คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เชลยแห่งโลกมืด [The Dark Capture]
> เชลยแห่งโลกมืด <
[The Dark Capture]
เสียงลมพัดผ่านม่านพริ้วปลิวรับค่ำคืนอันวังเวง ห้องบรรทมอันเงียบสงัดสะท้อนเพียงพักตร์แห่งราชินีเวทย์ที่หมองหม่น องค์มหาเทพ... นั้นเฝ้าพิศพักตร์พระนางยอดหทัยเป็นนานก่อนตรัสถามสุรเสียงอ่อนโยนและห่วงใย
“คำทำนายนั้นหมายความเช่นไร ใยทำให้ยอดดวงใจข้าหมองหม่นเช่นนี้”
“หม่อมฉันมิทราบจะทูลฝ่าบาทอย่างไรดี เพราะจากคำทำนายนี้ หม่อมฉันกลัวเหลือเกินว่า มันจะทำให้ลูกของเราอยู่ในดินแดนเวทย์มนตราแห่งนี้มิได้เพราะคำครหา... ดังพระองค์เองก็ทรงทราบว่า ดินแดนเวทย์มนตราเป็นอาณาจักรกลาง กั้นระหว่างแดนสวรรค์ชั้นฟ้าดินแดนที่พระองค์จากมา กับแดนปีศาจแห่งโลกมืดปกครองโดยแห่งซาตานชั่วร้ายนั่น
ทุกวันนี้ ที่ทั้งสามโลกยังสงบสุขอยู่นั้นเนื่องจากอาณาจักรเวทย์มนตราไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทำให้โลกมืดยังมิกล้าทำสงครามกับแดนสวรรค์ แต่หากผู้นำแดนแม่มดสวามิภักดิ์ต่อฝ่ายใดขึ้นมา สงครามสามพิภพย่อมเกิดขึ้น
ที่ผ่านมาแม้หม่อมฉันจะอภิเษกกับพระองค์ แต่พลังเวทย์ของหม่อมฉันมิได้กล้าแกร่งเท่าใดนัก และเราทุกผู้ต่างต้องการความสงบสุขของสามภพ แต่ตำนานกล่าวไว้ว่า แม่มดแห่งโลกมืดจะชักนำพาสงครามมาสู่อาณาจักรเวทย์มนตรา... หายนะจะบังเกิดทุกหย่อมหญ้า ก็ดังคำทำนายนะเพคะ” สุรเสียงเครือตรัสตอบไปอย่างกังวลพระทัยยิ่งนัก
ยามพิศพักตร์หมองหม่นของมเหสีคู่พระทัย ในนามแห่งเทพเจ้าผู้คุ้มครองอาณาจักรเวทย์มนตราจะมิใช่อัลไฟล์ดไม่รู้ว่า ทัพสวรรค์นั้นต้องการจะยกทัพมาปราบพวกโลกมืดด้านล่างมากเพียงใด หากแต่โลกมืดเพลานี้มีกองทัพและพลังเวทย์อันกล้าแข็งนัก หลังจากซุ่มแสร้งเป็นสงบเสียนาน บัดนี้กองกำลังนั้นได้กล้าแกร่งจนสามารถต้านกำลังทัพฟ้าอันเกรียงไกรได้แล้ว
ปราการเดียว ณ ยามนี้ ที่ยังต้านสงครามระหว่างสองทัพไว้ นั่นคือ ยามนี้ทัพจากอาณาจักรกลางยังมิฝักใฝ่ฝ่ายใด แม้ราชินีเวทย์จะเป็นมเหสีคู่พระทัย หากแต่องค์นางเองมิได้เข้มแข็งดังแสร้งทำให้ผู้ใดประจักษ์ อัลไฟล์ดนั้นรู้ดีแก่พระทัย อีกทั้งทรงตระหนักเป็นอย่างดีว่า ประชากรของอาณาจักรกลางแห่งนี้ จริงอยู่แม้นกึ่งหนึ่งเป็นเหล่าพ่อมดแม่มดผู้มีพลังเวทย์กล้า หากกึ่งหนึ่งเป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนที่อ่อนแอเท่านั้น หากอาณาจักรเวทย์มนตราร่วมมือกับทัพฟ้าประกาศสงคราม ณ ครานี้ เห็นทีฝ่ายอาณาจักรที่เสียหายสูงสุดจะไม่พ้นอาณาจักรกลางแห่งนี้เป็นแน่
ที่น่าหนักพระทัยยิ่งกว่าเห็นทีจะเป็นเรื่องของพระธิดา แม้นนางจะเป็นจะเป็นตัวแทนของอาณาจักรเทพเจ้าและอาณาจักรเวทย์มนตรา เนื่องด้วยพระบิดาเป็นเทพ พระมารดาเป็นราชินีเวทย์ หากแต่ลักษณะขององค์หญิงน้อยนั้นเล่า กลับแสดงถึงลักษณะรวมของคนโลกมืดอย่างชัดเจน....
เท่าที่ทรงทราบมา ตำนานกล่าวไว้ว่า แม่มดจากโลกมืดนั้น แม้นจะเก่งกล้าเพียงใด หากแต่จะไร้ภพภูมิ มิมีตัวตน มิสามารถอาศัย ณ โลกใดได้ หากตำนานเป็นจริง อนาคตขององค์หญิงน้อยก็น่ากังวลยิ่งนัก ไหนเลยจะเป็นทั้งชนวนสงคราม ไหนเลยจะอยู่อย่างสงบสุขได้ หากต้องทนกับคำครหาที่โจษจันกันทั่วดินแดนเวทย์มนตราแห่งนี้ กระนั้นแม้นองค์เองจะทรงหนักพระทัย หากจำต้องตรัสตอบพระมเหสีไปว่า
“อย่าเศร้าไปเลยเทเรซ่า เราจะช่วยกันเลี้ยงยูเรก้าให้นางเป็นแม่มดที่ดี ทุกอย่างมันต้องแก้ไขได้” สุรเสียงนุ่มตรัสให้กำลังใจ
“ฮะๆๆ นั่นต้องหมายความว่า หากเจ้าได้มีโอกาสเลี้ยงดูลูกสาวตนเองต่างหากเล่าอัลไฟล์ด” เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นพร้อมมรสุมลมหนาวยะเยือกพัดสะบัดฝ่าความมืดเข้ามา
“นั่นมัน....” สุรเสียงห้าวตวาดก้อง พร้อมการปรากฏตัวของเงามืดที่มีทารกน้อยในอุ้งมือ
“ฮึฮึ ดังเมียเจ้าว่า เมื่อลูกสาวเจ้ามิอาจอยู่ในแดนแม่มดได้ งั้นข้าจะสงเคราะห์ให้รับเลี้ยงนางไว้ในแดนใต้ภพของข้าก็แล้วกัน ฮ่ะฮ่าฮ่า” เสียงตอบกลับของเทพเจ้าแห่งนรก จอมซาตานดิส ดังขึ้นฝ่าราตรีอย่างสยองขวัญ
“ส่งนางคืนข้ามาเดี๋ยวนี้นะ ดิส! มิเช่นนั้นเจ้าต้องเจอสงครามสามโลกนี้แน่” ราชินีเวทย์ตรัสสุรเสียงกร้าว อย่างตกพระทัย
“ประเมินตัวเจ้าก่อนเผยอปากมาพูดกับข้าดีกว่าเทเรซ่า ระดับพลังเวทย์เยี่ยงเจ้าน่ะ ไม่มีปัญญาคุมทัพมาต่อกรกับข้าได้หรอก ยิ่งลูกสาวเจ้าเกิดมามีลักษณะของชาวโลกมืดอย่างนี้ด้วยแล้ว ใครเลยจะอยากทำสงครามเพื่อเด็กที่จะนำความหายนะมาสู่ตนในภายหน้า หึหึ
ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าจะเลี้ยงนางให้อย่างดี เมื่อถึงเวลา ข้าจะส่งนางกลับมาอย่างแน่นอน... มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่ของข้า ฮะๆๆๆฮ่า ”
สิ้นเสียงเย็นเงามืดก็หายลับกลืนไปกับยามมืดแห่งรัตติกาล จากไปพร้อมกับสติที่ดับวูบของมหาเทวีราชินีเวทย์ในอ้อมพาหาจอมเทพอัลไฟล์ด
“ข้าจะนำนางกลับมา ข้าจะนำนางกลับมาให้เจ้าให้จงได้ เทเรซ่า... ข้าสัญญา” สุรเสียงห้าวกัดพระทัณต์ตรัสขึ้นอย่างเจ็บแค้น
ความคิดเห็น