ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #223 : เล่ม 8 - ตอนที่ 108 - ความทรงจำ (1)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.81K
      5
      7 พ.ย. 51

    /> /> />

    ภาควีรบุรุษเทพสงคราม

    ตอนที่ 108 ความทรงจำ

    1 เมษายน อ.ศ. 226

     

    ระหว่างที่ทั้งสามเดินออกมาจากห้องของจางเสินโส่วก็มิได้พูดจากันแต่อย่างใด ความเงียบสงัดได้เข้ามาแทนที่เมื่อบุรุษหนุ่มใช้ความคิดอยู่กับตนเอง

    ภาพปางตายของจางเสินโส่วจึงทำให้ลูทคิดได้ พลางถามคำถามกับตนเองวนไปเวียนมาหลายรอบแต่ก็มิได้คำตอบ สำหรับเขาแล้วทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปมปริศนาไปหมด จนกระทั่งคิดว่าตนเองเป็นบุคคลโง่งมคนหนึ่งที่มิได้ทราบอะไรมาก่อนเลย

    เหตุใดข้าจึงมีสายเลือดของเทพเจ้าสงคราม?

    เหตุใดพ่อถึงได้ปิดบังเรื่องวิชาฝีมืออันสูงส่งมาโดยตลอด?

    ข้าใช่ลูกของพ่อจริงหรือไม่?

    หากมิใช่แล้วความจริงข้าเป็นลูกของผู้ใด?

    ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่องอันใดเลย!

    เพราะอะไรกัน!?

    เมื่อลูทรวบรวมความกล้าได้ระดับหนึ่งก็ตัดสินใจหันไปหาลุงกอร์ดอน เขาต้องทราบคำอธิบายเหล่านี้ให้ได้ จึงถามขึ้นว่า “ท่านลุงทราบหรือไม่ว่าในตอนนี้พ่อของข้านั้นอยู่ที่ใด?

    กอร์ดอนชี้มือไปที่ชั้นบนกล่าวว่า “พ่อของเจ้าหรือ? เขาคงจะทำงานอยู่ในห้องข้างบน มีเรื่องราวอีกหลายสิบประการเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยจากนครมิสต์ที่จะต้องสะสาง”

    “ขอบคุณท่านลุง” บุรุษหนุ่มมิได้กล่าวอันใดเพิ่มเติม ก้มหน้าก้มตาวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างเร่งร้อน เมื่อกอร์ดอนเอะใจได้ว่าเหตุใดลูทถึงมีท่าทางเช่นนี้จึงสร้างความเป็นห่วงให้กับกอร์ดอนเป็นอย่างยิ่ง

    “ลูท!

    ในขณะที่กอร์ดอนกำลังจะวิ่งตามไปจอมแพทย์วีทัดทานเอาไว้ กล่าวว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างพวกเขาสองพ่อลูก ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาเพียงใดก็ไม่อาจแก้ไขปัญหานี้ได้ นอกจากให้พวกเขาเผชิญหน้ากันก่อนครั้งหนึ่ง”

    กอร์ดอนพยักหน้าครั้งหนึ่งฝืนยิ้มให้กับจอมแพทย์วี ครุ่นคิดว่า ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง วันที่เจ้าจะต้องเผชิญกับความเป็นจริงของตัวเจ้า

    ปึง!

    ประตูที่เปิดออกกระแทกเข้าใส่ผนังอย่างรุนแรง เผยให้เห็นใบหน้าของบุรุษผมสีน้ำตาลที่คงไว้ด้วยความหนุ่มแน่นแม้ว่าจะมีอายุห้าสิบปีเศษ แมกซ์นั่งอยู่บนโต๊ะก้มหน้าก้มตาทำงานเอกสาร บนโต๊ะวางกองไปด้วยกระดาษจำนวนมาก ส่วนใหญ่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลความเป็นอยู่และปากท้องของผู้ลี้ภัยชาวมิสต์นับแสน รวมไปถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมทหารมิสต์อีกราวเจ็ดหมื่นนายที่อาจต้องเข้าสู่การรบอย่างเต็มรูปแบบในไม่ช้า

    “ท่านพ่อ!” เสียงของบุรุษหนุ่มดังขึ้นทันใดที่ย่างฝีเท้าก้าวแรกเข้ามาในห้อง

    “ข้ากำลังรอคอยเจ้าอยู่พอดี นั่งลงจิบน้ำชาที่โต๊ะนั่นก่อน” บิดาตอบโดยที่ยังคงอ่านเอกสารแผ่นนั้นราวกับว่าการโผงผางเข้ามาเช่นนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา

    ประโยคคำตอบเมื่อครู่ทำให้บุรุษหนุ่มประหลาดใจ กล่าวว่า “รอคอยข้า?

    แมกซิมิเลี่ยนเหลือบตาขึ้นมามองหน้าของบุตรชาย พยักหน้าครั้งหนึ่งแล้วกล่าวว่า “หากข้ามิได้รอคอยเจ้าแล้วจะรอคอยผู้ใด? ข้าทราบว่าเจ้ามีปัญหามากมายอยากจะไต่ถาม และข้าก็ต้องการที่จะบอกความจริงเหล่านั้นให้เจ้าได้รับรู้เช่นกัน”

    บุรุษหนุ่มสาดวาจาตอบทันควันว่า “นี่แสดงว่าท่านพ่อจงใจปิดบังข้า?

    “ข้าไม่ปฏิเสธ” บิดาก้มหน้าลงไปอ่านเอกสารแผ่นนั้นต่อไป

    “นั่นเป็นเพราะเหตุใด? ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่องอันใดทั้งสิ้น?” ความรุนแรงของคำพูดลูทเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

    แมกซิมิเลี่ยนลงนามในเอกสารอีกแผ่นหนึ่งจากนั้นจึงลุกขึ้น ชี้มือไปที่ประตูด้านหลังบุรุษหนุ่ม กล่าวว่า “ปิดประตูห้องเสียก่อนแล้วนั่งลงที่โต๊ะรับรอง จากนั้นเราจึงจะสนทนากัน”

    ปึง!

    บุรุษหนุ่มใช้ส่วนท้ายของกำปั้นกระแทกเข้าไปที่บานประตูเต็มแรง บานประตูกระแทกปิดส่งเสียงดังสนั่นยิ่งกว่าตอนเปิดเข้ามา แทนการระบายอารมณ์และแสดงท่าทางที่ไม่พอใจอย่างหนึ่ง “ท่านพ่อยังจะให้ข้าใจเย็นอีกได้อย่างไร? ในเมื่อผลลัพธ์ที่ท่านปิดบังข้าทำให้เรื่องราวเลวร้ายถึงเพียงนี้?

    แมกซิมิเลียนจ้องตาบุตรชาย เห็นสายตาดุดันของลูทที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต จึงตอบว่า “ผลลัพธ์นั้นมิได้เลวร้ายอย่างที่เจ้ากล่าว คาเทจ ดูแรนดัลและยูกิทั้งสามต่างรอดชีวิตจากการรุกรานของจักรวรรดินอร์ ทหารมิสต์ที่ป้องกันเมืองสามารถถอยร่นออกมาได้ทันเสียก้าวส่วนมิได้ถูกทำลายย่อยยับ นอกเสียจากบุคคลที่ตั้งใจสละชีพปกป้องพวกพ้องที่เหลือ ซื้อเวลาให้ชาวเมืองผู้ลี้ภัยอพยพผ่านอุโมงค์ใต้ดินฉุกเฉินข้ามมายังราชอาณาจักรได้เกือบทั้งสิ้น เสบียงและอาหารที่มีอยู่ทั้งหมดถูกพวกเราทำลายทิ้งก่อนสละเมือง เหลือเพียงตัวนครมิสต์อันว่างเปล่าและซากปรักหักพังอีกหลายแห่งเท่านั้นที่ฝ่ายจักรวรรดิสามารถยึดครอง”

    บุตรชายบันดาลโทสะที่ได้ยินบิดาของตนกล่าวเช่นนี้ จึงกล่าวด้วยเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความโกรธว่า “ท่านพ่อยังจะกล่าวว่าผลลัพธ์มิได้เลวร้ายอีกอย่างนั้นหรือ? ท่านรู้หรือไม่ว่าความทรงจำของยูกิในช่วงสองเดือนที่ผ่านมานั้นถูกลบเลือนไปสิ้น ท่านอาจารย์ดาธและท่านคาเทจเกือบต้องสังเวยชีวิตอยู่ในตัวนครมิสต์แห่งนั้น! ผู้คนนับหมื่นต้องล้มตาย ผู้คนนับแสนต้องอดอยาก ท่านพ่อคิดว่าเรื่องพวกนี้ยังมิใช่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายหรืออย่างไร!?

                   

                    สายตาที่ตั้งมั่นในสติของแมกซิมิเลี่ยนยังคงไม่ละสายตาจากบุตรชาย โดยที่มิได้มีท่าทางโมโหหรือแสดงโทสะใดๆที่ต้องรองรับอารมณ์ของบุตรชายเช่นนั้น แมกซ์หลับตาลงราววินาทีหนึ่ง เมื่อลืมตาขึ้นมาก็กล่าวว่า “เจ้ารู้หรือไม่สิ่งที่เจ้าแสดงออกมาในขณะนี้คือโทสะ อันเป็นสาเหตุหลักที่จะทำให้ดูแรนดัล ยูกิและคาเทจต้องจบชีวิตอยู่ในการต่อสู้ที่นครมิสต์”

                   

                    เสียงเน้นย้ำของแมกซิมิเลี่ยนดังขึ้นทีละคำอย่างชัดเจน มิได้เป็นการตะคอกหรือตวาด แต่เป็นการพูดที่อยู่ในสติอย่างชัดถ้อยชัดคำ มุ่งหวังจะเตือนสติให้บุตรชายรู้สึกตัว “ทั้งสามเกือบต้องตายด้วยน้ำมือของเจ้า ภายใต้กระบี่ของเจ้า หากพวกเขาเสียชีวิตไปจริง คนที่สังหารพวกเขาทั้งสามก็คือเจ้า ไม่อาจเป็นผู้ใดได้อีก”

                    !?!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×