คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #271 : เล่ม 9 - ตอนที่ 124 - เข้าถ้ำเสือ (3)
“นั่นจะได้อย่างไร หากศิษย์พี่ใหญ่รับปากไม่เท่ากับว่ายื่นเนื้อเข้าปากเสือหรอกหรือ?” รินะขมวดคิ้วกล่าวทัดทาน พร้อมกับมองกระบี่ตวัดเจ็ดดาวในมือของตน
ไกพยักหน้าครั้งหนึ่ง กล่าวด้วยเสียงอันดังที่จงใจจะให้บุคคลในกระท่อมฟางได้ยินว่า “สมเหตุสมผลดี”
“รับไว้” สิ้นเสียงกล่าวกระบี่บุปผาเพลิงหิมะพลันลอยเข้าไปอยู่ในมือของโรซาไลน์ คงเหลือเพียงคำเรียกขาน “พี่ไก” จากปากโฉมสะคราญด้วยความเป็นห่วง ส่วนร่างของขุนศึกชาวเจนีสได้พลิ้วไปยังประตูกระท่อมฟางเสียแล้ว
ไอเวอเรียสเห็นไกที่ไม่พกพาอาวุธเดินเข้ามาจึงตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า “ข้อเสนอเมื่อครู่นี้พวกเรายอมรับ พร้อมทั้งจะรับปากพวกท่านอีกข้อหนึ่งด้วยว่าจะไม่มีการลงมือใดๆนับจากนี้”
“เรื่องนี้พวกท่านไม่จำเป็นต้องรับปาก หากพวกท่านที่ปราศจากอาวุธลงมือต่อหน้าท่านเสนาธิการและท่านมหาอุปราช พวกเขาย่อมมีวิธีจัดการกับพวกท่านเอง” สิ้นสุดวาจาแหลมคม คอร์เนเลียจึงถามว่า “ในเมื่อบุคคลที่สองเป็นขุนศึกไก บุคคลที่สามเป็นผู้ใด?”
ไอเวอเรียสหันกลับไปมองที่จุดคุมเชิงนอกกระท่อมฟาง กล่าวว่า “หากขาดเจ้าการเจรจาทั้งหมดคงจะไร้ความหมาย ไปกับข้าลูท”
“ข้าหรือ?” เสียงอุทานของลูทดังขึ้นเบาๆเมื่อไม่ทราบว่าเหตุใดศิษย์พี่ใหญ่จึงกล่าวอย่างนั้น
บุคคลทั้งสามขี่ม้าตามคอร์เนเลียและโทมัสมาครึ่งชั่วโมงจนกระทั่งเห็นค่ายทหารใหญ่โตแห่งหนึ่ง
ค่ายทหารแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ บริเวณที่ราบแห่งหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำนอร์ริชสายตะวันตก รอบข้างที่ราบแห่งนี้ล้วนเป็นป่ารกทึบที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย ลูททอดสายตามองผ่านป่าเขียวขจีไปพลางนึกถึงพรานป่าผู้หนึ่ง บุคคลที่เป็นเสมือนกึ่งอาจารย์กึ่งพี่ชายที่คอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับเขา จนกระทั่งถึงแก่ชีวิตในศึกป้อมวอเตอร์ดีพ สายตาของลูทหรี่หลงด้วยความเศร้าสลด แต่จะทำอย่างไรได้ ต่อให้เขาร่ำไห้จนน้ำตากลายเป็นสายน้ำแจ๊คก็ไม่มีทางคืนชีพขึ้นมา
เสียงของไอเวอเรียสกล่าวขึ้นว่า “พื้นที่ราบใจกลางป่าไม้แห่งนี้นับว่าเป็นชัยภูมิที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง หากมิใช่บุคคลพื้นเมืองย่อมไม่มีทางคำนวณได้เลยว่ามีกองทหารนับหมื่นตั้งค่ายพักหลบซ่อนอยู่ หากฝ่ายตรงข้ามเกิดตัดสินใจผิดพลาดเดินทัพผ่านจะเป็นเหตุให้ล่มสลายในคราเดียว หากคาดเดาไม่ผิดทำเลค่ายทหารแห่งนี้ทานาทอสคงจะเป็นผู้กำหนดขึ้นกระมัง?”
ปลายประโยคเมื่อครู่ของไอเวอเรียสจงใจหันไปหาคอร์เนเลีย ได้รับคำตอบว่า “เป็นท่านเสนาธิการสูงสุดระบุทำเลด้วยตนเอง โชคดีที่พวกท่านมาเพื่อการเจรจามิได้นำกองทัพเจนีสมาด้วย”
ไกทราบว่าวาจาฝ่ายตรงข้ามแฝงความแดกดันเอาไว้ภายใน แต่กลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่ใส่ใจในคำพูดเล็กๆน้อยๆ หาไม่แล้วอาจกระทบถึงการณ์ใหญ่ ในขณะที่แม่น้ำนอร์ริชเป็นเหตุให้ลูทรำลึกถึงการต่อสู้กับจระเข้ยักษ์และเหล่าโจรสลัดจึงมิได้ตั้งใจฟังคำสนทนา ส่วนปฏิกิริยาของไอเวอเรียสมีเพียงรอยยิ้มจางๆวูบหนึ่ง ทำให้ฝ่ายตรงข้ามยากจะหยั่งถึงว่ามันสมองของบุคคลผู้นี้กำลังครุ่นคิดอันใด
คอร์เนเลียที่นำหน้าสุดลงจากหลังม้าเมื่อมาถึงประตูค่าย หันไปกล่าวว่า “พวกท่านโปรดรออยู่ที่กระโจมรับรองครู่หนึ่ง ข้าจะเข้าไปรายงานท่านมหาอุปราชก่อนที่จะนำพาพวกท่านทั้งสามเข้าไปพบ ระหว่างนี้หากมีเรื่องราวอันใดขอให้บอกกล่าวกับโทมัสได้อย่างเต็มที่”
โทมัสรับคำสั่ง “จับตาดูฝ่ายตรงข้ามอย่าให้คลาดสายตา” ที่แฝงอยู่ในประโยคบอกเล่าของคอร์เนเลียคำหนึ่ง จากนั้นจึงผายมือออก กล่าวกับพวกไอเวอเรียสทั้งสามว่า “เชิญทางด้านนี้”
ลูท ไกและไอเวอเรียสทั้งสามรออยู่ในกระโจมรับรองพร้อมกับโทมัสพักหนึ่ง เสียงของบุคคลที่คุ้นเคยพลันดังขึ้นจากนอกกระโจมว่า “นึกไม่ถึงว่าวันนี้เสนาธิการไอเวอเรียสจะมาเยือน เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเราทั้งสองพบกันนอกสมรภูมิกระมัง”
“ผิดแล้วท่านทานาทอส” ไอเวอเรียสลุกขึ้นกล่าวเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามพลิกผ้ากั้นประตูกระโจมเดินเข้ามา “หนแรกข้าพบท่านที่งานแข่งหมากรุกเมื่อสามปีก่อน แต่พวกเรากลับไม่มีโอกาสได้สนทนากัน”
“อย่างนั้นหรอกหรือ?” เสนาธิการสูงสุดทานาทอสนั่งลงประจันหน้ากับเสนาธิการของฝ่ายตรงข้าม กล่าวว่า “หากเหตุผลที่ท่านไอเวอเรียสรุดมาจากแดนไกลคือการประลองหมากรุกเห็นทีข้าคงมิอาจปฏิเสธที่จะน้อมสนอง”
ไม่ทราบว่าโสตประสาทของลูทอาจเข้าใจผิดไปหรือไม่ แต่เขาพบว่าคำกล่าวเมื่อครู่ของทานาทอสแฝงเชิงเย้ยหยันไว้เล็กน้อย
ไอเวอเรียสยังคงความสุขุมนุ่มลึกตอบกลับไปว่า “เรื่องการประลองหมากรุกสามารถรอคอยไว้คราวหน้า เมื่อใดที่สงครามไร้สาระเหล่านี้สิ้นสุดลง ข้าจะส่งเทียบเชื้อเชิญท่านให้ไปเที่ยวชมหมู่ตึกตระกูลอาร์มาดิเนส ทั้งเป็นการประลองหมากรุกและจะได้ถือโอกาสคืนขลุ่ยทองคำให้กับท่านอีกเรื่องหนึ่ง”
ครั้งนี้ลูททราบแล้วว่าโสตประสาทของเขามิได้เข้าใจผิดไป เพราะว่าวาจาของศิษย์พี่ใหญ่ก็แฝงความแดกดันที่ไม่เป็นรองกัน
เมื่อทานาทอส “ทักทาย” กับไอเวอเรียสเสร็จสิ้นจึงเปลี่ยนมากล่าววาจากับบุคคลที่เหลือทั้งสองว่า “ท่านไก ท่านลูท ยินดีที่ได้พบพาน”
ขณะนั้นคอร์เนเลียเดินก็ตามเข้ามาในกระโจมรับรอง พร้อมคำกล่าวว่า “ท่านมหาอุปราชติดภารกิจบางประการ อีกครู่หนึ่งท่านจะตามมาร่วมประชุม ขอท่านเสนาธิการสูงสุดโปรดดำเนินการเจรจาล่วงหน้าก่อน”
ทานาทอสละสายตาจากฝ่ายตรงข้าม เอนเก้าอี้ไปข้างหลังพร้อมถอนหายใจครั้งหนึ่ง จากนั้นกลับมานั่งประจันหน้ากับไอเวอเรียสเหมือนเดิม กล่าวว่า “ข้ายอมรับว่าประหลาดใจพอสมควรที่พวกท่านทั้งสามดั้นด้นเดินทางมาถึงที่นี่ ดังนั้นการโต้คารมไร้สาระพวกเราสามารถเก็บไว้กาลหน้ายังไม่สาย คงจะต้องเปลี่ยนสถานที่เป็นสนามรบการโต้คารมจึงจะมีรสชาติมากกว่าเดิม ในเมื่อวันนี้ตัวแทนฝ่ายสหพันธ์กล้ามาเจรจาถึงที่นี่พวกเราฝ่ายจักรวรรดิก็ย่อมกล้าที่จะรับฟังข้อเสนอเช่นกัน อดีตพวกเราเป็นศัตรูอนาคตยังไม่กระจ่างชัดแต่ข้าขอรับรองว่าวันนี้ในสถานที่แห่งนี้จะไม่มีการจับดาบจับกระบี่รบราฆ่าฟัน ... ขอถามตามตรงว่าเหตุผลที่พวกท่านทั้งสามมาถึงที่นี่เป็นเพราะต้องการสิ่งใด?”
“วาจาของท่านเสนาธิการฟังแล้วชวนปวดศีรษะยิ่งนัก” ไอเวอเรียสกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเรามีศัตรูร่วมกันคนหนึ่ง ท่านคงจะทราบจุดประสงค์ของพวกเราแล้วกระมัง?”
ทานาทอสรับฟังเพียงเท่านั้นก็เข้าใจ กล่าวว่า “หย่าศึกจนกว่าจะสามารถล้มล้างกองทัพของโรฮันอย่างนั้นหรือ?”
ไอเวอเรียสส่ายศีรษะครั้งหนึ่งปฏิเสธว่า “ถูกต้องเพียงครึ่งหนึ่ง พวกเราจะร่วมกันล้มล้างกองทัพของโรฮันก็จริง แต่พวกเราจะไม่ดำเนินการหย่าศึกกัน ข้าอยากจะขอให้พวกท่านวางอาวุธยุติสงครามนี้เสีย”
โทมัสที่นั่งอยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนั้นจึงเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ขึ้นเสียงว่า “ว่ากระไร!? อาศัยเพียงลมปากสองสามคำก็จะให้พวกข้ายอมแพ้อย่างนั้นหรือ? ฝันไปเถิด”
“ข้ายังมิได้กล่าวแม้สักครึ่งคำมิใช่หรือว่าจะให้พวกท่านยอมแพ้?”
ทานาทอสยกมือปรามมิให้โทมัสตอบคำ กล่าวว่า “เมื่อครู่เป็นเงื่อนไขความต้องการของฝ่ายท่าน แล้วพวกเราจะได้อะไรจากข้อเสนอนี้?”
ไอเวอเรียสตอบอย่างไม่ต้องคิดว่า “อำนาจปกครองอาณาจักรนอร์โดยสมบูรณ์เป็นอย่างไร? พวกเราจะช่วยพวกท่านกำจัดความยุ่งยากของนอร์ที่เกิดจากการแตกแยกเป็นหลายฝ่ายให้รวมกันเป็นหนึ่งเหมือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการปกครองของนอร์อีกเลย”
คอร์เนเลียแทรกคำถามว่า “รวมถึงเอเวอร์เกรซด้วยอย่างนั้นหรือ?”
ทายาทแห่งโอเบอรอนพยักหน้าครั้งหนึ่ง ตอบว่า “ไม่ผิด”
ความคิดเห็น