คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : อดีต...
เช้าวันเสาร์ที่สดใส โทโมฮิสะตื่นเช้ากว่าทุกวัน จัดเตรียมของใช้ส่วนตัวใส่เป้ใบเก่ง ก่อนจะสะพายเป้เดินลงบันไดร่างบางมองหาพ่อ เพราะปกติวันเสาร์พ่อจะตื่นเช้าเหมือนทุกวัน นั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องอาหาร แต่หากวันนี้โต๊ะอาหารมีเพียงแก้วกาแฟที่ดื่มแล้วตั้งทิ้งไว้เท่านั้น ร่างบางเดินไปยังห้องทำงานที่คิดว่าพ่อน่าจะอยู่ แล้วเสียงตบโต๊ะก็ทำให้ร่างบางสะดุ้งก่อนที่จะหยุดฟังที่ประตู
“อะไรกัน แค่นี้ก็ทำไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขายหุ้นไป แค่บางส่วนเท่านั้นนะ” เคย์สุเกะตะโกนใส่โทรศัพท์ก่อนจะวางหูอย่างอารมณ์เสีย
ร่างบางค่อยๆ ก้าวเข้ามา เคย์สุเกะเงยหน้าขึ้นสบตาลูกชาย ก่อนจะยิ้มให้อย่างฝืนๆ
“มีอะไรรึเปล่าโทโมะจัง”
“คือ ผมจะขอกลับไปจิบะครับ วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของแม่”
“จริงด้วย ลืมไปเลย ขอโทษนะโทโมะจัง พ่อคงไปด้วยไม่ได้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไปคนเดียวได้”
“ฝากบอกชิโยริ แม่ของลูกด้วยว่า พ่อรักแล้วก็คิดถึงเค้าตลอดเวลานะ แล้วก็ขอบคุณที่เลี้ยงลูกได้ดีขนาดนี้” เคย์สุเกะตบไหล่ลูกชายเบาๆ โทโมฮิสะพยักหน้าก่อนจะขอตัวออกไป ทิ้งให้เคย์สุเกะจมเข้าสู่ภวังค์แห่งความเครียดอีกครั้ง
....โรงแรมแกรนด์พาราไดส์....ที่เขาทุ่มเทกับมันมาทั้งชีวิตกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต...
...............................................................................................
จินขับรถพาโฉะองมายังสถานที่แห่งหนึ่ง ร่างบางเบ้หน้าทันทีหลังจากที่ได้เห็นเต็มตาว่าสถานที่แห่งนี้คืออะไร
....สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า....
“ขับรถมาตั้งไกล จะพามาสวีทที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเนี่ยนะ ไปทะเลไม่ดีกว่าหรอ” โฉะองเกาะแขนถามคนรักอย่างอ้อนๆ
“ที่นี่เคยเป็นบ้านของผม” จินตอบโดยที่ไม่ได้มองหน้าโฉะอง
“....” ร่างบางปล่อยแขนคนรัก ก่อนจะจ้องหน้าร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ ... ลูกชายเจ้าของอคานิชิกรุ๊ปจะเคยอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้อย่างไร
“อคานิชิซังเป็นพ่อบุญธรรมของผมน่ะ เริ่มรู้สึกรังเกียจผมแล้วใช่มั้ยล่ะ” จินว่า
“...ไม่ ฉันไม่มีวันเกลียดจินหรอก ต่อให้จินเป็นอะไร เลวร้ายขนาดไหน ฉันก็จะไม่เกลียดจิน ฉันแค่...รู้สึกว่ามันดูเก่าๆ ยังไงไม่รู้ มีแต่เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่เต็มไปหมด” ร่างบางซุกหน้าลงกับอกกว้าง ร่างสูงกอดคนรักไว้หลวมๆ ก่อนสายตาจะไปหยุดอยู่ที่ร่างบางคุ้นตาของใครอีกคน
...โทโมฮิสะ...นายมาที่นี่ทำไมกัน....
“พวกคุณมาหาใครรึเปล่า” เสียงร้องถามจากชายชราในชุดบาทหลวงทำให้จินหันไปมองก่อนยิ้มกว้าง
“หลวงพ่อ!” จินยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งเข้าไปหา เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเหมือนได้เจอกับครอบครัว
“จินใช่มั้ย โตขึ้นเยอะเลยนะ” สีหน้าของบาทหลวงชราก็ดีใจไม่แพ้กัน
บาทหลวงพาจินกับโฉะองเดินชมรอบๆ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จินรู้สึกถึงบรรยากาศอบอุ่นที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เขาเดินช้าๆ ก้าวแล้วก้าวเล่า เหมือนอยากย่ำรอยเท้ารอยเดิมที่เขาเคยเดิน โฉะองมองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกขยะแขยงร่างบางพยายามแตะต้องสิ่งของให้น้อยที่สุด เขามองจินอย่างไม่เข้าใจ
....มีชีวิตที่สุขสบายแล้วแท้ๆ ทำไมถึงยังมีความสุขในที่แบบนี้นะ....
“จิน ฉันไปรอที่รถได้มั้ย เมื่อยแล้ว อีกอย่างฉันหายใจไม่ค่อยออกด้วย มันอับน่ะ” โฉะองพูดอย่างเกรงใจคนรัก
จินพยักหน้า มองตามร่างบางไปจนลับตา ก่อนจะหันมาคุยกับบาทหลวง
“สิบปีแล้วนะครับ ที่ผมไม่ได้กลับมาเลย แต่หลวงพ่อก็ยังดูแข็งแรงเหมือนเดิม”
“ไม่หรอก ก็แก่ลงตามวัยนั่นล่ะ”
“คุณป้าชิโยริสบายดีมั้ยครับ” จินถามหาคนที่เปรียบเสมือนแม่ของเขาที่นี่ เพราะชิโยริดูแลเขาราวกับเป็นลูกแท้ๆ สีหน้าหลวงพ่อสลดลงก่อนจะตอบจินด้วยเสียงแผ่วเบา
“หนึ่งปีแล้ว ที่ชิโยริจากไป วันนี้ลูกเขาก็มาคารวะหลุมศพ ไม่เจอกันหรอ”
“อะไรนะครับ คุณป้า...ตายแล้วอย่างนั้นหรอ แล้วลูกที่หลวงพ่อพูดถึง...พีจังน่ะหรอครับ เขาอยู่ไหนกันหรอครับ” จินกระตือรือร้นเมื่อพูดถึงเพื่อนคนเดียวของเขา .... สัญญาที่ให้ไว้ก่อนที่เขาจะจากไป... เขาลืมมันซะสนิท ....สัญญาว่าจะกลับมา...แต่เขาก็ไม่ได้กลับมาจนกระทั่งวันนี้
“คงยังอยู่ที่หลุมศพแม่เขาล่ะมั้ง เพิ่งเข้ามาเมื่อกี้นี้ รายนั้นก็เพิ่งเจอพ่อ ฉันดีใจจริงๆ ที่พวกเธอมีอนาคตที่ดี อย่าทำอะไรที่ทำให้ความดีเหล่านี้เลือนหายไปนะจิน อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านเลยไป อย่าเก็บมันมาเป็นรอยแผลเป็นในหัวใจ”
“ผม...รับปากไม่ได้ครับหลวงพ่อ”
...................................................................................
ร่างบางหอบดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่มาวางไว้หน้าหลุมศพของผู้เป็นแม่ ก่อนจะนั่งลงเก็บกวาดเศษใบไม้พลางเล่าเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาในรอบปีให้แม่ฟัง ร่างบางเล่าถึงพ่อที่เขาเพิ่งเคยพบหน้าเป็นครั้งแรก เล่าเรื่องของโฉะอง พี่ชายที่เริ่มจะใจดีกับเขาบ้างแล้ว รวมถึงเรื่องราวของคนใจร้ายอีกคน แต่โทโมฮิสะเลือกที่จะเล่าแค่บางส่วนเท่านั้น
“แม่รู้อะไรมั้ยฮะ ผมเกือบจะคิดว่าผมเจอจินแล้วด้วย แต่แม่อย่าเพิ่งดีใจนะครับ คนๆ นั้นไม่ใช่จินของเราหรอก คนๆ นั่นน่ะ ตอนแรกก็เหมือนจะใจดีนะครับ ผมหลงทาง ขึ้นรถไฟไม่เป็นก็ช่วยผม แต่.. ช่างมันเถอะครับแม่ เอาเป็นว่ายังไงๆ เค้าก็ไม่ใช่จินของเรา ไม่ใช่จินที่สัญญาว่าจะกลับมาหาเรา พูดถึงจินของเรา แม่ว่าป่านนี้เขาจะสบายดีมั้ยครับ เขาคงได้อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นนะครับ อ่อ... พ่อฝากมาบอกว่ารักแล้วก็คิดถึงแม่ตลอดเวลาด้วยนะ แล้วก็ชมว่าแม่เลี้ยงผมได้ดีด้วย ” ร่างบางยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคน
“พีจัง” ร่างสูงพึมพำในความเงียบ
............................................................................................
“ตั้งแต่จินกลับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่น ดูจินแปลกๆ ไปนะ” โฉะองถามขึ้นขณะขับรถกลับบ้าน
“หืม ก็ไม่นี่ คงแค่รู้สึกคิดถึงล่ะมั้ง”
“ฉันอยากรู้จังว่าจินมีชีวิตแบบไหน ตอนอยู่ที่นั้น จะว่าไป เหมือนฉันไม่รู้จักจินเลยนะ”
“เราเคยเจอกันด้วยล่ะ นายจำไม่ได้หรอ ...เจอกันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นล่ะ”
“จริงหรอ ไม่เห็นจำได้”
“นายมากับแม่นาย”.... มาต่อว่าคุณป้าชิโยริถึงที่นี่....
คำพูดของโฉะองเมื่อวันนั้นที่ว่า “ฉันไม่เล่นกับเด็กไม่มีพ่อ ไม่มีแม่” มันเป็นอะไรที่บาดลึกในหัวใจมาจนถึงวันนี้ .... อาจจะบาดลึกไปถึงหัวใจของพีจังด้วย.... แต่จินก็เลือกที่จะลืม หากวันนี้ไม่เกิดเหตุการณ์ทำนองเดิมขึ้นอีก.... นิสัยดูถูกคนของโฉะองคงเป็นสิ่งที่แก้ไม่หาย....
“จริงหรอ มาทำอะไรล่ะ”
“ฉันก็จำไม่ค่อยได้แล้วล่ะ ช่างมันเถอะ”
โฉะองมองหน้าคนรักด้วยความไม่เข้าใจแต่เมื่อจินเลือกที่จะไม่พูด เค้าเองก็ไม่ถาม ทั้งคู่นั่งอยู่กับความเงียบจนกระทั่งถึงบ้าน จินส่งโฉะองที่หน้าบ้าน
....เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า จะยังคงดำเนินแผนการแก้แค้นต่อไปหรือไม่....
....เขาไม่อยากให้พีจังต้องเจ็บอีก...คนที่เขารักและผูกพันกำลังมีครอบครัวที่อบอุ่น...
...เขาไม่อยากทำลายมันด้วยมือของเขาเอง...
.................................................................
จินมองภาพถ่ายในมือ ...รูปโทโมฮิสะที่ถ่ายไว้เพื่อหวังจะแก้แค้นเคย์สุเกะให้สาสม...เขาฉีกมันก่อนจะใส่เตาเผาจนหมดสิ้น ...
ภาพวันเก่าๆ ย้อนกลับมา ภาพเด็กชายตัวเล็กหน้าหวานที่มักจะติดตามเขาไปสำรวจนั่นสำรวจนี่อย่างสนใจ แม้บางครั้งเขาจะรู้สึกรำคาญในความช่างซักช่างถาม แต่ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มหวานๆ จากคนๆ นั้นเขาก็จะอารมณ์ดีขึ้นมา มีครั้งหนึ่งที่เขาตกต้นไม้หัวแตก พีจังร้องไห้แล้วก็กอดจินไว้แน่น ไม่ว่าใครจะมาดึงออก พีจังก็ไม่ยอม บอกแต่ว่าจะอยู่กับจิน จะอยู่กับจิน จนกระทั่งบาทหลวงต้องบอกว่า ถ้ากอดจินไว้แบบนี้ ก็จะทำแผลไม่ได้ แล้วจินก็จะตายเพราะเลือดไหลหมดตัวนั่นล่ะ ...พีจังถึงได้ยอมปล่อย ...แต่ก็ยืนมองจินแบบตาไม่กระพริบ เหมือนกับว่าถ้าเผลอกระพริบตา จินอาจจะหายไปเลยก็ได้ ....คิดไปแล้วก็ยังนึกขำ.... จินใช้ชีวิตเหมือนเป็นคนในครอบครัวของคุณป้าชิโยริ เหมือนเป็นพี่ชายของพีจัง... แล้ววันหนึ่งก็มีคนมารับเขาไปเป็นลูกบุญธรรม...อคาชินิ อาคิฮิโกะ... เขาจำได้ว่าวันที่เขาจะต้องออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขากอดป้าชิโยริไว้แน่น โดยมีพีจังกอดเขาไว้อีกที ทั้งสามคนกอดกันแน่น แต่สุดท้าย ...เขาก็ต้องไปอยู่ดี
“เพื่ออนาคต และครอบครัวที่อบอุ่นนะจ๊ะจิน” นั่นเป็นคำพูดที่ป้าชิโยริบอกเขา
“ผมจะกลับมาหาคุณป้า กับพีจังนะ จะกลับมาดูแลคุณป้าและพีจังไปตลอดชีวิต” นั่นเป็นคำสัญญาของจิน
แล้วตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่ นอกจากจะไม่ได้กลับไปหาป้าชิโยริกับพีจังตามคำสัญญาแล้ว เขากำลังจะทำลายความสุขสุดท้ายของพีจัง.... ครอบครัว...ที่เด็กน้อยหน้าหวานถวิลหามาตลอด
ร่างสูงสลัดหัวแรงๆ เพื่อไล่ความคิดบ้าๆ ออกไปจากหัว ....แม่เขาจะโกรธมั้ยนะ ที่จู่ๆ เขาจะเลิกคิดแก้แค้นตระกูลยามาชิตะ ....คนที่ทำให้แม่ต้องตาย...คนที่ทำให้พ่อและเขาต้องแบกความอับอายมาตลอด
“ไอ้จิน แกมานั่งเผาบ้า เผาบออะไรของแกวะ จะเผาบ้านฉันรึไง” ยูอิจิที่เพิ่งเดินมาถึงเทน้ำลงไปในเตาเผา
“ยู... แกว่าฉันควรทำยังไงต่อไป” จินถามกลับมาราวกับไม่ได้ฟังคำถามของยูอิจิ
“ถามตอนนี้มันสายไปมั้ย พ่อแกแฟกซ์นี่มาให้” ยูอิจิยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้จิน ในแผ่นกระดาษแสดงจำนวนการถือหุ้นของโรงแรมแกรนด์พาราไดส์
“พ่อแกรู้เรื่องแผนนี้ด้วยรึเปล่า” ยูอิจิถาม จินได้แต่ส่ายหน้า
“ถ้างั้นพ่อแกคงคิดจะเทกโอเวอร์โรงแรมนี้จริงๆ แล้วล่ะจิน ... มันสายเกินแก้แล้ว”
..............................................................................................
ความคิดเห็น