ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( SF EXO ) ' Something Special '

    ลำดับตอนที่ #51 : [OS] :: Addict (Baek x Do)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 763
      2
      12 ต.ค. 57

    Addict
    Baekhyun x Kyungsoo






     

     

     

     

     

                มันนานเท่าไหร่แล้วนะ..

              ที่ผมคุ้นชินกับกลิ่นของบุหรี่

     

    ผมไม่ชอบบุหรี่ มีหลายคนที่สูญเสียสิ่งสำคัญไปก็เพราะมัน ครั้งแรกของผม รสชาติขมปร่าและแสนแสบคอ จำได้ไม่เคยลืม ผมสำลักควันจนหน้าดำหน้าแดงและได้แต่คิดในใจว่าทำไมคนเราถึงได้ชอบมันนัก

    จนกระทั่งมีมือเรียวแย่งมันออกไปต่อหน้าต่อตา ถามว่าผมรู้จักเขาไหม? แน่นอนเลยว่าไม่ ผมแอบมาลองสูบบุหรี่ตัวคนเดียวที่หลังโรงเรียน ตอนนั้นผมนึกว่าเขาจะเป็นพวกสารวัตรนักเรียนซะอีก

    แต่เปล่าเลย เขาไม่ใช่สารวัตรนักเรียน ไม่ใช่แม้กระทั่งรุ่นเดียวกับผม มุมปกเสื้อของเขาบอกให้รู้ว่าเขาเป็นพี่ของผมปีนึง เอาจริงๆนะ ตอนนั้นโคตรกลัวเลยว่าเขาจะเอาไปบอกอาจารย์ ผมอาจถูกพักการเรียนตั้งแต่เทอมแรกก็ได้ใครจะรู้

    หลังจากที่ผมจ้องหน้าเขาอยู่นาน ปลายบุหรี่มวนนั้นของผมก็ถูกริมฝีปากบางเม้มหายไป.. ก่อนจะพ่นกลุ่มควันสีเทาออกมาข้างหน้า ปล่อยมันลอยฟุ้งอยู่อย่างนั้น ทิ้งให้สายตาของผมหยุดนิ่งอยู่ที่ใบหน้าเรียบเฉย

    “บุหรี่มันไม่ดี”

    นั่นคือคำพูดของเขาหลังจากที่กลุ่มควันนั้นได้จางหายไป เขาก้มหน้าลงระหว่างพูดประโยคนั้น ผมไม่แน่ใจว่าเขาพูดกับผมไหม แต่แล้วสายตาเรียวก็เหล่มาทางผม ยกมือที่มีกลิ่นบุหรี่มาวางลงที่หัว แล้วเดินจากไปนิ่งๆ ปล่อยให้ผมมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนสุดสายตา

     

     

    นอนไม่หลับ คืนนั้นผมนอนไม่หลับเลยสักนิด กลิ่นบุหรี่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว นึกไปถึงตอนที่ได้สัมผัสมันอีกครั้ง รสชาติขมปร่าที่ผมไม่ชอบใจ.. แต่ทำไมผมยังคงนึกถึงมันอยู่

    รู้ตัวอีกทีไฟแช็คก็อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว เปลวไฟสีส้มเหลืองที่สั่นไหวไปกับสายลม มันเหมือนกับมือของผมในตอนนี้ มือที่สั่นเทาเพราะไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเอง ซองบุหรี่ที่ถูกวางไว้ตรงขอบระเบียงช่างดึงดูดสายตา ผมเอื้อมคว้าลมอยู่หลายครั้ง หักห้ามใจจนในที่สุดก็หยิบซองมันขึ้นมาแล้วปาออกไปนอกระเบียง

    เพราะเพียงประโยคเดียวที่ทำให้ผมนึกขึ้นได้

    ใช่ บุหรี่มันไม่ดี.. และผมไม่ชอบมัน

    แต่ถ้าผมต้องการมันอีกสักครั้งล่ะ?

     

     

    .

    .

     

     

    มันนานเท่าไหร่แล้วนะ..

    ที่ผมคุ้นชินกับกลิ่นบุหรี่ที่ติดอยู่บนตัวอีกคน

     

     

    “บุหรี่มันไม่ดี” เป็นเสียงเดิมประโยคเดิมๆที่ผมฟังครั้งเดียวแล้วรู้สึกคุ้นหูเหลือเกิน

    ผมเงยหน้าขึ้นจากเข่าหลังจากได้ยินประโยคนี้ หลังที่เคยโค้งงอจากการกอดเข่าตั้งตรงขึ้นและพิงไปกับกำแพงช้าๆ พร้อมกับขาที่ยืดยาวออกไปข้างหน้า ช้อนสายตามองคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ตอนนี้

    ผู้ชายคนที่เอาแต่บอกว่าบุหรี่มันไม่ดี..

    แต่กลับยื่นมือขอซองบุหรี่ที่อยู่ในมือของผม

    “ไหนบอกว่าบุหรี่มันไม่ดี” ผมถามเขากลับ มองไปยังมือเรียวที่ไม่ยอมชักกลับสักที ซองบุหรี่นี้ของผม มันเป็นซองเดียวกับที่ผมโยนไปนั่นแหละ สุดท้ายก็เก็บมันกลับมาอยู่ดี

    ไม่มีเสียงตอบกลับจากคำถามที่ผมส่งไป เขาไม่พูดอะไรสักนิด แต่เรียวขาทั้งสองข้างกลับย่อลงมาแล้วนั่งยองๆข้างกายผมแทน เป็นผู้ชายที่แปลกจริงๆ

    “สูบไม่เป็น แล้วอยากสูบทำไม” นี่คงเป็นประโยคที่ยาวที่สุดสำหรับเขาล่ะมั้ง? ผมส่ายหน้าตอบกลับเขาไป ผมไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้เป็นอะไรอยู่ มันคงเป็นแค่ความอยากลอง.. ลองให้สำเร็จ ผมไม่รู้ตัวเองจริงๆ

    เขาเงียบไป เราไม่มีบทสนทนาต่อจากนี้ จนผมเห็นเขาเริ่มเขย่าขา นั่นแหละผมเลยส่งซองบุหรี่โง่ๆซองนั้นไปให้เขา มือเรียวรับไปพร้อมดึงมันออกจากซองมาหนึ่งมวน ล้วงไฟแช็คจากกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วคาบบุหรี่ไว้ที่ปาก ป้องมือไว้พร้อมกับจุดมันจนขึ้นไฟสีส้มแดงที่ส่วนปลาย

    ผมไม่ชอบบุหรี่นะ.. ยังยืนยันคำเดิมเลย

    แต่ผมกลับชอบควันสีเทาของมันที่ลอยฟุ้งกระจายออกจากริมฝีปากบางของคนข้างกาย

    บุหรี่มวนนั้นถูกคีบไว้ด้วยสองนิ้ว ก้นบุหรี่สีดำถูกเคาะตกอยู่บนพื้น ใบหน้าที่ผ่อนคลายของเขาทำให้ผมยิ้มขำ ดวงตาที่หลับพริ้มทั้งสองข้าง ริมฝีปากแห้งผากที่ถูกเม้มและเลีย ผมชักสงสัยแล้วสิว่าบุหรี่สำหรับเขามันเป็นสิ่งที่สุดยอดมากเลยหรอ?

    ผมล้วงบุหรี่หนึ่งมวนกับไฟแช็คที่นอนอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา จุดไฟให้มันไหม้ที่ส่วนปลาย และมองมันค้างอยู่อย่างนั้น ครั้งแรกของผมกับมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ครั้งนี้ผมก็เลยหวั่นๆ ได้แต่ทำใจมองมันมอดไปทีละนิด

    จนกระทั่งมาถึงกลางมวนผมค่อยยกขึ้นเตรียมจะเข้าปาก มือเรียวที่ยื่นมาขอซองบุหรี่ของผมในตอนแรกกลับมาอยู่ตรงหน้าผม กลิ่นบุหรี่อ่อนๆยังติดอยู่ที่มือของเขา.. กลิ่นที่ผมสูดเข้าไปลึกอย่างลืมตัวว่าไม่ชอบบุหรี่

    แต่แปลกใจ ผมกลับชอบกลิ่นที่ติดอยู่บนมือของเขา

    “อย่าสูบ”

    “แต่ผม..”

    ไม่ทันได้ปฏิเสธ บุหรี่มวนนั้นที่เหลืออยู่ครึ่งเดียวก็หายไปอยู่ที่ปากของเขาซะแล้ว กลายเป็นว่าผมก็ยังไม่ได้ลองสักมวนตั้งแต่มานั่งอยู่ตรงนี้

    เป็นคนที่แปลกจริงๆ บอกคนอื่นอย่าสูบ แต่เขากลับหยิบของคนอื่นเข้าปากไปง่ายๆ

    ผมได้แต่มองเขาสูบไปเงียบๆจนหมดมวน ควันที่ลอยฟุ้งครั้งสุดท้ายกระจายหายไปในอากาศแล้ว เขากำลังลุกขึ้น ผมช้อนตามองตามเขาไป มันเหมือนกับตอนแรกที่เขามา มือเรียวยื่นมาข้างหน้า แต่ไม่ใช่เพื่อขอซองบุหรี่โง่ๆซองนั้น

    เขายื่นค้างอยู่อย่างนั้นจนผมขมวดคิ้วเป็นปม ผมนึกว่าเขาจะขอไฟแช็คเสียอีก เลยยื่นมันไปให้ แต่เขากลับไม่ได้หยิบแค่ไฟแช็คออกไปจากมือนี่สิ เขาคว้าข้อมือของผมแล้วกระตุกให้ลุกขึ้นจนผมเซไปนิดหน่อย

    แรงเยอะชะมัด..

    ไม่มีคำพูดออกจากปากของเขา ตอนนี้ผมยืนอยู่ตรงข้ามเขา กลิ่นบุหรี่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของเขานะ

    นาฬิกาของโรงเรียนดังขึ้นเรียกสติของผมให้ตื่นจากการสังเกตผู้ชายตรงหน้า ผมทำหน้าตาแบบไหนใส่เขาไปหรือเปล่านะ จะน่าเกลียดหรือเปล่าที่เอาแต่จ้องคนที่ไม่รู้จักกันแบบนี้

    แต่สุดท้ายความคิดต่างๆในหัวของผมก็ว่างเปล่าเพียงเพราะมือเรียวนั้นวางลงบนหัว ขยี้เบาๆเหมือนเห็นหัวของผมเป็นลูกหมาน้อยขี้อ้อน

    เขาหันหลังกลับเตรียมเดินจากผมไป

    แต่รู้ไหมว่าผมทำอะไรออกไป?

     

    “พรุ่งนี้.. จะมาอีกไหม” นั่นคือประโยคที่ผมถามเขาไประหว่างที่เขาเดินหันหลังไปแล้ว ผมยังไม่ทันได้คิดเลยด้วยซ้ำว่าจะพูดมันออกมา แต่ทำไมนะ ทำไมถึงพูดออกมาแบบนั้น

    ไม่มีคำพูดเหมือนเดิม แต่ผมกลับยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นเขาผงกหัวขึ้นลงพร้อมมือขวาที่ยกชูขึ้นมาโบกหน้าหลัง

    และในตอนนั้น ผมได้แต่คิดว่าตัวเองต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

     

     

    .

    .

     

     

    มันนานเท่าไหร่แล้วนะ..

    ที่ผมคุ้นชินกับกลิ่นบุหรี่ที่ลอยคลุ้ง

     

     

    “บุหรี่มันไม่ดี”

    “แต่พี่ก็ยังสูบมัน”

    ผมโดนเขาบีบจมูกหลังจากที่เถียงกลับไป กลิ่นบุหรี่ที่ติดอยู่บนมือของเขาคือสิ่งที่ผมชอบ ไม่ใช่บุหรี่นะที่ผมชอบ แต่ความจริงคือ.. กลิ่นของมันที่ติดอยู่บนตัวของคนข้างกายผมต่างหาก

    “ผมเป็นห่วงพี่นะ แบคฮยอน” ได้ยินเสียงหัวเราะหึออกจากลำคอของเขา แบคฮยอนก็เป็นเสียแบบนี้ ไม่เคยพูด ไม่ตอบโต้ เอาแต่บอกเดิมๆ แล้วตัวเองก็ยังทำ

    “อยู่ดูแลพี่ข้างๆแบบนี้ต่อไปสิ” เป็นประโยคที่สมควรโดนหยิกที่สุด ผมหยิกเขาไปเต็มแรงจนบุหรี่ในมือเขาตกลงกับพื้น สีหน้าที่ฉายแววเสียดายชัดเจนจนผมขำออกมาเสียงดัง

    คยองซู..เปลือง” ผมทำเป็นไม่สนใจ หยิบซองบุหรี่ที่อยู่บนพื้นมาไว้ในมือของตัวเอง กำไว้จนแน่นไม่ยอมให้เขาเอามันไปได้หรอก

    พวกเรายื้อยุดกันอยู่นาน จนสุดท้ายแบคฮยอนก็หยิบมันไปได้ แล้วผมใช่คนขี้ยอมแพ้ซะที่ไหนล่ะ อีกอย่างแบคฮยอนก็ใช่ว่าจะไม่ขี้แกล้ง สุดท้ายก็แกล้งกันไปแกล้งกันมา จนผมพลาดเสียหลักล้มไปคร่อมอยู่บนตัวของเขา

    อย่างกับซีรีส์หลังข่าว.. แต่นี่มันคือเรื่องจริงในตอนนั้น

    กลิ่นบุหรี่ที่ติดอยู่บนตัวเขาทำให้ผมเผลอเขยิบเข้าใกล้ชิดอกแล้วสูดดมมันเบาๆ ปลายจมูกที่กดย้ำลงบนเสื้อเชิ้ตสีขาวไล่ขึ้นสูงอย่างลืมตัว

    จนมือเรียวของเขามาหยุดอยู่ที่ไหล่ของผมนั่นแหละ ผมถึงหยุดทำอะไรแบบนั้นพร้อมกับแก้มทั้งสองข้างที่ร้อนผ่าว ขบริมฝีปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บไปหมด

    นี่ผมทำอะไรอยู่?

    ผมวางมือไว้กับพื้น ดันตัวเองให้ลุกขึ้น กลัวว่าแบคฮยอนจะหนักเหมือนกันที่มานอนทับอยู่แบบนี้ เตรียมจะลุกขึ้นยืนและบอกขอโทษกับเรื่องเมื่อครู่ที่ผมดันเล่นไม่รู้เรื่องไปหน่อย

    แต่ทุกอย่างก็หยุดลงเหมือนกดปุ่มพอร์สเอาไว้

    แบคฮยอนกดตัวผมให้ลงคร่อมเขาเหมือนเดิม ส่งรอยยิ้มมุมปากที่นานๆผมจะเห็นทีมาให้ สองมือที่กุมไหล่ผมอยู่ปล่อยออกมาแล้วย้ายมันมาวางไว้บนแก้มของผม ใช้นิ้วโป้งปาดเบาๆลงบนพวงแก้ม..

    ให้ตายเถอะ ผมว่าตอนนั้นหน้าผมคงแดงมากแน่ๆ

    “คยองซู” เขาเรียกชื่อผม ดวงตารีเรียวของเขาจ้องลึกมายังดวงตาของผม ผมเห็นประกายสั่นไหวในดวงตาคู่นั้น ดวงตาที่สื่ออะไรหลายๆอย่างออกมา

    “อือ..” ผมครางตอบรับในคอ ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปในสถานการณ์แบบนี้

    “จะเป็นอะไรไหม ถ้าพี่จะจูบนาย”

    ผมว่าผมบ้ามากๆแล้วนะ.. แต่คนที่มาขอแบบนี้กับคนอื่นต้องบ้ามากกว่าเป็นเท่าตัวแน่ๆ

    “กลิ่นบุหรี่.. นายว่ายังไง” เขาดูลังเลตอนพูดประโยคนี้ออกมา แต่บอกตามตรงว่าแบคฮยอนไม่ควรถาม ถ้าเขาจะเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของพวกเราชนกันขนาดนี้แล้ว

                สายตาออดอ้อนของเขาทำเอาผมไปไม่เป็น เม้มริมฝีปากแน่น แค่คิดว่าเป็นปากของแบคฮยอน..

                ผมไม่ตอบที่เขาถามหรอก เพราะต่อให้ตอบกลับไป ผมก็เขินจนกว่าจะออกเสียงมาเป็นประโยคได้ ผมหลบสายตาของตัวเองที่จ้องมองกับเขา ก่อนจะหลับตาลงช้าๆพร้อมหัวใจดวงน้อยที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ

                สัมผัสนุ่มอุ่นบนริมฝีปากของตัวเองทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ร่างกายที่เคยควบคุมได้เหมือนจะอ่อนปวกเปียกไปหมด ความขมปร่าของบุหรี่คลุ้งอยู่ทั่วทั้งปาก.. มันไม่ได้รสชาติแย่จนแสบคอแบบครั้งแรกที่ผมสูบเอง แต่มันเป็นกลิ่นบุหรี่ที่ผสมกับกลิ่นของแบคฮยอน

                และผมคิดนะ.. ว่ามันน่าเสพติดยิ่งกว่าบุหรี่เสียอีก

     

     

              ผมไม่ได้ชอบบุหรี่..

    แต่กลิ่นบุหรี่อ่อนๆที่ยังติดอยู่กับลมหายใจของเขา

    กลายเป็นกลิ่นประจำตัวของผมไปแล้ว

     

     

                .

                .

     

     

     

    ควันสีเทาลอยฟุ้งก่อนจะจางหายไปกับอากาศ ต่อให้ผ่านมากี่ปีผมก็ยังชอบมองควันพวกนี้เวลามันถูกพ่นออกมาจากปากของแบคฮยอน เขาดูจะสูบน้อยลงกว่าเดิมจากที่ผมเคยขอเอาไว้ ใครๆก็อยากใช้เวลาอยู่กับคนรักไปนานๆใช่ไหม

    อ้อมกอดอุ่นของเขามาพร้อมกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆที่ติดอยู่ตามเสื้อ เดี๋ยวนี้เขาจะไม่สูบตอนผมอยู่ด้วยแล้ว จะขอแยกออกมาสูบคนเดียวตลอด ผมเคยเถียงนะว่าไหนบอกจะให้อยู่ข้างๆไปตลอดไง

    แล้วคำตอบที่ได้กลับมาก็คือ “ถ้าคนรักของพี่ไม่สบาย แล้วใครจะอยู่ข้างพี่” เท่านั้นแหละ ผมก็ไม่เคยเถียงเขาอีกเลย ทำได้แต่มองควันเหล่านั้นห่างๆ และเข้าไปหาตอนเขาสูบเสร็จ

     

    “ทำงานมาเหนื่อยหรอ ถึงมาสูบแบบนี้” แบคฮยอนยิ้มรับแล้วพาผมเดินไปจนถึงโซฟา ผมคล้องแขนของเขาไว้แล้วพิงหัวลงที่ไหล่ กระชับวงแขนตัวเองให้แน่นแล้วหลับตาพริ้มซุกหน้าลงที่เสื้อเชิ้ตของเขา

    “นิดหน่อย” เขาตอบแค่นั้นแล้วยกมือลูบหัวผมไปมาเบาๆ เขาคงชินที่จะทำแบบนี้กับผมแล้วล่ะ จะว่าไปมันก็ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันมั้งที่เขาเอาแต่ลูบหัวผมอย่างนี้

    “ผมนวดให้เอาไหม” แบคฮยอนพยักหน้า นั่นเลยทำให้ผมเอื้อมมืดไปบีบนวดลงที่ขมับให้เขา ผมกลัวเขาไม่สบายจริงๆนะ กลัวว่าเขาจะบ่นปวดหัวอีก

    “นี่คยองซู..”

    “หือ”

     

    “พี่ว่าจะเลิกบุหรี่เพื่อเราแล้วล่ะ”

     

    คำพูดของเขาทำให้ผมหยุดนิ่ง ความรู้สึกตื้นตันในอกทำให้ผมจุกจนพูดไม่ออก ผมไม่รู้ว่าที่เขาพูดออกมาจะทำได้ดีแค่ไหน เขาจะเลิกได้เลยหรือไม่ ผมก็ไม่รู้ แต่รู้ไหม.. แค่เขาบอกว่าจะเลิกมันเพื่อผม

    มันก็ที่สุดแล้วจริงๆ

    เขายิ้ม ยิ้มกว้างจนผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามพร้อมน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมา ผมพุ่งตัวเข้าไปกอดแบคฮยอนแน่น ไม่กลัวว่าเขาจะหายใจไม่ออก ผมแค่อยากกอด กอดเขาแน่นๆให้รู้ว่าผมรักเขามากแค่ไหน

     

    “นี่แบคฮยอน..”

    “หืม”

    “ขอจูบได้ไหม” เขาหัวเราะให้กับคำถามนี้ของผม แบคฮยอนพยักหน้าแล้วจ้องมองมายังผม.. จนทำผมประหม่า

    รู้ไหมทำผมถึงขอแบบนั้น

    ผมอยากจำรสจูบที่ขมปร่าของบุหรี่ของเขาเอาไว้ รสจูบที่ผมไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่ามันสุดแสนจะพิเศษเมื่อได้รับจากแบคฮยอน

    ไม่มีเสียงตอบรับจากเขา มีเพียงรอยยิ้มกว้างที่คล้ายจะหยอกล้อผม เขาจะรู้ไหมว่าผมต้องใช้ความกล้าแค่ไหนกว่าจะทำใจพูดประโยคนั้นออกมา

    ริมฝีปากบางของเขาช่างน่าหลงใหล กลิ่นบุหรี่อ่อนที่มาพร้อมกับลมหายใจของเขาทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม ยิ่งเมื่อตอนริมฝีปากของเราสัมผัสกัน ความอุ่นวาบแทรกซึมไปทุกอณู

    พื้นที่ว่างในร่องปากถูกเติมเต็ม จากผู้เริ่มกลายเป็นผู้ตามอย่างช้าๆ ผมรู้สึกเหมือนโดนผลักลงเหวแล้วถูกฉุดขึ้นมาด้วยสัมผัสที่ร้อนแรง เรียวลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ มือเรียวลูบหลังคล้ายการปลอบประโลม

     

    ผมกำลังเสพติด..

    เสพติดผู้ชายที่ชื่อแบคฮยอน

     

    ถ้าเกิดเขาเลิกบุหรี่ไม่ได้

    ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะ

     

    ผมจะทำให้เขาหันมาเสพติดและต้องการผมแทนมัน..

     

    “แบคฮยอนอา.. มากกว่าจูบจะได้ไหม”

     

     

     

     

     

     

     

    END

     

     






    สวัสดีทุกคน 
    เปลี่ยนแนวกันบ้าง เนาะ 55

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×