คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [1-SHOT] ATTACK [YoonTae]
[1-shot] ATTACK [YoonTae]
แกรก!!
แอด!!
ปึก!!
เสียงปิดเปิดประตูตามาด้วยเสียงของแข็งกระทบกับพื้นห้องดังตามกันมาติดๆ ท่ามกลางความเงียบสงัดในหอพักโซนยอชิแด เจ้าของใบหน้าเรียวสวยภายใต้กรอบผมยาวสลวยกำลังกระแทกกระเป๋าสะพายใบโตของตนเองลงบนโต๊ะมุมห้องอย่างกระแทกกระทั้น ท่าทางจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเอาเสียเลย
ภายใต้ความมืดมิดในหอพักสายตาที่ยังไม่ชินกับความมืดของผู้มาใหม่จึงยังไม่สังเกตเห็นใครอีกคนที่นั่งนิ่งเงียบอยู่บนโซฟา มีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกและดวงตาที่ชำเลืองมองอีกฝ่ายเท่านั้น ที่บ่งบอกว่าร่างนี้ยังมีชีวิต ไม่ใช่รูปปั้นเสมือนจริง
“ยุนอา ไปไหนมา”เสียงหวานปนนุ่มของใครบางคนดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิด แม้จะไม่ดังมากนัก แต่ด้วยความเงียบก็พอจะทำให้ได้ยินเสียงนั้นชัดเจน ผู้มาใหม่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่ใบหน้าหวานจะหันขวับมาตามเสียงเรียกชื่อของตน
“หือ? พี่แทยอนหรือเปล่า” เอ่ยถามเสียงเข้มด้วยความไม่พอใจ โดยที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ตัว...
“ทำไมเธอถึงชอบกลับหอดึกๆ ดื่นๆ” ร่างเล็กที่ยังเห็นเพียงเงาตะคุ่มลุกขึ้นจากโซฟาเคลื่อนตัวเข้ามาหาคนที่ตัวสูงกว่าช้าๆ ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับน้ำเสียงห้วนจัดของคนอายุอ่อนกว่า
“ก็... ไปเดินเล่นมานิดหน่อย พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกค่ะ” น้ำเสียงถูกควบคุมไว้ จึงฟังดูแข็งกระด้างน้อยกว่าเมื่อครู่ แต่กระนั้นคนฟังก็จับได้ถึงกระแสแห่งความไม่พอใจที่เปล่งออกมาพร้อมคำพูดเหล่านั้นได้
“เดินเล่นอะไรนี่มันจะตีสองแล้วนะ พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าไม่ใช่เหรอ” แทยอนจ้องหน้ารุ่นน้องตัวสูงฝ่าความมืดสลัว โดยอาศัยเพียแสงไฟที่เล็ดลอดออกมาจากห้องครัวช่วยให้มองเห็นใบหน้าของกันและกันชัดเจน ดวงตากลมใสของคนที่สูงกว่าต้องแสงไฟมีแววขุ่นเคืองส่งมายังพี่สาวร่างเล็กที่จ้องมองอยู่ก่อน
แทยอนขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ แทนที่เธอจะเป็นฝ่ายโกรธกลับเป็นเด็กตรงหน้าที่ออกอาการไม่พอใจเธอเสียเอง ทำไมกัน....
“ยังไงฉันก็ตื่นทัน พี่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ว่าแต่พี่ล่ะทำไมไม่ไปนอนคะ?” ยุนอาย้อนถามลีดเดอร์ร่างเล็กเอาความสูงเข้าข่มอย่างจงใจ ย้อนถามราวกับว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นเด็กตัวเล็กๆ ไม่ใช่หัวหน้าที่ดูแลสมาชิกทุกคนในวง
“เฮ่อ...ไปนอนเถอะ พี่ก็จะไปเหมือนกัน” แทยอนเลี่ยงไม่ตอบคำถามของยุนอาอย่างจงใจ เดินหนีไปจากตรงนั้นเข้าห้องนอนของตนเองไปเสียดื้อๆ พร้อมแบกเอาหนักความหนักใจในท่าทีแข็งกระด้างของยุนอาเอาไว้คนเดียว ดวงตาใสมองฝ่าความมืดตามแผ่นหลังเล็กไป จนประตูห้องนั้นปิดลง
ยุนอาเองก็หนักใจไม่น้อยกับบรรยากาศอึมครึมเวลาที่เธอเจอกับแทยอน และดูเหมือนทั้งหมดจะมีสาเหตุมาจากการกระทำของตนเอง....ไม่รู้เป็นไง...ช่วงนี้จะคิดจะพูดอะไรปากมันก็เหมือนจะไม่ตรงกับใจไปเสียหมด เป็นเพราะพี่แทยอนหายไปกับใครบางคนบ่อยๆ หรือเปล่า ทำให้ยุนอาประสาทเสียถึงขนาดนี้...
ยิ่งคิดยุนอาก็ยิ่งสับสนไม่เข้าใจอารมณ์ของตนเท่าไหร่ ก้มลงหยิบกระเป๋าที่โยนมันลงไปบนพื้นเมื่อครู่ขึ้นมาใหม่ตรงไปยังห้องครัวที่เปิดไฟเอาไว้เพื่อหาของกินยามดึก กิจวัตรประจำวันก่อนนอนของเธอ ..... ว่าแต่... ไฟในครัวใครลืมปิดล่ะ ...ยุนอาส่ายหัวน้อยๆ กับความขี้ลืมของสมาชิกในวง ก่อนจะควานหาของว่างยามค่ำคืนในตู้เย็นออกมาโดยไม่ใส่ใจกับเรื่องไฟในครัวอีก..
.
.
.
“แทยอนไปไหนอะ?”
“ไม่รู้สิเห็นออกไปตั้งแต่เช้า”
“ออกไปกับใคร?”
“ไม่รู้ ไม่เห็นบอกไว้นี่”
เสียงพูดคุยของบรรดาพี่ๆ ในวงเล็ดลอดมาเข้าหูยุนอาที่เพิ่งกลับออกมาจากข้างนอก ...อีกแล้วสินะที่พี่หายไปโดยไม่มีใครรู้.... คิดก่อนจะถอดรองเท้าเอาไว้แล้วก้าวเข้าไปในห้อง
“กลับมาแล้วค่ะ” ตะโกนบอกเพื่อนๆ ในวงด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เพราะเหน็ดเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ ร่างโปร่งตรงไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาข้างน้องเล็กของวง กี่ครั้งแล้วที่ได้ยินได้ฟังเรื่องนี้ซ้ำๆ อยากรู้เหลือเกินว่าแทยอนไปกับใคร
แต่ก็ไม่กล้าถาม เพราะเธอไม่มีสิทธิ์ไปเข้าก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของแทยอน
“พี่ยุนเหนื่อยเหรอคะ พักนี้เห็นท่าทางไม่ค่อยดีเลย?” ซอฮยอนหันมาถามคนเป็นพี่ด้วยความเป็นห่วง ดูจากสีหน้าของยุนอาแล้วเธอรู้ว่าอีกฝ่ายคงอาการหนักไม่น้อย
“นิดหน่อยน่ะ พี่ไม่เป็นไรมากหรอก” ยุนอาตอบโดยที่สายตาจับจ้องไปยังพวกพี่ๆ ที่กำลังทำกิจกรรมยามว่างอยู่ในห้องนั่งเล่น ในใจก็อดคิดถึงคนที่หายหน้าไปจากหอพักไม่ได้ นานๆ ทีได้พักผ่อนแท้ๆ แต่พี่แทยอนกลับหาเรื่องออกไปข้างนอก ไม่ห่วงตัวเองบ้างเลย...
“ยุน!เล่นเกมกัน” ซันนี่ที่เหลือบมาเห็นน้องรองของวงกำลังนั่งทำหน้าซังกะตายอยู่กับมักเน่ก็วิ่งเข้ามาหาหวังจะชวนเล่นเกมแก้เครียด
“ไม่ละค่ะพี่เล่นไปเถอะ ฉันขอตัวนะ” แต่กลับได้รับการปฏิเสธโดยการส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกหนีเข้าไปในห้องนอนปล่อยให้ซันนี่กับซอฮยอนมองตามหลังไปอย่างหนักใจ
“อาการน่าเป็นห่วงแฮะ” ทิฟฟานี่ที่กำลังนั่งเล่นอยู่แลปท็อปอยู่ใกล้ๆ บ่นพึมพำเบาๆ แต่พวกเธอคงลืมสังเกตไปว่าท่าทางหมดอาลัยตายอยากของยุนอามักจะปรากฏจำเพาะเจาะจงกับวันที่แทยอนหายไปจากหอพักทุกที
.
.
.
“.........”
ดวงตาสองคู่ประสานกันโดยบังเอิญขณะที่แทยอนกำลังจะเปิดประตูออกมา ส่วนยุนอากำลังจะก้าวเข้าไปในห้องนอนของแทยอนและซันนี่
“............”
ไม่มีใครยอมหลบตาก่อนมีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ปกคลุมทั้งคู่อยู่เกือบนาที เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจ... ต่างฝ่ายต่างพยายามค้นหาความรู้สึกผ่านดวงตาของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า.... อยากรู้ว่าข้างในคิดอะไรอยู่.... อยากปลดความรู้สึกคลุมเครือออกไปให้พ้นๆ เสียที...
“มีอะไรเหรอ?/ฉันจะเข้าไปหาพี่ซันนี่น่ะ”
เหมือนนัดกันเอาไว้ทั้งคู่ต่างโพล่งออกมาเกือบจะพร้อมๆ กันในที่สุด เพียงเพื่อทำลายความเงียบอันน่าอึดอัด...
“เข้าไปสิ” แทยอนเสมองเข้าไปในห้องพยักพเยิดไปที่ซันนี่ที่นอนเล่นอยู่บนเตียง
“อะ แฮ่ม...” ยุนอากระแอมเรียกความเป็นตัวของตัวเองกลับคืนมา เสียงผ่อนลมหายใจของทั้งคู่ดังแว่วมาให้อีกฝ่ายได้ยิน
“ฉันเข้าไปนะ” บอกเป็นเชิงขออนุญาตเจ้าของห้องอีกฝ่ายแก้เก้อ
“อือ.” แทยอนเป็นฝ่ายเดินออกมาจากประตูเพื่อเปิดทางให้ยุนอาได้เข้าไปข้างใน หลังจากพยักหน้าให้รุ่นน้องตัวสูง
ตึก!
เสียงประตูห้องปิดลง แต่หัวใจของคนสองคนที่เพิ่งสบตากันเมื่อครู่ยังคงไม่หยุดสั่นระรัว ทั้งคู่ยืนพิงประตูห้องอยู่คนละด้าน ระงับอาการตื่นเต้นอยู่เงียบๆ เพียงลำพัง(?) หลับตาลงเพื่อเรียกสติให้กลับเข้ามาอยู่กับเนื้อกับตัว....
“ยุนอา.... เป็นอะไรไปน่ะ? มาหาพี่เหรอ?” ซันนี่เรียกชื่อคนที่กำลังยืนพิงประตูอยู่ด้วยความสงสัย
“อ่อ.. ไม่ใช่...เอ้ย ใช่ค่ะฉันมาหาพี่” ยุนอาตอบตะกุกตะกักเพราะเพิ่งหาเสียงตัวเองเจอ
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“เรื่อง?” ยุนอาทำหน้าเหรอหรา
“เอ่อ เรื่องอะไรไม่รู้ฉันจำไม่ได้แล้ว” ยุนอาส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้พี่สาวตัวเล็กที่กำลังท่องโลกไซเบอร์อยู่บนเตียง ทั้งที่ความจริงแล้วคนที่จะมาหาไม่ใช่ซันนี่ แต่เป็นคนที่เพิ่งเดินสวนกันออกไปเมื่อครู่นี้ต่างหาก แล้วทำไมตอนเจอหน้าพี่แทยอนถึงได้ไม่กล้าคุย เกิดอาการป๊อดขึ้นมาเสียดื้อๆ...
“อ้าว.. แล้วกัน” ซันนี่ส่ายหน้าเอือมๆ
“พี่ดูอะไร ฉันดูด้วยสิ” ยุนอาแถด้วยการกระโดดขึ้นเตียงไปแย่งซันนี่เล่นแลปท็อปของเจ้าตัว
“เฮ่ย!!ได้ไงไม่เอา” แล้วก็เกิดสงครามย่อมๆ ขึ้นระหว่างเด็กประถมกับสาวร่างเล็กผู้มีเล็กฉายาแอ๊บแบ๊วเรียกหมัด
.
.
.
“แทยอน แล้วยุนอาล่ะ?” ยูริเอ่ยทักแล้วยังถามถึงคนที่เพิ่งเดินสวนกันที่หน้าประตูห้อง
“ก็อยู่ในห้องกับซันนี่ไง เขาบอกจะไปหาซันนี่ไม่ใช่เหรอ?”
“อ้าว ยุนอามันจะเข้าไปคุยกับเธอเรื่องงานนะเมื่อกี๊ มันบอกกับฉันเอง” ยูริแย้ง แทยอนยิ่งงงหนัก หัวคิ้วบางๆ ขมวดเข้าหากันเป็นปมอยู่กลางหน้าผาก ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ยูริบอกสักเท่าไหร่
“บ้าน่า .. เขาไม่ได้ว่าอะไรนี่ บอกจะไปหาซันนี่นี่นา” แทยอนเองก็ไม่ยอมแพ้
“แทยอนฉันยืนยันได้ ฉันได้ยินยุนอาบอกอย่างนั้นเหมือนกัน” เจสสิก้าเสริมอีกแรงให้คำพูดของยูริมีน้ำหนักมากขึ้นเพราะมีพยานอีกคนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
“งั้นเหรอ”แทยอนพึมพำกับตัวเองเบาๆ ฟันขบกัดริมฝีปากแดงเบาๆ ใบหน้าใสมีท่าทีครุ่นคิดราวกับกำลังหาเหตุผลที่ยุนอาไม่ยอมคุยกับเธอตรงๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางห้องครัวเอาดื้อๆ
“ฉันไปหาอะไรกินดีกว่า หิวแล้ว”
“อะไรของเขานะ” ยูริบ่นตามหลังหันไปขอความเห็นจากเจสสิก้า สาวผมบลอนด์ได้แต่ยักไหล่ทำหน้าไม่รู้เรื่อง เพราะให้คำตอบไม่ได้เช่นกัน
.
.
.
“แทยอน ..ฮ้าว......ฉันไปนอนนะ.....ง่วง” ฮโยยอนอ้าปากหาวหวอดขณะพูดกับแทยอนจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง ในขณะที่ทั้งคู่นั่งกำลังนั่งอยู่หน้าจอทีวีเครื่องใหญ่ ส่วนคนอื่นๆ เข้านอนกันหมดเว้นก็แต่ซันนี่ที่บินไปถ่ายทำรายการinvincible youth ที่ประเทศญี่ปุ่นกับยุนอาที่ยังไม่กลับหอพัก
“อืม ตามสบายเดี๋ยวฉันตามไป” แทยอนพยักหน้ารับ
“นอนคนเดียวได้นะวันนี้ ยัยซันนี่ไม่อยู่” ฮโยยอนอดแซวแทยอนไม่ได้แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ขี้กลัวเหมือนเจสสิก้า
“ไม่เป็นไรหรอกน่าแค่นี้สบายมาก” แทยอนย้ำหนักแน่น
“งั้นฉันไปนอนนะ อย่าดึกนักล่ะ”
“อื้อ ไปเถอะ” แทยอนรับคำก่อนที่ฮโยยอนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของเจ้าตัวกับซอฮยอน ปล่อยให้แทยอนนั่งอยู่ในความมืดลำพัง มีเพียงแสงไฟจากหน้าจอทีวีที่ส่องแสงวูบวาบไปทั่วห้องนั่งเล่น ดวงตากลมโตเหม่อมองไปยังหน้าจอทีวีสลับกับบานประตูเป็นระยะ กระวนกระวายเป็นห่วงคนที่ยังกลับมาไม่ถึงหอพัก
จะไปไหนก็ไม่ยอมบอกกันเห็นว่าโตแล้วหรือยังไง......
เวลาผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าที่แทยอนยังนั่งรอใครบางคนอยู่ที่เดิม รายการทีวีถูกกดเปลี่ยนไปมาหลายต่อหลายช่อง แต่เนื้อหาในจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธอเลยสักนิด ยิ่งดึกเท่าไหร่ความห่วงใยในสวัสดิภาพของอีกฝ่ายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ร่างเล็กผุดลุกผุดนั่งสลับกับเดินวนไปเวียนมาระหว่างหน้าประตูห้องกับโซฟาหลังใหญ่
เข็มสั้นของนาฬิกาเรือนใหญ่เดินล่วงเข้าสู่วันใหม่มากว่า 3 ชั่วโมง แต่คนที่รออยู่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา ทั้งที่วันนี้ยุนอาไม่มีงานที่ไหน เวลาเกือบจะตีสี่มันดึกเกินไปจนผิดปกติ โทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือเมื่อหลายนาทีที่แล้ว ถึงเวลาที่เธอต้องใช้มันเสียที
“ตู๊ดดดด~~~” เสียงสัญญาณโทรศัพท์ยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง ทว่าไม่มีคนรับสาย แทยอนกดโทรออกเป็นสิบๆ ครั้งแต่ผลตอบรับก็ยังคงเหมือนเดิม
“เธออยู่ไหนนะยุนอา ทำไมไม่รับโทรศัพท์” เส้นเสียงเริ่มสั่นด้วยความร้อนอกร้อนใจ ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวพร้อมทั้งก้อนแข็งๆ ที่แล่นมาจุกอยู่ที่คอหอย ทั้งเป็นห่วงทั้งโมโหคนที่ทำให้เธอกลัดกลุ้มจนนอนไม่หลับอยู่ตอนนี้ ริมฝีปากแดงช้ำจากการขบกัด เธอต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากที่จะระงับอารมณ์ให้สงบเยือกเย็นเข้าไว้ แต่มันกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยากย็นเหลือเกิน
โทรศัพท์มือถือในมือของแทยอนถูกกดโทรออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่ละความพยายาม จนเครื่องเริ่มร้อน แต่ก็ยังไม่มีคนรับสายเช่นเคย มือเล็กๆ บีบโทรศัพท์ในมือแน่นเมื่อที่พึ่งสุดท้ายหมดไป ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง ยกมือขึ้นนวดเปลือกตาบางเพื่อไล่น้ำอุ่นๆ ที่เอ่อคลอดวงตากลมให้ย้อนกลับลงไปที่เดิม...
เธอเป็นหัวหน้าวง ภาพลักษณ์ของแทยอนในสายตาใครๆ ดูเข้มแข็งมาตลอด น้อยครั้งนักที่จะเสียน้ำตาให้กับอะไรง่ายๆ แต่เวลานี้เธอกำลังอ่อนแอ ยุนอาทำให้ความเข้มแข็งของเธอพังทลายลง
แต่ก่อนที่ทำนบน้ำตาของแทยอนจะพังลงไปจริงๆ เสียงดังกุกกักตรงหน้าประตูก็เรียกให้คนตัวเล็กหันไปมองทันที... แทยอนผุดลุกขึ้นจากโซฟา เรียวขาเล็กพาเจ้าของร่างตรงไปยังประตูห้อง พอดีกับที่ร่างของใครบางคนโผล่เข้ามาหลังจากบานประตูนั้นเปิดออก
ปัง!
แทยอนรอให้ร่างสูงโปร่งปิดประตูห้องลงก่อนแล้วจึงเดินเข้าประชิดตัว ร่างเล็กยืนกอดอกแน่น ดวงตากลมโตจ้องมองอย่างเอาเรื่อง ความกังวลบวกความกลัวเมื่อครู่หายไปจนหมด อารมณ์กรุ่นโกรธแล่นเข้ามาแทนที่
“ไปไหนมา!ทำไมไม่รับโทรศัพท์” แทยอนเอ่ยถามเสียงกร้าวทันทีที่ร่างในเงามืดหันมาเผชิญหน้า
“พี่แท.. รอฉันเหรอ” เสียงที่ตอบกลับมาฟังดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจใดๆ ไม่แม้จะสะทกสะท้านกับท่าทีของพี่สาวตัวเล็ก หนำซ้ำยังเดินเข้ามาประชิดร่างเล็กกว่าอย่างรวดเร็ว ก่อนก้มหน้าลงมาจนเกือบชิดกับใบหน้าใส แทยอนผงะก้าวถอยหลังแทบไม่ทัน จมูกเหมือนได้กลิ่นฉุนแปลกๆ จากอีกฝ่าย
“เธอดื่มเหล้ามาเหรอ” แทยอนถามเสียงเครียด
“แหม ก็แค่นิดหน่อยเอง” ยุนอาว่าพลางส่งยิ้มหวานมาให้แทยอน มือเรียวคว้ามาจับไหล่เล็กบีบเบาๆ
“ปล่อย!” แทยอนออกคำสั่งเสียงเข้มปัดมืออีกฝ่ายออกไปจากไหล่แล้วถอยหลังออกมาอีกหลายก้าวเพื่อให้อยู่ในระยะปลอดภัย เพราะท่าทางของยุนอาตอนนี้น่าหวาดหวั่นเกินไป เธอคาดเดาการกระทำของอีกฝ่ายไม่ได้เลย
“ฮะ ฮ่าๆ .. พี่รังเกียจฉันเหรอ” ยุนอาแค่นหัวเราะเสียงขื่นๆ ก้าวตามไปประชิดตัวแทยอนไม่ลดละ ด้วยความรวดเร็วยุนอาคว้าตัวแทยอนไว้ได้อีกครั้ง คราวนี้แน่นหนากว่าครั้งก่อน
“แต่ถ้าเป็นเขา.. พี่คงไม่รังเกียจใช่ไหม” ใบหน้าหวานโน้มลงไปกระซิบชิดแก้มใส แทยอนได้แต่เบือนหน้าหลบกลิ่นแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งจากอีกฝ่าย เพราะหนีไปจากพันธนาการแน่นหนานั้นไม่ได้
“ใคร? เธอหมายถึงใครยุนอา”
“ก็คนที่พี่หายไปกับเขาบ่อยๆ ไง หรือจะบอกว่าพี่ไปเที่ยวคนเดียว” เสียงกระซิบดังอยู่ชิดกับใบหูเล็ก แทยอนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ และกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากยุนอา เพิ่งรู้ว่าแอลกอฮอล์มันเปลี่ยนนิสัยคนได้ถึงขนาดนี้ จากคนที่เคยอ่อนน้อมถ่อมตนกับคนอื่นเสมอ แต่พอเมาแล้วกลับกลายเป็นคนก้าวร้าวได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ฉันว่าเธอพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะยุนอา”
“ไม่รู้เรื่องยังไง ฉันยังมีสติดีอยู่” เค้นเสียงลอดไรฟัน จมูกคลอเคลียข้างแก้มใส แขนกอดรัดเอวเล็กรั้งเข้ามาแนบกาย... กลิ่นหอมๆ ที่คุ้นเคยรวยรินอยู่ปลายจมูกสติสัมปชัญญะที่มีอยู่น้อยนิด เริ่มลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ พร้อมกันกับจมูกโด่งๆ จรดลงไปบนแก้มใสแผ่วเบา...
“เธอจะบ้าไปแล้วเหรอ!” แทยอนสะดุ้งตกใจกับสัมผัสที่ไม่คาดคิด มือผลักคนตัวสูงออกไปเต็มแรง จนคนที่ไม่ทันตั้งตัวเสียหลักเซถอยหลังไปหลายก้าว ลีดเดอร์ตัวเล็กรีบใช้โอกาสนี้สาวเท้าหนียุนอาเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
“คิดว่าหนีฉันพ้นหรือไง” ยุนอากำลังโกรธจัดกับท่าทีที่แสดงออกถึงความรังเกียจของแทยอน บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปส่งผลให้ยุนอาหน้ามืดจนลืมคิดถึงความถูกต้อง ขาเรียวรีบวิ่งตามคนตัวเล็กไปอย่างรวดเร็วทันทีที่ตั้งสติได้ ด้วยช่วงขาที่ยาวกว่าทำให้เธอตามแทยอนไปจนทัน แทรกร่างเข้าไปในห้องก่อนที่ประตูจะปิดลง
“ยุนอา.... เธอเข้ามาทำไม” เส้นเสียงที่ฟังดูสั่นไหวกับอาการก้าวถอยหลังหนีผู้บุกรุกเหมือนเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์โกรธของยุนอายิ่งกว่าเดิม ....รังเกียจกันมากนักใช่ไหม.... แววตากร้าวถูกส่งมาให้รุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่าจนคนมองเกิดอาการเสียวสันหลังวาบ
“พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” ยุนอาปรี่เข้าไปรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดแนบแน่น ไม่ปล่อยโอกาสให้หนีรอดไปอีกเป็นครั้งที่สอง แม้แทยอนจะระวังตัวอยู่แล้วแต่ก็ไม่เท่าความไวของยุนอา
“ยุนอา ปล่อยฉันนะ เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง” คนตัวเล็กพยายามดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมแขนของร่างโปร่งบางหากแต่ทรงพลังที่กำลังคุกคามเธออยู่ แต่ยิ่งดิ้นอ้อมแขนก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นจนแทยอนแทบหายใจไม่ออก การต่อสู้เล็กๆ ที่เกิดขึ้นภายในห้องนอนไม่ได้ดังไปกว่าเสียงทีวีที่แทยอนเปิดทิ้งไว้ข้างนอกห้อง จึงไม่สามารถปลุกสมาชิกที่กำลังหลับไหลอยู่บนเตียงนุ่มให้ตื่นขึ้นมาได้
“จะดิ้นทำไมเล่า” ด้วยความรำคาญยุนอาจึงเหวี่ยงร่างเล็กๆ ลงไปบนเตียงนอนนุ่มอย่างแรง คนโดนเหวี่ยงเจ็บจุกจนขยับไม่ได้อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนร่างนั้นจะตามขึ้นมาทาบทับ ตรึงข้อมือข้อเท้าอีกฝ่ายด้วยร่างกายของตน ...ด้วยความตกใจกับท่าทีก้าวร้าวของยุนอาทำให้แทยอนอึ้งจนทำอะไรแทบไม่ถูก กว่าจะรู้ตัวร่างทั้งร่างก็ตกอยู่ภายใต้อาณัติของอีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อย พยายามดิ้นรนอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นไปได้โดยง่าย...
“ยุนอา.. นี่ฉันเป็นพี่เธอนะ มีสติหน่อยสิ” แทยอนพยายามเรียกสติยุนอากลับคืนมา ทว่ามันเปล่าประโยชน์เสียแล้วในเวลานี้
เวลาที่ร่างกายบดเบียดกันแนบแน่นแบบในที่ไม่เคยได้รับโอกาสมากมายขนาดนี้มาก่อน
เวลาที่ยุนอาได้กลิ่นกายหอมกรุ่นลอยอบอวลอยู่แค่ปลายจมูก
เวลาที่ความกรุ่นโกรธเริ่มมีอารมณ์อย่างอื่นเข้ามาแทรก
“พี่เหรอ ได้.... เดี๋ยวฉันจะเปลี่ยนพี่เป็นอย่างอื่น” สิ้นประโยค ยุนอาก็กดริมฝีปากลงมาปิดกั้นคำพูดของแทยอนที่กำลังจะพรั่งพรูออกมาจากเรียวปากสีแดงฉ่ำ บดเบียดอย่างเร่าร้อนรุนแรงจนคนใต้ร่างหายใจไม่ทันกับการรุกรานดุดันเอาแต่ใจ...
ปลายลิ้นร้อนฉวยโอกาสแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ขณะที่ร่างเล็กเปิดปากเพื่อจะกอบโกยเอาอากาศหายใจ ทันที่ที่ปลายลิ้นแตะกันเพียงบางเบาก็เหมือนมีไฟฟ้าแล่นปราดไปทั่วร่าง คนที่กำลังดิ้นรนก็หยุดะชะงัก คนที่กำลังรุกรานอย่างขาดสติก็ลดความรุนแรงลง จูบดุดันในตอนแรกเปลี่ยนมาเป็นความนุ่มนวลอ่อนหวาน ความรู้สึกที่เคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกของทั้งคู่... ไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำให้สมองมึนงงจนคิดอะไรไม่ออก... นอกจากความหอม หวานที่ได้รับจากกันและกัน
แรงขัดขืนที่เคยมีเปลี่ยนเป็นให้ความร่วมมือกับอีกฝ่าย มือของทั้งคู่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว พร้อมหัวใจที่เต้นระรัวในอกข้างซ้ายแข่งกันดังแทบจะหลุดออกมาข้างนอก... การตอบสนองของร่างกายเป็นไปตามคำสั่งจากความรู้สึกลึกๆ ที่ก่อตัวเงียบๆ อยู่ภายในใจ นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่มันเริ่มขึ้น รู้เพียงเวลานี้ความใกล้ชิดกำลังผลักดันให้ต่างคนต่างเผยความในใจออกมา มีเพียงเวลานี้ โอกาสนี้เท่านั้น...
“อืม..”
ความอ่อนหวานถูกส่งมอบให้กันผ่านรสจูบ ซึมซับดูดกลืนเอาไว้ให้ฝังลงไปในความรู้สึก เป็นนานกว่าจะผละจากจูบมาราธอนได้ เล่นเอาทั้งคู่เกือบจะขาดอากาศหายใจ..
“แฮ่ก...”
เสียงลมหายใจหอบถี่ดังแผ่วๆ อยู่ในความมืดสลัว.. .ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งไร้คำพูดใดๆ เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปาก ความสับสนลังเลปรากฏอยู่ในดวงตากลมโตของแทยอน.. .อยากจะถามอยากจะต่อว่าอีกฝ่ายสารพัด แต่กลับพูดอะไรไม่ออก
ในที่สุดความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายในจิตใจถูกระบายออกมาเป็นหยดน้ำตา ของเหลวใสเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตากลมคู่นั้น ก่อนจะกลิ้งผ่านไปทางหางตัวแล้วทิ้งตัวลงซึมเป็นวางกว้างบนหมอนใบใหญ่.....
“พี่แทยอน..”
เสียงเรียกชื่อแผ่วเบาราวกับจะขาดใจดังออกมาจากริมฝีปากบางสีแดงสด หัวใจคนพูดกระตูกวูบเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตากลมใสของแทยอน... ที่สำคัญตัวต้นเหตุนั้นก็คือยุนอาอย่างไม่ต้องสงสัย มือสั่นระริกค่อยๆ เลื่อนไผปาดน้ำใสออกไปจากใบหน้าของคนในครอบครอง ....เพราะความบ้าของแกแท้ๆ ยุนอา...ทำให้พี่แทเสียน้ำตา..
“ฉันขอโทษ”
กระซิบแผ่วเบาข้างหูด้วยความรู้สึกผิดท่วมท้น มือเรียวสอดเข้าไปใต้แผ่นหลังเล็กบางรั้งเข้ามากอดไว้แนบแน่น พร่ำบ่นคำขอโทษออกไปซ้ำๆ อยากถ่ายทอดความรู้สึกในจิตใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้... ใบหน้าหวานซุกซบลงไปบนไหล่เล็ก น้ำตาอุ่นๆ ของคนที่ขาดสติไปเมื่อครู่ไหลซึมผ่านเนื้อผ้าลงไปกระทบผิวกายบอบบาง พร้อมกับแรงสะอื้นที่ตามมาในเวลาต่อมา...
ดูเหมือนตอนนี้ยุนอาจะร้องไห้หนักกว่าแทยอนเสียอีก... น้ำตาของแทยอนที่เคยไหลหยุดลงในเวลาไม่นาน ก่อนที่มือเล็กๆ จะเลื่อนไปลูบไล้แผ่นหลังบางและกลุ่มผมนุ่มของคนด้านบนเพื่อปลอบโยน แค่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกผิดและเสียใจกับการกระทำเมื่อครู่นี้มากเท่าไหร่ แทยอนก็หายโกรธยุนอาแล้ว... แทนที่ยุนอาจะปลอบเธอ กลายเป็นเธอเองที่เป็นฝ่ายปลอบยุนอา
“ฉัน..ฮึก.. .ขอโทษ..พี่อย่า..อย่าโกรธ อย่าเกลียดฉันเลยนะ”
ยุนอาพร่ำเพ้อปนเสียงสะอื้นอยู่ข้างหูของคนตัวเล็ก นานหลายนาทีกว่าจะสงบลง... เหลือเพียงอาการสะอื้นเป็นพักๆ ... มือเล็กๆ ประคองใบหน้าหวานขึ้นมาสบตา... นิ้วเรียวบรรจงเช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าสวยให้หมดไป การกระทำที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนของแทยอนเรียกน้ำตาให้รื้นขึ้นมาอีกครั้งในดวงตาคู่สวย
“ไม่เอาน่ายุนอา ไม่ร้องนะ”
แทยอนพูดกับอีกฝ่ายเหมือนเด็กๆ เมื่อเห็นประกายของน้ำใสๆ ในความมืดสลัว ยุนอาพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา... ปากบางๆ เม้มเป็นเส้นตรงแสดงออกถึงความพยายามอย่างที่สุด
“พี่แทยอนไม่เกลียดฉันใช่ไหมคะ”
เมื่อความเป็นตัวเองกลับคืนมาอีกครั้งความกล้าก็เริ่มหายไป ยุนอาเอ่ยประโยคนั้นโดยไม่ยอมสบตากลมใสของแทยอน... สายตาจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอิ่มซึ่งขึ้นสีแดงจัดกว่าปกติ สาเหตุก็คงจะมาจากเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ
“ไม่หรอก.. พี่ไม่มีวันเกลียดเธอ.. แค่โกรธเท่านั้น”ว่าพลางลูบใบหน้าสวยหวานเบาๆ นั่นทำให้ยุนอายิ้มออกบ้าง แต่ความรู้สึกผิดก็ยังไม่หมดไปอยู่ดี
“พี่แทยอน.. ฉันขอโทษ เลิกโกรธฉันนะคะ”
ยุนอาเริ่มเข้าโหมดออดอ้อนตามที่ถนัด เพียงแต่ไม่ค่อยได้ใช้มันกับแทยอนเท่านั้นเอง...
“พี่จะหายโกรธก็ต่อเมื่อ.. เธอยอมบอกพี่ว่าหายไปไหนมา ดึกป่านนี้ถึงเพิ่งกลับหอ”แทยอนเอ่ยถามอย่างคาดคั้น วันนี้ต้องรู้ให้ได้ว่ายุนอาเป็นอะไรไปพักหลังๆ ถึงได้ดูมึนตึงกับเธอเหลือเกิน
“ฉันก็แค่ไปหาที่เดินเล่น คิดอะไรเพลินๆ คนเดียวเหมือนทุกวัน แล้วพอดีว่าพี่สาวโทรมาชวนไปงานเลี้ยงเลยไปด้วย แล้วก็.. ดื่มนิดหน่อย..”ยุนอาอธิบายอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงนัก
“แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์”แทยอนเค้นเสียงถามอย่างมีโมโห
“ก็.. ไม่ได้เปิดเสียง”ยุนอาตอบพลางจ้องมองต่ำลงมาถึงซอกคอขาว ลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่... เพราะความใกล้ชิดแนบแน่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ทำให้ยุนอาเริ่มจะไม่มีสมาธิกับการตอบคำถามของแทยอน
“ดีจริง”แทยอนกระแทกเสียงประชดประชัน
“ว่าแต่พี่เถอะค่ะ หายไปไหนกับใครบ่อยๆ” ยุนอาย้อนถามอีกฝ่าย ดวงตาคู่สวยเลื่อนมาจ้องดวงตากลมใสเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ
“เธอสนใจด้วยเหรอว่าพี่จะทำอะไร”แทยอนว่าเชิงประชดประชัน
“อ้าว ก็เห็นพี่ไม่ยอมบอกนี่ มีความลับอะไ-รปิดบังอยู่หรือเบล่า”
“มีที่ไหน ก็เธอไม่ถาม มัวแต่คิดอะไรไปเองไม่เข้าท่า”
“แล้วสรุปพี่ไปกับใคร?” ยุนอาลากเข้าเรื่องโดยเร็ว
“ก็แค่ไปกับพี่ชินยอง แล้วเธอคิดว่าพี่ไปกับใคร”แทยอนย้อนถามบ้าง หลังจากที่เห็นยุนอาอ้าปากหวอเมื่อได้คำตอบที่คาดไม่ถึงของแทยอน..
“อะ เอ่อ... ไม่มีอะไรค่ะ” ว่าพลางส่งยิ้มไปให้ร่างเล็กแก้เก้อ ที่แท้ก็คิดมากไปเองแท้ๆ จริงสินะ เวลาพี่แทยอนจะออกไปไหน เราก็ไม่เคยถามนี่นา...
“แล้วยุนเป็นอะไรไปพักนี้ถึงกลับหอดึกๆ บ่อยๆ แถมยังไม่ค่อยคุยกับพี่เหมือนเมื่อก่อน” ริมฝีปากบางเม้มแน่นเป็นเส้นตรงเมื่อได้ฟังคำถามที่มาจากผู้หญิงตรงหน้า โน้มตัวลงไปเพื่อลดระยะห่างระหว่างใบหน้าของทั้งคู่ ริมฝีปากเกือบจะแตะกันอยู่รอมร่อ... สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดใบหน้าของกันและกัน....
“เพราะพี่มั้งคะ... พี่รู้ไหมทุกทีที่พี่หายไป ฉันกระวนกระวาย มัน...รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย”ยุนอาเอ่ยเสียงแผ่วเบาพอให้ได้ยินกันแค่สองคนริมฝีปากลดต่ำลงมาเรื่อยๆ เฉียดกันไปมายามที่เอื้อนเอ่ย...
“แล้ว.. สาเหตุมันคืออะไรล่ะ”แทยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงท้าทายโดยที่ตัวเธอเองไม่รู้ตัว..
“เพราะ..ฉัน.. รัก...พี่ ... แล้วพี่ล่ะรักฉันบ้างไหม” ยุนอาเน้นคำตอบช้าๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ มาถึงขนาดนี้คงไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว... เป็นตายยังไงก็ต้องบอกแทยอนให้ได้..
เหมือนเวลาทั้งโลกหยุดหมุนหัวใจคนสารภาพกับคนฟังเต้นระรัวแข่งกันจนฟังไม่ออกว่าเสียงไหนเป็นเสียงของใคร... ความเงียบอันน่าอึดอัดย้อนเข้ามาปกคลุมคนทั้งคู่อีกครั้ง ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งไม่มีใครยอมปริปาก... หัวใจคนรอจะขาดรอนๆ ความหวังแทบไม่มีเหลือ
เงียบ..หมายความว่าพี่ปฏิเสธสินะ...
“เฮ่อ..”ยุนอาถอนหายใจออกมายาวเหยียดอย่างหมดหวัง.. คลี่ยิ้มที่ดูจืดเจื่อนเต็มทนส่งไปให้คนใต้ร่าง..
“เป็นอะไรไปทำไมทำหน้าแบบนั้น.. พี่ยังไม่ได้ปฏิเสธเธอเลยนะ” แทยอนว่าพลางส่งยิ้มหวานให้คนที่กำลังพบกับอาการผิดหวังอย่างรุนแรง... ใบหน้าหวานกลับมาสดใสอีกครั้งรอยยิ้มกว้างถูกส่งไปให้คนตัวเล็ก หัวใจที่เคยเต้นแผ่วๆ กลับมาเต้นระรัวอย่างมีชีวิตชีวา
มือเล็กโน้มใบหน้าคนด้านบนลงมาจนริมฝีปากจรดกัน แทนคำตอบทั้งหมดด้วยจูบอ่อนหวาน... ริมฝีปากสัมผัสบดเคล้าอย่างเย้ายวน ส่งมอบความรู้สึกผ่านรสจูบ ปลายลิ้นซ่านไปด้วยความหวานที่ได้รับจากอีกฝ่าย จนไม่อยากผละจากจูบนี้แม้เพียงวินาทีเดียว...
ฉากโคมไฟค่ะ อยากอ่านก็ส่งเมลล์มาที่YoonTae-_-@hotmail.comระบุหัวข้อว่า
[1-shot] ATTACK [YoonTae]
เพื่อป้องกันการสับสนฉากจบอยู่ในนั้นแล้ว
Fin.
******************************
แล้วเจอกันเรื่องต่อไปค่ะ เรื่องนี้แก้ไขนิดหน่อยก่อนเอามาลง
ความคิดเห็น