คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความทรงจำที่เลวร้าย
แบงค์พันปึกหนาถูกวางลงบนหัวเตียงโดยชายหนุ่มที่จัดได้ว่ามีรูปร่างและหน้าตาที่สมบูรณ์แบบที่สุดราวกับเป็นรูปจำลองของเทพบุตร “ศรัณย์ สิทธากุล”
นอกจากศรัณย์จะมีรูปเป็นทรัพย์ ในด้านฐานะทางการเงิน ศรัณย์ยังเป็นผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดที่เข้ามากุมบังเหียนบริษัทสิทธากุล ที่ก่อตั้งโรงแรมและรีสอร์ทหรูหราในเครือมากถึง 18 แห่งทั่วประเทศ จึงไม่แปลกที่ศรัณย์จะได้รับการโหวตจากนิตยสารชั้นนำว่าเป็นหนุ่มโสดที่สาวๆใฝ่ฝันถึงมากที่สุด
ชายหนุ่มหยิบเสื้อผ้าที่กองไม่เป็นระเบียบอยู่ที่ปลายเตียงขึ้นมาสวมกลับคืนดังเดิมพร้อมๆกับที่ร่างเปลือยเปล่าของใครอีกคนที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาเริ่มขยับตัว
“จะกลับแล้วหรือคะมาร์ค”
“พิรนุช”บิดขี้เกียจสองสามทีก่อนจะลุกขึ้นเดินไปช่วยจัดแต่งเนคไทให้เขาโดยไม่กระดากใจว่าขณะนี้ตนเองไม่มีอาภรณ์ติดกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“เพิ่งจะแปดโมงเท่านั้นเอง น่าจะอยู่ต่ออีกสักหน่อยนะคะ”
น้ำเสียงนั้นออดอ้อนแฝงด้วยความปรารถนาที่เร่าร้อนอยู่ในที แต่ถ้าขณะนี้อยู่ในเวลาและอารมณ์ที่ชายหนุ่มต้องการ เขาคงจะตอบสนองหญิงสาวจนถึงใจไปแล้ว
“ไม่ล่ะ เช้านี้มีประชุมบอร์ด ผมต้องรีบไป”
ศรัณย์พูดแค่นั้นก่อนจะหันไปหยิบกุญแจรถหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วจากไป ทิ้งให้พิรนุชนั่งกรีดนิ้วนับแบงค์พันปึกใหญ่ที่เขาทิ้งไว้ให้อย่างมีความสุข
เขาล่ะ ศรัณย์ สิทธากุล ผู้ชายที่จัดว่าใช้ผู้หญิงเปลืองที่สุดแต่ไม่คิดจะตกล่องปล่องชิ้นกับใครอย่างจริงจัง สาวๆจึงปรารถนาในตัวศรัณย์กันเสียยิ่งกว่าผู้ชายที่หล่อและยังโสดคนอื่นๆ
ที่โรงแรมฟลอรัลด์ ปาร์ค หนึ่งในสิบแปดสาขาของโรงแรมในเครือสิทธากุล รถเบนซ์สปอร์ตเปิดประทุนของศรัณย์ขับเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าล็อบบี้ มีพนักงานสองคนรีบกุลีกุจอไปเปิดประตูรถให้ และอีกคนช่วยถือกระเป๋าเอกสาร ส่วนตัวเขาเองเดินดุ่มๆเข้าไปในตัวโรงแรมเตรียมจะกดลิฟท์ขึ้นไปยังชั้นผู้บริหาร
“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ ไม่ทราบว่ามาพบใครคะ”
เสียงเล็กๆของใครคนหนึ่งทำให้ศรัณย์ต้องชะงักมือที่กำลังจะกดลิฟท์พร้อมกับหันไปมองทางต้นเสียง มีพนักงานต้อนรับคนหนึ่งที่เขาไม่คุ้นหน้าเลยวิ่งเข้ามา ทำหน้าตาตื่น
“ขอดูบัตรVisitor หน่อยค่ะ”
ศรัณย์ขมวดคิ้วอย่างงุนงงที่มีคนกล้ามาขอดูบัตรผู้เข้าเยี่ยมจากผู้บริหารระดับสูงเช่นเขา
“ไม่มี” เขาตอบห้วนๆ
“ถ้าอย่างนั้นรบกวนให้ไปแลกบัตรที่ป้อมยามหน้าบริษัทก่อนนะคะเราถึงจะอนุญาตให้คุณเข้าไปได้”
“พันธิตรา” พูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม (ในความคิดของเธอเอง)
“สวัสดีค่ะท่านประธาน”
พนักงานในโรงแรมสามคนที่เดินผ่านศรัณย์และพันธิตราต่างก็ยกมือไหว้ชายหนุ่ม คำที่พวกนั้นใช้เรียกคนที่หญิงสาวคิดว่าเป็นแขกทำเอาพันธิตราถึงกับตาโต
“ท่านประธาน คะ... คุณเป็นประธานบริษัทงั้นหรือคะ”
แต่ศรัณย์ไม่ได้คิดว่าพันธิตราไม่รู้จักเขาจริงๆหรอก เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงทั่วไปที่ต้องการจะเรียกร้องความสนใจจากเขาเท่านั้น สีหน้าแสดงอาการดูถูกของศรัณย์ทำให้พันธิตราถึงกับร้อนผ่าวที่ใบหน้า ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะยกมือไหว้ขอโทษ ศรัณย์ก็เดินเข้าลิฟท์ไปเสียแล้ว
“ไปไหนมายะ บอกให้เฝ้าล็อบบี้ไว้”
พันธิตราถูก “อรนลิน” เพื่อนพนักงานต้อนรับด้วยกันทำเสียงดุใส่ พันธิตราทำท่าทางหมดแรง
“แก...ฉันต้องแย่แน่ๆเลย” “เรื่องอะไรล่ะที่ว่าแย่”
อรนลินถาม ทำหน้าตาแย่ตามเพื่อน พันธิตราจึงเล่าถึงวีรกรรมทำเพื่องานของตนให้เพื่อนฟัง
“แกนี่รนหาที่แท้ๆเลย” อรนลินเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากพันธิตรา
“โง่หรือแกล้งโง่กันแน่ฮึ ถึงท่านประธานจะเป็นแขกจริงๆรปภ.เขาก็ไม่ปล่อยให้เข้ามาหรอกถ้าไม่ได้แลกบัตรก่อน”
อรนลินชี้แจงอย่างคนที่ทำงานมาก่อน
“ก็ฉันไม่รู้นี่นา เห็นเขาเดินดุ่มๆเข้ามา ไม่พูดไม่จากับใครก็เลยเข้าไปถาม ฉันเพิ่งมาทำงานได้วันเดียวเองนะลิน หน้าตาของผู้บริหารเป็นยังไง ฉันก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักเลยสักคน”
“งั้นก็รู้เอาไว้นะยะ ว่าคุณศรัณย์ สิทธากุล เป็นประธานบริษัทที่หากไม่จำเป็น หล่อนก็ไม่ควรจะไปตอแยกับเขา”
“ทำไมล่ะ เขาดุมากเหรอ”
“ไว้แกก็รู้เองแหละ แต่ขอเตือนในฐานะเพื่อนสนิทกันนะว่าอย่าไปเข้าใกล้เขาเด็ดขาด”
แล้วอรนลินก็ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไปโดยไม่ยอมเฉลยให้พันธิตราฟังว่าเพราะเหตุใด หญิงสาวจึงต้องเก็บความสงสัยนี้ไว้ต่อไป
หลังจากเลิกงาน พันธิตราก็แวะซื้อน้ำปั่นที่ร้านข้างโรงแรมก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าลืมของไว้ที่ล็อบบี้จึงรีบเดินกลับเข้าไป อารามรีบร้อนทำให้ร่างบางปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของศรัณย์เข้า จนน้ำปั่นสีแดงๆหกรดเสื้อเชิ้ตทำงานสีขาวของเขาจนดูไม่ได้
“ขอโทษค่ะท่าน โอย..หนูนี่แย่จริงๆ”
พันธิตราควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าอย่างร้อนรนแล้วรีบยื่นให้ชายหนุ่มที่บัดนี้ เหมือนกับมีดวงไฟลุกโชนอยู่ในดวงตาทั้งคู่ของเขา
“เธออีกแล้วนะสาวน้อย เข้าใจหาวิธีทำความรู้จักกับฉันได้แนบเนียนดีนี่”
พันธิตรามองหน้าเขางงๆ แสดงความไม่เข้าใจในสิ่งที่ศรัณย์พูด
“ไงล่ะ อยากจะเป็นผู้หญิงของฉันจนตัวสั่นเลยสินะ เป็นพนักงานต้อนรับอย่างเดียวเงินเดือนมันน้อยไปใช่ไหมถึงต้องหาวิธีรวยทางลัด”
“คุณพูดเรื่องอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ” พันธิตราถาม เสียงสั่นน้อยๆ
“ไร้เดียงสาเสียจริงนะ เอ้า ถ้าอยากจะไปกับฉันก็ขึ้นรถมา”
ศรัณย์ลากพันธิตรามาถึงรถคันหรูของเขา เปิดประตูรถแล้วยัดตัวหญิงสาวเข้าไป
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะคะฉันจะกลับบ้าน” พันธิตราโวยวายเสียงดังลั่นรถ
“แน่ใจหรือว่าอยากกลับบ้าน แล้วที่มาเดินท่อมๆรอทอดสะพานให้ฉันนี่จะให้เข้าใจว่าอะไร เธอจะทำให้ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญที่เธอมาทำน้ำหวานหกใส่ฉันอย่างนั้นใช่ไหม ไม่เอาน่า บอกกันดีๆก็ได้ ฉันแฟร์อยู่แล้ว”
ศรัณย์พูดพลางออกรถอย่างรวดเร็ว พันธิตราเอามือจิกเบาะรถแน่น น้ำตาคลอเบ้า
“ฉันนี่หรือคะทอดสะพานให้คุณ คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ กรุณาเถอะ จอดให้ฉันลงตรงไหนก็ได้ ฉันขอร้อง”
“ไม่เอาๆ อย่างอแงสิจ๊ะ เป็นเด็กดีนะ รับรองเลยว่าฉันจะจ่ายค่าเยื่อพรหมจรรย์ให้เธออย่างงามทีเดียว”
พันธิตรากรีดเสียงร้องและทุบตีชายหนุ่มไปตลอดทางจนถึงคอนโดที่ศรัณย์มักจะพาผู้หญิงมาหาความสุขที่นี่
พันธิตราเป็นคนที่เท่าไหร่เจ้าตัวก็จัดลำดับไม่ถูกแล้วเหมือนกัน
“ลงมาสิ” ศรัณย์สั่งแต่พันธิตรายังคงนั่งเฉย
“ไม่ ฉันจะกลับบ้าน”
“คิดจะเรียกค่าตัวเพิ่มหรือไง” เขากล่าวดูถูก พันธิตราหยิบฉวยของใกล้มือขว้างปาใส่ศรัณย์เป็นการใหญ่
“จะลงมาดีๆหรือต้องให้ใช้กำลังฮึ!”
ศรัณย์เริ่มโกรธบ้างแล้ว พันธิตราจึงวิ่งลงจากรถออกไปหน้าคอนโดเพื่อหนีเขา
“รปภ.จับตัวไว้หน่อย เขาขโมยของของผมไป”
ศรัณย์ร้องสั่งรปภ.สองนายที่เฝ้ายามอยู่หน้าคอนโดด้วยเสียงอันดัง แน่นอน เขาคือลูกค้าระดับวีไอพีของคอนโดแห่งนี้ ผลคือพันธิตราถูกจับเอามือไพล่หลังส่งตัวกลับคืนให้เขาอย่างง่ายดาย
“ให้ผมเรียกตำรวจไหมครับ”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมจัดการเอง”
ศรัณย์ถูลู่ถูกังหญิงสาวขึ้นมาบนห้องจนได้ พันธิตราถูกเหวี่ยงลงไปบนเตียงขนาดใหญ่ หญิงสาวกระถดตัวหนีไปจนสุดหัวเตียง สองมือกอดเข่าแน่น
“เลิกเล่นบทนางเอกเจ้าน้ำตาได้แล้วน่า การที่เธอได้มาอยู่กับฉันสองต่อสองในห้องนอนอย่างนี้เป็นสิ่งที่เธอต้องการอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร แต่ฉันไม่เคยคิดอะไรบ้าๆแบบนั้น ฉันอยากกลับบ้าน ให้ฉันกลับบ้านเถอะนะ”
หญิงสาวสะอึกสะอื้น กลัวศรัณย์จนจับใจ เมื่อศรัณย์ลดตัวลงนั่งข้างเตียง พันธิตราก็เด้งตัวลุกขึ้นหนีไปอยู่มุมห้อง
“เล่นตัวเก่งจริงๆเลยนะ จะให้ฉันใช้กำลังกับเธอจริงๆใช่ไหม”
ศรัณย์ย่างสามขุมเข้ามาหาพันธิตราที่ดูเหมือนจะเอาตัวไม่รอดเสียแล้ว
“ท่านประธาน ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานได้วันเดียว ยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำว่าท่านเป็นใคร ฉันไม่ได้แกล้งหลอกท่านหรอกนะแต่ฉันพูดจริงๆ ให้ฉันกลับบ้านเถอะค่ะแล้วต่อไป ฉันจะไม่ไปให้ท่านเห็นหน้าอีกเลย ฉันสัญญา”
พันธิตรายกมือไหว้ศรัณย์ที่เริ่มเชื่อในสิ่งที่หญิงสาวพูดบ้างแล้ว แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ก็สวยน่ารักไม่ใช่เล่น และคนอย่างศรัณย์ หากปรารถนาอะไรแล้วทุกอย่างต้องสมหวัง
“แล้วถ้าฉันอยากนอนกับเธอ เธอจะเอาเท่าไหร่”
ศรัณย์ยื่นข้อเสนอยังไม่ทันจบ พันธิตราก็ส่ายหัวจนน้ำตากระเด็นไปถูกเสื้อสูทของเขา
“ฉันไม่อยากได้เงินของท่านหรอกค่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”
“นี่เธอกล้าปฏิเสธคนอย่างศรัณย์ สิทธากุลเชียวหรือ”
ศรัณย์จับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาวบีบอย่างแรงจนพันธิตราต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“นี่ฉันนะ ศรัณย์ สิทธากุล ฉันมีอะไรที่ทำให้เธอกล้าปฏิเสธบอกมาซิ”
ศรัณย์ย้ำอีก พันธิตราพยายามแกะมือเขาออกแต่ชายหนุ่มก็ยิ่งบีบรัดรุนแรง
“มีแต่คนเสนอตัวมาเป็นคู่นอนของฉันทั้งนั้น แบบไม่เอาค่าตัวยังมีเลยนะแล้วเธอเป็นใคร คิดว่าตัวเองสูงค่าแค่ไหนงั้นหรือ”
แล้วหญิงสาวก็ถูกรุกล้ำล่วงเกินเข้าจนได้ ขณะที่จมูกและริมฝีปากซุกซนของศรัณย์ฝังอยู่บนซอกคอขาวๆของพันธิตรา เธอก็พยายามเอื้อมมือไปคว้าแจกันใบใหญ่แล้วฟาดลงไปเต็มแรงที่ศีรษะของเขา ศรัณย์แน่นิ่งไปในทันที เลือดสีแดงไหลรินออกมาตามไรผม พันธิตราตกใจจนมือไม้สั่น ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงรีบคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งหนีออกไปให้เร็วที่สุด
ความคิดเห็น