ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: LoST MyTHoLoGaPHY ::

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 4:: วันประกาศผลและการสอบสัมภาษณ์ (??)

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 52


    บทที่ 4

    วันประกาศผลและการสอบสัมภาษณ์ (??)

     

     


                    อากาศยามเช้าที่แสนสบาย ผู้คนออกมาซื้อของกันอย่างไม่รีบเร่ง จะมีเพียงใครบางคนที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง เด็กชายผมเงินกำลังกึ่งลากกึ่งจูงใครอีกคนที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทปกปิดทั้งตัว


                    เฟ! จะรีบไปไหน บ่นขณะโดนเฟริสฉุดวิ่งไปด้วยกัน 


                    ผลสอบไง เดี๋ยวคนเยอะ ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ก็ห้ามอะไรไม่ได้

     


                    หน้าบอร์ดประกาศผลบริเวณลานน้ำพุโรงเรียนซีดิส ผู้คนมากมายต่างรุมดูกันอย่างแออัดทั้งๆ ที่ตอนนี้เวลายังไม่ถึงเจ็ดโมงเช้า ทั่วบริเวณมีทั้งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจและเสียงร่ำไห้ด้วยความเสียใจ


                    เฟริสรีบเดินแทรกเข้าไปในฝูงชนทันที ไล่ดูชื่อของตนตามบอร์ดซึ่งที่ด้านท้ายเขียนไว้ว่า ผ่าน เฟริสยิ้มอย่างดีใจรีบดูของเลอาต่อทันทีและได้ผลแบบเดียวกัน        


    เลอา....พวกเราสอบผ่านแล้ว บอกแกเลอาที่ยืนรออยู่ด้านนอก    


    อืม ตอบเรียบเฉย


                    ไม่ดีใจเหรอ?


                    ก็ยังเหลือสอบสัมภาษณ์อีกนี่ เรายังไม่ได้เป็นนักเรียนของที่นี่สักหน่อย


                    ก็จริงนะ 




     
                    ตุบ~!!! ปึง~!!!


                    ผู้คนกระจายออกเป็นวงกว้าง ทั้งเฟริสและเลอาหันไปมองทิศทางที่ได้ยินเสียง เด็กชายตัวเล็กผิวขาวผมหยักศกสีโอรสยาวระต้นคอ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนล้มกระแทกเข้ากับบอร์ดประกาศ โดยมีเด็กร่างใหญ่ท่าทางหยิ่งยโสปรายตามองอย่างไม่ใยดี ทั้งๆ ที่เป็นคนชนเด็กคนนั้นจนล้มลงไป


                    โทษที พอดีมองไม่เห็นพวกมดปลวกถากถาง


                    คิๆๆ เด็กชายหญิงที่ยืนขนาบข้างเด็กชายที่ท่าทางยโสพากันหัวเราะอย่างสะใจ เดินไปดูบอร์ดอย่างไม่ใส่ใจคนที่ล้มไป 


                    เป็นอะไรมากมั้ย? เด็กชายผมสั้นสีบลอนด์ทอง ตาสีเขียวมรกต มีปอยยาวด้านซ้ายตรงเข้าไปช่วยพยุงเด็กที่ล้มขึ้นถาม เด็กชายอีกคนส่ายหน้าพึมพำขอบคุณ พากันเดินตรงไปยังห้องพยาบาล


     

                    อีกด้านหนึ่งเฟริสกำลังรั้งตัวเลอาที่กำลังหัวเสียตรงเข้าไปหาเรื่องกลุ่มคนพวกนั้น 


                    เลอาอย่าไปยุ่งกับคนพวกนั้น พยายามดึงรั้งไว้อย่างสุดแรง


                    ทำไมล่ะ... พูดอย่างอารมณ์เสีย


    ไอ้คนที่ผลักเด็กคนนั้นนะ มันเป็นลูกของขุนนางใหญ่ของอาณาจักรวิสดอม เดี๋ยวนายจะเดือดร้อนอธิบายเหตุผลให้ฟัง 


                    แล้วนายจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้เหรอ? นายไม่คิดจะจัดการอะไรบ้างเลยหรือไง? พูดเคืองๆ


                    เปล่าหรอก? เสียงเรียบพูดออกมา


    เด็กชายในเสื้อคลุมสีดำหันมามองเฟริสงงๆ รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเฟริส เลอาได้แต่ยืนมองอึ้งๆ ทั้งที่อีกฝ่ายยิ้มอยู่แต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกของความเป็นมิตรด้วยเลย


                    เพราะฉันจะจัดการแทนนายต่างหากเลอา 




     
                    พริบตาร่างของเด็กคนนั้นก็แข็งทื่อเย็นเฉียบอย่างกับน้ำแข็ง เด็กชายหญิงที่อยู่รอบข้างตกใจ รีบพาตัวส่งห้องพยาบาล ผู้คนที่อยู่รอบๆ มองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างงงเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คงจะมีแต่เลอาที่ยืนมองตัวก่อเหตุที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ 


     

                    จุดเดือดต่ำกว่าที่คิดนะเนี่ยเฟ.... 



     
     

                    เราไปหอประชุมรายงานตัวกันดีกว่า พาเลอาไปอย่างอารมณ์ดี


                    หน้าหอประชุมรูปโดมขนาดใหญ่ที่เคยเป็นสถานที่สอบของทั้งสอง คนที่สอบผ่านเริ่มทยอยรายงานตัวเต็มหน้าหอประชุม โดยจะมีโต๊ะยาวที่มีรุ่นพี่นั่งเรียงกันรอรับการรายงานตัวอยู่ แต่มีอยู่ที่หนึ่งไร้ซึ่งผู้คนที่ตรงนั้นมีชายวัยกลางคนร่างสูง ผมยาวสีทองมัดรวบไว้อย่างเรียบร้อย ดวงตาสีฟ้า เผยให้เห็นหูแหลมๆ ชายคนนั้นสวมชุดสีเข้มนั่งหน้าบึ้งแผ่รังสีไม่เป็นมิตรกระจายไปทั่วจนไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้


                    เฟริสและเลอาเห็นว่าวางตรงเข้าไปรายงานตัวทันที ชายคนนั้นปรายตามองแต่ทั้งสองไม่สนใจลงชื่อไป ขณะนั้นมีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาประจำที่ที่ทั้งสองกำลังลงทะเบียนรายงานตัว


                    ขอโทษครับอาจารย์ทารานิส ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนระต้นคอ ดวงตาสีเขียวสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว สวมทับด้วยเสื้อสูทสีขาวชายเสื้อ ชายปกเสื้อและไนเทคเป็นสีแดงพูด


                    ทีหลังอย่าให้ช้าอีกแล้วกัน อาจารย์ทารานิสตักเตือนด้วยเสียงเรียบเฉียบ เดินฉับๆ ออกไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ


                    หวัดดีฮะพี่ คนเมื่อกี้เป็นอาจารย์เหรอฮะ? ถาม


                    อืมใช่ เป็นอาจารย์สอนอักขระโบราณของสายพี่เอง แต่ทางที่ดีอย่าไปทำให้อาจารย์ไม่พอใจเด็ดขาด ไม่งั้นได้เจอดีแน่ๆ มองดูเด็กตรงหน้าที่สวมเสื้อคลุมสีดำปิดหน้าปิดตาหมดอย่างสนใจ ไม่ทันที่รุ่นพี่คนนั้นจะได้ถาม เฟริสดึงเลอาเข้าหอประชุมทันที ไม่เช่นนั้นคงจะคุยกันยาว

     


    ................................................................................................

     


                    ภายในหอประชุมเต็มไปด้วยผู้เข้าสอบสัมภาษณ์ กลางหอประชุมมีเวทีตั้งอยู่ ด้านหน้าของเวทีมีเก้าอี้วางเป็นแถวเรียงกัน เลอากับเฟริสเลือกนั่งแถวกลางๆ เลอาหันมาชี้ชวนให้เฟริสดู


                    เฟนั่นเด็กที่โดยแกล้งเมื่อกี้นี่ ชี้ไปยังเด็กชายผมสีโอรสที่นั่งอยู่แถวหน้าๆ


                    แล้วไง 


                    เลอาหน้าย่นกับความไม่มีมนุษยสัมพันธ์ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
    เฟ....นี่นายไม่คิดจะผูกมิตรกับใครบ้างเลยเหรอไง?


    เฟริสหรี่ตามองพร้อมกระซิบที่ข้างหูเลอาเบาๆ ฉันมีเลอาก็พอแล้ว 




                     เลอาหน้าร้อนผ่าว มองเฟริสที่นั่งหัวเราะเบาๆ อย่างเคืองๆ
    โธ่! ตอนแรกเราก็นึกว่าจะหงิมๆ เงียบๆ ที่ไหนได้นิสัยไม่ดีเหมือนกันนะนายเนี่ย


                    เฟริสยิ้มบางๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป มองดูเลอาที่ฟึดฟัดอย่างหัวเสียนิดๆ ที่โดนแกล้ง แต่ไม่นานเลอาก็พิงซบไหล่ของเฟริสก่อนที่จะหลับไป

     


                    ฉันก็เป็นแบบนี้กับนายแค่คนเดียว นายจะรู้มั้ยเลอา? คนอื่นแค่ได้ยินว่าฉันเป็นเจ้าชายแห่งฟรอเซนเบิร์กก็ไม่กล้าแม้กระทั่งสบตากับฉันแล้ว มีนายนี่แหล่ะที่เป็นคนแรกที่ยอมรับและไม่กลัวฉันจากใจจริง...

     


                    เวลาผ่านไปสักพัก ภายในหอประชุมไม่เหลือที่ว่างแต่อย่างไร อาจารย์ทารานิสที่มีผมสีทองพร้อมใบหน้าที่ไม่เป็นมิตรเดินขึ้นมาบนเวที 


    สวัสดีผู้เข้าสอบทุกคน ปีนี้ทุกคนก็ยังมาเร็วกว่าเวลาเหมือนเดิม พูดเสียงเข้มน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ เพราะฉะนั้นทางโรงเรียนของเราก็จะเริ่มทำการสอบสัมภาษณ์กันตั้งแต่บัดนี้ 


    เสียงจ่อกแจ่กจอแจดังไปทั่วหอประชุม เมื่อมีประกาศว่าจะเริ่มทำการสอบสัมภาษณ์ แต่เพียงทารานิสปรายตามองอย่างไม่พอใจทั้งหอประชุมเงียบลงในทันที


                    แต่ก่อนอื่นฉันต้องขอบอกกฎก่อน ผู้ที่ถูกเรียกชื่อให้ขึ้นมาบนเวทีแห่งนี้ และให้ยืนบนหมายเลขที่ขึ้นมาตามลำดับการเรียกชื่อ จากนั้นพวกเธอจะได้บัตรที่มีหมายของห้องสอบสัมภาษณ์ อาจารย์หยุดพูดปรายสายตามองไปทั่วหอประชุมทำให้บางคนถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความเกรงกลัว


                    โนเอล ไลธ์, มิวเรี่ยน เอเจนด์, เอเรีย สไตร์ค, ไรอัน บาราทิฟ และเชนนอฟ วาเลน ครอสเบิร์ก 



    เด็กชายหญิงทั้งห้าเดินขึ้นไปบนเวที คนที่ถูกเรียกเป็นคนแรกจะยืนบนพื้นที่ปรากฏหมายเลขหนึ่งไล่ไปเรื่อยๆ เมื่อทั้งหมดยืนเข้าประจำที่จนครบเขตอาคมก็ถูกกางขึ้นทันทีจนไม่สามารถมองเห็นได้ว่าภายในเขตอาคมเกิดอะไรขึ้น เมื่อเขตอาคมสลายไปทุกคนเดินออกมาพร้อมใบบอกห้องสอบสัมภาษณ์


     

    เลอาตื่นได้แล้ว ถึงตาพวกเราแล้ว เฟริสเรียกคนข้างๆ ที่หลับไปตั้งแต่เข้าหอประชุม เลอาส่งเสียงตอบกลับอย่างงัวเงีย แต่ไม่มีท่าทางว่าจะลุกสักที


    เฟริส คานาริค, เลอา โซเบลขึ้นบนเวทีได้แล้ว อาจารย์ทารานิสพูดอย่างอารมณ์เสียที่ต้องเรียกเป็นครั้งที่สอง


    สายตาของคนทั้งหอประชุมหันไปสนใจเฟริสที่กึ่งลากกึ่งจูงคนอีกคนที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทปิดทั้งตัวขึ้นมาบนเวทีอย่างสนใจ 


    เลอาเดินเซไปเซมาอย่างคนที่ยังตื่นไม่เต็มตาดีไปประจำตำแหน่งของตนซึ่งอยู่ที่หมายเลขสี่ ส่วนเฟริสเข้าประจำตำแหน่งของตนซึ่งอยู่หมายเลขหนึ่ง เขตอาคมถูกกางล้อมรอบ ทันใดนั้นตัวอะไรบางอย่างที่ปรากฏออกมาจากช่องโหว่สีดำที่โผล่ขึ้นมาบินพุ่งเข้าใส่เลอาที่ยังไม่ลืมตาตื่นหมายจะทำร้าย แต่พอสิ่งนั้นเข้ามาใกล้เลอาพริบตาเดียวเจ้าตัวนั้นก็ถูกเลอาตบแผละติดกับพื้น


    ฮืม....เกิดอะไรขึ้นเหรอ? หันมองไปดูรอบเขตอาคมอย่างเบลอๆ 


    กี๊!!!~” ร้องเมื่อถูกเหยียบเข้าให้ เลอาก้มลงไปมองดูเจ้าตัวประหลาดซึ่งเป็นตัวกลมๆ สีดำ มีปีกคล้ายค้างคาวตรงปลายหางเป็นรูปสามง่ามที่ถูกเหยียบเต็มเท้า


    ตัวอะไรหว่า? หน้าตาแปลกๆ จับขึ้นมาดึงไปดึงมา สำรวจไปสำรวจมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไม่ทันไรสิ่งที่อยู่ในมือเลอาสลายตัวกลับกลายเป็นกระดาษที่เขียนหมายเลขห้องสอบสัมภาษณ์ไว้ หยิบกระดาษขึ้นมาดูก่อนเดินลงจากเวทีทันทีเขตอาคมสลายไป

     


    ...........................................................................................

     


                    ห้องนี่สินะ...


                    มองดูหมายเลขห้องที่ตรงกับในแผ่นกระดาษที่ตนถืออยู่ เลอาเปิดประตูเข้าไป เมื่อเข้าไปด้านในประตูบานที่เปิดเข้ามาหายไปทันที ภายในห้องที่เคยสว่างกลับมืดสนิทจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า เลอาเดินไปตามทางทีดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุดเรื่อยๆ อย่างไม่เกรงกลัว ภายในใจกลับรู้สึกสงบอย่างที่สุด


                    อยู่ดีๆ จากมืดจนมองไม่เห็นทางกลายเป็นสว่างโร่ภายในพริบตา ด้านหน้าของเลอาปรากฏเป็นห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่มีเพียงโต๊ะไม้และเก้าอี้โซฟาสีแดงที่ชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 กว่าๆ ผมสีดำดูยุ่งเหยิงตลอดนั่งอยู่ด้วยท่าทีสบายๆ แต่ดวงตาสีน้ำเงินพร้อมแว่นสีดำทรงสี่เหลี่ยมจ้องมองเลอาอย่างประเมินค่าพร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตร   


             

                    เลอารู้สึกไม่ค่อยพอใจขึ้นมาทันทีที่เห็นดวงตาที่จับจ้องมา รังสีมึนตึงเริ่มแผ่ออกไป จนชายคนนั้นรับรู้ได้ถอนหายใจเบาๆ พูดขึ้นมาว่า


                    ฉันเป็นผู้คุมสอบสัมภาษณ์ของเธอ....เลอา โซเบล เอาล่ะ! มานั่งตรงนี่ เก้าอี้อีกตัวปรากฏขึ้นเบื้องหน้าชายคนนั้น เลอานั่งลงมองคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไร


                    ฉันมีหน้าที่ทำการสอบสัมภาษณ์เธอ ถึงแม้เธออาจจะไม่ค่อยชอบฉันเท่าไร แต่ฉันก็อยากให้เธอตอบคำถามให้ดีล่ะพูดเตือน


                    ผมไม่ได้ไม่ชอบคุณหรอก? แค่ไม่ชอบสายตาที่คุณมองเท่านั้นเอง พูดเสียงอ่อยๆ 


                    งั้นเหรอ...ทำไมเธอถึงมาเรียนที่นี่เลอา 




     
                    พี่ผมอยากให้มาเรียน ตอบห้วนๆ อย่างไม่คิดอะไร


                    แค่นี้.... เลอาพยักหน้างึกงัก ผู้คุมสอบหัวเราะเสียงดัง


                    ฮะๆๆๆ ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินคนตอบแบบนี้อีก เอาหล่ะๆ ถ้าเธอได้เข้าเรียนที่นี่ และขึ้นปี 2 เธอจะเลือกเรียนสายอะไร 



     
                    สายนักสู้ฮะ ตอบทันทีด้วยเสียงหนักแน่น


    ทำไมล่ะ?


     เพราะผม.......ต้องการสิ่งที่เรียกว่า มิตรแท้ ฮะ ผู้คุมสอบถึงกับผะงักเมื่อได้ฟังคำตอบที่ได้รับที่ตนนั้นเคยได้ฟังมาก่อนจากใครคนหนึ่ง


     

                    ท่ามกลางสวนดอกไม้นานาพันธุ์ ร่างของคนสองคนที่ต่างเพศและต่างวัยนั่งคุยกันอยู่ตรงมุมหนึ่งที่ห่างไกลสายตาจากคนที่ผ่านไปมา


                    พี่ทีฟา....ทำมั้ยพี่ถึงเรียนสายนักสู้ล่ะ?เด็กชายวัยประมาณ 14 ปีสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ทับด้วยเสื้อสูทสีเดียวกับเสื้อเชิ้ตตรงชายเสื้อ ชายปกเสื้อ และเนคไทเป็นสีแดงผมสีดำดูยุ่งเหยิง ดวงตาสีเงินจ้องมองรุ่นพี่สาวต่างสายที่มีผมสีทองยาวถักเปียไว้สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวและกระโปรงสีดำ แต่ปกเสื้อเป็นสีขาว ชายเสื้อ ชายแขนเสื้อ และเนคไทเป็นสีแดงเช่นเดียวกัน


                    ก็เพราะพี่ต้องการมิตรแท้ไงเธอคนนั้นหันมายิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเด็กชายคนนั้น

     


                    มิตรแท้? เธอก็สามารถหาได้จากทุกที่ไม่ใช่เหรอ?ถามอย่างไม่เข้าใจ


                    งั้นคุณก็คงไม่เข้าใจคำว่า มิตรแท้ ของผมหรอกฮะพูดเสียงเรียบ


                    นั่นสินะ เธอไปได้แล้วล่ะ 




                    เลอากล่าวลาออกจากห้องสอบตรงที่ประตูเปิดออก ชายคนนั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงที่เดิม ประกายตาที่เคยสดใสกับเจือไปด้วยความเศร้า


                    ท่านเวลส์...กลับกันเถอะครับ ชายหนุ่มผมและดวงตาสีน้ำตาลปรากฏเบื้องหน้าชายคนนั้นพูดพร้อมโค้งเคารพ เวลส์ลุกขึ้นหันไปมองยังทิศทางที่เด็กคนนั้นผ่านไป


                    ติดใจเด็กคนนั้นเหรอครับ?


                    อืม....เขาคล้ายกับคนที่ฉันเคยรู้จักเมื่อนานมาแล้ว เรากลับกันดีกว่า...ป่านนี้ที่ศูนย์วิจัยคงมีงานให้ทำเยอะแยะไปหมดแล้วล่ะ” 


                    ประตูอีกบานหนึ่งเปิดออก เวลส์และชายผมสีน้ำตาลเดินออกไปตามทางนั้น ขึ้นรถม้าที่จอดเตรียมไว้

     


                    มิตรแท้? แต่มิตรแท้ก็หาได้ทั่วไปไมใช่เหรอฮะ?เด็กชายผมสีดำที่ดูยุ่งเหยิงถามรุ่นพี่สาวต่างสายอย่างงกับคำตอบที่ได้รับ


    งั้นเธอก็คงไม่เข้าใจคำว่า มิตรแท้ ของพี่หรอกนะเวลส์

     


    ……………………………………………………………

     


                    หลังจากสอบสัมภาษณ์ เลอาเดินมาต่างทางมาเรื่อยๆ จนสุดทาง จนมาโผล่ยังที่แปลกๆ เลอามองดูสถานที่ที่ตนโผล่ออกมาอย่างแปลกใจ พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่โล่งวงกลม รอบๆ เป็นป่าที่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ค่อนข้างหนาแน่น 


                    เธอจ๊ะ...ทางนี้ๆ หญิงสาวผมสีน้ำตาลหยักศกสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกระโปรงสีดำชายเสื้อ ชายเสื้อ ชายแขนเสื้อและเนคไทเป็นสีแดงกำลังควักมือเรียก


                    หวัดดีจ๊ะ ฉันแองจี้นักเรียนสายนักปราชญ์ ในที่สุดเธอก็มาสักทีฉันรอตั้งนาน มองร่างเล็กๆ ในเสื้อคลุมสีดำที่ปิดหน้าปิดตาจนหมดอย่างสนใจ


                    แล้วคนอื่น?ถามเมื่อไม่เห็นมีใครอยู่บริเวณนี้นอกจากตัวเองและคนตรงหน้า


                    คนอื่นถูกส่งตัวไปตามจุดต่างๆ ที่ถูกจัดเป็นที่สอบ ชายหนุ่มผมสีดำสวมชุดของสายนักปราชญ์โผล่ออกมาจากป่าพูดขึ้น


                    เรย์นายหายไปไหนมาห๊า!!!” โวย ปล่อยให้ผู้หญิงบอบบางอย่างฉันอยู่คนเดียวได้ไง กระซิกๆตัดพ้อ พร้อมเอามือปิดหน้าตัวเอง


                    ไม่ต้องมาแกล้งบีบน้ำตาเลย ฉันไม่หลงกลเธอหรอกแองจี้พูดไม่แม้แต่จะปรายตามอง


                    ชิ หญิงสาวสะบัดหน้าหนีเด็กหนุ่มคนนั้น หันมาหาเลอาที่ยืนมองรุ่นพี่ทั้งสองอย่างงง


                    อะ! จำได้แล้วพวกพี่สองคนเป็นคนที่พูดประกาศตอนวันสอบข้อเขียนใช่มั้ยฮะ? นึกขึ้นได้ เมื่อได้ยินชื่อของทั้งสอง


                    ว้าว!! จำกันได้ด้วยน่ารักจริงๆ เลย ว่าแต่เธอชื่ออะไรจ๊ะ” 


                    เลอาฮะ เลอา โซเบล


                    ผู้ชายเหรอ? ตอนแรกนึกว่าเด็กผู้หญิงสักอีกตกใจเมื่อไม่เป็นอย่างที่คิด


                    แองจี้เข้าเรื่องได้แล้ว เรย์พูดตัดบทสนทนาระหว่างทั้งสองที่ดูท่าทางจะจบไม่ได้ง่ายๆ แองจี้ปรายตามองอย่างเคืองๆ หันกลับไปพูดกับเลอาเสียงหวานเหมือนเดิม


                    ยินดีด้วยเลอาที่เธอสอบสัมภาษณ์ผ่านพูดพร้อมรอยยิ้มแต่อีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีดีใจแม้แต่น้อย


                    แล้ว? เลอาถาม แองจี้หน้าบึ้งเมื่อมีคนจับจุดเธอได้


                    ...เนื่องด้วยจำนวนนักเรียนที่สอบสัมภาษณ์ผ่านทุกๆ ปีมีจำนวนเกินที่โรงเรียนจะรับได้ไหว ก็เลย.........


                    จัดสอบภาคปฏิบัติโดยไม่ให้ได้ทันตั้งตัวพูดเหมือนกับที่คิดไว้ตั้งแต่โผล่ออกมาบริเวณป่าแห่งนี้


                    ใช่จ๊ะ....แหมเลอานี่ฉลาดจริงๆ เธอต้องเดินผ่านป่าแห่งนี้ไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้จนถึงชายป่า ที่นั่นจะมีรุ่นพี่ที่รับลงทะเบียนตอนเช้ารอรับรายงานตัวอยู่จ๊ะ ให้ไปรายงานตัวที่คนๆ เดิมเลยนะ แต่หากไม่ไหวหรือไปต่อไม่ได้ก็ให้จุดพุสัญญาณได้เลย พูดยื่นพุสัญญาณให้เลอา


    แล้วถ้ามีคนสอบผ่านเกินอีกจะทำยังไงฮะ? ถามด้วยความสงสัย


    ถ้ายังมีสอบผ่านเกิดอีก ทางโรงเรียนก็จะรับไว้ทั้งหมด เรย์ตอบ


    อืมๆ เข้าใจล่ะ! งั้นผมไปก่อนนะฮะพี่ทั้งสอง เดินออกไปตามเส้นทาง ลับหลังไปเรย์ก็หันถามแองจี้


                    ยัยแองจี้ เธอทำไมไม่บอกเรื่องนั้นไปด้วยล่ะ 



     
                    แหม~ ถ้าพูดมากกว่านี้ก็ไม่หนุกดิ ตอบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์


                    ฮึ...เธอนะ..........น่าจะไปเรียนที่สายนักสู้มากกว่านะ” 


                    ฉันก็อยากอยู่หรอกยะ ถ้าไม่ติดที่สอบปฏิบัติไม่ผ่าน...ชิๆ จะชนะไอ้รุ่นพี่บ้านั่นได้อยู่แล้ว พูดอย่างเครียดแค้นเมื่อนึกถึงความหลังตอนสอบเลือกสาย ที่เธอกำลังสอบภาคปฏิบัติกับรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งในสายนักสู้ โดยมีกฎว่าจะสอบผ่านเหมือนทำให้คู่แข่งออกจากเวทีไป ทั้งๆ ที่เธอไล่ต้อนจนรุ่นพี่คนนั้นจนมุมได้แล้ว แต่กลับโดนกลโกงจนตัวเธอตกเวทีแทน นึกแล้วก็แค้น


                    เรย์ตบบ่าเพื่อนสาวปลอบใจ ที่นี่เราก็กลับกันได้แล้วล่ะ


                    นั่นสิ....ทางนี้แต่ละปีจะมีคนผ่านแค่คนเดียวนี่น้า


                    ก็นะ.........ก็มันเป็นทางสายที่อันตรายที่สุดไม่ใช่เหรอ? แถมคนที่ผ่านทางนี้ไปได้ด้วยดียังมีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์นี่ เรย์เหยียดยิ้มที่มุมปาก


                    นายเองก็แสบใช่เล่นนะ...เรย์ส่งสายตาอย่างเข้าใจความหมายกันสองคน


                    ก็เพื่อนใครล่ะ


     

                    ....หวังว่าเธอคงจะโชคดีนะ เลอา โซเบล....


    ........................................................................................................

    เอามาลงอีกตอน มีคำผิดตรงไหนช่วยบอกด้วยนะ 

    ใครหลงเข้ามาอ่านช่วยคอมเมนต์ด้วยจ๊ะ อยากรู้ว่ายังมีอะไรต้องแก้ไขอีก 

    ขอบคุณสำหรับคนคอมเมนต์ทุกคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×