คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : + LLD {2} +
‘ LOVE LIKE DESTINY2 ’
_______________
แผ่นเป้าที่ถูกเอาออกมากางหลังจากที่มันถูกยิงจนเกือบพรุน จุดกลางที่ถูยิงดูเหมือนจะขยายใหญ่กว่าที่ควรจะเป็น แต่ถึงกระนั้นมันยังคงอยู่ตรงกลางเช่นเดิม ความหมายของมันคือ...ผู้ยิงนั้นไม่ได้ยิงพลาดออกจากตรงกลางเลยแม้แต่น้อย ฝีมือที่แทบจะกลายเป็นนักแม่นปืนได้ง่ายๆ
“ น้อยคนนะสำหรับ ตำรวจมือใหม่ที่จะยิงแม่นได้ขนาดนี้ ” คนที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทั้งห้องเงียบไปกับผลการยิงเมื่อกี้ คนที่ถือแผ่นพยักหน้ารับก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ ร่างบางเดินกลับมานั่งบนโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างๆก่อนจะหันมองแผ่นเป้าของตัวเองที่ดูเหมือนว่ามันจะพลาดไปสองครั้ง...น่าอายจริง
“ ไม่เป็นไรหรอกแอล...ไปรายงานกับคนคุมดีกว่า ฉันว่า เขาคงผ่านแล้วหล่ะ ”
“ นั้นสินะ ” แอลหันมายิ้มให้ชางมินก่อนจะเอื้อมไปม้วนแผ่นเป้าใส่ซองเพื่อที่จะนำเอาไปให้หัวหน้าผ่านจัดการเรื่องนี้ต่อไป “ เย็นนี้รีบกลับรึเปล่า อย่าเพิ่งรีบกลับแบบเมื่อวานนะ ”
“ นายจะทำอะไรล่ะหื้ม? ไม่มีเพื่อนอยู่กินข้าวรึไง ”
“ เดาเก่งดีจัง เพราะฉะนั้นวันนี้อยู่เย็นหน่อยนะ เดี๋ยวไปส่งที่คอนโดให้ก็ได้...หรือจะไปกินที่คอนโดนายหรือว่าบ้านฉันดี ” แอลเงยหน้ามองก่อนจะหัวเราะออกมา เรื่องอะไรจะให้ไปทำของรกที่คอนโดเขาเล่า เพราะถ้าเป็นแบบนั้นคนที่เก็บของก็คงหนีไม่พ้นตัวของเขาเอง
“ ก็ต้องเป็นที่บ้านนายน่ะสิชางมิน...เอ้า เอาไปให้สารวัตชองหน่อยสิ เดี๋ยวขออยู่เก็บของก่อนแล้วกัน แล้วจะตามไปนะโอเคเด็กน้อย ”
“ฮ่าๆๆ..แล้วเจอกันแล้วกันนะ ”
ร่างเล็กของผู้ช่วยตำรวจพิเศษเดินมาเก็บอุปกรณ์ต่างๆลงใส่ที่ของมัน พลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แม้จะเจ็บใจอยู่เล็กๆที่ตัวเองทำพลาดไปแต่ถึงแม้ว่าตัวเองจะทำไม่พลาดเลย เขาก็มั่นใจว่าคนๆนี้ต้องได้รับการผ่านการคัดเลือกแน่นอน แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเองพลาด ก็คงเป็นคำพูดสนทนาระหว่างเขากับคนนั้นที่เกิดขึ้นที่ก่อนทำบททดสอบ
...คำพูดที่ทำลายสติของเขาเกือบหมดสิ้น
“ กำลังคิดขัดผมอยู่เหรอครับ? ”
“ คิมแจจุง... ”
“ แอล คุณเป็นคนฉลาด ผมรู้ว่าคุณมองคนอย่างผมออกได้อย่างง่ายดาย และคุณก็รู้อยู่แล้วว่าต่อจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเข้าได้แล้ว ”
“ แล้วนายจะจัดการฉันหรือไงหื้ม ”
“ แน่นอนครับ...แต่คนที่จัดการคุณ ไม่ใช่ผมหรอกนะ เพราะฉะนั้นให้ผมทำตามส่วนของผม คุณก็ทำส่วนของคุณดีกว่านะครับ ความลับที่เรารู้ระหว่างกัน ก็ขอให้มันอยู่แบบนี้ต่อไปอย่าได้คิดที่จะเปิดมันออกมาเสียจะดีกว่า ”
.
.
“ คิดว่ายังไงหื้ม? ยุนโฮ ” มือหนาคว้าหยิบเอกสารออกมาจากซอง ดวงตาคมเรียวทรงอำนาจนั้นจ้องมองข้อมูลในแผ่นกระดาษนั้นอย่างพิจารณา จนกระทั้งถึงแผ่นสุดท้ายก่อนที่รอยยิ้มบางๆจะระบายออกบนใบหน้าเรียวเล็กนั้น
“ คุณอาก็น่าจะรู้คำตอบผมอยู่แล้วนี่ครับ ผมว่า..คำตอบของเราสองคนก็คงไม่ต่างกันหรอก ใช่ไหมครับ ”
“ หลานอยากจะให้เขาไปเป็นผู้ช่วยหลานไหม ได้คนเก่งๆแบบนี้มาเป็นมือช่วยอีกคน ก็คงจะผ่อนแรงเราไปได้เยอะเลยนะยุนโฮ ชางมินกับแอลเขาจะได้มีเวลาไปทำนู่นทำนี่กันบ้าง ” ว่าแล้วคนแก่อย่างชิม ยองอุนก็อดไม่ได้ที่พูดเน็บแนมเจ้าลูกชายที่ดูเหมือนวันๆจะเอาแต่เดินป่วนเขาไปทั่ว แต่ถึงอย่างนั้น...ฝีมือของเจ้าชางมินนั้นก็ไม่ได้เป็นรองใครเลยโดยเฉพาะด้านความคิด
“ ฮ่าๆ คุณอารู้ด้วยเหรอครับ ”
“ ก็ลูกชายทั้งคนนี่นะ...ว่ายังไงละยุนโฮ อาว่าน่าสนใจนะ คิมแจจุงเนี่ย ”
“ ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็โอเคครับ ยังไงให้เขาเริ่มงานไปซักพักก่อนดีกว่าแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของผมแทน..ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ ขอบคุณครับอา ” ร่างสูงของสารวัตชองยุนโฮยกยิ้มให้กับอาแท้ๆของตัวเองก่อนจะรวบรวมเอกสารต่างๆเก็บเข้าใส่ซองแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืนเต็มความสูงโดยไม่ลืมที่จะโค้งให้แก่ผู้อาวุโสหรือในที่นี่คือเป็นคนที่มีบุญคุณต่อเขามาก
พ่อของเขาก็เป็นตำรวจแต่ท่านก็ได้มาจากไปในหน้าที่เมื่อตอนที่เขาอายุเพียงแค่19เท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ได้สัญญาเอาไว้กับพ่อของตัวเองเอาไว้ว่าจะเป็นตำรวจทีดีเหมือนพ่อแม้ว่าจะโดนแม่ของตัวเองคัดค้านเท่าไหร่ก็ตาม ทว่าต่อมาแม่ของเขาก็มาจากเขาไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อตอนที่เขารับเขาราชการใหม่ๆ สุดท้าย อาของเขา อาชิม ยองอุนก็รับเขามาดูแลอีกคนจนเปรียบเสมือนลูกชายของท่านอีกคน เขาก็เลยมีศักดิ์เป็นพี่ชายของชางมิน
ขายาวก้าวไปตามทางเดินเรื่อยๆจนกระทั้งผ่านไปยังสวนหย่อมเล็กๆ ซึ่งอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้ตัวเองหันมองไปทางสวนนั้นซึ่งสิ่งเดียวที่ทำให้สวนนั้นต่างไปจากทุกๆครั้งก็คือ ผู้ชายร่างบางติดสูงนิดๆ กลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มอมส้มนิดๆเมื่อสะท้อนเข้ากับแสงของดวงอาทิตย์ ยุนโฮเดินตรงไปหาร่างบางที่ดูเหมือนกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่กับใครซักคน
“ ได้แน่นอนครับ...อ๊ะ ” แต่เหมือนว่าร่างบางนั้นจะมีสัมผัสที่ไวกว่าคนปกติทั่วไป เพราะเพียงแค่เขาเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าหวานนั้นก็หันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าตกใจก่อนที่มีขาวนั้นจะกดวางสายมือถือของตัวเองแล้วเก็บมันเข้ากระเป๋าแทบจะทันที
“ อ่า..ขอโทษทีนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจให้คุณตกใจเป็นครั้งที่สอง ” อย่างน้อยๆก็ยังโชคดีที่ในมือของคิมแจจุงไม่ได้มีปืนอย่างในครั้งแรก เพราะไม่แน่ว่ามันอาจจะได้ระเบิดหัวเขาเป็นแน่
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ...ว่าแต่ สารวัตมีอะไรกับผมรึเปล่าครับ? ” มือขาวข้างหนึ่งขยับเอื้อมไปด้านหลังราวกับยืนเอามือไพร่หลังทว่ามือขาวนั้นกลับสัมผัสเข้าที่กระบอกปืนเก็บเสียงขนาดเล็กที่นักฆ่าอย่างเขาจำเป็นต้องมีมันติดตัวเอาไว้แล้วยิ่งเฉพาะเหตุการณ์ที่สมควรแก่การใช้แบบนี้
...มาให้ฆ่าถึงที่เลยนะ ชองยุนโฮ
“ ก็...แค่จะมาบอกคุณแจจุงน่ะครับว่าเดี๋ยวทางเราจะส่งเอกสารตอบรับไปที่บ้าน ยังไงก็ ขอให้โชคดีนะครับ เราคงจะได้ทำงานร่วมกันแน่นอน ” ใบหน้าหวานพยักหน้าเล็กๆก่อนนะยกยิ้มออกมาให้คนตรงหน้า ซึ่งชองยุนโฮยังคงยืนยิ้มไม่ยอมหุบอยู่ตรงนั้น
“ อ่า ขอบคุณนะครับสารวัต ”
“ ด้วยความยินดีครับ และนี่คุณแจ--- ”
“ สารวัตชองครับขออนุญาตครับ! มีงานด่วนเข้า ” ใบหน้าคมหันมองกลับไปยังทางที่ตัวเองเดินจากมาเมื่อกี้ ปรากฏเป็นร่างของตำรวจนายหนึ่ง เขาหันไปพยักหน้ารับก่อนจะหันกลับมามองร่างบางที่ยืนยิ้มบางๆให้ตัวเอง “ ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอตัวก่อนนะครับ แล้วเจอกันนะครับ คุณแจจุง ”
“ ครับ ” ร่างบางของคิมแจจุงยืนมองร่างสูงของเหยื่อของตัวเองที่วิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ มือขาวผละออกจากกระบอกปืนของตัวเองเมื่อมันไม่จำเป็นต้องใช้งานอีกต่อไป แล้วก็เป็นโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของตัวเองนั้นแหละที่ถูกเจ้าของๆมันหยิบขึ้นมาต่อสายไปยังคงที่ตัวเองยังคงพูดค้างคาเอาไว้อยู่
“ ขอโทษทีนะครับ... ”
...ฆ่านายตอนนี้มันจะไปสนุกอะไรกันละจริงไหม ชองยุนโฮ...
...ยังไงซะเราก็ต้องได้ทำงานร่วมกัน ปล่อยให้นายดิ้นรนต่อไปเสียจะดีกว่า หึ!
_______________
“ โอ๊ย! ให้ตายเถอะ ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้นะ ” ร่างสูงโปร่งเดินตรงเข้ามาทั้งตัวยังโซฟาตัวยาวซึ่งไร้พนักพิงโดยกองอุปกรณ์ต่างๆเอาไว้ที่พื้นอย่างไม่สนใจมันอีก มันเลยเป็นเรื่องของคนที่เดินตามมาจำเป็นต้องตามเก็บของนั้นไปเก็บที ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ยังที่คนที่นอนคว่ำหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่ที่โซฟา
สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่างานด่วนที่เพิ่งเข้ามาเมื่อบ่ายนี้ทำให้ตัวเองกลับมาที่คอนโดเรทแถมงานที่เข้านั้นก็ไม่ได้เป็นงานใหญ่อะไร ก็แค่ไปวิ่งไล่จับคนร้ายที่เล่นการพนันกัน เขาก็เพิ่งรู้ว่าคนมันวิ่งเร็วขนาดนี้นะเนี่ย จะยิงก็ยิงไม่ได้
“ แล้วนี่ตกลงว่าจะทำอะไรกินเนี่ยชางมิน ”
“ อะไรก็ได้ ทำให้หน่อยสิแอล...ฉันหิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย ” เสียงอู้อี้ที่ดังขึ้นตอบทั้งๆที่ยังคงนอนอยู่อย่างนั้น ร่างเล็กของแอดหลุดขำออกมาก่อนจะเดินเข้าไปทำอาหารเย็นในครัวโดยปล่อยให้ร่างสูงโปร่งนั้นนอนพักไปก่อน เพราะเขารู้ว่าเดี๋ยวพอได้กลิ่นอาหารก็กลับมามีชีวิตชีวาเองนั้นแหละ
______________
“ ก็ตามใจ พี่ดูแลได้อยู่แล้ว ดูแลตัวเองด้วยละยูฮวาน ” ร่างสูงของปาร์คยูชอนที่กำลังสนทนาอยู่กับน้องชายที่ขอนอนพักอยู่บ้านของตัวเองเนื่องจากนอนซมเพราะพิษไข้ ยูชอนยกนาฬิกาขึ้นดูก่อนจะเอ่ยวางสายไปเมื่อเห็นว่าควรจะปล่อยให้น้องชายของตัวเองนอนได้แล้ว
“ ยูฮวานไม่สบายเหรอครับยูชอน ” ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มผืนหนาปกคลุมช่วงล่างเอาไว้ หลังบางที่เอนพิงกับหัวเตียงโดยมีหมอนเป็นตัวกั้นเอาไว้เพื่อให้ได้นั่งสบายมากขึ้น ร่างสูงเดินตรงกลับมานั่งยังเก้าอี้ข้างๆเตียงพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง มือหนายกขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่มเบาๆ
“ ครับ ยูฮวานไม่สบายแต่ผมให้คนเข้าไปดูแลแล้ว เดี๋ยวก็หาย ”
“ เป็นหมอแต่กลับไม่สบายแบบนี้มันก็ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่เลยเนอะ ” เสียงหัวเราะเล็กๆดังขึ้นจนอดไม่ได้ที่จะทำให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะขำตามไปด้วย มันก็เป็นเรื่องจริงอยู่ที่ว่าหมอไม่ค่อยน่าจะเป็นหวัดเอาง่ายๆแต่หมออย่างปาร์คยูฮวานกลับเป็นหวัดเอาง่ายๆเพียงแค่อากาศเปลี่ยนก็เริ่มคัดจมูกซะอย่างนั้น
...จะว่าไป เขาก็เป็นเหมือนกันนั้นแหละ ไอ้เจ้าภูมิแพ้เนี่ย
“ ว่าแต่...เหมือนว่าข้างนอกฝนจะตกเลยนะครับ ผมได้ยินเสียงฟ้าร้องเมื่อกี้ ” ยูชอนพยักหน้ารับ เพราะว่าเมื่อกี้ตัวเองก็เหมือนจะได้ยินมันเหมือนกัน เขาระบายยิ้มบางๆให้กับคนที่เริ่มมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่ติดหวาดกลัวนิดๆตามภาษาคนที่กลัวฟ้าร้อง ทำไมเขาจะไม่รู้
...เหมือนจะมีเค้าเสียแล้วว่าตัวเองจะได้มานอนห้องนี้
“ นั้นสินะ เมื่อกี้ข่าวก็ออกว่าฝนจะตกหนักเชียวหล่ะ จุนซูอยู่คนเดียวได้ใช่ไหมครับ? ” ร่างสูงถามลองเชิงนิดๆซึ่งยังไงเขาเองก็รู้คำตอบดีอยู่แก่ใจ แต่สุดท้ายคำตอบที่ได้กลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาหวัง เพราะว่าร่างเล็กพยักหน้าขึ้นลงช้าๆแทนคำตอบว่าตัวเองนั้นสามารถอยู่คนเดียวได้
“ ถ้าอย่างนั้น...ผมขอตัวกลับก่อนนะรู้สึกเพลียๆยังไงไม่รู้ ยังไงคืนนี้ก็ฝันดีนะครับ ” ร่างสูงลูบกลุ่มผมนิ่มเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ริมฝีปากหยักนั้นจะค่อยๆแตะลงบนหน้าผากเนียน ลุกขึ้นยืนตรงแล้วหันหลังให้คนที่นอนอยู่บนเตียง ขาเรียวค่อยๆก้าวไปที่ประตูอย่างอ่อยอิ่ง...ทำไมเขาจะไม่รู้
“ ดะ..เดี๋ยวคุณยูชอน ” เพราะสุดท้ายแล้ว ริมฝีปากอิ่มนั้นก็ต้องขยับเปิดปากออกเรียกตนเอาไว้ ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นเมื่อยามที่ร่างสูงหันตัวกลับมาทางตนเองพร้อมกับใบหน้าที่แสนสงสัยนั้น เขาใช้เวลาตัดสินใจอยู่จนกระทั้งคำพูดเร่งเร้าของร่างสูงที่ทำให้คิมจุนซูดูเหมือนจะคิดคำตอบให้ได้ “ มีอะไรรึเปล่าครับ จุนซู ”
“ ค...คืนนี้นอนที่นี่เป็น..เป็นเพื่อนผมได้ไหม คือ...ผมกลัวนอนไม่หลับน่ะครับ ” สาเหตุที่ค่อนข้างเอนไปในทางว่าตัวเองนั้นกลัวการอยู่คนเดียวทามกลางเสียงฟ้าร้องนั้นทำเอาคนที่รู้สาเหตุนี้อยู่แล้วหลุดยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าตกลงว่าคืนนี้ตนเองนั้นจะนอนอยู่เป็นเพื่อน
“ ได้สิครับ...ถ้าอย่างนั้น ผมขอยืมห้องน้ำของจุนซูหน่อยนะ ถ้าผมอาบน้ำเสร็จแล้วจะมานอนเป็นเพื่อนนะครับ ” ใบหน้าหวานหยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็วก่อนที่ร่างสูงนั้นจะหยิบโทรศัพท์ที่ติดห้องขึ้นมาโทรสั่งให้แม่บ้านเข้าไปหญิบชุดนอนของตัวเองเอามาไว้ที่ห้องนี่ซักชุดของสำหรับคืนนี้
“ ได้สิฮะ ยังไงห้องนี้ก็เหมือนเป็นของคุณยูชอน ” ร่างสูงยกยิ้มบางๆก่อนจะเอ่ยขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะได้ออกมาอยู่กับเด็กกลัวฟ้าฝนคนนี้ แต่ยังไม่ทันทียูชอนจะได้ก้าวเข้าห้องน้ำไปเต็มตัว จุนซูก็เอ่ยขึ้นขัดเสียก่อน
“ คุณยูชอนครับ... ”
“ ว่าไงครับ? ”
“ ขอบคุณนะครับ ”
“ ด้วยความยินดีครับผม ”
______________
แสงแดดอ่อนๆที่เล็ดลอดเข้ามาภายในห้องผ่านทางหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ภายในห้องนอน แม้ว่าผ้าม่านนั้นจะช่วยบดบังแสงนั้นให้ แต่สุดท้ายแสงนั้นก็ส่องมาถึงคนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงจำเป็นต้องลุกขึ้นตื่นมาราวกับเป็นกิจวัติไปเสียแล้ว
ร่างบางของคนที่นอนอีกฝั่งนึงของเตียงค่อยๆยันตัวลุกขึ้นมองไปรอบๆเตียงนอนขนาดกว้างที่ตัวเองได้อาศัยนอนมันมาทั้งคืนโดยที่เพิ่งรู้ว่าตัวเองนั้นนอนดึกเพียงไร เพราะเนื่องจากเมื่อคืนนั้นเท่าที่จำได้ตัวเองนอนแผ่อยู่ที่กลางเตียงเสียด้วยซ้ำไปตื่นขึ้นมานั้นเขาแทบจะย้ายสังขารล่วงไปอยู่ที่พื้นอยู่แล้ว
...ว่าแต่เจ้าของเตียงไปไหน
“ ชางมิน ” ขาเรียวก้าวไปจนทั่วห้องก็ไม่เจอบุคคลที่ตัวเองกำลังหาอยู่จนต้องเดินออกไปหานอกห้อง แอลสวมเพียงเสื้อตัวโคร่งที่ตัวเองยืมเจ้าของห้องมาบวกกับเจ้าบ็อกเซอร์ของตัวเองที่สวมมาเมื่อวานเดินหาไปทั่วชั้นคอนโดของเจ้าเพื่อนตัวโย่งที่หายไปไหนไม่รู้ จนไม่รู้จะไปหาที่ไหน ตัวเองก็เลยยืนท้าวเอวด้วยความสงสัยอยู่กลางห้องจนกระทั้ง...
...เสียงกรอน
“ ชางมิน... ” แอลเดินตามเสียงกรอนมายังห้องนั่งเล่นที่เปิดโล่ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตัวเองไม่เห็น ก็ในเมื่อเจ้าโซฟาที่มีพนักพิงนั้นได้บดบังกายสูงนั้นเสียแทบมิด จะมีก็แต่กลุ่มผมที่โผล่พ้นออกมาหน่อย ผ้าห่มเพื่อเล็กที่อีกคนใช้คลุมกายนั้นดูไม่ค่อยจะเหมาะกับขนาดไซส์ของคนที่นอนอยู่เลยแม้แต่น้อย อดสงสารไม่ได้ก็ต้องเดินเข้าไปในห้องเพื่อหยิบผ้าห่มผืนโตมาคลุมเอาไว้ให้แทน
“ จริงๆเลยนะ...จะเข้าไปนอนในห้องดีๆเสียก็ไม่มีใครว่า ” มือบางลูบเขาที่กลุ่มผมหนานั้นด้วยความรู้สึกหมั่นเขี้ยวในความเสียสละบวกกับความรู้สึกที่ขอบคุณ
เขายอมรับว่าในกรมตำรวจนั้น เขาไม่สนิทกับใครได้มากเท่ากับชิมชางมินอีกแล้ว อาจจะเพราะว่าตัวเองเป็นพูดน้อยแถมยังรักสันโดษเสียมากกว่าจะทำงานเป็นทีม แต่ก็เพราะว่ามีคนๆนี้เนี่ยละที่ทำให้เขาเหมือนจะหลุดความเย็นชาของตัวเองหายไป คนที่ช่วยชีวิตเขามาหลายครั้งในการทำงานใหญ่ๆที่เขามักจะหัวเสียจนเสียสมาธิทำให้แทบจะจบของตัวเอง
...ผู้ชายที่เขาว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นคนที่เพอร์เฟ็คไม่ต่างไปว่าชองยุนโฮ
“ ขอบคุณนะชางมิน ”
...ซักวัน...ฉันจะตอบแทนนายบ้างนะ
_______________
“ อ้าวคุณคยู... ” คิมแจจุงที่เปิดประตูออกมาจากห้องพร้อมๆกับร่างสูงของคยูฮยอนที่กำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตูไม้ของห้องพอดี รอยยิ้มของคยูปรากฏขึ้นแทนคำอรุณสวัสดิ์ก่อนจะร่างบางจะทำแบบนั้นเช่นเดียวกัน
“ พอดีว่าคุณยูชอนเรียกให้เข้าพบน่ะครับ คงเป็นเอกสารที่ส่งมาเมื่อเช้านี้ ยังไงถ้าเรียบร้อยแล้วก็ขอให้เข้าพบท่านด่วน ”
“ ขอบคุณนะครับ ผมจะเข้าไปเดี๋ยวนี้ละ ” แจจุงระบายยิ้มบางๆในแบบที่เป็นนิสัยของตัวเองก่อนจะเดินตามคยูฮยอนซึ่งเป็นเหมือนเลขาส่วนตัวของปาร์คยูชอนไปยังห้องทำงานที่ซ้อนอยู่ภายในชั้นในสุดและใต้สุดของบ้านซึ่งแน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เจ้าของห้องและคยูฮยอนก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปเป็นอันขาด ดังนั้นข้อมูลสำคัญทั้งหมดจึงอยู่ในห้องนั้นทั้งสิ้น
“ เชิญครับผม ” เสียงปลดล็อกที่ดังขึ้นหลังจากที่คยูฮยอนขยับใบหน้าออกมาจากตัวแสกนนัยน์ตา มือขาวของแจจุงค่อยๆผลักประตูที่มีสีกลมกลืนไปกับผนังออกแล้วเดินเข้าไปภายในห้องที่นานๆตัวเองนั้นจะได้เข้ามาเสียที ร่างบางตรงเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ซึ่งมีร่างสูงที่นั่งรออยู่แล้ว
“ ชมผลสำเร็วของตัวเองหน่อยไหมคิมแจจุง ” ซองเอกสารที่ร่างสูงของยูชอนยื่นให้ทั้งรอยยิ้มเมื่อคนของตนเองนั้นทำได้สำเร็จ แจจุงเปิดซองนั้นขึ้นมาแล้วอ่านเอกสารที่อยู่ภายในจนได้รู้ว่าตัวเองนั้นผ่านบททดสอบทุกอย่างแล้วเป็นที่เรียบร้อย
“ งานที่เธอต้องทำทั้งหมดจะอยู่ในซองเอกสารอีกอัน เดี๋ยวฉันจะให้คยูเอาขึ้นไปให้บนห้องคืนนี้ และฉันหวังว่าเธอคงจะทำสำเร็จเหมือนกับงานนี้นะคิมแจจุง ”
“ ครับผม ”
“ รางวัลความสำเร็จของเธอ...สองสามวันนี้ฉันให้เธอหยุดพักแล้วก็เข้าไปหาน้องขอเธอได้แล้ว...คยูอยู่ด้านนอก ฉันจะให้เขาพาเธอเข้าไปแล้วกันนะ ”
“ ครับ...ขอบคุณมากครับคุณยูชอน ”
_______________
ความคิดเห็น