ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -AF8 [เต๋าคชา] U&ME จะรุกหรือรับเดี๋ยวก็รู้

    ลำดับตอนที่ #5 : [SF] Unreliable ....

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 54









    เปิดเพลงไว้นะคะได้อรรถรสนะเออ 









    Unreliable .... ?



    คำว่ารัแปลว่าฉันมีแต่…เหงา
    หากคำว่ารัก หมายถึงการต้องอยู่คนเดียวทุกวัน
    ต้องใช้ชีวิต…ลำพัง…ในคืนที่มันว่างเปล่า

    ……ก็ควรมาเอาคำนั้นของเธอคืนไป

     





     

     

    ปี๊บ!

     

    รายงานสภาพอากาศวันนี้นะครับทุกคนวันนี้จะฝนตกลมระ …….. ’

     

     

     

    ปี๊บ!

     

    สวัสดีครับท่านผู้ชม พบกับผมและรายกา…….. ’

     

     

     

    ปี๊บ!

     

    ฮ่าๆๆๆ เป็นไงครับท่านผู้ชมอันดับเพลงที่ 2 ของระ …… ’

     

     

     

     

                 ปี๊บ!! ซ่าาาาาาาาาาาา!!  ซ่าาาาาา ~

     

                เสียงซ่าของทีวีแอลซีดีจอใหญ่ดังก้องไปทั่วบริเวณเป็นสิ่งเดียวที่ทำลายความเงียบภายในห้องสีเหลี่ยมกว้างและให้แสงสว่างเมื่อไม่มีสัญญาณจากช่องที่เพิ่งกดมือเล็กวางรีโมตที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีช่องไหนที่จะเรียกความสนใจจากร่างบางที่กำลังโอบกอดขาเรียวของตัวเองที่ชันขึ้นมาวางไว้ชิดอกที่โซฟาสีขาวพอวางรีโมตลงบนโต๊ะไม้หน้าทีวีมือเล็กก็กลับมากอดกระชับเพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวเอง ใบหน้าหวานก้มลงไปพักไว้ที่เข่าของตัวเองด้วยสีหน้าที่ยากจะเดาอารมณ์ได้

     

     

     

     

    เงียบ…ห้องมันเงียบเกินไป  นานแค่ไหนแล้วที่ต้องทนอยู่กับตัวเองคนเดียวแบบนี้ จำไม่ได้แฮะ

     

     

     

     

     

    กึก~ ปรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!!

     

     

    เฮือกก!!

     

    ร่างบางต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันทีเพราะเสียงของกาต้มน้ำที่เมื่อถึงจุดเดือดจะส่งเสียงเตือน ขาเรียวยาวค่อยๆลุกเต็มความสูงและเดินไปยังที่อยู่ของกาต้มน้ำก่อนจะหันไปหยิบเอาชามที่ใส่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เตรียมเอาไว้เมื่อกี้มาเติมน้ำร้อน มือเล็กค่อยๆรินน้ำร้อนจากกาต้มน้ำสีแดงซึ่งมันเป็นสีที่ใครบางคนชอบและหลงใหล

     

     

     

    ใครบางคนที่ปล่อยเขาไว้คนเดียว….

     

     

     

    มือบางจัดแจงหยิบตะเกียบในลิ้นชักห้องครัวออกมาวางไว้บนชามบะหมี่และพามาวางเอาไว้ที่โต๊ะหน้าทีวีที่เดิมและทรุดตัวตามลงไปนั่งที่โซฟาที่ๆเขาเพิ่งจะลุกออกไปเมื่อกี้

     

     

     

    อ๊ะ!!

     

    ใบหน้าเรียบเฉยที่ไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไรกับใครค่อยๆบิดเบี้ยวขึ้นมาเล็กน้อย มือก็ยกขึ้นมาแตะที่ท้องตัวเองและบีบเอาไว้เมื่อความปวดบริเวณนั้นเริ่มเพิ่มขึ้นทีละนิดๆ  เป็นอีกแล้ว ปวดจัง

     

     

     

    ชา กินข้าวให้ตรงเวลาได้ไหมเดี๋ยวก็ปวดท้อง ยาน่ะก็กินด้วยเป็นโรคกระเพาะใช่ว่ากินข้าวทุกมื้อแล้วจะหายนะต้องกินยาด้วย นะครับ เต๋าขอนะ

     

     

     

                เสียงเตือนที่ยังอยู่ในความทรงจำของเขาค่อยๆดังขึ้นมาเรื่อยๆ ริมฝีปากสีซีดค่อยๆเม้มเข้าหากันระบายความปวดตรงท้องก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงเคาน์เตอร์วางของไม่ใกล้จากโซฟามากนักหยิบถุงที่พอเปิดออกก็จะเต็มไปด้วยเม็ดยาที่เขาต้องกิน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเพียงแค่ได้คิดถึงเสียงเตือนนั่นทำไมเขาต้องทำตามด้วย ทั้งที่คนพูดก็ไม่เห็นว่าจะมาอยู่ดู

     

     

     

                เมื่อได้ยาแล้วร่างบางค่อยๆถอดหายใจก่อนจะหลับตาปี๋แล้วกลั้นใจกลืนยาเข้าไปในลำคอด้วยความยากลำบาก

     

     

                  ที่ไม่ชอบกินยาเพราะมันกลืนลำบาก

     

                     

                  กว่าจะค่อยๆกินยาทีละเม็ดจนหมดก็ต้องใช้เวลาพอสมควร และเดินกลับมานั่งที่หน้าทีวีเหมือนเดิม เสียงซ่าๆของช่องที่เขาเปิดค้างไว้ก็ยังคงดังต่อไปโดยที่เขาเองก็ไม่ได้คิดจะไปยุ่งหรือปิดแต่อย่างใด ร่างบางค่อยๆหยิบตะเกียบจิ้มๆลงไปในชามที่มีบะหมี่ลอยอืดเต็มชามแล้วคีบมันเข้าปากช้าๆ

     

     

     

                  บะหมี่ที่ไม่ได้ปรุงรสอะไรเลย ก็แค่บะหมี่ใส่น้ำร้อนแค่นั้นเอง

     







                                  ครืดด!! ~ ครืดดดด!!~ ครืดดดด!!

     

     

                     เฮือกกก!!

                     

                   “ บ้าเอ้ยยยย! ” เสียงสถบออกมาจากริมฝีปากบางทันทีที่สะดุ้งตัวขึ้นจนเกือบจะปล่อยตะเกียบลงพื้น ทำไมเขาถึงไม่ชินกับเสียงพวกนี้ซักทีนะ  เสียงที่เขาได้ยินก็ไม่ใช่เสียงอะไรนอกจากเสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องสีขาวของเขาเองที่ตั้งสั่นเอาไว้สั่นรัวเพราะมีคนโทรเข้ามา

     

     

                     คุณมีสายเข้า..... ‘ ใครบางคน

     

     

                     กึก!

     

        “……….” นิ้วเรียวกดรับสายก่อนจะยกขึ้นแนบหูแต่ก็ไม่ได้พูดตอบรับแต่อย่างใดจนคนปลายสายต้องส่งเสียงเรียก

     

     

                    ชา ” เสียงคุ้นเคยที่เรียกน้ำใสๆให้เอ่ออยู่ตรงขอบตาจนเกือบจะข่มไม่ไหว  “ อื้ม ” ที่ตอบกลับก็มีแค่นี้ ประโยคที่ไม่น่าจะใช่ที่เวลาคนรักเขาคุยกันเลยสักนิด

     

     

     

                    “ ทำอะไรอยู่ จะทุ่มนึงแล้วกินข้าวรึยังครับ ? ”

     

     

     

                      กินแล้ว เต๋าล่ะโกหก  เขาโกหก    บะหมี่นั้นยังไม่ได้เข้าปากเลยแม้แต่คำเดียวแต่ที่พูดตอบออกไปแบบนั้นก็แค่ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นห่วงก็เท่านั้น

     

     

                      “ เรียบร้อยแล้วครับ ”

     

     

                      อื้ม

     

     

           “…….”

     

     

            “…….”

     

             บทสนทนาที่นิ่งเงียบเหมือนกับไม่มีอะไรจะคุยนั้นสร้างความอึดอัดจนเขาแทบทนไม่ไหวใจจริงอยากจะพูดอะไรตั้งมากมายอยากจะบอกว่าคิดถึงมากแค่ไหน แต่กลับทำได้แค่เงียบ นี้แหละนิสัยของเขา

     

     

     

               ทั้งๆที่ตอนนี้ขามันอ่อนแรงจนแทบจะล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น   

     

     

     

           “ เต๋าไปหาไม่ได้ ชา ….อยู่คนเดียวได้นะ

     

     

     

           “ อืม ตอนนี้ก็อยู่คนเดียวมาตลอดอยู่แล้ว เสียงที่ตอบกลับไปไม่ใช่สิ่งที่ภายในใจตอนนี้มันเรียกร้องเลยซักนิด แต่จะให้ทำไงได้ในเมื่อสิ่งที่พูดออกไปมันเป็นเรื่องจริง

     

     

     

                ชินหรอที่อยู่คนเดียว? เปล่าเลยเขาไม่ได้อยากจะชินกับมันเลยสักนิด…..

     

     

     

    ขอโทษ…. เหงาไหม

     

     

     

    “………” มือบางยกขึ้นปิดปากบังคับไม่ให้เสียงสะอื้นที่มีดังไปถึงคนในสาย น้ำใสเอ่อล้นขอบตาคู่สวยก่อนจะค่อยๆไหลแอบแก้มทั้งสองข้าง ความรู้สึกที่มีในตอนนี้มันตีกันมัวไปหมด ความคิดถึง ความน้อยใจ ความห่วงใย ได้แค่คิดฟุ้งซ่านเป็นบ้าอยู่คนเดียวทั้งๆที่คนปลายสายไม่เคยได้รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่

     

     

     

    เหงาสิ เหงาจะตายอยู่แล้ว การอยู่คนเดียวเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยอยากชินที่จะอยู่กับมันเลยสักนิด แต่จะให้ทำไงได้ในเมื่อมีใครบางคนทิ้งให้เขาอยู่คนเดียว  สำหรับเขาขอแค่มีใครบางคนอยู่ด้วยคอยรับฟังคอยดูแล กอดกันเวลาลมหนาวมาพอให้รู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียวก็พอ แต่นี้อะไร ไม่มีเลยแม้แต่ …เงา

     

     

     

    อยากจะตะโกนบอกให้คนปลายสายได้รับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเขาว่ามันทรมาณขนาดไหน!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่เหงา ไม่เลยสักนิด

     

     

     

     

    แต่คงจะพูดยาก เพราะคชาเป็นคน…ไม่ชอบขอให้ใคสนใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คำว่าคิดถึง มีแค่เพียงคนหนึ่งที่ยังซึ้งอยู่

    เธอไม่รู้ เศษความหมายมันด้วยซ้ำ

    ………………………

    เป็นคนรักเธอ…ที่ได้แต่รักเธอ

    ไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ไหน

    เป็นคนที่เธอ จะคิดถึงเป็น….คนสุดท้าย

     

     

     

     

    มือเล็กจับแน่นอยู่ที่รถเข็นดันมันไปข้างหน้าเพื่อเลือกดูผักผลไม้และอาหารเย็นที่จะต้องทำในวันนี้ รอยยิ้มบางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าที่หลายๆคนบอกว่าหน้าเดียวบางหล่ะเย็นชาบางหล่ะ แต่จะมีสักกี่เรื่องกันที่ทำให้คชายิ้มและมีความสุขได้ถ้าไม่ใช่ …..

     

     

     

    ชา วันนี้ตอนเย็นเต๋าขอฝากท้องไว้กับชาเลยทำของโปรดเต๋าไว้รอเลยนะ

     

     

     

    นึกไปถึงข้อความที่ถูกส่งมาจากคนที่เขาเม้มไว้ว่า ‘ใครบางคน’ ที่ส่งมาให้เมื่อตอนบ่ายแล้วก็อดที่จะดีใจไม่ได้ นานแล้วที่เต๋าไม่ได้มาหาและมากินฝีมือทำอาหารของเขา

     

     

     

     นานจนเกือบจะลืมและตื่นเต้น…..ในการที่จะไม่ต้องอยู่คนเดียว

     

     

     

    พอได้วัตถุดิบในการทำอาหารเย็นครบหมดแล้ว ร่างบางก็หิ้วถุงสองสามใบที่ไม่หนักเกินกว่าที่จะถือไหวไว้ทั้งสองมือก่อนขายาวจะเดินเข้าไปในร้านหนังสือเพื่อที่จะหาหนังสือมาอ่านเล่นซักหน่อย นานๆได้ออกมาซักที ก็ขอคชาดูอะไรเพื่อคลายเหงา

     

     

     

    อ้า ~ เล่มนี้รึเปล่าที่เต๋าบอกอยากได้

     

     

     

    มือเล็กค่อยๆวางถุงที่อยู่ในมือข้างนึงลงบนพื้นก่อนจะเอื้อมไปหยิบหนังสือที่เขาจำได้ว่าคนรักของเขาบ่นว่าอยากจะได้เพราะมันเป็นหนังสือเล่มที่ขายดีและนานกว่าจะตีพิมพ์ทีหนึ่ง ร่างบางพลิกดูอยู่สองสามรอบด้วยรอยยิ้มที่หลายๆคนที่แอบมองได้แต่หน้าแดงกันเป็นแถบ ถ้าคนที่กำลังสนใจอยู่แต่กับหนังสือหันมาสนใจซักนิดก็จะได้ยินเสียงซุบซิบของผู้คนที่แอบมองมา

     

     

     

    ‘ ยิ้มน่ารักจัง ขนาดฉันเป็นผู้หญิงยังอาย!

     

     

    มีแฟนรึยังน่ารักโคตร ยิ้มทีละลายอ่ะ!

     

     

     

    ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าเกิดซื้อเล่มนี้ไปให้เต๋า แล้วเต๋าซื้อมาแล้วมันก็ดูจะเปลืองเงินซะเปล่าๆ โทรถามก็หมดเรื่อง...

     

     

     

    แต่เปล่าเลย นี้ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงที่จะโทรหามันก็แค่ข้ออ้างที่จะได้โทรไปหา ถามว่าอยู่ไหน  เหตุผลเดียวที่อยากโทรไปหาคือ …… คิดถึง

     

     

    คชาเอื้อมล้วงเอามือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกเพื่อจะโทรไปหาคนรัก กดเบอร์แล้วโทรออกอย่างรวดเร็วและยกขึ้นแนบหูด้วยท่าทางประหม่า กลัว กลัวว่าเต๋าจะไม่รับสาย กลัวไปซะทุกอย่าง

     

     

    ตู้ดดดดด ตู้ดดดดด ~ ตู้ดดดดด ~

     

    เสียงรอสายทำให้ริมฝีปากเล็กเผลอขบเม้มเข้าหากันอย่างลืมตัว ในแววตาตอนนี้มีแต่ความกังวลที่ปิดบังยังไงก็ปิดไม่มิด

     

     

     

     เต๋าทำอะไรอยู่ แล้วอยู่กับใคร ทำไมไม่รับสาย

     

     

     

    พอคนเราเมื่อเริ่มกังวลก็จะเริ่มมองโน่นมองนี้ไปทุกทิศทุกทางคล้ายกับปฎิกิริยาที่ควบคู่กับอาการ เหมือนผลข้างเคียงของยาที่กินแล้วอาจจะทำให้นอนไม่หลับ ซึ่งนั้นก็กำลังเกิดกับร่างบาง ตอนนี้นัยต์ตาใสเริ่มสอดส่ายมองไปทุกทิศเพื่อบรรเทาความคิดที่ฟุ้งซ่านไปคนเดียวเมื่อสัญญาณโทรศัพท์ของคนที่โทรหาไม่มีวี่แว่วว่าจะรับเลยซักนิด

     

     

     

     

     

    ฮ่าๆ บ้าน่าเต๋า! เล่นไรเนี่ยอายเขาบ้างไหมคะ คิคิ

     

     

     

     

     

     

    !!!!!!!!

     

    ร่างบางหันขวับไปทางต้นเสียงทันทีที่ได้ยินเสียงของหญิงสาวร่างสาวเอ่ยหยอกล้อกับชายหนุ่มร่างสูงที่ดูคุ้นตาเขามากเหลือเกิน ไหนจะชื่อที่หลุดออกมาจากปากของหญิงสาวคนนั้นอีก

     

     

     

     

    ไม่น่า! ชื่อคนรักของเขาโหลจะตายมันซ้ำกันได้

     

     

     

    มือบางวางหนังสือเอาไว้ที่เดิมก่อนจะเร่งหยิบถุงข้าวของที่วางไว้ที่พื้นขึ้นมา มืออีกข้างก็ถือโทรศัพท์แนบหูไม่ได้เอาลงแต่อย่างใด ขาเรียวรีบเดินออกจากร้านหนังสือเพื่อตามไปดูให้แน่ใจว่ามันไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิด

     

     

     

    ตู้ดดดดด ตู้ดดดดด ~ ตู้ดดดดด ~

     

               ยังดีหน่อยที่ชายหนุ่มร่างสูงคนนั้นไม่มีวี่แววว่าจะรับโทรศัพท์  ขาเรียวก้าวตามคู่หนุ่มสาวที่กำลังหยอกล้อกันอย่างห่างๆ มือข้างที่ถือเครื่องมือสื่อสารก็กำแน่นขึ้น ริมฝีปากสีแดงสดที่ขบลงประทบกันเริ่มได้กลิ่นคาวเลือดขึ้นมานิดๆ แต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจ ตอนนี้ที่คชาสนใจมีเพียงคู่รักที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า

     

     

     

                       ตู้ดดดดด ตู้ดดดดด ~ ตู้ดดดดด ~

     

                 นัยน์ตากลมใสเบิกกว้างจ้องมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังล้วงอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกงด้วยใจลุ้นระทึก  มองข้างหลังว่าคุ้นแล้วยิ่งหันข้างยิ่งใช่  สิ่งที่เขาพยายามหลอกตัวเองเมื่อกี้นี้คงเป็นความจริงสินะ คนที่กำลังเดินหยอกล้อกับผู้หญิงคนนั้น คือ…… เต๋า จริงๆสินะ 

     

     

     

                   “ อ๊ะเต๋า!! หอมแก้มแพรอีกแล้วนะคะ!!  ”

     

       ภาพที่เต๋ากำลังก้มตัวลงไปหอมแก้มหญิงสาวแล้วรีบเดินออกห่างเพื่อที่จะเดินมารับมือถือที่เมื่อกี้เพิ่งล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนต์ ทำให้เขาต้องรีบหันหน้าหนีจากภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่ปวดร้าว แต่ก็ยังคงถือสายรอต่อไปโดยที่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ตัดสายแล้วเดินไปกระชากทั้งสองคนให้ออกจากกันอย่างที่คนรักกันเวลาหึงหวงควรจะทำ  

     

     


     

                ตู้ดดดดด ตู้ดดดดด ~ กึก!!

     

     

     

        “ ว่าไงครับที่รัก~ ”  ยิ่งเสียงร่าเริงดูไม่มีอะไรของเต๋ามันยิ่งบีบให้ความเจ็บปวดแล่นตรงเข้ามาในหัวใจของเขามากขึ้นไปอีก

     

     

     

         “ เต๋า…… ” ไม่ได้ร้องไห้  แต่เสียงหวานที่เปร่งออกมามันสั่นจนเกือบควบคุมไม่ได้ สงสัยที่เขาว่ากันว่า ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลคงจะเป็นเรื่องจริง

     

     

     

                      “……”

     

     

     

                      “ …อยู่ไหนหรอนัยน์ตากลมจ้องมองไปที่คนรักที่กำลังยืนหันหลังคุยกับตัวเองด้วยท่าทางสบายอารมณ์โดยที่ไม่ห่างนักหญิงสาวที่มาด้วยก็กำลังเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้า  ก็แค่ ….. ถามดู

     

     

     

                      อ้อ เต๋าอยู่บ้านน่ะ! เนี่ยกำลังนั่งนับเวลาเมื่อไหร่จะถึงตอนเย็นซักทีจะได้ไปหาชาไงครับ ” เสียงหัวเราะทิ้งท้ายของเต๋า เหมือนน้ำกรดสาดมาที่หน้าของเขาอย่างแรง ถ้าร่างสูงได้ลองหันหลังมาดูสักนิดก็จะรู้ว่ามีใครบางคนที่บนใบหน้ากำลังเต็มไปด้วยน้ำใสที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาสวย  ริมฝีปากเริ่มเห็นเลือดซิบๆด้วยแรงขบเม้มของเจ้าของที่ลงแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว มือทั้งสองข้างกำแน่นจนแดงไปหมด 

     

     

                      ฮึก …. ทรมาณจัง

     

     

     

     

                      “ …….. ”

     

     

     

                      “ ว่าแต่เด็กดีของเต๋าล่ะครับ ทำอะไรอยู่คงไม่นั่งนับเวลาเหมือนเต๋าหรอกใช่ไหม เผื่อเวลาทำอาหารให้เต๋ากินด้วยนะสุดสวย… ” 

     

     

     

     

               “ อือ …. ตะ เต๋า ” ร่างบางพยายามบังคับเสียงที่สั่นของตัวเองให้เป็นปกติ

     

     

     

    ครับคนสวย ? ” ร่างสูงเอ่ยตอบก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่เริ่มเดินออกมาจากร้านแล้วร้องเรียก ท่าทีที่ดูรุกรี้รุกรนของเต๋า อยู่ในสายตาของคชาตลอดเวลา  กลัว เขาจับได้สินะ

     

     

    เต๋า ชาคะ… ”

     

     

     

     

    “ เอ่ออชา!! เต๋าต้องออกไปข้างนอกแล้วล่ะ ไปทำธุระให้แม่เเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะครับ ”

     

     

     

    กึก!~ ตู้ดด! ตู้ดด! ตู้ดด!

     

    วางไปแล้ว คนรักของเขาว่าสายและเดินไปหาหญิงสาวร่างสวยและเข้าไปคว้าถุงเสื้อผ้าที่คงได้จากการเข้าไปในร้านเมื่อกี้มาถือเอาไว้จนหญิงสาวต้องยิ้มกว้างก่อนจะกอดเข้าที่แขนของร่างสูงและพิงหัวเข้าที่ไหล่กว้างทันที โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนอย่างเขาเฝ้ามองอยู่ห่างๆด้วยความเจ็บปวดที่ยากจะเก็บเอาไว้ 

     

     

     

     

    ทั้งๆที่เขายังไม่ทันได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจเลยสักนิด

     

     

    ปลายสายวางไปนานแล้วแต่มือเล็กก็ยังคงถือโทรศัพท์แนบที่หูของตัวเองอยู่อย่างนั้น  ไม่อายถ้าใครจะมองว่าบ้าที่อยู่ๆก็มายืนร้องไห้กับโทรศัพท์ ไม่มีใครที่เขาต้องแคร์ เพราะคนที่เขาแคร์มีแต่คนเดียว คือคนที่เพิ่งวางสายใส่เขาไปเมื่อกี้นี้ ….

     

     

     

    ก็แต่อยากจะบอกว่าที่โทรหาเพรา  ฮึก!! …. ชา คะ คิดถึง เต๋านะ!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    รู้มั้ยว่าต้องแลกด้วยความอดทนมากมายเท่าไร

    รู้มั้ยว่าไม่ชอบเลยการ..ต้องขอให้ใครสนใจ

    หรือต้องบอกว่าเหงาอยู่ หรือต้องบอกว่ารู้สึก

    ถึงจะพอให้นึก...ว่าฉันเป็นใคร

    เจียดเวลามาอยู่ข้างข้างได้ไหม...ถ้ายังมีใจ

     

     

     

     

    ภายในร้านอาหารกึ่งพับบรรยากาศดีที่ตกแต่งไปด้วยต้นไม้นานาชนิดที่มองแล้วเพลินตาพร้อมแสงสีที่ให้ความสบายใจเมื่อลูกค้ามานั่งดริ๊งหรือจิบกาแฟในยามดึกแบบนี้ และยิ่งเสียงเพลงในสไตล์บอสซ่าที่นักร้องบนเวทีไม้เล็กๆด้านในสุดของร้านขับกล่อมให้ลูกค้าฟังเพื่อให้คลายความเครียดหรือฟังเล่นๆข้ามเวลาก็คงจะต้องรวมไปถึงร่างบางที่กำลังนั่งอยู่ไม่ไกลจากเวทีมากนักที่กำลังไล่นิ้วไปมาอยู่บนขอบแก้วทรงสูงที่บรรจุน้ำเมาสีแดงสวยไปมาด้วยสีหน้าที่ยากจะเดาอารมณ์เพื่อรอ ต้น ’ เพื่อนสนิทที่นัดเขามาวันนี้

     

     

     

    เอ่อนี้คชาใช่มั้ย ? ” เสียงทุ้มของใครบางคนทำให้คชาต้องละออกจากแก้วแล้วเงยขึ้นมามองหน้าร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆเขา  

     

     

    ใครน่ะ   ไม่รู้จัก ??

     

     

                “ ไม่ต้องทำหน้าสงสัยขนาดนั้น เราชื่อ อ้น เป็นเพื่อนของต้นน่ะ ” คำพูดที่ทำให้ร่างบางพยักหน้ารับรู้ก่อนจะส่งยิ้มเบาๆไปให้

     

     

     

    สวัสดี เราคชานะอ้น ยินดีที่ได้รู้จัก ” คนตัวเล็กยิ้มบางๆส่งไปให้

     

     

     

    ครับผม ” ร่างสูงมองแวบเดียวก็รู้ว่ารอยยิ้มที่ส่งมาให้เขามันเป็นรอยยิ้มที่ฝืนขนาดไหน  ยอมรับว่าเขาสนใจในตัวคนตัวเล็กตรงหน้าทันทีที่ได้เจอ ถ้าเขาไม่มาตามคำชวนของต้นว่ามีคนดีๆอยากจะแนะนำให้รู้จัก เขาก็ไม่มีวันได้มาเจอกับร่างบางตรงหน้า 

     

     

     

    ยิ่งเห็นสีหน้าอมทุกข์ของคชา เขาก็ยิ่งอยากจะปกป้อง …

     

     

     

    แล้วต้นล่ะ ? ” เมื่อไม่เห็นวี่แววว่าเพื่อนที่นัดไว้จะมาก็เลยต้องถามคนที่เดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆเขา

     

     

     

    อ้อ เมื่อกี้ต้นบอกว่ามาไม่ได้แล้วน่ะ เลยให้เรามาแทน ” คำพูดที่คชาหยักไหล่อย่างไม่สนใจ ต้นเป็นอย่างงี้อีกแล้ว ชอบจับคู่ให้เขาไปทั่ว ทั้งๆที่บอกไปกี่ครั้งแล้วว่าไม่ว่ายังไงก็ไม่มีใครจะมาแทนที่เต๋าได้

     

     

     

    ก็รู้ว่าที่เขาเป็นอย่างงี้เพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอย่างต้นก็ต้องเป็นห่วงเขาเป็นธรรมดา พูดขอร้องไม่ให้เขาไปยุ่งกับเต๋ามั้งหล่ะ หาคนมาแนะนำอยู่ตลอดมั้งหล่ะ จนตอนแรกๆก็มีปากเสียงกันเพราะความเป็นห่วงของต้น แต่พอนานๆไปก็เริ่มชินเพราะไม่ว่ายังไงต้นก็ไม่เลิกทำเรื่องพวกนี้ให้เขาอยู่ดี 

     

     

     

     

    ก็ดีเหมือนกัน วันนี้จะได้มีเพื่อนกินเหล้าให้มันเมาไปเลย!!

     

     

     

     

    อื้ม งั้นอ้นมาดื่มเป็นเพื่อนเราหน่อยได้รึเปล่า

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

    เฮ้ยย! เต๋านั่นมันเด็กมึงไม่ใช่หรอว่ะ!? ” เสียงของเพื่อนทำให้เจ้าของชื่อหันหลังไปมองตามมือของเพื่อนที่ชี้ไปที่โต๊ะที่อยู่ไม่ไกลกันมาก มีเพียงกระจกกั้นเท่านั้น เพราะโต๊ะที่เขานั่งอยู่มันอยู่นอกร้าน พอมองไปตามที่เพื่อนบอก เขาก็ต้องเบิกตากว้างกำมือแน่น!

     

     

    นั่นมันคชาจริงๆ  และที่สำคัญกำลังนั่งอยู่กับไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้!!

     

     

     

    ความหงุดหงิดเริ่มก่อขึ้นมาในใจของเขาขึ้นเรื่อยๆ ไหนคชาบอกว่าวันนี้จะออกมากินข้าวกับต้นไง ทั้งที่วันนี้เขามีเวลาว่างและโทรไปบอกว่าจะไปหา แล้วนี้อะไรมานั่งอะไรกับไอ้หนุ่มผมยาวนี้!! 

     

     

     

    คชาโกหกเขางั้นหรอ!!?

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    คชาครับ เลิกสั่งเถอะเมาแล้วนะ ” เสียงของอ้นพูดบอกร่างบางที่ตอนนี้เอาแต่กระดกน้ำเมาเหมือนน้ำเปล่า ยิ่งห้ามก็เหมือนจะยิ่งทำให้คนตัวเล็กยิ่งดื้อเข้าไปใหญ่

     

     

     

    เราคอแข็งจะตาย! อ้นไม่กินก็นั่งอยู่เฉยๆเหอะ!! ” พูดจบก็กระดกน้ำที่อยู่ในแก้วทรงสูงให้ไหลลงคอรวดเดียว

     

     

    อยากเมา เพราะจะได้ไม่ต้องมานั่งเจ็บปวดอยู่อย่างนี้

     

     

     

    อ้น!! เอาแก้วเรามานะ!! ฮึก! ” ร่างสูงเจ้าของชื่อหยิบเอาแก้วของคนตัวเล็กออกมาถือไว้เอง จนคนตัวเล็กลุกมาแย่งแก้วที่เป็นของตัวเองคืน

     

     

     

    คชาเมาแล้วนะครับ กลับบ้านนะเดี๋ยวอ้นไปส่ง ” มือข้างหนึ่งชูแก้วให้สูงขึ้น มืออีกข้างก็โอบเอวเล็กของเด็กดื้อที่ตอนนี้ยังคงพยายามปีนตัวเขาเพื่อเอาแก้วหล้าของตัวเองคืนโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังยืนมองอย่างโกรธจัดเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนใกล้ชิดกันขนาดไหน!!

     

     

     

     

    ปึก!!

     

    เฮ้ยอะไรว่ะ!! ”  อ้นส่งเสียงร้องขึ้นมาทันทีเมื่ออยู่ดีๆก็มีคนดึงมือที่เขากำลังกอดคชาออกก่อนจะโดนผลักลงไปบนพื้นด้วยแรงที่ไม่ใช่น้อย  และเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อคนที่ผลักเขากระชากแขนของคชาให้ตามไปอย่างแรง การกระทำที่ทำให้เขาไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักนิด

     

     

     

    มึงอย่าตามมา! ถ้าไม่อยากตาย!! ” เสียงตะหวาดด้วยความโกรธของเต๋าดังขึ้นแล้วยกมืออีกข้างที่ไม่ได้จับแขนของคนตัวเล็กชี้หน้าร่างสูงอีกคนที่นอนอยู่บนพื้นก่อนจะหันไปมองคนเมาที่ตอนนี้ส่งเสียงร้องไม่พอใจจนเขาต้องบีบแน่นเข้าที่แขนของคชาแล้วกระชากให้เดินออกไปนอกร้านด้วยความตกใจของแขกคนอื่นๆ

     

     

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

     

    .

     

     

     

     

    ฮึก!! ปล่อยย เต๋า ฮือออ!! คชาเจ็บบบบบ!! ” เสียงเล็กที่ร้องไห้ไปพูดไปไม่ได้ทำให้ความหึงหวงที่เขามีลดน้อยลงไปเลย ยิ่งเห็นว่าเมื่อกี้ทั้งไอ้นั้นและคนของเขาใกล้ชิดกันมากแค่ไหนมันก็ยิ่งเหมือนจุดไฟความโมโหของเขาเข้าไปอีก

     

     

     

     

    “ นั่นใคร!! ชู้รึไง!!!! ” พอเดินออกมาถึงรถของตัวเองก็เหวี่ยงร่างบางให้ไปกระแทกเข้ากับสีข้างของรถอย่างแรงจนตอนนี้ร่างบางจุกจนแทบจะทนไม่ไหวจึงค่อยๆทรุดตัวลงไปนั่งพร้อมกับน้ำตา ความมึนที่เกิดจากแอลกอฮอล์สร่างทันทีเมื่อมีความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจที่มีเยอะกว่า

     

     

     

    ฮึกๆ …..ฮืออ!! ” เสียงที่ตอบออกมามีแต่เสียงสะอื้น จนร่างสูงต้องยกมือขยี้หัวจนไม่เป็นทรงก่อนจะเดินไปเตะล้อรถสปอร์ตคันหรูของตัวเองอย่างแรงเพื่อระบายความโกรธของตัวเองที่มีมากมายเหลือเกิน  

     

     

     

     

    ชา!!!!!  ตอบเต๋า!!! ”  เมื่อเริ่มทนไม่ไหวร่างสูงก็ตรงไปเขย่าลำตัวบางของคชาอย่างแรง เสียงสะอึ้นมันทำให้เขาหงุดหงิด!  ถ้าเอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างงี้แล้ววันนี้จะคุยกันรู้เรื่องไหม!! โธ่เว้ย!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เหนื่อย ฮึกกก!!

     

     

     

     

     

    อะไรนะ ชาพูดว่าอะไรนะ!?? ”

     

     

     

     









     

    ต๋าววววว! ชาเหนื่อยแล้วน๊า!!!!  พอแล้วได้ป่ะ มึนหัวไปหมดแล้วเนี่ย คนตัวเล็กที่นั่งอยู่เมื่อกี้ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นตามตัวออก ร่างสูงจึงลุกตามทันที ดูดิ๊เนี่ย ร้องไห้จนปวดหัวไปหมดแล้ว! 

     

     

     

     

    โหยย ชา ไม่หนุกเลยกำลังจะไคลแมกซ์เลยนะมือหนาค่อยๆยกขึ้นเช็ดน้ำตาของร่างบางออกอย่างถะนุถนอมก่อนจะได้รับรางวัลเป็นจูบหวานๆของคนรักของตัวเองและพอผละออกจากกันก็หัวเราะออกมาทั้งคู่ 

     

     

     

     

    “ แค่นี้ก็พอแล้ว! ขี้เกียจเล่นแล้ว มาคิดกันดีกว่าว่าจะเล่นบทไหนต่อดี ”

     

     

     

     

    เอาเป็น นักเรียนหนุ่มแอบรักคุณครูหนุ่มสุดเซ็กซี่ดีไหมครับที่รัก

     

     

     

    โป๊กก!!!

     

     

     

    โอ้ยยชาาาาา TT ตีหัวเต๋าทำไมครับ

     

     

     

     

    ทะลึ่งใหญ่แล้ว!! เพิ่งจะเล่นดราม่าผัวทิ้งไปหาหญิงอื่นไปจะให้ชาไปเล่นเป็นครูเลยรึไง

     

     

     

     

    งั้นยังไม่ต้องเล่น เป็นเต๋าคชาผัวเมียโคตรรักกัน เหมือนเดิมดีกว่า ไม่ต้องเล่นแล้วเน้อะคนดี  ป่ะ! กลับไปเล่นเป็นผัวเมียกัน!!! หึหึหึ

     

     

     

     

    อื้มวันนี้พัก! แต่วันนี้ชาไม่ให้ หมั่นไส้!!  มีความสุขเลยสิได้ไปจ๊ะจ๋ากับผู้หญิงหนึ่งวันอ่ะ ใช่ไหม!!! ” โอ้ยยยย ก็ถ้าภรรยาตัวน้อยของผมจะทำหน้าโกรธได้น่ารักขนาดนี้ > <

     

     

     

    หึงเต๋าอ่ะดิ ใช่ป่ะ ^^ ”

     

     

     

    ไม่! ใครหึง ไม่มี๊!! ”

     

     

    แล้วทำไมต้องขึ้นเสียงสูงเมื่อกี้เอาใครมานั่งด้วยเต๋ายังไม่ได้ถามเลยนะครับ! ”

     

     

     

     

    กะ  ก็เพื๊อน!!  จะใครละ โอ้ย! ต๋าวววววววชาง่วงแล้วอ่ะ เรากลับบ้านเรากันเหอะนะ ^^ ”

     

     

     

     

    โอเคๆ จะเชื่อ แต่ถ้ามีชู้จริงๆล่ะก็โดนหนักนะครับตัวเล็ก!!! ”

     

     

     

     

     

     

     

     

    บางคนอาจจะมองว่าคู่ของพวกเราแปลกที่ทำอะไรแบบนี้

    แต่ที่พวกเราทำไปก็แค่ละครที่ …… เพิ่มรสชาติให้ชีวิตคู่ก็แค่นั้นเองแหละครับ :)








    - END -
    - - - - - - - - - - - - - -  - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  








    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ลงได้แล้ววววววว!!!!!!
    กว่าแนนจะลงได้ เสียเหงื่อไปหลายหยดมาก TT^TT

    SF เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  
    เหนือคู่รักโรคจิตยังมีคู่รักเต๋าคชาที่โรคจิตกว่าาาาา!!!
    5555555555555555555555555555555
    (แต่ความจริงไอ้คนแต่งอ่ะสิโรคจิตที่สุด กร๊ากกก)



    ใครไม่เข้าใจบ้างมีไหมค่ะแนนจะได้อธิบายให้ฟัง

    คือ ทั้งหมดนี้เป็นแค่การเล่นละครของเต๋าคชาเท่านั้นค่ะ
    ความจริงเค้ารักกันจะตายไป แต่ที่อยากเล่นบทดราม่าก็เพราะอยากเพิ่มความสนุกในชีวิตคู่รักไงคะ
    เข้าใจกันแล้วใช่ไหมที่รักทุกคนนนนน ? ><




    เอาล่ะ ถึงจะไม่สนุกยังไงก็เม้นบอกบ้างอะไรบ้างนะคะ
    แล้วเจอกันตอนต่อไป ใครอยากเห็นพี่ชาหัวเห็ดจีบน้องเต๋าสุดหล่อบ้างยกมือ!!
    ได้เห็นแน่คะ หึหึหึ  เจอกันตอนหน้าเน้อะ รักทุกคน ^^




    25

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×