คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : :::::: Chapter 4 ::::::
“...ฮิสะ โทโมฮิสะ”
เสียงเรียกฟังดูแผ่วเบาราวกับว่าดังมาจากดินแดนอันไกลแสนไกล โทโมฮิสะค่อยๆ ลืมตาอย่างยากลำบาก ร่างบางค่อยๆ ยันกายเพื่อลุกขึ้นนั่ง แต่ความรู้สึกปวดหัวก็ทำให้ร่างบางนั้นทรุดลงไปอีก ชายหนุ่มที่เรียกชื่อเขาเมื่อครู่ปราดเข้าประคองเขาอย่างห่วงใย
“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม” น้ำเสียงนั้นแฝงความอ่อนโยน
“ผมไม่เป็นไรครับ แค่ปวดหัวนิดหน่อย” โทโมฮิสะว่าพลางใช้มือกุมศีรษะที่รู้สึกปวดหนึบ สายตามองไปรอบตัว แล้วก็ต้องประหลาดใจ เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือแม้แต่ผู้คนที่อยู่ในชุดโบราณไม่คุ้นตาเลยสักนิด
“ผมอยู่ที่ไหนครับเนี่ย แล้วคุณเป็นใคร” โทโมฮิสะเริ่มถามอย่างลุกลี้ลุกลน เพราะเท่าที่จำได้ ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือภาพของยูอิจิที่พยายามบังคับขืนใจเขา แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน
“ข้าก็เป็นพี่ชายของเจ้าไง โทโมฮิสะ หรือว่าหัวเจ้ากระแทกกับบันไดเมื่อครู่ ฮาเสะกาว่าเจ้าไปตามหมอหลวงมาดูอาการน้องชายข้าเดี๋ยวนี้” ประโยคหลังชายหนุ่มหันมาสั่งคนสนิท
“เดี๋ยวนะครับ ผมงงไปหมดแล้ว เท่าที่จำได้ ผมไม่ได้ตกบันไดนะครับ แล้วผมก็ไม่ทราบว่าผมอยู่ที่นี่ได้ยังไง ตอนนี้ผมอยากกลับบ้านแล้วครับ” โทโมฮิสะว่า
“กลับบ้านงั้นหรอ ได้ได้ เดี๋ยวข้าจะพาเจ้ากลับเอง” ชายหนุ่มประคองโทโมฮิสะและพาเดินไปด้วยกัน แม้อยากจะขัดขืนแต่ด้วยสภาพร่างกายเวลานี้ ทำให้โทโมฮิสะไม่สามารถทำได้อย่างใจคิด จึงได้แต่ปล่อยให้คนที่บอกว่าเป็นพี่ชายของเขาประคองต่อไป แต่ยิ่งเดินออกมาจากห้องนั้นมากขึ้นเท่าไหร่ โทโมฮิสะก็ยิ่งเห็นความไม่ชอบมาพากล ไม่ว่าจะเป็นสภาพภูมิประเทศ หรือแม้แต่ภาพของมหาวิทยาลัยที่เขาหวังจะได้เห็น แต่ก็ไม่มีวี่แวว โทโมฮิสะเริ่มกระสับกระส่าย เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าหวังจะโทรหาแม่ แต่ก็ใช้ไม่ได้ เขาจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ...หรือว่านี่จะเป็นแค่ความฝันเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา เดี๋ยวเขาก็จะตื่นสินะ ต้องใช่แบบนั้นแน่ๆ...
“ข้าผิดเองที่คะยั้นคะยอพาเจ้ามาไหว้พระที่ศาลเจ้า ทั้งที่รู้ว่าเจ้าเองก็เพิ่งสร่างไข้” ชายหนุ่มที่อ้างตัวเองว่าเป็นพี่ชายของโทโมฮิสะกล่าวขึ้นขณะประคองโทโมฮิสะมายังม้าสองตัวหนึ่งที่ยืนอยู่
“เอ่อ....” โทโมฮิสะพยายามที่จะอธิบายความจริงเกี่ยวกับตัวเขา เขาไม่ได้เพิ่งสร่างไข้ ไม่สิ...เขาไม่ได้ป่วยเลยด้วยซ้ำ เขาแค่... หลงเข้ามาผิดที่ ผิดเวลา ... อย่างนั้นหรือ
“อ๊ะ! ใช่สินะ เจ้าคงขี่มาเองไม่ไหว งั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะให้เจ้าขึ้นม้าตัวเดียวกับเรียวก็แล้วกัน” โทโมฮิสะยังไม่มีแม้เวลาจะสงสัยว่าใครคือเรียวที่ชายผู้นั้นพูดถึง พลันคนที่ถูกกล่าวถึงก็ก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างม้า สายตาสองคู่สบประสานกัน หัวใจของโทโมฮิสะกระตุกวูบ ความเจ็บแปลบแล่นสู่หัวใจ เขาเซไปนิดนึง เรียวรีบปราดเข้ามาประคองอย่างห่วงใย ทันทีที่มือนั้นสัมผัสโทโมฮิสะ ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปถึงหัวใจ โทโมฮิสะมองเขาอย่างหวาดๆ แต่เมื่อได้รับคำตอบเป็นรอยยิ้มอบอุ่น เขาจึงค่อยวางใจและปล่อยให้ชายผู้นั้นประคองเขาขึ้นม้าไป
ทุกจังหวะที่ม้าย่างก้าว แผ่นหลังของโทโมฮิสะก็สัมผัสกับแผ่นอกกว้างของเรียวทุกครั้งไป ร่างบางนั่งตัวเกร็งจนคนข้างหลังหัวเราะ โทโมฮิสะหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“นี่... คนนั้นน่ะ พี่ชายผมน่ะ เขาจะพาเราไปไหนหรอ” โทโมฮิสะเงยหน้าขึ้นถามพร้อมกับชี้มือไปยังชายหนุ่มที่ควบม้าอยู่เบื้องหน้า
“ท่านอิคุตะหรือ เขากำลังมุ่งหน้าสู่บ้านของท่านไง ปราสาททสึรุงะ*กลางเมืองไอซุ” เรียวตอบ
“อิคุตะ... ปราสาททสึรุงะ ” โทโมฮิสะพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะสะดุดกับประโยคที่เรียวว่า
...ปราสาทกลางเมืองไอซุอย่างนั้นหรอ....
ปราสาทที่ล่มสลายไปพร้อมกับข้อกังขาหลายประการ รวมถึงข้อกล่าวหาที่ว่า บุตรชายคนโตของเจ้าเมืองเป็นกบฏ โทโมฮิสะขนลุกก่อนจะกลั้นใจถามเรียว
“อิคุตะ ... ผมหมายถึง พี่ชายของผมเป็นบุตรชายคนโตของเจ้าเมืองไอซุใช่มั้ยครับ”
“ใช่ ท่านไม่เป็นอะไรแน่หรือ ท่านพูดจาแปลกๆ ตั้งแต่อยู่ที่ศาลเจ้าแล้วนะ” เรียวถามอย่างห่วงใย
“ไม่ครับ ผมสบายดี” โทโมฮิสะยิ้ม ก่อนจะมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แม้โทโมฮิสะไม่รู้ว่าการหลุดเข้ามาสู่ยุคนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และยังไม่รู้ว่านี่คือความจริงหรือความฝัน แต่ในเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างมันดูเชื่อมโยงกัน เขาจะลองดูสักครั้ง เขาจะพิสูจน์ความจริงที่หายไปในเสี้ยวประวัติศาสตร์ของเมืองไอซุด้วยตาของเขาเอง !
:::::::::::::::::::::
อ่านแล้วเป็นยังไงก้อบอกกันบ้างนะคะ
ความคิดเห็น