[SF] ::: ขอแค่รัก ::: Jin x Pi - [SF] ::: ขอแค่รัก ::: Jin x Pi นิยาย [SF] ::: ขอแค่รัก ::: Jin x Pi : Dek-D.com - Writer

    [SF] ::: ขอแค่รัก ::: Jin x Pi

    จากจุดเริ่มต้นจุดเดียวกัน...แต่เธอค่อยๆ ห่างจากฉันไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเราก็พบว่า ...เราต่างกันมากเกินไป

    ผู้เข้าชมรวม

    748

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    748

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 ต.ค. 52 / 14:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    สวัสดีค่ะ
    ฟิคจินพีกลับมาอีกแล้วค่า
    เป็นอารมณ์ชั่ววูบ...วูบมากๆ



    ปล. อ่านแล้วอย่าอ้วก
    เพราะจินดีเกิ๊นนนนน!!~

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิแท้ๆ แต่วันนั้นฝนกลับตกลงมาได้ ยามะพียื่นมือออกไปรองน้ำฝนก่อนจะสลัดทิ้งเบาๆ เป็นการฆ่าเวลา ... เวลาในการรอคอยใครบางคน  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนหน้าสวย เมื่อเห็นชื่อของคนโทรเข้ามา แต่ก็แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆ เจื่อนลง จนกลายเป็นนิ่งเมื่อกดวางสาย

      ....จินไม่ว่างอีกแล้วสินะ...

                      ร่างบางยืนรออยู่หน้าร้านอาหารซึ่งเป็นที่ทำงานของเขาเองกว่าครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งเพื่อนร่วมงานคนสุดท้ายเดินออกมาจากร้าน

                      “อ้าว ยามะพี วันนี้จินไม่มารับหรอ”  เรียวถาม

                      “วันนี้..จินเค้าไม่ว่างนะ เข้าไซต์งาน กว่าจะกลับก็คงค่ำ” 

                      “จริงด้วยสินะ ลืมไปเลยว่าเดี๋ยวนี้มันไม่ใช่ไอ้จินขี้เซา แต่มันกลายเป็นคุณอคานิชิ จิน วิศวกรใหญ่”  เรียวพูดพลางหัวเราะ  จะไม่ให้หัวเราะได้ยังไง ใครจะไปคิดว่านักเรียนคนที่นั่งหลังห้องเอาแต่หลับประจำอย่างอคานิชิจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แถมตอนนี้จบออกมาเป็นวิศวกรที่มีชื่อเสียง... คิดมาถึงตรงนี้...ทำให้เรียวนึกถึงร่างบางที่อยู่ตรงหน้า แล้วยามะพีล่ะ เด็กหัวดีเรียนเก่ง ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวให้ได้ กลับต้องหยุดแค่จบม.ปลายเพราะปัญหาทางบ้าน คิดแล้วมันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย

                      “นั่นสินะ จินเป็นวิศวกร แล้วฉันล่ะ เป็นแค่พนักงานในร้านอาหารเล็กๆ”  ร่างบางสีหน้าหม่นลง

                      “เฮ้ยย!! คิดมาก จิตป่วงวันฝนตกรึไง ... ยังไงไอ้จินมันก็คือไอ้จินที่รักยามะพีนั่นแหละ”  เรียวว่าพลางตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ ก่อนจะขอตัวจากไป ทิ้งให้ยามะพียืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่เพียงลำพัง

                      ฝนซาลงแล้ว ยามะพีค่อยๆ เดินกลับบ้านไปบนทางที่คุ้นเคยหากแต่ชื้นแฉะไปด้วยหยาดน้ำ คราบโคลนกระเด็นเปื้อนรองเท้าผ้าใบคู่เก่า ทั้งที่พยายามเดินอย่างระวังแล้วแท้ๆ....

                      แสงไฟจากจอทีวีสาดส่องออกมาทำให้ยามะพีรู้ว่าจินกลับมาแล้ว ยามะพีก้มลงเก็บรองเท้าหนังที่ขัดเป็นมันปลาบของคนรักที่กระเด็นไปคนละทิศคนละทางให้เข้าคู่ ก่อนจะถอดรองเท้าผ้าใบเก่าๆ ของตัวเองแล้วหยิบขึ้นไปวางไว้บนชั้นวางรองเท้า  แสงสลัวจากจอทีวีทำให้เห็นคนรักของเขานอนหลับอยู่บนโซฟา ยามะพีเนคไทที่หล่นอยู่บนพื้น ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อสูทที่เหมือนจงใจถูกขว้างให้ไปอีกทางขึ้นมา กระดุมเม็ดเล็กๆ ร่วงลงกับพื้น ยามะพีก้มลงหยิบกระดุมเม็ดเล็ก ก่อนจะลงมือซ่อมกระดุมนั้นให้คนรักอย่างปราณีต

                      เสียงขยับตัวของคนบนโซฟาทำให้ยามะพีหันไปมอง  ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะสะบัดหัวสองสามครั้งเพื่อไล่ความมึนงง กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆ กระทบจมูกของยามะพี

                      “ทำอะไรน่ะ” ร่างสูงถามพร้อมกับพยายามลืมตามอง

                      “ซ่อมกระดุม” ยามะพีตอบก่อนจะหันมาสนใจกับงานตรงหน้า

                      “ทำงานกลับมาก็ดึกแล้ว เรื่องแบบนั้น ไม่เห็นต้องรีบทำเลย” 

                      “ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ต้องซ่อมอยู่ดี ก็จินน่ะ เคยทำเองซะที่ไหนกัน”

                      “นายใจดีเกินไปแล้ว ยามะพี”

                      จินไม่พูดเปล่า แต่รั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันแบบนี้  นานจนยามะพีเองนึกไม่ออกเลยว่า ถ้าวันหนึ่งไม่มีจิน เขาจะอยู่ได้ยังไง

                      “ทำไมนายถึงมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะ อย่างน้อยก็น่าจะเข้าไปนอนในห้องนะ”  ยามะพีถาม

                      “ฉันรอนายไง หลังๆ มานี่เราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลยนะ”  จินอ้อน

                      “เรื่องนั้น ฉันเข้าใจ... ยังไงซะงานก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว”  ยามะพีไม่ได้ประชด แม้เขาจะรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง แต่เขาก็พอจะแยกออกว่าอะไรเป็นอะไร

                      “ไม่รู้แหละ ยังไงคืนนี้ ฉันก็จะกอดนายแบบนี้จนถึงเช้านั่นล่ะ”  จินว่าพลางกอดคนรักแน่นขึ้น จนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างร่างกายของคนทั้งสอง ...

       

      .....................................................................................................................

                      ยามะพีทำงานด้วยความร่าเริงผิดปกติจนทำให้เพื่อนร่วมงานอดสงสัยไม่ได้

                      “นายเป็นอะไรของนายเนี่ย ยืนยิ้มหน้าบานจนลูกค้าไม่กล้ามาจ่ายเงินแล้วนะ”  อิคุตะ โทมะกระเซ้า

                      “อ๊ะ หน้าบานหรอครับ ผมไม่เห็นรู้ตัวเลย”  ยามะพีว่าพลางใช้มือสองข้างจับแก้มทั้งสองข้างก่อนจะยิ้มหวานให้โทมะ โทมะเบือนหน้าหนี เพราะกลัวว่าเจ้ารุ่นน้องจะเห็นความหวั่นไหวในสายตา ...ก็เขาแอบชอบเจ้าเด็กนี่มาตั้งแต่เข้ามาทำงานแล้วนี่นา

                      “แล้วนี่ เรียวจังไปไหนล่ะครับ ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว”

                      “เจ้านั่นขอลาหยุดวันหนึ่งน่ะ”

                      “เอ๊ะ ไม่สบายรึเปล่าครับ”

                      “ไม่หรอกมั้ง แต่ดูเหมือนว่าจะทะเลาะกับฮิโระจัง” 

                      พูดได้แค่นั้นบทสนทนาก็ต้องจบลงเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับร่างของคนที่เพิ่งถูกพูดถึง

                      “เรียวจังเป็นไงบ้าง”  ยามะพีถามด้วยความเป็นห่วง

                      “จบแล้วล่ะ มันจบแล้ว”

                      “ทำไมล่ะ” 

                      เรียวไม่ได้ตอบ แต่น้ำตาหยาดเล็กๆ ค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่โศก ยามะพีตกใจจึงรีบคว้าเพื่อนตัวเล็กเข้ามากอด โทมะเองก็ตกใจไม่แพ้กัน จึงให้ยามะพีพาเรียวไปที่หลังร้าน

                      “เรียวจัง...”  ยามะพีปล่อยให้เพื่อนนั่งสงบสติอารมณ์ก่อนจะตบไหล่คนข้างๆ อย่างปลอบโยน

                      “ทั้งที่ฉันก็พยายามอย่างเต็มที่แล้วแท้ๆ แต่เด็กยกของก็ยังเป็นเด็กยกของใช่มั้ยล่ะ เขาเป็นถึงลูกเศรษฐี ต่อให้รักกันแค่ไหน มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี” เรื่องราวที่เล่าออกจากปากของเรียวทำให้ยามะพีเริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้มากขึ้น

                      “แต่ฮิโระจังเขาก็ไม่ได้รังเกียจนี่นา”

                      “มันไม่ใช่แค่เราสองคนหรอกพี ถ้าวันหนึ่งมันจริงจังถึงขั้นนั้นแล้ว ความเหมาะสม ฐานะทางสังคม ทุกอย่าง มันจะบีบให้เราค่อยๆ ห่างออกจากกัน กว่าเราจะรู้ตัว มันก็ต่างกันมากเกินกว่าที่จะทำอะไรได้”

                      “เรียวจัง... แล้วจะทำยังไงต่อไป”

                      “ฉันไม่อยากให้เขาต้องมาลำบากกับฉัน”

                      “เรียวจังได้ถามฮิโระจังมั้ย ว่าเขาต้องการแบบนี้รึเปล่า”

                      “พี...”

                      “บางที ฮิโระจังอาจจะไม่แคร์เรื่องพวกนี้เลยก็ได้ เรียวจังคิดมากไปเองรึเปล่า”

                      “ในฐานะคนรัก ฉันอยากให้เขามีความสุข แต่ฉันมันต่ำต้อยเกินกว่าที่จะดึงให้เขามาลำบากด้วย เขาน่าจะเจอคนที่ดีกว่าฉัน คนที่เหมาะสมกับเขามากกว่าฉันนะ”

                      “เรียวจัง...”

                      “เพราะงั้น ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าแบบนี้ ดีที่สุดแล้ว”

                      “แล้วนายไม่เจ็บหรอ ทั้งนายทั้งฮิโระจัง”

                      “ยอมเจ็บวันนี้ดีกว่านะ... ”  เรียวพูดด้วยรอยยิ้มที่ยามะพีรู้ว่า มันเป็นรอยยิ้มที่ฝืนที่สุด ยามะพียิ้มตอบเรียวทั้งที่รู้สึกโหวงๆ ในหัวใจ     ความรู้สึกนี้คืออะไรกันนะ....

                      .............................................................................................................

                      ยามะพียืนหมุนไปมาอยู่หน้ากระจกหลายรอบ เสื้อผ้าชุดใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ที่เขาคิดว่ามันดูดีมากพอที่จะไปงานกับจิน

                      “เฮ้ย อะไรวะเนี่ย จะไปประกวดชายงามที่ไหน ยังไม่หมดเวลางานเลยนะ”  โทมะกระเซ้า

                      “วันนี้ผมขอผู้จัดการออกก่อนเวลางานต่างหาก”  ยามะพียิ้ม

                      “จะไปไหนหรอ  ทำตัวอย่างกับไปออกเดท o_O รึว่านายนอกใจจิน”  เรียวถามพร้อมทำตาโต

                      “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย วันนี้จินจะชวนไปกินข้าวกับเพื่อนที่บริษัท”  ยามะพียิ้มกว้าง

                      “อ่อ เปิดตัวแฟน ว่ายังงั้นเถอะ ... ทำใจซะนะครับโทมะคุง”  ประโยคสุดท้ายเรียวหันมากระซิบรุ่นพี่ที่ยืนทำหน้าเป็นหมาเหงา

                      “แล้วเรียวจังล่ะ รู้สึกดีขึ้นรึยัง”  ยามะพีถามด้วยความเป็นห่วง

                      “เรื่องนั้น...มันคงไม่หายไปง่ายๆ หรอกมั้ง ก็รักนี่นา...แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่า จะไม่ดึงเค้าลงมาอีก จะว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้นะ ...แต่ฉันอึดอัดทุกครั้งที่ยืนข้างเขา ฉันรู้สึกถึงความไม่คู่ควรยังไงไม่รู้”  เรียวจังบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                      “แทนที่จะดึงฮิโระจังลงมา ทำไมแกไม่ปีนขึ้นไปหาเค้าวะ ไอ้โง่!  โทมะที่ยืนเงียบฟังอยู่นาน เสนอความคิดเห็นขึ้นมาบ้าง พร้อมกับฟาดหัวรุ่นน้องอย่างเต็มแรงหนึ่งที เรียวโมโหจึงไล่เตะรุ่นพี่ออกไปหน้าร้าน ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะตามมา ยามะพีมองภาพนั้นพร้อมกับยิ้มตามไปด้วย

                      วันนี้จินไม่ได้มารับ หากเพียงแต่ให้ที่อยู่ของโรงแรมและบอกเวลานัดไว้ ยามะพีเดินเข้าไปในโรงแรมอันเป็นสถานที่นัดกัน ร่างบางเริ่มรู้สึกถึงความหรูหราโอ่อ่าของสถานที่จนทำให้รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ไปในทันที ร่างบางเดินอย่างไม่รู้จุดหมายแต่โชคดีที่ได้พนักงานโรงแรมพามายังห้องจัดเลี้ยง ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เหมือนมีแรงกดดันบางอย่างกระแทกเข้ามาพร้อมกับสายตานับสิบคุ่จ้องมาที่เขา

                      “เขาเป็นใครน่ะ”  เสียงหนึ่งถามขึ้นดังอย่างชัดเจน จินที่เหลือบมาเห็นคนรักรีบเข้ามาพายามะพีแนะนำให้ทุกคนรู้จัก จินคว้ามือคนรักมากุมไว้ราวกับต้องการลดความประหม่าลง

                      “อ่อ คนรู้จักของอคานิชิซังหรอ แต่งตัวได้โลว์คลาสมากเลย กล้าใส่รองเท้าผ้าใบมางานแบบนี้ด้วย” 

      “เขาไม่รู้รึไง ว่าต้องให้เกียรติสถานที่บ้าง ใส่แจ๊คเกตยังกับเด็กติดยา”

      เสียงซุบซิบนินทายังคงดังมาเป็นระยะๆ ยิ่งบั่นทอนความรู้สึกของยามะพีมากขึ้นทุกทีๆ

      จินไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่กระชับมือคนรักให้แน่นกว่าที่เคย ก่อนจะหันมายิ้มให้อย่างอบอุ่น ยามะพีนึกอยากจะร้องไห้ออกมาซะตอนนี้เลย ไม่ใช่เพราะความเจ็บใจกับเสียงนินทาที่ได้ยิน แต่เขาไม่อยากให้จินต้องขายหน้าที่มารู้จักคนต่ำต้อยอย่างเขา

      “ไงอคานิชิซัง จะไม่แนะนำเพื่อนให้เพื่อนร่วมงานรู้จักหน่อยหรอ”  ผู้เดินเข้ามาใหม่ทักทายพร้อมยิ้มเยาะก่อนจะมองยามะพีตั้งแต่หัวจรดเท้า จินทำหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะแนะนำยามะพีให้คนๆ นั้นรู้จัก

      “นี่เทโกชิ ยูยะ เพื่อนร่วมงานฉัน ส่วนนี่โทโมฮิสะ ยามาชิตะ ...คนรักของฉัน  จินตั้งใจจะเน้นประโยคหลังให้หนักแน่น

      “อ่อ หรอ...”

      แล้วบทสนทนาก็ต้องหยุดลงแค่นั้น เมื่อมีพิธีกรสาวเรียกให้จินขึ้นไปบนเวที จินจำใจต้องปล่อยมือน้อยๆ ของยามะพีที่กุมไว้ก่อนจะก้าวขึ้นไปบนเวที ยามะพีเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่านี่เป็นงานมอบรางวัลวิศกรหน้าใหม่ของบริษัทที่จินทำงานอยู่ ยามะพีถึงกับยิ้มกว้าง

      “อคานิชิซังเค้าเก่งนะ หล่อ แล้วก็เพอร์เฟคด้วย การยืนอยู่ข้างๆ เขาทั้งที่เป็นแค่พนักงานร้านอาหารธรรมดาๆ มันไม่ทำให้เธออึดอัดบ้างหรอ”  เทโกชิจงใจมองลึกเข้าไปในดวงตา ยามะพีหลบตาอย่างช่วยไม่ได้

      “ฉันไม่เคยรู้สึกอึดอัดเวลาที่อยู่กับจินหรอกนะ”  ยามะพีตอบ

      “แล้วเคยถามอคานิชิซังรึเปล่า ว่าเค้าอึดอัดมั้ยเวลาอยู่กับเธอ”

      “.....”

      “แล้วคิดว่าการแต่งตัวแบบนี้ มาในงานแบบนี้ มันทำให้อคานิชิซังต้องอับอายรึเปล่า”  เทโกชิยังคงยิงคำถามที่ทำให้ยามะพีอึดอัดใจ ... นั่นสินะ  จินคิดยังไงนะ ...แม้จะทำเหมือนไม่เป็นไรก็เถอะ

      “เฮ้อ! ทำไมนะ แม้กระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังคิดว่า ฉันเหมาะสมกับอคานิชิมากกว่าเธอนะ”  เทโกชิยิ้มก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ร่างบางยืนน้ำตาไหลด้วยความสับสน จินที่เพิ่งลงมาจากเวทีตกใจกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มของคนรักที่ดูแล้วยังไงๆ ก็ไม่ใช่น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มที่เขารับรางวัลแน่ๆ

      “ยามะพี...”  จินเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะบรรจงเช็ดน้ำตาให้คนรัก

      “บางทีเรียวจังอาจจะพูดถูก” 

      “....”

      “สุดท้ายแล้ว ความรักก็ไม่ใช่เรื่องของคนสองคนหรอกจิน.... จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ....จินไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จินมีอนาคตที่ดี แต่ฉันก็ยังเป็นเหมือนเดิม”

      “นายพูดอะไรของนาย”  จินถามอย่างอารมณ์เสีย

      “ฉันไม่คู่ควรกับจินเลยสักนิด”  ยามะพีโพล่งออกมาทั้งที่ยังร้องไห้อยู่ คนอื่นๆ เริ่มหันมามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

      “นายเอาอะไรมาวัด ว่าอะไรคู่ควรไม่คู่ควร เทโกชิพูดอะไรกับนายรึเปล่า อย่าไปสนใจคำพูดหมอนั่นนะ มองฉัน ฟังฉัน รักฉันคนเดียวก็พอ” จินพูดจบก็ลากยามะพีขึ้นไปบนเวที

      “ขอโทษที่ผมถือวิสาสะนะครับ คำขอบคุณที่ผมไม่พูดเมื่อสักครู่นี้ ผมขอพูดตอนนี้เลยก็แล้วกัน ผมอยากขอบคุณคนคนนี้ครับ ...คนที่ทำให้ผมตั้งใจเรียน เพราะอยากเข้ามหาวิทยาลัยที่เดียวกับเขา คนที่อยู่ข้างๆ ผมตลอดเวลาแม้ในเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต.....ผมรักคนคนนี้ครับ และไม่ว่ายังไง ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็จะรักผู้ชายคนนี้ครับ” พูดจบจินก็ถอดเสื้อแจ๊คเกตของยามะพีขว้างออกไป แล้วใส่สูทของตัวเองให้ยามะพีแทน

      “ผมไม่สนใจว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นยังไง เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ แต่ที่ผมรัก คือตัวตนของคนๆนี้ ผมรักโทโมฮิสะ ยามาชิตะ....ขอให้ทุกคนสนับสนุนความรักของพวกเราด้วยนะครับ”  พูดจบแล้วจินก็มอบจูบที่ดูดดื่มให้ ท่ามกลางเสียงตบมือของเพื่อนร่วมงาน ยามะพีหูอื้อ ตาลายไปหมด แต่ก็กอดจินไว้แน่น แน่นจนไม่มีช่องว่างระหว่างคนสองคน.....

       

      .....สุดท้ายแล้ว อุปสรรคของความรักไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็จะผ่านไปได้....ขอแค่รัก...อย่างเดียวเท่านั้น ^^

       

       

       

      บทส่งท้าย

      “อ้าว นั่นมันเรียวจังกับฮิโระจังนี่นา ไหนว่าเลิกกันแล้วไง” ยามะพีทำตาโตทันทีที่เห็นเพื่อนสนิทของตัวเองเดินสวีทมากับแฟน

      “เฮอะ มันบอกว่า...ไม่มีอะไรมาพรากความรักระหว่างมันกับฮิโระจังได้ ....ดูมันพูดสิ ยังกับคนละคนที่ร้องไห้จะเป็นจะตายวันนั้น” โทมะพูดด้วยความหมั่นไส้

      “ไม่หรอกครับ สุดท้ายยังไงความรักก็สำคัญที่สุด ขอแค่รักกัน อะไรๆ ก็ต้องผ่านไปได้ครับ รุ่นพี่เองก็ลองมีคนรักดูสิครับ แล้วจะรู้ว่ามันมหัศจรรย์แค่ไหน” ยามะพีพูดก่อนจะเดินยิ้มจากไป ทิ้งให้โทมะมองแผ่นหลังรุ่นน้องด้วยความขมขื่น

      “ก็คนที่ฉันรักเขาไม่รักฉันนี่นา มามะ ยามะพีขอกอดหน่อยยยย!!~” แล้วโทมะก็วิ่งไล่กอดยามะพีที่วิ่งหนีแบบสุดชีวิต

      ................................................The End...........................

       

       

       

      ปล. อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น...อ่านแล้วอย่าอ้วกนะคะ

      จินดีเกินไปแล้วววว....เรื่องหน้ารีเควสจินแบบเลวๆ ดีกว่า

      แต่งง่ายดี ชอบบบบ!!~

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×