ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #27 : รังลับในโอดิน (3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 974
      1
      13 ก.ค. 50

    มือปราบไกยับยั้งกระบี่ของโดมไว้ได้ทันเวลาบลูจึงเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด

    มือปราบไกจัดว่าเป็นบุคคลที่มีหน้าตาดี รูปร่างของเขาสูงตระหง่านกว่าผู้ชายทั่วไป ถ้าเทียบกับลูทแล้ว เขาสูงกว่าอย่างน้อยสิบเซนติเมตร ไกสวมเครื่องแบบมือปราบชั้นหนึ่งสีแดงหม่นขลิบขาวที่ทอจากเส้นใยลาเมล่าเช่นเดียวกับพวกอัศวินดำ สามารถทนดาบทนกระบี่ได้บางส่วน มีความคงทนต่อเอลพอสมควร ตัวเสื้อเป็นเสื้อแขนยาวรัดกุมเหมาะกับการขยับเคลื่อนไหว ต้นแขนเสื้อด้านขวาถัดจากหัวไหล่มีรูปสัญลักษณ์ของมือปราบชั้นหนึ่งเป็นรูปมงกุฏครอบดาบกระบี่ไขว้กัน ด้านหลังคาดกระบี่ยักษ์ตั้งแต่คอจรดหัวเข่า โจรผู้ร้ายทั่วไปเมื่อเห็นเครื่องแบบนี้ก็จะหดหัวหดหางหนีไปโดยไม่คิดชีวิต

    บังเอิญที่โดมและคนชุดดำกลับมิใช่โจรผู้ร้ายทั่วไป

    บังเอิญที่ไกก็มิใช่มือปราบทั่วไปเช่นกัน

    ไกที่ยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อคุ้มครองบลูใช้มือสองข้างถือกระบี่เกล็ดน้ำค้างชี้ปลายไปอีกฝั่งหนึ่ง เมื่อมองดูท่าทางแล้วเหมือนขุนพลสวรรค์จุติลงมายังโลกมนุษย์เพื่อปราบปรามเหล่าอธรรม

    ไกพิเคราะห์สถานการณ์อย่างคร่าวๆ เขาเห็นฝ่ายหนึ่งมีผู้สวมชุดดำเจตนาปกปิดร่องรอย แถมยังใช้ผู้คนสองคนรุมทำร้ายชายหนุ่มเพียงคนเดียว จากประสบการณ์สามารถวิเคราะห์เรื่องราวได้อย่างพอสังเขปว่าชายผมสีน้ำเงินผู้นี้คงจะมาหาเขาที่บ้าน หลังจากนั้นโดนลอบทำร้ายเสียเป็นแม่นมั่น

                    ถ้าหากบลูรู้ว่าไกคิดเช่นนี้เขาคงจะตกใจไม่น้อยที่ไกสามารถคาดการณ์เหตุการณ์ที่ผ่านมาได้ราวกับเห็นด้วยตาของตน

    ไกหันหน้าไปทางฝ่ายชายชุดดำกล่าวว่า ข้าให้เวลาพวกเจ้าทั้งสองสิบวินาที จงเปิดผ้าคลุมหน้าออกแล้วไปยังกองปราบกับข้า ข้ารับรองว่าจะพวกเจ้าและทุกคนที่อยู่ในที่นี้จะได้รับความยุติธรรม

    โดมกับชายชุดดำหันไปมองหน้ากันลอบพยักหน้าคราหนึ่งกล่าวตอบตกลง แต่กลับแทงกระบี่ออกใส่มือปราบไกอย่างชั่วร้าย

    ไกรู้อยู่แล้วว่าฝั่งตรงข้ามจะมาไม้นี้จึงใช้กระบี่เกล็ดน้ำค้างต่อต้านไว้ทันท่วงที เอลน้ำแข็งของไกแผ่ซ่านออกจากกระบี่ยักษ์กระจายออกรอบด้านเป็นเขตแดนความเย็นขึ้น

    เขตแดนความเย็นของไกยังร้ายกาจกว่าบลูเสียอีก ที่สามารถแผ่ออกมาโดยฝั่งตรงข้ามไม่รู้ตัวและไม่จำเป็นต้องร่ายเอลสองครั้งติดๆกัน

    กระบี่ที่รวดเร็วและชั่วร้ายทั้งสองไม่สามารถแทงทะลุผ่านกระบี่ยักษ์มาได้แม้แต่น้อย มิหนำซ้ำความรวดเร็วที่เป็นข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวกลับเชื่องช้าลงเรื่อยๆเนื่องจากเขตแดนความเย็น

                    มือปราบไกร้ายกาจสมคำร่ำลือ พอเริ่มลงมือก็ชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบทันที การต่อสู้โดยใช้พวกมากเข้ากลุ้มรุมกลับไม่มีผลต่อเขาเลยสักนิด

    โดมเห็นเช่นนั้นจึงร่ายเอลที่หนึ่งขึ้นเป็นเกราะปฐพี เอลนี้ดัดแปลงมาจากท่าโล่ห์ปฐพีที่ใช้ป้องกันดาบสุญญากาศของบลู เกราะปฐพีเป็นเสมือนหินบางๆชั้นหนึ่ง ช่วยปกคลุมท่อนแขนและขาของเขาทั้งสองข้างไว้เพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกาย เมื่อโดมใช้เกราะปฐพี เขาก็ไม่ได้รับผลกระทบจากเขตแดนความเย็นแต่อย่างใด

    ไกตวัดกระบี่ยักษ์เข้าปะทะกับคนทั้งสองอีกสามคราติด เขาไล่ต้อนคนทั้งสองให้ถอยห่างออกไปโดยการโจมตีเพียงสามครั้ง

    เมื่อโดมใช้เอลเกราะปฐพีร่ายรำกระบี่เข้าต่อสู้ก็ไม่สามารถใช้เอลอื่นๆได้อีก เนื่องจากเกราะปฐพีดูดพลังเอลในร่างกายไปใช้ตลอดเวลา ดังนั้นหากเขาจะใช้เอลท่าอื่น เขาก็ต้องปลดเกราะปฐพีออกเสียก่อน

    คนชุดดำต่างจากโดม เขาไม่สามารถป้องกันเขตแดนความเย็นได้ จึงทรุดลงเพราะทนทานความเย็นไม่ไหว

    ไกที่เก่งกาจเพียงจู่โจมไม่กี่ครั้ง การต่อสู้ก็เปลี่ยนจากสองรุมหนึ่งเหลือเพียงหนึ่งต่อหนึ่งภายในเวลาไม่กี่วินาที ในเมื่อโดมคนเดียวไม่สามารถต้านมือปราบไกได้ติด จะช้าจะเร็วก็จะต้องตกเป็นเหยื่อสังเวยคมกระบี่ พอเขาเห็นว่าผิดท่าจึงคิดหลบหนี

    แต่นั่นก็อยู่ในการคาดการณ์ของไก เขารู้สึกได้ว่าโดมผ่อนสภาวะกระบี่ลงโดยไม่ได้ตั้งใจมีทีท่าว่าจะหลบหนีไปในไม่ช้า เขาจึงใช้กระบี่ออกด้วยสองมือแทงเข้าใส่โดมเพื่อปิดสกัดเส้นทางถอย

    โดมปัดมือคราหนึ่งร่ายเอลอีกครั้ง เกราะปฐพีเปลี่ยนกลับมาเป็นโล่ปฐพีเพื่อต้านรับกระบี่ยักษ์ของไก  จากนั้นโดมก็ขยับเข้าไปหาคนชุดดำที่ทรุดอยู่กลางหมอกหิมะ

    โดมที่ชั่วร้ายในเมื่อมีเจตนาหลบหนีจึงไม่สนใจพวกพ้องของตน เขาผลักร่างของคนชุดดำเข้าใส่ไกในฉับพลันพร้อมกับตะโกนว่า รับไว้

    ไกนึกไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีจิตใจโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ถึงกับโยนพรรคพวกของตนเองเข้าใส่เพื่อให้ตนเองหลบหนีได้ จะอย่างไรมือปราบไกก็ถือคุณธรรม ไม่ลงมือทำร้ายผู้ที่ไม่มีทางสู้ เขาจึงเสียจังหวะต้องพลิกกระบี่หลบไม่ให้ฟันถูกร่างของชายชุดดำ พอโดมลงมือประสบผลจึงฉวยโอกาสหลบหนีไปโดยที่ไกไม่สามารถตามทัน

    โดมคำนวณไว้อย่างเป็นมั่นเหมาะว่าไกจะไม่ทำร้ายคนชุดดำซึ่งจะเปิดช่องให้เวลาเขาหลบหนีไปได้ และก็เป็นเช่นนั้นจริงตามที่เขาคำนวณไว้ แต่ทว่าสี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง เขากลับทำผิดพลาดไปจุดหนึ่ง นั่นคือเขามิได้คำนวณอัตราการฟื้นตัวของบลู อัตราการฟื้นตัวที่รวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง

    แต่นั่นก็สายไปแล้ว

    ดาบสุญญากาศสามเล่มบินคว้างมายังเส้นทางการหลบหนีของเขา เมื่อโดมถูกคมดาบสุญญากาศเข้าไปสามเล่มพร้อมๆกัน เขาไม่ทันแผดเสียงร้องก็สิ้นใจตายในทันที สภาพร่างกายยังลืมตาค้าง มีสีหน้าตื่นตระหนกอย่างไม่น่าเชื่อว่า ดาบสุญญากาศพวกนี้ลอยมาได้อย่างไร

                    จุดจบของโดมก็เป็นเช่นนี้เอง ...

    จุดจบของชายชุดดำก็เป็นเช่นเดียวกัน ...

    ไกมองดูชายชุดดำที่ถูกจับโยนมาพบว่าคนผู้นี้ตายไปแล้ว มิใช่เพราะความหนาวเย็นแต่เป็นยาพิษที่ซ่อนเอาไว้ ไกตรวจสอบดูก็พบเห็นตราสัญลักษณ์งูพันอาวุธอยู่ จากนั้นเขาก็เดินมาสำรวจไปดูที่ร่างของโดมก็พบสัญลักษณ์เช่นเดียวกัน เขานึกขึ้นในใจว่าทำไมสาวกของสำนักงูสวัดถึงได้มาทำร้ายชายหนุ่มผมน้ำเงินคนนี้

    เมื่อไกตรวจสอบร่างของคนทั้งสองเสร็จจึงเดินไปหาบลูที่นั่งกรรมฐานฟื้นพลังอยู่

    ไกกล่าวว่า น้องชาย เจ้ามาหาข้าด้วยเหตุใดแล้วเจ้ามีความสัมพันธ์อันใดกับสำนักงูสวัดเขาคิดขึ้นในใจถึงสำนักงูสวัดที่ภายนอกเปิดรับศิษย์ร่วมสำนักแต่ความจริงแล้วทำมาหากินโดยการรับจ้างฆ่าคน

    บลูลืมตาขึ้นจากการนั่งกรรมฐานพบว่าอาการบาดเจ็บของตนทุเลาลงไปกว่าครึ่ง เอลที่ใช้ไปก็ค่อยๆฟื้นฟูขึ้นมามีสภาพดีขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับตอนโดนลอบทำร้าย

    บลูจึงกล่าวตอบว่าว่า พี่ชายท่านนี้คือมือปราบไกสินะ ที่ข้ามาเพราะมีเรื่องสำคัญจะแจ้ง ข้าไม่รู้จักสำนักงูสวัดอะไรนี่หรอกเพียงแต่มันอาจจะมีความสัมพันธ์กับเรื่องที่ข้าจะแจ้งให้ทราบ แต่ก่อนที่ข้าจะบอกอะไร ขอให้ท่านลองเอาสมุดเล่มนี้ไปพลิกดูสักรอบหนึ่งก่อน มิฉะนั้นคำพูดของข้าจะเปรียบเสมือนลมที่พัดผ่าน พูดจบบลูก็ยื่นสมุดบันทึกที่เป็นหลักฐานในการโยกย้ายกำลังพลและกักตุนอาวุธของเวอร์น่อนให้ไก

    เมื่อไกพลิกอ่านดูครบรอบหนึ่งก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป เขาขมวดคิ้วถามบลูว่า เจ้าได้สมุดเล่มนี้มาจากที่ใด

    บลูตอบว่า ข้าหยิบมาได้จากที่พักลับแห่งหนึ่งในเมืองเจนีสเหนือ สถานที่นั้นเคยเป็นตึกที่ว่าการเมืองมาก่อน

    ไกหน้าแปรเปลี่ยนไป ประติดประต่อเรื่องราวหลายเรื่องเข้าด้วยกันในเวลาอันสั้น ทั้งคนที่ลอบสังหารไกในคราก่อนและคนของสำนักงูสวัดพวกนี้จากนั้นจึงถามบลูว่า เจ้าเป็นใคร พอจะเล่ารายละเอียดให้ข้าฟังคร่าวๆได้หรือไม่

    บลูกล่าวว่า ข้าชื่อบลู วอลทซ์นำสารมาจากผู้นำการาดอสหนึ่งในผู้ปกครองเมืองเจนีสใต้มาให้ท่าน เพื่อเป็นการยืนยันตัวจริงของข้า โปรดตรวจสอบจดหมายฉบับนี้โดยละเอียด จากนั้นบลูจึงมอบจดหมายที่การาดอสเขียนให้ไกไปอ่านดูคร่าวๆ ในจดหมายบรรยายเรื่องเกือบทั้งหมดให้ไกฟังคร่าวๆ ตั้งแต่เรื่องของเวอร์น่อน จวบจนถึงอัศวินดำ

    พอไกอ่านจบบลูก็เล่าเรื่องราวที่นอกเหนือจากในจดหมายฉบับนั้นให้ไกฟัง ตั้งแต่ออกเดินทางจากหมู่บ้านเงาจันทร์จนถึงการโดนลอบทำร้ายที่บ้านของไกโดยละเว้นเรื่องลายแทงและการค้นหากระบองวิสุทธิ์ศาสตราเอาไว้

    มือปราบไกทำสีหน้าจริงจัง เขากล่าวว่า นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่เจ้าจะมากล่าวหาผู้ปกครองรัฐได้ ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานและพยานยืนยัน อย่างไรก็ตามข้าก็ต้องสืบให้กระจ่างด้วยตนเองถึงจะเชื่อ เพราะว่าหลักฐานพวกนี้สามารถปลอมแปลงได้และพยานเท็จก็สามารถจ้างมาได้ไม่ยาก แต่กล่าวโดยสรุป ... ข้ายังคงเชื่อถือเจ้า

    บลูถามว่า ทำไมพี่ท่านถึงเชื่อข้า ในเมื่อท่านไม่เชื่อถือหลักฐานสมุดบันทึกและจดหมายทั้งสองนี้

    ไกตอบว่า สิ่งที่ข้าเชื่อถือเจ้าในตอนนี้เป็นเพราะตราสัญลักษณ์บนข้อมือของเจ้า เมื่อกล่าวจบก็ชี้ไปที่สัญลักษณ์รูปอาทิตย์ที่บลูผูกไว้ที่ข้อมือ

    บลูจึงถามว่า ท่านรู้จักอาจารย์ดาธด้วยหรือ

    ไกส่ายหน้าคราหนึ่งตอบว่า อาจารย์ดาธคือใคร? ข้าเพียงรู้จักคนผู้หนึ่งที่มีตราสัญลักษณ์เช่นนั้นและข้าเชื่อถือเขา ดังนั้นในเมื่อเจ้ามีสัญลักษณ์นี้ข้าก็เชื่อว่าคำพูดของเจ้าจะต้องเป็นความจริง

    ขณะที่บลูกำลังจะถามถึงรายละเอียดความสัมพันธ์ระหว่างไกกับคนที่มีตราสัญลักษณ์พระอาทิตย์ ลูกแก้วสามสหายก็พลันเปล่งแสงสีแดงขึ้น สีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของโรซาไลน์

    บลูหยิบลูกแก้วสามสหายออกมาจากสัมภาระ อัญมณีสีแดงกำลังเปล่งแสงเจิดจ้า เขาจึงกล่าวว่า แย่แล้ว

    ไกถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับลูกแก้วสีแดงนี้

    บลูตอบว่า สหายของข้าเกิดเรื่องขึ้น เธอก็เป็นศิษย์ของอาจารย์ดาธเช่นเดียวกัน

    ไกตอบว่า ถ้าอย่างนั้นจะชักช้าอยู่ทำไม รีบนำทาง

    บลูและไกทั้งสองวิ่งออกไปตามทิศทางของอัญมณีสีแดงอย่างเร่งด่วน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×