ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #52 : เล่ม 2 - ตอนที่ 17 - การทดสอบของชานอน (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 986
      0
      22 ต.ค. 50

    ชานอนหยิบหีบมาใบหนึ่งเมื่อเปิดขึ้นมาก็พบลูกแก้ววางเรียงรายด้วยกันทั้งหมดเจ็ดลูกเจ็ดสี สีของลูกแก้วเป็นสีตามธาตุเอลทั้งเจ็ดนั่นคือเหลือง ฟ้า เขียว แดง ขาว ดำและม่วง สร้างความสงสัยให้กับลูทในเบื้องต้น ด้วยสติปัญญาของเขาก็คาดเดาว่าลูกแก้วเหล่านี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทดสอบเอลเป็นแน่
    ชานอนกล่าวว่า จากที่ข้าดูวิธีการใช้เอลขั้นต้นทั้งสามของเจ้า ท่าทางของเจ้ามิใช่ผู้ที่มิอาจฝึกเอลเช่นเดียวกับที่มอริสกล่าว เจ้ามีศักยภาพในการใช้เอลอยู่ในตัวแต่ทว่ายังมิได้นำออกมาใช้เท่านั้น ลูกแก้วเจ็ดสีนี้เป็นเครื่องมือทดสอบธาตุประจำตัวของผู้ใช้เอลแต่ละคน ผู้ที่มีธาตุตรงกับลูกแก้วสีใดก็จะสามารถทำให้ลูกแก้วสีนั้นเปล่งแสงออกมา เจ้ามีคำถามอะไรหรือไม่
    ลูทคาดเดาไม่ผิดกล่าวว่า ข้าเข้าใจแล้ว ว่าแต่ข้าจะทำให้ลูกแก้วนั้นเปล่งแสงได้อย่างไร
    ชานอนตอบว่า นั่นเป็นคำถามที่ดี เจ้าลองดูตัวอย่างนี่ พอพูดจบชานอนก็โยนลูกแก้วสีเหลืองไปให้มอริส
    มอริสรับลูกแก้วสีเหลืองเอาไว้จากนั้นก็รวบรวมเอลเอาไว้ที่ฝ่ามือ ลูกแก้วสีเหลืองบรรจงเปล่งแสงเรืองรองขึ้นทีละน้อยจนสว่างเป็นประกายสีเหลืองดั่งหลอดไฟดวงหนึ่ง พอแสดงตัวอย่างให้ลูทเห็นมอริสก็โยนลูกแก้วกลับคืนให้กับชานอน
    ลูทยังมีข้อสงสัยจึงถามต่อไปว่า แล้วถ้าเป็นเอลระดับสองจะเป็นอย่างไร ลูกแก้วพวกนี้มีเพียงเจ็ดสี หากจะนับรวมเอลที่สองอีกสี่ชนิดเข้าไปก็ต้องใช้ลูกแก้วถึงสิบเอ็ดลูก
    ชานอนตอบว่า ลูกแก้วเจ็ดสีนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการทดสองเอลระดับสอง ผู้ใช้เอลระดับสองจะสามารถทำให้ลูกสองสีเปล่งแสงได้ด้วยเอลชนิดเดียวกัน ดั่งเช่นไกที่สามารถใช้เอลน้ำแข็งซึ่งเกิดจากเอลที่สองและเอลที่สามผสมกัน พอเขารวบรวมเอลน้ำแข็งเอาไว้ที่ฝ่ามือทั้งลูกแก้วสีฟ้าและสีเขียวซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุน้ำและลมจะเปล่งแสงขึ้นมาพร้อมกัน
    ลูทพยักหน้าส่งเสียงอืมแต่ก็ยังถามต่อไปอีกว่า ถ้าสมมุติคนว่าหนึ่งสามารถประสานเอลได้สองประเภทจะมีผลอย่างไร ผลลัพธ์เหมือนกับเอลระดับสองหรือไม่ อย่างเช่นบลูสามารถใช้เอลได้ถึงสี่ธาตุแต่ไม่สามารถใช้เอลระดับสองได้ หากเขากุมลูกแก้วสีฟ้าและสีเขียว ก็สมควรที่จะทำให้ลูกแก้วทั้งสองเปล่งแสงได้เช่นกัน
    ชานอนโยนลูกแก้วทั้งสองให้บลู บลูรับลูกแก้วสีฟ้าและสีเขียวเอาไว้ด้วยมือคนละข้าง พอผ่านการรวบรวมเอลพักหนึ่งลูกแก้วทั้งสองลูกก็เปล่งแสงออกมา ชานอนจึงกล่าวตอบว่า เจ้าเห็นบลูแล้วใช่ไหม หากเป็นไกผลลัพธ์จะต่างกันอยู่เล็กน้อย ตรงที่ไกสามารถใช้มือเดียวถือลูกแก้วสองลูกทั้งสีฟ้าและสีเขียวรวบรวมเอลเพียงครั้งเดียวทำให้ทั้งสองเปล่งแสงพร้อมๆกันได้ แต่ถ้าเป็นบลูจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะบลูไม่สามารถรวบรวมเอลที่สองและเอลที่สามไว้ที่มือข้างเดียวกันได้
    ลูทร้องอ๋อพยักหน้าสองสามครั้งกล่าวตอบว่า ข้าเข้าใจแล้ว
    ชานอนเห็นลูทที่ตั้งคำถามจนกระจ่างก็รู้สึกดี นางถามลูทว่า ยังมีอะไรที่เจ้าสงสัยอีกไหม จนถึงตรงนี้ลูทก็ส่ายหน้าตอบว่าไม่มี
    ชานอนจึงหยิบลูกแก้วสีเหลืองขึ้นมาจากหีบอีกครั้ง กล่าวว่า ที่นี้ตาเจ้าบ้างแล้ว ข้าจะทดสอบเจ้ากับลูกแก้วทั้งเจ็ด เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆขึ้นข้าจะทำการทดสอบทีละลูกไล่ไปตั้งแต่เอลที่หนึ่งถึงเอลที่เจ็ด เอาล่ะ เจ้าจงรวบรวมเอลของเจ้าเอาไว้ในมือข้างที่ถนัด"
    พอชานอนกล่าวจบ มือซ้ายของลูทก็เปล่งแสงที่ไร้สีขึ้นมาแสดงให้เห็นว่าเอลในร่างกายถูกรวบรวมมาไว้แล้ว ชานอนส่งลูกแก้วธาตุพื้นฐานทั้งสี่ให้ลูททีละลูกโดยเริ่มจากลูกแก้วสีเหลืองที่เป็นสัญลักษณ์ของเอลที่หนึ่งก่อน ลูทใช้เวลาในการกำลูกแก้วแต่ละลูกประมาณหนึ่งนาทีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่สามารถเปล่งแสงออกมาได้จริง ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่ทุกคนคาดเอาไว้ ลูทไม่สามารถใช้เอลธาตุพื้นฐานทั้งสี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ ลมหรือไฟ
    ถ้าจะวัดกันตามสถิติแล้วจากจำนวนประชากรหนึ่งพันคนจะมีเพียงครึ่งหนึ่งที่มีคุณสมบัติในการใช้เอลได้ ภายในจำนวนห้าร้อยคนนั้นมีอยู่สี่ร้อยคนที่สามารถประสานเอลภายในเข้ากับเอลธาตุหลักทั้งสี่เฉลี่ยเท่าๆกันธาตุละประมาณหนึ่งร้อยคน ส่วนอีกร้อยคนที่เหลือจะมีอยู่เก้าสิบห้าคนที่สามารถประสานเข้ากับเอลแสงสว่างหรือความมืดได้ สุดท้ายอีกห้าคนที่เหลือจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติพิเศษต่างๆเช่น ประสานเอลระดับสองได้หรือประสานเอลแห่งมิติได้
    ชานอนหยิบลูกแก้วสีขาวและสีดำออกมาส่งให้ลูท เขารับลูกแก้วสีขาวมาทดสอบก่อน ผลลัพธ์เป็นดั่งคาดเขาไม่สามารถทำให้ลูกแก้วสีขาวเปล่งแสงออกได้อีกตามเคย แสดงให้เห็นว่าลูทไม่สามารถใช้เอลแสงสว่างได้จริงดั่งเช่นครั้งที่โรซาไลน์สอนเขา
    พอถึงลูกแก้วสีดำลูทก็เกิดอาการตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขามิได้เล็งผลเลิศกับการทำให้ลูกแก้วห้าลูกแรกเปล่งแสงอยู่แล้ว ถ้าหากเขาไม่สามารถเปล่งแสงจากลูกแก้วสีดำได้เขาจะทำอย่างไรดี เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาจากหน้าผากด้วยความตื่นเต้นยิ่งกว่าการต่อสู้กับครูมอริสเสียอีก
    ลูทใช้มือซ้ายกุมลูกแก้วสีดำเอาไว้หลับตาภาวนาขอให้มันเปล่งแสงขึ้นด้วยเถิด
     
    ไกเดินทางออกไปสำรวจสถานที่ต่างๆในตัวเมือง เขารู้ว่าคอร์เนเลียจะต้องส่งผู้คนออกตามหาพวกเขาแทบพลิกแผ่นดิน
                    ด้วยฝีมือของไกแล้วสายตาของทหารธรรมดาไม่มีโอกาสที่จะสังเกตเห็นร่องรอยของเขาแม้แต่น้อย เมื่อยามเขาเคลื่อนที่ทหารทั่วไปจะมองเห็นเป็นเพียงเงาดำๆวูบหนึ่งเท่านั้น
                    ไกเร้นกายไปแถบประตูเมืองทางทิศเหนือ เขาซ่อนร่างอยู่บนระเบียงชั้นสองของบ้านหลังหนึ่งทอดสายตามองออกไปสำรวจสภาพรอบด้าน การซ่อนตัวอยู่บนสถานที่สูงช่วยให้มององค์ประกอบโดยรวมได้ครบถ้วนมากกว่าการเดินสำรวจเบื้องล่าง อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเป็นการหลีกเลี่ยงหูตาของฝ่ายตรงข้ามไปในตัว ไกพบเห็นทหารที่คอร์เนเลียส่งมาส่วนใหญ่ประจำการอยู่ด้านนอกเมืองแสดงว่าร่องรอยของพวกเขายังไม่เปิดเผย หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็คือการตรวจสอบในเมืองไม่สามารถกระทำได้สะดวก ไม่ว่าเป็นเหตุผลใดการตามไกถือว่าในตอนนี้พวกเขาทั้งห้าล้วนปลอดภัยชั่วคราว
                    ในขณะที่เขากำลังจะล่าถอยกลับไปยังบ้านพักเพื่อเตรียมการเรื่องรถม้าที่จะใช้เดินทางในคืนนี้ เขาก็เห็นเงาคนถลันวูบหนึ่งออกจากประตูเมืองทางทิศเหนือ มุ่งหน้าไปยังค่ายทหารที่คาดว่าเป็นศูนย์บัญชาการหน่วยรบพิเศษอัศวินดำอันเป็นที่พักชั่วคราวของคอร์เนเลีย
                    ไกไม่มีทางลืมท่าร่างนั้น ขอเพียงเขาได้เห็นท่าร่างของบุคคลใดครั้งหนึ่งและตั้งใจจดจำมันเอาไว้ ท่าร่างนั้นจะประทับอยู่ในความทรงจำของมือปราบชั้นหนึ่งอย่าไม่มีวันลืมเลือน ท่าร่างเช่นนี้เขาเคยเห็นมาก่อนครั้งหนึ่ง สถานที่นั้นคือเมืองเจนีสเหนือ คนชุดดำผู้นี้ต้องเป็นบุคคลเดียวกับผู้ที่มาลอบสังหารเขาคราวก่อนไม่ผิด
    ในตอนแรกไกคาดว่าจะสะกดรอยตามไปแต่พอนึกดูอีกครั้งชั่งน้ำหนักได้เสียกับเรื่องนี้ก็เปลี่ยนใจ เมื่อเขาเห็นคนผู้นี้แสดงว่าเหล่ามือดีของหน่วยอัศวินดำจะต้องอยู่ในละแวกพื้นที่ข้างเคียง เขามีความมั่นใจในการหลบจากสายตาทหารธรรมดาแต่ถ้าเป็นสายตาของอัศวินดำแล้วล่ะก็เขาไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อย หากเขาถูกจับพิรุธได้ขึ้นมาแผนการที่วางเอาไว้จะพังพินาศลง อาจจะร้ายแรงถึงกับเป็นเหตุสร้างความเดือดร้อนแก่โรงเรียนเซนต์เอลลิสเสียด้วย ไกผู้ที่ตั้งมั่นในเรื่องคุณธรรมและความถูกต้องไม่ยอมให้ภัยจากตัวเขาลุกลามไปถึงผู้อื่นเป็นอันขาด เขาจึงยกเลิกความคิดที่จะสะกดรอยตามไป
    ไกเห็นว่าอยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์จึงผละออกจากระเบียงชั้นสอง มุ่งหน้าไปจัดการเรื่องรถม้าให้เสร็จสิ้น เขาคิดว่าโอกาสที่จะหลบหนีให้พ้นเงื้อมมือของอัศวินดำที่ดีที่สุดเป็นช่วงเวลาที่งานแสดงของยอดหญิงยูกิกำลังจะเริ่มพอดี ดังนั้นรถม้าของเขาจะต้องประดับให้สวยงามเหมือนกับรถม้าของแขกตระกูลสูงจากต่างเมืองที่เข้ามารับชมการแสดงในค่ำคืนนี้
    ทันใดที่งานแสดงพร้อมที่จะเปิดฉาก พวกเขาจะฉวยโอกาสชุลมุนควบขับรถม้าหนีไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×