คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The beginning...
#3
Trrr Trrrrr.....
จินควานมือหาโทรศัพท์ที่ดังอยู่ตรงไหนสักแห่งบนโต๊ะหัวเตียง
“ไอ้ยู จะโทรมาทำไมแต่เช้าวะ”
“จิน แกทำบ้าอะไรของแกวะ”
“อะไร”
“นี่แกอย่าบอกนะว่าแกเริ่มแผนการแก้แค้นของแกแล้วน่ะ”
“อืม ขอโทษที่ไม่ได้บอกแกก่อน”
“ฉันไม่ได้โกรธเรื่องนั้นโว้ย แต่คนที่แกจับไปน่ะ ไม่ใช่ยามาชิตะ โฉะอง แต่เป็นยามาชิตะ โทโมฮิสะเพื่อนสนิทของคาเมะจังแฟนฉัน”
“....” จินอึ้ง ก่อนจะหันไปมองร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง
“แกอย่าทำอะไรเขานะโว้ย โทโมะจังเค้าน่าสงสารมาก แล้วเขาก็เป็นคนดีด้วย”
“แล้วยังไงล่ะ จะคนไหน มันก็ลูกของยามาชิตะ เคย์สุเกะทั้งนั้นนั่นแหละ ถ้าแกจะโทรมาบอกแค่นี้ล่ะก้อ ... แค่นี้นะ”
จินกดวางโทรศัพท์ทั้งที่คำพูดของยูอิจิยังคงวนเวียนอยู่ในหัว
.... ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตระกูลยามาชิตะมีลูกชายสองคน....
ยูอิจิหัวเสียกับความหุนหันพลันแล่นของเพื่อน และโกรธตัวเองที่ลืมบอกเรื่องของโทโมฮิสะกับเพื่อนเสียสนิท คาซึยะมองมาที่ยูอิจิอย่างมีความหวัง ร่างบางน้ำตาคลอด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“เป็นไงบ้าง ยู”
“ฉันคิดว่าไม่น่ามีอะไรนะ เดี๋ยวโทโมะจังก็คงกลับมา”
“ฉันหวังว่าเขาจะปลอดภัยนะ”
“ทางบ้านเค้าว่าไงบ้างล่ะ” ยูอิจิถามต่อ
“พ่อเค้าเป็นห่วงโทโมะจังมากเลยล่ะ โทรหาฉันตั้งแต่เมื่อคืน ...แต่โฉะองนี่ดูไม่เดือดร้อนเลย”
“อืม คนที่น่าจะถูกสั่งสอนควรจะเป็นโฉะองมากกว่านะ”
“อะไรหรอ”
“เปล่าหรอก คาเมะจังก็ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้เพื่อนสนิทของคนที่ฉันรักเป็นอันตรายหรอก” ยูอิจิว่าพลางกอดคาซึยะไว้ในอ้อมกอด จะให้คาซึยะรู้ไม่ได้ ว่าเพื่อนสนิทของเขากลายเป็นเหยื่อในการล้างแค้นของจินไปซะแล้ว
..........................................................................
ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้น พร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย แค่ขยับก็เจ็บเหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาค่อยๆ ยันกายขึ้นมองไปรอบห้อง นาฬิกาบอกเวลาบ่ายโมงกว่า ร่างบางค่อยๆ หยิบเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงขึ้นมาสวมใส่ พลันสายตาก็ไปสะดุดกับชามข้าวต้มและกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งที่แปะไว้บนหัวเตียง
...ลีลานายเร่าร้อนจนฉันลืมไม่ลงเลย
ไว้คราวหน้าเรามาสนุกกันอีกนะ
อคานิชิ จิน....
ร่างบางกำกระดาษแผ่นนั้นแน่น ก่อนจะขว้างมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี โทโมฮิสะหยิบกระเป๋าทำให้บางอย่างตกลงบนพื้น
....แว่นตา....
โทโมฮิสะหยิบแว่นตาขึ้นมาดูก่อนจะนึกออกว่าเจ้าของแว่นตานี้เป็นใคร
....คนใจดีที่เจอบนรถไฟ กับคนใจร้ายเมื่อคืน...เป็นคนๆ เดียวกันหรอเนี่ย...
..........................................................
โทโมฮิสะถึงบ้านด้วยความเรียบร้อยโดยมีคนขับรถไปรับ เขาไม่กล้าขึ้นรถไฟในเวลาที่ร่างกายอยู่ในสภาพย่ำแย่แบบนี้ เขาจึงได้โทรศัพท์มาที่บ้าน เคย์สุเกะโผเข้ากอดลูกชายด้วยความเป็นห่วง ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของคนเป็นพ่อให้ทำให้โทโมฮิสะไม่สามารถเก็บกั้นอารมณ์น้อยใจในโชคชะตาไว้ได้อีกแล้ว
“หายไปไหนมาลูก รู้มั้ยพ่อเป็นห่วงมากขนาดไหน”
“ผม..ขอโทษครับพ่อ”
โฉะองสะบัดหน้าหนีก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไป
....ทำไมมันไม่ตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยนะ....
.....................................................................
พลั่ก...
แรงกระแทกจากปลายหมัดของยูอิจิทำให้ร่างของจินถลาไปชนประตูห้อง ร่างสูงสะบัดหัวไล่ความมึนงง ก่อนจะใช้หลังมือเช็ดเลือดที่ไหลซิบออกมาจากมุมปาก
“จะทำอะไรทำไมไม่ปรึกษากันเลยวะ”
“แกจะไปเข้าใจอะไร”
“ฉันไม่เข้าใจความแค้นของแกหรอก แต่แกกำลังทำลายชีวิตคนๆ หนึ่งที่เขาไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเลย”
“ใคร?”
“โทโมะจัง”
“โทโมะจังอีกแล้ว อะไรกันนักกันหนา ฉันไม่สนหรอกนะ ว่าจะเป็นใคร ขอแค่ทำให้ยามาชิตะ เคย์สุเกะเจ็บปวดได้ แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว”
“แต่คนคนนั้นต้องไม่ใช่โทโมะจัง”
“....”
“เขาไม่ต่างจากแกเลยจิน แม่เขาก็เหมือนกับแม่ของแก แม่เขาต้องเลี้ยงดูโทโมะจังมาเพียงลำพัง เด็กคนนั้นไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลยด้วยซ้ำ แล้วแกยังจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นกับเขาอีก แกมันเลวยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น”
“....”
“เขาเพิ่งจะได้รู้จักคำว่า “พ่อ” เมื่อไม่นานมานี่เอง”
......................................................................
โทโมฮิสะกลับมาใช้ชีวิตปกติในรั้วโรงเรียน เขาไม่เคยย่างกรายไปใกล้สถานีรถไฟอีกเลย อาจเป็นเพราะความกลัวที่ซ่อนเร้นอยู่ในจิตใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายๆ วันนั้น หรือว่าจริงๆ แล้วเขากลัวว่าจะเจอใครบางคนที่เขากำลังคิดถึงและไม่อาจลืมได้แม้สักวันเดียว
....นี่กำลังเป็นบ้าอยู่รึเปล่านะ ที่คิดถึงคนใจร้ายแบบนั้น....
“โทโมะจัง เป็นอะไรรึเปล่า นั่งเหม่อเชียว”
เสียงเรียกของคาซึยะเพื่อนสนิทฉุดโทโมฮิสะให้กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ร่างบางส่ายหน้าก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้
“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่กำลังคิดอะไรบางอย่าง ... ที่ผ่านมา ฉันพึ่งพาคาเมะจังมากเกินไปรึเปล่านะ”
“เอ๊ะ! ทำไมจู่ๆ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ ฉันไม่คิดว่าเป็นการพึ่งพาหรอกนะ ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา”
“อืม แต่หลังจากเกิดเรื่อง ฉันก็ติดคาเมะจังมากขึ้นใช่มั้ยล่ะ แล้วแบบนี้ คาเมะจังมีเวลาให้รุ่นพี่นากามารุรึเปล่า”
“โอ๋ยยย ยูอิจิน่ะ เค้าไม่คิดมากหรอก รายนั้นน่ะ ก็เป็นห่วงโทโมะจังมากเหมือนกันนะ วันที่นายหายตัวไป ก็โทรตามให้วุ่นไปหมด”
“หรอ ”
“อืม โทรไปสถานีตำรวจ โทรหารุ่นพี่อิคุตะ โทรหาเพื่อนเค้า สารพัดจะโทร”
“เพื่อน?”
“ชื่อจุน หรือจินอะไรเนี่ยแหละ”
“จิน...”
“อืม โทโมะจังรู้จักหรอ”
ร่างบางส่ายหน้า... ถ้าเป็นไปได้ เขาไม่อยากแม้แต่จะได้ยินชื่อผู้ชายคนนี้ด้วยซ้ำไป ...
“เห็นว่าจะย้ายมาเรียนที่นี่ด้วยนะ”
“เอ๊ะ!” โทโมฮิสะร้องด้วยความตกใจ
“ก็ดีนะ โรงเรียนเราจะได้มีคนหน้าตาดีเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง” คาซึยะยิ้มอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ได้สังเกตความกังวลที่ฉายชัดในดวงตาเพื่อนสนิทเลย
ข่าวการย้ายเข้ามาของนักเรียนใหม่แพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียน ทั้งเรื่องที่เขาเป็นทายาทคนเดียวของเจ้าของอคานิชิกรุ๊ปผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในกิจการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น รวมถึงข่าวลือที่ว่าอคานิชิย้ายตามมาเรียนที่เดียวกับคนที่ตัวเองแอบรักเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโรงเรียน ทุกคนพากันอยากรู้ว่าคนรักที่อคานิชิ จินย้ายตามมานั้น เป็นใคร... ไม่เว้นแม้แต่คาซึยะ
“โรแมนติกจังเลยนะ ฉันอิจฉาผู้โชคดีคนนั้นจังเลย” คาซึยะพูดทั้งที่นั่งอยู่ข้างๆ ยูอิจิ จินเหลือบตามองคนรักของลูกพี่ลูกน้องก่อนจะยิ้มให้
“ฉันตกหลุมรักเขาตั้งแต่เห็นเขาครั้งแรกแล้วล่ะ แล้วฉันก็ตามหาเขา จนรู้ว่าเขาเรียนที่นี่ ฉันอยากรู้จักเขาให้มากกว่านี้ มากกว่าทุกคนที่เคยรู้จักเขา” จินว่า
“ใครหรอ บอกหน่อยได้รึเปล่า เดี๋ยวฉันเป็นแม่สื่อให้ก็ได้” คาซึยะตื่นเต้นไปด้วย
“ยามาชิตะคุง” จินเฉลย ยูอิจิแทบจะหุบยิ้มในทันที เขาหันมามองจินด้วยแววตาคางแคลงใจ ...มันจะมาไม้ไหนของมันเนี่ย...รึว่าจะรักโทโมฮิสะจนลืมเรื่องแก้แค้นไปแล้วจริงๆ ....หรือว่า....
“ยามาชิตะ โฉะอง”
คำตอบของจินทำให้ทั้งยูอิจิและคาซึยะอึ้งไปตามๆ กัน ... แต่มีเพียงจินเท่านั้นที่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
.............................................................................
ตอนสามแล้ว....
เริ่มงงกันรึยังคะ
คนแต่งไม่งงนะ ไม่รู้ว่าคนอ่านงงรึเปล่า
ข่าวล่ามาเร็ว (รึเปล่า)
ยามะพีจะมีโซโล่คอนเสิร์ต วันที่ 21-23 พ.ย. 2552
ปลายปีนี้แล้วค่ะ TT__TT กระทันหันไปหน่อย เก็บตังค์ไม่ทัน
ใครคิดจะไป หรือได้ไปยังไง กลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ
ความคิดเห็น