คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #202 : เล่ม 7 - ตอนที่ 95 - ภารกิจเริ่มต้น (2)
ทันใดที่ตะวันลับเส้นขอบฟ้า บุรุษหนุ่มผมน้ำเงินได้ขึ้นมายืนอยู่บนเนินเข้าข้างเมืองเบริลดั่งครั้งก่อน
ครั้งที่แล้วบลูมาพร้อมกับสตรีอีกนางหนึ่งที่ยังไม่ทราบความเป็นมา เปรียบเสมือนบุคคลห่างไกลคนหนึ่ง จนกระทั่งสตรีนางนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา การลงมือด้วยตัวคนเดียวนั้นเสี่ยงยิ่งกว่าการลงมือสองคนอยู่อักโข ครั้งก่อนหากมิได้เจสช่วยดูทางหนีทีไล่โอกาสที่บลูจะมายืนอยู่ในจุดนี้อีกครั้งคงจะไม่มี แต่บลูในขณะนี้มิใช่บลูคนก่อน เขาผ่านการพ่ายแพ้อย่างหมดรูปมาแล้ว ผ่านความสิ้นหวังจากศาสตร์แห่งเอลที่เขามั่นใจมากที่สุด ก้าวล้ำระดับเหนือเมฆาด้วยการโคจรเอลในแนวใหม่และอาคมแปรผันที่ตัวเขาเป็นผู้บัญญัติขึ้น บุรุษผมน้ำเงินผู้นี้เปี่ยมด้วยความมั่นใจว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ
ภารกิจที่ใช้คนเพียงคนเดียวทำลายกองทัพของเมืองทั้งเมือง ภารกิจที่ไม่ว่ายอดฝีมือคนใดก็ล้วนไม่มีความมั่นใจว่าจะทำสำเร็จ นอกเสียจากบุรุษหนุ่มผู้นี้
เบื้องล่างของเขาเป็นเมืองอันดับสองของราชอาณาจักรลาเวนดิส เต็มไปด้วยทหารหลายพันนายเฝ้าตรวจตราอย่างเข้มงวด รวมไปถึงทหารชุดใหม่ที่เพิ่มกำลังเข้ามาตรวจตราพื้นที่ด้านล่างของเนินผา หากบลูจะใช้วิธีการเหินลงไปดั่งครั้งก่อนรับรองได้ว่าเขาต้องถูกสังเกตพบ และนั่นจะนำมาซึ่งจุดจบในเสี้ยววินาที
สายตาทั้งสองของบุรุษหนุ่มกลับมิได้มองลงไปเบื้องล่างแม้แต่น้อย เขาแหงนหน้ามองดวงตะวันและเมฆาที่ลอยอยู่เหนือศีรษะ ชูมือขึ้นสูงราวกับว่าจะยื่นออกไปสัมผัสท้องฟ้า
‘ภารกิจของท่านจะเริ่มแล้วใช่หรือไม่?’ เสียงสตรีนางหนึ่งดังขึ้นจากจิตใจ
‘ใช่แล้ว’ บุรุษหนุ่มนึกคิด
‘ข้าไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าขอให้ท่านโชคดี ข้าทราบดีว่าถ้าท่านคิดจะพึ่งพาดวงชะตาคงจะไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ ในเมื่อภารกิจนี้เป็นสิ่งที่ท่านยอมรับและตั้งใจจะกระทำมันให้สำเร็จ ข้าเองก็เชื่อมั่นว่าท่านจะต้องกระทำได้อย่างที่ท่านตั้งเป้าหมายไว้ … ข้าคงจะไม่สื่อสารถึงท่านผ่านแหวนคู่ชะตาสักระยะหนึ่ง แต่ก่อนที่ท่านจะเริ่มปฏิบัติการนั้นช่วยตอบคำถามข้าเรื่องหนึ่งได้หรือไม่ ว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้?’
‘ข้ากำลัง … สัมผัสถึงท้องฟ้า … และความรู้สึกนี้ทำให้ข้าอยากกล่าวว่า ข้ารักเจ้า’
‘ข้าก็เช่นกัน’
การติดต่อระหว่างบุรุษหนุ่มหญิงสาวพลันขาดช่วงลง สายตาของบลูในขณะนี้บ่งบอกถึงความเอาจริงอย่างเต็มเปี่ยม เอลในร่างของบุรุษหนุ่มกำเนิดจากจุดกำเนิดทั้งสี่สลับเปลี่ยนกัน ใช้เอลที่สามอันเป็นเอลแห่งลมค่อยๆยกร่างของตนเองให้เบาขึ้นเรื่อยๆ โดยปราศจากแสงสีเขียวที่อาจบ่งบอกตำแหน่งของเขาให้ศัตรูทราบ อันเป็นบัญญัติหนึ่งในอาคมแปรผันนามว่า ‘ไร้แสงสี’
ทันใดนั้นเองสายลมวูบหนึ่งก็พัดผ่านมาจากน่านฟ้า ยินเสียงบลูกล่าวกับตนเองว่า “ภารกิจที่หนึ่งเริ่มได้”
เสี้ยววินาทีนั้นเองบลูกางแขนสองข้างออก แผ่กระจายเอลของตนไปกับบรรยากาศรอบข้าง กระโดดลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยใช้สายลมที่พัดกรรโชกมานั้นเป็นตัวช่วย บุรุษหนุ่มศึกษาสภาพอากาศอันแปรปรวนเหนือเนินเขานี้ไว้ล่วงหน้า และทราบว่าในยามเช้าหลังรุ่งอรุณไม่นานสายลมหอบใหญ่จะพัดจากทะเลเข้าสู่ชายฝั่ง บลูวางแผนที่จะใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ ใช้เอลที่สามลดน้ำหนักของร่างตนเองให้เบาดุจดั่งกระดาษ ให้สายลมหอบนั้นพัดพาร่างของขึ้นสู่ชั้นเมฆาใช้เมฆหมอกบดบังสายตามิใหมองเห็นด้วยตาเปล่า อาศัยจุดบอดของตะวันที่สาดแสงแรงกล้าลงสู่พื้นดิน ลอยขึ้นเหนือเมืองเบริลอันใหญ่โตโดยไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้!
บลูมิใช่เซียนวิเศษที่สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ตามใจปรารถนา การที่เขาสามารถทำเช่นนี้ได้มาจากการใช้แรงลมช่วยเหลือล้วนๆ บุรุษหนุ่มเพียงสามารถ “ลอย” ได้อยู่บนฟ้าตราบใดที่มีแรงลมเกื้อหนุน เขาไม่อาจเปลี่ยนทิศทางหรือกำหนดเส้นทางการร่อนได้เลย เพียงแค่การควบคุมจุดกำเนิดเอลทั้งสี่ให้กำเนิดเอลที่สามออกมาอย่างต่อเนื่องก็ลำบากเขามากแล้ว
บุรุษหนุ่มมองลงไปเบื้องล่างเห็นตนเองลอยข้ามแนวกำแพงเมืองและจวนมินสเตรลมาได้เรียบร้อย ผ่านเข้ามาในจุดปลอดภัยที่สมควรจะร่อนลงเสียที เพียงแต่หากเขาจะค่อยๆผ่อนให้ร่างกายร่วงหล่นลงมาอย่างช้าๆรับรองได้ว่าเขาต้องกลายเป็นตัวเม่นก่อนจะถึงพื้น ทหารทั้งเมืองสามารถสังเกตตัวประหลาดที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าและพากันกำนัลศรให้เขาคนละดอกสองดอก
บลูคิดหาวิธีการลงอย่างเหมาะสม สิ่งเดียวที่สามารถช่วยชีวิตเขาจากการตกลงจากท้องฟ้าสูงได้คือการลดแรงกระแทก มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถลดแรงกระแทกและซ่อนตัวมิให้เขาถูกค้นพบได้ง่าย อันเป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในเมืองใหญ่เช่นนี้ สิ่งนั้นคือ “กองฟาง”
เมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่สุด บลูกำหนดลมหายใจค่อยๆคลายแหล่งกำเนิดเอลแห่งหนึ่ง เหลือเพียงแหล่งกำเนิดสามแหล่งที่ทำงานต่อเนื่องกัน ด้วยเหตุนี้ร่างกายของเขาจึงมีน้ำหนักมากขึ้นมิได้เบาดุจดั่งแผ่นกระดาษอีก ระดับความสูงจึงถูกลดลงมาเรื่อยๆจนถึงระดับที่สูงเทียบได้กับยอดหอคอย ในขณะนั้นเองบลูพลันหยุดการก่อกำเนิดเอลโดยสิ้นเชิง ตัวเขาตกจากฟากฟ้าหันหัวมุ่งลงมาใส่กองฟางที่ใหญ่ที่สุดข้างสถานปศุสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง และก่อนที่ร่างเขาจะสัมผัสพื้นไม่นาน บลูได้ใช้จุดกำเนิดเอลที่หยุดทำงานไปแห่งแรกร่ายเอลที่หนึ่งขึ้นมาเป็นเกราะปฐพีช่วยลดแรงกระแทกอีกทางหนึ่ง
โครม! เสียงร่างของบุรุษหนุ่มกระทบลงบนกองฟาง
เสียงนี้ดังก็จริงแต่กลับไม่มีผู้ใดสนใจ ในสถานปศุสัตว์ที่มีพื้นที่หลายสิบไร่นั้นการที่มีเสียงดังโครมครามกลับเป็นเรื่องปกติ ผู้รอบข้างพากันนึกว่าวัวหนุ่มสักตัวหนึ่งวิ่งกระแทกรั้วหาทางออกไปเบื้องนอกอย่างที่เคยพบเห็นกัน
“โอย” บลูมีสีหน้าไม่ใคร่จะดีนักที่ต้องมาดมกลิ่นอันฉุนเฉียวในกองฟางข้างปุ๋ยหมักที่ทำจากมูลสัตว์ ข้อดียังเหลือเพียงหนึ่งเดียวที่เขายังทราบว่าร่างกายตนเองอยู่ครบทุกประการ มิได้มีส่วนใดส่วนหนึ่งหักหรือบิดเบี้ยวไปจากการร่อนลงจากท้องฟ้าอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง บุรุษหนุ่มยอมรับว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการเสี่ยงอย่างมาก แต่ด้วยความเชื่อมั่นแกมอยากลองดีที่มีอยู่ในสายเลือดก็ทำให้เขาสามารถผ่านแนวป้องกันภายนอกมาได้โดยปลอดภัย
‘หากให้กระทำเช่นนี้อีกเป็นครั้งที่สอง เห็นทีจะต้องขอปฏิเสธ’ เป็นความคิดแรกที่วาบเข้ามาในห้วงสมองของบลูหลังจากที่ร่วงหล่นลงกระทบพื้นดิน
บุรุษหนุ่มใช้เวลาราวชั่วน้ำเดือดในการพักผ่อน ดื่มตัวยาแก้บอบช้ำที่พกพาติดตัว ฟื้นคืนเอลที่ใช้ออกไปเมื่อครู่ การเหินร่อนเพียงชั่วขณะกลับทำให้เขาสูญเสียเอลไปขนานใหญ่ จำต้องพักให้จุดกำเนิดทั้งสี่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้ถึงสิบส่วนอีกครั้ง
เวลาของการพักผ่อนผ่านไปบลูพบว่าบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายเริ่มจะดีขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตัวยาแก้บอบช้ำและส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเอลในร่างที่ฟื้นคืน เมื่อเขาพบว่านอกกองฟางเป็นสถานที่ใดก็ค่อยๆศึกษาทำความเข้าใจกับมัน เทียบตำแหน่งกับภาพแผนที่เมืองที่บันทึกอยู่ในความทรงจำอย่างละเอียด กำหนดเป้าหมายอันแน่นอนซึ่งเป็นที่ติดต่อกับสายภายในเมืองของมาร์ควิสแห่งซิลเวอร์แซนด์
บุรุษหนุ่มระบายลมออกจากปากยาวๆ กล่าวกับตนเองว่า “ภารกิจที่หนึ่งเสร็จสิ้น ภารกิจที่สองเริ่มได้” แล้วจึงวิ่งทะลุออกจากกองฟางไปหาสายลับผู้นั้น
ความคิดเห็น