ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #123 : เล่ม 5.1 - ตอนที่ 63.1 - บทสนทนาในกระท่อมร้าง (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 915
      0
      20 มี.ค. 51

    ชิล่ามองลูทด้วยความประหลาดใจ สลายศาสตราอาคมที่อยู่ในมือไปชั่วคราว ปล่อยท่อนแขนที่ขาวเปล่งปลั่งนั้นลงข้างกาย เอ่ยปกชมเชยว่า “นึกไม่ถึงว่าบุรุษหนุ่มอายุเพียงเท่านี้สามารถต้านทานการจู่โจมได้กระบวนท่าหนึ่ง แต่คงเห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าแผนถ่วงเวลานั้นไม่มีผลสักนิด หากแม้นพวกนางทั้งสองหนีไปไกลถึงพันสองพันวา ก็ไม่เกินขีดจำกัดของข้าที่จะตามล่าสังหารให้สิ้น หากเจ้ามิใช่คนปัญญาอ่อนก็อย่าได้เล่นลวดลายอันใด ตอบคำถามของข้ามาดีๆว่าสังกัดอยู่กับผู้ใด ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทนฆ่าเจ้าทิ้งเสียบัดนี้”
    จะอย่างไรลูทก็ไม่ยอมกล่าวความจริงออกไป เพราะนั่นหมายความว่าชีวิตของเขาจะไร้ค่าในบัดดล เมื่อบุคคลผู้หนึ่งไม่มีคุณค่า อีกทั้งล่วงรู้ความลับของฝ่ายตรงข้าม มีอย่างหรือที่เจ้าแคว้นทั้งสองจะปล่อยเขาไป? สิ่งเดียวที่ลูทพอจะพึ่งได้ในตอนนี้คือวรยุทธของตน กระบวนท่าป้อนกันตัวเมื่อครู่มาจากปฏิกิริยาของร่างกาย ที่ช่วยชีวิตตนเองเอาไว้ในยามคับขัน ปฏิกิริยาที่เกิดจากการฝึกศาสตร์แห่งซันตลอดห้าวันหลังเหตุการณ์ปฏิวัติ หล่อหลอมเคล็ดกระบี่ที่แจ๊คสอนให้ด้วยโลหิตเข้ากับวิชาฝีมือของตนเอง ฉะนั้นกระบวนท่าป้องกันตัวเมื่อครู่นั้นมิใช่เกิดจากโชคช่วย แต่เป็นดอกผลของการย่อยสลายศาสตร์แห่งซัน ให้เรียงร้อยกันอยู่ในทุกขณะจิต และบรรจุได้ในเสี้ยววินาที
    ลูทยื่นคมกระบี่เขี้ยวราชสีห์ไปเบื้องหน้าแทนคำตอบ กล่าวเบี่ยงเบนสมาธิฝ่ายตรงข้ามว่าว่า “ข้ามิใช่คนปัญญาอ่อนที่จะหลงเชื่อคารมเหล่านั้น จะบอกหรือไม่บอกพวกเจ้าก็จะสังหารข้าอยู่วันยังค่ำ เช่นนี้สู้ไม่บอกปล่อยให้พวกเจ้าพกพาความคับแค้นกลับไปเสียดีกว่าหรือไม่? ... แต่ข้าจะบอกให้เอาบุญอย่างหนึ่งว่า แผนการของพวกเจ้าทั้งหมดถูกส่งไปกับพิราบสื่อสารเรียบร้อยแล้ว”
    “ว่ากระไร!? ทั้งโทเซนและชิล่าอุทานขึ้นมาพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าคำโป้ปดนี้จู่โจมตรงจุดอ่อนพอดิบพอดี ถึงกับทำให้ยอดฝีมือระดับเจ้าครองแคว้นทั้งสองสีหน้าแปรเปลี่ยน เกิดเพลิงโทสะหมายจะสังหารเขาทิ้ง แต่นั่นกลับเป็นพฤติกรรมที่ลูทอยากให้เกิด เพราะโอกาสนี้จะเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดในการชิงจู่โจม
    เสียงกระบี่เขี้ยวราชสีห์คำรามดังกระหึ่ม สาดประกายสีทองเจิดจรัสชอนไชสายตา ฟันออกติดๆกันสามดาบ ด้วยเพลงดาบที่ลอกเลียนมาจากชมิทท่าร์ของแจ๊ค ซึ่งพรานหนุ่มนำมาประยุกต์เข้ากับอาวุธประเภทเซเบอร์ จากคำกล่าวของแจ๊คและอาจารย์ดาธที่ว่าการนำเอาประสิทธิภาพของเขี้ยวราชสีห์ออกมาให้ถึงที่สุดนั้น จำเป็นต้องใช้ทั้งเพลงกระบี่และเพลงดาบ จึงจดจำห้าดาบที่แจ๊คสอนให้จนขึ้นใจ นึกย้อนไปถึงคราวที่พรานใหญ่ผู้นี้ต่อสู้กับฝูงโจรและจระเข้ยักษ์ จนบัญญัติเพลงดาบของตัวเองขึ้นมาชุดหนึ่ง แม้จะเป็นเพลงดาบที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ แต่มันก็ช่วยให้ฝีมือพรานหนุ่มผู้นี้พัฒนาขึ้นไปอย่างน่าตกใจ
    ด้วยจังหวะที่เหมาะสมทำให้ลูทชิงจู่โจมได้ก่อน ตามแผนชิงลงมือก่อนที่ถนัด ทั้งชิล่าและโทเซนถูกวาจาโป้ปดเบี่ยงเบนความสนใจชั่วขณะจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ กระบี่ราชสีห์คำรณที่ฟันออกมานั้นจู่โจมมาด้วยพลังสุดตัว เรียกได้ว่าเป็นการทุ่มเทหมดหน้าตัก บรรจุซันทั้งหมดลงไปในคราเดียว ยอดฝีมือทั้งสองที่จัดอยู่ในระดับวิถีแห่งฟ้าถึงกับต้องรับมือด้วยความลำบาก
    แต่ผู้ที่กุมจังหวะที่ดีที่สุดก็มิได้หมายความว่าจะชนะเสมอไป ตัวแปรอีกตัวหนึ่งที่มีผลอย่างยิ่งก็คือ ระดับความสามารถของบุคคลนั้นๆ
    โทเซนผู้สูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่งใช้ข้อแขนตั้งรับกระบี่เขี้ยวราชสีห์เอาไว้มั่นคงดุจขุนเขาตามแนวทางซันกระแทก แม้เจ้าครองแคว้นธอร์จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทำให้มิอาจจู่โจมสวนกลับ แต่กระบี่ราชสีห์คำรณกลับทำอะไรมันมิได้แม้แต่น้อย ส่วนเจ้าครองแคว้นอิซซ์มิได้ตั้งรับโดยหักโหม นางก้าวขาถอยหลังกลับไปด้วยความเร็วสูงก้าวหนึ่ง หลบรอดกระบี่เขี้ยวราชสีห์ไปได้ฉิวเฉียด แต่ก็ทำให้สูญเสียโอกาสเปลี่ยนรับเป็นรุกเช่นกัน
    ฝีมือระดับวิถีแห่งฟ้าและสำนึกแห่งซันมิใช่จะเสียทีโดยง่าย
    กระบี่ของลูทยังมีท่าตามติดจึงฟาดฟันต่อเนื่องออกไป แต่กลับไม่เป็นประโยชน์แม้แต่น้อย ความมีเปรียบที่ชิงมาได้เมื่อครู่ถูกลบเลือนไปหมด สภาวะที่รุนแรงถูกใช้ไปหมดกับกระบี่แรก เมื่อยอดฝีมือทั้งสองตั้งลำได้ ท่าตามติดเหล่านี้จึงเปรียบเสมือนเด็กเล่นขายของ มิอาจกระทบถูกเจ้าครองแคว้นทั้งสองแม้แต่ชายเสื้อ
    เสียงเคร้งดังขึ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อปลอกแขนของโทเซนกระแทกเข้าใส่เขี้ยวราชสีห์ ส่งผ่านซันกระแทกที่รุนแรงมาตามคมกระบี่ จนลูทต้องซวนเซไปด้านหลังสองสามก้าว ชิล่าพลันบุกเข้ามาประชิดตัวในเสี้ยววินาที เสียบมีดธาตุลมเข้าที่ท้องน้อย
    ลูทฝืนใจใช้กระบี่เขี้ยวราชสีห์ต้านรับอีกครั้ง คราวนี้ต้องกระอักโลหิตเซถลาไปนอนกองอยู่บนพื้น แม้มีแรงพอจะลุกขึ้นมาได้ ก็มิอาจต่อสู้ได้ครึ่งหนึ่งของเมื่อครู่ โลหิตที่ซึมออกมาจากมุมปากเปรอะเปื้อนชุดหนัง นับว่าไม่เหลือทางออกอื่นใดอีก นอกจากรามือยอมรับความตายแต่โดยดี
    พอลูทตั้งสติได้มองไปยังข้อแขนของโทเซนกลับต้องเบิ่งตากลมกว้าง โพล่งออกมาว่า “ปลอกแขนไหมฟ้า!?
    โทเซนยิ้มมุมปากด้วยความภูมิใจเมื่อบุรุษหนุ่มผู้นี้รู้จักชื่ออาวุธของตน ซึ่งติดอยู่ในทำเนียบสิบหกยอดศัสตราวุธ จึงกล่าวว่า “สายตาไม่เลว”
    เจ้าครองแคว้นอิซซ์ใช้สายตาชั้นเดียวที่คมประดุจเหยี่ยว มองมาที่ชายหนุ่มที่นอนกองอยู่บนพื้นพร้อมกล่าวกึ่งชมเชยว่า “นับว่าเจ้าเป็นบุรุษอายุเยาว์ที่มีอนาคตยาวไกล สามารถต้านการจู่โจมของพวกเราในระดับวิถีแห่งฟ้าและสำนึกแห่งซันได้ถึงสามครั้งด้วยกัน เป็นที่น่าเสียดายอยู่บ้างที่คนอย่างเจ้าต้องมาตายเสียในตอนนี้ ... เช่นนี้ดีไหม? ก่อนเจ้าจะตายอย่างงมงายข้ามีเงื่อนไขจะเสนอข้อหนึ่ง นั่นคือถ้าเจ้ายอมบอกเรื่องราวทั้งหลายแต่โดยดี และยอมเป็นลูกน้องทำงานเป็นสายสืบ ข้าจะชุบเลี้ยงเจ้าดั่งบริวารคนสนิท ให้อนาคตอันเจิดจรัสกับเจ้าอีกครั้ง อีกทั้งจะไม่ทำร้ายสตรีทั้งสอง เพียงแค่นางทั้งคู่ต้องยอมจำนนเช่นกัน เจ้าเห็นว่าอย่างไร?
    นับว่าเป็นเงื่อนไขที่เย้ายวนใจยิ่ง โดยเฉพาะกับบุคคลที่หมดหนทางสู้ ชีวิตของตนตกอยู่ในกำมือของฝ่ายตรงข้าม ขอเพียงตอบตกลงและยอมให้ความร่วมมือก็จะได้ชีวิตกลับคืนไปใหม่อีกครั้ง มิหนำซ้ำอาจเป็นชีวิตที่ดีกว่าเก่าอีกด้วย แต่ทั้งหมดนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของวาจาอันเป็นสัจจะ ซึ่งลูทเชื่อว่าคงไม่มีทางเกิดขึ้นกับเจ้าครองแคว้นอิซซ์ผู้นี้ และแม้ว่านางจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มอบให้ พรานหนุ่มก็ยังคงจะตอบปฏิเสธอยู่ดี เพราะการทรยศสหายนั้นมิใช่วิสัยของเขา
    ขณะที่ลูทกำลังจะตอบปฏิเสธก็มีเสียงหัวเราะของชายชราดังขึ้นอีกครั้ง เสียงหัวเราะที่ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ แต่เจ้าครองแคว้นทั้งสองมิอาจหาต้นตอพบ จนเจ้าครองแคว้นโทเซนใช้ตาข้างเดียวมองมายังพื้นที่ว่างจุดหนึ่ง กล่าวว่า “ยอดคนจากสารทิศใด ปรากฏตัวออกมา”
    เสียงหัวเราะฮาๆยังคงดังก้อง จากนั้นก็มีแสงสีม่วงอันเป็นสัญลักษณ์ของเอลแห่งมิติปรากฏขึ้นที่ใต้ร่างของลูท ชายชราผู้หนึ่งผมขาวโพลนใส่ชุดช่างตีเหล็กเดินออกมาจากแสงนั้น กล่าวว่า “น่าเสียดายที่เจ้าหนุ่มคนนี้มิอาจเข้าเป็นพวกเดียวกับเจ้าได้ เพราะข้าเองก็ต้องการเขาเช่นกัน!
    โทเซนกับชิล่าทั้งสองผนึกกำลังจู่โจมชายชราผมขาว ที่ดูเหมือนคนสติฟั่นเฟือนในทันที แต่ก็มิอาจกระทบถูกทั้งร่างของชายชราและร่างของลูทได้ เอลแห่งมิติสีม่วงสว่างขึ้นวาบหนึ่งแล้วพลันดับไปพร้อมกับร่างของคนทั้งสอง
    ทิ้งเอาไว้แต่คำกล่าวของชายชราสะท้อนไปมาในแก้วหูว่า “ไม่ต้องลำบากพวกเจ้าส่ง”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×