ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนิงฮวา ชายาเจ้าสำราญ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 65


    ตอนที่ 2

    “ไม่ใช่ ไม่ใช่ นี่ก็ไม่ใช่ นั่นก็ไม่ใช่ ตรงนี้ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่!”

    หนิงฮวาหรือแท้จริงแล้วจิตวิญญาณคือโรซี่เอ่ยขึ้นยามที่ได้มองตนเองในกระจกเงาซึ่งสะท้อนร่างจริงที่นางอาศัยอยู่ในตอนนี้ นอกจากความเป็นสตรีที่มีเหมือนกันแล้ว นอกนั้นไม่มีสิ่งใดเลยที่ร่างกายนี้จะมีเหมือนนาง ตา หู จมูก ปาก ก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดนเฉพาะสองเต้าอวบอูมที่ขนาดใหญ่กว่าตอนนางเป็นโรซี่หลายเท่า

    “พ่อแม่ให้กินอะไรตอนเกิดเนี่ย ใหญ่ขนาดนี้ไม่หนักหรืออย่างไร”

    นางพึมพำกับตนเอง

    กว่าจะตั้งสติได้ว่าทั้งหมดคือเรื่องจริงหาใช่ความฝัน นางก็ถูกชายที่คล้ายกับหมิงยู่พามาที่ตำหนักแห่งหนึ่งซึ่งเขาบอกกับนางว่าคือตำหนักของนาง

    “ว่าแต่...นายชื่ออะไรหรือ” หนิงฮวาหันไปถามบุรุษผู้คล้ายหมิงยู่

    คนถูกถามขมวดคิ้วมุ่น นางจริงจังหรือแกล้งหยอกเขาเล่นกันนี่ ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาประชิดตัวของหลินฮวาก่อนจะกระชากนางเต็มแรง

    “โอ๊ย!!”

    “เจ้ากำลังเล่นตลกอะไรหนิงฮวา!” เขาถามเสียงลอดไรฟัน

    ท่าทางเหมือนโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน หนิงฮวาที่ถูกกระชากจนตัวปลิวมองเขาด้วยแววตาวาวโรจน์ ข้อมือของนางมีรอยแดงจากการบีบรัดของอีกฝ่าย

    “ทำบ้าอะไรของนายฮะหมิงยู่!”

    “คำก็หมิงยู่ สองคำก็หมิงยู่ มันคือชายชู้อีกคนของเจ้างั้นหรือ!”

    น้ำเสียงดุดันตวาดกร้าวกลับ หนิงฮวาสั่นศีรษะไปมา ถึงหน้าตาจะเหมือนกัน แต่บุรุษผู้นี้หาใช่หมิงยู่ของนางไม่ หมิงยู่ที่นางรู้จัก ทั้งสุภาพและอ่อนโยน เขาไม่มีวันทำให้นางเจ็บกายหรือขึ้นเสียงใส่นางเช่นนี้แน่

    “ชายชู้บ้าบออะไรกัน! นายนั่นแหละเป็นใคร กล้าดียังไงมาตวาดใส่ฉันปาวๆ แบบนี้ เดี๋ยวแม่ก็เรียกตำรวจมาจับเสียหรอก”

    “เจ้าเป็นอะไรไปหนิงฮวา เหตุใดจึงพูดจาแปลกประหลาดเช่นนี้”

    “นายน่ะสิแปลก ทุกคนที่นี่นั่นแหละที่แปลก! พระเจ้าเอ๊ย เล่นตลกอะไรกับชีวิตของฉันกันเนี่ย พาฉันกลับไปที่เดิมเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้สวรรค์บ้า!”

    หนิงฮวารู้สึกราวกับสมองจะระเบิดออกมา ผู้คนที่นี่สนทนาคนละภาษากับนางจนคุยกับแทบไม่รู้เรื่อง โดยเฉพาะบุรุษตรงหน้าที่เอาแต่โกรธในทุกสิ่งที่นางกระทำ เขาเหมือนเจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันมาหลายภพหลายชาติ เหตุใดต้องทำสีหน้าน่ากลัวและจ้องหน้านางไม่วางตาเช่นนี้ด้วย

    หมับ!

    “ไปกับข้า” เขาจับข้อมือนางไว้แน่น

    “ฉันไม่ไป! นายเป็นใคร ทำไมฉันต้องไปกับนายด้วย”

    หนิงฮวาไม่ยอม ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา มือเล็กเอื้อมไปจับเสาที่หน้าตำหนักเอาไว้และพยายามใช้สองขาเกี่ยวกระหวัดเป็นที่ยึดเหนี่ยว

    “เจ้าเป็นอะไรไปหนิงฮวา ปล่อยเสาเดี๋ยวนี้นะ”

    “ไม่ ฉันไม่ปล่อย ฉันไม่รู้จักนาย ฉันไม่ไปกับนาย” นางยืนยันคำเดิม

    เสียงโวยวายของหนิงฮวาไปทั่วตำหนัก จนบ่าวรับใช้มากมายพากันเดินมาดูว่าเกิดเหตุอันใดขึ้น ภาพที่เห็นคือนายทั้งสองกำลังฉุดดึงกันไปมา

    พระชายากำลังกอดเสาไว้แน่นราวกับว่าเสาต้นนั้นคือสิ่งหวงแหน

    ขณะที่องค์รัขทายาททรงพยายามดึงพระชายาออกมาจากเสาต้นนั้น ดึงไปพลาง ว่ากล่าวไปพลาง ช่างเป็นภาพที่ชวนให้น่าขันเสียจริง

    “เจ้าจะไม่รู้จักข้าได้เช่นไร ข้าคือเจียวลู่ พระสวามีของเจ้านะ”

    แรงที่ใช้กอดเสาในตอนแรกเริ่มเบาลง ใบหน้าสวยหันกลับมามองบุรุษที่กอดเอวนางไว้แน่นด้วยความตกใจ ก่อนริมฝีปากจะเอื้อนเอ่ยคำถามออกมา

    “นะ...นายบอกว่าพวกเราเป็นอะไรกันนะ”

    “ข้าเป็นพระสวามีของเจ้า ส่วนเจ้าก็เป็นพระชายาของข้า นี่เจ้าไม่สบายงั้นหรือ เหตุใดความจำของเจ้าจึงผิดแปลกไปเช่นนี้”

    ใบหน้าที่เคยแสดงเพียงอารมณ์โกรธตลอดเวลา ยามนี้แปรเปลี่ยนเต็มไปด้วยความห่วงใย เขาปล่อยมือออกจากเอวคอดกิ่งของนางมาจับที่ศีรษะเล็กเอาไว้แทน

    “ศีรษะของเจ้ากระแทกมางั้นหรือ”

    “ปะ...เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น นี่นายกำลังจะบอกฉันว่าเจ้าของร่างนี้ ไม่สิ ตัวฉัน เอ่อ...เอาเป็นว่าหนิงฮวาคนนี้มีสามีแล้วงั้นหรือ?”

    “ใช่ ข้าแต่งงานกับเจ้ามาได้สามปีแล้ว ข้าว่าเจ้าต้องได้รับการรักษาจากหมอหลวงโดยด่วน พวกเจ้า ไปตามหมอหลวงมาที่ตำหนักข้าเดี๋ยวนี้”

    “เพคะองค์รัชทายาท” นางกำนัลรับคำแล้วรีบวิ่งไปตามหมอหลวง

    หนิงฮวาเบิกตากว้าง หากเมื่อครู่หูของนางไม่ได้ผิดเพี้ยนไป สตรีนางนั้นเรียกบุรุษตรงหน้าของนางว่า...องค์รัชทายาท!

    “นะ...นายเป็นองค์รัชทายาทงั้นหรือ”

    หนิงฮวาผู้นี้ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง มีสามีเป็นถึงองค์รัชทายาทเสียด้วย โรซี่นึกคิด

    “ข้า...หรงเจียวลู่ องค์ชายสองแห่งแคว้นบูรพา อละเป็นองค์รัชทายาทคนปัจจุบัน พระสวามีสุดรักสุดดวงใจของเจ้า พอจะจำได้บ้างหรือไม่”

    หงึกๆๆๆ

    นางสั่นหน้าพรืด จะให้นางจำได้อย่างไรเล่าในเมื่อนางไม่ใช่หนิงฮวาเจ้าของร่างนี้! นางคือโรซี่จากปี 2022 ต่างหากเล่า ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้ตั้งใจร่ำเรียน นางหลุดมาอยู่ในช่วงยุคไหนของจีนโบราณกัน เจียวลู่หรี่ตามองสตรีตรงหน้าอย่างจับผิด เขากำลังคิดว่านางแกล้งเล่นละครตบหน้าเพื่อเรียกคะแนนความสงสาร

    “ฉัน ไม่สิ ข้า...ข้าขอเวลาอยู่คนเดียวสักครู่ได้หรือไม่”

    โชคดีอีกอย่างของนางคือการที่ตอนอยู่ในยุคของตัวเองนั้นนางติดซีรี่ย์มากเสียจนให้อดหลับอดนอนสามวันสามคืนติดๆ ก็ย่อมได้ โดยเฉพาะซีรี่ย์จีนโบราณ

    “ถ้าข้าตอบว่าไม่ได้ล่ะ”

    “แต่ข้าต้องการอยู่คนเดียว ท่านจะไปไหนก็ไปเถอะ ไม่มีการมีงานทำหรืออย่างไร”

    เจียวลู่ชะงักกับคำพูดของนาง หนิงฮวาที่เขาเคยรู้จักมิได้ปากคอเราะร้ายเช่นนี้ ตรงกันข้าม นางนิ่งเฉยและเยือกเย็นราวกับเหมันต์ฤดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเขา...

    หนิงฮวาแทบจะมองเขาเป็นเพียงละอองธุลีบนแผ่นดินเสียด้วยซ้ำ

    การจูบแก้มที่นางทำเมื่อครู่ก็เป็นครั้งแรกในรอบสองปีหลังจากเกิด ‘เหตุการณ์’ นั้นขึ้น นางไม่เคยร่วมเตียงกับเขาอีกเลย และยังขอแยกตำหนักออกมาทั้งยังไม่คัดค้านเรื่องที่ฮองเฮาส่งสนมหลายต่อหลายคนมาให้เขา ทว่ายามนี้ หนิงฮวาคนนั้น ช่างต่างจากคนตรงหน้าเขาราวกับเป็นคนละคน

    “เจ้าแปลกไป”

    “ทุกคนก็พูดแบบนี้มาตั้งแต่ข้าเกิดล่ะนะ”

    ขนาดหมิงยู่ยังบอกทุกวันว่านางเป็นคนแปลกเกินกว่าใครจะเข้าใจ แต่นาทีการอยู่กับตัวเองก่อนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด นางต้องการเวลาในการเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดและทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    “หมอหลวงมาแล้วเพคะองค์รัชทายาท”

    บุรุษสูงวัยผู้หนึ่งในอาภรณ์สีขาวเดินหน้าตั้งมาพร้อมนางกำนัล เจียวลู่มองหน้านางสลับกับหมอหลวงด้วยนึกถึงคำขอของนางก่อนหน้านี้ที่ต้องการอยู่คนเดียว

    “พลีส...” หนิงฮวายกมือไหว้เขาพลางกะพริบตาปริบๆ

    เจียวลู่ไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขาจ้องมองนางนิ่งอยู่อย่างนั้นก่อนจะพยักหน้ากับตัวเองด้วยทีท่าที่โอนอ่อนลงกว่าทีแรก พลันวงแขนแกร่งก็รวบขานางเอาไว้แล้วอุ้มขึ้นพาดบ่า

    “ตามข้ามาหมอหลวง”

    “กรี๊ดดด! ไอ้องค์ชายบ้าก็บอกแล้วไงว่าขออยู่คนเดียวแป๊บหนึ่ง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไงยะ กรี๊ดด ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะตาบ้า ปล่อยสิ!”

    เจียวลู่ไม่สนใจเสียงกรีดร้องและการดิ้นเร่าๆ บนบ่าของนางแม้แต่น้อย เขาอุ้มนางไปทิ้งลงบนเตียงก่อนจะสั่งบ่าวรับใช้ให้เอาผ้ามาให้

    “เอาผ้ามาให้ข้า”

    “ได้แล้วเพคะองค์รัชทายาท”

    เจียวลู่รับผ้าจากสาวใช้มาแล้วจัดการมัดแขนมัดขาของหนิงฮวาจนนางขยับไปไหนไม่ได้ ร่างเล็กเบิกตากว้างตกใจ ดิ้นหนักกว่าเดิม

    “ทำบ้าอะไรเนี่ย มัดฉันทำไม ปล่อยฉันนะ!”

    “ข้าคิดว่านางอาจจะถูกผีเข้า ท่าทางของนางแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด คำพูดคำจาก็แปลก ท่านหมอหลวงจะรักษาได้หรือไม่”

    เขาหันมาถามหมอหลวงด้วยสีหน้าจริงจัง หนิงฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับโกรธจนควันออกหู

    “เดี๋ยวนะ ผีเข้างั้นหรือ ใครผีเข้ากัน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะองค์รัชทายาท!”

    “ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าจนกว่าเจ้าจะกลับมาเป็นคนเดิมของข้า...”

    องค์รัชทายาทเงียบไปพร้อมด้วยใบหน้าตกใจครู่หนึ่ง ราวกับว่าเขาเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ได้ต้องการจะพูดออกมา หนิงฮวาลอบสังเกตท่าทีของเขาเงียบๆ

    “เชิญรักษานางได้ พวกเจ้าออกไปให้หมด”

    “เพคะองค์รัชทายาท” บ่าวรับใช้รับคำแล้วพากันเดินออกจากตำหนักไป

    “ขอประทานอภัยนะพ่ะย่ะค่ะพระชายา กระหม่อมขออนุญาตทำการรักษาพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะ”

    “รักษา? รักษาบ้าบออะไรกัน บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้นะองค์ชาย!!!”

    พูดคุยท้ายตอนกับอีช้อยเองเจ้าค่ะ

    จบตอนที่ 2 แล้วเจ้าค่ะ รอกันนานไหมเจ้าคะ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะชอบนิยายเรื่องนี้ ชอบในตัวของโรซี่ หมิงยู่ หนิงฮวา เจียวลู่ และตัวละครทุกๆ ตัวในเรื่องนี้ สำหรับตอนนี้ช้อยก็แอบหย่อนปมเอาไว้เล็กน้อยว่าสองปีก่อนเคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกันนะ ทั้งที่แต่งงานกันมาได้สามปีแล้ว แต่ความหวานแหววของคู่แต่งงานกลับหายไปนานถึงสองปีแล้วด้วยกัน แปลว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้น อะไรบางอย่างที่สร้างความร้าวฉานให้กับความรักขององค์ชายและหนิงฮวา! โรซี่จะสามารถสืบจนรู้เรื่องราวทั้งหมดได้ไหมนะ? มาติดตามกันต่อนะเจ้าคะ

    คอมเมนต์ขอกำลังใจให้ช้อยบ้างนะเจ้าคะ กราบรอบทิศ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×