ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi] ::: Love as a Sin:::

    ลำดับตอนที่ #2 : #2 Nightmare... (NC)...

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ย. 52


    # 2

     

                    โทโมฮิสะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับม่านตาให้เข้ากับแสงจ้าในห้อง เขามองไปรอบๆ ทั้งรูปบนผนัง ทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม่คุ้นตาเอาซะเลย ปลายเตียงมีคนแปลกหน้านั่งอยู่และมองจ้องมาที่เขา ร่างบางพยายามยันกายขึ้นนั่งถึงได้รู้ว่ามือทั้งสองข้างถูกมัดไว้กับหัวเตียง เมื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ร่างบางจึงเริ่มดิ้น

                    “ไม่มีประโยชน์หรอก ดิ้นให้ตาย มันก็ไม่หลุดหรอก”

                    น่าแปลกใจที่โทโมฮิสะรู้สึกคุ้นหน้าคนๆ นี้แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยพบที่ไหน ทั้งคนตรงหน้ายังไม่ยอมสบตาเขาตรงๆ อีกด้วย

                    “นายเป็นใคร จับฉันมาทำไม คิดจะทำอะไรกันแน่”

                    ร่างบางถามทั้งที่ยังพยายามแก้มัดแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างสูงของชายแปลกหน้าเดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆ

                    “คิดว่าในห้องนอน บรรยากาศดีดีแบบนี้ เค้าทำอะไรกันล่ะ”  แล้วร่างสูงก็ขโมยจูบที่ริมฝีปากบาง ร่างบางสบัดหน้าหนี

                    “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่รู้จักนายซักหน่อย”

                    “ฉันก็ไม่รู้จักนาย แต่คืนนี้แหละ ฉันจะรู้จักนายให้ดีกว่าทุกคนที่เคยรู้จักนายเลย”

                    ร่างสูงวางกล้องไว้บนหัวเตียงก่อนจะหรี่ไฟลงจนเห็นเป็นแสงสีส้มสลัว หยิบแก้วที่มีของเหลวสีแดงสดอยู่ครึ่งแก้วกระดกเข้าปากครั้งเดียวหมด เขากลืนบางส่วนลงไป และเหลือบางส่วนไว้ มือแกร่งประคองท้ายทอยร่างบางให้อยู่ในอุ้งมือก่อนที่อีกมือจะบีบให้กลีบปากสวยเผยออกเพื่อส่งน้ำหวานสีแดงเข้าไปในโพรงปากของคนตรงหน้า ร่างบางทำท่าจะพ่นออกมา แต่ก็โดนจูบปิดปากไว้ จึงจำใจต้องกลืนน้ำหวานรสชาติแปลกๆ นั่นลงคอไป

                    ร่างสูงผละออกจากกลีบบางปากอย่างอ้อยอิ่ง ร่างบางหอบหายใจถี่ราวกับคนขาดอากาศหายใจ

                    “ต่อต้านให้ได้ตลอดนะ ถ้าอยากขึ้นมา จะมาร้องขอทีหลังไม่ได้นะ”

                    “ไอ้บ้า ไอ้คนใจร้าย” 

                    ร่างบางสบถอย่างเหลืออด ก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับลงเพราะรู้สึกถึงอารมณ์พลุ่งพล่านแปลกๆที่วิ่งวนอยู่ในอก มันรุ่มร้อนราวกับจะทะลักออกมา ทั้งที่อากาศไม่ร้อน แต่เหงื่อเริ่มซึมออกมาจากผิวกายจนเปียกชุ่มเสื้อเชิ้ตตัวสวย ความต้องการบางอย่างกำลังก่อเกิดขึ้นอย่างยากที่จะต้านทาน ร่างบางกัดปากสกัดกั้นอารมณ์  ขาสองข้างเบียดเข้าหากันเพื่อผ่อนคลายความแข็งขืนของอวัยวะบางส่วน จินปลดกระดุมของตัวเองออก เพื่อผ่อนคลายความร้อน เขาเองก็ดื่มยานั่นเข้าไปเหมือนกัน แม้จะไม่มากมายเท่าร่างที่นอนดิ้นอยู่บนเตียงแต่มันก็ทำให้เขาเกิดอารมณ์ขึ้นมา ยิ่งมองเห็นคนหน้าสวยนอนบิดกายไปมาต่อหน้า ยิ่งกระพือไฟปรารถนาในกายให้ลุกโชนยิ่งขึ้น

                    “ให้ฉันช่วยมั้ย”  เสียงแหบพร่ากระซิบอยู่ข้างหู โทโมฮิสะเม้มปากแน่น

                    “ไม่”

                    “แต่หน้านาย กับท่าทางของนาย มันไม่ได้ปฏิเสธเหมือนปากนายเลยนะ”

                    แล้วจินก็จับให้ร่างบางหันมาสบตา ก่อนจะประกบปากจูบซับเลือดที่ซิบออกมา ก่อนที่ลิ้นอุ่นจะไล่กระหวัดพันเกี่ยวลิ้นเล็กในโพรงปากอุ่น ร่างบางยิ่งดิ้น ร่างกายของทั้งสองคนก็ยิ่งบดเบียดกัน ร่างสูงใช้มือปลดกระดุมเสื้อคนใต้ร่างอย่างชำนาญก่อนจะลูบไล้เค้นคลึงไปทุกส่วนสัด ไล่ตั้งแต่อกไปจนถึงหน้าท้องแบนราบ ก่อนที่มือจะล้วงเข้าไปใต้เข็มขัด โทโมฮิสะร้องประท้วงทั้งที่ปากยังถูกปิดด้วยจูบของคนแปลกหน้า จินผละปากออกจากริมฝีปากบางที่เวลานี้บวมช้ำจากรสจูบที่ร้อนแรง

                    “ให้ฉันช่วยเถอะนะ ฉันรู้ว่านายต้องการ”

                    “ไม่!!

                    จินลากลิ้นอุ่นผ่านซอกคอขาว  ก่อนจะลากลิ้นวนรอบๆ ตุ่มไตสีชมพูที่ชูชันขึ้นตามความต้องการของร่างกาย ดูดดุนขบเม้มความหวานหอมของร่างกายคนตรงหน้า ร่างบางบิดกายด้วยความเสียวซ่านจนเผลอร้องครางออกมา จินมองร่างบางอย่างพอใจ ก่อนจะปลดเข็มขัดและดึงกางเกงลง มือใหญ่เคลื่อนไหวรอบๆ อวัยวะส่วนนั้นอย่างชำนาญ

                    “อย่านะ อย่าจับ”

                    “ฉันไม่แค่จับอยู่แล้ว”

                    จินปล่อยมือจากอวัยวะส่วนนั้นแล้วใช้ปากครอบครองส่วนนั้นแทน การเคลื่อนไหวขึ้นลงช้าๆ ของจินทำให้โทโมฮิสะทรมานมาก ความอุ่นของโพรงปากทำให้เขารู้สึกอึดอัด

                    “เร็วขึ้นได้มั้ย ฉันจะไม่ไหวแล้ว”

                    จินไม่ตอบหากแต่ตอบสนองความต้องการของร่างบางด้วยการเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น จนจังหวะสุดท้ายร่างบางก็ปลดปล่อยความต้องการออกมาเต็มปากของจิน  จินมอบจูบที่เต็มไปด้วยความหวามไหวให้โทโมฮิสะ เขาเหลือบเห็นน้ำตาที่หลั่งรินออกมาจากหางตาร่างบาง เขาใช้มือเช็ดให้อย่างแผ่วเบา

                    .... ทำไมถึงได้เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาในเวลาแบบนี้นะ....

                    “ฉันช่วยนายแล้ว นายต้องช่วยฉันบ้างละนะ”

                    จินแก้มัดมือที่หัวเตียงก่อนจะไขว้มือมามัดไว้ด้านหลัง แล้วจับให้ร่างบางนอนคว่ำหน้าลง โทโมฮิสะรู้สึกถึงภาวะคุกคามทางด้านหลัง แม้จะพยายามดิ้นรนแต่ก็สู้แรงคนแปลกหน้าคนนี้ไม่ไหว ร่างบางสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงอวัยวะแข็งขืนที่ก้ำกรายเข้ามาในร่างกายตัวเอง และเจ็บจนนิ่วหน้าเมื่อร่างสูงเริ่มขยับตัว ร่างบางกัดปากเพื่อสกัดกั้นเสียงร้อง

                    ครั้งแล้วครั้งเล่าที่แรงกระแทกส่งผ่านเข้ามา โทโมฮิสะภาวนาให้ความเจ็บปวดนี้สิ้นสุดลง แล้วมันก็มาถึง ชายแปลกหน้าปลดปล่อยในตัวเขา ก่อนจะฟุบลงมาทับเขาไว้ เขาไม่มีแรงแม้แต่จะต้านทาน ความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด เมื่อนึกถึงโชคชะตาอันแสนเลวร้ายของตน เมื่อขาดแม่ไป รอบกายก็ดูจะมีแต่คนโหดร้ายไปซะหมด ...เวลานี้เขาคิดถึงแม่เหลือเกิน... แล้วเขาก็เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียพร้อมกับความรู้สึกที่คล้ายกับว่าแม่กำลังโอบกอดเขาไว้

                    จินโอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขน ภาพรอยยิ้มที่สุดแสนจะไร้เดียงสาของคนในอ้อมกอดวันที่เจอกันที่สถานีรถไฟแวบเข้ามาในความคิด แม้จะรู้สึกสงสาร แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่พ่อของเด็กคนนี้ทำกับครอบครัวเขาแล้ว นี่มันยังน้อยไป จินผลักร่างบางออก ก่อนจะนอนก่ายหน้าผากคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับวันพรุ่งนี้ ....หนทางที่จะทำให้ยามาชิตะ เคย์สุเกะเจ็บปวดจนไม่อยากหายใจ....

    # 2

     

                    โทโมฮิสะกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับม่านตาให้เข้ากับแสงจ้าในห้อง เขามองไปรอบๆ ทั้งรูปบนผนัง ทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม่คุ้นตาเอาซะเลย ปลายเตียงมีคนแปลกหน้านั่งอยู่และมองจ้องมาที่เขา ร่างบางพยายามยันกายขึ้นนั่งถึงได้รู้ว่ามือทั้งสองข้างถูกมัดไว้กับหัวเตียง เมื่อรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย ร่างบางจึงเริ่มดิ้น

                    “ไม่มีประโยชน์หรอก ดิ้นให้ตาย มันก็ไม่หลุดหรอก”

                    น่าแปลกใจที่โทโมฮิสะรู้สึกคุ้นหน้าคนๆ นี้แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยพบที่ไหน ทั้งคนตรงหน้ายังไม่ยอมสบตาเขาตรงๆ อีกด้วย

                    “นายเป็นใคร จับฉันมาทำไม คิดจะทำอะไรกันแน่”

                    ร่างบางถามทั้งที่ยังพยายามแก้มัดแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างสูงของชายแปลกหน้าเดินไปหยิบกล้องถ่ายรูปก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆ

                    “คิดว่าในห้องนอน บรรยากาศดีดีแบบนี้ เค้าทำอะไรกันล่ะ”  แล้วร่างสูงก็ขโมยจูบที่ริมฝีปากบาง ร่างบางสบัดหน้าหนี

                    “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่รู้จักนายซักหน่อย”

                    “ฉันก็ไม่รู้จักนาย แต่คืนนี้แหละ ฉันจะรู้จักนายให้ดีกว่าทุกคนที่เคยรู้จักนายเลย”

                    ร่างสูงวางกล้องไว้บนหัวเตียงก่อนจะหรี่ไฟลงจนเห็นเป็นแสงสีส้มสลัว หยิบแก้วที่มีของเหลวสีแดงสดอยู่ครึ่งแก้วกระดกเข้าปากครั้งเดียวหมด เขากลืนบางส่วนลงไป และเหลือบางส่วนไว้ มือแกร่งประคองท้ายทอยร่างบางให้อยู่ในอุ้งมือก่อนที่อีกมือจะบีบให้กลีบปากสวยเผยออกเพื่อส่งน้ำหวานสีแดงเข้าไปในโพรงปากของคนตรงหน้า ร่างบางทำท่าจะพ่นออกมา แต่ก็โดนจูบปิดปากไว้ จึงจำใจต้องกลืนน้ำหวานรสชาติแปลกๆ นั่นลงคอไป

                    ร่างสูงผละออกจากกลีบบางปากอย่างอ้อยอิ่ง ร่างบางหอบหายใจถี่ราวกับคนขาดอากาศหายใจ

                    “ต่อต้านให้ได้ตลอดนะ ถ้าอยากขึ้นมา จะมาร้องขอทีหลังไม่ได้นะ”

                    “ไอ้บ้า ไอ้คนใจร้าย” 

                    ร่างบางสบถอย่างเหลืออด ก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับลงเพราะรู้สึกถึงอารมณ์พลุ่งพล่านแปลกๆที่วิ่งวนอยู่ในอก มันรุ่มร้อนราวกับจะทะลักออกมา ทั้งที่อากาศไม่ร้อน แต่เหงื่อเริ่มซึมออกมาจากผิวกายจนเปียกชุ่มเสื้อเชิ้ตตัวสวย ความต้องการบางอย่างกำลังก่อเกิดขึ้นอย่างยากที่จะต้านทาน ร่างบางกัดปากสกัดกั้นอารมณ์  ขาสองข้างเบียดเข้าหากันเพื่อผ่อนคลายความแข็งขืนของอวัยวะบางส่วน จินปลดกระดุมของตัวเองออก เพื่อผ่อนคลายความร้อน เขาเองก็ดื่มยานั่นเข้าไปเหมือนกัน แม้จะไม่มากมายเท่าร่างที่นอนดิ้นอยู่บนเตียงแต่มันก็ทำให้เขาเกิดอารมณ์ขึ้นมา ยิ่งมองเห็นคนหน้าสวยนอนบิดกายไปมาต่อหน้า ยิ่งกระพือไฟปรารถนาในกายให้ลุกโชนยิ่งขึ้น

                    “ให้ฉันช่วยมั้ย”  เสียงแหบพร่ากระซิบอยู่ข้างหู โทโมฮิสะเม้มปากแน่น

                    “ไม่”

                    “แต่หน้านาย กับท่าทางของนาย มันไม่ได้ปฏิเสธเหมือนปากนายเลยนะ”

                    แล้วจินก็จับให้ร่างบางหันมาสบตา ก่อนจะประกบปากจูบซับเลือดที่ซิบออกมา ก่อนที่ลิ้นอุ่นจะไล่กระหวัดพันเกี่ยวลิ้นเล็กในโพรงปากอุ่น ร่างบางยิ่งดิ้น ร่างกายของทั้งสองคนก็ยิ่งบดเบียดกัน ร่างสูงใช้มือปลดกระดุมเสื้อคนใต้ร่างอย่างชำนาญก่อนจะลูบไล้เค้นคลึงไปทุกส่วนสัด ไล่ตั้งแต่อกไปจนถึงหน้าท้องแบนราบ ก่อนที่มือจะล้วงเข้าไปใต้เข็มขัด โทโมฮิสะร้องประท้วงทั้งที่ปากยังถูกปิดด้วยจูบของคนแปลกหน้า จินผละปากออกจากริมฝีปากบางที่เวลานี้บวมช้ำจากรสจูบที่ร้อนแรง

                    “ให้ฉันช่วยเถอะนะ ฉันรู้ว่านายต้องการ”

                    “ไม่!!

                    จินลากลิ้นอุ่นผ่านซอกคอขาว  ก่อนจะลากลิ้นวนรอบๆ ตุ่มไตสีชมพูที่ชูชันขึ้นตามความต้องการของร่างกาย ดูดดุนขบเม้มความหวานหอมของร่างกายคนตรงหน้า ร่างบางบิดกายด้วยความเสียวซ่านจนเผลอร้องครางออกมา จินมองร่างบางอย่างพอใจ ก่อนจะปลดเข็มขัดและดึงกางเกงลง มือใหญ่เคลื่อนไหวรอบๆ อวัยวะส่วนนั้นอย่างชำนาญ

                    “อย่านะ อย่าจับ”

                    “ฉันไม่แค่จับอยู่แล้ว”

                    จินปล่อยมือจากอวัยวะส่วนนั้นแล้วใช้ปากครอบครองส่วนนั้นแทน การเคลื่อนไหวขึ้นลงช้าๆ ของจินทำให้โทโมฮิสะทรมานมาก ความอุ่นของโพรงปากทำให้เขารู้สึกอึดอัด

                    “เร็วขึ้นได้มั้ย ฉันจะไม่ไหวแล้ว”

                    จินไม่ตอบหากแต่ตอบสนองความต้องการของร่างบางด้วยการเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น จนจังหวะสุดท้ายร่างบางก็ปลดปล่อยความต้องการออกมาเต็มปากของจิน  จินมอบจูบที่เต็มไปด้วยความหวามไหวให้โทโมฮิสะ เขาเหลือบเห็นน้ำตาที่หลั่งรินออกมาจากหางตาร่างบาง เขาใช้มือเช็ดให้อย่างแผ่วเบา

                    .... ทำไมถึงได้เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาในเวลาแบบนี้นะ....

                    “ฉันช่วยนายแล้ว นายต้องช่วยฉันบ้างละนะ”

                    จินแก้มัดมือที่หัวเตียงก่อนจะไขว้มือมามัดไว้ด้านหลัง แล้วจับให้ร่างบางนอนคว่ำหน้าลง โทโมฮิสะรู้สึกถึงภาวะคุกคามทางด้านหลัง แม้จะพยายามดิ้นรนแต่ก็สู้แรงคนแปลกหน้าคนนี้ไม่ไหว ร่างบางสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงอวัยวะแข็งขืนที่ก้ำกรายเข้ามาในร่างกายตัวเอง และเจ็บจนนิ่วหน้าเมื่อร่างสูงเริ่มขยับตัว ร่างบางกัดปากเพื่อสกัดกั้นเสียงร้อง

                    ครั้งแล้วครั้งเล่าที่แรงกระแทกส่งผ่านเข้ามา โทโมฮิสะภาวนาให้ความเจ็บปวดนี้สิ้นสุดลง แล้วมันก็มาถึง ชายแปลกหน้าปลดปล่อยในตัวเขา ก่อนจะฟุบลงมาทับเขาไว้ เขาไม่มีแรงแม้แต่จะต้านทาน ความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด เมื่อนึกถึงโชคชะตาอันแสนเลวร้ายของตน เมื่อขาดแม่ไป รอบกายก็ดูจะมีแต่คนโหดร้ายไปซะหมด ...เวลานี้เขาคิดถึงแม่เหลือเกิน... แล้วเขาก็เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียพร้อมกับความรู้สึกที่คล้ายกับว่าแม่กำลังโอบกอดเขาไว้

                    จินโอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขน ภาพรอยยิ้มที่สุดแสนจะไร้เดียงสาของคนในอ้อมกอดวันที่เจอกันที่สถานีรถไฟแวบเข้ามาในความคิด แม้จะรู้สึกสงสาร แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่พ่อของเด็กคนนี้ทำกับครอบครัวเขาแล้ว นี่มันยังน้อยไป จินผลักร่างบางออก ก่อนจะนอนก่ายหน้าผากคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไปกับวันพรุ่งนี้ ....หนทางที่จะทำให้ยามาชิตะ เคย์สุเกะเจ็บปวดจนไม่อยากหายใจ....

    """"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

    สั้นๆ แต่ได้ใจความเนาะ?? (รึเปล่า 555)
    ไม่รู้สิ รู้สึกว่าเขียนกี่ครั้งกี่ครั้ง ฉากแบบนี้ก็ยังยากอยู่ตลอดเลย

    ตอนนี้เครียดหนักกว่า รู้ข่าวมาเมื่อสองสามวันก่อน
    เคะในอุดมคติของเรากำลังจะมีแฟน TT__TT 

    มะพีกำลังจะมีแฟน ....แงงงงงง.....TT__TT

    แล้วมะพีจะเอาจินไปไว้ไหน ...กลับมาเป็นเคะให้เราก่อนนนนนน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×