คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หนองในเทียม
หนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยรองจากหนองใน (ประมาณ 30-40%
ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด) โดยจะมีอาการคล้ายหนองใน แต่ไม่ได้เกิดจากเชื้อ
หนองใน (โกโนเรีย)
สาเหตุ
เชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคหนองในเทียม มีได้หลายชนิด อาจเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว
หรือเชื้อราก็ได้ ประมาณ 50% ของผู้ป่วยโรคนี้ยังไม่ทราบเชื้อที่เป็นสาเหตุแน่ชัด ประมาณ 40%
เกิดจากคลามีเดียทราโคมาติส (Chlamydia trachomatis) ซึ่งเป็นเชื้อกึ่งไวรัสกึ่งแบคทีเรีย
(เชื้อนี้มีพันธุ์ย่อยอีกหลายชนิด ซึ่งบางชนิดทำให้เป็นฝีมะม่วง) อีก 10 % อาจเกิดจากเชื้ออื่น ๆ
เช่น เชื้อโปรโตซัว ที่มีชื่อว่า ทริโคโมแนสวาจินาลิส (Trichomanas vaginalis) เชื้อไวรัสเริม
เป็นต้น
อาการ
ในผู้ชาย อาการมักเกิดหลังติดเชื้อประมาณ 1-4 สัปดาห์ (ระยะฟักตัว) โดยมีอาการแสบที่ปลายท่อ
ปัสสาวะ ปัสสาวะขัดและมีหนองไหล ซึ่งลักษณะเป็นมูกใสหรือมูกขุ่น ๆ ไม่เป็นหนองข้นแบบหนองใน
และออกซึมเพียงเล็กน้อย ไม่ออกมากแบบหนองใน
บางคนในระยะแรกอาจสังเกตมีอาการแสบที่ท่อปัสสาวะ และมีมูกออกเล็กน้อยเฉพาะในช่วงเช้าเท่า
นั้น ถ้าให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะลงในแก้วใส แล้วใช้ไฟฉายส่องดู จะเห็นเส้นขาว ๆ คล้ายเส้นด้ายลอยอยู่
ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาการอาจเรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี
ในผู้หญิง ส่วนมากมักไม่มีอาการแสดง ส่วนน้อยอาจมีอาการตกขาว
อาการแทรกซ้อน
ในผู้ชาย อาจทำให้ท่อปัสสาวะตีบ , ต่อมลูกหมากอักเสบ , อัณฑะอักเสบ
ในผู้หญิง อาจทำให้มดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบ เป็นหมัน
นอกจากนี้ ทั้งสองเพศอาจทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบได้ แต่พบได้น้อยมาก
การรักษา
1. หากสงสัย ควรตรวจยืนยันด้วยการนำหนองไปย้อมสี และส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือนำไปเพาะเชื้อ
ถ้าเป็นจริง ควรให้ยาขนานใดขนานหนึ่ง ดังต่อไปนี้
1.1 ดอกซีไซคลีน กินครั้งละ 100 มก. วันละ 2 ครั้ง นาน 14 วัน
1.2 เตตราไซคลีน กินครั้งละ 500 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 14 วัน
1.3 อีริโทรไมซิน กินครั้งละ 500 มก. วันละ 4 ครั้งนาน 14 วัน
1.4 ไมโนไมซิน (Minomycin ซึ่งเป็นยาในกลุ่มเตตราไซคลีน) กินครั้งละ 100 มก. วันละครั้ง นาน 14 วัน
1.5 ร็อกซิโทรไมซิน(Roxithromycin ซึ่งเป็นยาในกลุ่มเดียวกับอีริโทรไมซิน) กินครั้งละ 150 มก. วันละ
2 ครั้ง นาน 14 วัน
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ควรให้ ยาขนานที่ 1.3
ข้อแนะนำ
1. ควรแนะนำให้ผู้ป่วยงดเหล้า และงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหาย
2. ผู้ป่วยควรเจาะเลือดตรวจวีดีอาร์เอล และเชื้อเอชไอวี (เลือดบวก) ตั้งแต่ก่อนรักษาครั้งหนึ่ง และอีก 3 เดือน
ต่อมาตรวจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ติดโรคซิฟิลิส หรือเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย
3. โรคหนองในเทียม อาจเป็นเรื้อรังและรักษายากกว่าหนองใน เนื่องจากส่วนใหญ่จะตรวจไม่พบเชื้อที่
เป็นสาเหตุ แต่โรคหนองในเทียมที่เกิดจากเชื้อคลามีเดีย มีทางรักษาให้หายขาดได้ภายใน 14 วัน
ในรายที่ไม่ได้รับการรักษา 20-30% อาจหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์ และ 60% จะหายได้ภายใน 8
สัปดาห์
4. ทารกที่เกิดจากแม่ที่เป็นหนองในเทียมจากเชื้อคลามีเดีย อาจได้รับเชื้อระหว่างคลอด ทำให้เกิด
อาการตาอักเสบหลังคลอด ประมาณ 5-14 วัน แต่อาการมักจะรุนแรงน้อยกว่าตาอักเสบจากเชื้อหนองใน
การรักษาให้ใช้ยาป้ายตาเตตราไซคลีน ป้ายวันละ 4 ครั้ง และให้อีริโทรไมซิน ในขนาด 30 มิลลิกรัมต่อ
น้ำหนักตัว 1 กก.ต่อวันนาน 21 วัน
5. ควรแนะนำให้ผู้สัมผัสโรคไปตรวจรักษาโรคนี้ พร้อม ๆ กันไปด้วย
ความคิดเห็น