ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic TVXQ yaoi) ICE2 ; เพราะเรา..ต่างกัน

    ลำดับตอนที่ #7 : - ICE[2] 6 - ก็แค่เทียบกันไม่ได้

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ย. 52


     

     

     

    ‘ ICE[2] 6 ’

     

    ______________________________________

     

                สงครามประสาทก็ยังดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั้งจบอาหารเย็น  ร่างบอบบางที่หัวเสียเนื่องจากทำตามใจตนเองไม่ได้มาก เพราะเขารู้ว่าขืนทำตัววุ่นวายมากกว่านี้..เขาจะต้องเจ็บหนักแน่ๆ..ไม่ได้กลัว.. แต่เขาไม่ได้เป็นเหมือนในละครที่ไม่ยอมจนเจอดี..

                ..ย้ำว่าไม่ได้กลัว.. แต่รำคาญ!!  เผลอๆกะจะเล่นเอาตายเสียเลยล่ะมั้ง  คอยดู!! ถ้าเมื่อไหร่ที่ฉันเป็นใหญ่ในบ้าน..แม่งจะเฉดหัวมันออกไปเป็นคนแรกเลย.. เกลียด..เกลียดจนไม่สามารถแปลเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้อีกแล้ว!!

               

                ซ่า!..

     

                ร่างสูงที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้องโดยแทบไม่ได้สนใจเลยว่าเจ้าของห้องจะอนุญาตหรือไม่ มีกุญแจเสียอย่าง..ได้เปรียบเป็นทุนเดิม  ..  มือหนาคว้ามือถือเครื่องใหม่ที่ร่างบางเพิ่งได้ถอยตอนไหนก็ไม่อาจรู้..แต่ก็นั้นแหละ มันไม่ได้สำคัญเลย.. ยุนโฮกดเบอร์ของตนเองลงในมือถือเครื่องงามก่อนพร้อมกับกดโทรออกให้เบอร์ของเครื่องนี้มันขึ้นไปโชว์อยู่ที่หน้าจอมือถือของเขาแล้วค่อยกดว่างสาย  โดยไม่ลืมลบรายการโทรออกด้วย 

    ..เมื่อเสร็จแล้วเจ้าตัวก็เดินออกมาจากห้อง ขายาวสาวเท้ากลับไปยังห้องของตนเองที่อยู่ถัดไปอีกไม่กี่ห้อง

     

                “ เออ..ขอโทษนะครับ..ช่วยติดตั้งระบบGPRSของเบอร์...  

     

    ___________________________________

     

                “ ยังไม่เลิกโทรอีกเหรอ? ”  แก้มยุ้ยๆพองลมอย่างขัดใจเมื่อร่างสูงที่เดินอยู่ข้างกายยังคงมุ่งมั่นกับการกดเบอร์โทรออก..ไม่เดาก็รู้ว่าโทรหาใคร วันนี้อุตส่าห์อารมณ์ดีแท้ๆ ที่ล่อคนที่โง่งมให้ออกมาทานข้าวเย็นด้วยกันได้  แต่แทนที่เขาจะได้มีความสุขอย่างที่ฝัน..แต่ก็ไม่!!

     

                ก็แจไม่รับ..กินเสร็จหรือยัง?  ร่างสูงว่าโดยแทบจะไม่ได้หันมองร่างเล็กที่แสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน  เสียงช้อนส้อมกระแทกกับจานเสียงดัง จนยูชอนต้องเงยหน้ามอง..สีหน้าหวานง้ำงอก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย.. ได้ยินชื่อนั้นแล้ว..แดกข้าวไม่ลง!!!

     

                เออ!..กูอิ่มแล้ว ไปกูที่ส่งบ้านด้วย   ว่าเสร็จเจ้าตัวก็คว้ากระเป๋าเดินออกไปจากร้านอาหารทิ้งให้ร่างสูงยังคงนั่งงงอยู่กับที่  มือหนาคว้ารายการอาหารมาถือไว้ในมือก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์  ..

     

                .

     

                มึงเป็นอะไรเนี่ย จุนซู!  ร่างสูงที่หมดความอดทนกับการที่ต้องเดินตามร่างเล็กต้อยๆ โดยการคว้าข้อแขนบางให้หยุดเดิน  อันที่จริงๆเขาก็ไม่จัดอยู่ในกลุ่มคนเดินช้าหรอกนะ..แต่กลัวว่าถ้าขืนเป็นแบบนี้ ขาเล็กนั้นต้องพันกันตายไม่ก็เป็นตะคริวกินเข้า  ใบหน้าเล็กไม่ได้แสดงออกถึงอาการใดๆเหมือนกับเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

                มึงสนกูด้วยเหรอ? ”

     

                “ เฮ้อ..ถ้ามึงงอนกูเรื่องที่กูเอาแต่นั่งกดหาเมียกูล่ะก็..ไร้สาระไปไหม? คนรักของกู กูผิดนัดกูก็ต้องโทรไปขอโทษเป็นธรรมดา แล้วนี้โทรไม่ติดแบบนี้กูก็เป็นห่วง.. ”

     

                “ งั้นถ้ากูเป็นแบบหมอนั้น..ถ้ากูต้องรอมึงทั้งๆที่มึงต้องพาแฟนไปโรงพยาบาล ถ้ามึงโทรหากูไม่ติด..มึงจะหวงกู..มึงจะร้อนรนแบบนี้ไหม? ”  คำถามนี้เขาไม่ได้ต้องการที่จะประชดด้วยความน้อยใจ..แต่เขาแค่อยากรู้ ว่าเขาสำคัญถึงขั้นนั้นหรือเปล่า

                ..ระหว่างคนที่รักเพื่อน..กับคนที่เพื่อนรัก  โดยเฉพาะคนที่เพื่อนรัก..ทั้งเลว มารยาสาไถ ร้ายลึก  รักที่ถูกสร้างขึ้นมาเพียงแค่ความต้องการ..อันไหนมันมีค่ามากกว่ากัน

     

                “ ทำไมมึงชอบเอาตัวมึงมาเปรียบเทียบกับแจนักว่ะ..มันเทียบกันไม่ได้หรอก..   ยังไม่ทันจะพูดจบ ข้อมือบางก็ถูกสะบัดออกก่อนจะเดินนำไปโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ

     

                “ งั้นก็ช่วยพากูกลับบ้านที..กูอยากนอน   ยูชอนอยากจะเอาหัวโหม่งกำแพงตายเสียจริงๆ เขาเครียดเรื่องแจจุงไม่พอ..เพราะขานั้นเวลาโกรธทีเรื่องใหญ่ ไหนจะเพื่อนรักของเขาอีก แม้เขาจะพยายามแล้วนะว่าจะไม่คิดถึงเรื่องที่แจจุงบอก..แต่มันก็อดที่จะเกร็งไม่ได้ อีกอย่างเขายังพูดไม่จบเลย

                ..ที่เอามาเปรียบไม่ได้..เพราะ มันไม่เหมือนกัน..แจจุง เป็นคนรักของเขา..แม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าเขาจัดแจจุงอยู่ในหมวดหมู่ใน แต่ยังไงตอนนี้แจจุงก็เป็นของเขา  ส่วนจุนซู..ก็เป็นเพื่อนรักคนเดียวที่เขาไม่สามารถคิดอะไรได้เกินเพื่อน..เราคบกันมา10กว่าปี..อยู่ด้วยกันจนตัวแทบจะติด..เขามองร่างเล็กน่าทะนุถนอมนั้นได้แค่เพื่อนๆจริงๆ..เกินกว่านั้นไม่ได้จริงๆ..

     

    _________________________________

     

                เช้าวันต่อมา  ร่างบางที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับตั้งแต่เช้าสาวเท้าเร็วๆเดินออกมาจากรถโดยเร็วที่สุด..ไม่อยากเห็นหน้า..ไม่อยากร่วมใช้อากาศหายใจ!!..นั้นก็น่าจะรู้ว่าใคร  ขาเรียวเดินเข้าไปจนถึงจัตุรัสในมหาลัย  ถ้าเลี้ยวซ้ายแล้วเดินไปอีกหน่อยก็เป็นตึกเรียนของเขา  เพราะไม่อยากอยู่ดูหน้าไอ้คนกวนประสาทนั้นนานนัก..เขาก็เลยให้มาส่งที่หน้ามหาลัยแทนที่จะเป็นหน้าตึก

                แจจุงที่กำลังจะเดินไปยังตึกของตนเอง ..แต่ดวงตาสวยกลับไปสะดุดอะไรสักอย่าง ก่อนที่มุมปากจะกระตุกยิ้ม  พร้อมกับเปลี่ยนวิถีการเดินมุ่งตรงไปหาคนๆนั้น

     

                ..ปึก!

     

                โอ๊ะ!  นายเองเหรอ? ”  ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าคนที่ตนเองนั้นจงใจเดินเข้าไปชนน่ะเป็นใคร.แต่ก็ไม่วายทำให้เหตุการณ์มันกลายเป็นอุบัติเหตุ.. ร่างเล็กที่ถูกชนจากด้านหลังอย่างแรง  ตอนแรกก็กะจะไม่เอาเรื่อง..แต่พอรู้ว่าคนที่เดินชนเป็นใคร..อารมณ์มันก็ขึ้นสูง  ต่อให้เป็นอุบัติเหตุ..ก็ไม่เว้นหรอกจะบอกให้!!

     

                เฮอะ!! สวยแต่รูป..ไม่มีตาหรือยังไง? เดินชนมาได้   เสียงแหลมตะวาดเข้าให้..แต่ก็หาว่าคนตรงหน้าจะกลัว..เปล่าเลย..ซ้ำยังหัวเราะชอบอกชอบใจ

     

                “ ฮ่ะๆ..ขอโทษทีพอดีว่าตนฉันมันมองแต่ของที่เจริญแล้ว..ของต่ำๆ..ฉันไม่มองหรอก ”

     

                “ อ๋อเหรอ?..ก็อย่างว่าล่ะ..คนเราก็มักจะมองสิ่งที่เหมือนๆกับตนเอง.. คนเลวๆชั่วๆ ก็มักจะมองแต่สิ่งโสมม ดีร่านชาวบ้านไปทั่ว..ระวังเหอะ สักวันจะโดนเฉดหัว   ถ้าหากใครมาได้ยินคำสนทนาที่ไม่มีใครยอมใครนี้..เขาก็คงนึกงงว่าคำพูดพวกนี้ไม่น่าออกมาจนปากสวยๆพวกนั้นเอาเสียเลย

     

                “ อย่างน้อยก็มีคนให้เลือก..มันก็ดีว่าคนที่เอาแต่นั่งจมอมทุกข์ อยู่กับแต่ความรักที่ไม่เป็นจริง..อ๋อ..ผิดๆ..ต้อง ไม่มีวันเป็นจริง  ฉันพูดถูกไหม คิม จุนซู   ว่าเสร็จร่างบางของแจจุงก็เดินจากไปทิ้งให้ร่างเล็กได้แต่กำมือแน่น

     

                ..ก็เอาสิ!!  ระหว่าง รักที่ไม่เป็นจริง..กับรักที่โสมม  รักอันไหนมันน่าสมเพชกว่ากันล่ะ!!

     

    ...............................................................

     

                อ่ะ..วันนี้ เพื่อนรักไม่ได้มาด้วยเหรอ? ”  น้ำเสียงที่แสนประชดประชันของคิม แจจุงดังขึ้นหลังจากเดินลงจากบันไดเพื่อมากินข้าวเที่ยงที่โรงอาหาร และก็พบกับร่างสูงของปาร์ค ยูชอนที่ยืนคอยอยู่หน้าตึก

                ...รู้ตัวนิ..ว่าทำให้เขาโมโห

     

                เปล่า..เมื่อวานฉัน..

     

                เก็บคำอธิบายไปเหอะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากจะฟัง   ไม่ว่าเปล่าแจจุงก็เดินออกไปโดยไม่คิดจะสนว่าปาร์ค ยูชอนจะเดินตามมาหรือไม่.. แต่เขาก็เดินตามมาก่อนจะฉุดข้อมือบางให้หยุดเดิน

                ..เขาไม่ชอบง้อใครเท่าไหร่  แค่อุตส่าห์เดินมาอธิบายนี่ก็มากแล้ว

     

                “ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง..ฉันไม่ชอบอะไรที่มันค้างๆคาๆ   พูดจบร่างที่สูงกว่าก็ออกแรงลากแจจุงที่เริ่มทำตัวขันขืนให้ออกไปจากโรงอาหารที่มีแต่คนพลุกพลาน จากนั้นร่างสูงก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก  จะมีก็แค่เสียงของคิม แจจุงที่โวยวายว่าไม่ไปๆ  จนกระทั้งมาถึงสวนหลังมหาลัยที่ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีคน..อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้พิ่งพักนักศึกษาก็เลยยังอยู่ที่ในโรงอาหาร

                 ยูชอนเหวี่ยงคนตัวบางให้มายืนอยู่หน้าเขา  โดยไม่ปล่อยมือบางนั้นเผื่อว่าเจ้าตัวคิดที่จะหนี  มือบางพยายามบิดหรือสะบัดให้หลุด..แต่มันก็มีแต่แน่นขึ้น

     

                ฉันบอกว่าไม่ฟังไง!!

     

                อย่าทำตัวงี่เง่าได้ไหม!!  เมื่อวานฉันก็แค่พาจุนซูไปโรงพยาบาล..แค่นั้น พอกลับมานายก็ไม่อยู่แล้ว จะให้ฉันทำยังไง โทรหานายก็กดสายทิ้ง..ฟังเหตุผลหน่อยสิ!!  กลายเป็นว่าคนบอบบางโดนยูชอนรวบบตัวเข้ามากอดแน่น เพราะเจ้าตัวรู้สึกจะฤทธิมาเสียเหลือเกิน

     

                “ หมอนั้นมันก็แค่ทำตัวสำออย!! โกหก มารยา!! แต่อะไรก็ช่าง ฉันไม่สน ปล่อยฉันสักที!..ก่อนที่ฉันจะเบื่อนาย..อีกอย่าง ถ้าคิดจะไปหาไอ้เพื่อนรักเวรนั้น ก็ไปเลยสิ!! มาสนฉันทำไม!

     

                ไม่!!..บอกไว้ก่อนเลยนะ..ตอนนี้ฉันยังไม่เบื่อ อีกอย่างของๆฉัน ถึงฉันไม่แคร์ ยังไงก็เป็นของๆฉันอยู่ดี

     

                “ ฉันไม่ได้เป็นของๆใครทั้งนั้น..เราตกลงเอาไว้ยังไง..ก็น่าจะรู้   เหมือนดวงตาที่แข็งกร้าวของยูชอนจะดูลดลงเล็กน้อย

     

                ยูชอน..ระหว่างเรามันก็แค่ความใคร่..ก็แค่ความต้องการทั้งสองฝ่าย  คบกันเพราะแบบนั้นจริงๆ.. เราสองคนมีอะไรที่เหมือนกัน..คล้ายๆกัน มีความต้องการที่เหมือนกัน  เลยไปกันได้เกือบทุกอย่าง..เป็นแฟนกัน..เป็นคนรักกัน แต่ไม่ได้เกิดจากความรัก มันแค่รักที่ต้องการ หวงได้ หึงได้..แต่ก้าวกายกันไม่ได้

     

                “ เอาเถอะ..ยังไงก็ขอโทษเรื่องที่ให้คอยแล้วกัน..แต่ก็อย่างที่บอก..

     

                ชดใช้ด้วยล่ะ   รอยยิ้มกว้างกระตุกขึ้นนิดๆตามฉบับของเจ้าตัว ก่อนจะโน้มตัวลงพร้อมๆกับร่างบางที่โอบรอบคอของยูชอนเอง  ริมฝีปากที่ชิดกันช้าๆ บดเบียด แลกความหอมหวานของตนเองให้แก่อีกฝ่ายได้ลิ้มรส..ร้อนแรง และรุนแรง หาความอ่อนหวานไม่ได้เลย..ซักนิด

     

    .

     

                รักที่น่ารังเกลียด

     

                ไม่มีงานทำเหรอ? ”

     

                “ นี่แหละงาน..แล้วเธอล่ะ..ไม่ไปกินข้าวเที่ยงเหมือนเด็กคนอื่นหรือไง

     

                แค่เห็นเจ้านั้น..ฉันกินไม่ลงหรอก ”

     

    ....................................................................

     

                “ คุณคิม ..ไม่ทราบว่าคุณปาร์ค ยูชอนหายไปไหน?..ถึงได้ปล่อยให้เธอนั่งทำงานอยู่คนเดียว ”  เสียงแก่ๆของของอาจารย์ที่เดินดูนักศึกษาที่กำลังทำรายงานเป็นคู่อย่างตั้งใจ.. แน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าวิศวะ..เด็กเกือบทุกคนก็จะพบโน้ตบุ๊กมากด้วย..รวมไปถึงตัวเขา ร่างเล็กที่กำลังนั่งพิมพ์รายงานอยู่คนเดียว ค่อยๆขยับปากทั้งๆส่ายตาไม่ได้ละออกมาจากจอคอม

     

                “ ผมไม่ทราบ.. ”

     

                “ งั้น..เธอก็ควรจะโทรบอกให้เขาเข้ามาเรียนคาบของฉันบ้างนะ..ไม่งั้นฉันก็คงต้องให้เกรดตามความจริง..อีกอย่าง เธอก็ออกจะเป็นเพื่อนสนิทดี.. ” ประโยคสุดท้ายมันจุกอยู่ทีคอ..นิ้วเรียวที่กำลังพิมพ์อยู่นั้นหยุดชะงัก  ก่อนจะลงพิมพ์ต่อ

     

                ...นึกว่าเขาไม่รู้หรอก..ว่ายูชอนไปไหน..

     

                จุนซูไม่ตอบเพียงแต่พิมพ์ ต่อไป.. แต่พิมพ์ต่อไปได้ไม่นาน อาจารย์ก็ขอตัวเดินไปหยิบเอกสารที่ลืมเอาไว้ที่ห้อง..ร่างเล็กที่เห็นว่าอาจารย์ประจำคาบออกไปแล้ว มือบางก็คว้าปิดฝาพับโน้ตบุ๊กก่อนจะยัดมันลงกระเป๋า  พร้อมกับเดินออกมาจากห้อง ขาเรียวก้าวออกมาจากอาคารเรียนก่อนจะเดินอ้อมไปหลังอาคารเพื่อตรงไปยังรถ Maybach 57 s สีดำพร้อมกับขับออกไปอย่างรวดเร็ว

     

                ..ทำไม..ฉันถึงทำใจเกลียดนายไม่ได้สักทีนะ

     

    ________________________________________

     

                ร่างบางที่เดินเข้ามายังล็อกเกอร์ของตนเอง มือบางคว้ากระเป๋าใบแพงของตนเองขึ้นมาสะพายก่อนจะปิดมันลง..อันที่จริง  กริ๊งเลิกเรียนมันก็ยังไม่ดัง..แต่เขาก็กะว่าจะโดด..แน่ล่ะ ไปกับยูชอน  ..ทำให้ห้องน้ำมันไม่ถนัด!!

     

                “ จะไปไหน? ”

     

                “ อ่ะ!  แจจุงถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆก็มือมือทั้งสองข้างกระแทกเข้าที่ล็อกเกอร์เขาเพื่อกักตัวเขาเอาไว้ไม่ให้เดินหนี  ร่างบางที่สะดุ้งตกใจหันใบหน้ามองร่างสูงด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจเป็นที่สุด..แต่จะหนีไปไหนล่ะ?

     

                “ นี่คือการโดดเรียนครั้งที่สองของนาย.. ”

     

                “ แล้วไง?..มันเกี่ยวกันนายตรงไหนไม่ทราบ? แล้วงานการน่ะ ไม่มีทำหรือไง มัวแต่ตามฉันอยู่ได้!!..แม่ฉันน่ะ ไม่ไปบำเรอต่อแล้วระ.. ”

     

                เพี๊ยะ!!

     

                “ นายจะว่ายังไงฉันก็ได้..แต่นายไม่มีสิทธิ์ที่จะกล่าวหาบุพการีของนายแบบนี้ ”  มือบางจิกกำไหล่หนาทั้งสองข้างแน่น..ใบหน้าหวานเหยแกนิดๆ  เพราะไม่ได้เจ็บเพียงแต่แรงตบที่ฝาดเข้าที่พวงแก้ม หากแต่ยังซ้ำด้วยการบีบคางมนอย่างแรง  ใบหน้าที่เข้าใกล้กันจนรับรู้ถึงลมหายใจของทั้งคู่..แถมยังมีความรู้สึกไม่ต่างกัน..น่ารังเกียจ!

     

                “ แล้วจะทำไม?..ก็ฉันพูดความจริง!..โอ๊ย!

     

                “ เจ็บ!..ฉันเจ็บ!!  เสียงหวานดังขึ้นอู้อี้ ก่อนที่ยุนโฮจะยอมปล่อยมือออกพร้อมกับเปลี่ยนเป็นกระชากข้อมือบางให้เดินตามตนเองแทน

     

                “ ปล่อย!!..ฉันเจ็บ!!!  ชอง ยุนโฮ! ปล่อยได้ยินไหม!!

     

                “ ไม่!..เพราะฉันจะพาเด็กกรานโลกอย่างนายไปลงโทษ.. ”

     

    _________________________________

     

                ร่างสูงจัดการโยนกระเป๋าของตนเองใส่เบาะหลังอย่างไม่ใยดีพร้อมกับปิดประตูรถอย่างแรงก่อนจะย้ายตัวมานั่งยังที่ประจำคนขับ รถสปอร์ตสีแดงสด ถูกเหยียบคันเร่งตามแรงอารมณ์ร้ายของเจ้าตัว..อารมณ์ค้าง รู้จักไหม!!..ทั้งค้าง ทั้งโมโห ทั้งขัดใจ!!

                แน่นอนว่าค้างเกิดจากอารมณ์ที่ค้างคากับแจจุง..โมโหที่เห็นว่าคนรักของตนเองถูกพาขึ้นรถไปโดยไม่ได้ล่ำลา..จะตามก็ไม่ทัน ขัดใจที่ขึ้นห้องเรียนไปแล้วร่างเล็กของจุนซูก็ไม่อยู่ในระบายอารมณ์..ถามใครเขาก็บอกว่าออกไปแล้ว..ออกไปไหน?

     

                .. จะโทรถามก็กระไรอยู่ เมื่อเช้าก็ไม่มองหน้ากัน  เมื่อตอนกลางวันก็ไม่ได้เดินตามเขาเหมือนเดิม ไม่มีแม้แต่คำพูด  ..ขอบอกว่าไม่ได้แคร์อะไรมาก..มันก็แค่ดูขัดหูขัดตา อาจจะเกิดจากความเคยชิน พอขาดๆไป..มันก็เหมือนไม่ใช่ คิดมากทำไม..ยังไงจุนซูก็เหมือนของตายสำหรับเขา

                ..ถ้าไม่เชื่อ เขากล้าสาบานด้วยความเป็นลูกผู้ชายเลย..ว่าถ้าเขาไปหาจุนซูที่บ้าน..แค่ชวนไปกินข้าวเย็น คุยด้วยนิดๆหน่อยๆ  เดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม..  แต่ก็นั้นแหละ..เล่นอะไรเป็นเด็กๆไร้สาระสุดๆ

     

                ..คิม จุนซูก็เหมือนของตายสำหรับเขา

     

                .. แต่คิม จุนซู ไม่ยอมเป็นของตายสำหรับใคร

     

    _____________________________________

     

                “ เจ็บ!..ปล่อยฉันได้หรือยัง? ”  แม้ว่ายุนโฮจะหยุดเดินแล้วแต่มือหนาก็ยังไม่ปล่อยมือออกจากข้อมือบาง  ใบหน้าหวานเหลือบมองข้อมือเป็นนัยน์ๆว่าให้ปล่อย..แต่ยุนโฮกลับยิ้มกว้าง  แจจุงเริ่มสังเกตถึงสถานทีที่ร่างสูงได้พาแจจุงมายืนอยู่ตอนนี้

     

                ..หลังบ้านเนี่ยนะ!!

     

                “ พาฉันมาที่นี้ทำไม? ”

     

                “ หืม?..งั้นฉันถามหน่อยสิ..ว่าหลังบ้านนายปกติแม่บ้านเขาใช้ทำอะไร? ”

     

                ..ซักผ้าสิ..ถามโง่ๆ!!....หรือว่า!?

     

                “ ฉันเดาว่าเด็กฉลาดอย่างนายคงจะรู้คำตอบ..เพราะฉะนั้น ซักผ้ากองนั้นให้เสร็จ..แล้วก็เอาไปตากด้วยล่ะ ”

     

                “ ทำไมฉันต้องทำ!!.แม่ของฉันจ้างแม่บ้านมาแพง!..แล้วทำไมฉันต้องทำ! อยากทำนักก็ทำเองสิ ”  ไม่ว่าเปล่าร่างบางเตรียมที่จะเดินหนีแต่ก็ติดอยู่ตรงที่ว่าข้อมือของเขานั้นยังคงถูกกุ่มเอาไว้อยู่  แจจุงจิปากน้อยๆ พลางออกแรงสะบัดให้หลุด แต่ก็ไม่เป็นผล ต่างจากร่างสูงที่ยังคงได้แต่ยืนยิ้ม

     

                “ เด็กเกาหลีส่วนมากเขาก็ทำกัน..เพราะฉะนั้น..นายก็ต้องทำ และนี่ก็คือบทลงโทษของนาย นี่ยังแค่เบาะๆนะ..หวังว่าคงไม่มีครั้งที่สามอีกนะเอาล่ะ ! ทำเสร็จเมื่อไหร่ก็ได้ไปอาบน้ำกินข้าว..หรือจะซักผ้าอย่างเดียวก็ได้นะ.. เอ๊า!..ยืนช้าอยู่ทำไมล่ะ! ทำสิ่ง นี่สายยาง ”  ร่างสูงยอมปล่อยข้อมือบางก่อนจะส่งสายยางที่ว่าไปให้ แจจุงตวัดมือรับมันก่อนจะเดินไปยังก๊อกน้ำที่เชื่อมต่อกับสายยาง พร้อมกับเปิดมันสุดแรง

     

                ซ่า!!

     

                “ โอ๊ะต๊าย?..โทษทีนะยุนโฮ..พอดีว่าไม่ทันระวัง ”  เสียงประโยคขอโทษที่ดังเสียงเสียเหมือนว่าตนนั้นรู้สึกผิดเสียงเต็มประดา หากแต่เสียงหัวเราะที่ตามมาที่หลังทำเอายุนโฮควันออกหู..แจจุงรีบก้าวเท้าหวังจะเดินออกไปจากตรงนี้..แต่ก็ไม่สำเร็จดังหวังเพราะยุนโฮกระชากร่างบางเข้ามาแนบกาย

     

                “ งั้นนายก็ควรจะระวังให้มากกว่านี้หน่อย..เห็นทีคงต้องใช้กำลังกันบ้าง ”

     

                .

                .

     

                “ ฉันแสบมือ!!  เสียงหวานตะโกนขึ้นอย่างขัดใจ..แต่ก็ทำอะไรไม่ได้..อีกแล้ว!  ร่างสูงที่ยืนตัวชื้นพิงกำแพงกอดอกเหล่มองร่างบางที่มองมาทางตนด้วยความเฉยชา

     

                “ ไม่ตายหรอก!

     

                “ ฉันไม่ได้มือด้านอย่างนายนิ!!!  แจจุงตะโกนอีกครั้งก่อนจะปาเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยฟองของผงซักฟอกใส่ร่างสูงเต็มๆ   ยุนโฮก้มมองเสื้อสีขาวที่ตกอยู่ที่พื้นสลับกับร่างบางที่ยืนขึ้นอย่างหัวเสีย ยุนโฮเดินมาเข้าใกล้ร่างบางก่อนจะ..

     

                “ โอ๊ย! เจ็บ!!..ฮึก..เจ็บ!  เอวคอดกิ่วขยับหนีนิ้วหนาที่หยิกเข้าที่เอวบางจนเกิดรอยแดง มือบางยกขึ้นกุ่มบริเวณที่โดนหยิกอย่างไม่อ้อมแรง.. แต่คนทำก็ทำหน้าเฉย

     

                “ ไปหยิบเสื้อของนาย..แล้วเอามาซักใหม่ ”

     

                “ ไม่!!..ฉันไม่ทำ!!

     

                “ อย่างลองดีหรือไง.. ”  วาจาอันเยือกเย็นนั้นไม่ได้ทำให้ร่างบางนึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย..ร่างบอบบางที่ตอนนี้มีรอยแดงเป็นจ้ำๆไปตามจุดที่ถูกร่างสูงหยิก นัยน์ตาหวานฉายแววก้าวราว แต่เพียงแค่ร่างสูงย่างกายเข้าใจ ร่างบางก็เตรียมเดินหนี แต่เพราะเดินไปไหนไม่พ้นก็เป็นอันถูกจับ.. จะแกล้งอะไรต่อก็ไม่ได้ เสื้อผ้าของก็ของตนเอง..แพงๆทั้งนั้น ส่วนสภาพของตนเองในตอนนี้ทั้งเละฟองทั้งเปียกปอน..

                ..ก็คนไม่เคยทำ!! อีกอย่าง ตอนนี้มือเขาทั้งลอกทั้งเปื่อย แสบไปหมดแล้วเนี่ย!!

     

                “ ทำตามที่ฉันสั่ง ”  แจจุงสะบัดตัวก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อของตนเองขึ้นมาพร้อมกับปามันกลับเข้าไปในกะละมัง มือบางใช้มือขยำๆก่อนจะโยนมันใส่อีกกะละมังที่เต็มไปด้วยน้ำสะอาด  ลากไปลากมาอยู่ในน้ำก่อนจะยกขึ้นมาบิดๆทั้งๆที่น้ำยังออกไม่หมดร่างบางก็โยนมันใส่ตะกร้าก่อนจะหันมามองร่างสูง

     

                “ พอใจหรือยัง? ”  ยุนโฮมองร่างบางที่ถามเขา ก่อนจะยิ้มกว้าง

     

                “ ยัง..นายต้องเอาน้ำในกะละมังไปเทใส่ต้นไม้ด้วย ”  แจจุงกำมือแน่น..แต่ก็ยอมทำ..ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของแจจุงมือน้ำที่ที่มีฟองอยู่เต็ม ก่อนจึงค่อยใช้มือยกมันขึ้นมาพลางเดินไปหาร่างสูง โดยไม่ให้ได้ทันตั้งตัว มือบางก็เทน้ำในกะละมั้งใส่ร่างสูงเต็มๆพร้อมกับใบหน้าที่ยังคงปรากฏรอยยิ้ม

     

                “ อ่ะโทษที..มันหนักถือไม่ไหว ”  แจจุงว่าก่อนจะ ผละออกไปวางกะละมังลงแต่ไม่ทันที่จะเดินหนี ยุนโฮก็คว้าไหล่บางทั้งสองข้างมาจับไว้  ใบหน้าหล่อที่เปียกซก บวกกับกลิ่นน้ำยาที่ใช้ซักผ้าฟุ้งกระจาย ค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของทั้งคู่แทบจะชิดกัน แต่ร่างบางก็แสดงอาการรังเกียจโดยการถอยตัวหนี แต่ก็นั้นแหละ..

                ส้นเท้าไปสะดุดกับสิ่งที่อยู่ข้างหลังก่อนจะเซตัวล้มไปข้างหลัง พร้อมๆกับร่างสูงที่จงใจปล่อยตัวร่างบางให้ล้มลง..เพราะสิ่งที่รองรับอยู่เบื้องล่างก็คือ..กะละมังอีกใบที่มีน้ำล่างผ้าอยู่เต็ม

     

                “ ขัดเกลาตัวเองบางนะ..มันสกปรกเกินไป..เผื่อมันจะสะอาดขึ้นมาบ้าง ”  ว่างเสร็จร่างสูงก็เดินออกไป ทิ้งให้ร่างบางนั่งหัวเสียอยู่ที่เดิม

     

                “ เหี๊ยเอ๊ย!!!

     

    ______________________________________

     

                TALK::

     

                ฮี่ๆ..จบไปอีกตอน.. ตอนหน้า..สาวกยุนแจก็..รออ่านเอาเองนะเคอะ-.,- ไปล่ะ(ฟิ้ว~) ฮ่าๆ ล่อเล่นๆ..อยู่คุยกันก๊อนน~.. ตอนนี้อาจจะเห็นอะไรของเจ๊ๆทูคิมเข้าไปแล้ว..ว่าพี่แกไม่ถูกกันจริง            = =.. แต่เอ๊ะ! ตอนนี้ยุนโฮไปไหม?? งืมๆ โหดดี(วะ) ไรเตอร์ชอบXD   อ่าช่วงนี้ไรเตอร์ไม่ค่อยมีเวลาอัพเลย..อันนี้ก็ต้องขอโทษด้วยนะค่ะTT ขอโทษจริงๆ  ท๊อกน้อยหน่อยเพราะว่าการบ้านกองเต็มตัวแล้ว=..=  ต้องรีบไปสุ่มหัวกับเพื่อน เดี๋ยวไม่เสร็จ(ส่งพรุ่งนี้ด้วยTT) ไปล่ะเอ๊อ

    PS" ถ้ามีคำผิดต้อง SORRY ด้วยนะจ๊วบ-3-

     

    อย่าลืมคอมเม้นนะที่รัก!!! 

    รักคนอ่าน+คอมเม้น~

               

     

             

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×