ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #61 : เล่ม 2 - ตอนที่ 20 - มุ่งหน้าสู่แองเจล (1)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 870
      0
      7 พ.ย. 50

    ภาควิกฤตก่อกำเนิด
    ตอนที่ 20 มุ่งหน้าสู่แองเจล
    5 กุมภาพันธ์ อศ. 226
     
    ไกย้อนกลับไปที่โรงเรียนเซนต์เอลลิสอีกครั้ง เขาเดินทางกลับมาหาชานอนหลังจากพบร่องรอยของอัศวินดำที่ประตูเมือง ระหว่างทางเขาไม่พบเห็นร่องรอยของอัศวินดำหรือการสะกดรอยตามมาใดๆ จึงกลับมาอย่างวางใจ
                    ทันทีที่ไกก้าวเข้าสู่เขตของโรงเรียนเซนต์เอลลิสก็มีเสียงสตรีคนหนึ่งดังขึ้นว่า ข้ากำลังรอเจ้าอยู่พอดี ชานอนเดินเข้ามาหาไกพร้อมกับกล่าวต่อไปว่า ตามข้ามาทางนี้
                    ไกพยักหน้าแล้วก็เดินตามไป ระหว่างทางเขาถามว่า ผลทดสอบเมื่อเช้าเป็นอย่างไรบ้าง
                    ชานอนกล่าวตอบว่า ไม่ปรากฏผลที่แน่ชัด เอลของลูทไม่สามารถประสานเข้ากับลูกแก้วสีใดได้เลย ข้ากำลังสงสัยว่าเขาอาจจะเป็นบุคคลที่สามารถใช้วิชาศาสตราไร้สภาพก็เป็นได้
                    ไกกล่าวทวนคำว่าศาสตราไร้สภาพ อยู่พักหนึ่ง จากนั้นกล่าวด้วยความสงสัยว่า ศาสตราไร้สภาพที่เป็นวิชาของผู้ก่อตั้งมินสเตอร์อย่างนั้นหรือ
                    ชานอนพยักหน้ารับคำแล้วจึงกล่าวว่า จากที่ลูทเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งเขาสามารถใช้กระบี่เหล็กธรรมดาตัดเหล็กประดุจหยวกเป็นข้อยืนยันที่ว่าเขาเคยใช้ศาสตราไร้สภาพได้โดยบังเอิญ ดังนั้นข้อสันนิษฐานนี้มีโอกาสที่จะเป็นไปได้อย่างยิ่ง เพียงแต่เอลของเขาในตอนนี้ยังไม่บรรลุถึงขั้นนั้นและเขาก็ไม่รู้จักวิธีควบคุมมันเสียด้วย
    ไกพยักหน้าไม่ได้กล่าวอะไร เขาเล็งเห็นแววในตัวของลูทก่อนชานอนเสียด้วยซ้ำ ตัวเขาเองรู้เรื่องศาสตราไร้สภาพไม่มากนักจึงไม่สามารถสอนวิธีควบคุมให้ลูทได้เช่นกัน
                    ชานอนกล่าวต่อไปว่า ข้าขอยืมตัวนางงามผมทองของเจ้าไปสักวันหนึ่ง ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่
                    ไกทำหน้าตาสงสัยถามชานอนกลับไปว่า โรซาไลน์อย่างนั้นหรือ ทำไมล่ะ
                    ชานอนอธิบายว่า เช้านี้หลังจากที่เจ้าจากไป โรสขอร้องให้ข้าช่วยสอนวิธีการต่อสู้ให้ ข้าเห็นว่านางช่างมีส่วนคล้ายกับข้าในสมัยก่อนมากจึงตกลงรับปาก
                    ไกรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกล่าวตอบว่า แปลกจริงนะที่คนอย่างเจ้าตกลงรับปาก ฝีมือของนางเป็นอย่างไรบ้าง
                    ชานอนกล่าวว่า จนถึงบัดนี้ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่าเจ้าไปรู้จักกับเด็กอัจฉริยะพวกนี้ได้อย่างไร ศักยภาพของพวกเขาแต่ละคนนั้นลึกล้ำดั่งมหาสมุทร ถ้าไม่นับรวมบลู ตัวข้าเองที่เป็นครูมาถึงเจ็ดแปดปีพึ่งจะเคยสอนลูกศิษย์ที่มีศักยภาพสูงเช่นนี้เพียงคนเดียว
                    ไกยักไหล่คราหนึ่งเป็นนัยว่าเขาก็ไม่ทราบเช่นกัน พวกเขาทั้งสองเดินคุยกันไปพลางจนมาหยุดที่ห้องประชุมเล็กๆห้องหนึ่ง ไกถามว่า ห้องนี้มั่นใจได้ขนาดไหน
                    ชานอนกล่าวตอบว่า ข้ารับรองด้วยตนเองว่าไม่มีใครสามารถดักฟังพวกเราได้ ผนังห้องทั้งสี่ด้านล้วนสร้างจากโลหะผสมพิเศษมีคุณสมบัติกั้นมิให้เสียงใดเล็ดลอดออกไปแม้แต่น้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้นไกก็สบายใจ ทั้งคู่พากันเข้าไปนั่งคุยกันต่อในห้องประชุม
    ห้องประชุมห้องนี้มีกระจกอยู่เพียงบานเดียว แต่เป็นกระจกที่มีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นว่าเป็นกระจกเงาสะท้อนแสงแต่ถ้ามองจากภายในแล้วจะเห็นเป็นกระจกโปร่งแสงสามารถมองสภาพภายนอกได้ชัดเจน ชานอนลงกลอนประตูที่ถูกสร้างจากกลไกของเอลเทค ถ้าหากคนปิดและคนเปิดมีลักษณะของการโคจรเอลไม่เหมือนกันประตูจะไม่มีวันเปิดออกได้ จากระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนานี้ทำให้ไกไม่เป็นห่วงในความปลอดภัยแต่อย่างใด
                    ชานอนกล่าวขึ้นว่า เอาล่ะ ทีนี้เจ้าบอกข้าได้หรือยังว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
                    ไกกล่าวว่า ที่ข้าบอกต่อเจ้าเพราะว่าข้าเชื่อใจเจ้าจากความสัมพันธ์ตั้งแต่ยังเล็ก เรื่องนี้มีความสำคัญมากข้าไม่อนุญาตให้เจ้านำไปบอกต่อกับบุคคลที่สาม ถ้าแม้ว่าจะเป็นมอริสก็ตาม
                    ไกเห็นชานอนพยักหน้ากล่าวตกลงครั้งหนึ่ง เขาจึงถามว่า “เจ้ารู้จักหน่วยรบพิเศษอัศวินดำใช่ไหม ข้าถูกพวกมันลอบสังหารครั้งหนึ่งในเมืองเจนีสเหนือ”
                    ชานอนโพล่งออกมาว่า “มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ”
                    ไกกล่าวต่อไปว่า “นั่นเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองเวอร์น่อนบงการอยู่เบื้องหลัง การลอบสังหารข้าถือว่าเป็นหมากก้าวแรกเท่านั้น มันอาศัยลูกชายมันวานเตสผู้เป็นหัวหน้าหน่วยริบพิเศษอัศวินดำทำการยึดแผ่นดิน อัศวินดำพวกนี้ปฏิบัติการลึกลับไร้ร่องรอย หากมิได้ข่าวสารสำคัญข้าเองก็ยังคงมืดแปดด้านคลำหาทางออกไม่พบ โชคดีที่พวกบุรุษหนุ่มหญิงสาวสามสี่คนนั่นได้รับคำสั่งจากผู้นำการาดอสผู้เป็นพระอนุชาของกษัตริย์กาเรียพระองค์ก่อนมาเตือนภัย” จากนั้นไกก็เล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงเรื่องเมื่อคืนให้ชานอนฟัง ทั้งยังกล่าวถึงสมุดบันทึกที่บลูหยิบฉวยมาได้ว่าเป็นหลักฐานชั้นดี
                    ชานอนกล่าวด้วยเสียงที่ตื่นตระหนกว่า นี่เป็นไปได้อย่างไร
                    ไกตอบว่า มันเป็นไปได้และมันเป็นไปแล้ว ทีแรกข้าเองก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ข้าเชื่อสนิทใจ อัศวินดำกำลังจะยึดเมืองโอดินในไม่ช้า
                    ชานอนเดาออกแต่แรกแล้วว่าไกมีส่วนเกี่ยวข้องกับเสียงระเบิดเมื่อคืนก่อน นางไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นั้นจะเป็นอุกกาบาตพุ่งชนเนินเขา แต่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเรื่องจริงจะเลวร้ายถึงเพียงนี้ อัศวินดำตั้งค่ายทหารอยู่ติดกับกำแพงเมืองสามารถยกกองทัพเข้ามายึดครองเมื่อไรก็ได้ อีกทั้งผู้ว่าการเมืองก็มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับพวกอัศวินดำทำให้ตัวเมืองโอดินอยู่ในสภาพโดดเดี่ยวไม่มีกองกำลังรักษาเมือง จะมีก็เพียงแต่บรรดาศิษย์อาจารย์ในโรงเรียนเซนต์เอลลิสที่พอจะต่อสู้ได้ แต่ถ้าพวกเขาลุกฮือขึ้นต่อต้านก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย ถึงแม้ว่าทางโรงเรียนจะสามารถต้านทานการจู่โจมได้ในตอนแรก พอเวลาผ่านไปทหารหลายพันคนสามารถปิดล้อมพื้นที่โรงเรียนทำสงครามยืดเยื้อและบุกยึดได้ในที่สุด นี่ยังดีที่พวกไกกำจัดคิเมร่าไปแล้ว มิฉะนั้นถ้าหากมีคิเมร่าหนุนเสริมกองทัพของอัศวินดำอาจจะบุกยึดโรงเรียนได้ภายในเวลาคืนเดียว
                    ไกกล่าวถามต่อไปว่า “เจ้าพอจะคาดเดาออกไหมว่าการที่อัศวินดำปรากฏตัวละแวกเมืองเจนีสเหนือถึงสี่คนมีจุดประสงค์อย่างไร”
                    ชานอนนั่งเอนหลังพิงพนักใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งจากนั้นจึงกล่าวว่า “เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกมันมิได้มีเป้าหมายที่เจ้าเพียงอย่างเดียว”
                    ไกพยักหน้ากล่าวว่า “ทีแรกข้าคิดว่าพวกมันเล็งผลเลิศที่จะลอบสังหารข้า แต่เมื่อพวกลูทอยู่ๆก็พบอัศวินดำอีกสองคนทำให้ข้าเริ่มจะเอะใจขึ้นมา ว่าพวกมันสองคนนั้นต้องมีจุดประสงค์อื่นเคลือบแฝง”
                    ชานอนกล่าวว่า “หรือพวกมันเตรียมตัวจะกำจัดกลุ่มที่ฝักใฝ่ผู้นำการาดอส ผู้เป็นผู้ปกครองโดยชอบธรรมของเมืองเจนีสเหนือ”
                    ไกส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่หรอก กลุ่มของผู้นำการาดอสยังไม่ปีกกล้าขาแข็งเพียงพอที่จะก่อการใดๆโดยไม่มีกองกำลังสนับสนุนได้ หากจะจัดการกับกลุ่มประสานเจนีสจริงๆสมควรที่จะแทรกซึมลงไปในเมืองเจนีสใต้ เพื่อทำลายฐานที่มันของผู้นำการาดอสโดยการลอบสังหารแม่ทัพนายกองทีละนายสองนาย อัศวินดำเหล่านี้หากจะเคลื่อนไหวปฏิบัติการจริงๆไม่ว่าใครหน้าไหนก็คงดักทางไม่ถูก ขนาดตัวข้าเองยังไม่รู้ว่ากำลังถูกลอบสังหารจนเกือบถูกกระบี่แทงทะลุร่างถึงจะไหวตัวทัน”
                    ชานอนทวนคำว่า “เมืองเจนีสเหนือ” อยู่สักครู่หนึ่ง ความคิดก็ไหลวูบเข้ามาในสมองพลันกล่าวว่า “หรือว่าพวกมันเล็งผลที่ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×