ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้ายก็รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ความจริง

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 57


    หลังจากเดินออกมาจากห้องอาหารเอวาก็เดินไปยังอีกที่ซึ่งมีตัวการของเรื่องนี้อยู่

    “อ้าวเอวายังไม่กลับบ้านอีกเหรอ ได้ข่าวว่าโดนเจ้านายไล่ออกแล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ”เสียงหวานของหญิงสาวตรงหน้าเอวาถามขึ้นเมื่อเอวาเดินมาถึงห้องครัว

    “เลมอนเธอใช่ไหมที่เป็นคนเอาอาหารไปเปลี่ยนกับที่ฉันทำไปให้คุณวายุนะ”

    “จุ๊ๆไม่เอาสิเอวาอย่ามากล่าวหากันอย่างนี้สิหลักฐานก็ไม่มีเธอพูดแบบนี้ฉันเสียหายนะ”พูดพร้อมทำหน้าเศร้า

    “หึหลักฐานก็นี้ไงละอาหารที่ฉันทำไม่ได้ถูกเสิร์ฟให้คุณวายุแต่มันยังอยู่ในห้องครัวนี้”เอวาพูดพร้อมกับหยิบ

    ลาซานญ่าที่เธอเป็นคนทำขึ้นมาประกอบกับคำพูดของเธอ

    “ฉันยอมรับก็ได้ว่าฉันเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี้เอง แล้วเธอจะทำอะไรฉันได้ในจะไปอธิบายให้คุณวายุเขาฟังเหรอเขาไม่ฟังเธอหรอกเธอก็พอจะรู้นิสัยเจ้านายคนใหม่นี้น่าว่าในเมื่อไล่ออกก็คือไล่ออกไม่สนใจคำอธิบายอะไรทั้งนั้น”

    “นี้เลมอนฉันไปทำอะไรให้เธอเธอถึงจองล้างจองผลาญฉันนักนะ”เอวาพูดด้วยน้ำเสียงที่ปนไปด้วยความโกรธและสงสัย

    “ก็เธอแย่งตำแหน่งเชฟดีเด่นของฉันไปตั้งแต่แกมาทำที่นี้แกก็ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากกว่าฉันทั้งๆที่ฉันมาทำงานที่นี้ก่อนแกเป็นปีถ้าไม่มีแกอยู่ตำแหน่งและความนิยมก็จะกลับมาเป็นของฉันเหมือนเดิม แกเข้าใจไหม!”เลมอนตะโกนด้วยความเคียดแค้น

    “ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไงค่อยแต่จะชิงดีชิงเด่นไม่คิดจะพัฒนาฝีมือการทำอาหารของตัวเองเลยแล้วแบบนีเธอจะเป็นเชฟที่ดีและได้รับความนิยมจากลูกค้าได้ยังไงละต่อให้ฉันโดนไล่ออกไปแล้วแต่เธอก็ไม่มีวันที่จะได้ตำแหน่งนี้ไปหรอกจำไว้!

    “กรี๊ด!!!!!!!!!ยัยเอวาแกกล้าดียังไงมาสอนฉันแกไม่อยู่สักคนทำไม่ฉันจะไม่ได้ตำแหน่งนั้นคืน”

    “นี้เสียงดังเอะอะโวยวายอะไรกันนะ”เสียงผู้จัดการโรงแรมแว่วมาแต่ไกล”อ้าวเอวาเลมอนเธอสองคนเสียงดังอะไรกัน”

    “ก็เอวานะสิคะอยู่ๆก็มาหาว่าเลมอนแกล้งเธอทำให้เธอถูกไล่ออกทั้งที่เลมอนบอกว่าป่าวๆแต่เธอก็จะให้เลมอนยอมรับว่าเป็นคนทำพอเลมอนไม่ยอมเธอก็กรี๊ดใส่เลมอนนะคะ”เลมอนโกหกคำโตพร้อมกับทำหน้าตาหน้าสงสารใส่ผู้จัดการส่วนเอวานั้นอี่งกับคำโกหกของเลมอนไปสักพักหนึ่งแล้ว

    “เอวาเธอไม่ควรพาลคนอื่นแบบนี้นะปะไป ไปทำงานได้แล้วเลมอน ส่วนเธอเอวากลับบ้านแล้วค่อยมารับเงินเดือนพรุ่งนี้นะ”เลมอนเดินออกไปพร้อมกับทำสายตาเยาะเย้ยใส่เอวาโดยที่ผู้จัดการไม่เห็น

    “คะผู้จัดการ สวัสดีคะ”เอวาพูดพร้อมกับเดินไปยังลานจอดรถโดยที่ภายในใจนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ

    พลางคิดว่าเลมอนเธอนี้ตีสองหน้าเก่งจริงนะสักวันฉันจะกระชากหน้ากากของเธออออกมาด้วยฝีมือของ
    ฉันเองคอยดูวันนี้ฉันแพ้เธอแต่มันจะไม่มีวันหน้าแน่นอน
    !!!!

    อีกด้านหนึ่งของโรงแรมชายหนุ่มนักธุรกิจกำลังคิดถึงหน้าเชฟสาวคนสวยที่ทำอาหารรสชาติไม่ได้เรื่องมาให้เขากินแถมยังปากเก่งมาหาว่าเขาเคยกินอ้วกสุนัขอีกมันก็แค่คำเปรียบเทียบเธอไม่รู้รึไงนึกแล้วโมโหชะมัดสมควรแล้วที่โดนเราไล่ออกถ้าปล่อยให้เธอเป็นเชฟของโรงแรมต่อไปมีหวังโรงแรมเราเจ๊งแน่ๆเฮ้อแล้วเราจะมานั่งคิดถึงผู้หญิงคนนั้นทำไมวะงานมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่ทำเนี่ยเรา เมื่อตกลงกับตัวเองได้แล้วชายหนุ่มก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าในห้องทำงานเขามีผู้บุกรุกเข้ามาตั้งนานแล้ว

    “เห้ยไอ้วายุแกเป็นอะไรของแกวะนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”เสียงเพิร์ชเพื่อนสนิทวายุดังขึ้นทำลายสมาธิของวายุไป

    “อ้าวไอ้เพิร์ชเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไปไงมาไงถึงแวะมาที่นี้ได้ไม่ไปกกสาวๆของแกเหรอวะ”วายุถามขึ้นทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนสนิท

    “แหม่คุณวายุครับไม่ต้องมาแซวเลยนะครับ พอดีฉันว่างๆแล้วก็คิดถึงแกก็เลยว่าจะมาชวนไปกินข้าวแล้วก็ไปดื่มต่อที่ผับฉัน สนใจไหมวะ” ชายหนุ่มขี้เล่นเอ่ยชวนวายุ

    “เอ่อน่าสนวะ วันนี้มีเรื่องให้ปวดหัวมาเยอะแระพักซะหน่อยก็ดีวะ แต่ขอฉันเคลียร์งานก่อน10นาที”วายุตอบรับคำชวนทันทีแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ โดยที่เพิร์ชก็นั่งคิดในใจไปว่า “ทำไมวันนี้ไอ้วายุมันรับคำชวนเราง่ายจังวะ ปกติเอาช้างมาฉุดให้ตายก็ไม่ไปหรือว่าผีเข้าแต่ช่างมันเหอะดีซะอีกเราจะได้มีเพื่อนไปกินเหล้าโดยที่ไม่ต้องออกแรงชวนเหมือนทุกครั้ง”  เพิร์ชนั่งคิดได้ไม่นานวายุก็ทำงานเสร็จและชวนกันออกไป

    เมื่อสองปีที่แล้วสมัยที่สองหนุ่มยังเรียนอยู่วายุและเพิร์ชจะไปดื่มด้วยกันตลอดเรียกว่าคู่หูเพล์บอยเลยก็ว่าได้แต่เมื่อวายุเข้ามาบริหารโรงแรมแห่งนี้แทนบิดามารดาของเขาวายุก็ไม่ค่อยไปดื่มหรือเจ้าชู้เหมือนแต่ก่อนจะมีแต่เพิร์ชที่นิสัยเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนน้อยครั้งที่วายุจะไปดื่มกับเพิร์ช

                   ส่วนเพิร์ชนั้นเมื่อรู้ตัวว่าชอบดื่มชอบเที่ยวจึงเปิดผับเป็นของตัวเอง ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวเขาก็ให้พี่ชายของเขาทำไปเขาจึงไม่มีปัญหากับในเรื่องนี้แถมพ่อแม่ก็ตามใจเขายิ่งกว่าอะไรด้วยความที่เป็นลูกคนเล็กที่มีหน้าตาอันหล่อเหลาแต่ก็แอบปวดหัวกับเรื่องผู้หญิงของเขาอยู่มิใช่น้อยก็เขาเล่นควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน

     ณ ร้านrose garden[ร้านของมีนาและเอวา]

     “555แกนี้ปากจัดจริงๆเลยสมควรแล้วไหมละที่โดนไล่ออกดีนะเนี่ยที่เขาไม่จับแกโยนออกมาถ้าฉันเป็นเขานะฉันจะไม่ให้เงินเดือนล่วงหน้าแก แล้วก็ให้คนโยนแกออกมาเลยแหละ วะฮ่าๆๆ” ยัยมีนาเพื่อนสนิทของฉันพูดออกมาหลังจากที่ฉันเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโรงแรมฟอเรสฯให้เธอฟังแต่พอเล่าจบปุ๊บยัยนี้ก็ว่าฉันเฉยเลยแทนที่จะว่าอีตานั้น

    “ชิ ฉันชักไม่แน่ใจแล้วนะว่าแกเป็นเพื่อนฉันหรือว่าเป็นเพื่อนอีตานั้นกันแน่ไม่เข้าข้างฉันเลยแกเข้าใจปะว่าตอนนั้นมันโมโหอะอยู่ๆก็มาว่าอาหารฉันรสชาติเหมือนอ้วกหมาอะแกมันทนไม่ไหวจริงๆดีนะที่ฉันไม่เอาอาหารนั้นยัดปากเขาอะ”ฉันพูดด้วยอารมณ์ฉุดเฉียว

    “ก็ต้องเป็นเพื่อนแกสิฉันก็แค่พูดให้แกฟังเฉยๆและอีกอย่างนะคุณวายุเขาก็เข้าใจผิดเขาไม่รู้นี้น่าว่าแกโดนยัยเมลอนแกล้ง ถ้าเขารู้ฉันว่านะคนที่โดนไล่ออกก็คงเป็นยัยนั้นไม่ใช่แกทำไมแกไม่ไปบอกความจริงกับคุณวายุละ”ยัยมีนาเถียงฉันกลับมาทันทีที่ฉันพูดจบ

    “หึแกนี้ช่างไม่รู้อะไรเลย นายวายุนั้นนะเขาไม่ฟังใครหรอกถ้าเขาตัดสินใจไปแล้วนะต่อให้อมพระทั้งวัดมาพูดเขาก็ไม่เชื่อหรอกยิ่งฉันไปพูดเขาก็จะหาว่าฉันแก้ตัวเสียเวลาเปล่านะแก เลิกพูดเรื่องนี้กันเหอะพูดแล้วอารมณ์เสียอะ”

    “เออแล้วนี้แกโดนไล่ออกแบบนี้แสดงว่าแกก็จะมาทำงานที่ร้านอย่างเต็มตัวแล้วใช่ไหม ดีเลยฉันจะได้ไม่เหนื่อย” มีนาพูดด้วยเสียงที่ดีใจจนน่าหมั่นไส้

    “ก็คงต้องอย่างนั้นแหละก็โดนไล่ออกแล้วนิ แล้วอีกอย่างฉันก็เป็นหุ้นส่วนของที่นี้ด้วยปล่อยให้แกทำคนเดียวมานานแระถึงเวลาที่ฉันต้องแบ่งเบาภาระมาจากแกบ้างแระ”

    “ใครบอกแกก็ช่วยทำขนมก่อนออกไปทำงานทุกวันนี่น่าอย่าคิดมากสิแกฉันนะไม่เหนื่อยหรอกแต่ลูกน้องนะไม่แน่55 และอีกอย่างฉันจะได้ไม่ต้องเหงาปากอีกต่อไปฉันจะชวนแกเม้าส์ให้ปากเปื่อยไปเลย”มีนาพูดติดตลกเพื่อให้เอวานั้นสบายใจขึ้นและมันก็ช่วยได้จริงๆ  

    “ใจคอแกจะชวนฉันคุยทั้งวันเลยหรือไงไม่คิดที่จะทำงานเหรอ แล้วแกจะเหงาปากอะไรวันๆนึงแกเจอกับลูกค้าตั้งมากมายยังจะเหงาอีก”เอวาพูดถามกลับไปด้วยความสงสัยปนระอากลับเพื่อนของเธอที่ใจคอจะชวนเธอคุยทั้งวันทั้งๆที่อาการช่างคุยนี้ไม่ใช่นิสัยของเพื่อนเธอสักเท่าไหร่เพราะมีนานั้นถ้าหากเป็นคนที่ไม่สนิทด้วยแล้วเธอจะไม่ค่อยพูดจนคนอื่นคิดว่าเธอนั้นหยิ่งหากทว่าแท้จริงแล้วเธอนั้นไม่ได้หยิ่งแค่ไม่รู้จะพูดอะไรด้วยก็เท่านั้นลองสนิทด้วยสิพูดเป็นต่อยหอยเชียวละเหมือนที่เป็นกับเธออยู่ตอนนี้

    “ลูกค้าเยอะก็จริงแต่ฉันก็ไม่ได้คุยด้วยกับทุกคนนี้น่าแล้วคนที่คุยถูกคอกันกับฉันก็มีไม่กี่คน แกก็รู้นี่น่าว่าฉันไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า”มีนาพูดเสียงงอนๆพร้อมกลับส่งค้อนไปให้เพื่อนรักที่มาหาว่าเธอนั้นเป็นคนช่างพูดไม่ใช่เสียหน่อย

    “โอเครๆฉันไม่เถียงกับแกแล้วดีกว่า นอนกันเถอะฉันง่วงแล้วนั้งคุยซะนานเลยพวกเรา”เอวาล้มตัวลงนอนหลังจากที่ชวนเพื่อนรักเข้านอนเมื่อเห็นเอวาล้มตัวนอนไปแล้วมีนาจึงจำเป็นต้องนอนตามไปด้วยเมื่อหัวถึงหมอนทั้งคู่ก็เข้าสู่ห้วงนิทราในเร็วพลัน

    ร้านrose garden นั้นนอกจากจะชั้นแรกเป็นที่ทำงานแล้วชั้นสองยังเป็นที่นอนของสองสาวอีกด้วยเนื่องจากสองคนนี้เป็นคนต่างจังหวัดทั้งคู่จึงไม่มีบ้านในกรุงเทพดังนั้นชั้นสองของร้านจึงกลายเป็นที่พักของสองคนนี้ไปโดยปริยายโดยปกติแล้วเอวาจะช่วยมีนาทำเค้กทุกเช้าก่อนที่เธอจะออกไปทำงานและมีนาจะเป็นคนทำเค้กที่มีคนสั่งเข้ามาตลอดทั้งวันที่เปิดขายส่วนหน้าร้านก็จะให้ลูกน้องสองคนเป็นคนทำไปนานครั้งที่มีนาจะไปอยู่หน้าร้านเอง  ร้านนี้จะเปิดตั้งแต่ 8.00-20.00.

     

     ปล.ขอโทษนะคะที่หายไปนานมากเลย แถมมาอัพให้น้อยอีก คือว่าคิดไม่ออกนะคะ 55
    แต่จะมาอัพให้เรื่อยนะคะ ไม่รู้ว่ามีใครรออ่านรึป่าว


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×