ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {จบเเล้วว} [★ Fic exo ★ ChanBaek]Love of a friend (ft.HH KD)

    ลำดับตอนที่ #21 : [★ Fic exo ★ ChanBaek] Ch 20 : (KaiDo) We Hope Become Lovers

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 57


    Love of a friend

    Chapter 20:

    We Hope Become Lovers


     

    *ขออภัยล่วงหน้ากับเนื้อหาในตอนนี้ถ้ามันป่วงๆ

    ไรท์เตอร์มันมึนจริงๆตอนแต่ง





     

     










     

    FT Island- We Hope Become Lovers

     

    มีความในใจที่อยากให้คุณรับรู้ตั้งมากมาย

    แต่ไม่รู้จะต้องเริ่มยังไงดี

    ถึงแม้มันเป็นความในใจที่รีบร้อน

    อาจดูเงอะงะไป

    คุณจะรับคำสารภาพของผมได้ไหม ?




    ::Do Kyungsoo::

     

                “จุนมยอนอ่า..จะให้ฉันรออีกนานไหมเนี่ย..” ผมยกมือขึ้นมาประสานกันก่อนจะทิ้งใบหน้าตัวเองลงบนนั้น.. จะเรียกว่าผมนั่งเท้าคางก็ได้นะ. .. แถมยังต้องมานั่งบ่นคนเดียว เพราะจุนมยอนที่บอกให้ผมล่วงหน้ามารอที่โรงอาหารก่อนไม่ยอมมาสักที

     

                ผมหิวข้าวแล้วนะ..

     

                บางที..ผมอาจจะไม่ได้หิวข้าวมากมายขนาดนั้น.. แค่ผมไม่อยากอยู่คนเดียวในเวลาแบบนี้  “ทำไมถึงได้งี่เง่าแบบนี้นะโดคยองซู...” ผมฝังหน้าลงไปกับแขนทั้งสองข้าง บ่นกับตัวเองเบาๆ ราวกับจะตอกย้ำความงี่เง่าของตัวเอง..

     

                ทั้งๆที่แบคฮยอนก็เป็นเพื่อนของจงอินแท้ๆ.. ทั้งๆที่แค่ดูก็รู้ว่าทั้งสองคนไม่ได้คิดอะไรกัน

                แต่ทำไมผมถึงรู้สึกหึงล่ะ.. ผมงันงี่เง่าจริงๆเลย

                 

     

              ฉันรู้ว่านายไม่ชอบการผูกมัด.. อ่า.. ขอเวลาฉันสักหน่อยนะจงอิน.. อย่าพึ่งมาเจอกันสักพักนะ รอให้ฉันเลิกงี่เง่าแบบนี้ได้ก่อน .. แล้วฉันจะกลับมาเป็นค.. คยอ.ง ซูคนเดิม

     

              ประโยคที่แสนงี่เง่ายังคงดังอยู่ในหัว.. อาจเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองเดินล้ำเส้นมามากไปแล้ว.. ผมไม่อยากที่จะเดินถลำลึกเข้าไปในห้วงของคิมจงอินมากกว่านี้อีกแล้ว.. 

     

                จากที่เคยพอใจที่ได้อยู่ใกล้ๆกับจงอิน.. ไม่โดนทำหน้ารำคาญใส่แบบเมื่อก่อน.. จากที่ผมเคยพอใจอยู่แค่นั้น แต่ในวันนี้มันไม่ใช่ทั้งๆที่ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะยืนอยู่ในที่ที่ควรจะยืน.. แต่ผมในตอนนี้..ปฏิเสธไม่ได้หรอก ว่าอยากครอบครองคิมจงอิน.. อยากเป็นเจ้าของ ..

     

                พูดแบบนั้นกับจงอินไป..ไม่รู้ว่าเค้าจะเป็นยังไง ผมรู้ดีว่าเค้าไม่ชอบการผูกมัด เค้ารู้แล้ว ว่าผมน่ะหวังมากกว่าที่เป็นอยู่.. ถึงผมจะบอกว่าผมจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมให้ได้เร็วที่สุด แต่.. จงอินยังจะอยากให้ผมกลับไปเป็นแบบนั้นบ้างหรือเปล่านะ..

     

     

                ไม่น่าเลยจริงๆ

     

                น้ำตาบ้าๆนี่ก็ไหลออกมาอีกแล้ว.. แต่ถ้าผมจะบอกว่าผมชอบล่ะ..ที่ได้ร้องไห้ ชอบที่ได้ร้องไห้เพราะคิมจงอิน  ยิ่งร้องไห้เพราะเค้าได้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าความรู้สึกที่ผมมีให้เค้ามันมากมายเท่าไหร่ และยิ่งได้รู้ว่ารักเค้าแล้วจริงๆ ผมกลับรู้สึกดีขึ้นมาซะงั้น ..

     

                เค้าทำให้ผมเป็นบ้า ..

     

                เสียงคนทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเก้าอี้ข้างๆผม.. เป็นสัญญาณบอกแล้วว่าจุนมยอนมาได้สักที... แล้วทำไมต้องมาเวลาผมร้องไห้ ..

     

                “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ.. ฉันจะเลิกร้องแล้ว” ผมยังคงฝังใบหน้าตัวเองกับแขนทั้งสองข้างอยู่แบบนั้น ไม่อยากให้จุนมยอนเห็นผมในสภาพนี้เท่าไหร่ (ถึงจะเห็นบ่อยแล้วก็เถอะ) ทุกครั้งที่ผมร้องไห้จุนมยอนจะบอกให้ผมตัดใจ.. บอกผมเสมอ ว่าไม่ควรรักคนที่เค้าไม่สนใจเรา

     

                แต่ผมก็ไม่เคยทำตาม.. ความรู้สึกที่มีให้จงอินมันมากเกินไป มากเกินกว่าที่จะตัดใจได้เพียงเพราะคำพูดของจุนมยอน

     

     

                “...เรานี่ก็บ้าเนอะจุน.. เราร้องไห้อีกแล้ว.. เราน่าจะเชื่อจุนตั้งแต่แรก.. เราน่าจะตัดใจ”

     

                “.....”

                “จุนรู้ไหม.. เราโคตรงี่เง่าเลย.. เราว่าจงอินคงไม่อยากเจอเราอีกแล้วล่ะ” ผมกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้แบบนั้น ก่อนจะซุกหน้าลงกับเสื้อนักเรียนของจุนมยอนเพื่อซ่อนน้ำตา ...

     

                ช่วงนี้จุนมยอนตัวใหญ่ขึ้นหรือเปล่าเนี่ย  แต่ช่างเถอะ..

     

                “จงอินไม่ชอบการผูกมัด.. แต่เรา เราอยากจะเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้  แล้วพอมันเป็นไปไม่ได้ เราก็เลยงี่เง่า เพื่อนนายงี่เง่าจังจุนมยอน” แรงลูบเบาๆที่ศรีษะของผมทำให้ผมอยากจะร้องไห้มากขึ้น.. ทำไมวันนี้อ้อมกอดของจุนมยอนมันอบอุ่นแบบนี้

     

                “เป็นมากกว่าตอนนี้... แล้วคยองซูอยากจะเป็นอะไรล่ะ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหูทำให้ผมผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่น.. อ้อมกอดที่ผมคิดว่ามันเป็นของเพื่อนสนิท  แต่ไม่ใช่

                “จะ..จงอิน”

                “อย่าเดินหนีสิคยองซู” จากที่เคยพยายามจะลุกเดินหนีเพราไม่รู้ว่าควรเผชิญกับสถานการณ์นี้แบบไหน กลับกลายเป็นว่าผมโดนดึงให้นั่งลงบนตักของจงอินเรียบร้อยอย่างขัดขืนไม่ได้ ..

     

                “ทะ..ทำอะไร นี่มัน.. โรงอาหารนะ!” ผมพยายามพูด ตอนนี้ยังไงก็ได้ ขอแค่ให้จงอินปล่อยให้ผมนั่งลงที่เก้าอี้ดีดีก็พอ ดูสิคนเริ่มมองกันใหญ่แล้ว

     

                “โรงอาหาร อืม .. เราไม่ควรคุยกันที่นี่สินะ” ลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดอยู่แถวๆข้างแก้ม ทำให้ผมต้องหดคอตัวเองลงโดยอัตโนมัติ แทบจะลืมหายใจเมื่อคิดว่าผมกับจงอินอยู่ใกล้กันมากแค่ไหน

                “อื้อ.. คนเต็มเลย หวา...! ” ไม่รู้ว่าจงอินช้อนตัวของผมขึ้นได้ง่ายดายขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน รู้อีกทีผมก็ต้องซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้าง เพื่อหลบสายตาของคนเกือบทั้งโรงอาหาร

     

                “จะ..จงอินบ้า คนมองหมดแล้ว” ผมบ่นเสียงอู้อี้ อยากจะตีคนที่กำลังอุ้มผมอยู่ตอนนี้ซะจริง ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากจะปล่อยให้จงอินอุ้มอยู่แบบนี้

               

                “ก็นายบอกว่าโรงอาหารคนเยอะ .. เลยจะพาไปที่อื่น” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพบว่าตอนนี้ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยของจงอิน มีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ที่มุมปาก..

     

                และมันก็.. มันยากเหลือเกินที่ผมจะไม่ยิ้มตาม

     

               

                “จะพาฉันไปไหน..?”

                “นั่นสิ ไม่ได้คิดไว้ด้วยสิ”

                “งั้นก็ปล่อยฉันลง...” ผมรีบหุบยิ้มทันทีเมื่อจงอินก้มลงมองมา.. ผมอาจจะลืมไปว่าผมกำลังพยายามจะไม่ล้ำเส้นของจงอิน

                “ปล่อยลงให้นายเดินหนีฉันน่ะหรอ ไม่มีทางซะล่ะ”

                “ขอโทษจงอิน... แต่ฉันว่าฉันพูดไปทุกอย่างแล้วนะ ปล่อยฉันเถอะ” น้ำเสียงตัดพ้อที่ส่งออกไปทำให้คนที่กำลังเดินหยุดชะงัก..

                ไม่รู้แล้ว.. เห็นใจฉันบ้างสิจงอิน ยิ่งนายเข้ามาใกล้ขนาดนี้ .. ฉันห้ามตัวเองไว้จะไม่ได้แล้วนะ!

     

                “จะให้ฉันปล่อยทั้งๆที่นายยังเป็นแบบนี้.. ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะ”

                “หมายความว่ายังไงจงอิน” ผมขมวดคิ้วมองจงอินอย่างไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจจริงๆ

     

                จงอินไม่ได้พูดอะไร.. ผมก็ทำได้แค่มองเสี้ยวหน้าของคนที่ไม่ยอมพูดอะไรอย่างไม่เข้าใจอยู่แบบนั้น จนร่างสูงพาผมมาที่สนามหญ้าหลังโรงเรียน แล้วปล่อยผมให้เป็นอิสระ

     

                ผมไม่เคยรู้ว่าบริเวณนี้ของโรงเรียนจะสงบขนาดนี้... ไม่มีคน แถมอากาศก็ดี แต่เมื่อหันไปมองคนข้างๆ ผมก็ต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ

     

                “ทำแบบนี้ทำไมจงอิน.. ทำไมนายไม่เข้าใจฉันบ้าง” ริมฝีปากของผมที่เม้มเข้าหากัน.. มันเริ่มสั่น ความร้อนผ่าวที่ขอบตาทำให้ผมต้องกระพริบตาถี่ๆ ไม่ต้องการให้น้ำตาที่เตรียมจะไหลมันได้ออกมาง่ายๆ

                “นายนั่นแหละคยองซูที่ไม่เข้าใจ ทำไมนายถึงคิดว่าฉันไม่เข้าใจ..

                หมายความว่ายังไงจงอิน ผมขมวดคิ้วมองจงอินอย่างไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจจริงๆ

                “เพราะฉันเข้าใจในสิ่งที่นายพูด และเพราะว่าฉันเข้าใจฉันเลยไม่อยากให้นายทำแบบนั้น แบบที่นายพูด..”

                “ขอเหตุผลจงอิน นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ มันไม่สมกับเป็นนายเลยสักนิด”

                “ใช่.. ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน ว่าเหมือนมันไม่ใช่ตัวฉัน ” ผมมองริมฝีปากหนาที่ขยับขึ้นลงของจงอินอย่างไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้..

                “ฉันไม่เคยอยากมีแฟน ไม่เคยอยากให้มีใครมายุ่งกับชีวิตของฉัน .. แต่เพราะคนตรงหน้าฉันคือนาย เพราะมันคือนายโดคยองซู ฉันไม่รู้สึกอึดอัดสักนิด ถ้ามันจะเป็นนาย”

     

                “อย่าทำแบบนี้จงอิน..” ผมหันหน้าหนีจงอินไปอีกทาง.. น้ำตาบ้านี่ก็พาลจะไหลอยู่เรื่อย..

     

                เพราะผมพูดว่าจะห่างกับจงอินใช่ไหม เพราะผมพูดแบบนั้น จงอินถึงได้มาทำแบบนี้ ... มันไม่ตลกเลยสักนิด แต่ผมกลับอยากจะขำ

     

                “เหอะ..ฮะฮะ บ้าเนอะ.. ทำไมตอนนี้ฉันถึงได้รู้สึกกลัวประโยคต่อไปที่นายจะพูดแบบนี้ล่ะจงอิน” มือเล็กของผมส่งไปหยุดริมฝีปากของจงอิน..

     

                “อย่าพูดนะ.. อย่าพูดมันออกมา” อย่าพึ่งพูด อะไรที่ทำให้ใจฉันสั่นตอนนี้ ห้ามทำสายตาจริงจังแบบนั้น เพราะมันทำลายความรู้สึกไม่แน่ใจของฉันไปเกือบหมดแล้ว ..

     

                อย่าทำให้ฉันคิด ว่านายเองก็รู้สึกเหมือนกัน..

     

                อย่าพูดคำๆนั้นออกมา..

     

                เพราะฉันอาจจะกลั้นน้ำตาแห่งความดีใจไว้ไม่ไหว

     

     

    ★★★★

     

    ผมหวังให้คุณมาเป็นแฟนของผม อยากให้คุณมาเป็นความรักของผมคนเดียว

    คำสารภาพว่าฉันรักคุณ บอกผมแค่คนเดียวได้ไหม

     

    ผมหวังให้คุณมาเป็นแฟนของผม อยากให้คุณมาอยู่เคียงข้างผม

    ไม่ว่าจะไปที่ไหน จะทำอะไร ขอให้คุณคิดถึงผมแค่คนเดียว

    ★★★★

     

     







     

     

    :::Kim Jongin::

     

                ผมใช้มือทั้งสองข้างของผมจับหน้าคนตาโตให้หันมาสบตา... เมื่อคยองซูไม่อยากให้พูดผมก็จะไม่พูด.. ดวงตากลมโตที่กำลังสั่นไหวถูกมือของผมบังคับให้โฟกัสมาที่ใบหน้าของผม ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า ใบหน้าของผมที่สะท้อนในดวงตาเค้าตอนนี้ .. คยองซูจะมองว่าผมคนนี้เป็นแบบไหนนะตอนนี้

     

                ผมรู้ว่าคยองซูรู้ว่าผมจะพูดอะไร.. และผมก็รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังกลัวอะไร  คยองซูรู้ดีเสมอเกี่ยวกับเรื่องของผม เคารู้ ว่าผมไม่ชอบมีพันธะ ไม่ชอบผูกมัดกับใคร.. ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด

                จนมาเจอคยองซู.. ความคิดพวกนั้นมันก็หายไป

     

                ผมอยากจะเดินจับมือของคยองซูไปทุกที่  ผมชอบเวลาที่ทานข้าวกลางวันด้วยกันกับคยองซู ผมมีกำลังใจเมื่อเห็นคยองซูอยู่บนอัฒจันทน์และมองมาที่ผม  ผมรู้สึกดีที่คยองซูหึงผม ผมไม่หงุดหงิด.. ตอนที่มีคนคิดว่าผมกับคยองซูเป็นแฟนกัน..

     

                ผมชอบมัน และผมก็ชอบ โดคยองซู

     

               

                ถึงตอนนี้คยองซูจะเข้าใจแล้วว่าผมต้องการจะพูดว่าอะไร... แต่มันก็ไม่เสียหายอะไรที่ผมจะย้ำความรู้สึกที่ผมมี ด้วยภาษากาย

     

                ริมฝีปากอิ่มสีสดถูกริมฝีปากหนาของผมทาบทับ ผมดูดเม้มกลีบปากอิ่มอยู่สักพัก คนตัวเล็กก็ปล่อยให้ผมได้รุกล้ำเข้าไปชิมความหวานในโพรงปาก ลิ้นร้อนของผมละเมียดไล้ไปทั่วฟันซี่เล็กที่เรียงสวย คยองซูยังคงหวาน..หวานจนผมอดไม่ได้ที่จะใช้มือบังคับปรับองศาให้คนตัวเล็กรับจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของผมให้มากขึ้น  เมื่อผมเริ่มเร่งจังหวะการจูบพร้อมกับชักชวนลิ้นเล้กที่ถดหนีอย่างไร้เดียงสาให้มาเล่นด้วยกัน.. ลิ้นเล็กของคยองซูที่ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนถูกผมไล่ต้อนและดูดเม้มเล่นราวกับเป็นของหวานแสนอร่อย ซึ่งมันก็อร่อยๆจริงๆ.. อร่อยจนผมอยากจะชืมต่อไปอย่างนี้ ถ้าไม่ติดว่าเสียงครางอืออาในลำคอของคนตัวเล็กเป็นสัญญาณบอกผมว่าหมดเวลาแล้ว..

     

                “ฮื่อ..นาย..” เมื่อผมปล่อยให้คยองซูเป็นอิสระ คนตัวเล็กก็หายใจเข้าออกราวกับกลัวว่าจะไม่ได้หายใจอีกต่อไป ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงเรื่อเงยขึ้นมามองผมในความหมายที่เราต่างก็รู้ดี

     

     

                ... คงไม่สายไปหรอกเนอะที่ผมจะพูดมัน... ในเมื่อคนตัวเล็กพร้อมให้ความร่วมมือกับคำสารภาพของผม ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องเก็บหรืออมมันเอาไว้..

     

                จะบอกว่าอมเอาไว้ก็ไม่ได้สิ เมื่อกี้ผมป้อนมันใส่ปากคยองซูไปหมดแล้ว

     

     

     

                “เป็นแฟนกันนะ คยองซู” ผมเชยคางของคนตัวเล็กที่กำลังจะก้มหน้าหลบตาให้หันมามองก่อนที่จะพูดสิ่งที่ผมต้องการออกมา..

     

                มาถึงตอนนี้ ถ้าคยองซูปฏิเสธ ผมก็ไม่ยอมหรอก..

     

                “..นาย.. พูดมันหลังจากที่ทำแบบนั้น.. นาย..มันบ้า”  ผมรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างที่กำลังจะทำร้ายผมเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะใช้แขนที่ว่างอยู่รวบตัวคยองซูเข้ามาจนชิด

     

                “ถึงจะบ้า..ก็บ้ารักโดคยองซูคนเดียวนะ”

                “จะ..จงอิน.. พูดอะไรของนาย”

                “ต้องพูดสิ ไม่พูดคยองซูก็ไม่รู้หรอกจริงไหม หรือรู้อยู่แล้วก็ไม่สน เพราฉันอยากจะพูดมันให้นายได้ยิน” กระซิบลงไปที่ใบหูเล้ก ไม่ต้องมองก็รู้ว่าตอนนี้ใบหน้าของคยองซูเป็นสีอะไร..

     

                เสียงหัวใจของเราทั้งสองคนที่เต้นแข่งกัน.. บอกผมได้ว่าคนตัวเล็กชอบคำพูดของผมขนาดไหน และผมเองก็พึ่งรู้ ว่าการพูดคำคำนี้ มันรู้สึกดีขนาดไหน.. ผมมีคนที่สามารถพูดคำว่ารักด้วยได้ ผมมีคนที่ทำให้ผมรู้สึกดีกับคำว่ารัก .. มีคนที่ผมอยากจะผูกมัดเอาไว้ข้างตัวและหัวใจตลอดเวลา มีคยองซูอยู่ตรงนี้ข้างๆกัน... ผมดีใจ

     

     

    “บ้าจริงๆคิมจงอิน..ฉันเขินจะตายแล้วนะ”

     

     

    ★★★★

     

    ผมอยากให้คุณสัญญามาเป็นแฟนของผม สัญญาจะมาเป็นคนรักของผมเท่านั้น

    กระซิบความรักที่หวานเหมือนช็อคโกแลตหน่อยได้รึเปล่า

     

    สัญญาว่าจะมาเป็นแฟนของผม อยากทำทุกอย่างร่วมกันกับผม

    จะเริ่มต้น หรือ สุดท้าย ต้องการแค่เพียงความรักของเราก็พอ

     

               

     

                “คยองซูอ่า...” ผมไม่สนว่าคนตัวเล็กจะเขินขนาดไหนในตอนนี้ กดจูบลงไปที่กลุ่มผมหอมของคยองซู กดมันไว้อยู่แบบนั้นราวกับไม่อยากจะแยกจากคยองซูไปไหน

                “อืม..ถึงฉันจะเคยพูดมันไปแล้ว.. แต่ฉันก็อยากจะบอกมันกับนายอีก.. ฉันรักนายนะจงอิน!” ตากลมโตช้อนขึ้นมามองผม ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มรูปหัวใจจะฉีกยิ้มกว้างมาให้ผม

                “ต่อจากวันนี้ดูแลแฟนของนายคนนี้ให้ดีดีล่ะ”

    ร่างกายของเราที่แนบชิดติดกันจนได้ยินเสียงหัวใจ..เปรียบได้กับความรู้สึกของเราที่เชื่อมเข้าด้วยกันตากลมโตที่มองมาที่ผมราวกับว่าผมคือของที่มีค่ามากสำหรับคยองซู.. ทำให้ผมมั่นใจ

    รอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้าของคยองซู...ทำให้ผมรู้ว่าผมจะต้องเป็นคนรักที่ดีให้แฟนที่น่ารักแบบคยองซูได้แน่ๆ ผมไม่อาจรู้ได้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง.. แต่ผมจะดูแลเค้าให้ดีที่สุด

    รอยยิ้มที่ถูกจุดขึ้นที่ริมฝีปากของผม... ความรู้สึกที่มันก่อตัวขึ้นมาตอนที่ผมไม่รู้ตัวเหมือนกับจุดเริ่มต้นของเราสองคนที่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่

    ไม่รู้ว่าใครเป็นคนขีดเอาไว้ หรือว่าผมและคยองซูเลือกที่จะให้มันเป็นแบบนี้

     

    โลกของผมที่ไม่เคยให้ใครได้เข้ามา

    จะมีแค่คยองซู.. คนแรกและคนเดียวที่จะได้สัมผัสมัน..

     

    ในเมื่อคยองซูเลือกที่จะรักผมและทำให้ผมรักเค้าแบบนี้

    เค้าคงต้องเตรียมตัวรับความรักและบริการดูแลหัวใจระดับสิบดาวจากผมอย่างไม่มีทางปฏิเสธ

     

    อยู่กับฉับแบบนี้ไปนานๆนะคยองซู.. อย่าพึ่งสำลักความรักของฉันจนขาดใจตายไปซะก่อนล่ะ

     

    ♥♡♥♡♥♡♥♡




     

     

     

    TBC

    ★★★★

     





    s :) Shalunla

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×