คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : บอดี้การ์ดหน้าหล่อ
Chapter 2
บอดี้การ์ดหน้าหล่อ
ณ คอนโดสุดหรูในเครือ HK กรุ๊ป ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง
ชายหนุ่มหล่อคมเข้ม ยิ่งแต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำสนิท ก็ยิ่งทำให้เขาดูหล่อขึ้นไปอีก ในขณะเดียวกันเขาก็ดูน่าเกรงขามมากด้วย
ชายหนุ่มเดินไปที่รถ ferrari california สีดำ ซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถ เขาขับรถออกไปจากคอนโด แล้วมาหยุดอยู่ที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ๆกับบริษัทที่เขาทำงานอยู่
ชายหนุ่มโค้งทำความเคารพชายแก่ที่นั่งรออยู่แล้ว ก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม
"ผมขอโทษนะครับที่ปล่อยให้ท่านประธานรอนาน"
"ไม่เป็นไรหรอก ..ฉันก็เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี้เอง" ชายแก่บอกออกไปอย่างไม่ถือสาอะไร
"แล้วท่านประธานเรียกผมมามีอะไรหรือครับ"
"นายก็รู้ใช่มั้ย ว่านายคือคนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด"
"ครับ" ชายหนุ่มพยักหน้านิดๆ แล้วตอบออกไปพร้อมรอยยิ้ม
"และลูกชายของฉันก็จะต้องขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานแทนฉัน ..และนั่นหมายถึงอะไรนายรู้มั้ย?"
"รู้ครับ คุณหนูกำลังตกอยู่ในอันตราย"
"ใช่ ฉันเลยต้องการให้นายมาเป็นบอดี้การ์ดของลูกชายฉัน" ชายหนุ่มนิ่งไปนิด กับคำพูดของคนตรงหน้า
"แล้วงานที่บริษัทล่ะครับ"
"เรื่องนั้นน่ะไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะให้ลูกชายฉันขึ้นมาเป็นผู้ช่วยประธานบริษัท เมื่อเขาเข้ามหาวิทยาลัย ส่วนนายก็เป็นบอดี้การ์ดคอยดูแลลูกชายฉัน ..ส่วนตำแหน่งรองประธานของนาย ก็ยุติไว้ก่อน รอจนกว่าลูกชายฉันจะดำรงตำแหน่งประธาน แล้วนายค่อยกลับมาทำงานตำแหน่งเดิม"
"ก็ได้ครับ ..แล้วผมจะต้องทำอะไรต่อครับ"
"พรุ่งนี้ ..นายเตรียมตัวขนของเข้าไปอยู่ในบ้านของฉัน"
"แต่ที่บ้านท่านก็มีบอดี้การ์ดอยู่ตั้งเยอะแล้วนี่ครับ" ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย เพราะการที่เขาไปเป็นบอดี้การ์ดให้ลูกชายของท่านประธาน ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับคุณหนูขนาดนั้น
"ก็แค่ 1 เดือนน่ะ ..เพราะฉันต้องไปทำธุระที่อังกฤษนิดหน่อย"
"บริษัทเครือข่ายมีปัญหาหรือครับ" ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วง
"เปล่าหรอก ก็ไอ้เรื่องสร้างคอนโดนี่แหละ ฉันจะไปดูทำเลสักหน่อย ..แล้วก็มีนัดคุยงานกับลูกค้ารายใหญ่ด้วย ส่วนทางนี้นายไม่ต้องห่วง ฉันให้กันมาดูแลงานแทนแล้ว" ชายหนุ่มโล่งใจ เพราะกันก็เป็นหนึ่งคนที่ไว้ใจได้ และซื่อสัตย์ต่อท่านประธานมาก
"แล้วท่านจะเดินทางเมื่อไรครับ"
"วันนี้แหละ..ตอนเย็นๆ"
"ให้ผมไปส่งมั้ยครับ.."
"ไม่เป็นไรหรอก ฉันว่านายกลับไปเตรียมตัวสำหรับพรุ่งนี้จะดีกว่า ..ลูกชายฉันอาจจะเอาแต่ใจและก็ขี้โวยวายไปหน่อย แต่นายก็อย่าไปถือสาเลยนะ"
"ผมไม่กล้าถือสาคุณหนูหรอกครับ"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอก นอกจากหน้าที่บอดี้การ์ด ฉันก็ขอมอบหน้าที่ครูฝึกให้นายด้วย.. ถ้าเจ้าลูกชายตัวดีของฉันมันเกิดทำนิสัยแย่ๆขึ้นมา นายก็สั่งสอนได้เลย"
"ครับท่าน แล้วคุณหนูนี่ ถ้าผมจำไม่ผิด ชื่อแกงส้มใช่มั้ยครับ?"
"ใช่ ..อ้อ แล้วก็เลิกเรียกคุณหนูได้แล้ว เพราะนายก็เปรียบเสมือนลูกของฉันเหมือนกัน ฉะนั้นแกงส้มก็เปรียบเสมือนน้องของนาย เข้าใจมั้ย?"
"ครับท่าน"
เมื่อคุยธุระเสร็จ ..ทั้งสองคนจึงแยกกันไปทำหน้าที่ของตนเอง ชายหนุ่มกลับมาที่คอนโด เพื่อมาเก็บของ
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเข้าห้อง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น.. ชายหนุ่มมองที่หน้าจอ แต่พอรู้ว่าเป็นใคร เขาจึงทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก แต่ก็ยอมกดรับสาย
"มีอะไร" ชายหนุ่มพูดเสียงห้วน
[แหม~ฮั่นก็..ทำไมทำเสียงเข้มแบบนั้นล่ะคะ โกรธใครมาเหรอคะ] ปลายสายถามมาอย่างอารมณ์ดี ทั้งที่เจ้าตัวก็รู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มอารมณ์เสียเรื่องอะไร
"ฉันถามว่าเธอมีอะไร..ถ้าไม่มีก็แค่นี้นะ" ชายหนุ่มตัดบท เตรียมจะกดสายทิ้ง แต่หญิงสาวปลายสายดันพูดขัดขึ้นมาซะก่อน
[เดี๋ยวสิคะฮั่น..แกรนด์ก็แค่คิดถึง ฮั่นไม่คิดถึงแกรนด์บ้างเหรอคะ]
"ไม่..ถ้าจะโทรมาเพื่อคุยเรื่องไร้สาระล่ะก็ แค่นี้นะ"
ชายหนุ่มไม่รอให้หญิงสาวได้พูดอะไรอีก เขากดวางสายทันทีหลังพูดจบ
สำหรับเขา การคุยเรื่องพวกนี้ เขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ หรือเสียเวลา เขาเคยคิดถึงผู้หญิงคนนี้มาก เคยรักผู้หญิงคนนี้มาก แต่นั่นมันก่อนที่เจ้าหล่อนจะทิ้งเขาไปหาผู้ชายอีกคนนะ
แล้วนี่อยู่ดีๆ ก็กลับมาขอคืนดีซะงั้น ..หึ! ใครกลับไปก็โง่เต็มทนละ
ชายหนุ่มเข้าไปในห้องแล้วเตรียมข้าวของให้พร้อม แต่เหมือนจะไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เพราะท่านประธานบอกว่าที่บ้านนั้น จัดเตรียมไว้ให้หมดแล้ว
...จริงๆแล้วเขารู้สึกดีใจมากๆที่ท่านประธานไว้ใจเขามากขนาดยอมให้เขาไปคอยดูแลลูกชายเพียงคนเดียว ท่านประธานมีพระคุณต่อเขามากเหลือเกิน ชนิดที่ว่าชดใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด
เขายังจำได้ ว่าตอนเด็กๆพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์..และคนที่ช่วยเหลือเขา พาเขามาเลี้ยง ก็คือท่านประธานนี่เอง ถ้าไม่มีท่านประธาน ..เขาก็คงจะไม่มีวันนี้เช่นกัน
[Hunz part]
วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะต้องมาทำหน้าที่บอดี้การ์ด ปกติตื่นเช้ามาก็ต้องไปบริษัท แต่วันนี้ไม่ใช่
ผมขนของเข้าไปในห้องนอนที่แม่บ้านได้จัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบครัน จริงๆผมแทบไม่ต้องเอาอะไรมาด้วยซ้ำ เพราะขนาดเสื้อผ้ายังเตรียมไว้ให้
ว่าแต่ว่า วันนี้ตั้งแต่เข้ามาในบ้านผมยังไม่เห็นคุณหนูเลย สงสัยคงยังไม่ตื่น
ก๊อกๆๆ
ผมเดินไปเปิดประตู หลังจากที่ได้ยินเสียงเคาะ 2-3 ครั้ง
"คุณฮั่นต้องการอะไรเพิ่มมั้ยคะ" แม่บ้านถามแล้วส่งยิ้มมาให้ผม
"ไม่แล้วล่ะครับ แค่นี้ที่มีให้ก็เยอะพอแล้ว"
"ค่ะ..งั้นเดี๋ยวอีกสักพัก คุณฮั่นก็ลงไปทานข้าวเช้าได้เลยนะคะ"
"ครับ เอ่อ..แล้วคุณหนูเขายังไม่ตื่นเหรอครับ"
"ค่ะ คุณหนูน่ะตื่นสายจะตาย ปกติวันหยุดแบบนี้ตื่นเที่ยงค่ะ" กินข้าวไม่ตรงเวลาแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก
"แล้วทำไมไม่ไปปลุกให้มากินข้าวเช้าล่ะครับ"
"โหย รายนั้นน่ะปลุกได้ที่ไหนล่ะคะ ..ถ้าขืนใครไปกวนล่ะก็ โดนไล่ตะเพิดหนีออกมาแทบไม่ทัน" แม่บ้านคนนั้นพูด พร้อมกับทำหน้าสยอง
แต่ถ้าปล่อยไปอย่างนี้ ติดเป็นนิสัยแน่ ถึงเวลาทำงานถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ล่ะก็แย่แน่.. สงสัยผมคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว
"เดี๋ยวผมไปปลุกคุณหนูเองครับ"
"คุณฮั่นอย่าทำอย่างนั้นเลยนะคะ ..เดี๋ยวคุณหนูแกจะไม่ชอบหน้าคุณเปล่าๆ"
"ท่านประธานสั่งให้ผมมาเป็นบอดี้การ์ด แล้วก็เป็นครูฝึก เพราะฉะนั้นผมต้องฝึกให้เขาโตพอที่จะเข้ารับตำแหน่งต่อจากท่านประธาน ..ไม่ต้องห่วงหรอกครับ"
"คุณหนูอยู่ห้องสุดริมทางเดินค่ะ"
ผมยิ้มให้แม่บ้านคนนั้น พอเธอเดินลงบันไดไปแล้ว ผมจึงเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของคุณหนู
จะว่าไปผมยังไม่เคยเจอหน้าคุณหนูเลยนี่นา จะหน้าตาเป็นยังไงนะ
ก๊อกก๊อกก๊อก
... เงียบ...
ก๊อกก๊อกก๊อก
...เงียบ...
สงสัยยังไม่ตื่นจริงๆ ..ผมลองบิดลูกบิดประตูดู ก็พบว่าประตูไม่ได้ล๊อค
หึ! อย่างนี้ก็อันตรายน่ะสิ ถึงจะอยู่ในบ้านตัวเองก็เถอะ
ผมเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องอย่างถือวิสาสะ
อื้อหือ ..ห้องสะอาดกว่าที่คิดนะเนี่ย แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย ผมเดินไปที่เตียงนอนซึ่งมีคนนอนหลับอยู่..
แล้วก็นั่งลงข้างเตียง ก่อนจะเขยิบเข้าไปมองหน้าคุณหนูชัดๆ
...น่ารักว่ะ ผิวขาวๆ ปากแดงๆ ดูท่าทางก็ไม่น่าจะใจร้ายอะไร ทำไมถึงกลัวกันจัง
ผมไม่รู้ว่าตัวเองจ้องมองหน้าคุณหนูตรงหน้านานแค่ไหน แต่พอรู้สึกถึงกลิ่นหอมอ่อนๆของคนตรงหน้า ผมก็ไม่อยากเขยิบตัวออกไปไหนอีกเลย
จนกระทั่ง..
คนตรงหน้าที่นอนหลับอยู่ลืมตาขึ้นมา ทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่าผมเขยิบเข้าไปใกล้มาก มากจนหน้าของเราสองคนห่างกันไม่ถึงคืบ
"เฮ้ย! นายเป็นใคร! แล้วเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง.. ออกไปเลย" คุณหนูตรงหน้าเขยิบหนีจนตัวไปติดอยู่ที่ขอบเตียงฝั่งตรงข้าม แล้วทำหน้าตกใจแบบสุดๆ เล่นเอาผมเผลอหลุดขำออกมา
"ฮ่าฮ่าฮ่า นี่คุณไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้"
"ไม่ต้องมาหัวเราะ นายเป็นใคร แล้วกล้าดียังไงถึงเข้ามาในห้องฉัน ฉันยังไม่อณุญาตเลยนะ"
"ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณ ..แล้วอีกอย่าง คุณก็ไม่ได้ล๊อคห้อง ผมก็เลยคิดว่าคุณคงเปิดเอาไว้ต้อนรับผม"
ผมตอบออกไปยิ้มๆ ก็คนตรงหน้ายังไม่หยุดทำหน้าตกใจเลยนี่นา แถมยังทำหน้าเหวอ ตอนที่ผมพูดจบประโยคอีก
..จะน่ารักไปไหนวะ..
"ต้อนรับบ้าอะไร ..ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!"
"ถ้าผมออกไป ..แล้วยังไง?"
"ก็ฉันจะนอน!" โอ้โห ..ยังจะกล้านอนอีกเนอะ คนเรา -_-
"อาบน้ำซะ จะได้ลงไปกินข้าว"
"ฉันยังไม่หิว!!"
"ไม่หิวก็ต้องกิน ..ถ้าไม่กินข้าวเช้าเดี๋ยวโรคกระเพาะก็ถามหาหรอก"
"ก็บอกมันไปสิว่าฉันไม่อยู่" เอ่อ..ถ้ามันทำอย่างนั้นได้ ผมทำไปนานละ -___-
"อย่ามาทำเป็นเล่นน่า ..ลุกไปอาบน้ำซะ"
"นี่นายอย่ามาสั่งฉันนะ ออกไปซะ ฉันจะนอน!" หึ! ไล่ดีนักนะ สงสัยคงต้องหาวิธีปลุกแบบใหม่ซะแล้ว
"ถ้าคุณไม่ไป ผมก็ไม่ไป"
ฟุ่บ!
ผมนอนลงบนเตียงข้างๆแกงส้มทันที ..ก็เอาสิไล่ดีนัก ดูสิว่าคนปากเก่งจะทำยังไง
ผมนอนตะแคงข้าง... หันหน้าไปจ้องหน้าแกงส้ม
คนตรงหน้าทำหน้าเหวอไปนิดก่อนจะลุกพรวดขึ้นจากเตียง แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
หึหึ ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหนเลย น่ารักดีออก ^^
อ่านแล้วอย่าลืมเม้น+โหวตกันด้วยนะคะ ^^
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
ความคิดเห็น