คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เพื่อนใหม่ [Friends]
Chapter 2
เพื่อนใหม่ [Friends]
บนถนนสายหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งเป็นถนนที่ความยาวตลอดทั้งเส้นไม่ยาวมากนักแต่ดูเหมือนจะเป็นถนนที่วิ่งจากพื้นที่เขตอุตสาหกรรมเข้าสู่ย่านใจกลางเมือง แน่นอน ถนนเส้นนี้คือถนน นราธิวาสราชนครินทร์ รถยนต์ค่อนข้างหนาแน่นบนท้องถนน แต่ด้วยกฎหมายจำกัดความเร็วขั้นต่ำทำให้รถทุกคันต้องทำความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด จึงทำให้การจราจรไม่ติดเท่าไหร่ ถนนเส้นนี้ถูกร้อมรอบไปด้วยสิ่งก็สร้างทางด้านอสังหาริมทรัพย์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม หากต้องการซื้อคอนโดมิเนียมที่หรูและแพงที่สุดคุณสามารถหาได้จากถนนเส้นนี้
“`คุณลุงคะ ขับไวกว่านี้ไม่ได้หรือคะ?” น้ำเสียงของผู้ที่นั่งอยู่ทางเบาะหลังของรถลิมูซีนฟังดูเร่งรีบและกระวนกระวาย
“คุณหนูครับ ทีี่ผมขับอยู่บนความเร็วสูงที่สุดที่ใช้ได้บนถนนเส้นนี้แล้วนะครับ" ชายไวกลางคนตอบกลับมาพร้อมกับกวาดสายตาไปที่หน้าปัดเพื่อมองความเร็วของรถยนต์
“หนูเข้าใจค่ะ แต่เกรงว่าหนูคงจะไปไม่ทัน งั้นคุณลุงช่วยส่งหนูลงตรงสถานีรถไฟฟ้าข้างหน้าได้ไหมคะ" เด็กผู้หญิงตอบพร้อมกับยิ้มลางๆ เพื่อเป็นสัญญาณให้รู้ว่าเขาไม่ได้โกรธอะไรที่คนขับรถทำความเร็วไม่ได้ พร้อมกับเตรียมตัวที่จะลง
ทันได้ที่รถจอดเธอรีบก้าวลงจากรถทันที่เพราะถ้าเกิดช้า จะทำให้รถข้างหลังพลอยติดไปด้วย
เด็กผู้หญิงที่ยิ้มแย้มและหน้าตาคล้ายกับไอดอลสาวเกาหลีอยู่ในชุดนักเรียน เสื้อสูทนอกสีเทาเข้มที่ภายในมีเสื้อเชิตสีขาวพร้อมกับเนคไทสีน้ำเงินและกระโปรงความยาวประมานหัวเข่าสีเดียวกันกับสูทนั้น ทำให้สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นชุดของสถานศึกษาของเหล่าบรรดา ผู้ดีเก่าในกรุงเทพฯ
รัน สลิลทิพย์ อิสระรองเมือง เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลอิสระรองเมือง ตระกูลเก่าแก่ของกรุงเทพ
หน้าตาที่ เกาลี๊เกาหลีพร้อมด้วย ผมทรงหน้าม้ายาวเลยบ่ามานิดหน่อย สีน้ำตาลประกายแดง ซึ่งเป็นทรงผมยอดฮิตของเด็กโรงเรียนนี้ ทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวที่มีมีเสน่ห์ และด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นชวนหลงใหล หนุ่มคนไหนได้เห็นรอยยิ้มนี้คงต้องละลายแน่นอน รันรีบขึ้นลิฟท์แก้วเพราะกลัวว่าจะไปสาย
เคนและเอกยืนอยู่หน้าทางเข้าองค์กรสืบราชกาลลับ ซึ่งเป็นตึกสูงชั้น ทั้งสองคนกวาดสายตามองด้วยความฮือฮา แต่มองอยู่ได้ไม่นานก็คิดได้ว่าต้องรีบไปให้ทันการสอบ ทันใดที่สองคนก้าวเข้ามาด้านใน ก็พบกับความกว้างขวางของสถานที่ การตกแต่งด้วยสีขาว และวัสดุโปร่งแสงทำให้ดูสบายตา แต่ผู้คนกลับไม่พลุกพล่านอย่างที่ควรจะเป็น เอกเดินไปกดลิฟท์
“สวัสดีค่ะ ติดต่อฝ่ายไหนคะ" เสียงใสๆออกมาจากลำโพงที่ติดอยู๋ข้างประตูลิฟท์
“ฝ่ายบุคคลครับ เรื่องการสอบภาคปฎิบัติ" เคนเอื้อมตัวไปตอบ ในขณะที่เอกยังคนฮือฮากับสถานที่
หลังจากนั้นไม่นานประตูลิฟท์ก็เปิดออกเพื่อรับทั้งสองคนเข้าไป ดูเหมือนพวกเขาสองคนยังคงจะมาทันเวลา
[กริ๊งๆๆๆๆๆ]
“สวัสดีค่ะ รัน พูดค่ะ" รันรับสายด้วยอาการเร่งรีบ
“คุณ รัน คะ คุณมีสอบสัมภาษณ์วันนี้ที่ ตึก CM นะคะ ไม่ทราบว่าเดินทางจะถึงยังคะ?" บุคคลในสายสอบถาม
“กำลังจะถึงแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้ลำบาก" รันตอบไปด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด
“งั้นดิฉันจะจัดการเรื่องรายงานตัวให้ก่อนนะคะ คุณรันรีบมาละกัน"
“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะ"
เด็กผู้หญิงผมหน้าม้า ดูเหมือนจะมีเส้นสายในองค์กร ไม่ใช่น้อย องค์กร Crescent Moon รับสมัครเจ้าหน้าที่ภาคสนามโดยจัดสอบเอง แบ่งเป็นการสอบข้อเขียนและสอบภาคปฏิบัติ โดยคุณสมบัติขั้นต่ำคือจะต้องผ่านการฝึก รักษาดินแดน หรือผ่านการเกณฑ์ทหารมาก่อน เนื่องจากเหตุผลทางด้านยุทธวิธีและความสะดวกในการฝึกในขั้นต่อไป
“เอก ดูสิทหารทั้งนั้นเลยว่ะ เราจะสู้พวกเขาได้ไหม" เคนพูดในขณะที่ทั้งสองคนก้าวออกจากลิฟท์มา ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นกลุ่มท้ายๆที่มาถึงแล้ว
ตึกของ CM นั้นเป็นตึกขนาดใหญ่มาก มีความกว้างขนาดประมาน 14 สนามฟุตบอลติดกัน นั่นจึงทำให้ปฏิบัติการซ้อมแทบทุกอย่างจะสามารถฝึกในนี้ได้หมดเลย หลังจากนั้นไม่นาน ได้มีเสียงประกาศดังขึ้น
"สวัสดีผู้เข้าสอบทุกคน ผมขอแสดงความยินดีที่หลายท่านผ่านมาถึงรอบนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผมจะชี้แจงให้ฟังโดยละเอียด จงฟังให้ดี ทุกๆคนจะได้ สร้อยคอ เพื่อเป็นเครื่องส่งตำแหน่งของพวกคุณ และเป็นเครื่องบอกรายละเอียดข้อความเสียง ซึ่งทุกทุกคนจะมี คนละ 20 point ใครpointหมด คุณตกการสอบภาคปฏิบัติ การที่จะเสียpointได้มีอยู่ 2 กรณีคือ หนึ่งทุจริตการสอบไม่ว่าจะด้วยกรณีใดๆ สองทำร้ายเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบ ผู้เข้าสอบ3,000 คนจะถูกแบ่งเป็น 1,000 ทีม ซึ่งจะถูกส่งไปยังชั้นที่แตกต่างกัน20 ชั้น คือชั้นที่ 101-120 ซึ่งหมายความว่า แต่ละชั้นจะมีจำนวนทีม 50 ทีมด้วยกัน ซึ่งพวกคุณจะได้รับภารกิจเดียวกันในแต่ละชั้น นั่นหมายความว่า ในแต่ละชั้นจะมีเพียง1/50 ทีมที่สอบผ่าน ชั้นต่างกัน ภารกิจจะต่างกันโดยอ้างอิงจากสถานการณ์จริงบนโลกใบนี้ โดยอาจจะมีการณ์พิจารณาการสอบผ่านหรือตกในแต่ละชั้นเพิ่มเติม ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เริ่มแจกสร้อยคอให้ผู้สมัครแล้ว คุณจะถูกส่งไปยังชั้นต่างๆตามที่สีของสร้อยคอโดยคุณมีเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากนี้ในการพบกับสมาชิคในทีม ซึ่งจัดตามเลขที่ใบสมัคร สงสัยอะไรโปรดถามเจ้าหน้าที่ ผมขอเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าสอบทุกคน จงมีชิวิตรอดกลับมา ผมจะรออยู่ที่ชั้นบนสุด...”
หลังจากเสียงของชายปริศนาเงียบลง ก็มีเสียงพูดคุยอึกทึกของผู้เข้าสอบ บ้างก็บอกว่า ถ้าเราฆ่าอีก49 ทีมให้หมดเราก็สอบผ่านโดยปริยาย ล่ะสิไม่จำเป็นต้องทำภารกิจ บ้างก็บอกว่า ทำไมไม่ไปสมัครพร้อมกัน
“เอ็งเอาไงดี จะถามเจ้าหน้าที่คนไหน" เคนพูดพลางกวาดสายตาไปรอบๆ แล้วก็มองผ่านไปเห็นเจ้าหน้าที่คนนึงที่เดินผ่านมาทางพวกเขา พอดี
“เคน กับ เอก ใช่ไหม สวัสดีค่ะ ดิฉันจะพาไปยังห้องเตรียมตัวที่ชั้น 120 ตามมาเลยค่ะ"
เคน กับ เอก หันหน้ามองตากันปริบๆ ด้วยความงง แต่ก่อนที่จะเอ่ยปากอะไรเจ้าหน้าที่คนนั้นก็เริ่มเดินห่างออกไปแล้วเขาทั้งสองคนจึงต้องรีบตามไป
ในระว่างที่รอลิฟท์
“โทษนะครับ เราใช้ความรุนแรงทำร้ายทีมตรงข้ามได้หรอครับ?” เอกถาม ด้วยใบหน้าสงสัยไปยังคนที่ยืนหันหลังให้ตรงหน้า
“ใช่ค่ะ..."
“งั้น เมื่อถึงเวลา จะไม่เกิดเหตุการณ์ตะลุมบอลหรอ?” เคนเป็นฝ่ายถามแซกขึ้นมาบ้าง
“ประตูที่จะเปิดในแต่ละห้อง จะถูกวางไว้ยังตำแหน่งต่างๆ กระจายกัน ค่ะ"
“แล้วในทีมเมท อีกคนล่ะครับ?” เอกถามแซกขึ้นมาอีกที
“เขาจะมาในไม่ช้านี้ค่ะ โปรดรอในห้อง คุณอาจจะถูกออกไปยังสนามทดสอบช้ากว่าคนอื่น" เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาทันทีราวกับเตรียมคำตอบมะก่อน และหลังจากนั้นทั้งสามคนก็ก้าวขึ้นลิฟท์ บรรยากาศภายในลิฟท์ที่ดูเหมือนจะไม่ใช่แต่เคลื่อนที่ขึ้นสูงอย่างเดียว แต่กลับรู้สึกเหมือนราวกับนั่งรถอยู่ ค่อนข้างเงียบสงบ เจ้าหน้าสาวนิ่งราวยังกับเป็นหุ่นยนตร์ หลังจากนั้นไม่นานลิฟท์เปิดออก พวกเขายืนอยู่หน้าห้อง 120 E14 เจ้าหน้าที่ปล่อยให้เคนกับเอกเดินออกมาเพียงสองคน พร้อมกล่าวลา อย่างไร้อารมณ์
“โชคดีนะคะ"
“ไอ้เคน ดูเจ๊นั่นดิ อย่างกะหุ่นไซบอร์กส่งจากญี่ปุ่นนเลยว่ะ" เอกสะกิดเคนพร้อมกับบ่นงึมงัม ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินเข้าห้องไป
ทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่ได้ใช้เวลาสนใจว่าภารกิจจะเป็นยังไง พวกเขาจะถูกส่งไปที่ไหนเอาซะเลย
พวกเขากำลังสนุกกับอภินันทนาการภายในห้องพัก ไม่ว่าจะเป็น อาหารชั้นเลิศ หรือเกมส์สุดเจ๋ง
ผ่านไป40 นาที
คนที่เริ่มหัวเสียเริ่มจะเป็นทางเคนมากกว่า เวลาก็ใกล้เข้ามาแล้ว พวกเขายังไม่เห็นแม้แต่วี่แววของเพื่อนร่วมทีมอีกคนเลย....
หลังจากนั้น 10 นาที
“ไม่ไหวล่ะนะ!!” เคนกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโห พร้อมเดินไปยังประตูหน้าห้อง
“แกจะไปไหนวะ" เอกหันหน้าไปถาม ขณะที่มือยังกด จอยสติ้กอยู่
“ก็จะไปคุยกับ เจ๊นั่นให้รู้เรื่องไง" เคนตอบพร้อมตรงดิงไปยังประตู และในตอนที่เคนกำลังจะเปิดประตูนั้นเอง ประตูได้เปิดออกพร้อมเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก ได้ยืนอยู่ตรงหน้า เคนจ้องใบหน้าเธอตาไม่กระพริบ เหงื่อที่ซึมออกมาเล็กน้อยจากการวิ่งเพราะรีบมา ทำให้รันต้องเอามือปาดเหงื่อเบาๆ
“ขอโทษนะคะ ที่มาสาย เราชื่อรัน ฝากตัวด้วยนะคะ" เด็กหญิงตรงหน้ากล่าวคำขอโทษพร้อมโค้งตัวลงด้วยความรู้สึกผิด และแน่นอน ด้วยท่าทางที่น่าเอ็นดูมันทำให้เคนผู้ที่อยู่ตรงหน้า อารมณ์เย็นขึ้นมาในทันทีทันใน
“เคนมีอะไรวะ?” เอกถามด้วยความสงสัย แต่ใบหน้าของเขายังจดจ่ออยู่กับเกมส์ที่เขาเล่น
“เปล่า ไม่มีอะไร ทีมเมทมาแล้ว" เคนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะคนตรงหน้า
ในขณะที่รันพยายามชะเง้อมองหาเจ้าของเสียงคนที่ถาม แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนที่ยืนตรงหน้านั้นได้แข็งโป๊ก ไปซะแล้วนั่นทำให้รันตัดสินใจต้องเอามือไปจิ้มที่หน้าอก
“นายๆ ขอทางให้เราเข้าไปหน่อยจิ นายๆ" รันพูดไปจิ้มไป
“นายๆ ได้ยินมั๊ย???????????????????? นาย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ความคิดเห็น