รอบรู้ประเทศญี่ปุ่น

ลำดับตอนที่ #16 : Live in Japan การแต่งงานแบบญี่ปุ่น(การเตรียมงาน ตอนที่ 1)

Live in Japan

                การแต่งงานแบบญี่ปุ่น(การเตรียมงาน ตอนที่ 1)

                วันนี้มาด้วยสีหัวเราะแบบแห้งๆ ว่า แหะ แหะ ไม่มีอะไรแก้ตัวจ้า ก็มีหลายๆเหตุผลเหมือนกันที่ไม่ได้เขียนให้อ่าน ทั้งเรื่องเรียนภาษา เรื่องผลสอบวัดระดับ(ร่วง) เรื่องงานและก็เรื่องที่ต้องกลับไปเรียนนวดไทย ที่วัดโพธิ์ แล้วเรื่องยุ่งของแม่ตัวเองและพ่อแฟนที่ป่วย อะไรๆผสมปนๆกันไปหมด เกินทำให้ไฟที่อยากจะเขียนมันหรี่ลงไป วันนี้ก็มาเขียนต่อสำหรับคนที่อ่าน และได้ติดตามกันมา และตอนนี้จะได้เห็นหน้าตาของผู้เขียนและภรรยา(ไม่หล่อไม่สวยหรอกครับ)              

   มาต่อกันดีกว่าสำหรับตอนที่แล้วที่เขียนไว้นั้น (เกือบสองเดือนก่อน) ตอนนี้ก็จะเป็นภาคต่อ ที่เรียกว่าการเตรียมงาน เตรียมตัวและเตรียมใจ ก็ขอบอกว่าไม่ง่ายเลย สำหรับชีวิตที่เปลี่ยนไป อะไรๆก็แพงไปหมด จากที่อยู่เมืองไทย แล้วต้องมาอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น มาครั้งที่แล้วก็ได้รับความอบอุ่นกลับไปในฐานะที่เป็นแขกมาเยี่ยมบ้านเค้า แต่มาคราวนี้ มาแบบผู้ที่ขอพักอาศัยชั่วคราว ตอนนี้ความรู้สึกอะไรๆก็เปลี่ยนไป วันแรกที่มาเหยียบลงแผ่นดินที่ทั่วโลกเค้าเรียกกันว่า Japan หรือพี่ไทยเรียกว่ายุ่น(แต่อย่าเรียกดีกว่ามันไม่ค่อยสุภาพเท่าไร) ก็มีคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวเอง เช่น จะอยู่ได้หรือเปล่า(หว่า) ภาษาญี่ปุ่นพูดไม่ได้เลย เรียนก่อนมาที่สสท.นิดเดียว ก็ไม่ทันล่ะ เรียนได้แค่อ่านเขียนอิรากะนะ กับคาตะกานะ (ตายแน่ตู) สภาพอากาศร่างกายจะทนได้หรือเปล่านะ แล้วอาหารจะทานได้หรือเปล่าหว่า โอ๊ยเยอะไปหมดสาระพันปัญหา ทำไมพอมาถึงแล้วเพิ่งจะกลัวก็ไม่รู้ ตอนก่อนมาไม่เห็นจะคิดแบบนี้เลย แต่ทำไงได้มาถึงนี้แล้วก็สู้ๆๆ  แต่ไม่ได้บอกแฟนนะคิดเองคนเดียว )

ก็ไปถึงบ้านก็หอบรูปถ่ายชุดแต่งงานที่ถ่ายที่เมืองไทย ชุดไทย สากล ไปที่ญี่ปุ่นด้วย ไอ้รูปที่ใหญ่ๆที่เอาไว้แขวนอ่ะ ขอบอกว่าเป็นปัญหามาก ขนยาก ไปถึงก็เอารูปให้พ่อแม่เค้าดู เสร็จแล้วก็ทำท่าตกใจ เพราะว่าที่เมืองไทยเวลาถ่ายรูปชุดแต่งงานอ่ะจะแต่งงานเข้มมาก เค้าก็เลยตกใจว่าทำไมหน้าตาไม่เหมือนตัวจริง เหอะๆเป็นอย่างนั้นไป ที่อุตสาห์หอบข้ามน้ำข้ามทะเลมา ก็ไม่ถูกใจท่านแม่สะแล้ว (ท่านแม่ค่อนข้างจะไฮโซหน่อยอ่ะตามธรรมดาของคนเป็นเมียหมอ) เสร็จแล้วก็ไปลองชุดกัน ที่ร้านเสื้อผ้าให้เช่า ก็จะเป็นชุดกิโมโน(เจ้าสาว) สองแบบ คือแบบที่เป็นสีขาวกับแบบที่เป็นสีสัน ซึ่งลวดลายที่เลือกก็มีให้เลือกหลายแบบถ้าลายแบบว่าสวยมากๆ ก็แพงมาก ผมเห็นราคาล่ะแทบจะวิ่งหนีเลยก็ว่าได้ คิดว่าไม่มีปัญญาจะจ่าย ก็มีราคาตั้งแต่แสนเยนขึ้นไป ถึงสามล้านเยน ที่มีให้ลองเลือก(อย่าตกใจกับผมพิมพ์ไม่ผิดหรอก)