ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic exo} I'll be there for you | kailu x hunhan

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 :: โชคร้ายกำลังมาเยือน

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 57



    ตอนที่ 2 :: โชคร้ายกำลังมาเยือน

     

    .
    .
    . 05.30 น.
    .
    .

                วันนี้อากาศหนาวเย็นเหมือนปกติ เนื่องจากตอนนี้ใกล้คืบคลานเข้าฤดูหนาวแล้ว ลู่ห่านลืมตาตื่นขึ้นมา พับผ้าห่มเก็บเหมือนทุกวัน  ห้องคอนโดของลู่ห่านหรูหราก็จริงแต่มีห้องน้ำแค่ห้องเดียวแยกจากห้องนอนสองห้อง จึงต้องใช้ห้องอาบน้ำร่วมกับเซฮุน ร่างบางเตรียมผ้าเช็ดตัวพาดบ่าแล้วเดินออกจากห้องนอนของตัวเองตรงไปที่ห้องน้ำ ลู่ห่านเอื้อมมือบิดลูกบิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า


                “ย่าห์ !!! เซฮุนทำไมนายเข้าห้องน้ำแล้วไม่ล็อคประตูห้ะ!?”

     

                ปัง!!

     

    ลู่ห่านเบิกตากว้างกับภาพที่เห็นตรงหน้า และดึงประตูห้องน้ำปิดแทบจะทันที เซฮุนในภาพนุ่งผ้าขนหนูสีขาวผูกไว้บนขอบเอวแกร่งหลวมๆ โชว์แผงอกที่มีน้ำเกาะอยู่ประปราย ซึ่งพอจะเดาได้ว่าเซฮุนพึ่งอาบน้ำเสร็จ เพราะร่างสูงกำลังยืนใช้มือหนาขยี้หัวตัวเองสะบัดผมให้แห้งอยู่ ..

     

                ผู้ชายเหมือนกัน ทำไมแค่นี้ต้องอายด้วยครับ ตอนพี่อยู่กับไอดำล็อคประตูเวลาอาบน้ำด้วยรึไง

     

                พอเซฮุนพูดจบ หน้าของลู่ห่านก็ขึ้นสีแดงระเรื่อผ่านประตูกั้นทันที .. จะบ้าหรือไงกันตอนอยู่กับจงอินจะล็อคประตูทำไมละก็อาบด้วยกัน...  ร่างเล็กไม่ได้ตอบอะไรต่อแค่กระชากประตูเปิดออกแล้วมองสำรวจเซฮุนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าพร้อมยักคิ้วใส่เพื่อให้ร่างสูงรู้สึกอายไปเอง .. แต่ไม่เลย เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเซฮุนเลย นอกจากไม่อายแล้วยังทำหน้าไม่สะทกสะท้าน แถมยีหัวลู่ห่านแรงๆก่อนเดินออกจากห้องน้ำไปอีก .. จะร้ายไปแล้วนะเด็กคนนี้ ลู่ห่านจำได้ว่าตอนเด็กๆเซฮุนเป็นเด็กที่ขี้อายมากไม่ใช่แบบนี้  สงสัยคงโตมากแล้วสินะ หน้าตาก็ดี สาวๆคงเยอะเลยสิท่า ร่างบางคิดแล้วเผลอเบะปากด้วยความหมั่นไส้ เลื่อนมือเล็กปิดประตูห้องน้ำล็อคประตูแล้วถอดเสื้อผ้าเพื่อจะอาบน้ำโดยไม่คิดเรื่องร่างสูงต่ออีก...

     

                หลังจากลู่ห่านอาบน้ำเสร็จเดินออกมาจากห้องน้ำก็ได้กลิ่นหอมของแซนวิซชีสที่เซฮุนพึ่งทำเสร็จใหม่ๆลอยมาแตะจมูก..

                อ่าวพี่ อาบน้ำเสร็จแล้วหรอครับ รีบไปแต่งตัวแล้วมาทานข้าวเช้ากันเร็วครับ

    ลู่ห่านมองสำรวจเซฮุนซักพักจึงเดินเข้าไปแต่งตัวทำงานในห้องนอนของตัวเอง .. ให้ตายสิ เซฮุนโตเป็นหนุ่มมากขนาดนี้เมื่อไหร่กันนะ.. เมื่อกี้เซฮุนในชุดเสื้อเชิร์ตสีขาว และเนคไทสีกรมเข้ม ใส่กางเกงสแลคขายาวสีดำ .. ดูดีมาก.. ขนาดเซฮุนใส่ผ้ากันเปื้อนสีชมพูทับยังดูหล่อทะลุผ้ากันเปื้อนเลย ... ลู่ห่านนึกอมยิ้มกับท่าทีเมื่อกี้ของเซฮุนที่ชะโงกหัวออกมาจากหลังเคาท์เตอร์มุมห้องครัว ... หลังจากแต่งตัวเสร็จร่างเล็กจึงเดินออกมาจากห้องนอนตรงไปที่โต๊ะทานข้าวแล้วก็เห็นแซนวิซแฮมชีสวางอยู่ตรงหน้าจริงๆด้วย .. จมูกเราดีจริงๆแฮะ ลู่ห่านนึกในใจ

     

    ลองทานดูสิครับ .. นี่เป็นครั้งแรกที่ผมทำให้คนอื่นทานเลยนะ

     

                เซฮุนในชุดผ้ากันเปื้อนนั่งเท้าคางหาวมองร่างเล็ก .. เมื่อคืนนี้เซฮุนหลับแล้วสะดุ้งตื่นเกือบตลอดทั้งคืน เวลาใกล้จะหลับลึกๆ รู้สึกเหมือนมีคนมากระซิบเรียกที่ข้างหู เป็นเสียงผู้หญิง... ที่ฟังดูคุ้นหูแต่เซฮุนว่าคงไม่ใช่หรอก คงจะแปลกที่เลยทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆแบบนั้น

     

                ลู่ห่านเลิกคิ้วมองร่างสูง .. เมื่อคืนเค้าเห็นเซฮุนนอนหลับทั้งวัน เด็กคนนี้นอนยังไงก็คงไม่พอจริงๆสินะ ... ระหว่างที่ลู่ห่านนั่งมองหน้าร่างสูงแล้วคิดอะไรเพลินๆ มือเล็กก็ไปเอื้อมหยิบแซนวิซชีสขึ้นมากัดหนึ่งคำ.. ยังไม่ทันที่ลู่ห่านจะได้ขยับปากเคี้ยวกลิ่นหอมของแซนวิซชีสก็หายไป กลายเป็นกลิ่นคาวเลือดชวนอ้วกมาแทน ลู่ห่านอ้าปากคายแซนวิซทิ้งแทบไม่ทัน อีกทั้งยังทำหน้าเหยเก วิ่งไปที่อ่างล้างมือล้วงคออ้วกอีกต่างหาก

     

                เฮ้ย พี่ลู่ .. เป็นอะไรครับรสชาติมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ

     

                ร่างสูงงุนงงกับท่าทีของร่างเล็ก เมื่อกี้ก็ว่าชิมก่อนให้พี่ลู่ทานแล้วนะ ... เซฮุนเอื้อมมือหยิบแซนวิซขึ้นมากัดชิมก็เป็นรสชาติปกติ ไม่ได้ถึงกับแย่ชวนอ้วกขนาดนั้น เซฮุนจึงเดินตามลู่ห่านเข้าไปในครัวลูบหลังให้ .. หลังจากลู่ห่านอาเจียนไปได้ซักพัก ก็วักน้ำที่ไหลผ่านก๊อกมาบ้วนปากและล้างริมฝีปาก พร้อมรับผ้าขนหนูที่เซฮุนส่งมาให้เช็ดปากเบาๆ...

     

                แค่กๆ .. นายใส่อะไรลงไปในแซนวิซห้ะ เลือดรึไง ทำไมคาวกลิ่นเลือดขนาดนั้น

     

                “เฮ้ย ... จะบ้าหรอพี่ ใครจะใส่เลือดลงไป นี่มือผมก็ไม่ได้มีแผลอะไรนะ พี่แพ้ท้องรึเปล่า

     

                “จะบ้ารึไง พอเลยพอ หมดอารมณ์ข้าวเช้าละ ไปทำงานดีกว่าเดี๋ยวจะสาย

     

                “เอาดิ พี่ทำงานบริษัทไหนนะ เดี๋ยวผมแวะไปส่งพี่ก่อน

     

                “บริษัท SM กรุ๊ปจำกัด

     

                “... สงสัยระหว่างเราจะเป็นพรมลิขิตแล้วละครับ

     

                “หืม ? ยังไง อะไรของนายแกล้งพี่ยังไม่พออีกหรอเช้านี้ ทั้งไม่ล็อคประตูห้องน้ำ แถมยังให้พี่กินแซนวิซเลือดอีก

     

                “เดี๋ยวพี่ก็รู้เอง .. ไปครับไปทำงานกัน

    .
    .
    .
    . 6.00 น.
    .
    .

                เซฮุนขับรถมาจอดหน้าตึกบริษัท SM กรุ๊ปจำกัด เพื่อส่งให้ลู่ห่านลงไปก่อน .. และเลี้ยวรถเข้าไปลานจอดรถของบริษัท .. ถูกต้องแล้ว เซฮุนได้มาฝึกงานบริษัทเดียวกับลู่ห่าน ยอมรับว่าตอนแรกก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ดีเลย เพราะเซฮุนคิดอยากจะมาทำงานใกล้ๆกับลู่ห่านอยู่แล้ว ยิ่งได้ทำที่เดียวกันยิ่งดีไปใหญ่  ในลานจอดรถของบริษัทตอนนี้เงียบมาก มีรถจอดทิ้งไว้ชั้นละประมาณ 2-3 คันไม่มากมาย คาดว่าตอนนี้คงยังไม่มีใครเข้ามาทำงาน เพราะมันเช้าเกินไป และรถที่มีจอดทิ้งไว้น่าจะเป็นรถประจำตำแหน่งของคนในบริษัทที่ชอบจอดทิ้งไว้เฉยๆเพราะเปลี่ยนรถหลายคัน เซฮุนขับรถเคลื่อนมาจอดที่ชั้น 13 ซึ่งชั้นนี้เป็นชั้นที่สูงที่สุดและโล่งมากไม่มีรถจอด เนื่องจากชั้นนี้ไม่มีทางเดินเข้าบริษัท ต้องเดินลงบันไดไปหนึ่งชั้นถึงจะมีทางเข้า แต่น่าแปลก ทั้งๆที่ชั้นนี้เป็นชั้น 13 แต่ทำไมป้ายถึงเขียนว่าชั้น 12A นะ ..

     

                ปัง .. ปี๊ป ๆ 

     

     เซฮุนลงจากรถและปิดประตูพร้อมกดล็อครถและเช็คประตูรถว่าระบบล็อคติดรึเปล่า หลังใจแน่ใจว่ารถล็อคเรียบร้อยแล้วจึงหันหลังเดินตรงไปที่บันไดทางลง.. ในขณะที่เซฮุนกำลังก้าวเท้าเดินก็มีเสียงดังขึ้น

     

    .. ปี๊ปๆ .. ปึก .. 

     

    เซฮุนหันหน้ากลับไปมองตามเสียงที่ดัง ก็เห็นประตูหลังของรถเบนซ์ตัวเองเปิดอ้าออก ... ร่างสูงขมวดคิ้ว.. เมื่อกี้เซฮุนไม่ได้กดปลดล็อครถนะ และในชั้นนี้ก็ไม่มีรถคันอื่น มันดังขึ้นมาได้ยังไง.. หรือว่าระบบล็อคและประตูจะเสีย..  ด้วยความสงสัยจึงเดินกลับไปที่รถ ดันประตูปิดและกดล็อครถใหม่อีกครั้งนึง พร้อมดึงประตูเช็คว่ารถล็อคติดรึเปล่า .. แต่น่าแปลก .. ประตูก็ล็อคได้ปกติ  ..

     

                แต่ในระหว่างนั้นสายตาคมก็มองเข้าไปในกระจกหน้าต่างรถ ลมหายใจแทบหยุดชะงัก เพราะในกระจกหน้าต่างรถสะท้อนภาพผู้หญิงคนนึงยืนก้มหน้าก้มตาจนผมปิดหน้าใส่ชุดเสื้อผ้าที่ดูคุ้นเคยอยู่ด้านหลังเซฮุน  ร่างสูงจึงรีบหันขวับไปมอง .. แต่ .. ว่างเปล่า ภายในลานจอดรถที่อากาศหนาวเย็นมีหมอกปกคลุมเบาบาง .. ยังว่างเปล่า ไม่มีผู้คนหรือรถคันอื่น .. นี่เซฮุนคิดมากจนต้องไปพบจิตแพทย์แล้วรึเปล่า ในตอนแรกเป็นแค่ความสงสัย แต่ตอนนี้ในใจเริ่มมีความหวาดกลัว ... ตอนนี้เซฮุนเริ่มหวาดกลัวที่จะต้องอยู่ลานจอดรถชั้นนี้คนเดียว จึงรีบหันหน้าเดินตรงไปทางบันได
    .

    .
    ตึก .. ตึก .. ตึก .. ตึก .. ตึก .. ตึก .. ตึก .. ตึก .. ตึก .. ตึก ..

    .... ตึก ......
    .

    .

                เซฮุน .. เดินไปแค่ 10 ก้าวเท่านั้น ... แล้วเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นหนึ่งครั้งหลังจากเซฮุนหยุดเดิน.. มาได้ยังไง .. ร่างสูงข่มใจหันกลับไปมอง .. แต่ว่างเปล่า เห็นเพียงแค่รถของตัวเองจอดทิ้งไว้คันเดียวอย่างโดดเดี่ยวแค่นั้น .. ไม่มีสิ่งมีชีวิต ไม่มีใครเดินตามมา.. เซฮุนเดินตรงไปที่บันไดแล้วเร่งฝีเท้าจนเกือบๆจะเหมือนวิ่ง แล้วรีบลงไปชั้นที่ 12 เพื่อตรงเข้าบริษัท โดยที่ยังค่อยเงี่ยหูฟังตลอด .. ว่าเสียงฝีเท้าที่ดัง.. มันไม่ได้มีแค่เสียงฝีเท้าของเซฮุนแค่คนเดียว...
     .
    .
    .
    . แผนกการตลาด
    .
    .

                เด็กฝึกงานมาแล้วพี่ลู่

     

                เสียงของชานยอลปลุกให้ลู่ห่านที่อยู่ในภวังค์ของเอกสารบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมามองเด็กฝึกงานที่ยืนหอบหายใจอยู่ พอมองหน้าชัดๆ ... เฮ้ย นี่มัน ..

     

                “แฮ่กๆ .. ที่แผนกนี้มีน้ำให้ดื่มมั้ยพี่

     

                ชานยอลยิ้มร่า เดินถือแก้วน้ำไปยื่นให้และตบบ่าเซฮุนที่ยืนหอบหายใจ ในใจชานยอลคิดว่าเด็กคนนี้ขยันจริงๆ มาทำงานแต่เช้ายังรีบวิ่งเข้ามาในแผนกอีก น่าภาคภูมิใจที่ชานยอลยุให้จงแดเลือกเด็กคนนี้เข้ามา ... ลู่ห่านที่มองอยู่กำลังรวบรวมเหตุการณ์ .. ที่เซฮุนบอกพรมลิขิตเมื่อเช้า คือแบบนี้สินะ

     

    เด็กใหม่ พี่ชื่อชานยอลนะครับ ส่วนนั่น พี่ลู่ห่านคนที่จะช่วยเทรนงานให้ ตั้งใจทำงานละ

     

                เซฮุนส่งแก้วในมือให้ชานยอลแล้วโค้งทักทายสวัสดี พร้อมเดินยิ้มมาหาลู่ห่าน .. ผ่านเรื่องราวแปลกๆมา แต่พอได้มาเจอหน้าลู่ห่านทำให้เซฮุนรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย

     

    กลับบ้านไปโดนแน่


    ลู่ห่านพูดลอดไรฟันขู่เซฮุน ทำให้ร่างสูงหลุดยิ้มขำออกมา

     

                โดนอะไรหรอครับหืม รุ่นพี่


                เซฮุนยิ้ม ส่งสายตากรุ้มกริ่มใส่ลู่ห่าน ทำให้โดนมือเล็กฟาดมาเต็มๆแขน

    .
    .
    .
    . 13.00 น.
    .
    .

                ทั้งเช้านี้ลู่ห่านเทรนงานให้เซฮุนหลายอย่าง การตลาดนั้นต้องมีความคิดรอบคอบ มีความคิดสร้างสรรค์และต้องสามารถคาดการณ์คาดเดาทุกอย่างให้แม่นยำ ซึ่งเซฮุนถือว่าเป็นคนที่เก่งมากคนนึงเรียนรู้งานได้ไว เผลอๆยังหัวไวกว่าคนแก่อย่างลู่ห่านด้วยซ้ำ ร่างเล็กนั่งเท้าคางมองร่างสูงที่ขมวดคิ้วคร่ำเคร่งกับงานที่ทำอย่างตั้งใจ ... เอาอีกแล้ว ... คิดถึงจงอินอีกแล้ว แต่น่าแปลกวันนี้ตั้งแต่เช้า .. ลู่ห่านกลับลืมเรื่องจงอินไปซะสนิทเลยเมื่ออยู่กับเซฮุน ...

     

                “เสร็จแล้วครับพี่  จ้องผมอีกแล้ว จะกินผมแทนข้าวหรือยังไงครับ?”

                ลู่ห่านมัวแต่เหม่อนึกถึงเรื่องของจงอินจึงลืมดูเวลา ตอนนี้ถึงเวลาพักเบรกกินข้าวแล้ว พอได้สติจึงกุลีกุจอลุกเดินนำร่างสูงไปที่ห้องอาหารพนักงาน  เซฮุนเห็นแบบนั้นก็อดอมยิ้มไม่ได้ ... จึงเดินยิ้มไปตลอดทางที่เดินตามลู่ห่าน หลังจากทั้งคู่มาถึงห้องอาหารลู่ห่านก็แนะนำร้านอาหารให้เซฮุนรู้ว่าร้านไหนที่เซฮุนน่าจะชอบร้านไหนที่ไม่โอเค .. และพามาแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนๆแผนกอื่น พอทานอาหารเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็กลับมาทำงานต่อ พอดูเวลาอีกที ก็ล่วงเลยไปจนค่ำแล้ว

    .
    .
    .
    .   22.30 น.
    .
    .
    .
     

     

                “เฮ้ย เด็กใหม่ พี่ลู่ ผมกลับแล้วนะ พอดีต้องไปรับแฟนต่อ ไม่ต้องขยันมากละอยู่บริษัทด้วยกันดึกๆระวังได้กันเอง

     

                ก่อนที่ชานยอลจะกลับออกไปยังมีการกวนบาทาตบมุกทิ้งท้ายเอาไว้ให้ลู่ห่านส่งสายตาอาฆาตให้ .. กวนจริงๆเลย นี่ขนาดไม่รู้ว่าอยู่ด้วยกัน ถ้ารู้ว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันคงปิดออฟฟิศฉลองให้ลู่ห่านเลยมั้ง

     

                “พี่ แล้ว วันนี้หัวหน้าแผนกไม่เข้าหรอ

     

                “หัวหน้าแผนกบินไปดูงาน ต่างประเทศเมื่อวานหน่ะ กว่าจะกลับคงอาทิตย์หน้า

     

                “อ๋อ

     

                เซฮุนพยักหน้ารับ แล้วเดินสำรวจไปทั่วแผนก เพราะตอนนี้พนักงานในแผนกกลับไปหมดแล้ว  บริษัท SM กรุ๊ปจำกัดส่วนมากตามเวลาคือให้พนักงานเข้างาน 8 โมง และเลิกงาน 3 ทุ่ม และที่นี่ถือว่าเป็นบริษัทนึงในเกาหลี ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมากในเรื่องการส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ แต่บริษัทนี้ยังปิดข้อมูลของผู้สืบทอดเป็นความลับ จริงๆบริษัทนี้ก็เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งของบริษัทพ่อแม่ลู่ห่าน และเซฮุน แต่น่าแปลกที่ไม่เคยพาทายาทมาพบปะในงานเซเลปสังสรรค์บ้างเลย เห็นว่าทายาทเป็นนักเรียนนอกและเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ยังไม่พร้อมออกสื่อจนกว่าจะถึงเวลาต้องมาบริหาร

     

                ปึก .. ปึก .. ปึก.. 

     

    เสียงแฟ้มเอกสารที่อยู่ในตู้ค่อยๆล่วงหล่นลงมาทีละเล่มท่ามกลางเสียงเงียบกริบ ลู่ห่านเงยหน้าขึ้นมองแล้วหันไปทางเซฮุน แต่เซฮุนมองหน้าลู่ห่านแล้วก็ยกมือแบประมาณว่าเปล่าไม่ได้เป็นคนทำ ...  พร้อมทั้งจุดที่เซฮุนยืนอยู่ตอนนี้ไกลจากตู้เอกสารมากกว่าลู่ห่านเสียอีก  .. แย่จริง ชานยอลคงสะเพร่าเปิดตู้เอกสารทิ้งไว้และรีบยัดแฟ้มเข้าไปสินะถึงได้หล่นลงมาแบบนี้ ร่างเล็กลุกจากเก้าอี้ที่ทำงานของตัวเองและเดินไปหยิบแฟ้มเอกสารที่ล่วงลงบนพื้นขึ้นมา เตรียมจะจัดเก็บเข้าใส่ตู้ แต่เสียงของเซฮุนที่ตะโกนขึ้นมาก็ทำให้ลู่ห่านสะดุ้งตกใจ

     

    พี่ลู่ระวัง!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

    สายตาคมของเซฮุนเลื่อนไปเห็นถ้วยรางวัลขนาดใหญ่ที่วางอยู่ชั้นบนสุดของตู้เอกสารกำลังจะเคลื่อนหล่นลงมา ร่างสูงจึงตะโกนเรียกลู่ห่านพร้อมทั้งวิ่งเข้าไปกอด กดหัวเล็กของลู่ห่านแนบอกและเอาตัวของตัวเองบังไว้ ทำให้ถ้วยรางวัลขนาดใหญ่ตกลงมาใส่หัวเซฮุน ดัง ปัก .. เสียงดังลั่น พร้อมกับที่ร่างเล็กรู้สึกว่าเซฮุนแน่นิ่งไป อีกทั้งยังล้มทับลู่ห่านอีกต่างหาก ร่างเล็กจึงพยุงเซฮุนลงให้นอนตักและเลื่อนมือไปสัมผัสบริเวณศรีษะของเซฮุน ที่ต้องตกใจ เพราะมือของลู่ห่านเต็มไปด้วยคราบเลือดสีแดงฉาน   ร่างเล็กมือสั่นเทาทำอะไรไม่ถูก กำลังช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากจะเปล่งเสียงร้องออกมาดังๆให้คนช่วย แต่ไม่สามารถทำได้ ลู่ห่านกำลังช็อคมากเพราะคิดถึงเรื่องราวของจงอินขึ้นทันที  โชคดีของเซฮุน ที่ชานยอลลืมของแล้วกลับเข้ามาในออฟฟิศ แล้วก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น

     

    พี่ลู่ !! เกิดอะไรขึ้นครับ  พี่ลู่ !! ตอบดิวะ

     

    ชานยอลรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของเซฮุน และเขย่าตัวลู่ห่านเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่มีเสียงใดๆตอบมาจากร่างเล็ก ลู่ห่านมองมือที่มีเลือดสีแดงฉานอาบอยู่เต็มมือ น้ำตาไหลพรากลงมา พยายามอ้าปากเปล่งเสียงพะงาบๆแต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา  ชานยอลเห็นท่าไม่ดี จึงโทรเรียกรถพยาบาล

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

                “มึงกำลังจะทำอะไร เซฮุน

     

                เซฮุนชะงักกับเสียงที่ดังขึ้นมา เป็นเสียงของจงอินพี่ชายของเขานั่นเอง  โดยที่ลู่ห่านกำลังนอนหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่บนเตียงนอน

     

                ก็เปล่า เห็นมีอะไรติดหน้าพี่ลู่เลยปัดออกให้ไง

     

                เซฮุนยักไหล่พร้อมทำหน้าตาย บอกว่าไม่ได้ทำอะไร .. แต่สิ่งที่จงอินกำลังเห็นนั้นคือเซฮุนกำลังจะแนบริมฝีปากลงบนหน้าผากของลู่ห่าน จงอินรู้ดีกับความรู้สึกของเซฮุนที่มอบให้ลู่ห่าน แต่มันเป็นไปไม่ได้ ลู่ห่านเลือกจงอินแล้ว ตอนนี้เราเป็นแฟนกัน จงอินไม่ยกร่างเล็กให้ใครทั้งนั้น ถึงจะเป็นน้องชายร่วมสายเลือดก็ตาม

     

                กูรู้  ว่ามึงคิดอะไรอยู่ กูขอเตือนนะเซฮุนในฐานะที่มึงเป็นน้องกู ทำใจซะ ลู่ห่านรักกู เรื่องของมึงไม่มีวันเป็นไปได้

     

                “มึงรู้ได้ไงวะพี่  บางทีซักวันอาจจะเป็นวันของกูก็ได้

     

                เซฮุนยกยิ้มเยาะเย้ยใส่จงอิน .. น้องชายของจงอินคนที่ลู่ห่านคิดว่าเป็นเด็กเรียบร้อยเรียนเก่ง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย เซฮุนเป็นเด็กเกเร ดื้อเงียบ ใบหน้าที่ดูติ๋มๆนั้น เป็นแค่สิ่งหลอกลวงเพราะเซฮุนพร้อมจะถอดหน้ากากออกกับคนที่คิดว่าเป็นศัตรูเสมอ ความจริงเซฮุนไม่ได้คิดอยากจะเกลียดจงอินพี่ชายของตัวเอง แต่ทำยังไงได้ เซฮุนรักลู่ห่านมากเกินไป

     

                ฟังกูให้ชัดๆนะ .. กูไม่มีวันยอม ถ้าวันนั้นมาถึงกูจะขัดขวางมึง .. ทุกวิถีทาง .. ออกไปจากชีวิตเมียกูซะ

     

                จงอินเดินเข้าไปกระซิบข้างหูเซฮุนเสียงหนักแน่น และตบบ่าเซฮุนเบาๆ .. ท่าทางของจงอินแสดงถึงการปลอบใจ แต่น้ำเสียงและสายตาของจงอินมันคือคำเตือน

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

                เฮือก !

     

                เซฮุนสะดุ้งตื่นขึ้นมา เห็นเพดานสีขาวโพลน มองไปที่แขนก็เห็นมีสายน้ำเกลืออยู่ .. ตอนนี้เขาอยู่โรงพยาบาลสินะ สายตาคมกวาดมองไปทั่วห้อง ขณะนี้เวลา 02.40 น. ลู่ห่านที่หลับฟุบทับแขนอีกข้างที่ไม่มีสายน้ำเกลือของเซฮุน ค่อยๆขยี้ตางัวเงียตื่นขึ้นมา พอเห็นว่าเซฮุนฟื้นแล้วเท่านั้นแหละ ลู่ห่านก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันที

     

                เป็นยังไงบ้าง เซฮุน จำพี่ได้มั้ย นี่เลขอะไร

     

                ลู่ห่านตั้งคำถามพร้อมทั้งโบกนิ้วสองนิ้วไปมา จนเซฮุนเผลอหลุดขำออกมา

     

                จำได้ดิ หน้าเหี่ยวขนาดนี้หาที่ไหนไม่ได้ละ  แล้วจะชูสองนิ้วทำไมครับใบ้หวย?”

     

                ลู่ห่านเบะปากใส่เซฮุน ให้ตายสิ ไม่น่าเป็นห่วงเลยตื่นมาก็กวนประสาท ร่างเล็กลุกขึ้นพร้อมเดินไปที่โซฟาพร้อมจะทิ้งตัวลงนอนก็ต้องชะงักกับเสียงของเซฮุน

     

                พี่ลู่ .. หิวน้ำ

     

                ร่างเล็กลุกจากที่นอนเดินตรงไปที่โต๊ะ เทน้ำในเหยือกใส่แก้วพร้อมแกะหลอดเสียบใส่แก้ว และเดินเอาหลอดมาจ่อที่ปากเซฮุน  .. ร่างสูงได้โอกาสจึงทำท่างับหลอดแต่ก็ยังลวนลามลู่ห่านด้วยการให้ริมฝีปากร้อนแตะโดนนิ้วเรียวเล็กเบาๆ

     

                ตลกแล้ว อยากโดนพี่โบกหัวให้เลือดไหลอีกรอบมั้ยครับ

     

                ร่างสูงยิ้มหน้าติ๋มใส่ลู่ห่าน เซฮุนรู้ว่าลู่ห่านชอบให้ยิ้มแบบนี้ พอยิ้มแบบนี้ทีไรใจอ่อนทุกที

     

                ว่าแต่ .. อยากกินไรรึเปล่าเดี๋ยวพี่ลงไปซื้อที่เซเว่นโรงพยาบาลให้

               
                “ไม่อะ ในโรงบาลมีชานมไข่มุกขายมั้ยครับ

     

                “มันอาจจะมี แต่ชานมไข่มุกบ้านแกเปิดตอนตีสองกว่าหรอ  - -

     

                “งั้นไม่เอา

     

                “ตามใจ งั้นพี่ลงไปซื้อของแปปนะมีอะไรเจ็บตรงไหนก็กดเรียกพยาบาลละ

     

                “คร้าบบบ รีบไปรีบมา ... เออพี่ ... ดูแลตัวเองด้วยนะครับ

     

                ลู่ห่านแปลกใจกับสีหน้าที่เป็นกังวลของเซฮุน .. เห็นพี่เป็นเด็กหรือยังไงกันนะลงไปเซเว่นแค่นี้ต้องทำหน้ากังวลขนาดนั้นเชียว ลู่ห่านปิดประตูห้องของเซฮุน พร้อมเดินออกมาจากห้อง .. ถึงแสงไฟตามทางเดินโรงพยาบาลยังสว่างอยู่ แต่ก็วังเวงพิกล เพราะไม่มีคนอยู่ .. ไม่มีแม้แต่พยาบาล ได้ยินเพียงแต่เสียงรถเข็นของพยาบาลที่มักจะมีไว้วางเครื่องตรวจความดันและคอยไปเช็คความดันของผู้ป่วยตามห้องต่างๆ .. ลู่ห่านเดินมาหยุดตรงกึ่งกลางทางเดินซึ่งจะเป็นเคาท์เตอร์พยาบาลของชั้นนี้แต่ไม่มีพยาบาลเฝ้าอยู่ ก็เข้าใจว่าตอนนี้มันดึกมากอาจจะไม่มีพยาบาลเฝ้า แต่ก็ดูเงียบวังเวงพิกล ลู่ห่านพยายามชะเง้อมองไปยังทางเดินอีกฟากที่มีเสียงรถเข็นดัง แต่พอชะเง้อไปมองก็ไม่เห็นใครอยู่ .. พร้อมทั้งเสียงรถเข็นก็เงียบไปด้วย พยาบาลอาจจะเดินเข้าไปวัดความดันคนไข้ แต่ .. ทำไมไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูนะ ..

               

                ลู่ห่านสลัดความคิดแปลกๆที่จะทำให้ตัวเองกลัวออกไป พร้อมเดินตรงไปยังลิฟต์ เลื่อนมือเล็กกดลงไปชั้นล่าง และยืนรอซักพักเสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นพร้อมประตูก็เปิดออก ลู่ห่านเห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ในลิฟต์เธอมีผมยาวสีดำสลวย ดวงตากลมโต แต่งหน้าจัดจ้านใส่เดรสกางเกงขาสั้นเกาะอกสีขาวโชว์ร่องอก สังเกตก็พอดูออกว่าเธอคงเป็นสาวเปรี้ยว พอเธอเห็นลู่ห่านจะเดินเข้าไปในลิฟต์ก็ฉีกยิ้มหวานมาให้ ลู่ห่านจึงยกยิ้มบางๆตอบรับตามมารยาท ลู่ห่านก้าวเข้ามาในลิฟต์และกดไปที่ชั้น 1 พลางกวาดสายตามองตามตัวเลขชั้นต่างๆ ซึ่งมันน่าแปลก .. ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้กดชั้นที่จะลง เหมือนกับว่าเธอกดลงมาชั้นที่ลู่ห่านรอลิฟต์อย่างนั้นแหละ .. แต่ทำไมเธอถึงยังอยู่ถึงยังไม่ออกไปนะ ..

     

                เอ่อ ขอโทษนะครับจะลงไปชั้นอะไร

     

                ลู่ห่านหันหลังไปเพื่อจะถามผู้หญิงคนนั้น แต่ปรากฏว่า ... ไม่มี ... ภายในลิฟต์ว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ มีเพียงลู่ห่านเท่านั้น ... นี่เราตาฝาดหรือนี่ ... แต่ทำไมมันถึงเหมือนจริงมากๆเลย ... ตอนนี้ไม่ได้ฝันอยู่ใช่มั้ยนะ .. ลู่ห่านหันกลับมาที่เดิมพลางหยิกแขนและตีแก้มตัวเองเบาๆ ให้รู้สึกเจ็บ .. แสดงว่าไม่ได้ฝันไป

     

                คิ คิ ..

     

                ลู่ห่านสะดุ้งเฮือกทันทีที่มีเสียงหัวเราะแหลมๆดังขึ้นพร้อมทั้งหันกลับไปมองด้านหลังอย่างรวดเร็ว ... ไม่มี ไม่มีใครอยู่ ลู่ห่านมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้หูฝาดไปอย่างแน่นอน เมื่อกี้มันเป็นเสียงหัวเราะของผู้หญิงที่แผดดังขึ้นเสียงแหลมๆ .. ขนแขนของลู่ห่านลุกเกรียวกราว มือเล็กเอื้อมไปกดย้ำๆที่ชั้น 1 รัวๆเผื่อลิฟต์มันจะเลื่อนลงไปเร็วขึ้น ..

     

                พรึบบ กึกก ก.....

     

                จู่ๆ ไฟในลิฟต์ก็ดับลง อีกทั้งยังรู้สึกว่าลิฟต์มันหยุดค้างอยู่ที่เดิมอีก .. มือที่กำลังสั่นเทาอยู่ตอนนี้ของลู่ห่าน พยายามควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง

     

                ตุบ !!

     

                ให้ตาย โทรศัพท์ตกลงบนพื้นลิฟต์ ลู่ห่านกำลังจะช็อคตายอยู่แล้ว  ปกติก็เป็นคนไม่ชอบความมืดเลย อีกทั้งยังกลัวผีมากๆ ร่างเล็กค่อยๆย่อตัวลง ใช้มือเล็กคลำไปตามพื้นลิฟต์เย็นๆที่คาดว่าโทรศัพท์น่าจะอยู่ แทนที่จะเจอโทรศัพท์ลู่ห่านกลับรู้สึกถึงสัมผัสแปลกๆ เหมือนของเหลวข้นๆ บางทีอาจจะมีคนทำน้ำหกในลิฟต์ถ้ามองในแง่ดี แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ในใจของลู่ห่านรู้ดีว่ามันคือเลือด เพราะทันทีที่มือเล็กสัมผัสโดนของเหลวนั้น กลิ่นคาวก็คละคลุ้งเต็มลิฟต์ แม้ว่าลู่ห่านจะพยายามกลั้นหายใจเท่าไหร่ แต่พอหมดแรงกลั้นก็ต้องสูดกลิ่นคาวปนกลิ่นน้ำเหลืองที่เหม็นเน่าเหมือนว่ามีศพขึ้นอืดมากองๆรวมอยู่ในลิฟต์ .. ทันทีที่ลู่ห่านควานหาโทรศัพท์บนพื้นเจอ ก็ต้องข่มใจสาดแสงไฟจากโทรศัพท์ไปรอบๆลิฟต์อย่างรวดเร็ว ..

                เฮือกก ..!!

     

                เมื่อกี้ลู่ห่านรู้สึกว่าตัวเอง ... สาดแสงไฟจากโทรศัพท์แล้วเห็นอะไรบางอย่าง .. แม้จะช่วงพริบตาเดียวที่ไฟจากแสงโทรศัพท์สองผ่าน แต่ลู่ห่านกลับจำรายละเอียดได้ดี .. เพราะว่าผู้หญิงคนสวยที่ฉีกยิ้มให้ลู่ห่านตอนเข้ามาในลิฟต์นั้น เธอกลับมีเลือดไหลอาบหน้า ยืนฉีกยิ้มที่มีลิปสติกสีแดงฉานเหมือนสีเลือด เหลือกตาถลึงมองมาเหมือนเคียดแค้น มือของเธอกุมอยู่ที่ท้องและระหว่างขาของเธอมีของเหลวสีแดงไหลลงมาเหมือนตกเลือด ลู่ห่านไม่คิดจะส่องไฟสำรวจลิฟต์อีก ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว ว่าสิ่งที่เขาเจออยู่ตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่จิตตก แต่คือผี ... มือเล็กพยายามกดปุ่มในลิฟต์ที่ในลิฟต์ทุกตัวจะมีไว้เพื่อขอความช่วยเหลือยามฉุกเฉิน .. แต่ไม่ว่าลู่ห่านจะพยายามกดและร้องเรียกตะโกนขอความช่วยเหลือยังไงก็ตาม กลับไม่มีเสียงตอบรับใดใดเลย

     

                คิคิ คิคิ คิคิ คิ  คิคิ คิ ....

     

                เสียงหัวเราะแหลมๆแผดดังขึ้นมาอีกท่ามกลางความเงียบในลิฟต์ และเสียงหัวเราะก็ทวีความดังขึ้นเรื่อยๆ ลู่ห่านนั่งชันเข่าแผ่นหลังติดผนังลิฟต์หลับตาแน่น เม้มปากสนิท สองมือยกขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างไว้ภาวนาในใจให้เรื่องนี้ผ่านไปเร็วๆ ใครก็ได้ซักคนให้มาช่วยลู่ห่านที .. ในใจของลู่ห่านตอนนี้กำลังร้องเรียก ... จงอินช่วยด้วย ...

     

                กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ....

     

                นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ลู่ห่านได้ยินก่อนที่จะหมดสติไป  .. แต่ก่อนจะหมดสติและยังมีสติเลือนราง ลู่ห่านพยายามปรือตาขึ้นมามอง ไฟในลิฟต์สว่างดังเดิม ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออกปรากฏร่างคนนึงซึ่งสายตาเลือนลางคาดว่าเป็นผู้ชาย .. คล้ายจงอิน .. เดินเข้ามาอุ้มลู่ห่านออกจากลิฟต์ไป หลังจากคนนั้นเข้ามาอุ้ม ลู่ห่านมั่นใจ ว่าคือจงอินแน่ๆ สัมผัสอุ่นๆแบบนี้ กลิ่นกายแบบนี้ ลู่ห่านจะลืมได้อย่างไร แม้พยายามเปล่งเสียงร้องออกมาหรือฝืนดวงตาที่หนักอึ้ง ร่างเล็กก็ไม่สามารถฝืนได้อีกต่อไปและเข้าสู่นิทราในที่สุด

     

                ความคิดของลู่ห่านตอนนี้ ... ผู้หญิงคนนั้นคือใคร เป็นวิญญาณที่สถิตอยู่โรงพยาบาลแล้วต้องการความช่วยเหลือใช่มั้ย .. แล้วทำไมสายตาที่เธอมองช่างดูเคียดแค้นเหมือนอยากจะเอาชีวิตของลู่ห่านขนาดนี้ .. และคนที่มาช่วยคือใคร .. ไม่สิ ..ลู่ห่านมั่นใจว่าคือจงอินแน่นอน จงอินยังไม่ตาย .. หรือว่าจงอินที่ลู่ห่านรู้สึกไม่ใช่คน .. คืออะไรกันแน่ แม้ร่างกายจะหลับใหล แต่ในสมองของลู่ห่านยังคงคิดเวียนวนถึงข้อสงสัย .. แต่อย่างน้อยลู่ห่านก็มั่นใจได้อย่างนึงว่า ต้องเป็นเรื่องโชคดีอย่างแน่นอนที่ลู่ห่านรู้สึกถึงจงอินได้แล้ว .. แต่เปล่าเลย .. ถึงแม้อาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับความรู้สึกของลู่ห่าน แต่ไม่ดีต่อชีวิตของลู่ห่านต่อจากนี้อย่างแน่นอน .. ไม่ใช่โชคดีกำลังมา แต่เป็น โชคร้ายกำลังมาเยือนต่างหาก ... ต่อจากนี้ลู่ห่านจะได้รู้จักคำว่าโชคร้ายอย่างแท้จริง

     

     


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    จบไปแล้วกับตอนที่ 2 ยาวมั้ยไม่รู้เหมือนกันเอาเป็นว่าไรท์พยายามเร่งอัพฟิคสุดๆแต่อยากให้
    เนื้อเรื่องออกมาดีเลยพยายามเค้นจิ้นในหัวออกมาเลยอัพช้าตามสภาพ ขอบคุณผู้อ่านที่มาติดตาม
    ขอให้ติดตามกันตลอดไปเรื่อยๆนะ สัญญาว่าฟิคเรื่องนี้จะจบเรื่องแน่นอน ลองคอมเม้นท์เดาๆกันมาก็ได้นะ
    ว่าผู้หญิงที่ลู่ห่านเจอคือใครต้องการอะไร .. หรือว่าคนที่อุ้่มลู่ห่านออกจากลิฟต์ใช่ไครึเปล่า ..

    ps. ตอนหน้าจะมี nc โผล่มารอลุ้นเอานะจะเป็นคู่ไหนอะไรยังไง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×