ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #277 : เล่ม 9 - ตอนที่ 125 - อุดมการณ์มหาบุรุษ (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.59K
      11
      3 มี.ค. 52

    /> /> />

    สายตาของผู้คนภายในห้องจับจ้องมาที่ลูทเป็นตาเดียวกัน

                    บุคคลที่โวยวายขึ้นเป็นอันดับแรกคงจะเป็นใครเสียมิได้อีกนอกจากโทมัส ที่หัวเราะขึ้นกลางที่ประชุมแล้วกล่าวว่า “จะให้เด็กเมื่อวานซืนจะมาเป็นผู้ปกครองนอร์ได้อย่างไร!?

                    “อย่าเสียมารยาทโทมัส” คอร์เนเลียตำหนิลูกน้องใต้บังคับบัญชาแล้วจึงกล่าวกับพวกไอเวอเรียสว่า “ต้องขออภัยที่เมื่อครู่โทมัสเสียกิริยาแต่ทว่าข้ากลับเห็นด้วยกับโทมัสหลายประการด้วยกัน ถึงแม้ลูทจะจัดว่าเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆของยุคแต่ก็มิได้หมายความว่าเขาจะมีคุณวุฒิเพียงพอสำหรับการเป็นผู้ปกครองรัฐหนึ่งๆ หากกล่าวกันตามตรงแล้วประสบการณ์ในด้านการเมืองการปกครองของเขาเรียกได้ว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ อีกทั้งความเป็นชาวนอร์ที่มีเพียงครึ่งหนึ่งและวัยวุฒิที่ไม่เหมาะสมจะเป็นบ่อเกิดของปัญหาในอนาคต ข้ายอมรับว่าในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาชื่อเสียงของลูทจะขจรกระจายไปทั่วแผ่นดิน แต่วีรกรรมทั้งหมดกลับเป็นสิ่งที่สร้างไว้ในต่างแดน ทั้งยังสร้างในฐานะของผู้ยับยั้งจักรวรรดินอร์ แล้วอย่างนี้ท่านจะให้ลูทมาเป็นผู้ปกครองนอร์ได้อย่างไร? ข้าคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยและรับรองว่าจะมีคนอีกนับแสนที่คิดเห็นเช่นเดียวกับข้า”

                    มหาอุปราชได้ยินคอร์เนเลียกล่าวจึงไม่เอ่ยปากต่อไป เนื่องจากสิ่งที่ตนเองคิดจะถามล้วนถูกวาจาของคอร์เนเลียครอบคลุมหมดสิ้น

                    ลูทได้ยินดังนั้นจึงรีบออกตัวกล่าววาจา แต่กลับถูกไอเวอเรียสตัดหน้าชิงกล่าวขึ้นก่อนว่า “จริงอยู่ที่ลูทเป็นบุคคลที่ขาดประสบการณ์ทางด้านการเมืองการปกครอง แต่ข้ากลับมีเหตุผลสนับสนุนให้เขากุมอำนาจปกครองถึงสามข้อหลักด้วยกัน ข้อแรกนั้นสามารถแย้งข้อสังเกตของท่านคอร์เนเลียเมื่อครู่ได้เป็นอย่างดีในเรื่องวีรกรรมที่ลูทได้เคยสร้างไว้ จริงอยู่ว่าเขาสร้างชื่อเสียงในต่างแดน แต่ท่านต้องอย่าลืมว่าอาณาจักรนอร์ที่กำลังจะรวมกันเป็นปึกแผ่นนั้นมิได้ประกอบด้วยจักรวรรดินอร์เพียงฝ่ายเดียว ยังคงมีสหพันธรัฐแห่งนอร์ที่ปัจจุบันอยู่ใต้การปกครองของคาร์ลอีกแห่งหนึ่ง แม้ว่าผลงานของลูทที่เคยสร้างจะเป็นการต่อต้านจักรวรรดินอร์ก็จริงอยู่ แต่หากมองอีกมุมหนึ่งกลับมีน้ำหนักโน้มน้าวใจของชาวนอร์ที่เหลือไม่น้อย ทั้งพื้นที่เมืองโอดิน โลซานหรือเอเวอร์เกรซใช่หรือไม่?

                    คอร์เนเลียถูกคำถามบีบบังคับให้พยักหน้าตอบว่าใช่คราหนึ่ง ในขณะที่โทมัสถูกผู้บังคับบัญชาห้ามปรามไปทีหนึ่งแล้วจึงมิกล้าใช้อารมณ์กล่าววาจา

                    ไอเวอเรียสจึงกล่าวต่อไปว่า “แต่เหตุผลข้อแรกยังเป็นเพียงเหตุผลที่มีน้ำหนักไม่มากในการสนับสนุนบุรุษหนุ่มผู้นี้ เหตุผลข้อสองที่เกี่ยวข้องกับตำนานศาสตราคู่กู้แผ่นดินมีน้ำหนักมากกว่าอยู่อักโข หากไม่เชื่อในเหตุผลข้อนี้จะให้ท่านเสนาธิการสูงสุดอธิบายแทนข้าก็ย่อมได้”

                    ไอเวอเรียสจงใจโยนการอธิบายให้กับฝ่ายตรงข้าม เพื่อเป็นการขอยืมบุคคลที่มีอำนาจโน้มน้าวใจอย่างทานาทอสกล่าววาจา หากเสนาธิการสูงสุดเห็นชอบในเหตุผลสนับสนุนแล้วมีหรือที่ผู้อื่นจะกล้าโต้แย้ง?

                    ไม่เสียทีที่ทานาทอสเป็นผู้เปี่ยมด้วยปัญญาล้ำเลิศ จึงสามารถอธิบายทุกอย่างที่ไอเวอเรียสคิดได้ว่า “ไม่ว่าในอาณาจักรใดไม่ยึดติดว่าจะเป็นจักรวรรดินอร์ เจนีสหรือลาเวนดิส ประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งก็คือชาวบ้านทั่วไปต่างไม่ค่อยจะรู้เรื่องของสงครามหรือการเมืองการปกครองเท่าใดนัก พวกเขาทราบเพียงหากมีสงครามจะนำมาซึ่งความเดือดร้อน ดังนั้นหากจะอธิบายเรื่องการเมืองลึกๆว่าผู้ใดผิดผู้ใดถูกคงจะมีคนสนใจอยู่เพียงหยิบมือหนึ่ง เนื่องจากพวกเขาขาดความรู้ที่จะเข้าใจในเรื่องลึกซึ้งเหล่านี้ แต่ถ้าพวกเราเปลี่ยนคำอธิบายไปเสีย ใช้หลักเหตุผลที่อ้างอิงตำนานโบราณมาขยายความ โดยยกข้อความ หากผู้ใดครองสองศาสตราผู้นั้นจะมีอำนาจครองแผ่นดินมาใช้ประโยชน์ ผลักดันลูทให้กลายเป็นวีรบุรุษในตำนานก็จะกลายเป็นข่าวใหญ่โต ชาวบ้านส่วนใหญ่ขอเพียงแค่ได้รับรู้ว่าจะมีบุคคลในตำนานมายุติสงครามก็จะช่วยกันกระพือข่าวออกไปโดยที่พวกเรามิต้องทำอะไรมากมาย ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงชาวนอร์เท่านั้น ข่าวเรื่องนี้สามารถใช้จูงใจผู้คนได้ทั้งแผ่นดิน เนื่องจากลูทบุคคลแรกที่ได้ครอบครองศาสตราคู่กู้แผ่นดินทั้งสองเล่มในเวลาเดียวกันนับจากท่านบุรพกษัตริย์ ความชอบธรรมล่องหนก็จะเกิดขึ้น นำมาซึ่งการสนับสนุนจากผู้คนทั่วหล้าโดยที่พวกเรามิต้องลงทุนลงแรงมากมายใดๆ หากวาจาเมื่อครู่กล่าวผิดไปหรือไม่ครอบคลุมในที่ใดขอท่านเสนาธิการโปรดช่วยชี้แนะ”

                    วานเตสรับฟังดังนั้นถึงกลับต้องประเมินค่าของไอเวอเรียสใหม่อีกครั้ง บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นกุนซือที่มีสติปัญญาคู่คี่ก้ำกึ่งกับทานาทอสแท้จริงนั้นมิได้ด้อยไปกว่ากันเลย

                    ไอเวอเรียสพยักหน้ารับคำครั้งหนึ่ง กล่าวว่า “ถูกต้องแล้วท่านเสนาธิการสูงสุด”

                    ทานาทอสพลันแย้งกลับว่า “ทว่าข้ากลับมีข้อกังขาอีกเรื่องหนึ่งอยากให้ท่านไอเวอเรียสชี้แจง เหตุผลที่ทั้งสองข้อที่ท่านกล่าวมานั้นได้ตอบคำถามที่ข้าเคยถามไว้ส่วนหนึ่ง แต่กลับมิอาจให้คำตอบเรื่องการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้เลย ต่อให้ลูทเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าครอบครองสองศาสตรา ความขัดแย้งที่คาราคาซังอยู่ทุกวันนี้ก็มิได้ลดน้อยลงสักนิด ไม่มีเหตุผลใดที่จะบ่งชี้ให้จักรวรรดินอร์รับคนนอกเข้ามาปกครอง ลูทยังคงเป็นคนนอกที่มิอาจเข้ามาก้าวก่าย ในเมื่อคนในอย่างท่านมหาอุปราชหรือแม้กระทั่งโรฮันที่กระทำการปิตุฆาตยังคงอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นการที่จะให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาปกครองจะก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มเติมเรื่องสำคัญ นั่นก็คือเรื่องการสนับสนุนของสมาชิกสภาทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนจากตระกูลชไวน์”

                    วานเตสกล่าววาจาเสริมขึ้นว่า “หากแม้นข้าตกลงเห็นชอบในข้อเสนอของเจ้า แต่กลับไม่มีทางเลยที่บุคคลอย่างทาลอสจะยินยอมให้คนนอกเข้ามาอยู่เหนือตนเอง เจ้าเคยประมือกับเขาแล้วคงจะทราบได้เป็นอย่างดี”

                    ลูทนึกถึงทาลอสแล้วยังคงเจ็บแค้นไม่หาย หากไม่เป็นเพราะทาลอสแจ็คก็คงจะไม่ตาย นึกถึงตอนนี้จึงลอบกำหมัดแน่น ไกที่นั่งอยู่เคียงข้างเห็นท่าทีผิดปกติของลูทพลางกลัวว่าจะเสียการใหญ่จึงลอบส่งสายตาให้ครั้งหนึ่ง เมื่อลูทเห็นดังนั้นจึงรู้สึกตัว นึกขึ้นได้ว่าความแค้นของการสังหารคนรักที่ไกได้รับนั้นหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าความแค้นของตนมากนัก ในเมื่อไกยินยอมเสียสละเลิกคิดที่จะแก้แค้นเหตุใดเขาจึงไม่ยินยอมละทิ้งความแค้นเหล่านั้นเสีย เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงคลายนิ้วออกจากฝ่ามือที่กำแน่น สงบจิตสงบใจฟังการสนทนาต่อไป

                    ไอเวอเรียสส่ายศีรษะครั้งหนึ่ง ตอบสั้นๆว่า “ลูทใช่คนนอก”

                    “มิใช่คนนอก?” คอร์เนเลียถาม

                    ไกผงกศีรษะแทนคำตอบ กล่าวว่า “บุคคลผู้นี้มิเพียงมีเชื้อสายของนอร์ไหลเวียนอยู่ในร่าง โลหิตส่วนหนึ่งในกายยังเป็นของตระกูลซอร์โดอีกด้วย”

                    !?!

                    คอร์เนเลียย้ำถามว่า “ตระกูลซอร์โด?

                    “เรื่องนี้เป็นมาอย่างไรขอให้เจ้าอธิบายให้แจ่มชัด หากวาจาเมื่อครู่เป็นเรื่องโป้ปดมดเท็จแม้สักส่วนเสี้ยว ข้าจะขอกลับคำออกคำสั่งสังหารพวกเจ้าทั้งสาม ไม่ว่าผู้ใดหากนำเรื่องของตระกูลซอร์โดมากล่าวล้อเล่นจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต” วานเตสกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อำมหิต แววตาทั้งสองเปล่งประกายโทสะคุกรุ่น บรรยากาศในที่ประชุมที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรกลับกลายเป็นบรรยากาศกลางสมรภูมิอีกครั้ง

                    “หากข้าจะกล่าวโป้ปดหรือจงใจดูหมิ่นท่านก็สมควรกระทำที่ฐานที่มั่นของสหพันธ์อย่างสบายๆไม่ดีกว่าหรือ? จะดั้นด้นลำบากมาขอพบท่านถึงที่นี่เพราะเหตุใด?” ไอเวอเรียสกล่าวต่อไปว่า “เรื่องนี้ให้เจ้าตัวเป็นผู้อธิบายกับท่านน่าจะมีความเชื่อถือมากกว่า”

                    ลูทได้ยินเช่นนั้นจึงหันไปสบตาไอเวอเรียสครั้งหนึ่ง เห็นว่าเขาพยักหน้าให้บ่งบอกความจริงจึงกล่าวว่า “โลหิตในกายของข้านั้นครึ่งหนึ่งสืบทอดมาจากเชื้อสายนอร์อีกครึ่งหนึ่งเป็นของชาวมิสต์ ข้ายอมรับตามตรงว่าเชื้อสายนอร์ที่ไหลเวียนอยู่ในกายนั้นมาจากมารดาผู้เป็นหนึ่งในคนของตระกูลซอร์โดจริงไม่ผิดเพี้ยน”

                    “มารดาของเจ้าคือผู้ใด?” วานเตสถูกวาจาเมื่อครู่สะกิดความสงสัยขึ้น

                    “จูเลีย ซอร์โด บุตรีเพียงผู้เดียวของแวนการ์ด ซอร์โด” ลูทตอบอย่างหนักแน่น ต่อให้ตระกูลซอร์โดจะมีชื่อเสียงที่ไม่ใคร่จะดีนักเขาก็กล้าที่จะยอมรับความจริง บุญคุณของมารดาที่ให้กำเนิดส่งผ่านสายเลือดมาจากครรภ์นั้นเป็นสิ่งที่มิอาจลืมเลือน

                    “แวนการ์ด ซอร์โด?” วานเตสแสดงท่าทีประหลาดใจ เพลิงโทสะเมื่อครู่มอดดับลงไปอย่างสิ้นเชิง พร้อมกล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้! แวนการ์ด ซอร์โดผู้เป็นพี่ชายของพ่อข้าตายไปหลายสิบปีแล้ว”

                    ไกกลับส่ายศีรษะตอบว่า “เรื่องนี้มิใช่อย่างที่เจ้าคิด ท่านแวนการ์ดละทิ้งความเป็นตระกูลซอร์โดไปเกือบหกสิบปี ปกปิดฐานะไม่เปิดเผยตัวตนและไม่เคยย่างเท้ากลับไปที่ตระกูลซอร์โดอีก ด้วยเหตุผลที่ว่าท่านไม่ต้องการตกเป็นทาสของเทพสงครามดั่งเช่นบุคคลตระกูลซอร์โดคนอื่นๆ”

                    “เจ้าทราบได้อย่างไร?

                    “ข้าทราบดี” ไกตอบความจริงว่า “ในเมื่อแวนการ์ด ซอร์โดใช้อีกชื่อหนึ่งว่าจอมแพทย์วี เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธ์ในการต่อต้านจักรวรรดินอร์ ทั้งยังต่อสู้กับบิดาของเจ้าจนกระทั่งถูกบิดาของเจ้าสังหารในศึกนครมิสต์ที่ผ่านมา เรื่องนี้โรฮัน ลูทและแมกซิมิเลี่ยนต่างเห็นกับสองตา เจ้าสามารถยืนยันความจริงในวาจาของพวกข้าได้ทุกเมื่อ”

                    ไอเวอเรียสลอบส่งสายตามิให้ไกบอกความจริงทั้งหมด หากเรื่องการตายของโทเบียผู้เป็นพี่น้องของโทมัสถูกเปิดเผย อาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่พึงพอใจได้

                    “ใช่” ลูทเสริมคำพูดของไก กล่าวว่า “ข้าเป็นหลานของท่านตาแวนการ์ด แต่เมื่อท่านแม่แต่งเข้าตระกูลออร์นิเทียของท่านพ่อ ข้าจึงใช้ชื่อสกุลว่าออร์นิเทียแทนที่จะใช้ชื่อสกุลซอร์โด”

                    ไอเวอเรียสส่งเสียงอืม กล่าวว่า “ในเมื่อความจริงทั้งหมดเปิดเผย เรื่องราวและปัญหาส่วนใหญ่ก็มีหนทางแก้ไข เหตุผลข้อที่สามที่ข้าสนับสนุนลูทเป็นเพราะว่าเขาเป็นหนึ่งในตระกูลซอร์โด ตามกฎมณเฑียรบาลที่ได้ตราเอาไว้บุคคลที่มีเชื้อสายโดยตรงสามารถเข้ารับตำแหน่งจักรพรรดิคนใหม่ได้ทันที หากภายในเจ็ดวันหลังจักรพรรดิคนเก่าเสียชีวิตลง ปัญหาเรื่องการสนับสนุนหรือความขัดแย้งของทหารนอร์จะถูกลบล้างไปกว่าครึ่งด้วยความที่เป็นสายเลือดของตระกูลซอร์โด ยิ่งเมื่อพวกท่านทั้งหมด มหาอุปราชและเสนาธิการสูงสุดตลอดจนอัศวินดำที่หลงเหลืออยู่ยอมรับว่าลูทเป็นคนของตระกูลซอร์โดจริง ข้ารับรองว่าจะไม่มีผู้ใดกล้ากล่าววาจาดูหมิ่นอย่างเด็ดขาด”

                    ทานาทอสแสดงท่าทีประหลาดยิ่ง เขาลุกขึ้นพร้อมปรบมือให้กับไอเวอเรียสลั่นกระโจม กล่าวว่า “คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตจริงๆ แผนการของท่านในครั้งนี้ทำให้ข้ายอมรับนับถือจนหมดหัวใจ”

                    “หามิได้” ไอเวอเรียสตอบทันทีว่า “หากท่านทราบเรื่องราวและข้อมูลมากเท่ากับข้า แผนการต่ำต้อยเช่นนี้มีหรือจะรอดพ้นการคำนวณของท่าน”

                    “กระทำไม่ได้!

    ทั้งๆที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะลงเอยด้วยดี บุคคลที่ปฏิเสธกลับเป็นลูทผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้รับอำนาจปกครอง “ข้ามิอาจเป็นจักรพรรดิแห่งนอร์ จะให้ข้าเป็นเจ้าคนนายคนปกครองปวงประชาทั้งประเทศไปตลอดชีวิตนั้นข้ากระทำไม่ได้”

    เมื่อลูทกล่าวจบทานาทอสกลับเป็นคนตอบว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก ท่านไอเวอเรียสไม่คิดตั้งแต่แรกว่าจะให้เจ้าเป็นจักรพรรดิไปตลอดชีวิต ฐานะจักรพรรดิของเจ้าเป็นเพียงเครื่องมือที่จะหลอมรวมอาณาจักรนอร์ให้เป็นปึกแผ่นอีกครั้งเท่านั้น จากจุดประสงค์ที่ได้กล่าวตั้งแต่ตอนต้นของการประชุม การรวมอาณาจักรนอร์ในครั้งนี้ตั้งใจที่จะสร้างระบอบปกครองขึ้นมาใหม่ ดังนั้นสถานะการเป็นจักรพรรดิของเจ้าจะคงอยู่จนถึงวันที่กำจัดเทพสงครามได้สำเร็จ หลังจากนั้นภาระผูกพันทั้งหลายก็จะสิ้นสุดลง”

                    ไอเวอเรียสพยักหน้ารับคำ พร้อมหันไปกล่าววาจากับลูทว่า “สิ่งที่ท่านทานาทอสกล่าวตรงกับสิ้งที่ใจข้าได้กำหนดไว้ ทันใดที่เรื่องราวยุ่งยากทั้งหลายทั้งปวงสิ้นสุด เจ้าจะกลับเป็นอิสระอีกครั้ง”

                    ไกถามสรุปว่า “กับแผนการทั้งหมดนี้ ท่านมหาอุปราชเห็นเป็นอย่างไร?

                    ความเงียบเข้าปกคลุมที่ประชุมอีกครั้ง การเจรจาครั้งสำคัญของฝ่ายสหพันธ์กับจักรวรรดิเพื่อยุติการนองเลือดทั้งหลายกำลังจะได้คำตอบในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า มหาบุรุษแห่งจักรวรรดินอร์จ้องมองมาที่บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่มีสายเลือดเดียวกันกับสายเลือดของตน จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบสามนาทีบุคคลทั้งห้องจึงได้ยินเสียงว่า

                    “จักรพรรดิคนต่อไปคือเจ้า”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×