ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi] ::::: Missing Puzzle of Love ;;;;; Ryo x Pi

    ลำดับตอนที่ #3 : ::: Chapter 2 :::

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 52




    บทที่
    2

                    เสียงกรีดร้องของผู้คนดังโหยหวนมาท่ามกลางความมืด เปลวเพลิงแดงฉานกำลังลามเลียปราสาทหลังงาม ภาพผู้คนหนีตายอลหม่าน  เสียงกระทบกันของดาบ และเสียงฝีเท้าม้าดังอืออึงไปทั่วบริเวณ


                   
    “หนีไป”  เสียงตวาดที่แฝงไว้ด้วยความห่วงใยเต็มเปี่ยมดังมาจากชายในชุดนักรบที่ไม่มีเวลาแม้แต่จะหันมามองคนที่เขาห่วงสุดหัวใจ สองมือยังคงจับดาบมั่น และฆ่าศัตรู ศพแล้วศพเล่า แต่ดูเหมือนยิ่งฆ่ามันก็ยิ่งทยอยมาเรื่อยๆ ไม่หมดไม่สิ้น


                   
    “บอกให้หนีไป  ท่านจะตายไม่ได้ ท่านเป็นหัวใจของทุกคน” 


    ร่างบางไม่มีทีท่าว่าจะหนี ไม่แม้แต่จะขยับกาย สายตายังคงจ้องร่างของทหารคนสนิท น้ำตาหลั่งรินหยดแล้วหยดเล่า


                   
    “ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายเพียงลำพัง”


                   
    “ข้าก็จะไม่ปล่อยให้ท่านตาย ข้าจะปกป้องท่านด้วยชีวิตของข้า ด้วยความรักของข้า แต่ตอนนี้ท่านต้องหนี... เพื่อข้า  ข้าดูแลท่านตอนนี้ไม่ไหว ศัตรูมันมากเหลือเกิน”  ชายหนุ่มหันมาสั่งได้เพียงครู่ ก็วิ่งออกไปประจันหน้ากับศัตรูอีก


                   
    ร่างบางลังเล แต่หากก็ยอมทำตามคำบอกนั้นแต่โดยดี แต่จังหวะที่จะหันหลังหนีนั้นเอง สายตาก็เห็นภาพดาบฟาดใส่ร่างของชายหนุ่มผู้นั้น


                   
    “ไม่
    !!~   โทโมฮิสะตะโกนขึ้นมาท่ามกลางความมืด ร่างบางหอบหายใจถี่  เขายกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่เปียกชุ่ม



                   
    .... นี่มันอะไรกันแน่นะ ....

     







                   
    โทโมฮิสะนั่งมองออกไปนอกรถไฟ ลมแรงๆ พัดเข้ากระแทกผิวหน้า จินเห็นเพื่อนนั่งตากลมเกรงว่าจะเป็นหวัดจึงเอาผ้าพันคอยื่นให้ แต่เมื่อเห็นโทโมฮิสะยังนั่งนิ่งจึงจัดการพันผ้าพันคอให้




                   
    “เป็นอะไรอีกแล้ว ดูไม่สดชื่นเลยนะ”  จินว่าพลางกระชับผ้าพันคอให้โทโมฮิสะ เจ้าตัวก้มหัวเชิงขอบคุณ


                   
    “ฉันฝันอีกแล้ว ภาพเดิมๆ กับสายตาคู่เดิมของคนๆ นั้น”  โทโมฮิสะว่า

                    “ฉันเหนื่อยเหลือเกิน จิน”  โทโมฮิสะว่าพลางซบหน้าลงกับไหล่จิน

     

                    เรื่องราวที่ค้างคาจากปากของคาเมะและคำบอกเล่าเรื่องเสี้ยวประวัติศาสตร์ที่หายไปจากยูอิจิยังคงวนเวียนอยู่ในหัวโทโมฮิสะ  เย็นวันหนึ่งหลังจากที่พยายามทั้งฉุดกระชากลากดึงจินมาเป็นเพื่อนได้สำเร็จ ทั้งคู่จึงมุ่งหน้าตรงไปยังหอสมุดของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นที่เก็บบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ และหนังสือเก่า ด้วยความหวังที่ว่าเขาจะเจอคำตอบให้ทุกปัญหาที่เขาคาใจรวมถึงความฝันประหลาดที่เขาต้องเผชิญทุกค่ำคืน

                    หอสมุดในยามเย็นเช่นนี้มีคนมาใช้บริการไม่มากนัก บรรณารักษ์วัยชราเดินมาหาโทโมฮิสะกับจินที่ยืนลังเลอยู่ ทันทีที่เขาเห็นเสี้ยวหน้าของโทโมฮิสะ ความประหลาดใจกึ่งตกใจผุดขึ้นในแววตาของชายชรา หากแต่เขาก็กลบเกลื่อนมันได้อย่างรวดเร็ว

                    “กำลังตามหาอะไรอยู่หรอ”  บรรณารักษ์วัยชราถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

                    “ผมอยากรู้ประวัติของมหาวิทยาลัยนี้แล้วก็...ประวัติเมืองนี้ด้วยครับ”  โทโมฮิสะหันมาโค้งศีรษะก่อนจะบอกความต้องการของตน

                    “ที่นี่ดูอึมครึมชวนขนลุกยังไงไม่รู้นะครับ บรรยากาศไม่น่าเรียนรู้เลย” จินว่าพลางลูบแขนตัวเองอย่างหวาดๆ

                    “เคยมีทหารนับพันต้องสังเวยชีวิตที่เนินเขาแห่งนี้ เพราะฉะนั้นไม่แปลกหรอก หากจะรู้สึกวังเวงอยู่บ้าง”  ชายชรายิ้มก่อนจะผายมือในเชิงเชื้อเชิญและนำจินกับโทโมฮิสะเดินขึ้นไปชั้นสามของหอสมุด ที่ซึ่งเป็นที่เก็บจดหมายเหตุบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ

                    “คุณตาบอกว่าทหารมากมายต้องตายที่นี่ แสดงว่าเคยเกิดสงครามขึ้นหรอครับ” โทโมฮิสะถามอย่างสนใจ

                    “มันก็เป็นธรรมดาของดินแดนที่ยังไม่เป็นปึกแผ่น การแก่งแย่งชิงดีมีอยู่ตลอด ไม่เว้นแม้กระทั่งดินแดนอันแสนสงบสุขแห่งนี้”  ชายชราว่าพลางนำทางทั้งสองเดินขึ้นบันไดขั้นแล้วขั้นเล่า ซึ่งยิ่งสูงขึ้นเท่าไหร่ ความแตกต่างก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้น แสงสว่างเริ่มน้อยลงเนื่องจากดวงอาทิตย์เพิ่งจะลับขอบฟ้า ชายชราเปิดโคมไฟแบบโบราณที่ช่วยให้แสงสว่างแต่กระนั้นแสงไฟสีนวลก็ไม่ช่วยให้มองเห็นอะไรชัดเจนนัก

                    “ที่นี่ดูเหมือนบ้านผีสิงมากกว่าจะเป็นหอสมุดนะเนี่ย”  จินโพล่งขึ้นหลังจากเดินเข้ามาถึงชั้นสาม โทโมฮิสะตีแขนจินดังเพี๊ยะเพื่อห้ามปราม จินได้แต่ทำหน้าเบ้ และเดินตามชายชราเข้าไปด้านใน

                    บานประตูค่อยๆ ถูกเปิดออก เผยให้เห็นว่าชั้นสามของหอสมุดนั้นถูกจัดไว้คล้ายๆ พิพิธภัณฑ์ รูปภาพและข้าวของเครื่องใช้ในอดีตถูกจัดโชว์ไว้ โทโมฮิสะเดินดูข้าวของต่างๆ ด้วยความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด

                    “มีน้อยคนนักที่จะสนใจสิ่งที่ผ่านเลยไปแล้ว อดีตก็แค่สิ่งที่รอคอยการถูกลืม”  ชายชราพูดราวกับรำพึงรำพันกับตัวเอง

                    “ไม่หรอกครับ  ประวัติศาสตร์คือบทเรียนอันยิ่งใหญ่ของคนรุ่นหลัง ผมเชื่ออย่างนั้นนะครับ”  โทโมฮิสะพูดโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากสิ่งของที่แสดงในตู้โชว์  แต่แล้วก็ต้องหันไปตามเสียงของจินที่ร้องอย่างตื่นเต้นอยู่ไม่ไกล

                    “ยามะพีดูนี่สิ นี่มัน.... นายชัดๆ เลย”  จินชี้ให้โทโมฮิสะดูรูปวาดรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นรูปของชายสูงศักดิ์ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหน้าตาละม้ายคล้ายโทโมฮิสะราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน

                    “มันบังเอิญจังเลยนะ” โทโมฮิสะว่า ทั้งที่ยังจ้องรูปนั้นไม่วางตา อย่าว่าแต่จินเลย แม้แต่เขาเอง ยังคิดว่าเป็นรูปของตัวเองเลย

                    “ในโลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอก ทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้ว” ชายชราพูดพร้อมกับพยักหน้าให้โทโมฮิสะเข้าไปหา ก่อนจะยกหนังสือกองหนึ่งให้ โทโมฮิสะมองหนังสือกองนั้นอย่างสงสัยก่อนจะเข้าใจเมื่อเห็นว่าเป็นบันทึกเหตุการณ์

                    “อยากรู้อะไรก็หาเอาจากในนี้ แต่อย่าลืมว่าบันทึกก็คือความรู้สึกของคนเขียน อย่าเชื่อหากไม่ได้เห็นจากตาตัวเอง” ชายชรายิ้มให้นิดหนึ่งก่อนจะขอตัวออกจากห้องไป

                    โทโมฮิสะมองกองหนังสือตรงหน้าก่อนจะเลือกหยิบขึ้นมาเล่มหนึ่ง ปัดฝุ่นหนาๆที่อยู่ตรงหน้าปกออก ตัวหนังสือหวัดๆ ที่หมึกซีดจางในตอนนี้ จับใจความได้ว่า “บันทึกเหตุการณ์เมืองไอซุ วาคะมะทจึ*  โทโมฮิสะค่อยๆ พลิกหนังสือไปทีละหน้า กระดาษสีซีดและเริ่มกรอบทำให้เขาต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น  

                    “นี่ ยามะพีนายตั้งใจจะอ่านจนจบเลยหรอ นี่ก็เย็นมากแล้วนะ เรากลับกันเถอะ จะว่ากันตรงๆ ฉันไม่ค่อยชอบบรรยากาศที่นี่เท่าไหร่เลย”  จินขัดขึ้นหลังจากโทโมฮิสะอ่านบันทึกได้พักใหญ่ พลางช่วยจัดหนังสือบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ

                    “ก็ได้ ก็ได้ วันนี้กลับก็ได้”  โทโมฮิสะตัดใจปิดหนังสือตรงหน้า และเดินตามจินกลับบ้านไป






     :::::::: to be continued :::::::

    จบไปแล้วอีกหนึ่งตอน กว่าจะได้เอามาลง ต้องดูทางหนีทีไล่ให้ดี
    ไม่งั้นอาจโดนไล่ออกจากงานได้ เนื่องจากเอาเวลางานมาเล่นไร้สาระ ( แต่เราว่าเนี่ยเป็นเรื่องมีสาระ ที่ทำให้เรามีความสุขมากเลยนะ จะบอกให้)
    อ่านแล้วเป็นไงก็ฝากเม้นท์ไว้นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×