ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #103 : เล่ม 4 - ตอนที่ 51 - สัญญากลางทะเลดาว (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 814
      0
      30 ม.ค. 51

    ช่วงหัวค่ำ ณ บ้านร้างข้างโบสถ์เทพเจ้าฟีด้า
                    บุรุษผู้หนึ่งนั่งมองหมู่ดาราที่ทอแสงระยิบระยับกลางท้องนภาอันมืดมิดอยู่บนหลังคาบ้านร้าง ชีวิตของเขาเฉกเช่นดวงดาราที่เปล่งแสงสว่างกลางราตรีวูบหนึ่งพลันถูกตะวันจันทราเข้าแทนที่กลบไป แสงสว่างจากความรักที่มีจุดเริ่มต้นที่เมืองเอนเซลเลียร์และจบลงที่เมืองเอนเซลเลียร์เช่นกัน
                    ครั้งก่อนที่เขาพึ่งจะได้รับตำแหน่งมือปราบชั้นหนึ่งก็นั่งมองดวงดาวอยู่ที่หลังคาบ้านร้างแห่งนี้ แต่ความทรงจำกับการนั่งมองหมู่ดารามิได้จำกัดอยู่เพียงความหลังครั้งล่าสุด เขาจำได้ว่าครั้งแรกที่สารภาพรักกับนางในดวงใจทั้งสองคนต่างคนต่างนอนราบบนหลงคาชมจันทราบนท้องฟ้า แม้นเวลาในครั้งก่อนมิใช่เวลาเดียวกันนี้ แต่ท้องนภาก็ยังเป็นท้องนภาแห่งเดิมมิได้แปรเปลี่ยนไป
    นั่นอาจจะเป็นความทรงจำสีจางที่งดงามบรรเจิดที่สุดในชีวิตของเขาก็ว่าได้ หากไม่นับรวมฉากจบของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและโซเฟีย
                    เสียงฝีเท้าอันคุ้นเคยค่อยๆย่างเข้ามาใกล้ทีละก้าว โซเฟียที่มีความงดงามผสมผสานกับความนุ่มนวลอย่างลงตัวเดินเข้ามาทางด้านหลังของเขา ทรงผมของนางยังคงยาวและเหยียดตรงไปถึงกลางหลังไม่ต่างจากเหตุการณ์เมื่อครั้งก่อน แม้ว่ากาลเวลาผ่านไปยาวนานแต่ความงามนั้นไม่เสื่อมคลาย นางหยุดลงข้างกายเขา นั่งลงในตำแหน่งเดียวกันหันหลังอิงสัมผัสกับแผ่นหลังอันกว้างใหญ่ของมือปราบผู้นี้
                    “เจ้ามาแล้ว” โซเฟียเป็นผู้เริ่มต้นสนทนาประโยคแรกก่อน ประโยคเดียวกับการพบกันครั้งก่อนที่เขาเองเป็นผู้เอ่ย
                    ไกมิอาจกล่าววาจาใดได้อีกนอกจากคำว่า “อืม” ในลำคอคำหนึ่ง มิใช่ว่าเขาไม่อยากเอ่ยปากกล่าวคำใดๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะกล่าววาจาใดให้เหมาะสมกับการพบพานในครั้งนี้ ในเมื่อเขามีโลหิตของชาวเจนีสไหลเวียนอยู่ในกายต่างจากโลหิตชาวนอร์ การกล่าววาจาคำหวานจะมีประโยชน์อีกหรือ?
                    ดวงตาของโซเฟียเปลี่ยนเป็นหมองหม่นลงไป กล่าวว่า “ท่านพ่อเล่าเรื่องของวันพรุ่งนี้ให้ข้าฟังหมดสิ้นแล้ว รวมถึงเรื่องที่เจ้าเป็นคนนำทัพลวงบุกฝ่าไปทางประตูตะวันออกด้วย”
                    ไกระบายลมหายใจออกจากอก กล่าวว่า “ในที่สุดเจ้าก็รู้”
                    โซเฟียกล่าววาจาต่อไปด้วยน้ำเสียงตัดพ้อว่า “ความรักที่เจ้ามีต่อข้ามันหมดสิ้นลงแล้วหรือ? ทำไมเจ้าถึงเลือกที่จะไปตายเช่นนั้น? แล้วสัญญาที่พวกเราให้ต่อกันว่าจะรักกันตลอดไปนั้นไม่มีความสำคัญต่อเจ้าแล้วหรือ? อีกทั้งกระบี่เขี้ยวราชสีห์ที่ข้ากำนัลให้กับเจ้าทำไมถึงได้ตกอยู่ในมือของผู้อื่น?
                    คำถามของโซเฟียเหล่านี้เป็นคำถามที่ล้วนไม่ต้องการตอบที่สุด ไกทอดถอนหายใจเป็นครั้งที่สอง กล่าวว่า “สวรรค์เบื้องบนเป็นพยานได้ว่าความรักต่อเจ้าไม่เคยเหือดหายไปจากใจของข้าแม้สักวินาทีหนึ่ง”
    เขาหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระบอกไม้ติดขานกพิราบที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา ยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้กับโซเฟียทั้งที่ยังไม่หันหน้าไปพร้อมกับกล่าวว่า “จริงอยู่ที่เขี้ยวราชสีห์นั้นเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของข้า แต่เนื่องจากมันสามารถสร้างประโยชน์ต่อผู้อื่นในฐานะเครื่องช่วยชีวิตผู้คนมากกว่าอยู่กับข้าในฐานะของที่ระลึก จึงกำนัลมันออกไปแทนเจ้า มิใช่ว่าข้าไม่ให้ความสำคัญกับของกำนัลจากเจ้า แต่กระดาษที่อยู่ในกระบอกไม้นั้นบ่งบอกความสำคัญของเจ้าที่มีต่อข้าเสมอมา”
                    โซเฟียกางกระดาษสีชมพูอ่อนออกมา แววตาสั่นเครือไปด้วยความตื้นตัน เมื่อพบว่ากระดาษใบนั้นเขียนรูปคนสองคนนั่งมองหมู่ดาราและจันทราบนฟ้า อันเป็นกระดาษที่เขียนขึ้นมาเล่นๆให้กับเขาในคราวสารภาพรักครั้งแรก หากไม่เห็นกับตาคงมิอาจจดจำได้ ไม่คิดว่าชายคนรักยังคงพกกระดาษที่ไม่สลักสำคัญใบนี้ติดตัวไว้ตลอดเวลา
    ไกกล่าวด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยนว่า “ข้ามิใช่ว่าอยากจะเสนอตัวไปตายสักเท่าใดนัก แต่เจ้าสมควรจะเข้าใจว่าหากข้าไม่กระทำเช่นนี้แม้แต่เจ้าเองจะไม่มีชีวิตรอดไปด้วย จะอย่างไรข้อจำกัดทางด้านเชื้อชาติเป็นพรมแดนกีดขวางความรักของเราสองจนไม่มีทางที่จะลงเอยด้วยข้อสรุปที่ดี หากสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่ข้าสามารถกระทำได้คือการช่วยชีวิตของเจ้าและครอบครัวให้อยู่รอดปลอดภัย ข้าเองยินดีกระทำเช่นนั้นและจะไม่เสียใจกับผลใดๆที่จะเกิดขึ้น”
                    โซเฟียนิ่งอึ้งไปไม่สามารถกล่าววาจาใดๆ น้ำตาสุกใสหยดหนึ่งไหลรินลงมาอาบแก้ม นางรู้อยู่แก่ใจดีถึงข้อจำกัดทางเชื้อชาติที่ไกกล่าวถึง ข้อจำกัดที่กักขังหน่วงเหนี่ยวจิตวิญญาณแห่งความรักของคนทั้งสองมิให้อยู่รวมกันได้สมใจ ไม่ว่าไกหรือนางพยายามอย่างไรคงจะเปล่าประโยชน์ ตระกูลวิลล์ที่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในการปกครองของอาณาจักรนอร์จะไม่ยอมให้บุตรธิดาของตนสมรสกับชาวเชื้อชาติอื่นอย่างแน่นอน
                    โซเฟียกล่าวทั้งน้ำตาว่า “หากเจ้าตายไปแล้วข้าจะทำอย่างไร?
                    ไกฝืนยิ้มกล่าวว่า “ในตอนนี้ข้าไม่เหมือนกับผู้คนที่ตายไปแล้วหรอกหรือ?
                    สิ่งกีดขวางในใจโซเฟียพังทลายลงด้วยคำพูดเมื่อครู่ นางหันหน้ากลับไปหาแผ่นหลังของเขา ซุกใบหน้าลงกับซอกคอของไกอันเป็นสถานที่แอบอิงส่วนตัว สองมือกอดลำคอและหน้าอกของเขาไว้แนบแน่น น้ำตาของหญิงงามหยาดหยดลงบนปกเสื้อจนเปียกชุ่ม กล่าววาจาด้วยน้ำเสียงที่ปนด้วยเสียงสะอื้นไห้ว่า “ข้าขอโทษ”
                    จิตใจของมือปราบชั้นหนึ่งที่แข็งแกร่งประดุจเหล็กไหลกลับอ่อนลงถนัดตา เขาเบนหน้าไปหาโซเฟียอันเป็นที่รัก กลิ่นหอมกรุ่นของเส้นผมนางโชยเข้าสู่นาสิก ใช้มือหนึ่งโอบรั้งนางเข้ามายังอ้อมอก ใช้นิ้วหัวแม่มือของอีกมือหนึ่งบรรจงปาดน้ำตาของนาง ส่ายหน้าพลางกล่าวว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษข้าหรอก ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับความรักของเราสองมาไม่น้อย ไม่ว่าเจ้าหรือข้าไม่มีผู้ใดอยากให้มันลงเอยเช่นนี้ ข้าไม่สามารถเปลี่ยนชาติกำเนิดได้ และเจ้าเองก็เช่นกัน หากกระทำได้ข้าคงอยากจะเกิดเป็นชาวนอร์โดยสมบูรณ์แบบเพียงเพื่อสาเหตุประการเดียว นั่นคือเพื่อที่จะรักเจ้า
                    โซเฟียตัดสินใจเด็ดเดี่ยว เป็นการตัดสินใจที่ไม่กล้าเด็ดขาดลงไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางตัดสินใจกล่าววาจาประโยคนี้ให้ไกรับรู้ วาจาประโยคที่หมายความว่าชีวิตของนางไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเขาอีก สงบอาการสะอื้นไห้กล่าวว่า “ข้านั้นช่างโง่งมเสียจริง จนถึงบัดนี้ข้าพึ่งจะรู้ว่าหากปราศจากเจ้าแล้วชีวิตของข้าคงจะไม่มีความหมายใดๆต่อไป หากพวกเรามีวาสนารอดพ้นจากชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ได้ ข้าอยากจะให้เจ้าช่วยพาข้าไปจากสถานที่แห่งนี้ ข้าไม่สนใจแล้วว่าตระกูลวิลล์จะเป็นเช่นไร ข้ายอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ขอเพียงข้ามกรอบของเชื้อชาติใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเจ้าได้ ข้าจะไม่มีวันเสียใจ”
                    นี่เป็นคำกล่าวประโยคเดียวที่ไกเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลาเกือบสิบปีเต็ม เขาทราบดีว่าการที่จะให้สตรีสูงศักดิ์ผู้หนึ่งยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างโผเข้าอ้อมอกเขาเป็นสิ่งที่ยากเย็นแสนเข็ญ แต่สิ่งนั้นกลับขัดต่อมโนธรรมและคุณธรรมประจำใจ หากพวกเขากระทำเช่นนั้นชั่วชีวิตของทั้งคู่จะต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ หนีไปให้ไกลสุดขอบฟ้าห่างเหินจากทุกสิ่งทุกอย่างในแผ่นดิน ไม่สนใจปัญหาและเรื่องราวรอบตัวอีก แต่มันน่าแปลกที่นั่นกลับเป็นความปรารถนาลึกๆในใจของเขาเช่นกัน
                    หากโซเฟียกล่าวประโยคนี้เมื่อหลายปีก่อนเขาจะไม่ลังเลแม้แต่น้อย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดวันพรุ่งนี้ไปได้หรือไม่
                    ไกรั้งนางเข้ามาในอ้อมอกอีกครั้งหนึ่ง ใช้มือหนึ่งลูบผมสีแดงที่แผ่สลวยอยู่กลางหลังด้วยความแผ่วเบา แนบใบหน้าสัมผัสกับปรางค์อันนุ่มนิ่มด้วยความรักและทนุถนอม กล่าวว่า “ข้าจะต้องมีชีวิตรอดกลับไปหาเจ้า และเจ้าเองต้องไม่ทิ้งความหวังแม้สักส่วนเสี้ยวเช่นกัน ข้าจะยังไม่รับปากเจ้าในการตัดช่องน้อยแต่พอตัวหนีตามไปด้วยกันโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ใหญ่ แต่เมื่อใดที่พวกเราสามารถสยบทรราชเวอร์น่อนลงได้ ข้าให้คำมั่นสัญญากับเจ้าว่าข้าจะรับตัวเจ้าไปอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต โดยไม่คำนึงถึงกฎระเบียบข้อบังคับใดๆและผู้ใดทั้งสิ้น มีเพียงความหวังเท่านั้นที่จุดประกายให้พวกเรามีแรงผลักดันในการมีชีวิตอยู่สืบไป และมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่เป็นความหวังอันสูงสุดในชีวิตข้า ข้าสัญญาว่าจะกระทำทุกอย่างเพื่อเจ้า จากนี้และตลอดไป
                    โซเฟียใช้สองมือน้อยๆกอดบุรุษที่เป็นดั่งชีวิตจิตใจด้วยสุดแรง กล่าวว่า “จงสัญญากับข้า ว่าเจ้าจะต้องมีชีวิตรอดกลับมา ... กลับมาหาข้า ... กลับมาหาความสุขในอนาคตที่กำลังรอคอยพวกเราอยู่ และข้าจะให้สัญญาว่าในใจข้าจะมีเพียงเจ้าคนเดียวจากนี้และตลอดไป
                    ไกใช้มือข้างหนึ่งลูบเส้นผมที่ปิดบังนัยน์ตาของโซเฟีย เผยให้เห็นดวงตาที่กระจ่างสุกใสยิ่งกว่าดาราดวงใดในยามรัตติกาล ใช้มืออีกข้างหนึ่งประคองแก้มของนางเชยคางขึ้น ประทับริมฝีปากจุมพิตนางคราหนึ่งด้วยความรักอันร้อนแรง ที่ซุกซ่อนอยู่ในใจไม่เสื่อมคลาย
                    สองตาของโซเฟียและไกทั้งสองประสานสบกันไม่อาจถอนจากกันได้ นับตั้งแต่ที่เขาเกิดจนถึงบัดนี้ไม่มีสิ่งอื่นใดสำคัญกว่าเพชรเม็ดงามที่อยู่ตรงหน้าของเขาอีก ไกพยักหน้าถี่ๆกล่าวว่า ข้าให้สัญญา ... ข้ารักเจ้า
    ประโยคสั้นๆที่กินใจความนับร้อยนับพันถ้อยคำที่ไม่อาจสรรหามาบรรยายได้หมด
    ประโยคสั้นๆที่สตรีทุกผู้นามหวังว่าจะมีบุรุษผู้หนึ่งกล่าวกับนางจากใจจริง
    ประโยคสั้นๆที่แสดงถึงความบรรเจิดของมนุษย์ที่เหนือยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตใดในโลก
                    ทุกประการล้วนรวมอยู่ในวาจาสามคำเมื่อครู่ ไม่ว่าโลกจะคงอยู่หรือดับสลายในวินาทีข้างหน้า ล้วนไม่มีความสำคัญอีกต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×