คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อิฮิโยะ มิซึกิ : ทิ้งความทรงจำเก่าๆ สู่โรงเรียนใหม่
ฉันวางกระเป๋าเดินทางที่เอาติดตัวมาด้วยลง แล้วแหงนหน้ามองอาคารสูง 2 ชั้น นี่น่ะหรือ โรงเรียนที่ว่า น่าจะเป็นบ้านผีสิงซะล่ะมากกว่ามั้ง ตึกนั้นเก่ามากซะจนบางส่วของตัวตึกผุพังไปแล้ว และดีไซน์บ้านก็โบราณมาก นี่มันสมัยต้นศตวรรษที่ 19 รึยังไงกันน่ะ ชักไม่อยากจะเข้าซะแล้วสิ โรงเรียนหน้าตาแบบนี้
ข้างในก็เต็มไปด้วยฝุ่น หยากไย่ และอึ๋ย...ใยแมงมุม ในความเงียบไม่มีเสียงอะไรอีกนอกจากเสียงเดินของฉัน บ้านหลังนี้กว้างมาก ห้องๆหนึ่งสามารถเอาห้องพักเก่าของฉันห้าห้องมาเรียงต่อกันได้เลย ไหนจะห้องโถง ห้องอาหาร ห้องรับแขก โอ้ มีกระทั่งห้องบอลรูมแฮะ ฉันเดินไป เดินไป เดินไปเรื่อยๆ ก็ไม่พบใคร หรืออะไรเลยที่ชั้นล่าง จึงขึ้นบันไดสูงครึ่งเมตรไปยังพื้นยกระดับ ฉันหั้วกระเป๋าลากเดินขึ้นบันไดไปพลางคิดว่า บ้านนี้มันจะกว้างอีกซักเท่าไหร่กันนะ
พรืด!!!!!
บันไดนั้นกลายเป็นพื้นทางเดินแคบๆ ลื่นๆ อย่างในหนังสยองขวัญสมัยก่อน ที่ตัวเอกกำลังวิ่งหนีปีศาจขึ้นบันได แล้วก็ลื่นลงมาล้มแผละเหมือนฉันในตอนนี้
ฮึ่ม+++ ฉันทั้งวิ่ง เดิน คลาน เพื่อจะไปให้ถึงพื้นยกระดับ แต่ก็เหลวเป๋วร่วงลงมาทุกครั้งทุกที ให้ได้อย่างนี้เถอะน่า!
ฝุบ
ฉันหายตัวขึ้นไป ก็แหมมันเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วนี่นา บนนี้เป็นคล้ายโถง(อีก)แห่งหนึ่ง มีเสาสี่ต้นทั้งฝั่งซ้ายขวา บนเพดานจรดพื้นเป็นรอยสลักหลากหลายรูปทรงเรขาคณิต ไม่ได้ประณีตงดงาม แต่ก็แฝงความงดงามของธรรมชาติอย่างเป็นระเบียบ พาลให้นึกถึงโบสถ์ และคนคนนั้น
...ฉันตัดสินใจไม่ผิดใช่ไหม...ที่ย้ายออกมาเพื่อพยายามใช้ชีวิตโดยไม่มีเธอ...ก่อนที่จะไม่มีเธออยู่จริงๆ
บรึม---!!!
ผนังฝั่งขวาระเบิดออก
“เธอ เป็นใคร?”
เสียงกระซิบนั้นราวกับเสียงหายใจของงู ใครบางคนเข้ามาประชิดตัวในเสี้ยววินาทีและใช้โลหะเย็นๆสัมผัสทะลุเสื้อแขนกุดมีฮู้ดสีดำตัวโปรด บังอาจจริงมาทำเสื้อชั้นขาดเนี่ย
“...ฉันจะมาเข้าเรียนที่เซเรีย”ฉันตอบ
“เรอะ!? งั้นโชว์ชั้นหน่อยสิ? ว่าเธอทำอะไรได้บ้าง”เสียงนั้นยั่วยุอย่างกวน_น ฉันเลยเพ่งจิตส่งให้หมอนั่นไปยังชั้นหนึ่งและรีบวิ่งหนีออกไปทางรูที่เขาระเบิดเข้ามา
ฉันแสบที่สีข้างนิดๆ ตอนวิ่ง รู้สึกได้ถึงความชุ่มของๆเหลวอุ่นที่ไหลจากผิว ตั้งแต่เมื่อไหร่อะเนี่ย แงๆ ชั้นเลือดออก
ข้างหน้าคือพื้นหญ้าแห้งๆ ขึ้นเป็นหย่อมตามดิน เลยจากผืนดินไปเป็นหน้าผา สะพานทำจากเชือกและไม้ผุๆ ทอดไปยังผืนดินที่ดูชุ่มชื้นกว่า และร่วนซุย และนั่น...โรงเรียนเซเรีย!!!
เสียงเหมือนตัวประหลาดอะไรซักอย่างดังจากบ้านร้าง ฉันจะทำไงดี แขวนชีวิตไว้กับสะพานเก๊าเก่านี้ หรือจะใช้ความสามารถพิเศษ แต่ฟังจากเสียงอันน่ากลัวซึ่งอยู่ไม่ไกลแล้ว ทางเลือกข้อที่สองน่าจะดีกว่า เห็นด้วยใช่มั้ยคะ ใช่มั้ยคะ
เพียงพริบตา ฉันก็ไปถึงอีกฝั่ง ฉันวิ่งไม่คิดชีวิตไปยังประตูโรงเรียน
ในโรงเรียนเงียบราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ที่นั่น อ๊ะ! ตายล่ะ ลืมกระเป๋าไว้ในห้องโถงที่บ้านขนหัวลุกหลังนั้น ทำไงดีๆ
บรื้นๆแหม่นน~~~~ เอี๊ยด!!!!”
ระหว่างที่มัวนึกถึงกระเป๋า ก็มีคนซิ่งมอเตอร์ไซค์มาหยุดตรงหน้าฉัน มอไซค์ก็เล็ก คนก็ตัวเล็ก คนขี่เป็นเด็กอายุแค่ 9 ปีกว่า จากการประมาณการณ์ของฉัน โห เฟี้ยวเชียวนะน้อง
“ยินดีต้อนรับนักเรียนใหม่นิ ฉันเป็น ผอ. ชื่อแดเนี่ย ไรท์”
ผ...ผ ผ ผ ผอ.!!!!(งั้นรึ)
“อ้าว บัลลาด มาพอดี พาเด็กใหม่ไปห้องหน่อยจิ”
ฉันหันตามสายตาที่มองตรงผ่านไหล่บอบบางน่าทะนุถนอม(คนเขียน:ทุ้ยยย)ของฉันไป คนที่ชื่อบัลลาดเดินเข้ามาก่อนจะปิดประตู ผมของเขาเป็นสีดำตัดสั้นไม่ถึงกับเกรียน เขาแต่งกายในชุดหนังเทียมสีดำทั้งชุด เสื้อเป็นคอปกตั้งเหมือนเครื่องแบบนักเรียนญี่ปุ่น แขนเสื้อกุด กางเกงนั่นก็สุดเท่แล้วแถมยังใส่เข็มขัดเท๊เท่อีก ชั้นประชดนะคะคุณผู้อ่าน ถึงหมอนี่จะดูดีจริงก็เถอะ ตาเป็นสีน้ำตาลแดงคล้ำเหมือนเลือดแห้ง ที่สำคัญ...ในมือถือมีด!!! หร..หรือว่าหมอนี่คือคนเมื่อกี้
“ได้ครับท่านผอ. มาเร็วนักเรียนใหม่” เขาตีหน้ายิ้มเป็นมิตรให้ท่านผ.อ.จิ๋วก่อนจะชักหน้าอำมหิตใส่ฉัน“เลือดเธอนี่อร่อยดีนะ”ประโยคหลังเขากระซิบกับฉัน
โอ้โห สุดยอดเลย ห้องพักของนักเรียนหรูอย่างกับห้องพักในโรงแรมที่ถึงแม้จะไม่ถึงห้าดาวแต่ก็มีสไตล์ มีตู้เสื้อผ้า เตียง ห้องน้ำ โต๊ะเครื่องแป้ง ของทุกอย่างดูดีมีราคา ท่าทางจะทนไม้ทนมือเสียด้วย
“ไปล่ะ ชั้นอยู่ห้องข้างๆ มีอะไรก็ไปถามได้”แล้วบัลลาดก็จากไปตามที่กล่าว
ฉันกระโดดขึ้นนอนแผ่หลาบนเตียง ก่อนจะสังเกตเห็นว่ามีหน้าต่าง ฉันเปิดหน้าต่าง และเกือบหดหัวกลับเข้ามาในกระดองไม่ทัน เพราะดันมีคนเล่นพิเรนทร์โยนลูกไฟขึ้นมา แล้วจึงโผล่ออกไปอีกรอบเพื่อโวย
“เฮ้! ระวังหน่อยเซ่ หัวฉันเกือบไหม้แล้วนะ!”
ข้างนอกเป็นสนามหญ้าเขียวชอุ่ม มีเหล่านักเรียนในชุดไปรเวศมากมายอยู่ในสนาม บ้างก็วิ่งไล่จับ บ้างก็เล่นปาจรวดกระดาษ และบ้าง ก็โยนลูกไฟ O O||| คนที่โยนไฟขึ้นมาก็คือวัยรุ่นชายผมสีน้ำเงินคนนึง เขากำลังนั่งคุยกับอีกคนที่ผมสีแดงเหมือนเปลวเพลิง ซึ่งกำลังเล่นน้ำแข็ง ตัดกันจริงคู่นี้ แล้วฉันก็หัวหดเข้าไปอยู่ในกระดอง (ห้อง) ตามเดิม
“ขอโทษคร้าบ~~~” เสียงของคนที่โยนไฟดังตามมา “เอ๊ะ! ห้องนั้นไม่มีคนอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”
เขาหันไปพูดกับเพื่อนผมสีเพลิงของเขา “นั่นดิ” เพื่อนเขาตอบ แล้วทั้งสองก็หันกลับไปคุยกันต่อ
“อา... ร้อนจัง เหนียวตัวด้วย” ฉันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แต่ไม่มีเสื้อผ้าอยู่เลย!
ก๊อกๆๆๆๆๆ
“อ๊ะ รอก่อนนะ คร้าบๆ มาแล้วคร้าบ”
“นี่บัลลาด ในตู้เสื้อผ้าไม่มีชุดเลยอะ แล้วในห้องน้ำก็ไม่มีสบู่ด้วย”
ฉันมาถามเขาตามที่เขาบอกไว้
“อื่ม คือว่านะ ถ้าเธออยากได้อะไร เธอก็จินตนาการภาพสิ่งของนั้นอยู่ในห้องเธอหรืออยู่ในมือเธอเอาสิ”
“ได้จริงอะ!?” ฉันถามแบบไม่เชื่อ อะไรจะง่ายขนาดนั้น
“อย่างเช่นนี่ไง” บัลลาดชูมือขึ้นแล้วเพ่งมองในมือ มีขวดแก้วปรากฏขึ้นในมือเขา น้ำในขวดนั้นเป็นสีชมพูใส มีที่กดด้วย คงจะเป็นสบู่
“ว้าว! ขอบใจที่แนะนำนะ” ฉันรีบวิ่งกลับห้องไป
“ยัยบื้อเอ๊ย กำลัง...อยู่แท้ๆ”
แกร๊ก
“มาต่อกันเถอะ” นั่นเป็นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน แม้แต่มิซึกิของเรา (แต่ผู้อ่านกับผู้เขียนได้ยินอ่าได้งัยอ่า)
“อื๋อ นั่นเด็กผู้หญิงนี่”ใครบางคนพูด “ดูน่ารักด้วย”
“รู้สึกจะเป็นเด็กใหม่นะ ชื่อ มิซึกิ หรือไงนี่แหละ”ใครอีกคนพูด
ฉันกำลังจะเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำสีขาวสุดหรูที่จินตนาการมันขึ้นมาแทนอ่างอันเก่า แต่ปรากฏว่ามีอะไรบางอย่างที่เป็นเหมือนผมสีเขียวของคนตัวจิ๋วคนหนึ่ง ดีนะที่ฉันยังไม่ได้ลงมือถอดเสื้อผ้า เพราะเมื่อจับคนตัวจิ๋วขึ้นมา มันเป็นคนตัวจิ๋วผู้ชายที่หน้าตาดีคนนึง มันดิ้นไปดิ้นมาเมื่อฉันจับ
“ปล่อยชั้นน้า~~~” มันโวยวาย
“คุณนั่นแหละ แอบมุดเข้าไปอยู่ในอ่างอาบน้ำของหญิงสาวได้ยังไงกันหา?"ขณะที่กำลังว่าคนแปลกหน้าตัวจิ๋วอยู่นั้น กำแพงห้องน้ำก็...
บรึม!!!
โรงเรียนนี้มันชอบระเบิดกันซะจริงนะ! เมื่อฝุ่นจางลง ก็ปรากฏร่างของวัยรุ่นชายผมสีฟ้าตาสีฟ้าท่าทางจะเป็นรุ่นพี่ขึ้น
“ออร์ก!นายหลบชั้นไม่พ้นแล้ว”รุ่นพี่คนนั้นยิ้มร่า ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเพิ่งระเบิดห้องพักคนอื่นไป
มนุษย์ตัวจิ๋วขยายร่างขึ้นเป็นรุ่นพี่อีกคน “ชิ! ทิลเล็ด คราวหน้านายจะหาฉันไม่เจอแน่”
“อ่า ฮ่า ฮ่า คราวที่แล้วนายก็พูดแบบนี้ คราวหน้ายังไงชั้นก็หาแกเจออยู่ดีนั่นแหละ”พี่ทิลเล็ดหัวเราะ ฮึ่ม!
“พวกพี่ทำงี้ได้ไง แอบเข้าห้องคนอื่น แล้วก็มาระเบิดห้องเค้าตูมตามซะอย่างงั้นน่ะ!” ฉันแว้ดขึ้น
“ขอโทษจริงๆ น้อง พี่ไม่รู้ว่าห้องนี้มีคนอยู่”ทิลเล็ดหัวเราะแหะๆ
“งั้นตอนนี้รู้แล้วก็ออกกันไปซะทีเซ่ จะยกโทษให้ก็ได้นะ แต่พี่ต้องยกโทษให้เราด้วย” ฉันเตะชู๊ตรุ่นพี่สองคนออกไปจากห้อง แล้วจินตนาการกำแพงขึ้นมาใหม่ ดีนะเนี่ยที่สร้างใหม่ได้ด้วยความคิด ไม่งั้นฉันจะไปอาบน้ำที่ไหนล่ะ ฝาห้องน้ำเปิดโล่งแจ้งให้คนที่เดินผ่านมาแถวนั้นมองเห็นได้ขนาดนั้น
จบตอน
ความคิดเห็น