ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC, { LOVΞ LIKE DΞSTIИY } TVXQ yaoi,

    ลำดับตอนที่ #1 : + Prologue +

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 54


    Prologue

    ‘ Love Like Destiny ’

    _______________

     

                “ งานนี้...ต่อให้ต้องเสียคนไปเท่าไหร่ จะต้องใช้งบเท่าไหร่ฉันไม่อั้น แต่ต้องฆ่ามันให้ได้ เข้าใจไหม คิมแจจุงแสงอาทิตย์ที่สอดสองมาทางกระจกใสจากด้านหลังทำให้ภาพตรงหน้านั้นยากแก่การมองเห็นให้ชัดเจนทว่า...แม้ไม่ต้องมองให้ชัด เขาก็พอจะมองออกว่า เจ้าของชีวิตของเขานั้นมองตนด้วยสีหน้าแบบไหน  มือหนาที่ลูบไล้ลำปืนวาวบนโต๊ะทำงานของตนเอง พลางมองไปยังลูกน้องของตนเองที่เพิ่งทำงานที่ตนเองมอบหมายไปพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย

     

              “ ครับ ”

     

              “ ถ้าทำไม่สำเร็จ รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ” ลำปืนนั้นถูกยกขึ้นมาจ่อไปที่เปาหมายนิ่งที่ก้มหน้ายอมรับให้แก้โชคชะตาของตนเองที่กำลังจะขาดหายไปอีกไม่ช้า

              ...พลาดไม่ได้ เพราะถ้าพลาด

                       ...นั้นหมายถึงชีวิต

     

              ปัง!!!!

              .

              .

     

              เป้าหมายตรงหน้าถูกกระสุนปืนเจาะเข้าตรงกลางพอดีอย่างไม่ต้องเดาให้เสียสายตา ควันที่ออกมาจากลำเพลิงถูกริมฝีปากอิ่มเบามันออกก่อนจะวางลงบนโต๊ะไม้ที่เต็มไปด้วยกล่องใส่กระสุน ทว่าเสียงลั่นไกหนึ่งที่ดังขึ้นซ้อนรั่วทำให้คนที่คิดว่าตนเองนั้นได้ซ้อมยิงปืนอยู่คนเดียวเป็นอันต้องหันไปมอง

     

                “ ฝีมือไม่มีตกเลยนะ...แอล ” รอยยิ้มกว้างหันมามอบให้ร่างบางก่อนจะเดินเข้ามาหาพร้อมกับถอดหูฟังกั้นเสียงออกวางลงบนโต๊ะพลางมองคนตรงหน้าที่เลิกคิ้วใส่ตนแล้วกันไปสนใจกับการเปลี่ยนแม็คซีนแล้วเปลี่ยนชุดของกระสุนเข้าไปเพิ่ม

     

                “ ก็มันต้องใช้แทบทุกวัน ไม่แม่นขึ้นมาก็เป็นอันตรายน่ะสิ ”

     

                แกร๊ก....ปัง!!

     

                “ ครับๆ แม่คนเก่งเที่ยงแล้ว ไปทานข้าวกัน ” ร่างสูงโปร่งหัวเราะ ไม่ต้องเหลือบมองไปให้เสียพลังงาน เขาก็รู้ว่าต่อให้เป็นอีกกี่ครั้ง แอลก็ต้องยิงมันตรงเป้าอีกอยู่ดีเพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่เขาเข้ามายังสถานที่ฝึกซ้อมยิงปืนนี่ก็เพราะว่าตนต้องการจะลากเจ้าเด็กนี้ไปกินข้าว

     

                “ ฉันจะซ้อม..อ๊ะนี่!!! ” แต่คงเพราะร่างสูงโปร่งนี้ดูจะไม่เข้าใจเขา ถึงได้คว้าปืนในมือของตนเองไปเหน็บเข้าที่เอวของตนเองแล้วคว้าข้อมือเล็กแล้วลากตามตนเองไปยังโรงอาหารของกรมตำรวจ ถึงแม้ว่าเขาจะเก่งเพียงใด แต่ก็ยังแพ้แรงของผู้ชายคนนี้อยู่ดี

     

                “ ชิมชางมิน! ได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่า ”

     

                “ วันนี้ดูเหมือนเขาจะทำอาหารโปรดให้ผมนะเนี่ย ”

     

                “ นี่!!!

     

    _______________

     

    “ ยังไงลุงก็ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะยุนโฮ ลุงมั่นใจในตัวเธอ ” บ่ากว้างถูกมือสากตบลงเบาๆก่อนที่ร่างสูงใหญ่ติดท้วมนิดๆนะยกยิ้มก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานพร้อมกับร่างสูงที่เดินตามออกมาไม่ได้เว้นห่างมากนัก

     

    “ อ้าว พี่ยุนโฮ เพิ่งคุยกับลุงเสร็จเหรอครับ ไปทานข้าวกัน ” ร่างสูงที่เปรียบเสมือนพี่ชายของชิมชางมินยิ้มกว้างก่อนจะหลุดขำออกมาเมือดวงตาคมดันเหลือบไปเห็นคนที่ถูกลากมาด้วยมองร่างโปร่งของน้องชายตนเองด้วยสายตาไม่พอใจอยู่นิดๆ...ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม

     

    ...เล่นแกล้งกันซะเป็นเด็กๆแบบนี้

     

    “ แกล้งแอลเขาอีกแล้ว ไม่เหนื่อยบ้างรึไง ”

     

    “ โถ่...ผมออกจะหวังดี อยากให้เขาตัวโตขึ้นตะหาก ”

     

    “ เฮ้อ ให้ตาย...อายุเท่าไหร่กันแล้วเนี่ย ”

    .

    .

     

    “ สารวัตไม่ทานอะไรหน่อยเหรอครับ? ” มือเล็กทั้งสองวางถาดอาหารลงพลางมองเจ้านายของตนเองที่กินเพียงแค่แซนวิทกับกาแฟเท่านั้น ต่างจากตนเองที่ทั้งกับข้าวที่แม่ค้าทั้งตักแล้วตักอีก ขนมหวานนู่นนี่อีกมากมาย

     

    “ ไม่หรอก ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ ”

     

    “ ความจริงแล้วพี่ยุนเขากำลังไว้หุ่นน่ะ โอ๊ย!

     

                “ ตลกแล้ว ไอ้มิน ” มือหนาของร่างโปร่งยกขึ้นกุมหัวตัวเองส่ายราวกับว่าหัวมันกำลังจะแตกออกมาเสียอย่างนั้น คนที่นั่งมองเหตุการณ์ของพี่น้องต่างพ่อแม่คู่นี้ทะเลาะกันก็ได้แต่ยิ้มแหยะๆให้แทนคำพูดและความรู้สึกทั้งหมด แต่ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเกรงใจอะไร เขานี่สิอยากจะฝากบอกสารวัตชองยุนโฮเสียจริงๆเลยขอให้เพิ่งแรงการตบหรือทางที่ดีเอากระสุนอัดเข้าไปซักสี่ห้านัด

     

                ...มันก็สมควรโดนอยู่หรอกนะ

     

                “ โห่ ไม่เห็นต้องเครียดเลยครับพี่ ดูสิ..ตั้งแต่ออกมาจากห้องของลุงคิ้วพี่ยังไม่หยุดผูกเป็นโบว์เลยนะครับ ” ช้อนในมือถูกใช้ตักอาหารตรงหน้าของชิมชางมินเข้าปากราวกับไม่แคร์สิ่งใด แถมหันมาชวนเพื่อนตัวเล็กของตนเองให้กินมื้อเที่ยงนี้ด้วย

     

                “ ก็จะไม่ให้เครียดได้ยังไงหล่ะ มีงานใหญ่เข้ามา...ช่วงนี้ต้องฝึกให้หนักหน่อย เตรียมพร้อมเอาไว้เสมอ เดี๋ยวอีกวันสองวันถ้าหาข้อสรุปได้แล้ว เดี๋ยวพี่จะเรียกประชุมอีกที ” แซนวิทคำสุดท้ายถูกมือหนาหยิบใส่ปาก ก่อนจะสะดุดเข้ากับชายร่างสูงใหญ่ที่เดินผ่านหน้าไปโดนมีตำรวจนายหนึ่งช่วยพยุง

     

                “ นั้นมันอาจารย์คังนี่หว่า ทำไมสภาพเป็นแบบนี้อะ ” ชางมินหันมองนายตำรวจที่เป็นถึงอาจารย์ฝึกสอนการต่อสู้ จะหาว่าเก่งเกือบที่สุดในกรมเลยก็เป็นได้ เพราะขนาดคนที่เก่งจนเขายอมรับแบบยุนโฮแล้ว อาจารย์คังนี้หล่ะที่เขายอมรับ

     

                “ ลุงให้อาจารย์คังไปทดสอบคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่น่ะ ” สารวัตชองตอบด้วยสายตามที่ยังคงเหม่อลอยตามชายร่างสูงที่เพิ่งเดินผ่านไปเมื่อไม่นาน “ ผมเพิ่งเคยเห็น.. ”

     

                “ ตั้งแต่ผมเข้าที่นี่ได้ ผมยังไม่เคยเห็นใครทำอาจารย์คังเจ็บได้ขนาดนี้เลย ” เด็กนอกอย่างแอลมองตามชายร่างสูงนั้นไปก่อนจะสุดอะไรได้ซักอย่าง รอยบาดแผลที่เกิดขึ้นหลังต้นคอ

     

                ...เขารู้ดี

                “ แอลนายเหม่ออะไรน่ะ ข้าวเย็นหมดแล้วนะ ”

     

                ...เป็นไปไม่ได้

     

    ______________

     

                “ ทุกอย่างเรียบร้อยดีคะ คุณชาย ” ร่างสูงพยักหน้ารับสาวใช้ที่เดินมารายงานตัวเองก่อนจะเดินผละออกไปทำงานในส่วนอื่นแทน ปล่อยให้เขาเดินทอดกายไปเรื่อยๆตามทางที่สร้างขึ้นมาให้แยกออกจากตัวบ้านใหญ่ บ้านหลังขนาดกลางที่เน้นติดเน้นสไตล์โมเดลและธรรมชาติอย่างที่เจ้าของบ้านหลังนี้ชอบ...ซึ่งนั้นไม่ใช่เขา

     

                เครื่องสแกนนัยน์ตาดังขึ้นเมื่อร่างสูงเอาดวงตาแนบเข้าไปให้เครื่องตรวจจับพร้อมกับกดรหัสหลักสี่ตัวให้เจ้ากลอนนั้นปลดล็อคบานประตูไม้สวยก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน  บ้านโมเดิลที่ข้างในถูกตกแต่งให้อยู่ในโทนบ้านสีขาวสะอาด หากแต่น่าเสียดายที่เจ้าของๆมันไม่ค่อยได้สามารถออกมาเดินเล่นเท่าใดนัก

     

                ...ยกเว้นวันนี้

     

                “ ว่าไงครับ อาหารเที่ยงถูกปากไหม? ” มือหนาบีบเบาๆที่พวงแก้มนิ่ม จนเจ้าของแก้มใสนั้นตวัดใบหน้าหันมองพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่เผยออกกว้าง อดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มตามไปด้วย ปาร์คยูชอนเดินอ้อมมาตรงหน้าวิลแชร์แล้วทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า

     

                “ วันนี้ยูชอนไม่มีงานเหรอครับ ”

     

                “ มีครับ...แต่อยากพักมาหาจุนซูก่อนน่ะ ” รอยยิ้มกว้างๆที่แทบจะหาไม่ได้บนใบหน้าคมเข้มนี้ต่างจากตอนนี้ที่ดูเหมือนมันจะระบายยิ้มออกมามากมายแบบนี้ มือนิ่มที่ถูกมือสากคว้าไปกุมพลางบีบเบาๆ “ อยากออกไปสูดอากาศที่สวนไหมครับจุนซู ”

     

                “ เอ๋? ได้เหรอครับ ”

     

                “ ฮ่าๆ ได้อยู่แล้วครับ ” ยูชอนผละออกมาเพื่อเดินออกไปจับเข้าที่เข็นของเก้าอีกวิลแชร์ ขายาวก้าวไปเกี่ยวกับที่ปลดล็อกกันลื่นก่อนจะค่อยๆเข็นวิลแชร์ของอีกคนออกมาทางหลังบ้านซึ่งเป็นสวนกว้างใหญ่ประมาณไร่เศษๆ ต้นไม้นานาชนิดที่เคยถูกทิ้งล้างเอาไว้แต่ตอนนี้มันกลับถูกบูรณะขึ้นมาใหม่จนไม่เหลือคราบเก่า...ทั้งหมดนี้ก็เพราะว่าคนตัวเล็กๆนี่คนเดียว

     

                “ ยูชอนวันนี้อากาศดีนะครับ...ยูชอน ” ใบหน้าหวานหันมองไปรอบๆกายทว่ากลับไม่เจอคนที่ตนเองกำลังสนทนาอยู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่รถเข็นของตนเองหยุดลงและเมื่อไหร่ไม่รู้ที่คนๆนั้นหายไป   นาน...นานจนกระทั้งตนเองเริ่มกลัว

     

                ...กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น...

     

                ขาเรียวทั้งสองข้างที่กำลังถูกเจ้าของๆมันเร่งให้มันขยับออกแต่มันกลับยังคงนิ่งเฉยมีเพียงโสตประสาทของความคิดเท่านั้นที่ขยับไป...มันทรมานราวกับตายทั้งเป็น

     

                “ จุนซู นั้นคุณจะทำอะไรน่ะ!!! ” สองแขนเรียวที่ท้าวเข้ากับที่พักแขนเพื่อพยายามจะลุกแต่เพราะเสียงที่ดังขึ้นมานั้นทำเอาร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวจนเผลอปล่อยมือโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้ร่างเล็กๆนั้นเอนไปด้านหน้าแต่ถ้าหากไม่ได้ร่างสูงปราดเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน คิมจุนซูก็คงล้มไปนอนอยู่ที่พื้นหญ้าเป็นแน่

     

                “ กะ...ก็ ผมไม่รู้ว่าคุณหายไปไหน ”

     

                “ โถ่ ผมแค่จะไปเก็บ...นี่ไง ” พูดจบก็ชูเจ้าดอกไม้สีชมพูสดขึ้นมาให้คนตรงหน้าดูก่อนที่มันจะถูกยื่นออกเพื่อให้คิมจุนซูนั้นรับเอามันไปถือเอาไว้ ดวงตากลมโตก้มลงมองเจ้าดอกหญ้าสีสวยนี้ก่อนจะหลุดขำออกมาเล็กๆ “ มันคือดอกหญ้าน่ะครับยูชอน ”

     

                “ ฮ่ะๆ...งั้นเหรอ ผมเห็นว่ามันสวย เลยเด็ดมาให้น่ะ ” จุนซูยกยิ้มขำๆให้ร่างสูงที่ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยตนเองแก้เก้อให้กับความไม่รู้ของตนเอง แต่มันไม่แปลกหรอก ก็วันๆปาร์คยูชอนได้แต่ทำอยู่กับงานที่ห้องทำงานไม่อยากออกมาเสียทีจนเขาเองนั้นอดไม่ได้ว่างานอะไรจะเยอะแยะขนาดนั้น

     

                “ ขอบคุณนะยูชอน ”

     

                ...เพียงแค่รอยยิ้มหวานๆนี้ ก็ทำให้โลกโสมมในกายเขากลับสว่างขึ้นมาอีกครั้ง

     

                “ ด้วยความยินดีเลยครับ ”

     

    _______________

     

                เสียงแกร๊กเบาๆแสดงถึงว่าเจ้าอุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายถูกใส่เข้าไปได้อย่างลงล็อกของมันพอดิบพอดี มือขาวที่ว่างอีกข้างใช้ผ้าสะอาดค่อยๆบรรจงไล้เช็ดกระปอกปืนในมือทั้งๆที่ดวงตาคู่สวยยังคงจรดจ้องออกไปอย่างเหม่อลอย

     

                “ รู้ใช่ไหมว่ายังไงน้องของเธอก็ต้องอยู่ในการดูแลของฉัน เพราะฉะนั้น อย่าได้คิดเล่นไม่ซื่อเชียวหล่ะ ”

              “ เข้ามาอยู่ในกองโสมมนี้ได้แล้ว ก็อย่าหวังจะได้ออกไปเลย...มันไม่มีทางให้ออกหรอก ”

              “ ความจริง..มันก็มีอยู่ทางหนึ่ง ความตายไง ทางออกเดียวและทางออกสุดท้าย ”

     

              “ คุณแจจุง ”

     

                “ อ๊ะ!! ” ปลายกระปอกปืนในมือหันตวัดมาจอเข้าที่ใบหน้าคมของคนที่สะกิดเรียกตนเองเพียงแค่เสี้ยววิเท่านั้น ทำเอาคนที่สะกิดทักเป็นอันต้องขยับตัวหลบวิถีปากกระปอกปืนนั้นเสียแทบไม่ทัน จนกระทั้งเจ้าของปืนในมือคืนสติกลับมาถึงได้รีบโค้งให้อีกฝ่ายเป็นกายใหญ่

     

                “ ไม่เป็นไร...คือ ผมไม่ทันสังเกตเอง ”

     

                “ อ่า ผมต้องขอโทษจริงๆ กับการเสียมารยาทเมื่อกี้ ” ร่างสูงของชองยุนโฮดูจะอึ้งไปเล็กน้อยกับมารยาทที่อีกคนมอบให้เขาทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่ว่าผิดของเจ้าตัวเสียด้วย เพราะยังไงตนเองนั้นหล่ะที่เข้าไปโดยไม่ได้ดูให้ดีเสียก่อน ไม่โดนยิงตายก็ดีแค่ไหนแล้วไงไอ้ยุนโฮ! “ ว่าแต่ สารวัตชองมีอะไรกับผมเหรอครับ? ”

     

                “ อ๋อ ผมแค่เข้ามาถามความเรียบร้อยน่ะครับ อีกซักครู่คนประเมินผลจะเข้ามาดูความแม่นของการยิงน่ะครับ ” เขากล่าวออกไปให้กับสมาชิกที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเข้ามาทำงานในกรมตำรวจสำนักงานใหญ่นี่ได้อย่างแน่นอน เพราะแค่บทสอบสอบแรกๆก็กินขาดไปซะขนาดนี้แล้ว

     

                “ ขอบคุณนะครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดีมากเลยหล่ะ ” เสียววินาทีที่ร่างบางก้มลงมองกระปอกปืนในมือก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นมาระบายยิ้มอ่อนๆให้คนที่อาจจะเป็นเจ้านายตนเองในอนาคตอันใกล้นี้...

     

                ...เพราะเขามั่นใจเต็มร้อยว่า เขาสามารถเข้ามาที่นี่ได้อย่างแน่นอน

                            รวมไปถึง...

     

                “ โอเค เอาเป็นว่าผมจะเข้าไปตรวจของที่สนามยิงปืนหน่อย มีอะไรก็เรียกใช้ได้นะครับคุณคิม ”

     

                “ ฮ่ะๆ ครับ...เรียกผมแจจุงก็พอ ”

                ...ผมมันใจว่าฆ่าคุณได้แน่ๆชอง ยุนโฮ

     

    _______________

     

                “ ขอบคุณนะครับ...แต่ตอนจากนี้เดี๋ยวผมถือไปเองได้ ” รอยยิ้มบางๆเผยออกให้สาวใช้ที่เดินถือกล่องพยาบาลของตนเองตามหลังมาจนกระทั้งถึงประตูเชื่อมที่เชื่อต่อระหว่างบ้านใหญ่กับบ้านเรือนเล็ก มือขาวที่โผล่พ้นจากเสื้อการ์วเอื้อมไปหยิบกระเป๋าของตนเองมาถือเอาไว้ก่อนจะเดินไปตามเส้นทางที่เชื่อมไปสู่เรือนเล็ก

                อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต่างๆนาๆที่ตนเองผ่านมานั้น แม้จะแทบทุกวันจนน่าจะเคยชินแต่ยังไงซะมันก็อดไม่ได้ที่จะเบื่อหน่ายมันเหมือนกัน

                ...ชีวิตที่ต้องอยู่แบบนี้  ไม่อยากเลยจริงๆ

     

                ก๊อกๆ///

     

                “ ขออนุญาตนะครับ ” เสียงนุ่มติดทุ่มนิดๆเอ่ยขึ้นพร้อมกับประตูที่ตนเองนั้นเป็นคนเปิดออก ใบหน้าขาวทว่าติดหวานอยู่นิดๆชะโงกใบหน้าเข้าไปด้านในเพื่อสอดสองดูว่าคนที่ตนเองต้องการจะตรวจนั้นอยู่ในห้องนี้แล้วก่อนจะย้ายตัวเองเข้าไปทั้งตัวแล้วปิดประตูลง 

     

                “ สวัสดีครับพี่ชาย ผมขอมาตรวจพี่จุนซูแปปนึงนะ ”

     

                “ อ๋อ...เอาสิ จุนซู ผมไปทำงานก่อนนะ เอาไว้ค่ำๆจะมาหาใหม่ ” ร่างบางยืนยิ้มบางๆให้แก่คนสองคนตรงหน้าเขา รวมไปถึงหนึ่งในนั้น นั้นก็คือพี่ชายแท้ๆของตนเอง ปาร์คยูฮวานยกยิ้มกว้างให้แก่ร่างสูงที่ตัวเองถอดแบบตามกันออกมาเดินออกไปจากห้องโดยไม่ลืมยกมือหนานั้นขยี้เขาที่เรือนผมของตนเองจนติดยุ่ง

                ...แม้มือคู่นั้นจะเป็นมือที่โชกโชนไปด้วยเลือด แต่สำหรับเขา มันกลับอุ่นอยู่เสมอ

     

                “ สวัสดีครับที่จุนซู วันนี้ทานมื้อเที่ยงเยอะไหม ” ยูฮวานเดินไปนั่งลงตรงหน้าของคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้างของตนเอง ใบหน้าหวานพยักหน้าขึ้นลงน้อยๆพร้อมกับรอยยิ้มที่แม่จะเพียงเล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้โลกสดใสได้

               

                ...เขาละแอบอิจฉามันเสียจริงๆ

     

                “ ดีแล้วฮะ...ไหนมาให้ผมฉีดวิตามินหน่อยสิ ”  เป็นปกติอยู่ว่าทุกๆสองวันในหนึ่งอาทิตย์ คิมจุนซูจำเป็นต้องได้รับการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือด เหตุผลคือเพื่อให้เกิดผลได้เร็วมากขึ้น แต่อย่างไรมันก็ต้องมีผลเสียของมัน แต่เพื่อรักษาอาการอัมพาตที่ขาทั้งสองข้างแล้วยังไงก็ต้องลองเสี่ยง

     

                “ ยูฮวานเห็นพี่แจจุงบ้างรึเปล่า ทำไมอาทิตย์นี้เขาหายไปเกือบทั้งอาทิตย์เลยละ ” ปลายเข็มแหลมที่ค่อยๆถูกคุณหมอประจำถอนออกช้าๆพร้อมกับเข็มยาเปล่าที่ถูกห่อเก็บใส่กระเป๋า ตัวยาในกระปุกถูกนำออกมาเทวางเอาไว้ให้ตรงหัวเตียงพร้อมกับร่างบางที่เดินเข้าไปหยิบแก้วน้ำมาให้

     

                “ เมื่อต้นสัปดาห์ ผมเห็นเขาในห้องฝึก...เขาคงมีธุระน่ะครับ เดี๋ยวเขาก็มา แต่ถ้าไม่มายังไง เดี๋ยวผมจะช่วยไปตามให้ ดีไหม? ”

     

                “ อื้ม ขอบคุณมากนะยูฮวาน นายน่ารักที่สุดเลย ”

     

                “ฮ่าๆ งั้นก็ทานยาตามที่ผมบอกแล้วก็คอยค่อยๆฝึกขยับขาตัวเองบ่อยๆนะครับ ”

     

                “ อื้ม!! โอเคเลย ”

     

    _______________

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×