ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #121 : เล่ม 5.1 - ตอนที่ 63.1 - บทสนทนาในกระท่อมร้าง (2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 872
      0
      15 มี.ค. 51

    การสนทนาที่ห้องโถงในบ้านร้างยังคงดำเนินต่อไป ภายใต้การคงอยู่ของบุรุษหนุ่มหญิงสาวทั้งสาม
    คำถามของเจ้าครองแคว้นอิซซ์ผู้เป็นสตรีนามชิล่าดังขึ้นว่า “ผู้ติดตามของท่านอุปราชอีกคนหนึ่งนั้นคงมิต้องแนะนำกันแล้ว เมื่อก่อนข้ามีโอกาสได้รู้จักกับทายาทตระกูลวิลล์ผู้นี้ในระดับหนึ่ง เรื่องฝีไม้ลายมือคงมิใช่คำถามที่ต้องถามกันอีก แต่กลับมีข้อสงสัยที่ว่าเหตุใดน้องเราจึงวางใจในวาคิน? ขออภัยที่ข้าผู้พี่ต้องเอ่ยปากถามตรงๆ นิสัยของข้าเปรียบเสมือนขวานผ่าซากเช่นนี้ และการเจรจาจะไม่สำเร็จไปด้วยดีหากพวกเรามิอาจไว้วางใจซึ่งกันและกันในเบื้องต้น จริงหรือไม่?
                    คำว่า น้องเราและ ข้าผู้พี่แสดงให้เห็นว่าอุปราชผู้นี้มีอายุน้อยกว่าชิล่า และเป็นการเพิ่มความสนิทสนมใกล้ชิด ให้เหมือนกับว่าร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน ระหว่างผู้เรียกและผู้ถูกเรียก
                    วาคินมิต้องรอให้บุรุษหนุ่มลึกลับเอ่ยปาก กล่าวว่า “เรียนท่านเจ้าครองแคว้นชิล่า ข้าเองยอมรับว่าเคยสังกัดอยู่ในตระกูลวิลล์จริงอยู่ แต่เรื่องจริงอีกสิ่งหนึ่งที่มิได้เปิดเผยออกไปให้สาธารณะชนรับรู้ก็คือ ตัวข้าเองมิได้พึ่งจะเข้าสังกัดท่านจักรพรรดิเมื่อเหตุการณ์ปฏิวัติที่ผ่านมา ทำงานเป็นสายลับเข้าร่วมกับกลุ่มของท่านเป็นเวลากว่าสองปีแล้ว การกล่าวเช่นนี้มิใช่จะเป็นการบ่งชี้เอาความดีความชอบว่าถ้าไม่มีข้าการปฏิวัติที่ผ่านมาจะไม่สำเร็จ แต่สามารถบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าหากขาดข้าไปผู้หนึ่งการลงมือที่ตึกธงดาบคงมิอาจราบรื่นเช่นนี้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดอันอยากจะให้เจ้าครองแคว้นพิจารณาก็คือ ความสัมพันธ์ที่ข้ามีอยู่กับตระกูลวิลล์ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จนในบัดนี้มิได้ใช้ชื่อสกุลวิลล์อีกต่อไป”
                    ชายหนุ่มลึกลับที่ดำรงตำแหน่งอุปราชนั้นเอ่ยปากสนับสนุนลูกน้องตนเองว่า “เรื่องความซื่อสัตย์ของวาคินนั้นข้าสามารถรับรองได้ด้วยตัวเอง ทั้งพริมและวาคินพึ่งจะสร้างผลงานชิ้นโตในวันก่อการที่ผ่านมา ท่านจักรพรรดิจึงกำหนดให้อัศวินดำทั้งสองอยู่ภายใต้สังกัดของข้าโดยตรง ส่งผลให้ข้ารับผิดชอบการกระทำทุกอย่างของพวกเขา เช่นนี้คงสร้างความไว้วางใจให้กับท่านเจ้าครองแคว้นได้แล้วกระมัง?
                    อัศวินดำทั้งสอง!? หรือว่าวาคินได้รับการแต่งตั้งเป็นอัศวินดำอีกคนหนึ่ง เช่นนี้อัศวินดำอีกสามคนที่เป็นนักแม่นธนูนั่นคือผู้ใด?
                    เจ้าครองแคว้นชิล่า กล่าวว่า “เมื่อได้ฟังเหตุผลในเชิงลึกและมีท่านอุปราชรับรองดังนี้ข้าก็สบายใจ นับแต่นี้ไปความระแวงสงสัยต่อกันและกันคงไม่มีอีก”
                    เป็นวาคินอีกแล้ว! หากไม่มีมันผู้นี้ผู้ปกครองจอห์นและสมาชิกตระกูลวิลล์อีกร้อยกว่าชีวิตคงมิต้องตายอย่างอนาถ สักวันหนึ่งข้าจะกำจัดกากเดนผู้นี้ให้จงได้!
                    เจ้าครองแคว้นโทเซนกล่าวด้วยเสียงอันห้าวหาญว่า “ในเมื่อความเป็นมาเป็นไปทุกอย่างกระจ่างและโปร่งใส พวกเราเริ่มเข้าประเด็นกันดีกว่าหรือไม่?
    “เชิญท่านเจ้าครองแคว้นเริ่มก่อน”
    ได้ยินเสียงโทเซนกล่าวต่อไปว่า “จากสถานการณ์ปัจจุบันจักรวรรดิของท่านเวอร์น่อนเรียกได้ว่าครองแผ่นดินนอร์ไปกว่าครึ่ง เว้นเสียแต่ดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้และรัฐทางตะวันออกที่นำโดยการาดอสและคาร์ล ข้าเชื่อมั่นว่าเมืองเจนีสที่เล็กเท่าหยิบมือคงไม่เป็นปัญหายืดเยื้อกับกองกำลังของท่านจักรพรรดิแต่อย่างใด แต่ปัญหาที่แท้จริงของพวกท่านนั้นสมควรจะอยู่ที่คาร์ลแห่งรัฐตะวันออกเสียมากกว่า ซึ่งบังเอิญว่าดินแดนส่วนนี้อยู่ติดกับแคว้นธอร์ของข้าพอดี”
                    อุปราชหนุ่มหัวเราะขึ้นฮาๆ กล่าวว่า “ท่านโทเซนเอ่ยปากครั้งเดียวก็ตรงเป้าตรงประเด็น ข้าคิดไม่ผิดที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับท่านเจ้าครองแคว้นทั้งสองจริงๆ ... ท่านกล่าวไม่ผิด พวกเราต้องการยึดครองแผ่นดินตะวันออก กำจัดพวกคาร์ลให้สิ้นซาก รวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งอีกครั้งในชื่อของจักรวรรดินอร์ หากดูจากรูปการณ์ในตอนนี้ลำพังกำลังของพวกเราสามารถยึดครองดินแดนตอนใต้และทางตะวันออกได้จริงอยู่ แต่จากที่ข้าคำนวณอาจต้องใช้เวลาและกำลังพลที่มากเกินความจำเป็น การสงครามเช่นนี้จะส่งผลให้สูญเสียทรัพยากรอันมีค่าไปโดยใช่เหตุ หากการเจรจาในวันนี้สำเร็จไปด้วยดี ท่านเจ้าครองแคว้นสามารถส่งกำลังพลมาช่วยเหลือแผนของพวกเรา ดำเนินการตีขนาบจากทั้งทางทิศตะวันตกและทิศใต้ เช่นนั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ด้วยทัพพิสดารของท่านเจ้าครองแคว้นต่อให้มีคาร์ลอีกสิบคนก็มิอาจทำอย่างไรได้ เมืองเอเวอร์เกรซต้องแตกพ่ายไปในเร็ววัน”
                    เจ้าครองแคว้นชิล่า กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้าเข้าใจในแผนของท่านอุปราชเป็นอย่างดี หากกองทัพของพวกเราบุกขึ้นเหนือไปจ่อป้อมวอเตอร์ดีพเอาไว้ ตัดเส้นทางลำเลียงจากเอเวอร์เกรซถึงป้อมปราการได้ ที่มั่นทั้งสองจากเชื่อมกันจะถูกตัดขาด ป้อมปราการวอเตอร์ดีพจะถูกโดดเดี่ยวขาดการสนับสนุนจากเอเวอร์เกรซ เมื่อทหารในป้อมอ่อนเปลี้ยจากการขาดเสบียง ด้วยแสนยานุภาพของกองทัพท่านอุปราชจะต้องทะลวงการป้องกันเข้าไปได้อย่างราบรื่นใช่หรือไม่? ข้าขอกล่าวตามตรงว่าสิ้งนั้นเป็นสิ่งที่ข้าและท่านโทเซนกำลังเตรียมการ เพียงติดอยู่เพียงปัญหาหนึ่ง”
                    “ปัญหาอันใด?” อุปราชหนุ่มถามแล้วกล่าวต่อไปว่า “เป็นเรื่องของประธานาธิบดีราชิตใช่หรือไม่?
                    เจ้าครองแคว้นโทเซนกล่าวตอบในทันใดว่า “มิผิด ปัญหาของพวกเราในตอนนี้คือเรื่องที่มิอาจยกกองกำลังออกนอกประเทศได้โดยพลการ เนื่องจากการกระทำนี้จะขัดจากกฎอัยการศึกซึ่งเป็นหนึ่งในบัญญัติแห่งเอนเซล ที่กำหนดโดยประธานาธิบดีในนครหลวงเอนเซลเลียร์ ด้วยอำนาจของเราสองผู้เป็นเจ้าครองแคว้นยังมิอาจกระทำเช่นนั้นได้ หากเสี้ยนหนามตำตาอย่างราชิตยังไม่หมดไป พวกเราคงจะไม่สามารถเดินทัพไปช่วยการศึกที่เอเวอร์เกรซ จึงอยากขอความช่วยเหลือจากจักรวรรดินอร์ของท่าน ให้ตรึงกองกำลังรอบเอนเซลเลียร์มิให้แคว้นอื่นยกมาช่วยเหลือ และหยิบยืมกองทหารม้าอีกเพียงหมื่นนายเป็นทัพพิสดาร กองกำลังของข้าและเจ้าครองแคว้นชิล่าจะบุกเข้าเอนเซลเลียร์พร้อมกัน นครหลวงเอนเซลเลียร์จะตกอยู่ในกำมือของพวกเราอีกแห่งหนึ่ง
    ทันใดที่ข้าโทเซนได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และเจ้าครองแคว้นชิล่าดำรงตำแหน่งประธานสมาพันธ์เอลเทค  สิ่งที่ท่านขอมาทุกอย่างจะเป็นไปตามที่พวกท่านร้องขอทุกประการ กองกำลังผสมของเราจะกวาดล้างดินแดนตะวันออกของคาร์ลให้สิ้นซาก ... หรือมากไปกว่านั้นก็ย่อมได้”
                    ประธานสมาพันธ์เอลเทคเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจมากตำแหน่งหนึ่งในเอนเซล เนื่องจากชาวเอนเซลให้ความสำคัญกับการวิจัยเอลเทคประดุจชาวนอร์ให้ความสำคัญกับการสู้รบ ตำแหน่งนี้จึงเปรียบเสมือนผู้ที่กุมเทคโนโลยีสูงสุดในแผ่นดินเอาไว้ในมือ สามารถเพาะเป็นขุมกำลังและอำนาจการต่อรองมหาศาล ซึ่งในปัจจุบันตำแหน่งนี้ถูกควบรวมไปกับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยมีราชิตคนเดียวเป็นผู้นั่งเก้าอี้ทั้งสองตำแหน่งนี่อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้เจ้าครองแคว้นโทเซนและชิล่าทั้งสองไม่พอใจ
                    อุปราชหนุ่มหัวเราะพลางกล่าวว่า “เรื่องนี้มิต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้น การก่อสงครามในนครเอนเซลเลียร์อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม อย่างน้อยผู้คนต้องล้มตายนับหมื่น การปกครองและเศรษฐกิจภายในของท่านจะเสียหายอีกมหาศาล ข้ามีอีกวิธีหนึ่งอยากจะนำเสนอ ท่านเจ้าครองแคว้นลองคิดตามดูดีๆ หากอยู่มาวันหนึ่ง ประธานาธิบดีราชิตและขุนนางมือซ้ายขวาเกิดตายไปโดยกะทันหัน สถานการณ์ของนครหลวงเอนเซลเลียร์จะเป็นเช่นไร?
                    ทันใดนั้นเสียงหัวเราะของเจ้าครองแคว้นโทเซนและชิล่าดังประสานกันขึ้นภายในบ้านร้าง พร้อมคำกล่าวของชิล่าที่ว่า “เมื่อนั้นเอนเซลเลียร์จะตกอยู่ในสภาพมังกรไร้เศียร และผู้ที่สมควรจะดำรงตำแหน่งนี้คงจะต้องเป็นหนึ่งในสามเจ้าครองแคว้นที่ยังมีชีวิตอยู่ อันได้แก่ข้า โทเซนและมู่จื้อแห่งแคว้นโอเบอรอน เป็นที่รู้กันดีว่าแคว้นโอเบอรอนอยู่ภายใต้เขตการค้าเสรีเอนเซล-ลาเวนดิส ซึ่งแยกตัวเป็นกึ่งรัฐอิสระ มิอาจก้าวก่ายการปกครองภายใน ถึงตอนนั้นโทเซนคงจะก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีได้อย่างชอบธรรม”
                    อุปราชหนุ่มหยอดคำพูดเสริมว่า “และท่านชิล่าก็จะได้รับตำแหน่งประธานสมาพันธ์เอลเทคควบเจ้าครองแคว้นอิซซ์ โดยมิต้องเสียเลือดเนื้อใดๆ”  สิ้นสุดคำกล่าวนี้เสียงหัวเราะอันของบุคคลทั้งห้าก็ดังขึ้นพร้อมกัน เมื่อการตกลงเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองดำเนินมาถึงจุดที่ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ
                    โทเซนคิดอยู่ครู่หนึ่งกลับกล่าวทัดทานขึ้นว่า “การลอบสังหารราชิตและขุนนางมือซ้ายขวามิใช่เรื่องง่าย ข้าและชิล่าทั้งสองเคยร่วมหารือกันมาก่อนแล้ว พวกมันทั้งสามล้วนมีฝีมืออยู่ในระดับเดียวกับข้าและชิล่าเป็นอย่างน้อย ถ้าหากได้ท่านอุปราชมาร่วมแผนการนี้อาจมีความเป็นไปได้สูงพอสมควร แต่พวกเราต้องมีโอกาสและจังหวะที่เหมาะสม ใคร่ครวญโดยรอบคอบถึงความเป็นไปได้ทุกประการ มิเช่นนั้นหากแผนการล้มเหลว ราชิตและขุนนางมือซ้ายขวารู้ตัวล่วงหน้า พลันออกบัญญัติแห่งเอนเซลว่าด้วยเรื่องการก่อกบฏ เรื่องทุกประการจะเป็นอันจบสิ้นกัน”
                    อุปราชแห่งนอร์กล่าวว่า “ท่านเจ้าครองแคว้นมิต้องเป็นห่วงไป หากข้า พริม และวาคินลงมือพร้อมกับท่านทั้งสอง ราชิตและขุนนางมือซ้ายขวาจะมีความหมายอันใด?
                    หลังจากคำกล่าวประโยคนี้แววตาของเจ้าครองแคว้นทั้งสองก็เกิดความสับสนขึ้นภายในวูบหนึ่ง อุปราชหนุ่มแห่งอาณาจักรนอร์มิใช่เด็กอมมือ เห็นท่าทางกริ่งเกรงของเจ้าครองแคว้นทั้งสองจึงเข้าใจในบัดดลว่าฝ่ายตรงข้ามไม่เชื่อใจในฝีมือเขา พลางสะบัดแขนวูบหนึ่ง เร่งเร้าซันออกไปในแนวทางกระแทก บรรจุซันใส่อากาศรอบข้าง ลอดผ่านช่องว่างระหว่างที่นั่งของโทเซนและชิล่า จนเกิดเสียงระเบิดตูมหนึ่งที่ผนังด้านหลัง ทะลวงอิฐเป็นช่องแตกทะลุไปถึงห้องนอนที่อยู่ติดกัน พร้อมกับกล่าวว่า “ขออภัยที่ต้องแสดงฝีมืออันน่าทุเรศ”
                    สายตาของเจ้าครองแคว้นทั้งสองสบกันอีกครา ในใจทั้งประหวั่นพรั่นพรึงนึกไม่ถึงว่าอุปราชหนุ่มจะมีความเก่งกาจถึงเพียงนี้ เรียกได้ว่าเก่งกาจในระดับ “ปฏิพานแห่งซัน” ที่เทียบได้กับ “บัญญัติแห่งฟ้า” ในศาสตร์แห่งเอล ต่างไม่นึกมาก่อนว่ามีผู้ที่เก่งกาจระดับนี้อยู่ในจักรวรรดินอร์ด้วย จากนั้นจึงเปล่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสบใจ สะท้อนดังก้องบ้านร้างอีกครั้ง ทราบดีแก่ใจว่าชีวิตของราชิตคงอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
                    มันผู้นี้เป็นใครกันแน่? ลูทต้องสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ พลังทำลายที่กระแทกเข้าใส่โครงสร้างอาคารเมื่อครู่นับว่าสะเทือนมาถึงพวกเขา เรื่องนี้ต้องรีบรายงานประธานาธิบดีราชิตโดยด่วน หากเอนเซลตกไปอยู่ในกำมือของเวอร์น่อนอีกแห่งหนึ่ง การศึกในเบื้องหน้าพวกผู้ปกครองคาร์ลเสมือนปิดประตูแห่งชัยชนะไปในทันที
                    แต่แล้วหัวใจของลูท ยูกิและรินะทั้งสามกลับต้องเต้นรัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงอุปราชผู้นั้นกล่าวว่า “มีผู้คน! และถึงกับต้องตกวูบไปถึงข้อเท้าเมื่อได้ยินเสียงชายเสื้อปะทะลม พลิ้วกายมาทางห้องเก็บของในทันที
                    ผิดท่า!
    อาจเป็นเพราะแรงสั่นสะเทือนเมื่อครู่ทำให้ร่องรอยของพวกเขาเปิดเผย ลูทคร่ำครวญอยู่ในใจ ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกนอกจากฉุดลากสตรีทั้งสองกระโจนออกไปทางหน้าต่าง ลอบภาวนาให้เทพทั้งหกคุ้มครอง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×