวยดีเนอะ”
“พี่เพลินเค้าเป็นเจ้าของร้านเพชรน่ะ รู้จักกันเพราะเรื่องเครื่องประดับนี่แหละ”
“โห… มิน่าดูรวย” นิวพูดกลั้วหัวเราะ
“สวย รวย เก่ง ครบสูตรเลยล่ะ สามีเค้าเป็นคนแคนาดา เป็นเจ้าของเหมืองเพชรเหมืองพลอยด้วย ธุรกิจครบวงจร” จิ๋วพูดอย่างชื่นชมทั้งแววตาและน้ำเสียง คงจะเป็นอย่างที่คนในร้านพูดจริง ๆ ว่าจิ๋วนับถือผู้หญิงคนนั้นเป็นเหมือนพี่สาว
“สนิทกันเหรอ”
“ก็ทำนองนั้น พี่เพลินปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องเพชรพลอย”
โทรศัพท์ที่สั่นครืด ๆ อยู่ในกระเป๋าของจิ๋วทำให้บทสนทนาหยุดชะงัก ควานมือหาครู่เดียวก็พบต้นตอของเสียง
“รับโทรศัพท์แป๊บนะ”
นิวพยักหน้ารับแล้วเคลื่อนรถออกไปอย่างนิ่มนวล มีจิ๋วโดยสารอยู่ด้วยอีกคนทำให้นิวเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถมากเป็นพิเศษ
“หือ? วันนี้เลยเหรอพี่เจน”
“อยู่ด้วยกันนี่แหละ นิวเพิ่งทำผมเสร็จ พี่เจนจะคุยมั้ย?” นิวเหลือบมองแว้บหนึ่ง เงี่ยหูฟังอย่างสนใจเมื่อในบทสนทนานั้นมีชื่อของตนร่วมอยู่ด้วย ได้ยินเสียงทักทายของเจนรบดังมาจากโทรศัพท์เมื่อจิ๋วเปิดสปีคเกอร์โฟน
[Hi น้องนิว เย็นนี้กินข้าวกันนอกบ้านด้วยกันมั้ย เดี๋ยวพาเดอะแก๊งเพื่อนร่วมงานของภรรยาไปให้รู้จักด้วย]
“พี่เจน” จิ๋วปรามเมื่อปลายสายชักจะเลอะเทอะ ส่วนนิวก็หัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ แต่ทำกินเองที่บ้านจิ๋วไม่ดีกว่าเหรอคะ บรรยากาศจะได้ดูเป็นกันเองหน่อย” นิวเสนอแต่จิ๋วกลับมองอย่างไม่เห็นด้วย
[อืม.. ก็ดีเหมือนกันนะ แต่ว่าพี่จะไปเลทหน่อยน่ะสิคะ เดี๋ยวทำกับข้าวไม่ทัน คนเยอะด้วย]
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลยค่ะ เดี๋ยวนิวโชว์ฝีมือเอง พี่เจนมาก็ทำอะไรง่าย ๆ หรือว่าซื้ออะไรที่อยากทานมาเพิ่มหน่อยก็เรียบร้อย” นิวพูดเหมือนทุกอย่างง่ายดายไปหมด
“จะไหวเหรอนิว” จิ๋วไม่มั่นใจในความคิดของนิวนัก เธอรู้ว่าพอนิวมีฝีมือในการทำอาหาร แต่ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย ถ้าพูดถึงเมื่อก่อน
“ไหวสิจิ๋ว… ว่าแต่มากันกี่คนคะ” นิวพูดอย่างมั่นใจ
[รวมพี่แล้วก็สี่คนค่ะ วันนี้ว่างแค่นี้ แต่น้องนิวทำคนเดียวได้แน่เหรอ?] ดูเหมือนเจนรบจะคิดไม่ต่างจากจิ๋ว นิวยกยิ้มมุมปาก ไม่ได้ถือสาที่ทั้งคู่เหมือนกำลังสบประมาทเธอกลาย ๆ มันก็ไม่แปลกเพราะทั้งจิ๋วและเจนรบรู้จักขีดความสามารถของนิวในอดีตดี แต่พวกเธอคงลืมนึกไปว่าเวลามันก็เปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่าง
“เชื่อมือเถอะค่ะ ไม่ทำให้พี่เจนขายหน้าแน่นอน… อีกอย่างนิวไม่ได้ทำคนเดียวมีจิ๋วเป็นผู้ช่วยอีกทั้งคน”
.
.
.
นิวกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อค่ำในครัว โดยมีจิ๋วเป็นลูกมือคอยหยิบนู่นหยิบนี่ให้ แม้จะเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บ้างแต่ก็ช่วยแบ่งเบาภาระนิวได้มาก และจิ๋วก็เรียนรู้งานที่นิวสอนให้ผ่านการเป็นผู้ช่วยอย่างเต็มใจ ทั้งสองคนอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนน่ารักในแบบเดียวกัน ดูแล้วยังใหม่เหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน พอ ๆ กับเครื่องครัวที่ถูกวางทิ้งไว้จนฝุ่นจับ ถ้าให้นิวเดาก็คงจะมีแค่ผู้จัดการคนเก่งเท่านั้นที่แวะเวียนเข้ามาใช้งานมันบ้าง แต่เจ้าของบ้านเองคงไม่ค่อยย่างกรายเข้ามาในนี้บ่อยนัก
กลิ่นเครื่องเทศหอมอบอวลทั่วห้องครัวเล็ก ๆ คลอกับเสียงเพลงจากนักร้องคนโปรดของจิ๋วที่เปิดไว้ ส่งให้บรรยากาศในบ้านหลังน้อยดูมีวีชิตชีวามากกว่าเมื่อก่อน อาจเป็นผลมาจากการที่เธอเปิดโอกาสให้นิวหวนกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอีกครั้ง
“เก่งมากคนดี” นิวกล่าวชมลูกศิษย์จำเป็นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเมื่อเธอทำได้อย่างที่นิวสอน จิ๋วรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นเด็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้านิวในเวลานี้
…แต่แบบนี้มันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ…
“จิ๋ว ดูหม้อให้ทีว่าน้ำมันเดือดรึยัง”
“แป๊บนะ” จิ๋ววางมือจากผักที่กำลังหั่นแล้ววิ่งไปดูหม้อที่ตั้งอยู่บนเตาแก๊ส
“ยังไม่เดือดเลย ต้องรอซักพัก” นิวมองตามแล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่ทั้งคู่จะทำงานของตนต่อไป อาจจะวุ่นวายขลุกขลักไปบ้างแต่ก็ไม่มีใครหงุดหงิดรำคาญใจกับอุปสรรคเล็กน้อยเหล่านั้น ความผิดพลาดที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังประสานกันเป็นระยะ
อาหารมื้อนี้ถือเป็นงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของนิวกลาย ๆ โดยมีแขกเพียงไม่กี่คนคือเจนรบและทีมงานที่สนิทกัน นิวได้พิสูจน์ให้จิ๋วเห็นด้วยตาตนเองแล้วว่านิวทำได้อย่างที่พูดทุกอย่างและดูเหมือนจะทำได้ดีเกินคาดเสียด้วย ท่าทางคล่องแคล่วทะมัดทะแมงเวลาหยิบจับเครื่องครัวทำให้จิ๋ววางใจ รสชาติอาหารที่ได้ลองชิมก็อร่อยกว่าเมื่อก่อนจนผิดหูผิดตา คิด ๆ แล้วจิ๋วก็นึกหมั่นไส้อีกคนที่หยิบจับอะไรก็ดูจะเก่งไปเสียทุกอย่าง โดยใช้เวลาพัฒนาความสามารถเพียงแค่ห้าปีเท่านั้น
กริ๊ง…
“สงสัยจะมากันแล้ว จิ๋วไปดูก่อนนะ” จิ๋ววางมีดลงแล้วปลดผ้ากันเปื้อนออกหลังจากได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น นิวพยักหน้ารับคำแต่ก็แอบนึกเสียดายที่จะไม่ได้เห็นจิ๋วในชุดผ้ากันเปื้อนอีก บอกได้เลยว่าน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด
“ไงลูก ๆ ทำอะไรทานคะวันนี้” เสียงเจนรบดังเข้ามาถึงในครัวก่อนตัว ตามมาด้วยกลุ่มเพื่อนอีกสามคน เป็นสาวแท้หนึ่งและไม่แท้อีกสอง นิวก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อเห็นหน้าผู้มาเยือน นี่คงเป็นสาเหตุที่จริตจะก้านของจิ๋วจัดจ้านขึ้นทุกวันเวลาอยู่บนเวที เป็นเพราะได้เทรนเนอร์ดี ๆ ตั้งหลายคนนี่เอง
“ต๊ายยย นี่น้องนิวเพื่อนน้องจิ๋วใช่มั้ยคะ” หนึ่งในนั้นปราดเข้ามาจับแขนนิวแล้วมองสำรวจตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างตื่นเต้น นิวเคี้ยวกับข้าวในปากที่กำลังชิมช้าลง หันไปมองจิ๋วตาปริบ ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่อีกคนกลับยืนมองเธออย่างขำ ๆ โดยไม่พูดอะไร จึงหันไปขอความเห็นใจจากเจนรบแทน
“ผิวพรรณก็ดี หน้าตาก็สวย สนใจเป็นดารามั้ยคะน้องนิว” นิวรีบกลืนกับข้าวที่เคี้ยวอยู่ลงคอแล้วยิ้มแห้ง ๆ ให้คนตรงหน้า
“นังภัทร แกดูหน้าน้องนิวก่อนสิ อะไรกัน อยู่ ๆ ไปจู่โจมน้องเค้า ขวัญเสียหมดแล้วนั่น” เจนรบพูดแทรกขึ้นเพื่อช่วยชีวิตนิว
“อุ๊ย พี่ขอโทษค่ะคุณน้องขา เห็นแล้ววิญญาณโมเดลลิ่งมันเข้าสิง” ภัทรพูดกรีดกราย ยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต
“โมเดลลิ่งอะไรยะ หล่อนน่ะมันช่างแต่งหน้าไม่ใช่รึไง?” เสียงใครสักคนขัดขึ้นทำให้ภัทรส่งค้อนให้วงใหญ่ ถึงแม้ภัทรจะถอยออกไปจากนิวแล้วแต่ความสนใจของเขาก็ยังคงอยู่ นิวรู้สึกได้
“กว่าจะได้เจอตัวนี่ยากแสนยากได้ยินแต่เจนพูดถึง ขนาดไปบ้านก็แล้วยังไม่เจอ”
“ตอนสงกรานต์ใช่มั้ยคะ?”
“ใช่ค่ะคุณน้อง”
“แต่ต่อไปนี้จะเจอนิวบ่อยจนเบื่อหน้าเลยล่ะค่ะ ไม่หายไปไหนแน่ ๆ รับรองได้” ฟังเหมือนพูดกับเพื่อนร่วมก๊วนของจิ๋ว แต่กลับปรายตามองเจ้าของบ้านด้วยแววตาลึกซึ้งเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย เพราะคนอื่น ๆ มัวแต่ชื่นชมฝีมือการทำอาหารของนิว จึงไม่มีใครทันสังเกตเห็นนอกจากคนที่ได้รับมันเท่านั้น คำมั่นสัญญาที่ส่งผ่านทางสายตาและคำพูดลอย ๆ แบบไม่เจาะจง แต่กลับฟังดูหนักแน่นเหลือเกินในความรู้สึกของคนฟัง
.
.
.
January 11, 2014 | (SAT)
(ชุดที่พี่จิ๋วใส่ ประมาณนี้ค่ะ)
“เสร็จละ เดี๋ยวคุณแม่ขอตัวก่อนนะหนู รีบลงไปล่ะ” เจนรบบอกกับทั้งคู่หลังจากแต่งหน้าให้จิ๋วเสร็จ เหมือนรู้ว่านิวต้องการจะพูดอะไรกับคนที่ยืนอยู่หน้ากระจก เจนรบพยักพเยิดให้นิวเป็นสัญญาณ นิวยิ้มบาง ๆ ตอบแทนคำขอบคุณก่อนประตูห้องจะปิดลง
นิวเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังคนตัวเล็กเพียงไม่กี่ก้าว มองจิ๋วผ่านกระจกเงาบานใหญ่ด้วยสายตาชื่นชม แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลฉาบอยู่บางเบาและจิ๋วก็ไม่ทันสังเกตเห็นมัน ดวงตาคู่หวานภายใต้ขอบตาที่ถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์จนคมกริบเผลอไปมองสบกับดวงตาวามวาวของคนข้างหลัง มือที่กำลังจัดการกับต่างหูคู่งามหยุดชะงัก เลิกคิ้วเป็นเชิงถามผ่านเงาในกระจก นิวจึงพูดขึ้น
“จิ๋ว”
“ฮื้อ?”
“วันนี้นิวขอไปดูจิ๋วนะ” นิวขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น เพียงกระซิบเบา ๆ จิ๋วก็ได้ยินชัดเจนทุกคำ มืออุ่นวางลงบนเอวคอดใต้เดรสผ้าชีฟองสีฟ้าอ่อน หัวไหล่มนที่เปิดเปลือยอยู่ใกล้กับปลายจมูกโด่งเพียงแค่ลมหายใจเป่ารด คนที่ตัวเล็กกว่าเผลอห่อไหล่น้อย ๆ ด้วยความรู้สึกวูบวาบตรงช่องท้อง ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจัดจะทาบลงบนผิวเนื้อเนียนอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ กลิ่นหอมกรุ่นยั่วใจจนนิวทนไม่ไหว
ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งในกระจกอยู่ครู่หนึ่งกว่าที่จิ๋วจะหาเสียงตนเองเจอ
“หือ? นึกยังไงถึงอยากไปล่ะ” คิ้วเรียวที่ถูกวาดไว้อย่างประณีตขมวดมุ่น
“ก็อยากไปดู นิวไม่ได้เห็นจิ๋วร้องเพลงในผับมานานมากแล้วนะ” ขณะที่พูดริมฝีปากก็เฉียดกับผิวบางเป็นครั้งคราว อุณหภูมิในร่างกายของจิ๋วเริ่มร้อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ พอนิวเปลี่ยนจากโหมดขี้เล่นมาโหมดนี้ทีไรเธอก็ต้องอ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งโดนไฟทุกที กลายเป็นลูกไก่ในกำมือของอีกคนไปได้อย่างน่าโมโห ไม่ใช่นิวที่เธอนึกตำหนิ แต่เป็นตัวเธอเองนั่นแหละที่เผลอใจไปกับสัมผัสอ่อนโยนของอีกคนอยู่เรื่อย
“เคยสิก็ตอนปีใหม่ไง” จิ๋วแกล้งเฉไฉ
“โธ่ นั่นมันร้องกันเล่น ๆ ในหมู่เพื่อนฝูง ไม่ใช่ร้องในงานนี่นา” นิวเลื่อนมือมาโอบกระชับเอวบางไว้หลวม ๆ ส่งผลให้ร่างกายแนบชิดกันจนไร้ช่องว่าง หลุบตาลงมองไหล่นวลเนียนก่อนบรรจงประทับจูบลงไปบนผิวผุดผาด จิ๋วเริ่มทนอยู่เฉยไม่ไหวกับการถึงเนื้อถึงตัวของนิว เบี่ยงไหล่หลบแล้วพลิกตัวกลับไปเผชิญหน้าอีกคนแทนเพื่อความปลอดภัย
“ไม่เอาน่านิว เดี๋ยวจิ๋วต้องไปทำงาน” แต่ถึงอย่างนั้นนิวก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวคอด
“งั้นเดี๋ยวนิวตามไปนะ จะพาลูกน้องไปเลี้ยงปีใหม่ย้อนหลังด้วย” นิวทำตาละห้อยออดอ้อน จิ๋วหรี่ตามองเหมือนกำลังครุ่นคิด ทั้งหมดนั่นก็เพื่อทำให้ไม่ดูเป็นการตามใจนิวจนเกินไป ยอมง่าย ๆ เดี๋ยวก็ได้ใจกันไปใหญ่… ทั้งที่ในความเป็นจริงเธอใจอ่อนตั้งแต่เจอสายตาเว้าวอนคู่นั้นแล้วล่ะ
“นะจิ๋วนะ เนี่ย นิวก็จองโต๊ะไว้นานแล้วด้วย” นิวขอร้องอีกคนเสียงอ่อนเหมือนเด็กอ้อนขอขนม
“แล้วทำไมไม่บอกกันก่อนแต่แรกล่ะ แล้วรู้ล่วงหน้าได้ไงว่าวันนี้จิ๋วจะไปร้องเพลงที่ไหน” คนตัวเล็กเริ่มจับผิดแทนที่จะให้คำตอบออกไปตรง ๆ
“โธ่จิ๋วอะ” นิวเริ่มหน้างอ
“พี่เจนบอกใช่มั้ย?”
“เปล่า… คิวงานจิ๋วน่ะ หาดูไม่ยากหรอก”
“โอเค ๆ แต่คราวหลังบอกกันก่อนนะ ไม่ใช่มัดมือชกกันแบบนี้” ทันทีที่จิ๋วตอบตกลงนิวก็ฉีกยิ้มกว้าง แทบจะกระโดดจนตัวลอย
“รับทราบค่ะทูนหัว” นิวรวบตัวจิ๋วเข้ามากอดแน่นด้วยความดีใจที่อีกคนอนุญาต
“นิว จิ๋วหายใจไม่ออก” จิ๋วบ่นอยู่ข้างหู
“อุ๊ย เค้าขอโทษ” นิวรีบคลายอ้อมกอดออกอย่างรวดเร็ว หัวเราะแห้ง ๆ ให้อีกคนแก้เก้อ
“งั้น…ดึก ๆ เจอกันนะ” จิ๋วขยับเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อหย่อนบางสิ่งลงในกระเป๋าสะพายข้างใบเก่งของนิวก่อนถอยออกมาห่าง ๆ แล้วยิ้มหวานให้ นิวนึกสงสัยกับเสียงดังกริ๊กที่ได้ยิน มือล้วงเข้าไปควานหา “สิ่งนั้น” ในกระเป๋าของตนอย่างรวดเร็ว เมื่อปลายนิ้วสัมผัสกับโลหะเย็นเฉียบที่แปลกไปจากของในกระเป๋านิวก็หยิบมันติดมือขึ้นมา
“พวงกุญแจอะไรอะจิ๋ว”
“คิดเองสิ ทีเรื่องอื่นล่ะไวนัก ซื่อบื้อเอ๊ย” จิ๋วหัวเราะก่อนยกมือขึ้นขยี้ผมนิวด้วยความหมั่นไส้ระคนเอ็นดู แล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทั้งรอยยิ้ม
“นี่มัน.. กุญแจบ้านจิ๋วใช่มั้ย” นิวยกมันขึ้นมาพิจารณาใกล้ ๆ กว่าจะถึงบางอ้อ หัวเราะให้กับความซื่อบื้อของตนอย่างที่จิ๋วพูด ทั้งยังปลาบปลื้มกับความไว้ใจที่จิ๋วมีให้
“ก็ไม่รู้สินะ” คนตัวเล็กยักไหล่ให้ มือแตะลูกบิดประตูเตรียมจะเปิดออกไป ท่าทางแบบนั้นทำให้นิวทนไม่ไหว.. และนิวก็จะไม่ทน!
“มีอะไรอีกล่ะนิว” จิ๋วเอ่ยถามอย่างหวาด ๆ เมื่อนิวรั้งตัวเธอเข้ามาจนชิดกันอีกครั้ง และด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย
“…” นิวไม่ได้ตอบคำถามเธอเป็นคำพูด มีเพียงความอบอุ่นจนร้อนเร่าจากริมฝีปากบางที่บดเบียดลงมาราวกับหิวโหยมาแรมปี จนเมื่อเรียวลิ้นชื้นรุกรานเข้ามาทักทายเธอก็เริ่มอ่อนแรง มือเล็กเกาะเกี่ยวไหล่บางอีกคนเพื่อประคองร่างให้ทรงตัวอยู่ได้ ปล่อยให้นิวระบายความรักและหวงแหนผ่านจุมพิตแผดเผาอย่างไร้เรี่ยวแรงขัดขืน กระทั่งความกระหายในรสจูบของนิวสิ้นสุดลงเรียวปากอิ่มจึงได้รับอิสระ
“ขอบคุณนะสำหรับพวงกุญแจ” นิวกระซิบบอกน้ำเสียงไม่มั่นคง อาจเป็นเพราะหัวใจที่เต้นแรงแข่งกันเป็นสาเหตุหลัก มุมปากที่กดยิ้มลึกจนเห็นลักยิ้มเล็ก ๆ ข้างแก้มขวาทำให้จิ๋วรู้สึกเหมือนกำลังพ่ายแพ้ นัยน์ตาคู่หวานที่มองนิวอย่างงุนงงกำลังปรือฉ่ำด้วยอารมณ์เสน่หา เห็นแล้วนิวนึกอยากจะประทับจุมพิตร้อน ๆ ลงไปอีกครั้ง แต่ก็ต้องหักห้ามใจเพราะจิ๋วยังมีงานต้องไปทำ
แม้อีกใจหนึ่งจะไม่อยากให้จิ๋วออกไปเจอใครในชุดนี้ก็ตาม เพราะมันสวยมากก็จริง แต่ทั้งเปิดหลังเปิดไหล่อวดผิวขาวที่ควรจะของนิวเพียงคนเดียวให้ใครต่อใครได้ชื่นชมด้วย ยอมรับว่าหวงแต่ไม่อยากจะทำตัวงี่เง่าให้จิ๋วไม่สบายใจ
“คืนนี้เจอกันนะคนเก่ง” นิวหมุนตัวคนที่ยังมึนงงกับรสจูบให้หันไปหาประตู จัดการเปิดมันออกให้เสร็จสรรพ แต่ภาพของเจนรบที่ยืนกอดอกรออยู่หน้าห้องทำให้ทั้งคู่สะดุ้งตกใจ
“พี่เจน”
“ปิยนุชคะ ลิปสติกเลอะค่ะลูก”
เป็นปฏิกิริยาตอบรับอัตโนมัติทั้งคู่ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตนพร้อมกัน ต่างตรงที่นิวรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อสำรวจตนเองในกระจก มือคว้าเอากระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปากเพื่อพิสูจน์หลักฐาน และมันก็ชัดเจนเมื่อเห็นลิปติกสีเดียวกับที่จิ๋วใช้ติดอยู่บนนั้น
“ร้อนแรงกันจริงนะลูก ๆ” เจนรบแซวด้วยสีหน้าล้อเลียน จิ๋วหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที ปั้นหน้าไม่ถูกกับคำพูดและสายตาของผู้จัดการคนเก่ง ได้แต่ก้มหน้างุด ๆ แล้วเดินเลี่ยงออกไปจากห้อง ทั้งอายทั้งฉุนนิวที่มาทำอะไรบ้า ๆ ตอนนี้ ซ้ำยังปล่อยให้เธอเผชิญหน้าอยู่กับเจนรบคนเดียว ส่วนตัวต้นเหตุกลับหนีเข้าไปในห้องน้ำซะงั้น มันน่านัก!
หลังจากตอนนี้แล้วเราคงไม่ได้พบกันอีกนานเลย
และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสมาอัพตอนต่อไป
อาจจะเป็นเดือน สองเดือน หรือนานกว่านั้น
แต่ก็ไม่ได้ทิ้งไปไหนค่ะ มีโอกาสเมื่อไหร่จะอัพให้อ่านกันแน่นอน
เพราะเค้าเองก็รักฟิคเรื่องนี้มาก
และระหว่างที่หายไปก็จะแต่งไว้เรื่อย ๆ จนกว่าจะมีโอกาสใช้อินเตอร์เน็ต
ต้องขออภัยในความไม่สะดวกจริง ๆ ค่ะ
เข้ามาแก้คำผิดและแถลงการณ์ฉบับใหม่ค่ะ 555
คำผิดมันเยอะมากจริง ๆ เพราะวันนั้นเค้ารีบอัพ
ดูสถานการณ์แล้วอาจจะไม่ได้หายไปไหน
อินเตอร์เน็ตน่าจะยังใช้ได้แต่คงไม่บ่อยมาก โดนขู่ไว้ซะเกินจริง ถถถ
ยังไงก็ต้องรอดูเหตุการณ์ตอนต่อไปค่ะว่าตกลงจะเป็นไง
สุขสันต์วันเกิดพี่นิวค่ะ บังเอิญลงตรงกับวันเกิดพอดี ตอนแรกลืมนึกไปเลย ฮี่ ๆ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ
ความคิดเห็น