คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1
เมี้ยว.....
เจ้าช็อตตี้แมวเปอร์เซียร์เพศเมียสีขาวส่งเสียงร้องทำลายความเงียบ
มันเอี้ยวคอมองเจ้าของของมันที่กำลังง่วนอยู่กับกิจกรรมยามว่างนั่นก็คือ ‘การนอนกลางวัน’
ดูเหมือนมันกำลังเรียกร้องความสนใจ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอมแพ้เมื่อเจ้านายหน้าใสไม่มีทีท่าว่าจะตื่นสักที
มันเปิดปากหาวหวอดราวกับกำลังเบื่อหน่าย บวกกับความหิวทำให้มันอยู่เฉยไม่ได้
ก็ตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงบ่ายโมงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องมันเลยสักอย่าง
ช็อตตี้ตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินเยื้องย่างออกไปทางประตูห้องที่เปิดแง้มไว้
มันเยี่ยมหน้าออกไปสำรวจนอกห้องเล็กน้อยก่อนจะก้าวออกไปอย่างเงียบเชียบ.
...มันคงคิดว่าโลกภายนอกห้องสี่เหลี่ยมเป็นสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจรอให้มันออกไปสำรวจ...
ประตูลิฟท์เลื่อนเปิดออกอย่างเชื่องช้า
กำไลข้อมือสีดำสนิทสองสามอันกระทบกับนาฬิกาเรือนเล็กส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งทุกครั้งที่ขยับตัว
ดวงตาคู่สวยภายใต้แพขนตาหนาสะดุดเข้ากับร่างของเจ้าแมวสีขาวขนยาวฟูฟ่อง
มันกำลังยืนนิ่งเพ่งดวงตาสีฟ้าอ่อนมาที่เจสสิก้าเขม็ง
เจ้าขนฟูเอียงคอมองเธออย่างพิจารณาทำให้คนถูกมองอดที่จะทำตามมันไม่ได้..
หญิงสาวคลี่ยิ้มมุมปากอย่างนึกเอ็นดู ค่อยๆ ก้าวออกมาจากลิฟท์ ขยับเข้าไปใกล้มันทีละก้าวอย่างระมัดระวัง
หากรีบร้อนก็เกรงว่ามันจะตกใจจนวิ่งหนีจากไป
ดวงตาทั้งคู่จับจ้องไปที่เจ้าแมวตัวนั้นไม่วางตา
รอยยิ้มเปิดกว้างขึ้นเมื่อเจ้าขนฟูเดินเข้ามาคลอเคลียที่ปลายเท้าขณะเจสสิก้ายืนหยุดอยู่ตรงหน้า
มันเอาหัวเข้ามาถูกับเรียวขาขาวอย่างออดอ้อนพร้อมกับร้องเหมียวๆ ออกมาเบาๆ
เป็นอันว่าเจ้าเหมียวสีขาวตัวนี้เป็นมิตรกับเธออย่างแน่นอน
หญิงสาวรวบชายกระโปรงสีอ่อนไว้แล้วย่อตัวลงนั่งคุกเข่าลงข้างๆ มัน
กระชับสายกระเป๋าสะพายที่เลื่อนหล่นลงจากไหล่เอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่งแล้วยื่นมือข้างที่ว่างไปลูบหัวมันเบาๆ
“มาจากไหนเนี่ยเรา หืม?”
“เมี้ยว..” มันขานรับด้วยเสียงร้องแล้วเชิดหน้าขึ้นส่งลิ้นชื้นออกมาเลียปลายนิ้วเรียวแผล็บๆ..
หญิงสาวหัวเราะคิกในลำคอ รู้สึกเอ็นดูระคนหมั่นเขี้ยวมันขึ้นอีกหลายเท่า
มือบางขยี้หัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยขนฟูนุ่มจนยุ่งเหยิง สัมผัสได้ถึงปลอกคอเล็กๆ ที่ติดอยู่บนคอของมัน
ปลายจมูกย่นนิดๆ กัดริมฝีปากอย่างระงับความหมั่นเขี้ยว
เธอชักจะถูกใจเจ้าเปอร์เซียตัวนี้เข้าแล้วสิ แล้วเจ้านายมันอยู่ไหนนะ อยู่แถวนี้หรือเปล่า?
ใบหน้าสวยหันมองไปรอบๆ เพื่อมองหาคนที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้านายของมัน แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า...
โถงทางเดินยังเงียบสงบไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากเธอและเจ้าเหมียวที่คลอเคลียอยู่แทบเท้า
พลันความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในสมอง..
ในเมื่อเจ้าของไม่อยู่ขอยืมไปดูเล่นที่ห้องสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“เจ้าเหมียว ไปด้วยกันนะ” ว่าแล้วช้อนมือทั้งสองอุ้มข้างเจ้าแมวขี้อ้อนขึ้นมาในอ้อมแขนแล้วยืนขึ้นเต็มความสูง
น้ำหนักของมันไม่มากนักพอที่ผู้หญิงรูปร่างบอบบางอย่างเธอจะอุ้มไหว
เจสสิก้าไล่ปลายนิ้วไปบนปลอกคอจนสะดุดเข้ากับวัตถุสี่เหลี่ยมเล็กตรงคอด้านหน้าของมัน
หญิงสาวพลิกดูแล้วก้มมองก็พบว่ามันเป็นป้ายชื่อนั่นเองที่ติดอยู่กับปลอกคอสีเข้ม
‘ช็อตตี้’ ตัวอักษรภาษาเกาหลีสลักอยู่บนป้ายโลหะนั้นอย่างชัดเจน
เสียงหวานอ่านตามตัวอักษรนั้นพึมพำ นี่คงเป็นชื่อของมันสินะ
“ชื่อช็อตตี้ใช่มั้ย” เจสสิก้าอุ้มเจ้าจนฟูไว้แนบอกพลางกระซิบถามมันราวกับมันรู้ภาษาคนยังไงอย่างนั้น
หญิงสาวทวนชื่อมันซ้ำๆ แล้วสาวเท้าเร็วๆ เพื่อกลับห้อง เสียงฮัมเพลงหวานหูดังก้องไปทั่วโถงทางเดินอันเงียบสงบ...
.
.
.
ท้องฟ้าภายนอกห้องพักในคอนโดหรูเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทเมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปหลายชั่วโมง
ในห้องพักก็ถูกกลืนกินด้วยความมืดเช่นเดียวกัน เจ้าของห้องยังนอนหลับสบายอยู่บนโซฟา
นับว่าเป็นการนอนมากลางวันแบบมาราธอนเลยก็ว่าได้
...เมื่อคืนเจ้าตัวเอาแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ทั้งคืนจนกระทั่งเช้าไม่นอนยาวยังไงไหว...
เปลือกตาบางเริ่มขยับ ร่างสูงเพรียวทำท่าจะพลิกตัวนอนตะแคงตามความเคยชิน
อาจนึกว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงกระมัง แขนเรียวยาวยกขึ้นสะเปะสะปะจนมือฟาดลงไปบนโต๊ะหน้าโซฟาอย่างแรง
ปึก!
“โอ๊ย!!”
ยุนอาดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟานุ่มพร้อมร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด กุมมือข้างที่บาดเจ็บเอาไว้แน่นพร้อมสบถอย่างหัวเสีย
“มันอะไรกันนักหนาเนี่ย”
บีบๆ นวดๆ มือข้างที่เจ็บอยู่ครู่หนึ่งจนอาการปวดคลายลงจึงได้สังเกตว่ารอบตัวนั้นมืดสนิท
...หลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเรา..
จ๊อก.... เสียงท้องร้องประท้วงเพราะยังไม่มีอะไรตกถึงกระเพาะนานกว่าแปดชั่วโมง
ยุนอายกมือลูบท้องแล้วเดินฝ่าความมืดไปลูบคลำๆ บริเวณผนังห้องที่คาดว่าจะมีสวิทช์ไฟติดอยู่...
เพราะความไม่คุ้นชินกับที่ทางในห้องนี้ถึงได้เดินชนนั่นเตะนี่ให้ได้เจ็บตัวกว่าจะเดินไปถึงที่หมาย...
ทำไงได้ก็ยุนอาเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ไม่ถึงเดือน แล้วห้องนี้ก็เป็นห้องของพี่ชายที่ยกให้เธออีกที
ถอนหายใจโล่งอกที่คลำหาสวิทช์ไฟจนเจอ ห้องทั้งห้องสว่างวาบขึ้นมาในทันที
ยุนอาเดินไปหาของกินที่ยังพอมีเหลืออยู่ในตู้เย็นมาประทังความหิวก่อนที่จะออกไปหาอะไรกินข้างล่าง
“มีอะไรรองท้องบ้างนะ.. อ๊ะ เจอแล้ว”
ฉีกยิ้มกว้างจนปากจะฉีกถึงใบหูเมื่อเจอแซนวิชทูน่าที่ซื้อมาไว้ตั้งแต่เมื่อวานยังเหลืออยู่ในตู้เย็นสองชิ้นใหญ่ๆ
มือเรียวคว้ามันออกมาจากตู้เย็นหนึ่งชิ้นแล้วกัดเข้าไปคำใหญ่ก่อนจะเคี้ยวตุ้ยๆ ท่าทางเอร็ดอร่อย
อีกมือคว้าเอานมน้ำผลไม้ออกมาจากตู้เย็นรินใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่มเพราะแซนวิชที่เพิ่งกลืนลงไปติดคอ
“อา.. ค่อยยังชั่ว”
ทำท่าโล่งใจ วางมือจากแก้วน้ำแล้วคว้าเอาอาหารแมวบนหลังตู้เย็นกะว่าจะเอาไปเทให้เจ้าช็อตตี้แมวสุดรักด้วยความเคยชิน...
ถาดอาหารของมันที่หลบมุมอยู่ข้างตู้เย็นนั้นว่างเปล่า
ยุนอาเทอาหารเม็ดใส่จนเต็มแล้ววางกล่องอาหารแมวไว้ที่เดิมพลางกัดแซนวิชเข้าปากคำโตๆ ไปด้วย
“ช็อตตี้ ช็อตตี้ เมี้ยวๆๆ ได้เวลาอาหารของแกแล้ว”
ยุนอามองซ้ายมองขวาเพื่อค้นหาตัวเจ้าช็อตตี้แต่ก็ยังไร้วี่แววจึงตะโกนเรียก แต่ทุกอย่างก็ยังคงเงียบ
ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้าเหมียวขนฟู ปกติมันต้องเดินนวยนาดออกมาหาแล้วถ้าได้ยินเสียงเรียกชื่อแต่วันนี้ไม่มีแม้เงา .
..มันหายไปไหนของมัน
ยัดแซนวิชที่เหลืออยู่ในมือเข้าปากคำสุดท้ายแล้วซดน้ำผลไม้ในแก้วตามลงไปจนหมดแก้ว
เดินเข้าห้องนั้นออกห้องนี้เพื่อตามหาตัวเจ้าแมวตัวแสบ
เริ่มตั้งแต่ห้องครัวที่เธอยืนอยู่ ไปจนถึงห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก แต่ก็ยังไร้วี่แวว...
“ไปไหนของแกเนี่ย โมโหแล้วนะ”
บ่นอย่างหัวเสียแล้วกระแทกตัวลงบนโซฟา จังหวะเดียวกับที่สายตาเหลือบไปเห็นประตูห้องเปิดแง้มอยู่...
“เฮ่ย.. นี่ฉันเปิดประตูทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ช็อตตี้มันหนีเที่ยวอีกแน่ๆ ไอ้แมวบ้าซนยิ่งกว่าหมา อย่าให้เจอตัวนะจะจับหักคอให้”
บ่นกระปอดกระแปดปากไวไปอย่างนั้น เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่กล้าทำอะไรมันอยู่ดี
ยุนอาก้าวออกไปจากห้องเพื่อออกตามหาเจ้าแมวตัวแสบของเธอ
ทางเดินข้างนอกเงียบอย่างเคย ยุนอาหันมองโถงทางเดินทั้งฝั่งซ้ายและขวาที่ทอดยาวออกไปจนสุด
...ทว่า ไร้วี่แววของสัตว์เลี้ยงที่กำลังตามหา ยุนอายกสมาร์ทโฟนในมือขึ้นเพื่อดูเวลา
...สองทุ่มเศษ...
เธอตัดสินใจหมุนตัวไปทางซ้ายซึ่งเป็นทางสู่บันไดขึ้นลงระหว่างชั้นถัดไปกับชั้นล่าง คงต้องเหนื่อยหน่อยล่ะวันนี้
ยุนอาเลือกที่จะตามหาช็อตตี้จากชั้นล่างก่อนแล้วค่อยขยับขึ้นไปชั้นที่สูงกว่า
นานหลายนาทีที่เดินเข้ามุมนั้นออกมุมนี้มีคนที่เดินสวนทางกับเธอเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
อาจเป็นได้ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่พักอาศัยอยู่ชั้นใกล้เคียงกัน เมื่อเดินหาจนทั่วจึงเดินขึ้นบันไดกลับขึ้นไปค้นหาช็อตตี้ในชั้นอื่นต่อ
“โดนจับไปฆ่าแล้วรึไงถึงได้หายเงียบไปแบบนั้น”
ยุนอาบ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อเดินหาแทบทุกชั้นที่ใกล้เคียงจนทั่วก็ยังไม่เจอตัวช็อตตี้
เธอจึงตัดสินใจเดินกลับห้องด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
ประตูห้องพักที่อยู่เยื้องกับห้องของยุนอาเปิดออก เธอหันไปมองต้นกำเนิดเสียง
ดวงตาใสใต้คิ้วเรียวบางหรี่ลงอย่างพิจารณาเมื่อเห็นแมวในอ้อมแขนของสาวสวยคนนั้นเหมือนตัวที่กำลังตามหาอยู่
ผู้หญิงรูปร่างเล็กบางเดินสับขาเร็วๆ ตรงไปทางเดียวกับลิฟท์
ยุนอาทำท่าจะอ้าปากเรียกไว้แต่เธอคนนั้นก็ก้าวเร็วซะลับหายไปจากสายตา
ขายาวรีบออกวิ่งตามหลังผู้หญิงคนนั้นไปอย่างรวดเร็ว โดยหวังจะตามให้ทัน
“คุณ!!! เดี๋ยวก่อนสิอย่าเพิ่งไป”
ยุนอาตะโกนเรียกเสียงดังลั่นโถงทางเดินพร้อมทั้งออกวิ่งตามอีกฝ่ายไปด้วย
แต่ก็เป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์สิ้นดีเมื่อผู้หญิงคนนั้นหายเข้าไปในลิฟท์กับแมวต้องสงสัยเป็นที่เรียบร้อย
ปล่อยให้คนอารมณ์ร้อนทุบประตูลิฟท์ปึงปังราวกับคนบ้า
“คุณ!! ..... ยัยป้านี่... จะเอาแมวฉันไปกินรึไง โถ่...”
ยุนอากอดอกยืนพิงผนังดักรอผู้หญิงหัวขโมยอยู่หน้าห้องตัวเอง
เพราะห้องของอีกฝ่ายก็อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องไปทางขวามือเพียงห้องเดียวเท่านั้น
ไม่นานเกินรอเสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน เพราะความเงียบ ขยับตัวแค่เล็กน้อยก็เกิดเสียง
ใบหน้าใสหันมองตามเสียงนั้นก็พบกับเป้าหมายที่รออยู่
ในอ้อมกอดมีแมวสีขาวขนฟูนั่งลอยหน้าลอยตาอย่างน่าหมั่นไส้
ร่างนั้นเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำหอมราคาแพงตามติดมาด้วย
หูแว่วยินเสียงกำไลข้อมือกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊ง ..นับว่าเป็นผู้หญิงที่สวยใช้ได้อยู่
แต่ว่ายุนอาคงไม่มีเวลามาชื่นชมความงามของใคร เมื่อยังต้องเคลียร์เรื่องไอ้เหมียวตัวแสบที่เชิดหน้าคอแข็งเมินเธออยู่ตรงนี้
หญิงสาวคนนั้นกำลังเดินมาถึงห้องแล้ว ยิ่งอยู่ใกล้เข้ามามากเท่าไหร่ก็ยิ่งมั่นใจว่าเป็นช็อตตี้
ดูมันทำเข้าเชิดซะคอแทบเคล็ด คงงอนที่ยุนอามัวแต่นอนเพลินจนลืมให้อาหารมันทั้งวัน
“เดี๋ยวก่อนสิคุณ” กระแอมให้อีกฝ่ายรู้ตัวเล็กน้อยก่อนเอ่ยทัก
น้ำเสียงและประโยคนั้นดูจะไร้มารยาทไปสักหน่อย ซ้ำยังท่ายืนกอดอกพิงผนังนั่นอีกล่ะ....
กวนโอ๊ยไปหน่อยมั้ง...
“เรียกฉันเหรอคะ?” เจสสิก้าหันมองตามเสียงเรียกทั้งตัว คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นเล็กน้อย
เผลอกวาดตามองผู้หญิงร่างสูงตรงหน้าอย่างพิจารณา... หน้าตาก็ดีนะ แต่มารยาทไม่ได้เรื่อง...
“ก็ที่นี่มีแค่ฉันกับคุณเท่านั้น จะให้เรียกไอ้แมวตัวนี้หรือไงคะ?”
ไม่พูดเปล่ายังยกนิ้วขึ้นไปจิ้มกลางหน้าผากของช็อตตี้ นั่นทำให้คนมองเริ่มเดือดปุดๆ
แต่ด้วยมารยาทหญิงสาวเลือกที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วพูดตอบโต้ด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบไร้อารมณ์
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“จริงๆ ฉันก็ไม่มีธุระอะไรกับคุณหรอกค่ะ ถ้าไอ้ตัวที่คุณอุ้มอยู่มันไม่ใช่แมวของฉันน่ะ”
พยักเพยิดไปที่แมวในอ้อมกอดของอีกฝ่าย ....ถ้ามาบอกกันดีๆ ก็อยากจะคืนให้อยู่หรอก
แต่ดูทำท่าเข้าสิ มันน่าคืนให้มั้ยล่ะ
“แมวคุณงั้นเหรอ? มีหลักฐานอะไรยืนยันคะว่าคุณเป็นเจ้าของมัน”
เจสสิก้าเลิกคิ้วถามกลับด้วยท่าทางกวนโมโหไม่ต่างกัน ยุนอาเม้มปากแน่นนึกโมโหหัวขโมยคนสวยอยู่ในใจ
“ไอ้ตัวเนี้ย มันชื่อช็อตตี้ ชื่อที่ติดอยู่บนปลอกคอมันคุณคงเห็น” ยืดตัวขึ้นเต็มความสูงราวกับกำลังข่มอีกฝ่ายเป็นการเอาคืน
“งั้นเหรอคะ ผิดตัวแล้วมั้ง”
เจสสิก้ายักไหล่ให้แล้วหันกลับไปเปิดห้องแล้วปิดประตูใส่หน้าอีกคนดังปัง...
คนที่อุตส่าห์ยืนรออยู่เกือบชั่วโมงได้แต่อ้าปากค้างกับความหน้ามึนของสาวสวย
ส่งเสียงอึกๆ อักๆ ในลำคออยู่หลายวินาทีเพราะเลือกคำพูดไม่ถูก
“น.. นี่คุณ เฮ่!! เดี๋ยวก่อนสิ ออกมานะ เอาแมวฉันคืนมา!!!!!!!!!!”
*******************************************************
ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคยุนสิกเรื่องแรกในชีวิต
เวอร์ชั่นยุนสิกอาจไม่ร้อนแรงแต่เน้นความแสบกับความแซ่บค่ะ อิอิ
ความคิดเห็น