ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Fic TVXQ yaoi) ICE2 ; เพราะเรา..ต่างกัน

    ลำดับตอนที่ #6 : - ICE[2] 5 - ดอกไม้ต้องสาป

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 52


     

     

    ‘ ICE[2] 5 ’

     

    _________________________________________

     

                รถสปอร์ตสีแดงสดวิ่งแล่นเข้ามาจอดยังหน้าตึกนิเทศเพื่อส่งร่างบอบบางที่ย่างก้าวลงออกไปจากรถด้วยรอยยิ้มเป็นที่สุข..เมื่อเห็นว่าแผ่นหลังบางลับตาไปแล้ว รถสปอร์ตคันงามแล่นออกไปยังตึกวิศวะก่อนจะจอดลงยังที่จอดรถ พร้อมกับร่างสูงที่เดินออกมาจากรถ

     

                “ ยูชอน ”  ทันทีที่เดินไปยังลิฟท์เสียงแหลมเล็กของใครบางคนที่เขารู้จักดีก็เรียกเอาไว้ก่อนทำให้ตนนั้นต้องหันไปหาร่างเล็กที่เดินถือกระเป๋าเดินมาทางตน..ใบหน้าหวานที่เคยยิ้มแย้ม กวนประสาทเขาตอนนี้กลับบึ้งตึง

     

                “ มีอะไร? ”

     

                “ เมื่อวานโทรไป..ทำไมไม่รับ ”

     

                “ อ๋อ..ไม่ว่าง  กูนอนปี้กะเมียอยู่ ”  เสียงกวนประสาทนั้นทำเอาร่างบางอยากที่จะปากระเป๋าปราด้าราคาแพงนี้เข้าที่ใบหน้าหล่อๆนั้นให้แหกไปข้าง..  นั้นสิ..ก็น่าจะรู้ว่าเมื่อวานทำไม คนตรงหน้าถึงไม่ว่างคุยกับเขา ก็เล่นมีคนบอกเสียเต็มปากเต็มคำเสียขนาดนั้น

                ..ใช่สิ! เขามันก็แค่เพื่อน!

     

                “ เหี๊ยเอ๊ย!..เมื่อวานมึงโดด!..แล้วมึงก็ต้องทำรายงานคู่กับกู!..แล้วมึงกะจะให้กูทำคนเดียวใช่ไหม? ”  ไหล่หนาไหวน้อยๆ

     

                “ งั้นเดี๋ยวกูออกค่าอุปกรณ์ให้แล้วกัน ”  คำพูดที่ดูไร้ความรับผิดชอบนั้นทำเอาร่างเล็กแทบวีนแตก..เพราะเขาก็ไม่ใช่พวกมีความอดทนสูงขนาดนั้น!!.. คนเรามันก็มีจุดสิ้นสุดของมันนะ

     

                “ แค่ค่าอุปกรณ์..กูมีปัญญาจ่าย ไม่รู้ล่ะ กูจะไปอยู่บ้านมึงทุกวันเสาร์อาทิตย์จนกว่า รายงานจะเสร็จไม่งั้นก็อย่าหวัง ”  ว่าเสร็จมือบางที่กดปุ่มขึ้นลิฟท์..แต่ก็โดนร่างสูงขัดเอาไว้ก่อน

     

                “ นี่มึงกะไม่ให้กูหายใจเลยเหรอ? ”

     

                “ อะไร?..มึงมีเวลาหายใจตั้งเยอะ..ไม่งั้นมึงก็ตายแล้วดิ ” คิ้วสวยเลิกคิ้วน้อยๆ ก่อนจะถูกกระชากเข้ามาในลิฟท์ พร้อมกับกดไปยังชั้นที่ตนนั้นเรียนอยู่

     

                “ เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อย..เออ ตามใจ ถ้ามึงอยากไปนั่งเห็นกูนั่งปี้เมียก็ตามใจมึง ถือว่ากูบอกมึงแล้ว ”

     

                “ เรื่องของมึง!..แต่กูก็จะไป ”  ว่าเสร็จเจ้าตัวก็สะบัดของมือออก พลางยืนพิงกำแพงลิฟท์อีกฝั่ง

                ...ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอย่างเราสองคนนั้นเรียกว่าเพื่อนได้ไหม.. เขาไม่แน่ใจ..ไม่เลย เขาไม่มั่นใจตั้งแต่ ยูชอนรู้ว่าเขารัก.. ความรักที่เขาเก็บมันมานาน..นานมาก และมันกูถูกเปิดเผย ทั้งๆที่เขาไม่ได้เต็มใจ..มันเขา..เพราะคนๆนั้น.. คิม แจจุง  นั้นทำให้ยูชอน มองเขาไปอีกแบบ

                จากที่เขาไม่เคยต้องทำหน้าหยิ่งตลอดเวลา..เขาก็ต้องเปลี่ยนมัน เขาไม่ใช่คนที่พูดจาหยาบคาย แต่มันก็ทำให้เขาเปลี่ยน.. เขาเปลี่ยนตัวเองหมด..คิม จุนซูที่เปลี่ยนไปเพียงแค่ไม่กี่วัน  ก็เพราะถ้ามั่วมาทำตัว อ่อนแอ ไร้เดียงสา.. เขาก็ไม่มีวันข้ามจุดนั้นไป

     

                ...เพราะฉะนั้น.. คิม จุนซู .. จึงเป็นเพื่อนกับ คิม แจจุงไม่ได้

                ..ซึ่งยูชอน.. ไม่ได้รู้ข้อนี้..ไม่มีใครรู้ นอกจากตัวเขาเอง  แจจุง  ต้องไม่คู่กับยูชอน เขาจะต้องแยกออกมา

                ... แรงมาก..ก็จะแรงกลับ!!  เอากันให้ตายไปข้าง!!

     

    .....................................................................

     

                “ เอาไว้อีกครึ่งชั่วโมงก็ได้ ”  เสียงเล็กๆเอ่ยส่งผ่านเครื่องมือสื่อสารเพื่อให้คนปลายสายได้รับรู้..แต่คนที่เดินตามมาตั้งนานก็เหลือบไปเห็นร่างสูงของยูชอนที่กำลังจะเดินไปยังรถของตนนั้น ร่างเล็กก็รีบกลอกเสียงลงไป

     

                “ เดี๋ยว..มาตอนนี้เลย..เดี๋ยวนี้ด้วย!

     

                [“ ถ่วงช่วยไว้ให้ด้วย ”]  สิ้นสุดแค่นั้นร่างเล็กที่เก็บโทรศัพท์ใส่ไปในกระเป๋า.. พลางเดินตามร่างสูงไปก่อนที่ยูชอนจะเข้าไปในตัวรถ..

     

                “ ทำแบบนั้นแล้วผมจะได้อะไร? ”

     

              “ นายอยากได้อะไรล่ะ ”

     

              “ ไม่ล่ะ..ขอแค่คุณลากมันออกมาจากยูชอนได้ก็พอ ”  นั้นคือข้อตกลงของเราทั้งๆที่เขาไม่เคยรู้จักชายคนนั้น แต่เขาก็ทำ..เพื่อแค่อยากให้สองคนนั้นแยกจากกัน..จะยังไงเขาก็ทำได้หมดนั้นแหละ   ..  ขาเล็ก ก้าวมาจวนแทบจะไม่ทันเพราะร่างสูงนั้นออกสตาดรถเสียแล้ว แต่เขาก็เคาะรถก่อนที่มันจะออกไป และร่างเล็กๆที่ทรุดตัวลงเอามือกุ่มท้อง ตัวโก่งงอจนหัวแทบชิดพื้น 

     

                ...สำเร็จ..

     

                “ จุนซู!!..มึงเป็นอะไรน่ะ ”  ยูชอนไม่รอช้าที่จะเปิดประตูรถออกมาดูอาการของเพื่อนตัวเล็กที่นั่งตัวงออยู่ที่พื้น.. ใบหน้าหวานเงยขึ้นน้อยๆด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด  เสียงแหลมเล็กที่เคยด่าเขาปาวๆกลับเอ่ยขึ้นเสียงแหบแห้ง

     

                “ ทะ..ปวด..ทะ..ท้อง ”  มือบางข้างหนึ่งละออกมาเพื่อบีบมือหนาแสดงถึงอาการว่าตนเองนั้นเจ็บปวดจริงๆ  ดวงตาเล็กๆหลับตาลงแน่นราวกับพยายามอดกลั่นนัก ยูชอนมองไปรอบๆแต่กลับไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ได้.. เขาเลยตัดสินใจช้อนตัวอุ้มไปวางอยู่เบาะหลังก่อนจะขับพาไปโรงพยาบาล

     

                ...โดยลืมที่จะโทรบอกใครบ้างคน

     

    .............................................................

     

                ทำไมช้าแบบนี้นะ!!..

     

                ร่างบางเริ่มเดินวนไปวนมาอยู่หน้าตึกเมื่อไม่มีวี่แววว่าร่างสูงมาเสียที่ คนที่มีความอดทนต่ำก็เริ่มโวยวาย..แต่จะระบายกับใครได้? ผลที่สุดแล้วเขาก็ต้องคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะโทรหาร่างสูงด้วยความอดทนที่ถึงขีดต่ำ  ..แต่ยังไม่ทันที่จะกดตัวเลขตัวสุดท้าย ข้อมือบางก็ถูกคว้าไปได้ก่อน

     

                “ อ่ะ..นี่!

     

                “ หึ..เด็กคนนี้โดดเรียน..ต้องทำโทษ ”  ว่าเสร็จร่างบางก็ถูกคนที่ตัวใหญ่ว่าลากไปยังรถที่จอดรออยู่ไม่ไกล แม้ว่าจะพยายามขืนตัวไว้แค่ไหนแต่ก็โดนยุนโฮสามารถลากไปได้อยู่ดี

                ..ไม่รู้ว่าคนนี้หน้าหนาหน้าทนมาจากไหน ถึงได้ด่าแล้วไม่สะท้านขนาดนี้!!

     

                “ ยุนโฮ!..จอด! ฉันจะลง นี่!..ฉันนัดกับยูชอนเอาไว้ ฉันสั่งให้ปล่อยฉันลง!!  เสียงหวานยังคงดังขึ้น เพียงแต่ยุนโฮไม่คิดจะใส่ใจก็แค่นั้น.. รอยยิ้มของคนมีชัยยังคงยิ้มกว้างอยู่ให้เห็นยิ่งเพิ่มความแค้นให้แก่ร่างบางเป็นที่สุด.. จะทำอะไรได้!!..เพราะตอนนี้รถมันก็ออกมานอกมหาลัยแล้ว.. แจจุงก็เลยได้แต่นั่งกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

               

                ร่างสูงลอบมองร่างบางที่ไม่ยอมหันหน้ามามองเขาราวกับเขาเป็นตัวน่ารังเกียจ..แต่ก็เอาเถอะ..ยังไง ถึงดื้อไปก็ไม่เป็นประโยชน์อยู่ดี..เพราะยังไงก็น่าจะรู้ว่าเขานั้นไม่มีทางยอมแน่ๆ  คนฉลาดอย่างแจจุงน่าจะดูได้ไม่ยาก

                ... นี่แหละ..ความสะใจของยุนโฮ

     

                “ อ๋อ..อยากนึกว่ามีกระทงเดียวนะ..เมื่อคืนนายไม่ได้กลับบ้าน..แม่นายเป็นหวงแทบแย่ ฉันก็เลย..ตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง.. โทษของนายน่ะหนักทีเดียว..อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปก่อนล่ะ ”

     

                “ คิดว่าฉันจะทำตามที่นายสั่งหรอ? คนโง่เท่านั้นที่คิดได้.. ”

     

                “ ฉัน..มีวิธีของฉันก็แล้วกัน ”

     

                “ แล้วจะคอยดู.. ”

     

    ________________________________

     

                “ คุณหมอ..เป็นยังไงบ้าง? ” ร่างสูงถามหมอในชุดกาว์นสีขาว สลับกับเพื่อนตัวดีที่ยืนกุมท้องอยู่ข้างๆ  ดวงตากลมเล็ก มองใบหน้ามองด้วยความเว้าวอน

     

                “ อย่าบอกเพื่อนผมว่าผมโกหกนะฮะ..ผม..ไม่ได้ปวดท้องจริงๆ ”

     

                “ อ๋อ..ไม่เป็นอะไรหรอกครับ..อาจจะกินอะไรผิดสำแดงมา แต่ว่าไม่เป็นอะไรแล้วครับ ” 

     

                “ เหรอครับ?..แต่ผมว่า..น่าจะฉีดยาสักหน่อยะนะครับ ”

     

                “ ไม่เอานะยูชอน!!  ทันทีที่พูดจบคนโกหกก็ตะวาดขึ้นมาแทบจะทันที  มือที่กุ่มอยู่ที่ท้องรีบเขย่าแขนห้ามเสียเหมือนว่าร่างสูงจะพาตนนั้นไปฆ่าเสียอย่างนั้น  ยูชอนมองร่างเล็กอย่างอึ้งๆ เขารู้ว่าจุนซูน่ะกลัวเข็ม..แต่ก็ไม่นึกว่าจะกลัวมากขนาดนี้

     

                “ ก็เดี๋ยวมึงก็ปวดท้อง..แล้วกูก็ต้องมาส่งมึงอีก ”  เหมือนมีกะแสไฟฟ้าแล่นผ่าน กลางตัวทำให้รู้สึกวูบ.. เจ็บเข้าที่หัวใจ..

                แค่มาส่งฉัน..มันทำให้นายรำบากขนาดนั้นเลยเหรอ?

     

                “ งั้นคราวหลังมึงก็ไม่ต้องมาส่งกูแล้วกัน.. ขอบคุณ หมอนะฮะ ”  ร่างเล็กรีบพูดเร็วๆ ก่อนจะเดินออกไปโดยแทบจะไม่รอหรือมองหน้าร่างสูงเลย.. แม้ว่าเขาจะรักยูชอน..แต่อย่างน้อยก็ช่วยพูดอะไรที่ไม่มันกระทบต่อจิตใจเขาจะได้ไหม..

                ..เข้าใจว่าไม่มีสิทธิ์.. แต่เขาก็คือมนุษย์..มนุษย์ที่สามารถเจ็บเป็น

     

                จุนซูก้าวเร็วๆออกไปหน้าโรงพยาบาลเพราะแน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร จึงไม่ต้องที่จะไปรับยา ต้อมีใครคอยช่วยพยุงกาย  คนตัวเล็กก้าวไปยังฟุตบาทก่อนจะยื่นแขนสุดแขนที่จะเรียกแท๊กซี่ที่ขับผ่าน  แต่กลับมีมือหนึ่งคว้าตัวเอาไว้ก่อน

     

                “ มึงจะไปไหน ”

     

                “ กูจะกลับมหาลัย..ยังไม่ได้ไปเอากระเป๋า ”  น้ำเสียงที่ดูเฉยชาจนหน้าใจหาย.. แต่แค่ฟังยูชอนก็รู้ว่าเพื่อนของเขากำลังโกรธ..

     

                “ พูดแค่นี้มึงก็โกรธแล้วเหรอ? อย่างี่เง่าน่า..มึงงอนไม่ได้น่ารักเลยจุนซู ”

     

                “ งั้นมึงก็อย่าสนกูสิ!!.. กูไม่ใช่เมียมึงถึงได้โกรธแล้วน่ารัก เข้าใจว่าถ้าไม่เต็มใจช่วย..คราวหลังมึงก็อย่าช่วยกูแบบนี้.. ปล่อยกูนอนตรงนั้นแหละ..ปล่อย! กูเจ็บนะ!  เหมือนคำพูดของตนเองมันจะยิ่งทำให้แผลในใจฉีกขาดมากขึ้นไปอีก.. ถ้าเขาไม่กลั่นเสียงนั้น..เขามั่นใจว่าอีกไม่นาน.. มันจะต้องไหลออกมา

     

                “ ถ้าไม่มีเพื่อนอย่างมึง..หูกูคงเงียบแปลกๆ  กูจะไปส่งมึงที่มหาลัยเอง ”  ว่าเสร็จร่างสูงก็จูงมือเล็กไปยังลานจอดรถของโรงพยาบาลร่างเล็กที่เดินตามก็ได้แต่เงยหน้า พร้อมกับพยายามทำให้น้ำตาที่คลออยู่ที่ขอบตาให้มันหายไป

     

                ...ยูชอน..

     

                “ กูรู้ว่ากูสำคัญไม่พอ ”  แม้ร่างสูงจะไม่ได้ยิน..แต่เขาก็อยากที่จะพูดมัน  ยูชอนจัดการเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับ ให้จุนซูก่อนที่ตนนั้นจะเดินไปยังที่ตนเอง และร่างเล็กที่ใช้จังหวะนั้นปาดน้ำตาทิ้ง พร้อมกับหันไปนอกกระจกเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาในรถและขับออกไป

     

                “ อย่างน้อย..มึงก็คือเพื่อนที่รู้ใจกูมากที่สุด.. ”

     

                ...เพราะผลสุดท้ายแล้วจุนซูก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น..

     

    ____________________________________

     

                “ ยูฮวาน!..จะกลับบ้านแล้วเหรอ? ”  เสียงทุ่มแหบเรียกร่างบางที่กำลังจะเดินออกจากรั่วโรงเรียนเอาไว้ เจ้าตัวชื่อหันมามองเพียงนิดก่อนจะมองร่างโปร่งที่เดินมายืนข้างตนเอง

     

                “ อือ.. ”

     

                “ ไปส่งไหม? ”  รอยยิ้มกว้างเผยขึ้นด้วยความหวงดี  เพียงแต่ร่างบางกลับมองความหวงดีนั้นด้วยความเฉยชา.. ลมหายใจร้อยถูกถ่อนออกมา.. ตอนนี้เขาไม่ได้ไปที่นั้นแล้ว เพราะว่าพี่เขารู้ว่าเขาทำงานที่นั้น..และก็ไปลาออกให้เสร็จสรรพ

     

                “ ไปส่งแทมินเถอะ..เออ ไปอยู่กับหมอนั้นเถอะ ”  ร่างบางว่าก่อนจะออกตัวเดิน แต่กลับโดนร่างโปร่งของ ชางมินคว้าข้อมือเอาไปกุ่มไว้ก่อน  ส่วนอีกมือก็ยกขึ้น อังกับหน้าผากมนพลางกับแก้มนุ่มทั้งสองข้างเพื่อวัดอุณหภูมิ

     

                “ นายตัวอุ่นๆนะ..รีบอาบน้ำกินยาแล้วก็นอนล่ะ..เมื่อวานอยากตากฝนก็เป็นแบบนี้แหละ ”

     

                ...ก็เพราะฉันชอบมันน่ะสิ..

     

                “ งั้นเหรอ.. ถ้าไม่ลืม ”  ร่างบางว่าพลางก้มมองมือหนาที่จับอยู่ที่มือของตนเอง

                ..อยากทำแบบนี้..เพราะมันจะทำให้ฉันหลงตัวเอง

     

                “ งั้นก็..ปล่อยฉันสิ.. กลับไปดูหมอนั้นได้แล้ว ”  และร่างบางก็สะบัดมือตนเองออกก่อนจะออกตัวเดิน เพื่อกลับคอนโดของตนเอง แม้กระทั้งขาทั้งสองข้างที่ตนเองนั้นคิดว่าจะสามารถนำพาตนเองนั้นมาถึงดอนโดได้โดยไม่ล้มพับไปกลางทางเสียก่อน.. แต่ก็ต้องพยายามจนมาถึงจนได้

     

                ..หลังจากที่เขาไม่ได้ไปทำงานที่นั้นแล้ว.. เหมือนกับเขาจะเจอชางมินน้อยลง..และเมื่อกี้ก็เป็นสนทนา ครั้งแรกในรอบของวันนี้..

     

    _______________________________

     

                “ ลงมากินข้าว ”  เสียงเบสดังขึ้นเรียกจากประตูที่เปิดขึ้นอย่างเบาๆโดนที่เจ้าของห้องเอาก็ยังไม่ได้รู้สึกตัว.. ดวงตาที่ใครมองก็เป็นอันต้องตกอยู่ในภวังค์ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหันมาสนใจกับคู่สนทนาเลย..  ร่างบอบบางที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเหยียดยาวไปบนกลางเตียง..  กางเกงขายาวสีดำที่โดนปลดตะขอออกจนกางเกงนั้นดูว่าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่  บวกกับเสื้อนักศึกษาที่ปลดกระดุมออกเกือบหมดเหลือเพียงสองเม็ดล่างเท่านั้น..

                ไม่ได้มีเจตนาจะยั่ว.. แค่อยู่เฉยๆคิม แจจุงก็เหมือนดอกไม้สีสวยที่ดึงดูแมลงเข้ามาเชยชม.. ถ้าใจหล้าหรือแกร่งไม่พอ..ก็จะต้องตายด้วยพิษของดอกไม้สีสวยนั้น.. ดอกไม้ต้องสาปอย่าง..

    ..คิม แจจุง

     

    “ ไม่หิว ”  ปากว่าไป..ส่วนมือก็ค่อยๆเปิดนิตยสารตรงหน้าอย่างไม่ทุกข์ร้อน  ดวงตากลมยังคงไล้มองไปตามภาพถ่ายดาราที่ดูแล้วยังไงความงาม หรือ เสน่ห์ยังสู้ความงามของผู้เปิดนั้นไม่ได้เพียงปลายนิ้ว

     

    “ ..ลงไปกินข้าว ”  คำพูดเดิมๆหากแต่เน้นย้ำก็ยังคงถูกส่งผ่านอยู่เช่นเดิม.. แต่อย่างน้องก็ทำให้ดวงตากลมโตนั้นหันมามองร่างสูงที่ยังคงเล่นสงครามประสาทเย็นกับตน

     

    “ ไม่หิว ”  ตอกกลับไปด้วยวาจาเดินเช่นกัน.. ร่างสูงที่ยืนพิงประตู ค่อยๆยืนตัวขึ้นเต็มความสูงของตน พลางจ้องมองร่างบางที่ยังคงทำตัวเป็นคุณหนู ต้องคอบให้คนรับใช้มาตาม.. เขาอาจจะดูคล้ายกลับพวกนั้น..ก็จริงอยู่..แต่เขาไม่พอแค่นั้นจบเหมือนพวกนั้น

                ..เพราะชอง ยุนโฮใจกล้าพอ..แล้วมั่นใจว่าแกร่งพอที่จะเชยชมดอกไม้ต้องสาป..เผลอๆ ..อาจจะกล้าทำลายมันด้วยซ้ำ   เขาจะทำ..ใช่..เขาจะทำมันแน่ๆ ถ้าแม่ของเด็กนี้ไม่ได้มีบุญคุณกับบุพการีของเขา

    ..เขาอาจจะเหยียบมันจนจมดิน

     

    “ ลงไปกินข้าว ”  คราวนี้ยุนโฮเดินมาหยุดอยู่ที่ข้างเตียงโดยเมื่อไหร่ที่แจจุงนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจ.. ร่างบางเหล่มองด้วยหางตาก่อนจะหันไปสนใจกับนิตยสารตรงหน้าต่อที่ดูเหมือนตนนั้นจะบรรจงไล้เปิดยั่วประสาทความอดทนของยุนโฮเหลือเกิน

     

    “ ดูท่านายจะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง? ” 

     

    “ นั้นมันนาย ”

     

    “ ใครว่า..นายถามฉัน..ฉันก็ตอบแล้ว.. คนที่โง่เป็นนาย ไม่ใช่ฉัน ”  อันที่จริง.. คนเกาหลีเขาก็ดูนับถือผู้อาวุโส  แก่กว่าเล็กน้อยก็ต้องให้ความเข้ารบ แต่ไม่ใช่กับแจจุงที่แม้ว่าจะเป็นคนแก่ขนาดไหน วาจาที่ออกมาก็เหมือนไม่ได้ใส่ใจกับกฎข้อนี้

    ..ไม่ใช่ความหมายของชีวิต..แคร์ทำไม??

     

    “ งั้นคนฉลาดอย่างนายก็น่าจะรู้ว่าที่ฉันเอ่ยย้ำขนาดนี้ มันคงหมายถึงอะไร ”  แล้วก็เป็นอีกครั้งที่คิม แจจุงมองยุนโฮด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย

     

                ..อยากเห็นจริงๆ.. วิธีที่จะทำให้ฉันตกอยู่ในกำมือน่ะ งัดออกมาให้ดูหน่อยสิ

    ..ชอง ยุนโฮ  ไร้น้ำยา

     

    “ ต้องให้ย้ำอีกทีไหมว่าไม่หิว..นั้นก็คือว่าไม่กิน  หรือต้องให้พูดเคลียร์กว่านี้ ”

     

    “ ลงไปกินข้าว ”  แน่นอนว่าการเล่นสงครามประสาทก็ต้องใช้ความอดทนสูง  แต่คนที่ความอดทนต่ำติดดินอย่าง แจจุงก็อยากจะต่อยหน้าคมนั้นเสียทีสองที เผื่อจะฟังอะไรรู้เรื่องมากขึ้น

     

    “ ฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องจริงๆใช่ไหม? ”  คราวนี้คนที่หมดความอดทนก่อนปิดนิตยสารเล่นหนาดังบึก! ก่อนจะหันมามองยุนโฮที่ยังคงยืนอยู่ท่าเดิม คิ้วหนาเลิกขึ้นเหมือนไม่รู้ตัวว่าเป็นสาเหตุให้อารมณ์ของแจจุงบูดบึ้ง

     

    “ รู้..แต่นายต้องลงไปกินข้าว ”

     

    “ ก็บอกว่าไม่หิวไงล่ะ!!  ร่างบางขยับลงจากเตียงเพื่อเดินหนีร่างสูงที่กวนประสาทไม่เลิก  แต่ไปไหนไม่ได้มาก ข้อมือบางก็โดยฉุดแถมกระชากให้เข้ามายืนใกล้กว่าเดิม  ร่างบางพยายามจะสะบัดข้อมือออกแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ  ดวงตากลมวาวโรจน์อย่างเห็นได้ชัด..แต่ก็ใช่ว่ายุนโฮจะกล้ามัน.. เขาใหญ่กว่า..จะกลัวอะไร

     

    “ ข้าวเช้าก็ไม่เคยกิน..ข้าวเย็นก็ยังไม่กิน นายเอาอาหารจากส่วนไหนไปเลี้ยงสมองกัน ”

     

    “ ฉันกินไม่ลงเพราะทุกครั้ง..เวลาที่ฉันกินมันต้องเห็นหน้านาย..รู้ตัวหรือยัง!! ฉันสั่งให้ปล่อย!!  คนต้นเหตุไม่ได้ปล่อยอย่างที่เจ้าตัวตั้งใจ แต่กลับกระชากเข้ามากอด โดยสอดแขนเข้าไปใต้เสื้อจึงแตะกับเนื้อผิวอย่างจัง

     

    “ เอวเล็กแค่นี้เอง ”

     

    “ กล้าดียังไงมาจับตัวฉัน!!!   แจจุงพยายามสะบัดตัวให้หลุด แต่ก็ทำไม่ได้..  ได้เข้าใกล้อย่างนี้..เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุนโฮ ตัวใหญ่พอๆกับยูชอน..  แม้ว่ารู้ว่าหนีไม่รอดแต่เขาก็พยายามที่จะทำมัน.. แน่นอนว่าเขาไม่มีท่าอยู่เฉยๆ  มือสากที่บีบเอวเขาบีบแรงขึ้นจนเขาเริ่มเจ็บ  ใบหน้าคมที่ยังคงยิ้ม..ยิ้มอย่างมีชัย

     

    “ อ้าวเหรอ?..นึกว่าตัวนายเป็นของสาธารณะ .. ”  เสียงพูดที่ดังขึ้นเรียบๆแต่ข้อความที่แฝงนั้น ทำให้ร่างบางนั้นสะเทือนไม่น้อย.. หากแต่มุมปากเรียวอิ่มนั้นกลับยิ้มสู้เช่นกัน

     

    “ ใช่..แต่นายคือข้อยกเว้น..ปล่อย!..อ่ะ!  ร่างบางร้องเสียงหลงเมื่อเอวบางถูกมือหนายกขึ้นสูง เพราะร่างบางตัวเบาเป็นทุนเดิมทำให้ยุนโฮไม่รำบากเลยกับการที่จะยกร่างบางพาดบ่า ก่อนที่ขายาวจะก้าวเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนร่างบางที่ร้องโวยวายอยู่บนบ่า

     

    “ งั้นก็อย่าให้เผลอแล้วกัน.. ”

     

    ...เพราะฉันจะทำลายมัน..

     

    _______________________________

     

     

                TALK::

     

                มีคนรีเควสยุนแจเยอะๆหน่อยก็เลย แต่งเยอะกว่าปกติ ฮ่าๆ (หวงว่าไม่มีใครฆ่าไรเตอร์นะ= =)  งืม~  ไรเตอร์แอบชอบแนวนี้นะเนี่ย อุว๊ะฮ่าๆ~!! แต่ไรเตอร์ชอบตนจบมากที่สุด.. เพราะมันได้หลากหลายอารมณ์ดี..อุ๊ย เก็บเงียบดีกว่า อิยะฮ่าๆ~  ช่วงนี้ไรเตอร์อาจจะมาอัพช้านะ.. เออเปิดเทอมแล้วก็เลยไม่ค่อยมีเวลามาอัพเหมือนตอนเปิดเทอมน่ะ.. TT เอาเป็นว่า ยังไงก็อยากลืมเรื่องนี้ล่ะกันน่า ถ้ามีคำผิดอันนี้ก็ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ^^

     

    รักคนอ่าน+คนเม้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×