ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนิงฮวา ชายาเจ้าสำราญ

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 65


    ตอนที่ 3




    “จากการตรวจดู พระชายาทรงเป็นปกติดีพ่ะย่ะค่ะ จะมีก็แค่รอยฟกช้ำบ้างบางแห่งแต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตพ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท”


    หมอหลวงเดินเข้ามาแจ้งอาการของหนิงฮวาให้องค์รัชทายาทที่ยืนรออยู่หน้าตำหนักฟัง คนถูกกล่าวหาว่าป่วยเดินหน้ามุ่ยตามออกมา


    “ก็บอกแล้วว่าข้าไม่ได้เป็นอะไร ท่านก็ไม่เชื่อ”


    ดวงหน้าสวยมองค้อนเขาด้วยความไม่พอใจ ข้อมือของแดงเป็นรอยแดงจากการถูกมัดและนางดิ้นไม่ยอมหยุด เจียวลู่เหลือบมองรอยแดงนั้น


    “ทีนี้ข้าคงอยู่คนเดียวได้แล้วใช่หรือไม่”


    “ยังไม่ได้”


    “เอ๊า! ท่านยังมีธุระอะไรกับข้าอีกหรือ”


    นางจำต้องพูดภาษาให้เข้ากับยุคสมัยหากไม่อยากถูกกล่าวหาว่าไม่สบายหรือสติไม่ดีอีก เจียวลู่ไม่ตอบคำถามของนาง ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาดันตัวพระชายาของตนเข้าไปในตำหนักก่อนจะปิดประตูลงกลอนเสียเอง ด้านในจึงเหลือแค่หนิงฮวากับเจียวลู่เท่านั้น


    หนิงฮวาตั้งการ์ดขึ้นมาพร้อมสู้เต็มที่


    “ถ้าทำอะไรข้า ข้าสู้ขาดใจจริงๆ ด้วย”


    นางทำท่าปล่อยหมัดออกไปเพื่อขู่ให้เขากลัว เจียวลู่มองการกระทำนั้นนิ่งๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับหมัดนั้นล็อกเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย


    “เจ้าคิดว่ามือเล็กๆ ของเจ้าจะทำอันตรายข้าได้งั้นหรือ”


    “ปะ...ปล่อยนะ”


    นางร้องบอกเพราะถูกเขากระชากเข้าไปหาจนตอนนี้อยู่ในท่าคล้ายกับกำลังกอดกันอยู่กรายๆ ตั้งสติไว้ก่อน บุรุษตรงหน้าไม่ใช่หมิงยู่แต่เป็นเจียวลู่ จะมาใจสั่นหวั่นไหวแบบนี้ไม่ได้ นางพร่ำบอกตัวเองในใจ


    “ข้าจะปล่อยเจ้า แต่เจ้าต้องตอบคำถามข้ามาก่อน”


    “คำถามอะไร...เอ่อ...เพคะ”


    หนิงฮวาต่อคำท้ายเพราะนึกขึ้นได้ว่าบุรุษตรงหน้ามีฐานะเป็นถึงองค์รัชทายาท ถ้าไม่อยากหัวกุดก็ต้องให้ความเคารพและตามน้ำไปก่อน


    “เจ้าไปที่ตำหนักของฮุ่ยเหมยทำไมกัน”


    “หม่อมฉันจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะเพคะว่านางไปทำไมกัน ตื่นขึ้นมาอีกทีก็กำลังจะโดนตบหน้าอยู่แล้ว”


    นางกล่าวออกไปตามความจริง ทว่าคนฟังกลับยิ่งพิศวงเข้าไปใหญ่ พลางนึกเอาว่านางคงจะมีบางอย่างผิดปกติที่สมอง


    “เหตุใดจึงพูดเหมือนตัวเจ้าไม่ใช่ตัวเจ้าเช่นนี้ หนิงฮวา...ข้าเตือนเจ้าไปหลายครั้งหลายหนแล้วว่าอย่าไปที่ตำหนักของฮุ่ยเหมยหากไม่อยากถูกทำร้าย แต่เจ้าก็ไม่เคยฟังข้า ทำไมกัน...มีเหตุอันใดให้เจ้าต้องไปที่ตำหนักนั้นอย่างนั้นหรือ”


    สายตาของเจียวลู่เต็มไปด้วยความห่วงหาอาทร หากแต่คำถามของเขาก็ทำให้วิญญาณของโรซี่เอะใจไม่น้อยเช่นกัน ถ้าสิ่งที่เขากล่าวมาคือความจริง แปลความได้ว่าตัวหนิงฮวารู้ดีอยู่แล้วว่าหากไปที่นั่น นางจะต้องถูกฮุ่ยเหมยรังแก ถ้าเช่นนั้นทำไมกันเล่า ทำไมเจ้าตัวถึงยังอยากจะไปในสถานที่ที่เป็นอันตรายเช่นนั้นอีก


    “ที่ท่านพูดมาก็ถูก ทำไมต้องอยากไปที่นั่นกันนะ”


    แม้กระทั่งตอนที่นางกำลังตอบคำถามของเขา นางก็รับรู้ได้ว่าร่างกายนี้ยังคงต้องการกลับไปที่ตำหนักแห่งนั้นอยู่ มีบางอย่างที่นางต้องตามหาให้พบอยู่ที่นั่น!


    “ไหนหมอหลวงบอกว่าเจ้าไม่เป็นอะไร แล้วเหตุใด...”


    เจียวลู่ยังคงไม่เลิกคิดว่าหนิงฮวากำลังป่วยด้วยท่าทีของนางนั้นแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด


    “ข้าไม่เป็นอะไร ท่านปล่อยข้าได้แล้ว อยู่ท่านี้มันอึดอัดนะ”


    นางพยายามเขยิบตัวออกห่างจากเขา ใบหน้าที่เข้าใกล้กันจนลมหายใจของอีกฝ่ายเป่ารดไปมาแบบนี้ได้มันไม่ส่งผลดีต่อการทำงานของหัวใจเลยแม้แต่น้อย เจียวลู่ที่เห็นว่านางหน้าแดงจึงเริ่มประหม่าบ้าง


    “ข้าก็ไม่ได้อยากจะอยู่ใกล้เจ้านักหรอก”


    “ถ้าไม่อยากอยู่ใกล้ก็ปล่อยสิเพคะ พระองค์ดึงหม่อมฉันเข้าไปใกล้จนเหมือนจะเสวยหม่อมฉันเข้าไปอยู่แล้ว”


    หนิงฮวาประชดประชันกลับ เพราะใบหน้าเหมือนหมิงยู่มาก จึงอดคิดไม่ได้ว่าผู้ที่พูดจาเสียดสีแบบนั้นคือตัวเขาเอง พลางทำให้คิดคาดโทษเอาไว้ในใจว่าหากนางกลับไปได้เมื่อไหร่ นางจะเอาคืนเขาอย่างสาสม


    “ถ้าไม่อยากให้ข้ายุ่งกับเจ้านัก ก็เลยเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีการสิ้นคิดเช่นนั้นเสียที”


    “อะ...อะไรนะเพคะ”


    “เจ้าอย่านึกว่าข้ารู้ไม่ทันความคิดเจ้าเล่ห์ของเจ้า รู้ทั้งรู้ว่าฮุ่ยเหมยเกลียดเจ้าแค่ไหน แต่เจ้าก็ยังหาเรื่องไปที่ตำหนักของนางทุกคราที่มีโอกาส เลิกใช้วิธีการเช่นนี้ได้แล้ว ข้าเห็นแล้วทุเรศยิ่งนัก!”


    น้ำเสียงดูถูกจากเจียวลู่ช่างไม่เหมือนคนที่เป็นสามีภรรยากันแม้เพียงเสี้ยว ทำไมสีหน้าและแววตาของเขาถึงได้ดูน่ากลัวราวกับเกลียดสตรีที่อยู่ตรงหน้ามากเหลือเกิน


    “นี่ท่าน...เป็นพระสวามีของนางจริงๆ หรือ”


    “ของนาง?”


    “เอ่อ ข้าหมายถึง...ของข้า ใช่ๆ ของข้า”


    หนิงฮวาอยากจะตบปากตัวเองเสียจริง แต่จะให้เคยชินง่ายๆ ก็คงทำไม่ได้


    “ทำไมหรือ ถามเช่นนี้เพราะคิดอยากจะไปหาชายอื่นที่เจ้าซุกซ่อนเอาไว้แล้วสินะ”


    “โอ๊ย ไปกันใหญ่แล้วเพคะ ซุกบ้าซุกบออะไรกัน”


    นางข่มอารมณ์โกรธเอาไว้อย่างสุดจะกลั้น หนิงฮวาผู้นี้ไปสร้างเรื่องราวอะไรไว้กันนะ ทำไมถึงได้ดูเหมือนจะมีแต่ศัตรูอยู่ทั่วทุกแห่งหนไปหมด


    “พระชายา พระชายาเพคะ ทรงอยู่ข้างในหรือไม่เพคะ”


    น้ำเสียงหวานใสที่ดูร้อนรนตะโกนเรียกอยู่หน้าตำหนัก เจียวลู่ที่ได้ยินจึงปล่อยมือออกจากแขนของหนิงฮวาแล้วเดินไปเปิดประตู ร่างเล็กในอาภรณ์ของนางกำนัลรีบวิ่งเข้ามากอดขาพระชายาเอาไว้


    “พระชายา พระชายาของหม่อมฉันไม่เป็นอะไรใช่ไหมเพคะ ทรงบาดเจ็บตรงไหนไหมเพคะ”


    นางถามทั้งน้ำตาพลางสำรวจร่างกายหนิงฮวาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แม้วิญญาณของโรซี่จะไม่รู้จักสตรีนางนี้ หากแต่ร่างกายของหนิงฮวากลับแสดงปฏิกิริยาอบอุ่นและไว้วางใจยามที่ได้เห็นหน้านาง


    “คนของเจ้ามาแล้ว งั้นข้ากลับล่ะ เสี่ยวหนาน...ดูแลนายของเจ้าให้ดีกว่านี้ อย่าให้ออกไปก่อเรื่องที่ใดได้อีก”


    “พะ...เพคะองค์รัชทายาท หม่อมฉันต้องขอประทานอภัยด้วยเพคะ”


    เสี่ยวหนานก้มหัวจรดพื้น รอจนองค์รัชทายาทเจียวลู่และคนอื่นๆ ออกห่างจากตำหนักไปแล้วจึงรีบลุกขึ้นไปปิดประตูแล้วเดินกลับมาหาหนิงฮวาอีกครั้ง


    “พระชายาของหม่อมฉัน...เจ็บหรือไม่เพคะ”


    “เจ้า...เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหรือ”


    หนิงฮวาถามด้วยสภาพของเสี่ยวหนานในตอนนี้ดูบาดเจ็บกว่านางหลายเท่านัก ซ้ำยังมีรอยเลือดซิบที่แผ่นหลังราวกับผ่านการถูกโบยมาอีกด้วย


    “หม่อมฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกเพคะ พระชายานั่นแหละ ถูกองค์หญิงทารุณเช่นไรบ้างเพคะ”


    “ข้าไม่เป็นอะไร ข้าสบายดี แต่เจ้าช่วยบอกข้าได้หรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดผู้คนที่นี่จึงดูเกลียดหนิงฮวา ไม่สิ ดูเกลียดข้าไปเสียหมด”


    นางถามออกไป หลังจากที่ไตร่ตรองดูแล้วคิดว่าคงจะมีแค่เสียวหนานเท่านั้นที่น่าจะฟังคำพูดของหนิงฮวามากที่สุด


    “พระชายา...ทรงเป็นอะไรไปหรือเพคะ ทรงจำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรือ”


    “เอ่อ....พอดีหัวข้ากระแทกมานิดหน่อยก็เลยจำได้บ้างไม่ได้บ้าง...”


    “ให้หม่อมฉันตามหมอหลวงให้ไหมเพคะ?!”


    เสี่ยวหนานทำท่าจะวิ่งออกไป หนิงฮวารีบดึงนางเอาไว้พลางสั่นศีรษะ


    “ไม่ต้องๆๆ ไม่ต้องตามหมอที่ไหนทั้งสิ้น เจ้าแค่เล่าเรื่องทุกอย่างให้ข้าฟังก็พอ”


    “แต่ว่า...”


    “ถ้าเจ้าเป็นห่วงข้า ก็จงเล่าทุกอย่างที่เจ้ารู้มาเสียเสี่ยวหนาน”


    จนกว่าจะหาทางกลับไปในยุคของตนเองได้ นางจะต้องรู้เรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับตัวหนิงฮวาให้มากที่สุดเพื่อรับมือกับปัญหาทุกอย่าง ไม่แน่ว่าการที่นางได้มาอยู่ในร่างนี้ ยุคนี้ อาจจะด้วยความเป็นจำบางอย่าง หรือเป็นลิขิตจากเบื้องบนที่นางต้องแก้ไขก็เป็นได้!


    “เรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดมันเริ่มมาจาก...เรื่องพระชายาทรงคบชู้เพคะ”


    “อะ...อะไรนะ!!!”


    นางว่าตัวนางในยุคปัจจุบันนั้นเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันแล้วนะ คิดไม่ถึงเลยว่าสตรีหนิมๆ อย่างหนิงฮวาเองจะร้ายถึงขั้นคบชู้เช่นนี้


    ริมฝีปากสวยยกยิ้มมุมปากอย่างสนุกสนาน ได้อะไรไว้เล่นสนุกฆ่าเวลาแล้วสิ...






    พูดคุยท้ายตอนกับอีช้อยเองเจ้าค่ะ


    จบตอนที่ 3 แล้วเจ้าค่ะ ในที่สุดก็จะได้รู้เรื่องราวของหนิงฮวากันแล้ว โชคดีจริงๆ ที่มีเสี่ยวหนาน ว่าแต่ว่า...หนิงฮวานั้นคบชู้จริงหรือ? หรือนี่จะเป็นสาเหตุให้องค์ชายเจียวลู่เย็นชากับนาง? แบบนี้แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองจะไปในรูปแบบไหนกันนะ โรซี่จะสามารถยุติเรื่องราววุ่นวายทั้งหลายได้หรือเปล่า ฝากเอาใจช่วยโรซี่กันด้วยนะเจ้าคะ


    คอมเมนต์ขอกำลังใจให้ช้อยบ้างนะเจ้าคะ กราบรอบทิศ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×