คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1:: พบเพื่อนใหม่ (1)
บทที่ 1
พบเพื่อนใหม่
เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจดังไปทั่วทุกหย่อม ผู้คนมากหน้าหลายตาแต่งตัวหลากหลายรูปแบบเต็มสองข้างทางที่มีร้านรวงเปิดเรียกลูกค้ากันอย่างคึกคัก ร่างสูงของชายหนุ่มผมสีดำ ดวงตาสีเงินพร้อมกับร่างเล็กๆ ที่สวมเสื้อคลุมสีดำแขนยาวปกปิดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเดินไปทางถนนที่ปูด้วยอิฐสีขาวนวล
ร่างเล็กๆ นั้นหันซ้ายหันขวามองร้านรวงตลอดสองข้างทางด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยมีพี่ชายคอยจับมือร่างเล็กไว้ไม่ให้หลงกัน
“พี่โนอานั้นอะไรฮะ?” ชี้ไปที่แผงลอยที่มีผลไม้หน้าตาแปลกๆ เป็นผลกลมขนาดเล็กที่มีสีฟ้าใส
“นั่นเรียกว่า ‘มาคิวรี่’ รสชาติจะออกหวานอมเปรี้ยวนิดๆ เลอาลองกินมั้ย?” ถาม ร่างเล็กพยักงึกงัก
สองพี่น้องโนอาและเลอาใช้เวลาสี่วันในการเดินทางจากอิมมอร์ไนท์มาถึงเมืองคล็อกทาวน์ เมืองท่าสำคัญของราชอาณาจักรเอเธน เมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือคล็อกทาวน์ ท่าเรือเพียงแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ไปยังเขตการปกครองพิเศษซีดิสได้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนซีนิธ ดิสแทนส์ หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้นๆ ว่า “โรงเรียนซีดิส” โรงเรียนอันดับหนึ่งของโลกใบนี้
หลังจากโนอาซื้อมาคิวรี่ให้แล้ว พาน้องชายมานั่งพักที่จัตุรัสนาฬิกาที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งได้จัดเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ให้ผู้คนได้ใช้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
“เดี๋ยวพี่ไปทำธุระแปบ เลอาคอยอยู่ตรงนี้นะ”
“ฮะ” ขานรับอย่างไม่ใส่ใจ ตอนนี้สิ่งที่อยู่รอบๆ มันน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆ โนอาแอบถอนหายใจอย่างหน่ายๆ ขยี้หัวน้องชายเบาๆ ปล่อยน้องชายไว้ที่จัตุรัสนาฬิกาเพียงลำพัง
เลอาภายใต้เสื้อคลุมสีดำเริ่มเดินสำรวจรอบจัตุรัสที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก กลางจัตุรัสนาฬิกานั้นเป็นที่ตั้งของนาฬิกาวงกลมขนาดใหญ่สองวงที่วางทับซ้อนกันลอยขึ้นเหนือพื้น ทั้งด้านหน้าและหลังสามารถดูเวลาได้ ครึ่งบนของตัวนาฬิกาเป็นตัวเลขโรมันที่คอยบอกเวลา ครึ่งล่างของนาฬิกาแสดงวันที่ และข้างใต้นาฬิกาจัดเป็นสวนดอกไม้หลากหลายสีสัน รอบนอกเป็นสวนหย่อมที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ความร่มรื่น มีเก้าอีไม้ตั้งไว้หลายจุด
“อยากไปตลาดจัง” นั่งพิงที่เก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งในสวนแห่งนี้หลังจากสำรวจจนหมด หันไปดูตลาดที่อยู่รอบจัตุรัสด้วยท่าทางหงอยๆ
“แต่ที่นี่อากาศก็ดีเหมือนที่บ้านเลย” มองดูต้นไม้ใหญ่ที่อยู่โดยรอบ เพียงไม่นานร่างเล็กก็ปืนขึ้นไปนั่งอยู่บนกิ่งไม้แกว่งขาไปมาอ่างสบายใจ
“เดี๋ยวถ้าพี่กลับมาให้พาไปหน่อยดีกว่า”
เสียงเพลงแผ่วเบาจากเลอา ทำให้บรรดาเหล่านกน้อยใหญ่ตลอดสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ พากันมาเกาะบนต้นไม้ที่เลอานั่งอยู่ บางตัวก็ไต่ขึ้นไปอยู่ที่ไหลหรือแขนพร้อมส่งเสียงร้องประสานไปพร้อมกัน เด็กชายยิ้มร่าหยิบเอาผลไม้มาคิวรี่ออกมากินเองบ้าง ให้เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อย
โครม~!!!
เสียงดังที่เกิดขึ้นทำให้พวกบรรดาสัตว์ต่างๆ ตกใจหนีหายไปหมด เด็กชายหันไปดูยังทางต้นเสียงในทันที ซึ่งข้างล่างไม่ห่างจากที่เลอานั่งอยู่มีกลุ่มนักเลงเจ้าถิ่นกำลังยืนล้อมเด็กชายผมสีเงินที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างไม่สนใจ
“เฮ้ยไอ้เด็กนี่ป่าววะ?” ชายรูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเป็นมัดๆ ผิวสีแทนพูด
“ครับลูกพี่ ไอ้เด็กคนนี้ล่ะ” ชายรูปร่างผอมบางหนึ่งในลูกน้องพูดพร้อมชี้ไปข้างหน้าที่เด็กคนนั้นนั่งอยู่
ตุบ~!!!
เสียงรองเท้าบูทกระแทกเข้ากับเก้าอี้ไม้ที่เด็กชายผมสีเงินนั่งอยู่ เด็กคนนั้นเพียงปรายตาขึ้นมามอง ใบหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ หันกลับไปอ่านหนังสือเหมือนเดิมไม่ได้สนใจ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่พอเห็นแบบนั้นอารมณ์เดือดพุ่งสูงกระชากเสื้อของอีกฝ่ายขึ้นมา
“เฮ้ยแก!! แน่นักหรือไงวะ ถึงกล้ามาลงมือกับลูกน้องของฉัน” ตะคอกใส่หน้า
“ปล่อย” พูดเสียงเย็นๆ
“เด็กยังแกจะทำอะไรฉันได้” พูดเหยียดๆ
เด็กชายผมสีเงินปัดมือที่กระชากเสื้อของตนออกพร้อมถีบเข้าที่ท้องของอีกฝ่ายจนกระเด็นกลิ้งไปกับพื้น ชายคนนั้นกุมท้องพร้อมร้องอย่างเจ็บปวด
“แกกล้าถีบลูกพี่เหรอ?” หนึ่งในกลุ่มนักเลงเมื่อเห็นลูกพี่โดนถีบตรงเข้าชกทันที ส่วนที่เหลือตั้งวงล้อมกั้นไว้ไม่ให้หนีเด็กชายผมเงินหนีไปได้ หมัดที่ชกมาเด็กคนนั้นหลบได้ด้วยอย่างสบาย คนที่ชกเองก็เริ่มเหนื่อยและเริ่มช้าลง เด็กชายผมเงินสวนกลับด้วยหมัดเพียงหมัดที่เสยหน้าอีกฝ่ายที่ล้มสลบไปทันที
“เฮ้ยพวกแกจัดการไอ้เด็กนี่สัก” หัวหน้ากลุ่มที่ถูกถีบสั่ง ทุกคนคว้าอาวุธต่างๆ ขึ้นมา เข้าจู่โจมทันที เด็กชายผมเงินมีเพียงมือเปล่ากับหนังสือเล่มหนาหลบซ้ายหลบขวาที หลอกล่อจนคนพวกนี้โดนอาวุธของพวกเดียวกันเอง
“เก่งนี่นา” พูดอย่างชื่นชม
เด็กชายผมเงินหลบกระบองที่ฟาดมาพร้อมเตะเข้าที่ท้อง ก่อนถีบเข้าที่หน้าจนล้มไปกองกับพื้น คนที่เหลือและหัวหน้ากลุ่มเมื่อเห็นว่าสู้ไม่ไหว พากันถอยออกมาแต่ก็ยังตีเป็นวงกลมล้อมเอาไว้
หัวหน้านักเลงส่งสัญญาณให้กับหนึ่งในลูกน้องที่พยักหน้ารับ คนๆ นั้นเดินหลบไปด้านหลังเด็กชายผมเงิน แฝงตัวอยู่กับคนอื่นก่อนคว้าปืนสั้นขึ้นมาและเตรียมยิงออกไป
ตุบ~!!! โครม~!!!
อยู่ดีๆ ร่างของคนที่คว้าปืนสั้นล้มกระแทกกับเก้าอี้ไม้อีกฝั่ง เลือดไหลชโลมทั่วหน้าสลบไปทันที โดยมีร่างเล็กๆ ที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทปิดจนไม่เห็นหน้ายืนอยู่ข้างเด็กชายผมสีเงิน
“นี่พวกคุณ ถ้าเป็นลูกผู้ชายกันจริงๆ ก็อย่าเล่นลอบกัดด้วยของพันนี้สิ” โยนปืนสั้นสีดำที่หักเป็นสองท่อนไปข้างหน้า เด็กชายผมเงินมองปืนที่หักเป็นสองท่อนก่อนหันมามองคนข้างๆ อย่างสงสัย แต่ก็ไม่พูดอะไร
“เรื่องนี้แกไม่เกี่ยวเจ้าหนู ถ้าไม่อยากตายก็ไปซะ!!” ขู่ แต่เลอาก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน
“นายเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายไปซะ....” เด็กชายผมเงินที่อยู่ข้างๆ เลอาพูดเสียงเรียบๆ
“ได้ไง....ก็นายกำลังโดนพวกนี้ลุมอยู่ แต่ก็นะ...พวก ‘หมาหมู่’ แบบนี้มันไม่สนอะไรหรอกใช่มั้ยฮะ?” พูดอย่างไม่เกรงกลัว และไม่ได้สนใจคำทัดทานจากเด็กชายข้างๆ แม้แต่น้อย
‘เอาแต่ใจแถมอวดดีอีก...’ เด็กชายผมเงินคิด
ปรอทความโกรธของนักเลงเจ้าถิ่นพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุด ลงมือจัดการเด็กทั้งสองอย่างไม่รอช้า จนไม่ทันสังเกตเห็นถึงเงามรณะที่เฝ้ามองด้วยสายตาของผู้ล่าอยู่ด้านหลัง
ไม่ทันที่เหล่านักเลงจะเข้าถึงตัวของร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำ ทั้งหมดล้มจมกองเลือดร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด โดยมีชายหนุ่มผมสีดำดวงตาสีเงินยืนมองด้วยสายตาเย็นชา รังสีอำมหิตแผ่ออกมากดดันจนหัวหน้านักเลงที่เหลือเพียงคนเดียวยืนตัวสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัว แต่ทันทีที่เห็นหน้าว่าเป็นใคร ชายคนนั้นก็ทรุดลงกับพื้นทันที
“แกบังอาจจะทำร้ายน้องฉัน” เสียงเย็นๆ พร้อมรังสีฆ่าฟันแผ่ไปที่ชายคนนั้น
“ขออภัย....ขะ....ข้าไม่รู้ว่า...” ไม่ทันพูดจบ ร่างนั้นถูกเตะเสยหน้าจนกลิ้งไปกับพื้น โนอาเตรียมเข้าไปซ้ำอีกรอบ
“พี่ฮะ....พอได้แล้ว”
“แต่......”
“พอได้แล้ว” พูดเสียงเข้มขึ้น โนอาจึงยอมละจากกลุ่มนักเลงนี้
“พวกแกรีบไสหัวไปซะ!! แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก” พูดเสียงเหี้ยม กลุ่มนักเลงรีบพากันออกไปจากที่ตรงนี้ไม่เหลือสักคนเดียว โนอาปรับอารมณ์ที่ครุกกลุ่นให้เป็นปกติรีบเข้ามาดูน้องด้วยความเป็นห่วง
“เลอาเป็นอะไรหรือเปล่า?” สวมกอดไม่ยอมปล่อย
“ไม่ฮะ” แต่โนอาก็ยังไม่ยอมปล่อยแถมกอดแน่นกว่าเดิม
“พี่ปล่อยผมได้แล้ว....อึดอัดหายใจไม่ออก” พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด โนอาจำยอมปล่อยน้อง เลอาหันไปถามคนผมเงินที่อยู่ข้างๆ พร้อมรอยยิ้มกว้าง
“นายเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“มะ....ไม่เป็นไร” อึ้งกับรอยยิ้มของอีกฝ่าย ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าตาก็รอยยิ้มที่มอบให้มาทำให้เฟริสรับรู้ได้ทันทีว่าคนๆ นี้เป็นคนที่จริงใจคนหนึ่ง
“ก็ดีแล้ว ว่าแต่นายชื่ออะไร? เราชื่อเลอานะ”
“เฟริส.....ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ส่วนพี่ชื่อโนอา เป็นพี่ชายสุดหล่อของเลอาล่ะ” เข้ามาทำความรู้จักด้วยอีกคน
“โธ่พี่....ไม่หลงตัวเองเลย” พูดเซ็งๆ
“แน่นอนก็คนมันหล่อจริงนี่ ฮะๆๆๆ”
หันหน้าหนีอย่างเซ็งๆ กับโรคหลงตัวเองของพี่ชาย หันมาพูดกับเพื่อนใหม่ที่ยืนอยู่ข้างๆ มองโนอาด้วยสายตาประมาณว่า ‘คนนี่บ้าหรือเปล่า?’
“เฟริสเราไปหาที่เที่ยวกันปะ” คล้องแขนเพื่อนใหม่โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวเดินออกไปทางตลาดที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะไปตั้งแต่แรก โดยมีโนอาคนหล่อ (ก็หล่อจริงๆ นั่นแหล่ะ) เดินตามหลังไปติดๆ
“เฟริสนายเองก็มาสอบที่ซีดิสใช่มั้ย?”
“อืม....นายก็ด้วยเหรอ?”
“ใช่..แต่เราเพิ่งมาถึงยังไม่ได้ไปรายงานตัวเลยอ่ะ........มีอะไรหรือเปล่าเฟริส” ถามอย่างสงสัยเมื่ออีกฝ่ายหยุดเดิน เฟริส มองเลอาอย่างตกใจ
“เลอาไม่รู้เหรอว่าวันนี้ตอนบ่ายโมงเข้าปิดรับการรายงานตัว แล้วตอนนี้มันก็เกือบบ่ายโมงอยู่แล้ว”
“เอ๋!! แล้วจะทำไงดี? ถ้านั่งเรือข้ามฟากตอนนี้ยังไงก็ไม่ทันแน่ๆ” เลอาพูดอย่างร้อนใจ
“ไม่ต้องกังวลไป พี่ชายคนนี้ไปลงชื่อมาให้แล้วล่ะ” พูดแทรกขึ้นมา
เลอาหันควับไปทางพี่ด้วยท่าทีเคืองๆ “พี่บ้า!! แล้วก็ไม่รีบบอก” พูดหน้าบึ้ง ดึงแขนเฟริสเดินออกไปโดยไม่สนใจพี่ชายที่เริ่มรับรู้ชะตากรรมรีบเดินตามง้อขอคืนดี
“เลอาจ๋า.....พี่ขอโทษ เราคืนดีกันนะๆ” โนอาวิ่งดักหน้าดักหลัง เลอาหันหน้าหนีไม่พูดด้วยจนโนอาคอตกได้แต่เดินตามเลอาที่เดินควงแขนกับเฟริสที่เดินดูตลาดด้วยกัน
“เลอาอย่าโกรธพี่นายเลย” เฟริสพูดหลังจากเห็นบรรยากาศมืดมนจากคนที่เดินตามหลัง
“ชิ....ก็ได้เห็นแก่เฟริสหรอกนะ” เลอาหยุดเดินหันไปหาพี่ชายตน ก่อนจะยิ้มหวานแต่ความรู้สึกมันชวนสยองชอบกลแม้แต่คนข้างๆ ยังรู้สึก
“หายโกรธก็ได้....แต่พี่ต้องทำอะไรให้อย่างหนึ่งโอเคมั้ย?”
“อะ....อะไรเหรอ” กลืนน้ำลายดังอึก
“ก็แค่......เลี้ยงข้าวกลางวันผมกับเฟริสเท่านั้นเอง” พูดด้วยเสียงหวานๆ แต่ทำให้โนอาถึงกับหน้าซีดลงทันที
‘หมดกันเงินตู......TT__TT’
.....................................................................................
ความคิดเห็น