ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #226 : เล่ม 8 - ตอนที่ 108 - ความทรงจำ (3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.88K
      4
      11 พ.ย. 51

    /> /> />

    ณ เมืองโอดิน พื้นที่ใหม่ของฝ่ายสหพันธ์

                    ผู้อำนวยการทอริอุส เดอ เมนอสได้รับการช่วยเหลือออกมาในช่วงสุดท้าย รอดพ้นจากกับดักของทานาทอสมาได้อย่างฉิวเฉียด แม้ว่าผู้อำนวยการสูงสุดมินาโตะได้ประกาศว่าโรงเรียนเซนต์เอลลิสจะต่อต้านการรุกรานของจักรวรรดิอย่างเป็นทางการแล้วก็จริง แต่ไกก็ทราบนิสัยของผู้อำนวยการทอริอุสที่ไม่ต้องการจะจับอาวุธทำลายชีวิตผู้คน จึงมอบหมายให้ท่านทอริอุสเพียงทำหน้าที่คุ้มกันเมืองโอดินในกรณีที่กองทัพจักรวรรดิบุกเข้ารุกราน ซึ่งไม่ขัดกับหลักการป้องกันตนเองไม่รุกรานผู้อื่น ผู้อำนวยการทอริอุสจึงตกลงรับหน้าที่นั้นด้วยความยินดี

    ขุนศึกไกได้จัดให้แม่ทัพมอริแกนและกุนซือราเมสทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลกองทัพรัฐอิสระเจนีส ตั้งฐานบัญชาการอยู่ที่ตึกผู้ว่าการเมืองโอดินและค่ายทหารที่ฝ่ายจักรวรรดิเคยใช้เป็นฐานที่มั่น โยกย้ายกองกำลังส่วนใหญ่ขึ้นมารักษาเมืองหน้าด่านนี้ไว้ หากมีเรื่องอันใดให้ประสานกับผู้อำนวยการทอริอุสจัดการเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้โดยมิต้องรายงาน แต่ถ้าเหตุการณ์เลวร้ายถึงขีดสุดมิอาจรักษาเมืองโอดินได้อีก ก็สามารถถอยร่นลงใต้มายังเจนีสเหนือ ประสานงานกับกองกำลังของเนรอสอีกส่วนหนึ่ง รวบรวมกำลังสองกองทัพเข้าด้วยกันตั้งมั่นเตรียมพร้อมก่อนที่จะตัดสินใจต่อไป ว่าโจมตีสวนกลับเพื่อยึดเมืองโอดินคืนหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนั้นขึ้นกับคำขาดขั้นสุดท้ายของกุนซือราเมส

    “หลบออกจากกำแพง!

    “ได้ยินข้าหรือไม่? หลบออกจากกำแพง”

                    ตูม!

    เสียงระเบิดดังขึ้นจากชั้นล่างของฐานบัญชาการอันเป็นที่ตั้งของคุกใต้ดิน เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายของทหารเจนีสดังขึ้น พากันร่ำร้องว่ากองทัพจักรวรรดิบุก

    “ตามข้ามาท่านคอร์เนเลีย” เสียงของอัศวินดำหมายเลขแปดโทมัสดังขึ้นทันทีหลังเสียงระเบิดเงียบหาย

    สตรีผมสีม่วงผู้หนึ่งเบือนหน้าไปทางกำแพง เห็นแสงวูบหนึ่งระเบิดกำแพงจนกลายเป็นช่องเปิด เมื่อพบว่าผู้มาคือโทมัสจึงพยักหน้ารับคำรุดออกไปตามคำกล่าว

    “เจ้ารับคำสั่งผู้ใดให้มาช่วยข้า? พื้นที่แห่งนี้เป็นฐานที่มั่นของฝ่ายสหพันธ์พวกเราจะหนีไปได้อย่างไร? คอร์เนเลียกล่าวพร้อมกับวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้าแทนที่จะวิ่งออกไปตามรูกำแพงที่โทมัสระเบิดไว้ นางเห็นทหารเจนีสผู้หนึ่งรุดเข้ามาจากประตูคุกด้านหน้ากำลังจะส่งเสียงโวยวายเรื่องนักโทษหลบหนี คอร์เนเลียรุดเข้าประชิดใช้ฝ่ามือกระแทกช่องท้องทำให้ทหารผู้นั้นสลบไม่ได้สติ ก่อนที่จะวิ่งตามโทมัสออกไปเบื้องนอก

    โทมัสที่วิ่งนำออกไปใช้ปลายหอกกระทุ้งเข้าใส่ท้องทหารเจนีสอีกผู้หนึ่ง ส่ายศีรษะปฏิเสธว่า “ปัจจุบันข้ามิได้รับใช้จักรวรรดิจึงมิได้รับคำสั่งผู้ใด แต่เมื่อได้ข่าวว่าท่านคอร์เนเลียถูกกักขังไว้ที่นี่จึงหาหนทางรุดมาช่วย”

    สีหน้าของคอร์เนเลียเปลี่ยนไป “เช่นนั้นเจ้าคงมิได้เตรียมหนทางหนีเอาไว้ใช่หรือไม่?

                    “หนทางก็พอมี นั่นคือการฝ่ากำแพงเมืองทิศตะวันตกหนีออกไปดั่งที่ข้ากระทำในขามา” โทมัสหันหลังพิงเข้ากับกำแพงตึก ใช้เงาของตึกเป็นสถานที่ซ่อนกายชั่วคราว ชะโงกหน้าออกไปมองทหารเจนีส กล่าวต่อไปว่า “ข้าหลุดพ้นจากตำแหน่งอัศวินดำตั้งแต่ครั้งที่โทเบียลงมือ ขณะนี้มิได้ยึดติดกับกองทัพจักรวรรดิต้องปฏิบัติงานเพียงลำพัง การที่จะหาผู้คนเพื่อรักษาเส้นทางหนีย่อมเป็นไปไม่ได้”

                    คอร์เนเลียฝืนยิ้มพลางกล่าวว่า “ฝ่ายตรงข้ามมีทหารนับร้อย พวกเรามีกันเพียงสองคนอีกทั้งข้ายังบาดเจ็บมิอาจใช้เอลได้เต็มที่ หากพวกเราเล็ดรอดออกไปได้คงต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น”

                    “พอข้านับสามแล้วขอให้ท่านคอร์เนเลียตามข้ามาอย่าได้ห่าง หอกมิทราลเล่มนี้จะคอยฝ่าทางสายหนึ่งให้กับท่าน” โทมัสกล่าว “จะเกิดปาฏิหาริย์หรือไม่ ท่านคอร์เนเลียก็ต้องรอดออกไป”

                    “เจ้าทำเช่นนี้เพื่ออะไร มาช่วยข้าแบบนี้เท่ากับพาตัวมาตายมิใช่หรือ?

                    โทมัสฝืนยิ้มครั้งหนึ่ง กล่าวว่า “แต่ถ้าหากมิได้ท่านคอร์เนเลียช่วยพูดไว้ ข้าคงตายไปตั้งแต่ครั้งที่ลงมือผิดพลาดแล้ว ลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ มีบุญคุณให้ทดแทนมีความแค้นให้ชำระ เมื่อท่านคอร์เนเลียเคยช่วยชีวิตข้าไว้ครั้งหนึ่ง ข้าจึงไม่ลังเลแม้แต่เสี้ยววินาทีที่จะมาช่วยท่าน ... วิญญาณของลีโซลมีผู้ล่วงลับบนสวรรค์จะได้ไม่ผิดหวังในตัวข้า”

                    ขณะที่คอร์เนเลียจะตอบคำ พลางได้ยินคำว่า “สาม!” ดังขึ้นจากโทมัสผู้บ้าบิ่น หอกมิทราลพุ่งทะลวงออกไปอย่างไม่เกรงกลัว เข้าสู่กองทัพของฝ่ายตรงข้ามมุ่งไปยังประตูทิศตะวันออก

                    พึ่บพับ

                    เสียงปีกของนกพิราบกระทบอากาศบินผ่านลอดช่องหน้าต่างของกุนซือราเมสเข้ามาด้านใน ปลายขาของมันผูกปลอกไม้ที่มีแถบสีดำคาดเอาไว้ อันแสดงถึง “จดหมายแถบดำ” ที่เป็นข่าวสารที่มีลำดับชั้นความสำคัญสูงสุด เมื่อพบจำต้องเปิดอ่านก่อนที่จะทำการทุกสิ่งทุกอย่าง

                    เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่ห้องพักของกุนซือราเมส

                    ทหารผู้หนึ่งรุดเข้ามารายงานว่า “ท่านกุนซือข้ามีเรื่องด่วนมารายงาน นักโทษที่หลบหนีเป็นอัศวินดำหมายเลขสองคอร์เนเลีย ส่วนผู้ที่มาช่วยเหลือคาดว่าเป็นอัศวินดำหมายเลขแปดโทมัส ท่านจะให้พวกเราทำอย่างไรดี?

                    กุนซือราเมสยกมือขึ้นข้างหนึ่ง กล่าวว่า “รอสักครู่หนึ่ง จดหมายแถบดำนี้มีความสำคัญมากกว่า”

                    กระดาษที่ม้วนอยู่ในกระบอกไม้นั้นเป็นกระดาษแผ่นเล็กนิดเดียว และมีข้อความเพียงสองประโยคเท่านั้น ประโยคแรกเป็นคำสั่งให้ปฏิบัติ อีกประโยคหนึ่งเป็นการลงชื่อว่าข่าวสารมาจากผู้ใด กุนซือราเมสกวาดสายตาผ่านเพียงสองสามวินาทีก็อ่านจบ ในใจเกิดความสงสัยขึ้นอย่างประหลาด หันไปกล่าวกับทหารที่เปิดประตูเข้ามาว่า “ปล่อยให้ทั้งสองหลบหนีไป คอร์เนเลียเป็นยอดฝีมือระดับชั้นเหนือเมฆาหากพวกเราเข้าปะทะโดยตรงจะประสบกับความสูญเสียใหญ่หลวง ลำพังท่านแม่ทัพมอริแกนคงมิอาจรับมือได้ ส่วนท่านผู้อำนวยการทอริอุสก็ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บดี”

                    ทหารผู้นั้นทวนคำว่า “ปล่อยไป?” อันเป็นคำตอบรับที่เขาไม่คาดฝันว่าจะได้ยินมาก่อน กุนซือราเมสจึงย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า “ปล่อยไป บอกมือธนูให้เปิดทางเสีย นี่เป็นคำสั่ง”

                    เสียงชิดส้นเท้าของทหารยามดังขึ้น กล่าวว่า “ผู้น้อยรับคำสั่ง” แล้วรีบรุดออกไปปฏิบัติการ

                    กุนซือราเมสทอดถอนหายใจครั้งหนึ่ง จ้องมองดูกระดาษสีขาวในมือไม่ทราบว่าผู้เขียนคิดอย่างไรกันแน่ กับข้อความสองประโยคที่ว่า “อย่าได้ขัดขวางนักโทษหลบหนี เสนาธิการไอเวอเรียส”

                    ไม่ว่าใครจะมองการตัดสินใจของกุนซือราเมสว่าอย่างไร แต่สำหรับคอร์เนเลียและโทมัสทั้งสองต่างคิดเห็นตรงกันว่า “ปาฏิหาริย์มีจริง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×