คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4
คุณเดินออกมาจากหอพักของบีเอพี ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว แดดที่นี่ดูค่อนข้างแรงนะแต่คุณกลับรู้สึกหนาวๆด้วยซ้ำ คุณกระชับเสื้อหนาวที่ใส่อยู่ให้แน่นขึ้นแล้วเดินไปตามทางเท้าริมถนน
คุณมองสำรวจร้านต่างๆที่อยู่ริมถนนทั้งสองฝั่ง แถวนี้มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า และร้านอื่นๆอีกมากมาย เหมาะแก่การช้อปปิ้งสุดๆ ถ้าไม่ติดอยู่ที่ว่าตอนนี้ฉันถังแตกนะ ป่านนี้ช้อปสนั่นไปแล้วว
คุณอ่านป้ายหน้าร้านกาแฟตลอดทางที่ผ่านมา ไม่มีซักร้านเลยอ่ะที่รับสมัครพนักงาน เดินจนจะเมื่อยแล้วนะเนี่ย หิวก็หิว แต่ต้องหางานทำให้ได้ก่อน ไม่งั้นจะไม่กลับไปที่หอแน่นอน
เฮ้ยยยยย! ร้านนั้นสมัครพนักงานเสิร์ฟ ร้านนั้นสมัครพนักงานเสิร์ฟ เย้เย~ เดินมาเป็นชั่วโมงในที่สุดก็เจอ
คุณหยิบกระจกเล็กๆในกระเป๋าเสื้อออกมาเช็คสภาพหน้าตาว่าดูดีแล้วหรือยังก่อนที่คุณจะเดินเข้าไปในร้านกาแฟตรงหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ
The Butter Café
ว้าววๆ ร้านน่ารักมากๆเลยอ่ะ มีคนเข้าออกร้านไม่ขาดสายเลย มีทั้งนักเรียนนักศึกษาไปจนถึงคนแก่ๆ บรรยากาศร้านเหมาะจะมานั่งกุ๊กกิ๊กกับแฟนที่สุดเลย อึ้ยยย! จะมีสักวันไหมนะที่จุนฮงโอปป้าจะมานั่งกับฉันที่นี่
คุณยิ้มเพ้อเจ้ออีกแล้ว ไม่มีทางหรอกที่จะมีวันนั้น คุณเองก็รู้ดี
“สวัสดีค่ะ ฉันมาสมัครงานค่ะ”คุณเดินเข้าไปหาชายหนุ่มตาตี่ๆที่นั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์คิดเงิน เขาสวมชุดยูนิฟอร์มของร้าน เขาจัดว่าเป็นคนที่น่ารักมากๆเลยล่ะ ผิวขาว ผมสั้นเกรียนแต่ดูไม่น่าเกลียด อึ้ยย! เขินคนหล่ออีกแว้ว
“อ๋อ งั้นตามผมมาที่หลังร้านเลยครับ”เขายิ้มให้คุณอย่างเป็นมิตรพร้อมกับเดินนำคุณมายังด้านหลังของร้าน คุณเดินตามเขามาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่หลังร้าน
“คุณเยจินครับ มีคนมาสมัครงานใหม่ครับ”หนุ่มตาตี่สุดหล่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอใส่ชุดที่แตกต่างจากพนักงานคนอื่นในร้าน ดูภูมิฐานกว่ามาก แถมมีป้ายชื้อห้อยคออยู่ด้วยแตกต่างกับพนักงานคนอื่นทีมีแค่ป้ายชื่อที่เป็นเข็มกลัด คุณใช้สายตาอ่านป้ายชื่อเร็วๆ
‘ชูอิมนิม คิม เยจิน’
อ๋อออ เก็ตละ เจ๊นี่เป็นผู้จัดการร้านเหรอ ทำไมหน้าเด็กอย่างนี่นะ อย่างกับคนเพิ่งจบใหม่อย่างนั้นแหละ
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ…..(ชื่อคุณ) มาสมัครเป็นพนักงานใหม่ค่ะ”คุณโค้งให้กับผู้จัดการอย่างสุภาพพร้อมกับโปรยยิ้มเป็นมิตร ฮี่ๆๆ ชื่อฉันไม่ได้อ่านยากไปใช่มั้ย
“ชื่อเธอแปลกๆนะ ไม่ใช่คนเกาหลีใช่มั้ย”
“ค่ะ ฉันเป็นคนไทย”
“เธอพูดภาษาอะไรได้บ้าง”
“ก็ ฉันพูดได้สามภาษาค่ะ ไทย อังกฤษแล้วก็เกาหลีนี่แหละค่ะ”
“อืมมมมมม! ดีเลย ฉันต้องการพนักงานเสิร์ฟที่พูดภาษาอังกฤษได้อยู่พอดี เพราะช่วงนี้มีชาวต่างชาติมาที่ร้านของเรามากขึ้น เธอพร้อมจะทำงานวันนี้เลยรึเปล่า”
เอิ่มม พร้อมดีมั้ยอ่ะ คิดหนักๆๆๆๆ
“ถ้าเธอเริ่มงานวันนี้ ฉันจะจ่ายเงินเดือนส่วนแรกให้เธอไปเลย”
“ฉันทำงานวันนี้เลยค่ะ!”คุณตอบแบบไม่ต้องคิดมา(เห็นแก่เงินชิมิ?) ได้เงินส่วนแรกก็ดีน่ะสิ อย่างน้อยจะได้ซื้อข้าวกินเองบ้าง ไม่ต้องพึ่งพวกโอปป้าอีก แค่นี้คุณก็เกรงใจพวกเขาจะแย่แล้ว
“โอเค ถ้างั้นก็….. จงฮยอน! นายช่วยสอนพนักงานใหม่ด้วยนะ ไปเปลี่ยนชุดซะ แล้วเริ่มงานได้”คุณเยจินตบมือสองครั้งแล้วก็เดินเข้าไปในออฟฟิศตามเดิม
โอ้เย้! ในที่สุดก็ได้งาน แถมได้เงินด้วย ฉันคนนี้พร้อมทุกเมื่อค่ะ ใช้มาได้เลย ฮ่าๆๆ
“หวัดดี(ชื่อคุณ) ฉันชื่อจงฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักนะ”จงฮยอนหันมายิ้มให้คุณจนตาที่ตี่อยู่แล้วของเขายิ่งตี่เข้าไปอีก เขายื่นมือมาข้างหน้าเป็นการทักทาย
“ยินดีที่รู้จักนะจงฮยอน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”คุณส่งยิ้มให้เขาก่อนจะยื่นมือไปเชคแฮนด์กับเขาเป็นการทักทาย
“งั้นเธอไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะสอนว่าเธอต้องทำอะไรบ้าง”
“อื้ม”คุณพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปยังออฟฟิศพนักงานที่มีเพื่อนพนักงานคนอื่นต้อนรับอยู่อย่างเป็นมิตร ที่ทำงานใหม่ก็ไม่ได้ดูแย่เท่าไหร่นี่นา ออกจะน่าอยู่ด้วยซ้ำไป
20.40 น.
ฮู่วว! เหนื่อยไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย จงฮยอนและพนักงานคนอื่นสอนคุณให้รับออเดอร์สอนให้ทำอะไรตั้งเยอะแยะมากมาย ถึงจะเหนื่อยแต่คุณก็รู้สึกสนุกดี ได้รู้จักเพื่อนชาวเกาหลีเพิ่มขึ้นตั้งหลายคนแน่ะ
ว่าแต่……..ตอนนี้มันจะสามทุ่มแล้ว ไม่รู้ว่าพวกบัพกลับมาที่หอแล้วยัง แต่ถึงพวกเขากลับมาแล้วก็ไม่มีใครสนใจฉันหรอก เฮ้ออ!
คุณกระชับกระเป๋าให้แน่นขึ้นแล้วเดินต่อไปอย่างไม่คิดอะไร เดินอีกไม่นานก็น่าจะถึงหอแล้ว ทางก็แสนจะเปลี่ยว ทำไมถึงไม่เปิดไฟกันบ้างเลยนะ อย่างกับเดินในป่าช้า ฉันจะโดนฉุดมั้ยวะเนี่ย
กรี๊ดดด! ใครอ่ะ ใครมายืนอยู่ตรงหน้าฉันอ่ะ ใจเย็นๆร่มๆไว้นะ ไม่มีอะไรหรอก
คุณรู้สึกเหมือนมีใครบางคนมายืนดักหน้าของคุณเอาไว้ หรือว่าคุณจะยืนขวางทางเดินเขาอยู่นะเขาจึงไม่ยอมเดิน อาจจะเป็นพวกอันธพาลก็ได้
คุณลองขยับไปทางขวาเพื่อหลีกทางให้เขาเดิน แต่แทนที่ว่าเขาจะเดินต่อไปเหมือนที่คุณคิด เขากลับขยับมาทางเดียวกับคุณ และพอคุณขยับไปทางซ้าย เขาก็ขยับไปทางซ้ายตามคุณ
ชิบแล้วววว อย่าทำอะไรฉันนะเว้ย เงินเดือนเดือนแรกด้วย ฉันจะไม่ยอมให้ใครเอาไปได้หรอก ฮึ่ย! ตายเป็นตาย
คุณงยหน้าขึ้นไปมองชายตรงหน้าอย่าหวาดๆ ให้ตายสิ แต่งตัวอย่างกับโจร เขาใส่ฮู้ดคลุมหัวทับหมวกใหมพรหมที่เขาสวมอยู่ แถมยังมีผ้าปิดปากสีดำกับแว่นดำอีก เหอะๆๆ เข้ามาเซ่ ฉันสู้ตายนะว้อยย
“หลบไปค่ะ ฉันไม่มีอะไรให้คุณทั้งนั้นแหละ ฉันต้องรีบกลับไปดูแลแม่ที่นอนป่วยอยู่ที่บ้านค่ะ”น่านน โกหกมันซะเลย อย่างเนียนอ่ะ เฮ้ยย! ทำไมยังไม่หลบ หลบดิวะ หรือจะไฝว้!
คนตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะหลบให้คุณเลยซักนิดเดียว เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน อ่าว ไม่ไฝว้ก็ได้นะ แหะๆๆ
“เล่นละครเก่งดีนะ”
เฮ้ยยย! รู้สึกว่าเสียงมันคุ้นๆนะ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนแว่วๆ
ชายตรงหน้ามองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนเดินไปเดินมาแถวนั้น เมื่อเขาเห็นว่าทางสะดวก เขาก็เอามือปลดฮู้ดลงจากหัว แล้วใช้มือขวาถอดแว่นและดึงผ้าปิดปากออกมาใส่ที่ข้อมือ
“จุนฮงโอปป้า!!!”เฮ้ยยยยย! มาได้ไงเนี่ย เขาควรจะอยู่ที่หอ แล้วทำไมมาเดินอยู่แถวนี้ ฮั่นแน่~ เป็นห่วงฉันใช่ม้าาาาา
“ทำไมถึงกลับช้านัก แล้วทำไมก่อนล่วงหน้าว่าจะกลับดึกแบบนี้หา “เซโล่ยืนบ่นคุณไม่หยุด เขาดูหงุดหงิดมากถึงมากที่สุด แต่ก็ยังหล่ออยู่ดีนั่นแหละ จะมีสักกี่คนกันนะที่ได้เห็นเซโล่โอปป้าโกรธแบบนี้ทุกคนคงเคยเห็นแต่มาดเท่ๆของเขาบนเวทีใช่มั้ยล่ะ แอบปลื้มนิดๆแฮะ
“ยิ้มอะไร นี่ฉันดุเธออยู่นะ
“ค่ะๆๆ ฉันรู้แล้วว่าโอปป้าดุฉันอยู่”คุณตอบยิ้มๆ
“ทำไมไม่บอกฉันก่อนว่าจะกลับดึกแบบนี้”
“ก็จะให้ฉันบอกได้ไงล่ะ ฉันก็ไม่รู้นี่นาว่าจะเลิกงานดึกขนาดนี้ แล้วอีกอย่างฉันยังไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของโอปป้าด้วย ยังไม่ได้เปลี่ยนเครือข่ายมือถือเป็นแบบCDMAด้วยซ้ำไป” คุณพูดไปตามความจริง ก็คนมันไม่มีเงินนี่นา
เซโล่มองคุณด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนจะเอาฮู้ดมาคลุมหัวเหมือนเดิม แต่คราวนี้เข้าใส่แค่ผ้าปิดปากแต่ไม่ใส่แว่นดำแล้ว มิน่าล่ะ ก็เขาเป็นคนดังนี่นา เลยต้องแต่งตัวมิดชิดแบบนี้เวลาออกมาข้างนอก เป็นเซเลบนี่ลำบากจริงอะไรจริง
“งั้นตามมานี่” เซโล่พูดพลางจับข้อมือคุณแล้วลากคุณให้เดินตามเขามา
อึ้ยย! เขาจับมือฉันครั้งที่สองแล้วอ่ะ เขินเป็นบ้าเลย คริๆ
“โอปป้าจะพาฉันไปไหนคะ”คุณถามคนตัวสูงตรงหน้าที่ตอนนี้ไม่ได้หันมามองคุณเลยซักนิด
“พาเธอไปซื้อมือถือน่ะสิ “
ซื้อมือถือใหม่เหรอ ก็ดีเหมือนกันนะ
ที่ร้านขายมือถือ
“สวัสดีค่ะ ร้านเรายินดีรับใช้ค่ะ”พนักงานสาวที่เคาท์เตอร์พูดเสียงเป็นมิตร คุณยิ้มให้เธอทีหนึ่งแล้วหันมามองใบหน้าด้านข้างของคนตัวสูง ใครกันนะที่ว่าเขาดั้งแหมบ จริงๆก็ไม่ได้แหมบเท่าไหร่นี่นา
“ผมมาซื้อมือถือครับ”
“ต้องการเครื่องไหนเลือกเลยค่ะ”
คุณชะโงกหน้าไปมองมือถือมากมายที่วางอยู่ในตู้กระจก หันไปทางไหนก็มีแต่ซัมซุงๆๆๆๆๆๆ เต็มไปหมด
“เอาอันนี้ครับ”เซโล่ชี้จิ้มๆไปบนมือถืออันหนึ่งที่วางอยู่ในตู้กระจก กาแลกซี่s3เหรอ ? มันแพงไปนะ ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก
“โอปป้าคะ มันแพงเกินไป เงินเดือนส่วนแรกของฉันไม่พอหรอก”
“ฉันจะจ่ายให้เธอก่อน มีเงินเมื่อไหร่ก็เอามาคืนฉันแล้วกัน”
“แต่ว่า….”
“ช่วยจัดการให้ด้วยนะครับ ขอแบบสามารถใช้ได้ทันที” เซโล่ไม่เปล่อยให้คุณพูดอะไรอีก เขากลับหันไปมองพนักงานสาวที่ยืนยิ้มอยู่ เธอพยักหน้ารับแล้วหยิบมือถือในตู้เดินเข้าไปหลังร้านทันที
คุณได้แต่ยืนนิ่งเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ทำไมเขาต้องใจดีขนาดนี้ด้วย ไม่รู้หรือไงว่าทำให้ฉันเกรงใจ
“อะไร? ทำไมต้องมองหน้าฉันแบบนั้นด้วย” เซโล่ยืนเอามือล้วงกระเป๋าแล้วหันมาทางคุณ
“โอปป้าไม่เห็นต้องซื้อให้ก่อนเลย ฉันไม่มีโทรศัพท์ก็ไม่เห็นเป็นไร” คุณบ่นงุบงิบพลางเอานิ้วชี้มาจิ้มๆกันแบบในการ์ตูน
“ทำเป็นคิดมากไปได้ เงินแค่นี้ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งฉันร่วงหรอก”เซโล่พูดด้วยเสียงสบายๆแบบประมาณว่าเงินค่ามือถือแค่นี้ดูจิ๊บจ๊อยมากสำหรับเขา จ้าๆๆ พ่อคนรวย ฉันไม่ได้ใส่เสื้อตัวละเจ็ดพันแปดพันเหมือนพี่นี่นา มูลค่าเสื้อผ้าทุกอย่างบนตัวเขารวมกันคงจะหลายหมื่นแน่เลย
“ได้แล้วค่ะ ทั้งหมดราคา 405,900 วอนค่ะ”พนักงานพูดพร้อมกับยื่นถุงสีขาวลื่นมือโลโก้ซัมซุงมาให้คุณ
“รับบัตรกดเงินสดมั้ย ครับ”เซโล่ถามพลางเปิดกระเป่าสตังค์ของตัวเองแล้วหยิบบัตรสีทองขึ้นมาหนึ่งใบ
“รับค่ะ ซักครู่นะคะ”พนักงานรับบัตรมาจากมือของเขาแล้วรูดลงบนเครื่องอะไรซักอย่างก่อนจะหยิบบิลแล้วส่งคืนให้เซโล่
คุณแอบเหล่มองกระเป่าตังค์ของเขาเงียบๆ ไม่ได้สอดรู้สอดเห็นนะ ก็คนมันอยากรู้อ่ะ ในนั้นมีแต่บัตรบ้าบออะไรไม่รู้มากมาย มีทั้งบัตรATM บัตรกดเงินสดจากธนาคาร และบัตรสมาชิกร้านมากมายทั้งร้านราเม็ง ห้างสรรพสินค้า ร้านขายรองเท้าและเสื้อผ้ามากมาย เออ ยอมรับแล้วว่ารวยจริง
คุณและเซโล่เดินออกมาจากร้านขายมือถือพร้อมกัน เขาเดินนำหน้าคุณไปก่อนด้วยท่าทางชิวๆอย่างเคย เพิ่งสังเกตแฮะว่าวันนี้เขาใส่รองเท้าผ้าใบกับถุงเท้าสีเหลืองสะท้อนแสงชนิดที่ว่าเห็นได้ในระยะร้อยลี้
ถ้าเป็นคนอื่นใส่คุณคงจะด่าเขาว่าบ้าไปแล้ว แต่เมื่อคนที่ใส่เป็นชเว จุนฮง มันกลับดูดีมากจนบอกไม่ถูกเลย
จ๊อกกกกกกก~
เฮ้ยยยย ไอท้องเวร แกจะมาร้องอะไรตอนนี้วะเนี่ย โอยย ยอมรับว่าหิวจริงๆนั่นแหละ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องคุณ
ซักอย่างตั้งแต่ตอนเย็นจนตอนนี้ก็ดึกแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมท้องถึงร้อง
เสียงท้องร้องของคุณทำให้คนตัวสูงตรงหน้าหยุดเดินแล้วหันมามองคุณ อะ….อะไรเหรอ ท้องเค้าไม่ได้ร้องน้า
“ยังไม่ได้กินข้าวใช่มั้ย”เขาถามคุณเสียงเรียบ
ในเมื่อเสียงท้องมันดังขนาดนี้โกหกไปก็ไม่ช่วยอะไรอ่ะ คุณเลยได้แต่พยักหน้าหงึกๆ
“เฮ้ออ~ เธอนี่จริงๆเลยนะ”เซโล่เดินกลับมาจับข้อมือคุณแล้วลากไปอีกตามเคย เฮ้ออ ชักจะชินแล้ว แต่ก็ยังเขินแฮะ กิกิกิ
คุณมองมือของเซโล่ที่ยังจับอยู่บนข้อมือของคุณไม่วางตา สัมผัสอุ่นๆที่ข้อมือทำให้หน้าของคุณแดงระเรื่อโดยที่ไม่รู้ตัว จะเป็นยังไงนะถ้าเด็กสาวที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้รู้ว่าเขาคือชเว จุนฮง จะเป็นไงนะถ้าพวกเบบี้แถวนี้รู้ว่าคนที่จับมือคุณอยู่คือมักเน่สุดหล่อแห่งบีเอพี ไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนที่พวกเขาคิด
“โอปป้าๆ”คุณเรียกให้คนตัวสูงหยุดเดินพลางลากเขามาที่ร้านขายต๊อกปกกีเล็กๆที่ตอนนี้มีผู้คนยืนรอต่อคิวอยู่เยอะพอสมควร
“อะไร”เซโล่เดินกลับมาตามแรงดึงของคุณ
“ฉันอยากกินอ่ะโอปป้า”คุณชี้ๆไปที่หม้อต๊อกปกกีที่มีควันลอยโขมงอยู่ด้วยสีหน้าตื่นเต้น มาเกาหลีทั้งทีก็ต้องกินนี่แหละ
“ไม่กินข้าวเหรอ”
“ไม่เอาอ่ะ กินอะไรเยอะๆตอนนี้เดี๋ยวก็อ้วนเป็นหมูหรอก”คุณยิ้มให้เขาพลางเอามือตบๆที่ท้องของตัวเอง เซโล่แอบหลุดยิ้มออกมานิดๆซึ่งนั้นทำให้คุณยิ้มไปด้วย
หลังจากที่ต่อแถวซื้ออยู่นาน คุณก็ได้ต๊อกปกกีมากินสมใจ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่จ่ายตังค์น่ะคือจุนฮงโอปป้า ไม่ใช่คุณ
คุณเดินมานั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวยาวในสวนสาธารณะที่เงียบเหงา ถึงมันจะมีแค่คุณกับเซโล่เท่านั้นที่นั่งอยู่ แต่คุณกลับ
ไม่รู้สึกเหงาเลยซักนิด รู้สึกดีจะตายที่ได้มานั่งกินต๊อกปกกีกับหนุ่มหล่อน่ารักแบบเซโล่ เหมือนเดทเลยอ่ะ คริๆๆๆ
“กินมั้ย” คุณถามพลางยื่นส้อมที่มีต็อกปกกีควันกรุ่นเสียบอยู่ไปทางเซโล่ เขามองมันนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือมาจะจับส้อม แต่คุณก็ชักออกมาก่อน
“อะไร ไหนบอกว่าให้ฉันกินด้วยไง”เซโล่หันมาโวยวายใส่คุณเหมือนเด็กไม่ได้ของเล่น
“ขอป้อน”คุณพูดเขินๆ เหอะนะๆๆ บรรยากาศสถานที่ก็ให้แล้ว ขอทำอะไรที่มันโรแมนติกๆหน่อยเหอะนะ จะได้ครบเซ็ต อิอิ
“อะไรของเธอ ฉันกินเองได้”
“ขอป้อนหน่อยนะโอปป้า ตรงนี้ก็ไม่มีใครเห็นซักหน่อย ไม่ต้องกลัวจะเป็นข่าวหรอก ยอมเบบี้คนนี้หน่อยไม่ได้เหรอ?”คุณทำหน้าตาอ้อนวอนสุดๆ ในมือก็ยังถือส้อมอยู่
“อืมๆ ก็ได้”
คุณค่อยๆยืนมือข้างที่ว่างอยู่ไปดึงผ้าปิดปากของเขาลงช้าๆ เผยให้เห็นริมฝีปากสีชมพูของเขา เขินยังไงไม่รู้แฮะ เหมือนทำกับแฟนเลย แล้วคุณก็ยื่นต็อกปกกีไปใกล้ๆกับเขา
“อ้าปากสิ”
“อาาาาาา~” เซโล่ทำตามคำสั่งของคุณอย่างว่าง่าย น่ารักเป็นบ้าเลยคนอะไรไม่รู้
คุณป้อนต๊อกปกกีเข้าไปในปากเขา เขาก็เคี้ยวเหมือนเด็กๆ เขินจังเลย หน้าฉันจะแดงมั้ยเนี่ย
คุณมองเขากินอยู่นาน ไม่รู้ทำไมแค่มองเขาคุณก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทุกที
#$%^&*+%*&#^!+&$%#^*@^*^@&!$&*~~~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากไหนไม่รู้ ชิ! ขัดจังหวะมากเลย คนกำลังหวาน
เสียงมือถือของเซโล่โอปป้านี่เอง เขาเอามันขึ้นมาดูแล้วก็กดรับสาย
“ครับฮยอง อ๋อ เจอแล้วล่ะครับ ตอนนี้กินข้าวอยู่ เดี๋ยวคงกลับ ค้าบบบบ สวัสดีครับ”
เขาเก็บมือถือใส่กระเป๋าตามเดิมก่อนจะหันมามองหน้าคุณ
“รีบกินเหอะ พวกฮยองโทรมาตามแล้ว”
“ค่ะ”
โฮ่ยยยยยยยย! ทำไมโทรตามเร็วนักฟระ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม(?) แต่นี่มันก็สี่ทุ่มแล้วนี่นา รีบๆกินดีกว่า จะได้รีบไปนอน เนอะโอปป้าเนอะ ฮ่าๆๆๆ
................................................................................................................................................................
To Be Continue
ความคิดเห็น