Find
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งให้ไก่ฮยอกในวันเกิดอ่ะนะ!! อาจจะแต่งได้ไม่ดีซักเท่าไรแต่ก้ออออ!!.....ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน้า~ ช่วยๆกันรักอึนเรียวด้วยนะจ๊ะ!!!^___^
ผู้เข้าชมรวม
635
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title : Find
Couple : Eunhyuk X Ryeowook feat.Sungmin
Style : Romance
Author : Y Generation
Author Note : นิยายสั้นเรื่องนี้ขอแต่งให้แด่ ไก่ตัวผู้แห่งเอสเจ ~ อี ฮยอกแจ ~ 55++ ไหนๆก็วันเกิดตาไก่ฮยอกทั้งที ก็ขอให้ตาไก่ฮยอกมีฟาร์มสุขมั่กๆๆน๊า~ แล้วก็หวังว่าชาวเอลฟ์ทุกคนจะมีความสุขกับการอ่านนิยายสั้นเรื่องนี้นะจ๊ะ~ ถ้าแต่งไม่ดีหรือผิดพลาดตรงไหนก็ติชมกันมาได้นะ แต่ยังไงๆก็ขอฝากอึนเรียวไว้ในหัวใจด้วยนะทุกคนนน รักอึนเรียวมากๆนะคับ อิอิ ^^ เออ...ไหนๆก็ไหนๆ ขอฝากฝังนิยายเรื่องยาวของเราด้วยนะ เรื่อง In a love affair ของอึนเรียว กะ บอมมินน่ะ แต่ถ้าลงเด็กดีเมื่อไหร่เดี๋ยวบอกนะคับ -^__^-
------------------------------------
“Shining Star!! like a little diamond, makes me love~”
เสียงเพลงจากมือถือฮยอกแจดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม ชายหนุ่มภายใต้ผ้าห่มร้องลั่นออกมาด้วยความหงุดหงิดที่วันนี้เป็นวันหยุดของเขาแต่กลับถูกก่อกวนโดยใครบางคนจนได้
“หวาดเด ~”
“ฮยอกแจ!!!!นายผิดนัดพวกฉันอีกแล้วนะเว้ย!!! ไหนบอกจะมาไง ถ้าทำตามคำพูดไม่ได้ก็อย่ารับปากสิว่ะ!!!”
“เออว่ะ!! ลืมสนิทเลย เฮ้ย!!รออีกแปบดิ เดี๋ยวไปหา”
“จะบ้าหรือไงว่ะ หัดดูนาฬิกาบ้างไหม!! มันเลยมาตั้ง2ชั่วโมงกว่าๆแล้ว ใครจะโง่รอว่ะ ”
“โห่ ก็เมื่อวันทำงานดึกไปหน่อย ก็เลยหลับเพลินอ่ะ ”
“บอกแล้วว่าให้กลับมานอนห้องเดียวกันก็ไม่เชื่อ ไม่รู้ล่ะ!! คนอื่นเขาแยกย้ายกันกลับบ้านหมดแล้ว ฉันก็จะกลับแล้วแค่นี้แหละ!!”
“เฮ้ย!!!ซองมิน!!เฮ้ย!!! ”
ฮยอกแจโยนโทรศัพท์ลงเตียงด้วยความเซ็งกับความจำปลาทองของเขาสุดๆ อันที่จริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยรู้จักกับซองมินมาก่อน เพราะเมื่อเดือนที่แล้วเขาได้ถูกรถชนจนบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็สามารถรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ซองมินบอกว่าฮยอกแจได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจึงจำไม่ได้ว่าทั้ง2เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน แต่เมื่อฮยอกแจได้งานทำซักพักแล้วเขาก็ย้ายออกมาอยู่คนเดียวด้วยเหตุผลที่ว่าเกรงใจซองมินเท่านั้น ตอนแรกซองมินก็ไม่อยากให้ออกมาอยู่คนเดียวซักเท่าไร แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของฮยอกแจได้ เขาจึงได้ย้ายออกมาอย่างที่ต้องการ
“นี่มันก็ผ่านมาตั้งเดือนนึงแล้วยังจำอะไรไม่ได้เลย เซ็งโว้ย!!”
ฮยอกแจตะโกนลั่นพร้อมกับทรุดนั่งลงบนเตียงช้าๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาจะจำเรื่องในอดีตได้ซักที เขารู้สึกอยากจะร้องไห้ทุกครั้งเมื่อใครต่างพูดถึงเรื่องสมัยเด็กของตัวเอง แต่สำหรับเขา..เขากลับจำอะไรไม่ได้ซักอย่าง ซึ่งมันก็ทำให้กลัวทุกครั้งที่พยายามนึกถึง เขากลัวว่าเขาจะตายไปทั้งๆที่จำอดีตไม่ได้ และนั้นก็คือเหตุผลจริงๆที่เขาต้องแยกออกมาอยู่คนเดียว เขาอยากจะใช้เวลาทบทวนสิ่งต่างๆเพียงลำพัง แม้จะบอกกับซองมินเสมอว่าเขาไม่สนเรื่องในอดีตแล้วก็ตาม ฮยอกแจสะบัดหัวไล่ความคิดทั้งหมดออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
.
“เออๆใกล้ถึงแล้วแค่นี้นะ ”
ฮยอกแจกดตัดสายเซ็งๆ ที่ถูกบ่นว่าชอบมาสายบ่อยๆ ทั้งๆที่เขาก็มาตรงเวลาทำงานเกือบทุกครั้ง ฮยอกแจเดินไล่มาตามทางเดินพร้อมกับหันมองร้านค้าต่างๆไปด้วย เขาเดินมาจนเกือบถึงร้านที่ทำงานอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุดตากับชายคนหนึ่งที่เดินผ่านไป
“ฮยอกแจ นายจะสายไป1นาทีนะ ถ้านายไม่ยอมเข้าร้านซักทีน่ะ!!!”
อีทึกเดินออกมาตะโกนเรียกฮยอกแจที่หน้าร้านด้วยสีหน้าดุดันเช่นเดียวกับทุกวัน ทำเอาสติของเขากระจัดกระเจิงหายไปหมด ไม่นานเขาก็มาอยู่ในสภาพเด็กเสิร์ฟเช่นเดิม
“เฮ้ย!!ซองมินฉันมีเรื่องจะถามหน่อยอ่ะ!!”
“มีอะไรว่ามา”
ซองมินฟังไปพร้อมๆกับกินขนมปังไปด้วยความเคยตัว
“คืองี้...เมื่อเช้าฉัน
.เจอผู้ชายคนนึงเดินผ่านอ่ะ”
“แล้วไงว่ะ!! เขาจับของแกหรือไงฮ่ะ!!”
“ไม่ใช่ นายจะบ้าหรือไง ฟังก่อนสิ!!! คิดแต่เรื่องทะลึ่งๆนะนายอ่ะ ”
“เออๆ จะเล่าก็เล่ามาดิ”
“ก็ฉันเจอผู้ชายคนนึงอ่ะ ฉันว่าเขาหน้าตาคุ้นๆนะ”
“คุ้นยังไงว่ะ!! หน้าเหมือนพ่อนายหรือไง”
“ไม่ใช่หรอก...แต่ว่าเหมือนคนที่ฉันเคยรู้จักอ่ะ!!”
“หรือว่า....”
ซองมินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาบางจนแทบไม่ได้ยิน ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกว่าบางอย่างที่หายไปจากความทรงจำของฮยอกแจกำลังจะกลับมาอีกครั้ง..
“ฮัลโหล ผมอยู่โซลแล้ว พี่อยู่ไหน!?”
“ฉันอยู่ตรงร้านกาแฟแถวๆอินซาดงนั่นแหละ”
“แล้วร้านกาแฟมันมีแค่ร้านเดียวหรือไงล่ะพี่!!!”
“แหม่ๆ อารมณ์เสียสิท่า ฉันก็อยู่ร้านกาแฟข้างหลังนายนั่นแหละ!!!”
เรียวอุคหันมองเยซองที่ยืนโบกไม้โบกมือให้ด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ
“ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้นะ ผมไม่ชอบ”
“ก็เวลานาย
เยซองขยี้หัวเรียวอุคเบาๆ เหมือนเด็กน้อย แล้วพาเรียวอุคเดินขึ้นรถไป
“แล้วอยู่ๆนายทำไมถึงกลับมาล่ะ!! ลืมเรื่องนั้นแล้วหรือไง!?”
“ผมไม่ลืมหรอก”
“แล้วถ้านายเจอ2คนนั้น นายจะทำไง”
“ก็คงอยู่เฉยๆแหละ... อีกอย่างกรุงโซลก็ออกจะกว้างคงไม่เจอกันง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง”
“นายแน่ใจได้ไงว่าจะไม่เจอ ถึงกรุงโซลมันจะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ยังไงๆฉันก็คิดว่านายมีโอกาสเจอ2คนนั้นถึง50%เลยนะ”
“ผมไม่รู้ว่าจะเจอเขาหรือปล่าวนะ แต่ยังไงๆผมก็ต้องอยู่ที่นี้ให้ได้”
เรียวอุคพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจและหนักแน่นสุดๆ แต่เยซองก็ยังคงกังวลอยู่ดี
เช้าวันต่อมา.........
ฮยอกแจออกไปทำงานเช่นเดียวกับทุกๆวัน แต่วันนี้อีทึกกลับสั่งให้เขาไปซื้อถ้วยชามที่เขาทำแตกมาคืน เขาจึงได้พบคนที่เขาคิดว่าคุ้นหน้ามากๆซึ่งนั้นก็คือเรียวอุคนั้นเอง
“ผู้ชายคนนั้นนี้หน่า!!”
ฮยอกแจอุทานออกมาเบาๆพร้อมกับหลบไปหลังเสาทันที เขามองเรียวอุคอย่างพิจารณาพร้อมกับพยายามนึกไปด้วย
“Shining Star!! like a little diamond, makes me love~”
แต่โชคกลับไม่เขาข้างเขาซะงั้น เมื่ออยู่ดีๆมือถือเขาก็ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำเอาคนแถวนั้นต่างหันไปจ้องมองฮยอกแจเป็นตาเดียวกัน แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือเรียวอุคด้วย
“ไอ้ซองมิน!!โทรมาอะไรตอนนี้ว่ะ!!”
“อ้าว!!นายนั้นแหละทำอะไรอยู่!! พี่อีทึกสั่งให้ไปซื้อจานชามนะเว้ยไม่ใช่ซื้อบ้าน!!!นานเป็นชาติเลย”
“เออๆกำลังเดินกลับเนี่ย!!”
ฮยอกแจเดินเข้าไปซื้อจานชามแล้วรีบกลับทันที โดยไม่ได้สังเกตุว่าเรียวอุคตกใจมากขนาดไหนที่เจอเขาที่นี่ .........
เมื่อ2เดือนที่แล้ว....
“ฮยอกแจ...จำเรื่องไททานิกได้ป่ะ!! ที่เราไปดูด้วยกันอ่ะ”
“อืม..จำได้ วันนั้นนายร้องไห้ขี้มูกโป่งเลยอ่ะ ”
“ก็ฉันสงสารแจ็คกับโรสนี้หน่า ”
“แล้วถ้าฉันตายล่ะ”
“ ปากเสียจริงๆนะนายอ่ะ ”
เรียวอุคใช้มือตีฮยอกแจเบาๆด้วยความหมั่นไส้ ที่เขาชอบพูดอะไรที่เป็นลางไม่ดีเสมอ
“เอาแบบนี้ไหม เดี๋ยวนายโรส และฉันเป็นแจ็คเอาป่ะ”
ฮยอกแจเดินไปข้างหลังเรียวอุคแล้วจับมือกางออก
“แหม่!!โรแมนติกจริงๆนะ ของเขาบนเรือ ของเรา...บนระเบียง”
ร่างบางพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้สุดชีวิต ทำเอาฮยอกแจก็พลอยขำตามไปด้วย
“ก็งบประมาณเราน้อยนี้หน่า เอาแค่ระเบียงก็พอแล้ว”
ร่างสูงรวบเรียวอุคเข้ามากอดเอาไว้ ทำเอาร่างเล็กถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอายทันที
“ฉันรักนายนะเรียวอุค”
ฮยอกแจจับร่างบางให้หันมาหาพร้อมกับบอกความในใจออกไป เรียวอุคพยักหน้าหงึกๆแล้วก้มหน้าก้มตาเหมือนเดิม ร่างสูงยิ้มให้กับความน่ารักของคนตรงหน้าแล้วก้มลงมาจูบอย่างอ่อนโยน ซึ่งร่างเล็กก็สามารถสนองกลับได้เป็นอย่างดี ฮยอกแจดันร่างบางเขาไปในห้องอย่างเร่งรีบ และแล้วทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี.....
‘ก๊อกๆๆ’
เสียงเคาะประตูดังขึ้นในห้องรกๆของฮยอกแจเช่นเดียวกับทุกๆวัน จนเขาแทบจะไม่ต้องเดาเลยซักนิดว่าคนที่เคาะคือใคร
“ทำไมฉันเปิดประตูออกมาทีไรต้องเจอนายทุกทีเลยเนี้ย!!!”
“ฉันก็แค่อยากแวะมาหาอ่ะ แล้วก็...ซื้อคิมพับกับตอกกุกมาฝากด้วย”
ซองมินยกถุงอาหารขึ้นมาโชว์แล้วเดินเข้ามาในห้องอย่างคนคุ้นเคยกัน ฮยอกแจส่ายหน้าช้าๆแล้วเดินตามเข้ามา
“โห ห้องนี้มีคนอยู่ด้วยหรอว่ะ รกมากๆ เหมือนปล่อยให้ร้างมาเป็นปีอย่างนั้นแหละ”
“พูดมากจังว่ะ ไปตั้งโต๊ะได้แล้วหิวนะโว้ย!!”
ฮยอกแจพยายามดันซองมินเข้าไปในครัว แล้วเดินออกไปเก็บของข้างนอกทันที
“โอ๊ย!!”
“เป็นอะไรอีกว่ะ!!”
“ปะ...ปล่าว”
“ปล่าว บ้าอะไรล่ะ เลือดไหลอย่างเนี้ย”
ฮยอกแจจับมือซองมินขึ้นมาพร้อมกับดุซองมินทันที
“ฉันก็แค่จะล้างจานให้อ่ะ แต่ไม่รู้ว่ามันมีมีดด้วย”
“ล้างแผลไปก่อนนะเดี๋ยวฉันมา”
ฮยอกแจพูดจบก็ผละออกไป ซองมินมองตามยิ้มๆไม่คิดว่าฮยอกแจจะห่วงเขาเหมือนกัน
“เออ...พอดีห้องฉันไม่มีก็เลยไปยืมคนข้างห้องมาน่ะ คงใช้ได้นะ”
ร่างสูงยื่นพลาสเตอร์สีชมพูให้ทันที ซองมินมองฮยอกแจด้วยสายตาอ้อนๆ เหมือนต้องการอะไรบางอย่าง
“เออๆ แค่นี้ก็แปะเองไม่ได้”
ฮยอกแจเหลือบมองเซ็งๆ ทั้งๆที่จริงก็แอบเขินอยู่ไม่น้อยที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้กับคนที่ไม่ใช่แฟนตัวเอง แต่กลับเป็นเพื่อนสนิทที่เขายังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ทีหลังทำอะไรก็ระวังหน่อยแล้วกัน ฉันไม่อยากวิ่งหาพลาสเตอร์ให้ใคร”
“ทำไมอ่ะ!!”
“มันเหนื่อยอะดิ!!”
ฮยอกแจเขกหัวซองมินเบาๆแล้วรีบตัดบทว่าหิวข้าวทันที ซองมินยิ้มอย่างมีความสุขแล้วรีบเดินตามออกไป....
“เออ...เดี๋ยวฉันกลับก่อนนะ”
ซองมินยิ้มให้ก่อนจะเดินออกไป ฮยอกแจมองตามจนลับตาแล้วเดินเข้าห้องไป
“อ้าว!!ทำไมขี้ลืมอย่างนี้เนี่ย!!”
ฮยอกแจหันไปเห็นโทรศัพท์ขงซองมินวางทิ้งไว้บนโต๊ะก็รีบหยิบมาดูทันที ในโทรศัพท์นั้นมีแต่รูปที่แอบถ่ายเขาทั้งนั้น ฮยอกแจรู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แล้วรีบวิ่งไปคืนโทรศัพท์ให้ซองมินทันที
“นายกลับมาทำไม!!!”
ฮยอกแจที่จะเดินมาคืนโทรศัพท์ให้ซองมินชะงักทันทีเมื่อได้ยินคนที่เขากำลังตามตัวอยู่กำลังคุยกับเรียวอุคด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาเข้าไปซ่อนอยู่หลังต้นไม้แล้วแอบฟังทันที
“,มันไม่เกี่ยวกับนายซะหน่อย!!”
เรียวอุคพยายามเดินหนีเพราะไม่อยากคุยเรื่องนี้อีก แต่ซองมินกลับกระชากแขนไว้
“นายก็รู้ว่า ฮยอกแจเขาไม่มีทางกลับไปหานายอีก!!”
“นั้นมันไม่เกี่ยวกับฉัน เขาจะเลือกใครฉันก็ไม่สน”
“แล้วนายจะกลับมาอีกทำไม!!! นายจะมาแย่งเขาไปอีกใช่ไหม!!!”
ซองมินตบหน้าเรียวอุคฉาดใหญ่จนล้มลงไปกองกับพื้น ฮยอกแจมองเหตุการณ์ข้างหน้าด้วยความตกใจเพราะไม่เคยเห็นซองมินในมุมร้ายกาจแบบนี้มาก่อน ใจหนึ่งเขาก็อย่างจะเข้าไปช่วยแต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากรู้ว่าความจริงคืออะไรกันแน่ จึงทนดูเหตุการณ์ต่อไป
“แน่ใจหรอซองมินว่าฉันจะแย่งฮยอกแจไปจากนายน่ะ นายน่าจะกลับไปคิดใหม่นะว่านายทำอะไรกับเรา2คนไว้บ้าง!!!”
“ฉันทำอะไร!! นายต่างหากที่ทำ ไม่ใช่ฉัน!!!”
ซองมินกระชากเรียวอุคขึ้นมาหาตัวแล้วตบอีกครั้ง เรียวอุคหันไม่มองซองมินแล้วพูดต่อ
“นายจำไม่ได้หรอ...ว่าตอนนั้นนายเป็นใคร นายไม่ใช่คนรู้จักของเขาด้วยซ้ำ นายเคยถามฮยอกแจบ้างไหมว่าเมื่อก่อนเขารู้จักนายหรือปล่าวนะ!!”
“ไม่!!นายโกหก ฉันเป็นเพื่อนรักกับฮยอกแจตั้งแต่สมัยเด็ก แต่ตอนนี้เรารักกันแล้ว เขารักฉันแล้ว!!”
“นายตื่นได้แล้วซองมิน!!นายต้องยอมรับว่านายกับเขาไม่เคยเป็นเพื่อนกัน!!”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!!!!”
ซองมินกรีดร้องลั่นทั้งน้ำตา
“นายอย่าหลอกตัวเองอีกเลยนะ ”
“แล้วทุกอย่างที่ฉันทำละ มันก็สูญเปล่านะสิ!! ฉันอุตส่าห์ขับรถชนให้เขาความจำเสื่อมนะ”
“นายว่าไงนะ!!!นายเป็นคนทำฮยอกแจความจำเสื่อมหรอ ”
“ใช่!!แต่ตอนแรกฉันก็กลัวว่าเขาจะตายแต่พอหมอบอกว่าเขาแค่ความจำเสื่อมฉันก็รู้สึกดีมากๆเลยละ”
“ซองมิน..”
ฮยอกแจเดินออกมาจากต้นไม้ด้วยความผิดหวังสุดๆ
“ฉันไม่อยากจะเชื่อ...ว่าคนที่ฉันไว้ใจที่สุด จะกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉัน!! นายรู้ไหมว่าฉันต้องเจ็บปวดขนาดไหนกับการที่ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ”
“ฉันขอโทษ...”
ซองมินพยายามจะเดินเข้าไปหาฮยอกแจ แต่เขากลับถอยหนี
“คนที่คอยโทรปลุกฉันตอนเช้า คนที่คอยแวะมาหาฉันจนฉันรำคาญ ที่จริงแล้วคนๆนั้นก็เป็นแค่คนเลวดีๆนี้เอง!! ”
ร่างสูงเหวี่ยงโทรศัพท์ในมือลงพื้นจนแตกกระจายแล้วเดินหนีไป เรียวอุคอึ้งไปนิดก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นทันที เขาเดินออกมาไม่ไกลนักก็ทรุดลงร้องไห้กับพื้นด้วยความเสียใจจากคำที่ฮยอกแจด่าว่าซองมิน เพราะนั้นมันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฮยอกแจได้รักซองมินเข้าแล้ว ทั้งๆที่ตลอดเวลา1เดือนที่ผ่านมาสิ่งที่เขาไม่เคยลืมก็คือฮยอกแจเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นคนที่ถูกลบเลือนหายไปจากความทรงจำของฮยอกแจเสียแล้ว
2วันต่อมา...
“เป็นไงล่ะ!! ฉันบอกแล้วว่ายังไงๆก็มีโอกาสเจอฮยอกแจกับซองมิน นายก็ไม่เชื่อ”
เยซองตบหลังเรียวอุคเพื่อเป็นการปลอบใจ
“แต่ยังไง ผมก็อยากหางานทำที่เกาหลีอยู่ดี ผมไม่อยากไปอยู่ที่จีนแล้ว”
“ทำไมอะ หรือว่า....อยากเป็นมิสเกาหลีมากกว่าสาวหมวยหรือไงฮ่ะ ฉันว่าสาวหมวยๆก็น่ากินอยู่นะ”
เยซองแกล้งหยอกน้องชายสุดที่รัก ก่อนจะทำสีหน้าหื่นๆใส่
“เออ...ขอโทษนะฉันขอคุยด้วยได้ไหม?”
เสียงที่เรียวอุคคุ้นเคยเป็นอย่างดีดังขึ้น จนเรียวอุคต้องหันมอง
“ฮยอกแจ!!”
เรียวอุคอุทานชื่อคนตรงหน้าออกมาเบาๆ
“ไม่ได้!! ฉันไม่อยากเห็นเรียวอุคต้องเจ็บเพราะนายอีก!!”
“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่”
“นายกลับไปซะ!!”
เยซองพยายามไล่ฮยอกแจ แต่เขาก็ยังคงดึงดันจะฟังให้ได้อยู่ดี
“พี่กลับไปก่อน เดี๋ยวผมเคลียร์เอง”
“แต่...”
“เรื่องทั้งหมด มันต้องจบวันนี้”
“ก็ได้ ฉันจะกลับไปรอที่บ้าน”
เรียวอุคเดินนำฮยอกแจมาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ก่อนจะเริ่มตั้งคำถามที่ความสงสัยมานาน
“ทำไมนายถึงอยากรู้เรื่องทั้งหมดในอดีตล่ะ”
“ฉันก็แค่ไม่อยากรู้สึกผิดไปจนตาย”
“รู้สึกผิดเรื่องอะไร?”
“เรื่องที่ฉันจำไม่ได้ว่า...เคยรักนาย”
เรียวอุคชะงักกับประโยคนั้น ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“เคยรักกันงั้นหรอ? นายเข้าใจอะไรผิดหรือปล่าว?”
“ก็..เรื่องที่นายคุยกับซองมินน่ะ ถ้าไม่ใช่แล้วเมื่อก่อนเราเป็นอะไรกันล่ะ”
“นายกับฉัน...ก็แค่คนรู้จักกัน”
เรียวอุคพูดเหมือนไม่มีอะไรทั้งๆที่น้ำตาเขาใกล้จะไหลอยู่รอมร่อ
“ฉันไม่เชื่อ สิ่งที่นายกำลังจะให้ฉันรับรู้ตอนนี้มันขัดกับสิ่งที่นายพูดกับซองมินมากๆ ฉันว่านายบอกฉันมาดีกว่าว่าเมื่อก่อนเราเป็นแฟนกันใช่ไหม!!”
“ถ้าฉันบอกว่าใช่แล้วไงล่ะ ในเมื่อมันไม่จำเป็นกับนายอีกแล้ว”
“ทำไม?”
“นี่นายยังไม่รู้ตัวอีกหรอ...ว่านายกำลังรักคนอื่น...ที่ไม่ใช่ฉัน”
“ฉัน? กับใคร?”
“ซองมินไง ”
“เราเป็นแค่เพื่อนกัน นายไม่ใช่ฉันนายไม่รู้หรอก”
“นายคิดว่าฉันดูไม่ออกหรือไง นายคงจำไม่ได้มั้งว่าเมื่อก่อนเราคบกันมาตั้งแต่เรียน ม.ปลาย เรื่องเล็กๆแค่นี้นายคิดว่าฉันจะดูไม่ออกหรือไง ”
เรียวอุคพูดจบก็เดินออกไป
“แต่...ฉันกลับไปคบกับนายเหมือนเดิมได้ไหม บางทีฉันอาจจะจำอะไรได้บ้าง”
เรียวอุคชะงักไปนิด ก่อนจะหันไปพูดทั้งน้ำตา
“มันไม่มีประโยชน์หรอก ทางที่ดีนายน่าจะกลับไปหาคนที่นายรักนะ”
“ถ้าฉันกลับไปหาซองมิน แล้วนายล่ะ!”
“ตอนแรกฉันก็อยากอยู่ที่นี้นั้นแหละ แต่คิดไปคิดมาอีกทีฉันก็คงจะไปจากที่นี้”
“งั้นฉันขอจูบนายได้ไหม?”
“อืม..ก็ได้”
เรียวอุคปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะยิ้มให้บางๆ ฮยอกแจยิ้มตอบก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนปากร่างเล็กอย่างเนิ่นนาน
“ลาก่อนนะ”
“แล้วนายจะไปอยู่ไหน?”
“ที่ๆนายกับฉันเคยรักกันไง.....ถ้านายจำทุกอย่างได้นายก็จะรู้”
เรียวอุคทิ้งปริศนาเอาไว้แล้วเดินออกไป....
‘ก๊อกๆๆ’
ซองมินเดินออกมาเปิดประตูด้วยสภาพไม่สู้ดีนัก แต่เมื่อเจอหน้าคนเคาะทำเอาเขาแทบทรงตัวไม่อยู่น้ำตาเขาไหลออกมาอีกครั้งด้วยความดีใจ
“ฉันซื้อตอกกุกกับคิมพับมาให้น่ะ นายคงกำลังหิว”
ฮยอกแจพูดจบประโยคร่างเล็กถลาเข้ากอดทันที
“นี่เป็นครั้งที่3แล้วสินะ ที่นายเคาะประตูห้องฉันน่ะ”
“นายนับด้วยหรอ...”
“อืม...นายเคาะห้อง3ครั้ง ซื้ออาหารมาให้1ครั้ง ”
ซองมินพูดไปสะอื้นไปทำเอาฮยอกแจอดขำไม่ได้ เขาดันร่างเล็กนั่งลงช้าๆ
“ฉันมีเรื่องคุยด้วยน่ะ”
“อืม”
“ฉันรู้นะว่านายคิดยังไงกับฉัน และฉันก็ชอบนายเหมือนกัน”
ซองมินยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ
“แต่...เป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ”
“ทำไมละ!!ฉันยังไม่ดีตรงไหนหรือไง”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก”
“แล้วทำไม?”
“ตอนนี้ใจฉันยังไม่แน่นอน ฉันก็เลยไม่อยากทำให้นายเสียใจทีหลังน่ะ นายคงเข้าใจฉันนะ”
ฮยอกแจตบหลังซองมินเบาๆเป็นการปลอบใจที่เขาทำให้ซองมินผิดหวัง
“อืม..ก็ได้...แค่ฉันไม่ต้องเสียนายไปก็พอแล้ว ”
ซองมินโผกอดร่างสูงอีกครั้ง แม้เขาจะยังทำใจไม่ได้แต่อย่างน้อยเขาก็รู้สึกว่าฮยอกแจยังคงอยู่ข้างเขาเสมอ ถึงจะแค่ในฐานะเพื่อนคนนึงก็ตาม
“ฉันถามอะไรหน่อยสิ”
“อืม..อะไรล่ะ”
“นายรักฉันไม่ใช่หรอ...ทำไมตอนแรกนายไม่หลอกว่านายเป็นแฟนฉันล่ะ!?”
“ถึงฉันจะเห็นแก่ตัวหรือเป็นจอมโกหกยังไงอ่ะนะ แต่ฉันก็แค่อยากให้นายรักฉันด้วยใจของนายจริงๆ ไม่ใช่รักเพราะว่าฉันเป็นแฟนนาย”
“จริงหรอ...อืม..ฉันก็ไม่ได้อยากให้ความหวังนายหรอกนะ แต่...ฉันสัญญาว่าถ้าฉันจำได้ และความรู้สึกที่ฉันรู้สึกตอนนี้ยังไม่เปลี่ยนไป ฉันจะกลับมาหานายเหมือนเดิม”
เช้าวันต่อมา...
“รู้แล้วๆ เดี๋ยวไป”
ฮยอกแจพูดจบก็กดวางสายทันที และแน่นอนว่าคนในสายก็คือซองมินเจ้าประจำนั้นเอง เจ้าของร่างสูงพยายามพยุงร่างตัวเองเพื่อเข้าห้องน้ำ เขาเดินไปหยุดมองตัวเองที่กระจกด้วยควาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงจำเรื่องราวทุกอย่างไม่ได้ซักที ฮยอกแจถอนหายใจเบาๆแล้วก้มลงล้างหน้าช้าๆเพื่อไล่ความเพลียออกไป....
“ฮยอกแจ!!นายเล่นอะไรเนี้ย”
“อย่าดิ้นหน่า ผมขอต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือไง”
ฮยอกแจพยายามซุกไซ้ร่างบอบบางไปมาโดยไม่สนใจคำห้ามปรามของเรียวอุคแม้แต่น้อย
“ปล่อยเถอะ ฉันเหนื่อยแล้วนะ”
“ไม่เอาอ่ะ ขอต่ออีกนิดเถอะนะ”
ร่างสูงดันเรียวอุคให้ลงไปในอ่างอาบน้ำช้าๆ แม้ร่างเล็กจะพยายามต้านแรงนั้นไว้ แต่ด้วยความที่ฮยอกแจเป็นคนตัวใหญ่กว่าทำให้ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอรับสิ่งที่ฮยอกแจพยายามจะมอบให้....
ฮยอกแจนิ่งไปนานกับภาพที่แวบเข้ามาในสมอง เขากุมหัวด้วยความรู้สึกเครียด แม้ในใจจะแอบรู้สึกดีอยู่ไม่น้อยที่เขาเริ่มจำสิ่งต่างๆได้บ้างแล้ว แต่นั้นก็คือสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าเขาและเรียวอุคเคยมีอะไรเกินเลยมาแล้ว ซึ่งนั้นแสดงว่าเขาอาจจะทำให้เรียวอุคและซองมินเสียใจ ถ้าเขาเลือกที่จะรักใครซักคน....
วันนี้ฮยอกแจก็ยังมาทำงานสายอีกเช่นเคย เขาอยากจะบอกซองมินเหลือเกินว่าเขาเริ่มจำได้แล้ว แต่ถ้าซองมินรู้เข้า ซองมินอาจจะรู้สึกไม่ดีก็ได้
“ฮยอกแจ!!”
ซองมินโผล่เข้ามาทำให้ฮยอกแจตกใจเล่นๆ แต่ร่างสูงกับไม่ตอบสนองใดๆ
“ฮยอกแจ!!!!”
“ฮืม...มีอะไรหรอ”
“นายมีอะไรหรือปล่าว เห็นดูเครียดๆนะ ฉันเรียกก็ไม่ตอบ”
“ปล่าวหรอกก็แค่รู้สึกแปลกๆน่ะ”
“ไม่สบายหรอ!!”
ซองมินทำสีหน้าตกอกตกใจ แล้วใช้มือทาบบนหน้าผากด้วยความเป็นห่วง
“ปล่าวซะหน่อย...ก็แค่รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้ๆนายน่ะ”
ฮยอกแจยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปหาริมฝีปากอวบอิ่มของซองมิน แต่จู่ๆก็มีภาพในอดีตแวบขึ้นมาในหัวเขาอีกครั้ง
..
“เฮ้!!นั้นมันบะหมี่ของฉันนะ!!!”
เรียวอุคที่พึ่งเดินมารีบทวงทันที ขณะที่เห็นฮยอกแจกินบะหมี่ที่เขาวางทิ้งไว้ขณะที่ไปเข้าห้องน้ำ
“นี่!!นายอย่าหวงหน่อยเลยหน่า ฉันก็แฟนนายนะ กินนิดกินหน่อยไม่ได้หรือไง!!”
“แฟนก็ส่วนแฟนสิ เกี่ยวอะไรกับบะหมี่ของฉันล่ะ!!”
“งั้น...เอาแบบนี้ เรามาเล่นเกมกัน ใครชนะได้กินโอเคป่ะ”
ฮยอกแจพยายามหาหนทางที่เขาจะสามารถแย่งเรียวอุคกินได้ นั้นก็คือเล่นเกมนั้นเอง
“ก็ได้!!”
“อืม....ฉันจะให้นายกับฉันแย่งกันกินบะหมี่เส้นนี้แล้วกัน ใครปล่อยก่อนคนนั้นแพ้ โอเคป่ะ”
ฮยอกแจหยิบเส้นบะหมี่ขึ้นมาพร้อมกับยักคิ้วให้กวนๆ ทำเอาเรียวอุคอดหมั้นไส้ไม่ได้ แต่เพื่อบะหมี่ที่เขาอุตส่าห์ต้มกินเองเขาจึงต้องแข่งเพื่อชิงมันกลับมา ฮยอกแจคาบเส้นบะหมี่ไว้ข้างหนึ่งแล้วให้เรียวอุคคาบอีกข้างหนึ่งก่อนจะเริ่มนับเวลาโดยใช้สัญญาณมือ เมื่อเขาส่งสันญาณให้เริ่มกินได้ทั้งคู่จึงรีบกินแบบไม่มีใครยอมใครแต่เมื่อปากทั้ง2เริ่มเข้าใกล้กันมากขึ้น เรียวอุคก็เริ่มชะงักเหมือนไม่กล้า แต่ฮยอกแจกลับยิ่งเข้าใกล้จนริมฝีปากจะแตะกันอยู่รอมร่อ ร่างเล็กหลับหูหลับตาพร้อมกับผละปากออก แต่ฮยอกแจกลับรีบประกบปากทันที เขาบดริมฝีปากลงอย่างดูดดื่มจนเรียวอุคเคลิ้มไป ร่างบอบบางดันฮยอกแจออกช้าๆด้วยความเขินอาย
“ฉันแพ้แล้ว นายกินบะหมี่ไปเถอะ”
“อืม...ไม่ดีกว่า ฉันอิ่มแล้วล่ะ เดี๋ยวจะไปอาบน้ำ จะได้ออกมากินของหวานต่อ”
ฮยอกแจมองยิ้มๆก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป....
ฮยอกแจชะงักรีบดันตัวออกอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจกับภาพที่เห็น ทำเอาซองมินยังอดแปลกใจไม่ได้
“เออ....ฉันขอโทษนะ”
ฮยอกแจพูดจบก็รีบผละออกจากตรงนั้นทันที ร่างบางมองตามด้วยความเป็นห่วงแต่ก็แอบรู้สึกน้อยใจฮยอกแจอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็พยายามไม่สงสัยและออกไปทำงานเช่นเดิม แต่ซักพักอีทึกก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“เฮ้ย!!!ซองมิน ฮยอกแจมันถูกรถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงบาลว่ะ!!”
“ฮ่ะ!!!อยู่โรงพยาบาลไหน!!!”
“ตามมาดิ เดี๋ยวฉันไปด้วย!!”
ไม่นานซองมินและอีทึกก็มาถึงโรงพยาบาล ร่างบางรีบตรงเข้าไปถามพยาบาลทันที
“คุณครับ คนที่ถูกรถชนเมื่อไม่นานมานี้เข้าอยู่ห้องไหนหรอครับ”
“ชื่ออะไรค่ะ”
“อี ฮยอกแจครับ”
“รอซักครู่นะค่ะ”
พยาบาลคนนั้นหันไปหารายชื่อในคอมพิวเตอร์ทันที
“อ๋อ คนไข้อยู่ห้อง201ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
พูดจบซองมินกับอีทึกก็วิ่งเข้ามาในห้อง201ทันที แต่ทว่าสิ่งที่พบคือความว่างเปล่าเท่านั้น
“คุณพยาบาลครับ คนไข้ห้องนี้เขาไปไหนครับ”
“คุณเป็นญาติคนไข้ใช่ไหมค่ะ คือ...เมื่อไม่นานนี้ อยู่ๆคนไข้ก็วิ่งออกไปไหนก็ไม่ทราบนะค่ะ ทางโรงพยาบาลก็พยายามตามตัวอยู่เหมือนกัน”
ซองมินได้ฟังก็ตกใจรีบวิ่งไปตามหาฮยอกแจทันที
“ซองมิน!!”
ประมาณ1ชั่วโมงที่แล้ว.....
ร่างโชกเลือดของฮยอกแจถูกนำส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว โดยมีหมอและพยาบาลต่างช่วยยื้อชีวิตอย่างสุดฝีมือจนในสุดเขาก็สามารถมีชีวิตรอดอีกครั้ง...
“ฮยอกแจ นายมาหาฉันที่เดิมหน่อยสิ”
“ที่ไหนหรอ.?”
“ก็ที่เดิมของเราไง”
“ที่ไหนอ่ะ?”
“จำไม่ได้นายก็ไม่ต้องมาหรอก!!!”
“โถ่..ที่รักจ๋า อย่างอนนะ จำได้หน่า ที่เกาะอูโดช่ายป่ะ”
“อืม...รีบๆมานะ ไม่ชอบคนผิดนัด”
เรียวอุคพูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที ทำเอาฮยอกแจถึงกับอมยิ้มในความน่ารักของแฟนตัวเองอย่างอดไม่ได้ ฮยอกแจไปหาเรียวอุคทันที แต่จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามาปะทะร่างสูงอย่างแรงจนเขาสลบไป....
ร่างฮยอกแจนอนอยูบนเตียงโดยมีผ้าพันอยู่ที่หัวและมีรอยช้ำรอยถลอกอยู่ตามตัวนิดหน่อย เขายันตัวลุกขึ้นมาด้วยความมึนงง ตอนนี้เขาสามารถจำทุกอย่างได้แล้ว แต่ปัญหาก็คือเขากลับลืมช่วงเวลาที่เขาความจำเสื่อมไปจนหมด เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า1เดือนที่ผ่านมามันผ่านไปแล้ว สิ่งเดียวที่เขานึกถึงตอนนี้ก็คือนัดของเรียวอุคเท่านั้น ฮยอกแจรีบวิ่งออกจากโรงพยาบาลไปด้วยความรีบร้อน เนื่องจากกลัวว่าจะไปไม่ทันนัด
ในที่สุดฮยอกแจก็มาถึงเกาะอูโดโดยที่ยังใส่ชุดโรงพยาบาลอยู่ เขาตามหาเรียวอุคจนทั่วแต่ก็ไม่มีวี่แววของเรียวอุคเลยแม้แต่นิด เขาทรุดลงกับพื้นทรายด้วยความหมดหวัง เนื่องจากเขาคิดว่าเรียวอุคคงโกรธที่เขามาช้า
“ฮยอกแจ!!”
เรียวอุคที่เดินเล่นอยู่ริมชายหาด เดินเข้ามาหาร่างสูงทันที ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความดีใจพร้อมกับโผกอดชายหนุ่มด้วยความรัก
“ฉันขอโทษนะเรียวอุค นายอย่าโกรธฉันนะ ”
“นายเป็นอะไรน่ะ”
เรียวอุคแตะที่แผลฮยอกแจด้วยความเป็นห่วงทั้งๆที่ในใจก็แอบงงอยู่ไม่น้อย
“ก็..ตอนที่ฉันมาหานาย
“แล้วนายเป็นไงบ้าง เจ็บมากไหม”
เรียวอุคถามพลางมองดูแผลตามตัวฮยอกแจด้วยความห่วงใย
“อืม ก็เจ็บนิดหน่อย”
“เอ๊ะ!! แต่...นายจำทุกอย่างได้แล้วหรอ?”
“ทุกอย่าง? อะไรหรอ อย่าบอกนะว่าเรื่องที่นัดกับนายน่ะ เรื่องนั้นฉันไม่ลืมหรอกหน่า!!”
“คือ....”
“ไปหาข้าวกินกันเถอะ!!หิวแล้ว”
“แล้วนายจะไปทั้งชุดนี้หรือไง”
เรียวอุครีบแย้งทันทีที่เห็นว่าฮยอกแจจะไปทั้งชุดคนไข้แบบนี้จึงรีบพาฮยอกแจไปเปลี่ยนชุดทันที
“นี่!!ไหนๆก็อยู่กัน2ต่อ2แล้วอ่ะ มาทำอะไรที่มันแบบว่าทำกัน2ต่อ2ดีไหม”
ฮยอกแจพยายามสะกิดร่างบางที่กำลังล้มตัวลงนอน แต่เรียวอุคก็ไม่สนใจและพยายามไล่
“อย่ามายุ่งหน่า!!”
“ขอนิดเดี๋ยวหน่านะๆๆ”
“นายอยากมาหรือไง!!”
“อืม”
“’งั้นนายก็ไปหาคนอื่นไป!!!”
เรียวอุคชักหงุดหงิดขึ้นมา จึงผลักร่างสูงออกแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที
“เรียวอุค นายเป็นอะไรเนี้ย!!”
“ทำไม ทนไม่ได้หรอ!!”
“ปล่าว ฉันก็แค่เห็นว่านายไม่มีเหตุผลเลยอ่ะ”
“ถ้านายรับไม่ได้ นายก็ไปหาคนอื่นสิ!!”
เรียวอุคหันหลังหนีด้วยความน้อยใจ ทำเอาร่างสูงต้องรีบเดินเข้าไปกอดทันที
“ได้ไงล่ะ ก็ฉันรักนายคนเดียวนี่หน่า”
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายรักฉันคนเดียวน่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าต่อไปเรา2คนจะเป็นอย่างไร แต่ฉันสัญญาว่าต่อจากนี้ไปฉันจะดูแลนายเอง จนกว่า...”
“นายจะเลิกรักฉัน”
“ปล่าว จนกว่านายจะเลิกรักฉันต่างหาก”
ฮยอกแจกระซิบเบาๆที่ข้างหูเรียวอุค พร้อมกับกระชับกอดให้แน่นขึ้นเหมือนเป็นคำมั่นสัญญาว่าเขาจะปกป้องเรียวอุคตลอดไป
.
ในที่สุดเรียวอุคก็เก็บของกลับมาอยู่ที่โซลเช่นเดิม แต่คราวนี้เขาจะย้ายเข้ามาอยู่ห้องเดียวกับฮยอกแจ ทั้ง2ช่วยกันขนของเข้าห้องแต่เมื่อเปิดห้องไปกลับเจอซองมินนอนอยู่บนเตียงของเขาทำเอาฮยอกแจตกใจไม่น้อย ซองมินเห็นทั้ง2จึงยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นายจำทุกอย่างได้แล้วใช่ไหม”
“ทุกอย่าง? ทุกอย่างคืออะไร? แล้วนายเป็นใคร?”
“ฉันซองมินไง”
“ซองมินไหน? เขาเป็นเพื่อนนายหรอเรียวอุค”
ประโยคที่หลุดออกมาจากปากฮยอกแจทำเอาเรียวอุคและซองมินถึงกับอึ้งไปตามๆกัน
“ฉันเป็นเพื่อนนายไง”
“นี่นายจะบ้าหรือปล่าว ฉันจะเป็นเพื่อนกับคนที่ฉันไม่รู้จักได้ไง”
“เรียวอุค เขาเป็นอะไร ฮยอกแจเป็นอะไร!!!”
ซองมินเอ่ยถามทั้งน้ำตา ไม่อยากเชื่อว่าฮยอกแจจะลืมเรื่องทุกอย่างไปภายในพริบตา
“ฉันไม่รู้”
“ฉันว่านายน่าจะกลับไปได้แล้วนะ”
“แต่ฉันเป็นเพื่อนนายนะ”
“เพื่อนหรอ แล้วทำไมฉันจำนายไม่ได้ล่ะ”
“เอ่อ..ซองมิน นายกลับไปก่อนนะเดี๋ยววันหลังเราค่อยคุยกันใหม่ก็ได้ ฮยอกแจคงยังไม่พร้อมที่จะคุยกับใครน่ะ”
เรียวอุคเห็นท่าไม่ดีก็รีบขอให้ซองมินกลับบ้านก่อน เขาจึงต้องจำใจกลับโดยดี แต่ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่เรียวอุคเคยเจอ เมื่อก่อนเขาไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเรียวอุคเจ็บปวดแค่ไหนกับการที่ฮยอกแจไม่สามารถจำเรียวอุคได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถรับรู้ความรู้สึกนั้นได้เป็นอย่างดี และหัวใจของเขาตอนนี้กำลังจะแหลกละเอียดไปเพียงเพราะประโยคสั้นๆที่ว่า ‘นายคือใคร? ’ เท่านั้นเอง
To be continued
..
*********************************************************
เฮ้อ!!!จบซ๊ากกกกที่!!!!!!!!
กว่าจะจบก็เล่นเสียเลือดไปตั้งเยอะนะเนี้ย(ยุงกัดอ่า~T^T)
โอเช เอาเปนว่าเม้นท์กานนเยอะๆนะ ไรเตอร์จะได้รูสึกใจชื้นขึ้นบ้างเน้อ
ไรเตอร์จะได้มีกำลังจายเขียนและก้อฝึกแต่งฟิค&นิยายต่อปายยยยยเรื่อยๆ
ละก้อฝากอึนเรียวไว้นายอ้อมกอดที่เคยถูกช้ายยยโด้ยน้าาาา~
ขอบคุงงงงงงงงงงฮ้าบบบบบบบบบบบ จุ๊บบบบบบบๆ
ป.ล.ติดตามภาคต่อของเรื่องนี้ด้วยนะค้าบบบบ อึนเรียวเยี่ยงเดิมแต่จะออกแนวเบี่ยงเบนไปทางฮยอกมินนี๊สสสนึง(หรอ?)แต่ก็ยังคงความเป็นอึนเรียวอยู่นะ ลองติดตามดูแล้วกัน + ^___^ + อิๆๆๆ
ผลงานอื่นๆ ของ Y Generations ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Y Generations
ความคิดเห็น