ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #30 : ทางลับอันแยบยล (2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 922
      1
      16 ก.ค. 50

    อุโมงค์แห่งนี้ทั้งกว้างและใหญ่เพียงพอที่จะให้ทหารม้าเดินทัพเข้าออกได้อย่างสบาย

    ลูทใจหายวาบเมื่อเห็นอุโมงค์ใหญ่โตเพียงนี้ เขาคิดว่าถ้าที่แห่งนี้เป็นทางลับเชื่อมต่อกับกองกำลังด้านนอกเมืองจะเป็นอย่างไร กองทหารม้านับพันสามารถบุกเข้ามาในเมืองได้โดยฉับพลัน แต่พอเขาทบทวนคิดดูอีกคราก็ล้มเลิกความคิดนี้ไปเสีย เวอร์น่อนไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างทางลับเพื่อนำกองทัพเข้ามาในตัวเมือง สำหรับหน่วยอัศวินดำ การเปิดประตูเมืองแล้วนำทัพเมืองโอดินง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากว่าผู้ว่าเมืองโอดินเป็นพรรคพวกเดียวกับอัศวินดำ

    หลังจากที่พวกเขาเดินเข้าไปได้พักใหญ่ก็ยังไม่พบเห็นอันใด นอกเสียจากผนังอุโมงค์กับทางลาดยาวที่ไม่รู้จักจบสิ้น

    ใครเป็นผู้สร้างอุโมงค์เช่นนี้ แล้วอุโมงค์เช่นนี้สร้างมาไว้เพื่ออะไร

    บลูขบคิดให้ตายก็คิดไม่ออก เขากล่าวขึ้นมาทำลายความเงียบว่า นี่พวกเราก็เดินมาอย่างน้อยหนึ่งกิโลเมตรแล้ว ยังไม่พบเห็นอะไรเลย

    ลูทกล่าวว่า ข้าคิดว่าที่นี่มันไม่ใช่ที่เก็บอาวุธแล้วกระมัง น่าจะเป็นทางเดินหรือทางลับเชื่อมต่อกับอะไรสักแห่งเสียมากกว่า อุโมงค์ขนาดใหญ่โตเช่นนี้เพียงพอที่จะใช้แทนถนนหนทางเส้นหลักในเมืองโอดินเสียอีก

    ในเมื่อยังสำรวจไม่เสร็จสิ้นไกก็ยังไม่เชื่อคำวินิจฉัยใดๆ เขากล่าวว่า ที่โรสได้ยินมาก็ต้องมีความจริงอยู่บ้าง พวกเราเดินกันไปให้สุดก่อนค่อยว่ากล่าว

    โรสพลันรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ความรู้สึกที่แปลกประหลาดแผ่ซ่านเข้ามาในใจ เธอกล่าวว่า ถ้าคำนวณจากปากอุโมงค์จนถึงจุดที่พวกเรายืนอยู่นี้ แสดงว่าพวกเราเดินมาถึงเขตนอกเมืองโอดินแล้ว ตึกผู้ว่าการเมืองโอดินติดกับเนินเขานอกเมืองพอดี ข้าจำได้ว่าทิศนี้จะนำพาพวกเราไปสู่เนินเขาเตี้ยๆ

    บลูถามโรสว่า ถ้าเช่นนั้น เจ้าว่าปากทางออกจะอยู่ห่างจากจุดนี้สักเท่าใด

    โรสขบคิดสักพักจึงตอบว่า ถ้าให้ข้าเดาจากตัวอุโมงค์ก็คงตอบไม่ได้ แต่ข้ารู้สึกถึงความชื้นที่เริ่มจะสูงขึ้น แสดงว่าบริเวณปากทางออกจะต้องมีแหล่งน้ำ ดังนั้นปากทางออกคงจะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ถ้าจะให้กะประมาณก็คงจะราวห้าร้อยเมตร

    ลูทอุทานขึ้นมาคำหนึ่งแล้วกล่าวว่า อุโมงค์ยาวกิโลเมตรครึ่งเชียวหรือ ... ถ้าหากจะสร้างอุโมงค์เช่นนี้คงจะใช้เวลานานน่าดู

    โรสกล่าวตอบด้วยความฉะฉานว่า พิจารณาจากการสร้างแล้ว พบว่าที่นี่เป็นอุโมงค์ที่สร้างด้วยอิฐ มีการจัดสร้างอย่างปราณีตแสดงว่ามิได้สร้างมาด้วยเหตุเร่งรัดจำเป็น ถ้าใช้คนประมาณห้าสิบคนโดยมีเครื่องมือพร้อมสรรพสมควรจะใช้เวลาสร้างไม่เกินครึ่งปี แต่ถ้าหากมีผู้ใช้เอลเทคควบคุมกำกับงานอยู่ด้วยสามารถย่นระยะเวลาได้เหลือเพียงสามเดือน

    บลูได้ยินเช่นนั้นจึงถามโรสว่า เจ้าพอจะดูออกไหมว่าสร้างมานานเท่าไรแล้ว

    โรสเดินไปถึงผนังอุโมงค์ เธอใช้แสงจากเอลส่องไปยังก้อนอิฐเหล่านั้นใช้ความรู้ในศาสตร์การก่อสร้างที่สั่งสมมาจากลุงกอร์ดอนผู้เป็นอาจารย์ทางอ้อมของเธอ โรสดูร่องรอยคำนวณอายุอยู่พักหนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า สมควรมีอายุอย่างน้อยสามปี

    บลูพยักหน้ากล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นก็สมควรเป็นพวกเวอร์น่อนหรือหน่วยอัศวินดำจัดสร้างขึ้น ข้าจำได้ว่าในสมุดบันทึกตอนหนึ่งระบุถึงค่าก่อสร้างเส้นทาง อุโมงค์แห่งนี้อาจจะเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายพวกนั้นก็ได้

    ไกถึงกับทึ่งในความรอบรู้ของโรสที่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์รอบด้านได้ดั่งเป็นคนก่อสร้างอุโมงค์แห่งนี้ด้วยตัวเอง

    หญิงสาวนางนี้มิใช่หญิงสาวธรรมดานางหนึ่งจริงๆ

    เวลาผ่านไปไม่นานทั้งสี่ก็เดินมาถึงทางออก ระยะทางจากจุดที่สนทนามาถึงทางออกเป็นระยะทางประมาณหกร้อยเมตรคลาดเคลื่อนกับที่โรสประมาณไปเพียงหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น ปากทางออกด้านนี้กลับเปิดโล่งไม่มีประตูกั้นไว้เหมือนอย่างในโกดัง บริเวณด้านนอกเป็นพื้นที่บนเนินเตี้ยข้างตัวเมืองเมื่อหันหลังมองกลับไปจะเจอเมืองโอดินอย่างที่โรสกล่าวไว้จริงๆ

    ด้านข้างปากทางออกมีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งเป็นต้นเหตุของความชื้นที่พวกเขารู้สึกได้ ความชื้นเหล่านี้แผ่เข้าไปยังภายในตัวอุโมงค์ทำให้มีตะไคร่สีเขียวจับอยู่บ้าง

    พื้นที่รอบข้างล้วนเป็นป่าโปร่ง ต้นไม้ใหญ่น้อยตั้งเรียงรายสลับกันไปมา พวกลูททั้งสี่ไม่พบเห็นร่องรอยของการสะสมอาวุธใดๆทั้งสิ้น พวกเขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมอุโมงค์แห่งนี้จะต้องมียามคุ้มกันภัยด้วยเพราะว่าฝั่งนี้ก็ไม่มียามคุ้มกันภัยแม้แต่คนเดียว

                    ลูทคิดว่าหรือยามที่เฝ้าอุโมงค์แห่งนี้จะมีไว้เพื่อป้องกันคนนอกเข้ามารุกราน แต่พอคิดอีกทีก็ไม่น่าจะใช่ กุญแจสองดอกนั้นมีเอาไว้เพื่อล็อคประตูมิให้คนในเปิดออกชัดๆ ถ้าหากจะป้องกันคนนอกเข้ามารุกรานสมควรใช้คานเหล็กใหญ่โตพาดกั้นประตู มิฉะนั้นต่อให้ล็อคเสียดิบดีก็อาจถูกท่อนซุงกระแทกจนพังทลายได้

    มีเพียงบลูและไกที่พอจะนึกอะไรออก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบลูอาศัยอยู่ที่นี่ในสมัยเรียนมากว่าแปดปี ส่วนไกเองก็เป็นมือปราบที่ปฏิบัติงานส่วนใหญ่ในพื้นที่แถบนี้

    บลูกล่าวขึ้นมาว่า ที่แห่งนี้เป็นเขตป่าสงวนที่ประกาศโดยผู้ว่าการเมืองโอดินตั้งแต่สิบปีก่อน ข้าจำได้ว่าเมื่อข้าพึ่งจะเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์เอลลิสกฎนี้ก็พึ่งประกาศใช้พอดี รายละเอียดมีว่าไม่อนุญาตให้คนทั่วไปเข้ามายุ่มย่าม ตีนเขาโดยรอบล้วนมีลวดหนามและทหารยามคุ้มกันอยู่ตลอด ดังนั้นอุโมงค์แห่งนี้จึงไม่จำเป็นต้องจัดเวรยามคุ้มกันภัยซ้ำซ้อนแต่อย่างใด

    ลูทไตร่ตรองคำพูดของบลูแล้วจึงกล่าวว่า ถ้าเช่นนั้นอุโมงค์สายนี้คงจะมีไว้เพื่อเป็นเส้นทางหลบหนีออกนอกเมืองในยามคับขัน ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่เหตุผลหลัก แต่จากการที่ออกแบบอุโมงค์เช่นนี้ก็แสดงว่ามีเจตนาเช่นนี้จริง

    โรสกล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างที่เจ้ากล่าว อาวุธยุทโธปกรณ์อาจจะถูกเก็บซ่อนอยู่แถบนี้ก็เป็นได้ เมื่อทหารหลบหนีมาก็สามารถใช้อาวุธพวกนี้เป็นทุนรอนต่อสู้กับศัตรู

    ไกเห็นว่าคาดเดาต่อไปก็คงไม่เกิดประโยชน์ เขากล่าวว่า พวกเราลองแยกกันค้นหาแถบนี้ดูเผื่อจะพบร่องรอยอะไรบ้าง จากจุดนี้ให้พวกเราแยกกันออกไปทั้งสี่ทิศ ค้นหาในแนวรัศมีอย่างน้อยห้าร้อยเมตร

    บลู ลูทและโรสรับคำคราหนึ่งหลังจากนั้นแยกย้ายกันออกไปค้นหาร่องรอยของอาวุธที่อัศวินดำซุกซ่อนเอาไว้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×