Lepite Pirate ขอโทษที่ผมเป็นโจรสลัด!!
หึ เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้าเนี่ยนะจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด ช่างเป็นมนุษย์ที่อวดดีเสียเหลือเกิน ไหนๆข้าก็ไม่ได้เจอเด็กถูกใจอย่างเจ้ามานานแล้ว เรามาเล่นเกมกันดีกว่า หากเจ้าชนะข้าจะให้ในสิ่งที่เจ้าขอ แต่ถ้าหากเจ้าแพ้ข้าก็ขอความตายของเจ้าก็แล้วกัน!!
ผู้เข้าชมรวม
34,522
ผู้เข้าชมเดือนนี้
16
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
===================================================================
DEAD or ALIVE
|
|
ตอนแรกก็ไม่คิดจะสร้างเพจหรอก
แต่เพื่อสะดวกไรเตอร์เวลาแจ้งข่าวสารก็เลยสร้างขึ้นมา นอกจากนี้เวลาโพสมันจะจดจำวันเวลาได้ ก็เลยถือซะว่าสร้างเพื่อเก็บความทรงจำซะเลย หุหุ ยังไงก็รบกวนฝากด้วยนะ ** ถ้ามีประกาศอะไรไรเตอร์จะลงเฟซนะ เพราะงั้นอย่าดูที่ Status แต่ดูในกล่องเฟซข้างๆนี่แทน |
ผลงานอื่นๆ ของ Lucky Clover. ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Lucky Clover.
"Jelly.Crunchy วิจารณ์นิยายสไตล์เยลลี่กรอบ|"
(แจ้งลบ)ขอโทษที่มาวิจารณ์ให้ซะช้าเลยนะคะไรเตอร์ ตอนแรกคิดว่าตอนน้อยๆแบบนี้อ่านแป๊บเดียวเสร็จ ปรากฏว่าติดธุระแถมตอนก็ยาวพอสมควรเลยส่งงานอืดอย่างที่เห็น แต่ว่าจะตั้งใจวิจารณ์อย่างเต็มที่! 1.ชื่อเรื่อง (10 คะแนน) - ตอนแรกสงสัยว่า Lepite คืออะไร ที่แท้ก็ชื่อเลปิเตนี่เอง ชื่อเรื่องน่าสนใจและดึงดูดดี แต่ว่ายังไม่ค่อยบงถึงตัวเรื่องเท่าไหร่ ให้ 9 คะแนน ... อ่านเพิ่มเติม
ขอโทษที่มาวิจารณ์ให้ซะช้าเลยนะคะไรเตอร์ ตอนแรกคิดว่าตอนน้อยๆแบบนี้อ่านแป๊บเดียวเสร็จ ปรากฏว่าติดธุระแถมตอนก็ยาวพอสมควรเลยส่งงานอืดอย่างที่เห็น แต่ว่าจะตั้งใจวิจารณ์อย่างเต็มที่! 1.ชื่อเรื่อง (10 คะแนน) - ตอนแรกสงสัยว่า Lepite คืออะไร ที่แท้ก็ชื่อเลปิเตนี่เอง ชื่อเรื่องน่าสนใจและดึงดูดดี แต่ว่ายังไม่ค่อยบงถึงตัวเรื่องเท่าไหร่ ให้ 9 คะแนน 2.คำโปรยและบทนำ (10 คะแนน) - ทั้งแนะนำเรื่องย่อๆ ข้อมูลเบื้องต้น และบทนำส่วนใหญ่เป็นคำพูดของพระเจ้า ซึ่งถือว่าเปิดเรื่องมาได้ดี และโปรยได้น่าสนใจ ถ้าเป็นไปได้ควรใส่เครื่องมาย “______” ให้ส่วนที่เป็นคำพูดด้วยถึงแม้จะเป็นข้อมูลเบื้องต้นก็ตาม ถ้าอธิบายลักษณะน้ำเสียง รูปร่างหน้าตา ลักษณะท่าทางไว้หลังคำโปรยจะดีมาก ในส่วนของบทนำพบสำนวนแปลกควรแก้ไข เช่น ราวกับว่าเขากำลังหลับฝันดีอยู่ๆ / ราวกับว่าเขากำลังฝันดีอยู่ แค่ถึงอย่างไรความดังของมันก็ / แต่ถึงอย่างไรความดัง.. ช่วงเวลาที่ถูกแช่แข็งมาหลายปี / ช่วงเวลาที่หยุดเดินมาหลายปี แช่แข็งมันแปลกๆอะค่ะ คลายความเจ็บปวดที่เหมือนไฟไหม้ได้ / คลายความเจ็บปวดที่เหมือนไฟลามเลียได้ ไฟไหม้ไม่สละสลวยเหมาะกับบริบทดังกล่าว โดยรวมถือว่าทำได้ดี แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงถ้อยคำของพระเจ้าเอง ให้ 8 3.โครงเรื่อง(30 คะแนน) - พล็อตก็เป็นโจรสลัด เดินเรือ ผจญภัย ออกปล้น ไม่ได้มีความแปลกใหม่มากนัก แต่ก็มีปมปริศนาให้คอยลุ้นอยู่ตลอด และยังสะท้อนกลิ่นอายความเป็นโจรสลัดได้ดีมาก อ่านแล้วนึกว่าคนเขียนเคยเป็นจริงๆเพราะถ่ายทอดอารมณ์และวัฒนธรรมต่างๆมาได้เสมือนจริง และดึงคนอ่านไปอยู่ในเรื่องได้ การดำเนินเรื่องค่อนข้างเหมาะสม มีการเผยปริศนาทีละนิดๆซึ่งถูกจังหวะดีแล้ว แต่บางช่วงก็รู้สึกว่าช้าไปหน่อย มาถึงChapter 12 ยังไม่ได้เจอฉากปล้นแบบจังๆเลย เพราะในตอนที่ 8 จะเน้นไปที่การต่อสู้และหลบหนีมากกว่า ไม่มีฉากปล้นที่เรียกไดว่าเป็นทีเด็ดของโจรสลัด แต่ก็ทำได้ดีที่มีการสรุปแผนทั้งหมดในตอนท้ายสุด ทำให้เห็นการวางแผนและไหวพริบในการปฏิบัติการ จึงพอถูไถกันไปได้ ในเรื่องความสมเหตุสมผลก็ไม่มีที่ติ แต่โดยส่วนตัวยังคิดว่าถ้าเผยปริศนาออกมาเกือบหมดในตอนคำสาปแล้ว เท่าที่อ่านก็ไม่ค่อยมีปริศนาให้สงสัยต่อไป ทำให้ความน่าติดตามมันลดลง เหลือแต่ต้องใช้ความฮาในการดำเนินเรื่องและความสนุกจากการผจญภัยมามัดใจคนอ่านแล้วล่ะ ให้ 28 4.ภาษา/การบรรยาย( 30 คะแนน) - หั่นเป็นสองส่วนดังนี้ -ภาษา การใช้คำเรียบง่ายแต่เห็นภาพชัด ติดอยู่แค่การใช้คำซ้ำที่พบเยอะมาก โดยเฉพาะ ราวกับ อย่าง และ นั้น หมาดๆ ผุดยิ้ม เช่น น่านน้ำสีครามแผ่กว้าง'อย่าง'ไร้ที่สิ้นสุด ปุยเมฆสีขาวก้อนน้อยเคลื่อนที่'อย่าง'แช่มช้าตามแรงลมที่ด้านบน เมื่อบวกกับลมเย็นๆที่พัดมา'อย่าง'เป็นจังหวะนั้น / มีการใช้คำว่า 'อย่าง' เยอะเกินไป บางจุดสามารถละได้ก็ควรละ ปลายดาบ'นั้น'พุ่งเฉียดปลายจมูกของฟรานซิสไปเพียงไม่กี่เซนต์ ตัวดาบสีเงิน'นั้น'พุ่งปักทะลุพื้นไม้จนถึงครึ่งเล่ม / ใช้คำว่า 'นั้น' ย้ำสรรพนามมากไป ยังพบเห็นอีกมากแต่ยกมาเป็นตัวอย่างเพียงเท่านี้ การใช้ภาษาไม่สละสลวยหรือใช้คำเชื่อมผิดก็พบบ้าง ทำให้ประโยคเวิ่นเว้อเกินไป เช่น อย่างไม่มีทีท่าว่าจบกันอย่างง่ายๆ,ไม่ยอมหลุดไหลอย่างง่าย / ใช้เป็น 'ง่ายๆ' ไม่ต้องมี'อย่าง' เชื่อม ฟรานซิสที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จึงรีบหนีไปหลบหลังพวกลูกเรือทันที / ฟรานซิสที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้ารีบหนีไปหลบหลังพวกลูกเรือทันที จากนั้นก็มีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเรื่อย / จากนั้นก็มีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยังกลับมีค่าหัวกับเขาตั้ง 4 ล้านเหรียญ / ก็ยังมีค่าหัวกับเขาตั้ง 4 ล้านเหรียญ วาเลนไซน์เป็นอาณาจักรที่ค่อนข้างรุ่งเรืองอย่างมาก / ค่อนข้างรุ่งเรือง, รุ่งเรืองอย่างมาก เนื่องแน่นไปด้วยผู้คนมากมายหลายตา / เนืองแน่นไปด้วย.. เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบขณะจ้องเป่งไปที่แหวนเพชร / จ้องเขม็ง , จ้องตรง เสียงดาบประกันดังก้องจนแก้วแทบหูชา / จนแก้วหูแทบชา วังที่สวยงามที่สร้างจากวิจิตร / สร้างอย่างวิจิตร จุดที่เรียงประโยคผิดบ่อยๆคือเวลาบรรยายถึงเสียง ภาพ แล้วมักจะจบด้วย เหล่านี้เหล่านั้น เช่น เสียงจะโกนร้องปลุกกำลังใจ เสียงร้องอย่างเจ็บปวด เสียงนั้นหลากหลายปนเป / เสียงจะโกนร้องปลุกกำลังใจ เสียงร้องอย่างเจ็บปวด ดังปนเปไป เสียงกลอง เสียงสีไวโอลีน เสียงโห้ร้อง เสียงเหล่านี้ดังขึ้นอย่างสนุกสนาน / เสียงกลอง เสียงสีไวโอลีน เสียงโห้ร้อง ดังขึ้นอย่างสนุกสนาน ควรขัดเกลาการใช้คำและอ่านตรวจสอบอีกรอบเพราะพบคำผิดจำนวนมาก ทั้งนี้ต้องลองเปิดพจนานุกรมและอ่านหนังสือเพิ่มเติมบ่อยๆจะทำให้จดจำการใช้คำที่สละสลวยและเขียนถูกต้อง คำผิดที่พบมีทั้งผิดและพลาดเพราะไม่รอบคอบ เช่น ฟิวขาด/ฟิวส์ขาด ‘ตันหน้าแก’ / ‘ตั๊นท์หน้าแก’ ทุลนทุลาย/ทุรนทุราย ฝันเฟื่อง/ฟันเฟือง นิ/นี่ พึ่งพอใจ/พึงพอใจ ย่างสามขุน/ย่างสามขุม มาราทอน/มาราธอน เย็นช่ำ/เย็นฉ่ำ ลอยสัก/รอยสัก เปลหยวน/เปลญวน ห๊ะ/หา,ฮะ ผลัดกันลุก/ผลัดการรุก ตะวัด/ตวัด จ้าระหวั่น/จ้าละหวั่น เครียดแค้น/เคียดแค้น ฟ่ะ/ฟะ เซอร์ไพร์/เซอร์ไพรส์ กรอกตา/กลอกตา โห้/โฮ่ จิ้มลิ่ม/จิ้มลิ้ม หน้าสิ่วหน้าขวาง/หน้าสิ่วหน้าขวาน ลาดราว/ลาดเลา วิเศษณ์/วิเศษ ตลบมือ/ตบมือ,ปรบมือ เดือดดาน/เดือดดาล ลับเล/ลับแล รุกโชน/ลุกโชน ล่วงหล่น/ร่วงหล่น เกรียติ/เกียรติ ปรนติบัติ/ปรนนิบัติ พลุนพลัน/ผลุนผลัน และอีกมากมาย มักเขียนผิดที่ ร,ล อักษรนำ และการใช้วรรณยุกต์ ต้องตรวจทานบ่อยๆเพราะเวลาอ่านแล้วจะสะดุดเพราะคำผิดบ่อยมาก พบการเว้นวรรรคผิดตำแหน่งเล็กน้อย เช่น ฟรานซิสได้แต่คิดในใจอย่างสลด กับความอัปยศที่เคยมีในอดีต / ฟรานซิสได้แต่คิดในใจอย่างสลด กับความอัปยศที่เคยมีในอดีต ก็โดนตามล่าจากพวกนักล่าค่าหัว จากพวกทหารเรือเยอะพออยู่แล้ว / ก็โดนตามล่าจากพวกนักล่าค่าหัวและพวกทหารเรือเยอะพออยู่แล้ว ใบประกาศพวกนี้ บางทีมันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย / ใบประกาศพวกนี้ บางทีมันอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย การเว้นวรรคผิดอาจทำให้ความหมายเปลี่ยน อ่านแล้วขัดตาได้ -บรรยาย การบรรยายทำได้ดีมาก เห็นภาพชัดเจน บรรยายทั้งฉากสถานที่ ตัวละคร รายละเอียดอื่นๆก็ใส่ได้พอเหมาะ ไม่อ่านแล้วเบื่อหรือว่าติดกันเป็นพรืด จุดที่อยากแนะนำคือยังบรรยายฉากต่อสู้ขาดอารมณ์ร่วมและเอื่อยเฉื่อยไปนิด อาจจะเพราะบรรยายสภาพแวดล้อมโดยรอบมากเกินไปจนบรรยายอากัปกิริยาตัวละครน้อย ซึ่งทำให้อ่านแล้วไม่อินกับบทบู๊เลย การใช้เอฟเฟ็กต์เสียงที่อลังการแบบพอดีๆรวมถึงใส่เครื่องหมาย '!' หลังประโยคบรรยายจะช่วยทำให้ไม่เยิ่นเย้อ และควรบรรยายท่าทางฟาดฟันของอาวุธให้มากขึ้น ถ้าเป็นเรื่องของการบรรยายอารมณ์ตัวละครทำได้ดีเยี่ยมจริงๆ อ่านแล้วอินประหนึ่งเป็นตัวละครนั้นเเลย555 ไม่ว่าจะฉากฟรานซิสขู่จะฆ่าอลิส ฉากเรื่องราวสมัยเด็กของฟราน ถ้อยคำของพระเจ้า ทุกสิ่งทุกอย่างแฝงอารมณ์อย่างชัดเจน อ่านแล้วขนลุกไปเลย ประทับใจค่ะ แต่คำผิดเยอะไปหน่อย ให้ 25 5.ตัวละคร(20 คะแนน) - ตัวละครก็ทำได้ดีอีกเช่นกัน นิสัยแต่ละคนแตกต่างกันชัดเจน มีเอกลักษณ์ดีมาก แต่ยังเน้นให้เห็นความเป็นโจรสลัดน้อยไปหน่อยและลูกเรือส่วนใหญ่ก็เป็นได้แค่ตัวประกอบจริงๆ ตัวเอกทุกคนเหมือนมีชีวิตมีอารมณ์ความรู้สึก และแสดงออกได้เป็นธรรมชาติ อย่าลืมให้ตัวละครเหล่านี้มีพัฒนาการของฝีมือและบุคลิกต่างๆด้วย จะทำให้ทุกคนมีมิติยิ่งขึ้น โดยรวมกรี๊ดเรอัสมาก(?) ให้ 20 เต็ม! รวม - 90/100 เยลลี่ไม่ได้ให้เลข 9 นำหน้ากับใครง่ายๆนะ> อ่านน้อยลง
Jellyza | 17 พ.ค. 56
7
0
"นิกซ์วันเดอเรอร์ รับวิจารณ์นิยายทั่วราชอาณาจักร"
(แจ้งลบ)สวัสดีท่าน Lucky ผู้แต่ง Lepite Pirate ขอโทษที่ผมเป็นโจรสลัด!! ข้า วินด์ วันเดอเรอร์ ผู้ที่มาจากอาณาจักรคนจร ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของ นิกซ์ วันเดอเรอร์ ผู้รับวิจารณ์ทั่วราชอาณาจักร ข้าได้รับใบสั่งงานจากท่านจึงใช้เวลากลั่นและกรองในงานท่านพอสมควร กว่าจะเขียนมันออกมาได้ ขอเชิญท่านสดับรับสารของข้า ตามที่ท่านต้องการเถิด ----------------- ... อ่านเพิ่มเติม
สวัสดีท่าน Lucky ผู้แต่ง Lepite Pirate ขอโทษที่ผมเป็นโจรสลัด!! ข้า วินด์ วันเดอเรอร์ ผู้ที่มาจากอาณาจักรคนจร ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของ นิกซ์ วันเดอเรอร์ ผู้รับวิจารณ์ทั่วราชอาณาจักร ข้าได้รับใบสั่งงานจากท่านจึงใช้เวลากลั่นและกรองในงานท่านพอสมควร กว่าจะเขียนมันออกมาได้ ขอเชิญท่านสดับรับสารของข้า ตามที่ท่านต้องการเถิด ---------------------------------- ก่อนที่เข้าถึงบทวิจารณ์ ขอทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนที่จะเริ่มวิจารณ์ เนื่องด้วยผู้เขียนมอบหมายงานนี้มาให้ช่วงที่ผู้เขียน เขียนไปจนเกือบจบภาคที่หนึ่งแล้ว (30 ตอน) ดังนั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่า การอ่านเรื่องราวทั้งหมด และชี้แนะวิจารณ์กับเรื่องที่เขียนขึ้นมาจนใกล้จะจบภาคแล้ว ผู้เขียนต้องการอะไรกันแน่? เท่าที่เคยวิจารณ์มาจะแบ่งเป็นสองประเภท สำหรับผู้เขียนที่มอบหมายงานมาในจังหวะที่เรื่องใกล้จบแล้ว 1. อยากได้รับคำวิจารณ์อย่างจริงจังเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข และถึงแม้ว่าจะเขียนไว้จนจบแล้วก็ยินดี re-write โครงเรื่องใหม่ เมื่อเห็นว่าคำแนะนำนั้นมีประโยชน์พึงกระทำเพื่อยกระดับงานเขียนของตน 2. อยากได้รับคำวิจารณ์ที่เป็นไปในแง่บวกอย่างเดียว หรือถึงแม้จะถูกวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา แต่ผู้เขียนก็จะหาข้อโต้แย้งในสิ่งที่ผู้วิจารณ์เล็งเห็น และไม่ยอมกลับไปแก้ตามที่ขอวิจารณ์มา เนื่องด้วยมันเสียเวลาในการรื้อและแต่งโครงเรื่องใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางออกที่ง่ายที่สุดคือเมินเฉยต่อคำวิจารณ์นั้นซะ และคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า ผู้วิจารณ์ไม่มีคุณสมบัติในการที่จะมาวิจารณ์เรื่องราวของผู้เขียนรังสรรค์ขึ้นมา ซึ่งก่อนที่จะมารับงานวิจารณ์ร่วมกับท่านหัวหน้านิกซ์ ข้าเองก็เคยผ่านพบประสบเจอเรื่องราวประเภทนี้มาบ่อยครั้ง จึงสอบถามเสียก่อนเพื่อความแน่ใจว่าจริงๆแล้วท่านเป็นประเภทไหนกันแน่? ไม่ต้องตอบข้าหรอกท่าน การกระทำหลังจากคำวิจารณ์นี้ต่างหาก เป็นการบ่งชี้ว่าจริงๆแล้วท่านต้องการคำวิจารณ์ในขณะที่กำลังเขียนภาคหนึ่งจบเพื่ออะไร ตัวละคร: ผู้เขียนสามารถบรรยายตัวละครทุกตัวให้มีความแต่งต่างและโดดเด่นอย่างแจ่มชัด ไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งกายหรือรูปพรรณสันฐาน แต่คือประโยคพูดคุยและการกระทำที่แสดงลักษณะนิสัยออกมาอย่างโดดเด่น สิ่งนี้ถือว่าคนเขียนมีพรสวรรค์อย่างล้นเหลือที่จะรังสรรค์ตัวละครที่น่าดึงดูดเหล่านี้ออกมา ไม่มีคำติ แม้แต่คำเดียวสำหรับการรังสรรค์ตัวละครนี้ การบรรยาย: คำผิดยังมีอยู่เยอะ เชื่อว่า ณ ขณะที่ผู้เขียน รีไรท์ใหม่เพื่อส่งสำนักพิมพ์จะแก้ไขจุดบกพร่องนี้ ที่ข้าไม่สามารถข้ามผ่านไปได้เลยก็ตรงคำว่า ‘กำไล’ ท่านเขียนผิดทุกคำว่า ‘กำไร’ ดังนั้นควรเขียนเสียใหม่ให้ถูกต้อง กำไลคือสิ่งที่ใส่ข้อมือ ส่วนกำไรคือรายได้ที่เกินทุน ข้ารู้ว่าท่านเข้าใจ แต่ท่านเขียนผิดทุกคำจนข้าละเลยจากมันไปไม่ได้ นอกเหนือจากคำผิดแล้ว ท่านบรรยายทั้งเหตุการณ์ สถานที่ ความน่าตื่นตาตื่นใจได้เห็นภาพมาก นอกจากพรสวรรค์ในการรังสรรค์ตัวละครให้โดดเด่นแล้ว การบรรยายฉากสู้รบ สถานที่ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ การบรรยายคุณลักษณะตัวละคร ท่านทำออกมาได้สวยสด งดงาม นอกจากนั้นแล้ว ผู้เขียนน่าจะเป็นคนมีอารมณ์ขันอันล้นเหลือ การปู การตบมุข ขำขัน ทำได้อย่างลงตัว การท่องเที่ยวผจญภัยไปในสถานที่ต่างๆกับตัวละครที่ราวกับหลุดออกมาจากโลกการ์ตูน เป็นสิ่งที่เบิกบานใจข้ายิ่งนัก ถึงแม้ว่าตอนแต่ละตอน จะยาวแต่อ่านแล้วรู้สึกไหลลื่นไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก เนื่องด้วยอารมณ์ขันที่แทรกอยู่ในเรื่องราวแต่ละบทนี่เอง เนื้อเรื่อง สำหรับความฝันที่อยากจะเป็นเจ้าโจรสลัด และเริ่มออกเดินทางไปกับเพื่อน ไม่ใช่ว่าใคร ไม่เคยได้ยินเรื่องราวเช่นนี้ ข้าเองเชื่อว่าผู้เขียนพยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบ แต่ก็ยังคงตัดใจไม่ได้เสียที จึงต้องใส่ในเรื่อง ค่าหัวเข้ามา เมื่อค่าหัวขึ้นแล้วดีใจ คนก็ต้องนึกไปถึงการ์ตูนดังเรื่องนึง , เมื่อความฝันของตัวเอก อยากจะเป็น เจ้าโจรสลัด คนก็จะนึกไปถึงการ์ตูนดังเรื่องนึง, เมื่อบุคลิกของตัวละครบนเรือ ที่สู้กันจะเป็นจะตายด้วยความหมั่นไส้ แต่พอมีเรื่องราวมากระทบก็จะรวมพลังมิตรภาพ ฟันฝ่าออกไปให้ได้จนสำเร็จ คนก็จะนึกถึงการ์ตูนดังเรื่องนึง ซึ่งมันเป็นเรื่องเดียวกัน ต่อไปนี้จะบอกสิ่งที่ท่านอาจจะอยากได้ยิน นั่นคือ ข้อบกพร่องที่ข้าเองสังเกตเห็นในการดำเนินเรื่อง 1. เหตุผลในการเป็นเจ้าโจรสลัด น้ำหนักมีไม่มากพอ (ข้าพูดถึงก่อนที่จะเจอเทพเจ้าบนเรือบรรณนาการนะ ซึ่งอันนั้นเป็นไฟท์บังคับให้ต้องออกเรือ) การที่เด็กชายอายุน้อยจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างในชีวิต ต้องมีแรงขับอย่างล้นเหลือ ดูไปถึงการเลี้ยงดูในวัยเด็ก สิ่งเหล่านี้จะละเลยไปเสียไม่ได้ ผู้เขียนอาจจะทิ้งเศษขนมปังไว้ให้ผู้อ่านคนห้าเรื่องราวของเจ้าโจรสลัด สองคนก่อนหน้านี้เมื่อ 150 ปี และ 250 ปีก่อนหน้า อาจจะมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด ส่วนนึงโอเค พอเข้าใจได้ แต่มันก็ยังไม่มากพอ เนื่องจาก ฟรานนั้นก็มีผู้ปกครองดูและอยู่ ถ้าจะเทียบกับเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนของผู้เขียน นั่นก็คือวันพีซ ลองอ่านดูอีกที ว่าทำไมแรงบันดาลใจของลูฟี่ถึงเข้มข้นในการเป็นเจ้าโจรสลัดถึงขนาดนั้นการตัดสินใจ และเหตุผลในครานี้เป็นส่วนสำคัญราวกับกระดูกสันหลังของเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งข้าว่าน้ำหนักมันยังน้อยไปหน่อย ยังไม่รวมไปถึงอายุที่ยังน้อยและได้เป็นหัวหน้าโจรสลัดในเรือ ที่ถึงแม้จะให้เหตุผลมาแล้ว แต่น้ำหนักในการเชื่อก็ยังคงน้อยอยู่ดี การที่จะเป็นหัวหน้าโจรสลัดได้ถ้าคุณไม่มีฝีมือที่มากพอ (อย่างเรอัส) คุณก็น่าจะมีสมองที่เอาตัวรอดได้มากพอ( อย่างอลิส) ซึ่งข้าเองก็เชื่อว่าภาคสอง ตัวตนของ ฟรานจะถูกเสริมความแข็งตรงนี้เพิ่มมากขึ้น 2. การตายของไซคี : นิยายที่ผู้เขียนประพันธ์ขึ้นมา ความเชื่อมโยงระหว่างอารมณ์ตัวละคร มันยังไม่ถึงจุดที่ต้องเศร้ามากขนาดนั้น เนื่องเพราะคนอ่านยังไม่ได้รู้ปูมหลังของตัวละครที่ตายจนต้องทำให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างสุดซึ้ง ดังนั้น ผู้เขียนจึงแนบจดหมายมาตอนที่เธอตายไปแล้ว คล้ายกับจดหมายลาตาย แต่ไม่เนียน มันไม่ควรจะเป็นจดหมายลาตาย ถ้าจะให้ซึ้ง มันควรจะเป็นไดอารี่ที่เขียนถึงทุกคนบนเรือมากกว่า เหมือนตอนที่โฟว์รำลึกความหลังที่มีความสุขกับหลายๆคนบนเรือนั่นแหล่ะ ข้าว่าฉากนั้นท่านทำได้ดี แต่จดหมายนี่ทำให้รอยต่อเนียนๆของเส้นเรื่องที่ท่านปูมาปริแตกไปเสียแล้ว ทางที่ดีถ้าท่านอยากให้ไซคีดูมีความผูกพันธ์มากกว่านี้ ท่านควรจะปูเรื่องให้ลึกไปเลยถ้าต้องการจะให้ตัวละครตัวนี้ตาย แม้จะชุบชีวิตได้ก็เถอะ 3. ไหนๆจะมีเรื่องวันพีซเป็นแรงบันดาลใจแล้ว ทำไมไม่นำ’ความประทับใจ’ในแต่ละการผจญภัยมาด้วย ข้ารู้ว่าท่านเน้นขำอาจจะมีความประทับใจเป็นหย่อมๆ ดังนั้นมันจึงเป็นการยัดเยียดมากเกินไปถ้าจะให้เศร้าไปกับการตายของไซคี ถ้าจะให้เอาเยี่ยงวันพีซ ท่านลองดูในแต่ละตอน ตั้งแต่ก่อนออกเรือ เจอโซโล เจออุซุป เจอนามิ เจอกวาง ผ่านทะเลทราย มันมีความประทับใจตราตรึงอยู่ในเนื้อหานั้น เนื่องเพราะ การปูความลึกทั้งตัวละครหลัก และตัวละครรอง มาเชื่อมโยงบีบคั้นกลั่นออกมาจนเป็นความประทับใจในแต่ละบทแต่ละตอน ดังนั้น ถ้าการวาง position ในเรื่องของท่านนี้ เน้นความขำอย่างเดียวข้าก็ขออภัยด้วย แต่สิ่งที่ข้าสังเกตุ มันไม่ใช่แค่ความขำอย่างเดียว มีการพยายามให้เกิดความประทับใจในตัวเนื้อเรื่องไปด้วย ดังนั้นข้าเชื่อว่า คนที่มีฝีมือในการปลุกปั้นตัวละครและเป็นเอกในเรื่องการบรรยายขนาดนี้ สามารถเจาะปมตัวละครให้ลึก แลดูมีที่มาที่ไปมากกว่า เชื่อมโยงให้เกิดความประทับใจในเรื่องมากกว่านี้ ไม่งั้นก็จะเป็นเหมือนฉากตายของไซคีนั่นแหล่ะ และข้าคาดหวังจากนักเขียนที่เก่งเช่นท่าน ไม่ใช่นักเขียนที่เขียนดาษๆทั่วไป สุดท้ายนี้ในสิ่งที่ข้าได้พูดออกไปด้วยวาจา หรือแสดงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรโดยไม่ตั้งใจต่อท่าน ข้าขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ 'ทั้งหมดที่เราวิจารณ์ออกไปใช่ว่านักวิจารณ์อย่างเราจะทำได้ดีไปทุกอย่าง เเต่เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าให้คุณทำได้ 'จงอย่าคาดหวังอะไรกับนักวิจารณ์นักเลย พวกเขาก็แค่คนธรรมดา ป.ล. วินด์ วันเดอเรอร์ หวังดีกับทุกคน อ่านน้อยลง
wind_wanderer | 26 ต.ค. 56
6
0
ดูทั้งหมด
"นิกซ์วันเดอเรอร์ รับวิจารณ์นิยายทั่วราชอาณาจักร"
(แจ้งลบ)สวัสดีท่าน Lucky ผู้แต่ง Lepite Pirate ขอโทษที่ผมเป็นโจรสลัด!! ข้า วินด์ วันเดอเรอร์ ผู้ที่มาจากอาณาจักรคนจร ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของ นิกซ์ วันเดอเรอร์ ผู้รับวิจารณ์ทั่วราชอาณาจักร ข้าได้รับใบสั่งงานจากท่านจึงใช้เวลากลั่นและกรองในงานท่านพอสมควร กว่าจะเขียนมันออกมาได้ ขอเชิญท่านสดับรับสารของข้า ตามที่ท่านต้องการเถิด ----------------- ... อ่านเพิ่มเติม
สวัสดีท่าน Lucky ผู้แต่ง Lepite Pirate ขอโทษที่ผมเป็นโจรสลัด!! ข้า วินด์ วันเดอเรอร์ ผู้ที่มาจากอาณาจักรคนจร ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของ นิกซ์ วันเดอเรอร์ ผู้รับวิจารณ์ทั่วราชอาณาจักร ข้าได้รับใบสั่งงานจากท่านจึงใช้เวลากลั่นและกรองในงานท่านพอสมควร กว่าจะเขียนมันออกมาได้ ขอเชิญท่านสดับรับสารของข้า ตามที่ท่านต้องการเถิด ---------------------------------- ก่อนที่เข้าถึงบทวิจารณ์ ขอทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนที่จะเริ่มวิจารณ์ เนื่องด้วยผู้เขียนมอบหมายงานนี้มาให้ช่วงที่ผู้เขียน เขียนไปจนเกือบจบภาคที่หนึ่งแล้ว (30 ตอน) ดังนั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่า การอ่านเรื่องราวทั้งหมด และชี้แนะวิจารณ์กับเรื่องที่เขียนขึ้นมาจนใกล้จะจบภาคแล้ว ผู้เขียนต้องการอะไรกันแน่? เท่าที่เคยวิจารณ์มาจะแบ่งเป็นสองประเภท สำหรับผู้เขียนที่มอบหมายงานมาในจังหวะที่เรื่องใกล้จบแล้ว 1. อยากได้รับคำวิจารณ์อย่างจริงจังเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข และถึงแม้ว่าจะเขียนไว้จนจบแล้วก็ยินดี re-write โครงเรื่องใหม่ เมื่อเห็นว่าคำแนะนำนั้นมีประโยชน์พึงกระทำเพื่อยกระดับงานเขียนของตน 2. อยากได้รับคำวิจารณ์ที่เป็นไปในแง่บวกอย่างเดียว หรือถึงแม้จะถูกวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา แต่ผู้เขียนก็จะหาข้อโต้แย้งในสิ่งที่ผู้วิจารณ์เล็งเห็น และไม่ยอมกลับไปแก้ตามที่ขอวิจารณ์มา เนื่องด้วยมันเสียเวลาในการรื้อและแต่งโครงเรื่องใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางออกที่ง่ายที่สุดคือเมินเฉยต่อคำวิจารณ์นั้นซะ และคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า ผู้วิจารณ์ไม่มีคุณสมบัติในการที่จะมาวิจารณ์เรื่องราวของผู้เขียนรังสรรค์ขึ้นมา ซึ่งก่อนที่จะมารับงานวิจารณ์ร่วมกับท่านหัวหน้านิกซ์ ข้าเองก็เคยผ่านพบประสบเจอเรื่องราวประเภทนี้มาบ่อยครั้ง จึงสอบถามเสียก่อนเพื่อความแน่ใจว่าจริงๆแล้วท่านเป็นประเภทไหนกันแน่? ไม่ต้องตอบข้าหรอกท่าน การกระทำหลังจากคำวิจารณ์นี้ต่างหาก เป็นการบ่งชี้ว่าจริงๆแล้วท่านต้องการคำวิจารณ์ในขณะที่กำลังเขียนภาคหนึ่งจบเพื่ออะไร ตัวละคร: ผู้เขียนสามารถบรรยายตัวละครทุกตัวให้มีความแต่งต่างและโดดเด่นอย่างแจ่มชัด ไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งกายหรือรูปพรรณสันฐาน แต่คือประโยคพูดคุยและการกระทำที่แสดงลักษณะนิสัยออกมาอย่างโดดเด่น สิ่งนี้ถือว่าคนเขียนมีพรสวรรค์อย่างล้นเหลือที่จะรังสรรค์ตัวละครที่น่าดึงดูดเหล่านี้ออกมา ไม่มีคำติ แม้แต่คำเดียวสำหรับการรังสรรค์ตัวละครนี้ การบรรยาย: คำผิดยังมีอยู่เยอะ เชื่อว่า ณ ขณะที่ผู้เขียน รีไรท์ใหม่เพื่อส่งสำนักพิมพ์จะแก้ไขจุดบกพร่องนี้ ที่ข้าไม่สามารถข้ามผ่านไปได้เลยก็ตรงคำว่า ‘กำไล’ ท่านเขียนผิดทุกคำว่า ‘กำไร’ ดังนั้นควรเขียนเสียใหม่ให้ถูกต้อง กำไลคือสิ่งที่ใส่ข้อมือ ส่วนกำไรคือรายได้ที่เกินทุน ข้ารู้ว่าท่านเข้าใจ แต่ท่านเขียนผิดทุกคำจนข้าละเลยจากมันไปไม่ได้ นอกเหนือจากคำผิดแล้ว ท่านบรรยายทั้งเหตุการณ์ สถานที่ ความน่าตื่นตาตื่นใจได้เห็นภาพมาก นอกจากพรสวรรค์ในการรังสรรค์ตัวละครให้โดดเด่นแล้ว การบรรยายฉากสู้รบ สถานที่ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ การบรรยายคุณลักษณะตัวละคร ท่านทำออกมาได้สวยสด งดงาม นอกจากนั้นแล้ว ผู้เขียนน่าจะเป็นคนมีอารมณ์ขันอันล้นเหลือ การปู การตบมุข ขำขัน ทำได้อย่างลงตัว การท่องเที่ยวผจญภัยไปในสถานที่ต่างๆกับตัวละครที่ราวกับหลุดออกมาจากโลกการ์ตูน เป็นสิ่งที่เบิกบานใจข้ายิ่งนัก ถึงแม้ว่าตอนแต่ละตอน จะยาวแต่อ่านแล้วรู้สึกไหลลื่นไปกับเนื้อเรื่องได้ไม่ยาก เนื่องด้วยอารมณ์ขันที่แทรกอยู่ในเรื่องราวแต่ละบทนี่เอง เนื้อเรื่อง สำหรับความฝันที่อยากจะเป็นเจ้าโจรสลัด และเริ่มออกเดินทางไปกับเพื่อน ไม่ใช่ว่าใคร ไม่เคยได้ยินเรื่องราวเช่นนี้ ข้าเองเชื่อว่าผู้เขียนพยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบ แต่ก็ยังคงตัดใจไม่ได้เสียที จึงต้องใส่ในเรื่อง ค่าหัวเข้ามา เมื่อค่าหัวขึ้นแล้วดีใจ คนก็ต้องนึกไปถึงการ์ตูนดังเรื่องนึง , เมื่อความฝันของตัวเอก อยากจะเป็น เจ้าโจรสลัด คนก็จะนึกไปถึงการ์ตูนดังเรื่องนึง, เมื่อบุคลิกของตัวละครบนเรือ ที่สู้กันจะเป็นจะตายด้วยความหมั่นไส้ แต่พอมีเรื่องราวมากระทบก็จะรวมพลังมิตรภาพ ฟันฝ่าออกไปให้ได้จนสำเร็จ คนก็จะนึกถึงการ์ตูนดังเรื่องนึง ซึ่งมันเป็นเรื่องเดียวกัน ต่อไปนี้จะบอกสิ่งที่ท่านอาจจะอยากได้ยิน นั่นคือ ข้อบกพร่องที่ข้าเองสังเกตเห็นในการดำเนินเรื่อง 1. เหตุผลในการเป็นเจ้าโจรสลัด น้ำหนักมีไม่มากพอ (ข้าพูดถึงก่อนที่จะเจอเทพเจ้าบนเรือบรรณนาการนะ ซึ่งอันนั้นเป็นไฟท์บังคับให้ต้องออกเรือ) การที่เด็กชายอายุน้อยจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างในชีวิต ต้องมีแรงขับอย่างล้นเหลือ ดูไปถึงการเลี้ยงดูในวัยเด็ก สิ่งเหล่านี้จะละเลยไปเสียไม่ได้ ผู้เขียนอาจจะทิ้งเศษขนมปังไว้ให้ผู้อ่านคนห้าเรื่องราวของเจ้าโจรสลัด สองคนก่อนหน้านี้เมื่อ 150 ปี และ 250 ปีก่อนหน้า อาจจะมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด ส่วนนึงโอเค พอเข้าใจได้ แต่มันก็ยังไม่มากพอ เนื่องจาก ฟรานนั้นก็มีผู้ปกครองดูและอยู่ ถ้าจะเทียบกับเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนของผู้เขียน นั่นก็คือวันพีซ ลองอ่านดูอีกที ว่าทำไมแรงบันดาลใจของลูฟี่ถึงเข้มข้นในการเป็นเจ้าโจรสลัดถึงขนาดนั้นการตัดสินใจ และเหตุผลในครานี้เป็นส่วนสำคัญราวกับกระดูกสันหลังของเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งข้าว่าน้ำหนักมันยังน้อยไปหน่อย ยังไม่รวมไปถึงอายุที่ยังน้อยและได้เป็นหัวหน้าโจรสลัดในเรือ ที่ถึงแม้จะให้เหตุผลมาแล้ว แต่น้ำหนักในการเชื่อก็ยังคงน้อยอยู่ดี การที่จะเป็นหัวหน้าโจรสลัดได้ถ้าคุณไม่มีฝีมือที่มากพอ (อย่างเรอัส) คุณก็น่าจะมีสมองที่เอาตัวรอดได้มากพอ( อย่างอลิส) ซึ่งข้าเองก็เชื่อว่าภาคสอง ตัวตนของ ฟรานจะถูกเสริมความแข็งตรงนี้เพิ่มมากขึ้น 2. การตายของไซคี : นิยายที่ผู้เขียนประพันธ์ขึ้นมา ความเชื่อมโยงระหว่างอารมณ์ตัวละคร มันยังไม่ถึงจุดที่ต้องเศร้ามากขนาดนั้น เนื่องเพราะคนอ่านยังไม่ได้รู้ปูมหลังของตัวละครที่ตายจนต้องทำให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจอย่างสุดซึ้ง ดังนั้น ผู้เขียนจึงแนบจดหมายมาตอนที่เธอตายไปแล้ว คล้ายกับจดหมายลาตาย แต่ไม่เนียน มันไม่ควรจะเป็นจดหมายลาตาย ถ้าจะให้ซึ้ง มันควรจะเป็นไดอารี่ที่เขียนถึงทุกคนบนเรือมากกว่า เหมือนตอนที่โฟว์รำลึกความหลังที่มีความสุขกับหลายๆคนบนเรือนั่นแหล่ะ ข้าว่าฉากนั้นท่านทำได้ดี แต่จดหมายนี่ทำให้รอยต่อเนียนๆของเส้นเรื่องที่ท่านปูมาปริแตกไปเสียแล้ว ทางที่ดีถ้าท่านอยากให้ไซคีดูมีความผูกพันธ์มากกว่านี้ ท่านควรจะปูเรื่องให้ลึกไปเลยถ้าต้องการจะให้ตัวละครตัวนี้ตาย แม้จะชุบชีวิตได้ก็เถอะ 3. ไหนๆจะมีเรื่องวันพีซเป็นแรงบันดาลใจแล้ว ทำไมไม่นำ’ความประทับใจ’ในแต่ละการผจญภัยมาด้วย ข้ารู้ว่าท่านเน้นขำอาจจะมีความประทับใจเป็นหย่อมๆ ดังนั้นมันจึงเป็นการยัดเยียดมากเกินไปถ้าจะให้เศร้าไปกับการตายของไซคี ถ้าจะให้เอาเยี่ยงวันพีซ ท่านลองดูในแต่ละตอน ตั้งแต่ก่อนออกเรือ เจอโซโล เจออุซุป เจอนามิ เจอกวาง ผ่านทะเลทราย มันมีความประทับใจตราตรึงอยู่ในเนื้อหานั้น เนื่องเพราะ การปูความลึกทั้งตัวละครหลัก และตัวละครรอง มาเชื่อมโยงบีบคั้นกลั่นออกมาจนเป็นความประทับใจในแต่ละบทแต่ละตอน ดังนั้น ถ้าการวาง position ในเรื่องของท่านนี้ เน้นความขำอย่างเดียวข้าก็ขออภัยด้วย แต่สิ่งที่ข้าสังเกตุ มันไม่ใช่แค่ความขำอย่างเดียว มีการพยายามให้เกิดความประทับใจในตัวเนื้อเรื่องไปด้วย ดังนั้นข้าเชื่อว่า คนที่มีฝีมือในการปลุกปั้นตัวละครและเป็นเอกในเรื่องการบรรยายขนาดนี้ สามารถเจาะปมตัวละครให้ลึก แลดูมีที่มาที่ไปมากกว่า เชื่อมโยงให้เกิดความประทับใจในเรื่องมากกว่านี้ ไม่งั้นก็จะเป็นเหมือนฉากตายของไซคีนั่นแหล่ะ และข้าคาดหวังจากนักเขียนที่เก่งเช่นท่าน ไม่ใช่นักเขียนที่เขียนดาษๆทั่วไป สุดท้ายนี้ในสิ่งที่ข้าได้พูดออกไปด้วยวาจา หรือแสดงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรโดยไม่ตั้งใจต่อท่าน ข้าขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ 'ทั้งหมดที่เราวิจารณ์ออกไปใช่ว่านักวิจารณ์อย่างเราจะทำได้ดีไปทุกอย่าง เเต่เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าให้คุณทำได้ 'จงอย่าคาดหวังอะไรกับนักวิจารณ์นักเลย พวกเขาก็แค่คนธรรมดา ป.ล. วินด์ วันเดอเรอร์ หวังดีกับทุกคน อ่านน้อยลง
wind_wanderer | 26 ต.ค. 56
6
0
"การพนักเล็กๆก่อเกิดเป็นการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน! (ระบบวิจารณ์)"
(แจ้งลบ)แฟนตาซีหลากรสหลายอารมณ์เรื่อง Lepite Pirate ขอโทษที่ผมเป็นโจรสลัด!! ในที่นี่จะมีสักกี่คนที่อ่านแล้วเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือโจรสลัด หล่อ ใจดี ฮา บ้า รั่ว แล้วไหนจะเพื่อนๆที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันอีกล่ะ บอกได้คำเดียวว่า... การผจญภัยไปกับเรือโจรสลัดของพวกเขาครั้งนี้ไม่ธรรมดา 1. โครงเรื่อง : ขอเริ่มต้นเอ่ยถึงตั้งแต่ชื่อเรื่องกันเลยนะ Lepite Pir ... อ่านเพิ่มเติม
แฟนตาซีหลากรสหลายอารมณ์เรื่อง Lepite Pirate ขอโทษที่ผมเป็นโจรสลัด!! ในที่นี่จะมีสักกี่คนที่อ่านแล้วเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือโจรสลัด หล่อ ใจดี ฮา บ้า รั่ว แล้วไหนจะเพื่อนๆที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันอีกล่ะ บอกได้คำเดียวว่า... การผจญภัยไปกับเรือโจรสลัดของพวกเขาครั้งนี้ไม่ธรรมดา 1. โครงเรื่อง : ขอเริ่มต้นเอ่ยถึงตั้งแต่ชื่อเรื่องกันเลยนะ Lepite Pirate ขอโทษที่ผมเป็นโจรสลัด!! ในความคิดของเราชื่อนี้ถ้อว่าเหมาะสมแล้ว ไม่สั้นหรือยาวเกินไป อ่านชื่อภาษาไทยแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกับบุคคลภายนอกไม่เชื่อว่าตัวเอกจะเป็นโจรสลัดไปได้ ชื่อเรื่องยังน่าสงสัยขนาดนี้ คงต้องรีบคลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาซะแล้วสิ ต่อมาก็เป็นการเกริ่มนำ แค่ประโยคแรกของบรรทัดแรกก็ทำให้คิ้วของเราขมวดเป็นปม หึ เด็กไม่สิ้นกลิ่นปากน้ำนม แนะนำเรียบเรียงเป็น หึ! เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ดีกว่านะ เอาล่ะ พออ่านเต็มๆแล้วให้รู้สึกถึงความสะพรึงกลัวขึ้นมาทันที ตัวเอกที่ถูกสบประมาทจากใครคนหนึ่ง (เทพแห่งท้องทะเล) ซึ่งยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการมีชีวิตเป็นเดิมพัน เกมการพนันในครั้งนี้ ผู้แพ้ต้องตาย แต่ถ้าหากตัวเอกเอาชนะได้ ผลตอบแทนที่เขาควรจะได้รับจากการแข่งขันครั้งนี้ก็คุ้มค่าและน่าสนใจเช่นเดียวกัน ยิ่งได้อ่านบรรทัดสุดท้ายของข้อมูลเบื้องต้นก็ยิ่งขนลุกเข้าไปใหญ่ หนึ่งคำขอที่มีความตายรออยู่ตรงหน้าแล้วใครล่ะจะกล้าขอ อ่า... แบบนี้ต้องรีบติดตามต่อซะแล้ว ตัวเอกจะสามารถลบคำสบประมาทแล้วคว้าชัยชนะมาเป็นของตนได้หรือไม่ และพรที่ขอได้จะทำให้ตายหรือเปล่า ช่างน่าคิดจริงๆ บทนำถือว่าใช้การบรรยายที่อ่านเข้าใจง่าย ดำเนินเรื่องเพียงไม่เกิน2หน้ากระดาษเอสี่ด้วยซ้ำ ก็ทำให้คนอ่านอย่างเราเข้าใจถึงสิ่งที่คุณต้องการสื่อได้ในทันที คุณไม่ได้ใส่คำพูดอะไรมากมาย แถมยังทิ้งท้ายด้วยประโยคง่ายๆแต่ชวนขนลุก สรุปว่าบทนำปูทางมาได้เฉียบคมจริงๆค่ะ นอกจากนี้การดำเนินเรื่องตั้งแต่บทแรกจนบทสุดท้าย ถือว่าดำเนินได้กระชับฉับไวและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับเหล่าตัวเอกก็ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นไปด้วยอยู่ตลอดทั้งการอ่าน แต่จะมีเป็นบางบทที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าคุณดำเนินเรื่องราวช้าและยืดเยื้อไปสักหน่อย ทั้งๆที่ความจริงคุณน่าจะตัดหรือลดทอนคำบรรยายที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องราวในบางส่วนที่มันไม่กระทบกับเนื้อหาออกได้ มันจะได้ดูกระชับและเข้มข้น (พอยาวไปแล้วเรารู้สึกเหนื่อยที่จะอ่านและรู้สึกว่าความตื่นเต้นมันหดหายไป) อันได้แก่ บทที่4 บทที่7-9 บทที่11-13 บทที่17 บทที่20 และบทที่22-23 ขอชี้แจงเพิ่ม จริงๆแล้วคุณดำเนินเรื่องและลำดับเหตุการณ์ได้ดีและไม่มีที่ติ แต่ในบางเหตุการณ์ที่เราอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่น่าจะยืนยาวได้ขนาดนี้ คุณก็บรรยายซะเราเริ่มออกอาการเบื่ออย่างบอกไม่ถูก (เช่นในบทที่4 ความจริงสามารถเริ่มต้นเรื่องราวที่ประโยค "ฉลองให้กับชัยชนะครั้งนี้" มันก็โอเคนะ) อีกอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่านิยายเรื่องนี้มันออกแนวก้ำกึ่ง อธิบายยังไงดีล่ะ แบบว่าคุณตั้งใจสื่อให้คนอ่านเข้าใจว่านิยายเรื่องนี้เป็นแฟนตาซีเกี่ยวกับเรื่องราวของเหล่าโจนสลัด แต่หลังจากที่เราอ่านจบ เรารู้สึกว่าไม่ค่อยได้รับรู้ถึงกลิ่นไอของโจรสลัดที่คุณสื่อออกมาสักเท่าไหร่ (แม้จะมีเรือ ทะเล โจรสลัด หรือแม้กระทั่งการปล้น) มันเหมือนกับการผจญภัยของนักเดินทางธรรมดาที่บังเอิญได้ขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่บนเรื่อโจรสลัดมากกว่า อาจจะเป็นไปได้ว่า คุณเน้นการกระทำของพี่สาวตัวเอกมากเกินไป จนกลบความเป็นโจรสลัดในตัวพระเอกและเพื่อนพ้องก็ได้ (ในความคิดนะ-O-;) 2. ตัวละคร : ตัวเอกหลักๆของเรื่องก็น่าจะเป็นสามคนนี้นะ (แม้จะรู้สึกว่าหนึ่งสาวที่หน้าตาละม้ายคล้ายหนึ่งในสามหนุ่มจะแลดูโดดเด่นกว่าใครเพื่อนก็เถอะ= =;) ขออธิบายคร่าวๆตามความเข้าใจของเราล่ะกัน - ฟรานซิส ผู้ชายคนนี้ดูเผินๆอาจจะเป็นคนทะเล้นขี้เล่นและทำตัวเด็กสมอายุอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าลองพิจารณาเข้าไปลึกๆภายในจิตใจแล้ว ดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนี้จะมีหลายบุคลิก และมีหลากหลายอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในคนๆเดียว นั่นเพราะความหลังครั้งอดีตที่แสนโหดร้ายจึงส่งผลให้เขากลายเป็นคนเก็บกด - เรอัส เจ้าอารมณ์ ความอดทนต่ำ เลือดร้อนและขี้โวยวาย แม้จะอายุมากที่สุดในบรรดาสามหนุ่ม แต่ดูเหมือนระดับความคิดและสติปัญญาจะเด็กกว่าเพื่อน หมายถึงเฉพาะตอนที่อยู่กับฟรานซิสกับฮิวโก้นะ แต่พออยู่ลำพังหรืออยู่ท่ามกลางบุคคลอื่น ผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นชายหนุ่มที่สุขุมเยือกเย็นราวกับคนละคนไปเลย - ฮิวโก้ น่าจะอ่อนโยนและใจดี เป็นคนมีหลักการและเหตุผล ที่สำคัญ จริงจังมาก 3. การใช้ภาษา : แค่อ่านบรรทัดแรกก็รู้เลยว่าการเขียนของคุณทำได้ดีมากถึงมากที่สุด เพราะภาษาที่ใช้เป็นภาษาง่ายๆที่คนอ่านสามารถเข้าใจได้ในทันทีทันใด ให้ความรู้สึกลื่นไหลสบายตาสบายสมองทันทีที่ได้อ่าน และยังสามารถอ่านได้เรื่อยๆโดยไม่สะดุด แต่ก็ยังมีติดอยู่บ้างคือคุณชอบใช้คำหรือประโยคพร่ำเพรื่อ ส่งผลให้สิ่งที่คุณบรรยายมันดูเยอะเกินไปทั้งๆที่ประเด็นหรือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญมีเพียง1-2ย่อหน้า แต่คุณกลับเขียนวกวนจนเกินกว่า3ย่อหน้า นอกจากนี้คำบางคำที่มีความหมายเหมือนกันคุณก็มักจะจับใส่ลงไปทั้งหมดโดยไม่คิดจะตัดหรือลดทอนออก ไม่แน่ใจว่าเสียดายหรือกลัวประโยคไม่สวยงามไม่สมบูรณ์หรืออย่างไร ถ้าใช่ แนะนำให้เลือกใช้คำหรือประโยคความหมายเดียวเพียงหนึ่งเดียวก็พอ ไม่ต้องจับคำที่เหมือนหรือความหมายคล้ายคลึงกันเข้ามารวมให้มันเยอะหรอก เพราะมันไม่ใช่สาระสำคัญและอาจทำให้นิยายเกิดความยืดเยื้อ (ไม่ใช่ยืดเยื้อเพราะเรื่องราวที่ดำเนินไปแต่ยืดเยื้อเพราะการบรรยายเรื่องเดิมๆหรือความหมายเดียวกันมากกว่าหนึ่งรอบ-O-;) ตัวอย่างเช่น กัปตันหนุ่มเดินตรงไปอย่างช้าๆ และไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหัวเรือ สายลมเย็นพัดมาประทะร่างเบาๆจนเส้นผมสีทองนั้นปลิวไสวไปมา เด็กหนุ่มค่อยๆถอดฝักดาบออกอย่างบรรจง แสงประกายจากตัวดาบนั้นส่องประกายแวววาบเล็กน้อย เงาที่สะท้อนจากใบดาบทำให้เห็นชัดว่าเด็กหนุ่มกำลังทำสีหน้าเช่นไรอยู่>กัปตันหนุ่มเดินตรงไปหยุดยืนยังด้านหน้าหัวเรือ สายลมเย็นพัดมาประทะร่างเบาๆจนเส้นผมสีทองปลิวไสวไปมา เด็กหนุ่มค่อยๆถอดดาบออกจากฝักอย่างบรรจง เผยให้เห็นประกายแสงแวววาวที่ส่องออกมาจากใบดาบ สะท้อนเงาผู้ครอบครองชัดเจนว่ากำลังทำสีหน้าเช่นไร ว่าด้วยเรื่องคำผิดก็มีบ้างประปราย ตั้งแต่บทที่5เป็นต้นไป แนะนำตรวจสอบคำผิด คำตกหล่น และประโยคไม่สมบูรณ์อีกรอบนะเพราะมีให้เห็นประปรายทุกบท โดยเฉพาะคำว่า ‘ผนัง’ คุณมักจะเขียนเป็น ‘พนัง’ ในทุกๆบทที่มีคำนี้ อาจมีบางช่วงบางตอนที่เราคิดว่าคุณใช้คำเชื่อไม่สอดคล้องกับบทบรรยาย ตัวอย่างเช่น สายฟ้าฟาดส่งเสียงดังสนั่นจนแสบแก้วหู แค่ถึงอย่างไรความดังของมันก็ไม่ได้ทำให้คนที่หลับอยู่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย และเพราะแสงสว่างวาบของสายฟ้าเมื่อครู่นี้เอง เลยทำให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของกัปตันเรือที่นอนอยู่ และก็ต้องน่าตกใจยิ่งนัก ที่เจ้าของตำแหน่งผู้นำโจรสลัดแท้จริงเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ17-18ปี เส้นผมสีทอง ผิวขาวสว่าง ขนตาดำยาวเป็นแพหนา ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เห็นเค้าโครงว่าจะเป็นโจรสลัดผู้ชั่วร้ายได้เลย>สายฟ้าฟาดส่งเสียงดังสนั่นจนแสบแก้วหู แต่ถึงอย่างไรความดังของมันก็ไม่ได้ทำให้คนที่หลับอยู่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย และเพราะแสงสว่างวาบของสายฟ้าเมื่อครู่ จึงเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของกัปตันเรือซึ่งนอนอยู่ สิ่งที่น่าตกใจยิ่งนัก คือเจ้าของตำแหน่งผู้นำโจรสลัดแท้จริงเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุ17-18ปี เส้นผมสีทอง ผิวขาวสว่าง ขนตาดำยาวเป็นแพหนา ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เห็นเค้าโครงความเป็นโจรสลัดผู้ชั่วร้ายได้เลย รู้สึกว่าคุณจะติดคำว่า ‘นั้น’ นะ อ่านๆไปยังไม่ทันจะข้ามบรรทัดก็เจออีกแล้ว บางทีประโยคที่สมบูรณ์อยู่แล้วไม่ต้องใส่ก็ได้ พอใส่เยอะๆเข้ามันทำให้อารมณ์ที่กำลังลื่นไหลไปพร้อมๆกับบทบรรยายของคุณสะดุดลงทันที (ถึงขนาดนั่งนับนั้นกันเลยทีเดียว-0-;) บางประโยคเมื่ออ่านไปเรื่อยๆแล้วเราคิดว่าคุณน่าจะใช้คำว่า ‘นั่น’ มากกว่า ‘นั้น’ นะ อาจจะเป็นไปได้ว่าพิมพ์เร็วไปหน่อย จากที่จะได้คำว่านั่นเลยกลายเป็นนั้นแทน เช่น เด็กหนุ่มผมทองร้องเบาๆเมื่อมีใครบางคนมาดึงขากางเกงเขา และเมื่อก้มหน้าดูก็พบว่าคนๆนั้นก็คือน้องสาวของเขานั้นเอง>เด็กหนุ่มผมทองร้องเบาๆเมื่อมีใครบางคนมาดึงขากางเกงเขา และเมื่อก้มหน้าดูก็พบว่าคนๆนั้นก็คือน้องสาวของเขานั่นเอง / นอกจากนี้แล้วยังมีคำว่า ‘ที่’ เยอะมากจนสะดุดอารมณ์คนอ่านอย่างเราไม่แพ้คำว่า ‘นั้น’ ถ้ามันไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่นั้นกับที่ก็ได้นะ เช่น แต่ยังที่ไม่ทันจะได้คิดอะไร / เป็นการป้องกันที่เสียการเคลื่อนไหวน้อยที่สุด/บนเตียงขนาดใหญ่นั้นมีร่างสองร่าง ทั้งคู่นั้นหลับตา แนะนำทดลองตัด 'นั้น' กับ 'ที่' ออก ประโยคเหล่านี้ก็ยังคงให้ความหมายเช่นเดิม 4. แก่นเรื่อง : จากที่ได้อ่านและทำความเข้าใจตั้งแต่ต้นจนจบสำหรับแก่นเรื่องของนิยายแฟนตาซีเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นการพนันเล็กๆที่เป็นฉนวนจุดประกายไฟให้เกิดเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ที่คุณได้กล่าวถึงในตอนท้ายของบทนำนั่นเอง คุณบอกว่ามันเป็นเพียงการพนันเล็กๆ แต่สิ่งที่ใช้พนันมันไม่ได้เล็กอย่างที่คิดเลยสักนิด การพนัน แน่นอนว่าต้องมีได้มีเสีย มีแพ้มีชนะ แต่คงไม่มีคำว่าเสมอ และบางทีคำว่าแพ้หรือชนะอาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักของนิยายเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ตัวเอกกำลังเผชิญในระหว่างที่จะเดินทางไปสู่ความหมายของคำว่าแพ้หรือชนะต่างหากล่ะถือเป็นหัวใจสำคัญของนิยายเรื่องนี้ มันน่าคิดนะ จริงๆแล้วเขากำลังจะได้ในสิ่งที่หวังหรือกำลังสูญเสียในสิ่งที่รักไปทีละอย่างสองอย่างกันแน่ เกมที่เรียกว่าการพนันเล็กๆกำลังจะเริ่มต้นขึ้นนับจากนี้ และ บทสรุปของเจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจะลงเอยเช่นไร? คงต้องให้นักอ่านติดตามต่อในซีซั่นที่2และ3แล้วล่ะ สุดท้ายนี้ขอพูดจากใจจริงว่า... งานเขียนของคุณช่วยให้แง่คิดอะไรหลายๆอย่างซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นความรักของพี่น้อง มิตรภาพอันแนบแน่นระหว่างเพื่อน รวมไปถึงจิตใจของมนุษย์ที่ยากแท้หยั่งถึง และสุดท้ายโดยเฉพาะเรื่องของการพนัน ยิ่งขึ้นชื่อว่าเกมการพนันด้วยแล้วไม่ว่าจะพนันเพียงเล็กน้อยหรือมากมายมหาศาล ผลตอบแทนที่ได้มันก็ย่อมไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไปอย่างแน่นอน! ***อ่านเพิ่ม http://writer.dek-d.com/cheekwa/story/viewlongc.php?id=999920&chapter=4 ระบบวิจารณ์ อ่านน้อยลง
กุมภ์กรณ์,หนามMelon | 15 ก.ย. 56
3
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น