คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : พ่อมดและนินจา
“เอาล่ะ ใครมีอะไรจะถามบ้าง”
แองเจลีน่า โรมานอฟ เดอะวิชช์ออฟวิชช์ ถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ หลังจากบรรยายจบ
หลายคนยังคงก้มหน้า มองกระดาษในมือ ราวกับกำลังทำความเข้าใจกับเรื่องที่ประชุม
งานคราวนี้มันหนักหนาจริงๆ มันไม่ใช่แค่การจัดการแข่งขันหมากกระดานกันเองภายในเอดินเบริ์ก แต่นี่มันเป็นการประชันความสามารถระหว่างโรงเรียนใหญ่ระดับโลก โดยมีชื่อเสียงเอดินเบริ์กเป็นเดิมพัน
การประลองเวทไตรภาคี
การประลองที่ห้าร้อยปีจะมีเพียงครั้งเดียว และครั้งนี้มาจัดกันที่นี่ ที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบริ์กแห่งนี้
งานช้าง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหน
ความคิดที่ทำให้รอยยิ้มเหยีดบางบนริมฝีปากหัวขโมยจอมยุ่ง นิ้วเรียวขยี้มุมกระดาษในมือเล่น ขณะนัยน์ตาสีน้ำตาลเพ่งมองเนื้อความในนั้น
ย่อหน้าแรกกล่าวถึงประวัติการประลองเวทที่ว่า ซึ่งก็พูดถึงจุดประสงค์กับความเป็นมาดึกดำบรรพ์สมัยพระเจ้าเหายาวเหยียดไม่มีอะไร จะมาสะดุดเข้าก็กับประโยคหนึ่ง
‘...โดยมีการอัญเชิญ ถ้วยอัคนี มาประดิษฐานในระหว่างการแข่งทุกครั้ง...’
ถ้วยอัคนี?
ฟังดูแล้วงงๆ แต่ท่าทางจะมีความสำคัญไม่น้อย ดูจากการแบ่งงาน พวกที่ได้ไปคุ้มครองเจ้าถ้วยนี่ จะมีแต่พวกตัวหลักๆของป้อมอัศวิน คนมีฝีมือทั้งนั้น
นัยน์ตาสีน้ำตาลพราวระริกอย่างนึกสนุก ก่อนกวาดตาอ่านหัวข้อต่อๆมา ซึ่งก็เป็นกำหนดการ วัน เวลา แล้วก็การแบ่งงานในป้อมอัศวิน ซึ่งหัวหน้าคนสวยก็ได้พูดไปแล้ว จากนั้นก็เป็นประโยคล่างสุดปิดท้าย
สำหรับรายละเอียด กติกาการแข่งขัน พิธีต่างๆจะประกาศ ณ ที่นั้น (เพื่อความศักดิ์สิทธิ์)
อะไรกัน เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ กะไม่บอกอะไรเลยเหรอ?
คิ้วเรียวสีน้ำตาลขมวดเข้าหากัน
จะลึกลับกันไปไหน อย่างน้อยก็น่าจะบอกอะไรอีกหน่อย อย่างโรงเรียนที่จะมาแข่งด้วยอะไรเงี๊ยะ
แล้วโดยไม่ท1นคาดคิด มือของคนข้างๆก็ยกพรวดขึ้น ตามด้วยคำถามเดียวกัน
“ถามหน่อยสิ โรงเรียนอีกสองที่น่ะ มันเป็นยังไง”
คำถามทำลายความเงียบของนักฆ่าแห่งซาเรส ตรงกับความสงสัยในใจใครอีกหลายคน
“อ้อ!” หัวหน้าแม่มดแห่งวิชช์คนสวย อุทานอย่างนึกอะไรออก “ขอโทษที อันนั้นลืมพิมพ์” ว่าจบก็โบกคฑา รายชื่อโรงเรียนที่เข้าร่วมการประลองก็ปรากฏบนที่ว่างต่อจากบรรทัดสุดท้ายในกระดาษของทุกคน
1. โรงเรียนพระราชาเอดินเบริ์ก
2. โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนต์ศาสตร์ ฮอกวอตส์ (
3. โรงเรียนคาถานินจาแห่งโคโนฮะ
อะไรกันเนี่ย ฮอกวอตส์เหรอ คาถานินจาเหรอ โรงเรียนอะไรชื่อแปลกอย่างนี้ ไม่เห็นเคยได้ยินเลยสักนิด ดูท่าว่าจะมาจากแดนไกลจริงๆ
ความสงสัยดูเหมือนจะผุดขึ้นทั่วไปภายในห้อง เสียงแซ่ดจึงดังระงมอย่างต้องการหาคำตอบ เฟรินและคิลเบือนหน้ามาสบนัยน์ตาสีเขียวโดยสัญชาตญาณ แล้วก็พบกับรอยยิ้มของเจ้ของนัยน์ตานั้นรออยู่แล้วราวกับรู้ตัว คนมองที่พูดมากกว่าถึงได้เปรยขึ้นก่อน
“ทำหน้าแบบนี้ รู้ดี่ะสิ”
คนรู้ีปริยิ้มกว้างขึ้น พลางหัวเราะในลำคอ
“อยากฟังรึเปล่าล่ะ”
“อยากเล่าขนาดนั้น ก็เล่ามาเถอะ จะฟังให้ก็ได้” เจ้าคนปากมากที่อยากรู้ใจจะขาด ไม่วายประชดใส่ โดยดูเหมือนจะลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองเป็นคนหันมาถามเขาก่อน
“แล้วก็ไม่ต้องพิรี้พิไรด้วยนะ ตรงนี้ไม่มีน้ำชาให้จิบ”
คำเตือนตอนท้ายเรียกเสียงหัวเราะต่ำๆจากคนถูกเตือน ก่อนกระแอมแทน แล้วเริ่มเรื่องเลยโดยไม่ต้องให้พูดซ้ำสอง
“โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนต์ศาสตร์ ฮอกวอตส์ หรือเรียกสั้นๆว่า ฮอกวอตส์ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเรียนเกี่ยวกับเวทมนต์ คาถาพวกนี้ แต่ก็มีสอนศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้องกับพวกพ่อมดแม่มดเหมือนกัน อย่าง การปรุงยา พยากรณ์ศาสตร์ หรือแม้กระทั้ง การขี่ไม้กวาด โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ในดินแดนตะวันตกที่เลยเดมอสไปอีก”
“เลยเดมอสไปอีกเหรอ สุดเขตเดมอสยังมีที่แบบนั้นอีกเหรอ” คำถามทวนอ่างประหลาดใจจากคิลผู้เงียบมาตลอด “แล้วไอ้เจ้า นินจาโคโนฮะนี่ล่ะ”
“โคโนฮะ นี่เป็นชื่อหมู่บ้าน โรงเรียนนี้อยู่ในหมู่บ้านนั้น ซึ่งถือเป็นรัฐอิสระปกครองตัวเอง เช่นเดียวกับหมู่บ้านอื่นๆในดินแดนนั้น แล้วดินแดนนั้นก็เป็นหมู่เกาะอยู่ทางทิศตะวันออกเลยสกอร์ปิโอหรือแกรนด์ไลน์ไปอีก เรียกว่าเป็น ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัยเลยก็ว่าได้เพราะเห็นดวงอาทิตย์ก่อนที่ไหนๆ”
โอ้..โห โรงเรียนพ่อมดจากตะวันตกสุดๆ กับ โรงเรียนนินจาจากตะวันออกสุดๆ
ความคิดที่ทำให้รอยยิ้มฉายอย่างนึกสนุกบนใบหน้าทั้งเจ้าหญิงนักขโมย กับ เพื่อนนักฆ่า
แล้วก็มาเจอกันที่โรงเรียนพระราชาตรงกลางพอดี งานนี้สนุกแน่!
“แต่ได้ยินมาว่าหมู่บ้านโคโนฮะนี่จะมีปัญหาอยู่ตอนนี้” โรเอ่ยขึ้นเรียกสติที่เริ่มลอยไปกับเรื่องสนุกของเพื่อนซี้สองคนให้กลับมาฟังอีกครั้ง
“ปัญหาอะไร”
“การเมือง ตอนนี้บ้านเมืองเค้ากำลังระส่ำระส่ายมาก ฉันไม่แน่ใจว่าโรงเรียนนี้จะยังส่งคนมาร่วมแข่งขันด้วยรึเปล่า”
“ไม่แข่งได้ด้วยเหรอ” คิลถาม
คำถามที่เรียกรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากอีกครั้งก่อนเอ่ยตอบ ราวกับการยิ้มนั้นเป็นสิ่งแทนการจิบน้ำชาก่อนพูด
“จำได้มั้ย ห้าร้อยปีก่อน เราก็เกิดสงครามเหมือนกัน”
สงครามเอเดน เดมอส
สงครามทึ่ให้เอเดนต้องหลั่งเลือด
“ตอนนั้นเอดินเบริ์ก ก็ไม่ได้เข้าร่วมด้วย”
มิน่าเล่า ถึงไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรแบบนี้เลย นี่ก็เท่ากับว่า เอดินเบริ์กห่างหายจากการแข่งประลองเป็นเวลาถึงหนึ่งพันปีเชียวหรือนี่ แถมคราวนี้เราเป็นเจ้าภาพด้วย
นัยน์ตาสีน้ำตาลแฝงแววตื่นเต้น เบือนไปสบนัยน์ตาสีม่วงของคนข้างตัวในทันที
“คิล เรามาร่วมลงแข่งด้วยกันเถอะ”
คำชวนกะทันหัน ให้นัยน์ตาสีม่วงเบิกโตด้วยความตกใจ ก่อนฉายประกายระยิบระยับเช่นเดียวกับคนชวน รอยยิ้มเหยียดขยับ แล้วพยักหน้า
“เอาสิ มาสร้างชื่อให้เอดินเบริ์กกัน”
แองเจลีน่า กวาดตามองทั่วท้องที่บัดส่งเสียงคุยกันอย่างตั้งอกตั้งใจ เธอหันมาทางเจ้าชายคนเดียวในหมู่หัวหน้าชั้นปี
“ไม่มีอะไรแล้วนะ ปล่อยเลยมั้ย”
เจ้าชายคนสำคัญเพียงพยักหน้าเนิบๆ คนถามจึงหันกลับมาแล้วประกาศบอกเพื่อนๆ
“เอาล่ะ ไม่มีใครสงสัยอะไรแล้ว ใช่มั้ย หน้าที่แต่ละคนเราก็แบ่งกันเรียบร้อยแล้วนะ มีอะไรมาหาพวกเราทีหลังก็ได้ เลิกประชุม”
เสียงเฮดังขึ้นอย่างเงียบๆ ก่อนหลายคนจะเริ่มเก็บของพร้อมเดินออกจากห้อง แต่ยังมีสามร่างที่กำลังตรงมาทางหน้าห้อง ที่ๆเหล่าหัวหน้ายืนอยู่
หนึ่งหัวขโมย หนึ่งขอทาน และหนึ่งนักฆ่า
หนุ่มนักฆ่าผมสีเข้มก้าวมาทางเจ้าชายน้ำแข็ง โยนห่อกระดาษสีขาวเล็กๆห่อหนึ่งให้ เจ้าชายยกมือคว้าหมับ ก่อนคลี่ออกดู
“แซนวิทช์ ?”
“กินสิ หน้าซีดเชียว ยังไม่กินข้าวไม่ใช่รึ”
คิ้วสีจางหนาได้รูปขมวดน้อยๆ นัยน์ตาคู่สวยตวัดไปมองสาวน้อยจอมซ่าที่กำลังโม้แหลกกับสามสาวพร้อมนายขอทานอยู่ข้างๆ แล้วกลับมาจ้องนักฆ่าผู้ให้ข้าวเช้าในมืออีกครั้ง ให้คนถูกมองเริ่มเข้าใจรางๆ จึงหัวเราะออกมาเบาๆ
“แกไม่ต้องห่วง หนมปังนี่ฉันซื้อเอง ไม่มียาพิษจากหมอนั่นหรอก”
นัยน์ตาสีฟ้าคราวนี้ฉายแววราวจะบอกว่า ไม่ใช่อย่างที่นายนักฆ่าพูด หากแต่หลุบลงก่อนพึมพำคำขอบคุณเบาๆ แล้วเริ่มจัดการข้าวเช้าตรงหน้าแทน
“แหมเพื่อนกันแท้ๆ น่าจะลดๆงานให้หน่อย”
สาวน้อนหัวขโมยเริ่มออกนิสัยเก่า ทั้งที่ร่างตอนนี้อยู่ในสภาพเจ้าหญิงร่างบางอ้อนแอ้น คนถูกต่อรองถึงได้ทำหน้าเอือมระอา ก่อนจะเงื้อคฑาประจำกายเตรียมเหวี่ยงใส่คนจอมขี้เกียจ ให้มันต้องรีบหอบสังขารที่ยังไม่ปกติของมันหนีพ้นรัศมีคฑาฟาดกบาล
“น้อยๆหน่อย อย่างนายน่ะ ต้องให้ทำเยอะที่สุด จะได้หายจากโรคขี้เกียจซะที”
คำว่าจากหัวหน้าคนสวยให้จอมขี้เกียจตีหน้าเจี๋ยมเจี้ยม ก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก แล้วหันไปหาเจ้าหญิงแห่งคาโนวาลผู้ยืนยิ้มอย่างสงบเสงี่ยมใกล้ๆ
“จริงด้วยอีก เรนอน เรามีอะไรจะบอกเธอนี่นา”
“อะไร หรอ” เจ้าหญิงผู้งามที่สุดในกลุ่มสามสาวแห่งป้อมอัศวินเอ่ยถามด้วยสายตาใสซื่อ
“หลับตาก่อนสิจ๊ะ” คนมีอะไรจะบอกอมยิ้มเมื่อเจ้าหญิงคนสวยทำตามอย่างว่าง่าย มือเรียวจึงยกขึ้นประคองดวงหน้าหญิงสาวตรงหน้า แล้วโดยไม่มีใครคาดคิด
เจ้าหญิงแห่งบารามอสจุมพิตประทับริมฝีปากของเจ้าหญิงแห่งคาโนวาล!!
ภาพที่ทำให้ทุกคนในที่นั้นตะลึงค้าง นัยน์ตาทุกคู่เบิกโพลงด้วยความประหลาดอย่างที่สุด โดยเฉพาะนักฆ่าแห่งซาเรสซึ่งออกอาการมากกว่าเพื่อน กับเจ้าชายแห่งคาโนวาล ที่ถึงกับไอสำลักแซนวิทช์ในมือ
เฟรินถอนใบหน้าออกมาจากเจ้าหญิงเรนอนผู้ซึ่งนิ่งค้างไม่ต่างจากคนอื่น เจ้าคนเริ่มเรื่องฉีกยิ้มกว้าง ก่อนเอ่ยคำเอ่ยที่ทำให้ใบหน้านักฆ่าแห่งซาเรสที่ขึ้นสีฌ่ำอยู่แล้ว ยิ่งแดงจนแทบระเบิด
“จูบนี้ คิลมันฝากมาให้” ว่าเสร็จก็เดินหน้าระรื่นออกจากไปด้วยท่าทางที่กลับมาสบายดีทุกประการอีกครั้ง ปล่อยให้คนถูกอ้างชื่อยืนเหงื่อแตกซิกทำอะไรไม่ถูก กับเจ้าชายแห่งคาโนวาลซึ่งสำลักหนักกว่าเดิมอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดง่ายๆ
ความคิดเห็น