ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn]Heart Rate หัวใจสั่งให้บอกรักยัยนักล่า

    ลำดับตอนที่ #12 : บทที่10::นี่น่ะเหรอสิ่งที่ซ่อนอยู่

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 54


    นี่น่ะเหรอสิ่งที่ซ่อนอยู่

     

    [Part by Tsunayoshi]

    หลังจากที่พวกเราได้แยกตัวออกมาจากกลุ่มใหญ่ผมกับคุณไอริสก็เดินมาด้วยกันจนถึงบริเวณใกล้ๆสวนสาธารณะ ตอนกลางคืนกับตอนกลางวันมันช่างต่างกันลิบลับ แต่ผมก็ชอบบรรยากาศแบบนี้นะ เพราะอยู่ที่โลกนั้นผมบอกได้เต็มปากเลยว่าผมอึดอัดสุดๆ ทั้งพวกหัวโบราณคร่ำครึพวกนั้น

    พูดถึงแล้วน่ารำคาญเป็นบ้า!!

    “เป็นอะไรหรือเปล่า?”

    “ครับ??”ผมหันไปหาต้นเสียงที่ทักผมหลังจากเราทั้งคู่เดินมาด้วยกันแบบเงียบๆ

    สงสัยผมจะแสดงอาการชัดเกินไป แต่มันก็น่านักที่ผมจะรำคาญตาเฒ่าพวกนั้น- -

    “ก็เห็นดูเครียดๆ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?”

    “ก็...ไม่มีอะไรสำคัญหรอกครับ”ผมตอบพลางเดินต่อ

    “ว่าแต่...คุณเป็นลูกพี่ลูกน้องกับคุณยูกิเหรอคะ?”

    “ก็ไม่เชิงครับ รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กมากกว่า”ผมตอบ

    “งั้นเหรอ..”

    จะว่าไปผมก็ว่าเธอน่ารักดีนะครับ แถมผมว่ามีบางอย่างที่คล้ายผมอยู่ด้วยล่ะมั้งตรงที่ซุ่มซ่ามนั่นแหล่ะครับ- -

    แต่ตอนนี้ผมรู้สึกถึงบางอย่างมากกว่าครับ ความรู้สึกของแวมไพร์ พวกผมที่เป็นสายเลือดบริสุทธิ์สัมผัสพวกนี้ไม่ยากหรอกครับ(แต่เรื่องเลือดผสมนั่นอีกเรื่องนะครับ- -) ยิ่งถ้าเป็นตำแหน่งที่สูงด้วยแล้ว อย่าให้พูดเลยครับถ้าพลังไม่สูงพอก็อย่าหวังปกปิดกลิ่นคาวเลือดของตัวเองได้เลยครับ

    “โอ๊ะโอ มากันแล้วสินะ”ผมหันไปมองตามเสียงเย็นที่ดังขึ้นมาจากข้างๆผม

    สายตาของเธอที่มองไปยังแวมไพร์พวกนั้นทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าเธอมีบางอย่างที่เหมือนผมขึ้นมาซะดื้อๆ นั่นก็คือเวลาต่อสู้ นัยน์ตาที่ฉายแววมุ่งมั่นและโกรธแค้นนั่น มันพอที่จะทำให้ผมเริ่มกลัวเธอขึ้นมานิดๆ...ผมว่าเธอมีอดีตฝังใจกับแวมไพร์แน่นอนและเป็นเรื่องที่เธอต้องแค้นสุดๆไปเลยด้วยล่ะ

    วันไหนเรื่องของพวกผมว่าเป็นแวมไพร์แดงขึ้นมาไม่ได้ตายดีกันเลยเหรอครับ- -;;;

    ว่าแต่ว่า...เจ้าพวกขุนนางนี่มันมาได้ยังไงกันล่ะครับ ไม่ใช่ว่าเจ้าตัวบงการงี่เง่านั่นจะส่งมาเพื่อจัดการพวกผม ไม่ก็ให้มาใส่ร้ายพวกผมว่าปล่อยพวกมันออกมาสินะ- -

    รอหาตัวบงการได้ก่อนเถอะ พ่อจะเอาเข็มตอกไม่ให้ได้ผุดได้เกิดแน่!!!

     

    [Part by Iris]

    “ฉันว่าเรามาลุยกันเถอะค่ะ”ฉันพูดเสียงเรียบกับคนข้างๆพลางก้าวเข้าไปเผชิญหน้ากับพวกมันพร้อมเอาอาวุธออกมาให้พวกมันได้ยลโฉมก่อนที่จะหายไปถาวร

    ส่วนคนที่ตามฉันมาก็เหมือนจะช็อกที่ฉันเปลี่ยนเป็นคนละคนแบบนี้ แต่มันก็เป็นธรรมดาที่ฉันเห็นแวมไพร์พวกนี้แล้วจะนึกถึงเรื่องในคืนนั้น คืนที่พ่อกับแม่ของฉันต้องสังเวยชีวิตให้กับเจ้าตัวเส็งเครงนี่!!

    ฉันมองไปรอบๆตัวก่อนจะเริ่มลงมือกำจัด ฉันตั้งปณิธานไว้แล้วว่า ฉันต้องกำจัดเจ้าตัวมารพวกนี้ให้หมดไปจากโลกฉันก็ต้องทำให้อย่างที่ตั้งไว้!!!

    แต่จะว่าไปคนที่ตามมากับฉันนี่ก็...คล้ายฉันแฮะ ในเวลาต่อสู้เขาดูจริงจังและมีพลังคนหนึ่งเลยทีเดียวก็ว่าได้ ร่างกายดูกระฉับกระเฉงว่องไว ราวกับทำงานกับความมืดแบบนี้มานาน ร่างกายที่ดูปราดเปรียวนั่นมีความเร็วพอๆกับขุนนางแวมไพร์ที่พวกฉันเจอตอนนั้น แต่ไม่มีความรู้สึกกดดัน แถมความรู้สึกที่อยากปกป้องของเขายังมีพลังมากจนฉันสัมผัสมันได้

    ฉันชมคนอื่นมาเกินไปหรือเปล่าเนี่ย กลับเข้ามาเรื่องงานดีกว่า ฉันกำจัดพวกนั้นสะใจกว่าเยอะ หึ...

    ไม่รู้เวลาผ่าไปนานเท่าใดจนกระทั่งการต่อสู่นี้จบลงพวกเราก็ได้แต่ยืนมองหน้ากันอย่างงงๆ เพราะต่างฝ่ายก็เหมือนว่าจะไม่รู้ว่าเวลาต่อสู้ของแต่ละคนเป็นยังไง

    “ฮะๆ”ทั้งฉันและเขาเปล่งเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน และมันก็คงเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ฉันคิดแหล่ะนะ

    “ผมว่าพวกเรากลับกันเถอะครับ”เขาพูดพลางยิ้มบางๆมาให้ฉัน

    “ค่ะ”

    ฉันยอมรับเลยว่าฉันหลงรักใบหน้าหวานๆของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และยังมีอะไรหลายๆอย่างที่ฉันกับเขาคล้ายกัน ไม่แน่ฉันกับเขาอาจเป็นมิตรที่ดีต่อกันเป็นเลยก็ได้

     

    นี่พวกคุณพยายามมากถึงขนาดนี้เลยเหรอครับเนี่ย... ผมล่ะทึ่งจริงๆ ไม่คิดว่าจะทำร้ายพวกเดียวกันเพื่อให้ได้มาซึ่งความจริงและความอยู่รอด หึ...

     

     

    ทำไมรู้สึกว่ามันสั้นลงเรื่อยๆ- -

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×