ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: LoST MyTHoLoGaPHY ::

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1:: พบเพื่อนใหม่ (1)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 52


    บทที่ 1

    พบเพื่อนใหม่

     

     


                    เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจดังไปทั่วทุกหย่อม  ผู้คนมากหน้าหลายตาแต่งตัวหลากหลายรูปแบบเต็มสองข้างทางที่มีร้านรวงเปิดเรียกลูกค้ากันอย่างคึกคัก  ร่างสูงของชายหนุ่มผมสีดำ ดวงตาสีเงินพร้อมกับร่างเล็กๆ ที่สวมเสื้อคลุมสีดำแขนยาวปกปิดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเดินไปทางถนนที่ปูด้วยอิฐสีขาวนวล 


                    ร่างเล็กๆ นั้นหันซ้ายหันขวามองร้านรวงตลอดสองข้างทางด้วยความตื่นตาตื่นใจ  โดยมีพี่ชายคอยจับมือร่างเล็กไว้ไม่ให้หลงกัน


                    พี่โนอานั้นอะไรฮะ? ชี้ไปที่แผงลอยที่มีผลไม้หน้าตาแปลกๆ เป็นผลกลมขนาดเล็กที่มีสีฟ้าใส 


                    นั่นเรียกว่า มาคิวรี่ รสชาติจะออกหวานอมเปรี้ยวนิดๆ เลอาลองกินมั้ย? ถาม ร่างเล็กพยักงึกงัก

                    


                    สองพี่น้องโนอาและเลอาใช้เวลาสี่วันในการเดินทางจากอิมมอร์ไนท์มาถึงเมืองคล็อกทาวน์ เมืองท่าสำคัญของราชอาณาจักรเอเธน  เมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าเรือคล็อกทาวน์ ท่าเรือเพียงแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ไปยังเขตการปกครองพิเศษซีดิสได้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนซีนิธ ดิสแทนส์ หรือที่ทุกคนเรียกกันสั้นๆ ว่า โรงเรียนซีดิส โรงเรียนอันดับหนึ่งของโลกใบนี้ 


                    หลังจากโนอาซื้อมาคิวรี่ให้แล้ว พาน้องชายมานั่งพักที่จัตุรัสนาฬิกาที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งได้จัดเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ให้ผู้คนได้ใช้พักผ่อนกันตามอัธยาศัย 


                    เดี๋ยวพี่ไปทำธุระแปบ เลอาคอยอยู่ตรงนี้นะ  


                    ฮะ ขานรับอย่างไม่ใส่ใจ ตอนนี้สิ่งที่อยู่รอบๆ มันน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆ โนอาแอบถอนหายใจอย่างหน่ายๆ ขยี้หัวน้องชายเบาๆ ปล่อยน้องชายไว้ที่จัตุรัสนาฬิกาเพียงลำพัง


                    เลอาภายใต้เสื้อคลุมสีดำเริ่มเดินสำรวจรอบจัตุรัสที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก กลางจัตุรัสนาฬิกานั้นเป็นที่ตั้งของนาฬิกาวงกลมขนาดใหญ่สองวงที่วางทับซ้อนกันลอยขึ้นเหนือพื้น  ทั้งด้านหน้าและหลังสามารถดูเวลาได้  ครึ่งบนของตัวนาฬิกาเป็นตัวเลขโรมันที่คอยบอกเวลา  ครึ่งล่างของนาฬิกาแสดงวันที่ และข้างใต้นาฬิกาจัดเป็นสวนดอกไม้หลากหลายสีสัน  รอบนอกเป็นสวนหย่อมที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ความร่มรื่น มีเก้าอีไม้ตั้งไว้หลายจุด


                    อยากไปตลาดจัง นั่งพิงที่เก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งในสวนแห่งนี้หลังจากสำรวจจนหมด หันไปดูตลาดที่อยู่รอบจัตุรัสด้วยท่าทางหงอยๆ


                    แต่ที่นี่อากาศก็ดีเหมือนที่บ้านเลย มองดูต้นไม้ใหญ่ที่อยู่โดยรอบ เพียงไม่นานร่างเล็กก็ปืนขึ้นไปนั่งอยู่บนกิ่งไม้แกว่งขาไปมาอ่างสบายใจ


                    เดี๋ยวถ้าพี่กลับมาให้พาไปหน่อยดีกว่า


                    เสียงเพลงแผ่วเบาจากเลอา ทำให้บรรดาเหล่านกน้อยใหญ่ตลอดสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ พากันมาเกาะบนต้นไม้ที่เลอานั่งอยู่ บางตัวก็ไต่ขึ้นไปอยู่ที่ไหลหรือแขนพร้อมส่งเสียงร้องประสานไปพร้อมกัน เด็กชายยิ้มร่าหยิบเอาผลไม้มาคิวรี่ออกมากินเองบ้าง ให้เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อย

     


                    โครม~!!!


                    เสียงดังที่เกิดขึ้นทำให้พวกบรรดาสัตว์ต่างๆ ตกใจหนีหายไปหมด  เด็กชายหันไปดูยังทางต้นเสียงในทันที  ซึ่งข้างล่างไม่ห่างจากที่เลอานั่งอยู่มีกลุ่มนักเลงเจ้าถิ่นกำลังยืนล้อมเด็กชายผมสีเงินที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างไม่สนใจ


                    เฮ้ยไอ้เด็กนี่ป่าววะ?ชายรูปร่างสูงใหญ่ กล้ามเป็นมัดๆ ผิวสีแทนพูด


                    ครับลูกพี่ ไอ้เด็กคนนี้ล่ะชายรูปร่างผอมบางหนึ่งในลูกน้องพูดพร้อมชี้ไปข้างหน้าที่เด็กคนนั้นนั่งอยู่


                    ตุบ~!!!


                    เสียงรองเท้าบูทกระแทกเข้ากับเก้าอี้ไม้ที่เด็กชายผมสีเงินนั่งอยู่  เด็กคนนั้นเพียงปรายตาขึ้นมามอง  ใบหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ  หันกลับไปอ่านหนังสือเหมือนเดิมไม่ได้สนใจ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่พอเห็นแบบนั้นอารมณ์เดือดพุ่งสูงกระชากเสื้อของอีกฝ่ายขึ้นมา


                    เฮ้ยแก!!  แน่นักหรือไงวะ  ถึงกล้ามาลงมือกับลูกน้องของฉัน ตะคอกใส่หน้า


                    ปล่อย พูดเสียงเย็นๆ


                    เด็กยังแกจะทำอะไรฉันได้ พูดเหยียดๆ


                    เด็กชายผมสีเงินปัดมือที่กระชากเสื้อของตนออกพร้อมถีบเข้าที่ท้องของอีกฝ่ายจนกระเด็นกลิ้งไปกับพื้น ชายคนนั้นกุมท้องพร้อมร้องอย่างเจ็บปวด 


                    แกกล้าถีบลูกพี่เหรอ? หนึ่งในกลุ่มนักเลงเมื่อเห็นลูกพี่โดนถีบตรงเข้าชกทันที ส่วนที่เหลือตั้งวงล้อมกั้นไว้ไม่ให้หนีเด็กชายผมเงินหนีไปได้ หมัดที่ชกมาเด็กคนนั้นหลบได้ด้วยอย่างสบาย คนที่ชกเองก็เริ่มเหนื่อยและเริ่มช้าลง เด็กชายผมเงินสวนกลับด้วยหมัดเพียงหมัดที่เสยหน้าอีกฝ่ายที่ล้มสลบไปทันที


                    เฮ้ยพวกแกจัดการไอ้เด็กนี่สัก หัวหน้ากลุ่มที่ถูกถีบสั่ง ทุกคนคว้าอาวุธต่างๆ ขึ้นมา เข้าจู่โจมทันที เด็กชายผมเงินมีเพียงมือเปล่ากับหนังสือเล่มหนาหลบซ้ายหลบขวาที หลอกล่อจนคนพวกนี้โดนอาวุธของพวกเดียวกันเอง


                    เก่งนี่นา พูดอย่างชื่นชม 


                    เด็กชายผมเงินหลบกระบองที่ฟาดมาพร้อมเตะเข้าที่ท้อง ก่อนถีบเข้าที่หน้าจนล้มไปกองกับพื้น คนที่เหลือและหัวหน้ากลุ่มเมื่อเห็นว่าสู้ไม่ไหว พากันถอยออกมาแต่ก็ยังตีเป็นวงกลมล้อมเอาไว้ 


                    หัวหน้านักเลงส่งสัญญาณให้กับหนึ่งในลูกน้องที่พยักหน้ารับ คนๆ นั้นเดินหลบไปด้านหลังเด็กชายผมเงิน แฝงตัวอยู่กับคนอื่นก่อนคว้าปืนสั้นขึ้นมาและเตรียมยิงออกไป


                    ตุบ~!!! โครม~!!!


                    อยู่ดีๆ ร่างของคนที่คว้าปืนสั้นล้มกระแทกกับเก้าอี้ไม้อีกฝั่ง เลือดไหลชโลมทั่วหน้าสลบไปทันที โดยมีร่างเล็กๆ ที่สวมเสื้อคลุมสีดำสนิทปิดจนไม่เห็นหน้ายืนอยู่ข้างเด็กชายผมสีเงิน


                    นี่พวกคุณ ถ้าเป็นลูกผู้ชายกันจริงๆ ก็อย่าเล่นลอบกัดด้วยของพันนี้สิโยนปืนสั้นสีดำที่หักเป็นสองท่อนไปข้างหน้า เด็กชายผมเงินมองปืนที่หักเป็นสองท่อนก่อนหันมามองคนข้างๆ อย่างสงสัย แต่ก็ไม่พูดอะไร


                    เรื่องนี้แกไม่เกี่ยวเจ้าหนู ถ้าไม่อยากตายก็ไปซะ!!” ขู่ แต่เลอาก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับไปไหน


                    นายเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายไปซะ.... เด็กชายผมเงินที่อยู่ข้างๆ เลอาพูดเสียงเรียบๆ 


                    ได้ไง....ก็นายกำลังโดนพวกนี้ลุมอยู่ แต่ก็นะ...พวก หมาหมู่ แบบนี้มันไม่สนอะไรหรอกใช่มั้ยฮะ? พูดอย่างไม่เกรงกลัว และไม่ได้สนใจคำทัดทานจากเด็กชายข้างๆ แม้แต่น้อย


                    เอาแต่ใจแถมอวดดีอีก...เด็กชายผมเงินคิด


                    ปรอทความโกรธของนักเลงเจ้าถิ่นพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุด ลงมือจัดการเด็กทั้งสองอย่างไม่รอช้า จนไม่ทันสังเกตเห็นถึงเงามรณะที่เฝ้ามองด้วยสายตาของผู้ล่าอยู่ด้านหลัง


                    ไม่ทันที่เหล่านักเลงจะเข้าถึงตัวของร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำ  ทั้งหมดล้มจมกองเลือดร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด โดยมีชายหนุ่มผมสีดำดวงตาสีเงินยืนมองด้วยสายตาเย็นชา  รังสีอำมหิตแผ่ออกมากดดันจนหัวหน้านักเลงที่เหลือเพียงคนเดียวยืนตัวสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัว  แต่ทันทีที่เห็นหน้าว่าเป็นใคร ชายคนนั้นก็ทรุดลงกับพื้นทันที


                    แกบังอาจจะทำร้ายน้องฉัน เสียงเย็นๆ พร้อมรังสีฆ่าฟันแผ่ไปที่ชายคนนั้น


                    ขออภัย....ขะ....ข้าไม่รู้ว่า... ไม่ทันพูดจบ ร่างนั้นถูกเตะเสยหน้าจนกลิ้งไปกับพื้น โนอาเตรียมเข้าไปซ้ำอีกรอบ


                    พี่ฮะ....พอได้แล้ว


                    แต่...... 



                    พอได้แล้ว พูดเสียงเข้มขึ้น โนอาจึงยอมละจากกลุ่มนักเลงนี้


                    พวกแกรีบไสหัวไปซะ!! แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก พูดเสียงเหี้ยม กลุ่มนักเลงรีบพากันออกไปจากที่ตรงนี้ไม่เหลือสักคนเดียว โนอาปรับอารมณ์ที่ครุกกลุ่นให้เป็นปกติรีบเข้ามาดูน้องด้วยความเป็นห่วง  


                    เลอาเป็นอะไรหรือเปล่า? สวมกอดไม่ยอมปล่อย 


                    ไม่ฮะ แต่โนอาก็ยังไม่ยอมปล่อยแถมกอดแน่นกว่าเดิม


                    พี่ปล่อยผมได้แล้ว....อึดอัดหายใจไม่ออก พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด โนอาจำยอมปล่อยน้อง เลอาหันไปถามคนผมเงินที่อยู่ข้างๆ พร้อมรอยยิ้มกว้าง


                    นายเป็นอะไรหรือเปล่า?  


                    มะ....ไม่เป็นไร อึ้งกับรอยยิ้มของอีกฝ่าย ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าตาก็รอยยิ้มที่มอบให้มาทำให้เฟริสรับรู้ได้ทันทีว่าคนๆ นี้เป็นคนที่จริงใจคนหนึ่ง


                    ก็ดีแล้ว ว่าแต่นายชื่ออะไร?  เราชื่อเลอานะ” 


                    เฟริส.....ยินดีที่ได้รู้จัก


                    ส่วนพี่ชื่อโนอา เป็นพี่ชายสุดหล่อของเลอาล่ะเข้ามาทำความรู้จักด้วยอีกคน


                    โธ่พี่....ไม่หลงตัวเองเลยพูดเซ็งๆ 


                    แน่นอนก็คนมันหล่อจริงนี่ ฮะๆๆๆ


                    หันหน้าหนีอย่างเซ็งๆ กับโรคหลงตัวเองของพี่ชาย  หันมาพูดกับเพื่อนใหม่ที่ยืนอยู่ข้างๆ มองโนอาด้วยสายตาประมาณว่า คนนี่บ้าหรือเปล่า?


                    เฟริสเราไปหาที่เที่ยวกันปะ คล้องแขนเพื่อนใหม่โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวเดินออกไปทางตลาดที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะไปตั้งแต่แรก โดยมีโนอาคนหล่อ (ก็หล่อจริงๆ นั่นแหล่ะ) เดินตามหลังไปติดๆ 


     

                    เฟริสนายเองก็มาสอบที่ซีดิสใช่มั้ย?


                    อืม....นายก็ด้วยเหรอ?


                    ใช่..แต่เราเพิ่งมาถึงยังไม่ได้ไปรายงานตัวเลยอ่ะ........มีอะไรหรือเปล่าเฟริส ถามอย่างสงสัยเมื่ออีกฝ่ายหยุดเดิน เฟริส มองเลอาอย่างตกใจ


                    เลอาไม่รู้เหรอว่าวันนี้ตอนบ่ายโมงเข้าปิดรับการรายงานตัว แล้วตอนนี้มันก็เกือบบ่ายโมงอยู่แล้ว


                    เอ๋!! แล้วจะทำไงดี? ถ้านั่งเรือข้ามฟากตอนนี้ยังไงก็ไม่ทันแน่ๆ เลอาพูดอย่างร้อนใจ


                    ไม่ต้องกังวลไป พี่ชายคนนี้ไปลงชื่อมาให้แล้วล่ะ พูดแทรกขึ้นมา


                    เลอาหันควับไปทางพี่ด้วยท่าทีเคืองๆ พี่บ้า!! แล้วก็ไม่รีบบอก พูดหน้าบึ้ง ดึงแขนเฟริสเดินออกไปโดยไม่สนใจพี่ชายที่เริ่มรับรู้ชะตากรรมรีบเดินตามง้อขอคืนดี


                    เลอาจ๋า.....พี่ขอโทษ เราคืนดีกันนะๆ โนอาวิ่งดักหน้าดักหลัง เลอาหันหน้าหนีไม่พูดด้วยจนโนอาคอตกได้แต่เดินตามเลอาที่เดินควงแขนกับเฟริสที่เดินดูตลาดด้วยกัน


                    เลอาอย่าโกรธพี่นายเลย เฟริสพูดหลังจากเห็นบรรยากาศมืดมนจากคนที่เดินตามหลัง


                    ชิ....ก็ได้เห็นแก่เฟริสหรอกนะ เลอาหยุดเดินหันไปหาพี่ชายตน ก่อนจะยิ้มหวานแต่ความรู้สึกมันชวนสยองชอบกลแม้แต่คนข้างๆ ยังรู้สึก


                    หายโกรธก็ได้....แต่พี่ต้องทำอะไรให้อย่างหนึ่งโอเคมั้ย?


                    อะ....อะไรเหรอ กลืนน้ำลายดังอึก 


                    ก็แค่......เลี้ยงข้าวกลางวันผมกับเฟริสเท่านั้นเองพูดด้วยเสียงหวานๆ แต่ทำให้โนอาถึงกับหน้าซีดลงทันที


                    หมดกันเงินตู......TT__TT’

     

    .....................................................................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×