ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอสกับถ้วยอัคนี

    ลำดับตอนที่ #2 : การประลองเวทไตรภาคี

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 49


    นี่คิล รู้สึกช่วงนี้นายจะพิถีพิถันกับการแต่งตัวซะเหลือเกิน

                    รอยยิ้มกรุ้มกริ่มปรากฏบนใบหน้าคนทัก   ทำเอาคนพิถีพิถันกับการแต่งตัวรู้สึกตะหงิดๆขึ้นมา

                    เอ... ใครน้า  มาทำให้นักฆ่าสุดหล่อจากซาเรสคนนี้เปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้

                    รอยยิ้มเริ่มกว้างขึ้นจนกลายเป็นเจ้าเล่฀์  ให้นักฆ่าสุดหล่อเริ่มลอกแลก  เหงื่อแตกซิก  ใจก็อยากรู้ว่ามันจะพูดถึงอะไร  แต่สังหรณ์มันบอกว่าเขาควรจะหาอะไรยัดปากเพื่อนตัวดีก่อนที่มันจะพ่นอะไรไม่เข้าหูออกมา  แล้วมันก็ยังพูดต่อ

                    ดูสิ  ขนาดผมก็หวี耋ะเรี่ยมเร้  แล้วนี่อะไร (ฟุด..ฟิด)  ใส่น้ำหอมด้วยหรือนี่  อย่างนี้ไม่ธรรมดาแน่  สงสัยจะเป็นเพราะเจ้าหญิงเรนอนคนสวย

                    นั่นไง  โดนเข้าจนได้  โดยเฉพาะประโยคหลังเน้นย้ำตรงชื่อใครบางคนที่ทำให้ใบหน้านักฆ่าแห่งซาเรสขึ้นสีก่ำ  ก่อนจะรีบกลบเกลื่อนอย่างลุกลี้ลุกลน  ให้คนแซวต้องมองดูอย่างอมยิ้ม

                    ปะ.. เปล่าซะหน่อย   ไม่ใช่นะ  ฉันก็แค่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรหน่อย  อุตส่าห์ขึ้นมาปีสามแล้ว  ก็ต้องทำอะไรให้มันดีขึ้นหน่อยสิ

                    คำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น  ชวนให้คนเأิ่มเรื่องกลั้นหัวเราะไม่อยู่

                    อะฮ้า  หน้าแดงใหญ่เลยนะแก  ฮี่..ฮี่  ทีนี้แค้นก็ชำระซะที

                    เรนอนทำไมเหรอ

                    เสียงเนิบๆดังขึ้นด้านหลัง  ให้หัวขโมยที่กำลังสะใจกับนักฆ่าที่กำลังเขินสะดุ้ง

                    เย้ย !!  โร โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง  จะทำฉันช็อกตาย

                    อรุณสวัสดิ์  เมื่อกี๊ได้ยินพวกนายคุ"อะไรกันถึงเจ้าหญิงเร...  คำถามหยุดเพียงแค่นั้นเมื่อนักฆ่าผู้ไม่เหลือมาดนักฆ่ารีบปฏิเสธรัว

                    เอ๊ย  เปล่าๆไม่มีอะไร   หิวไม่ใช่เหรอมากินข้าวกันดีกว่า  นะ นะ

                    คำชวนที่เปลี่ยนเรื่องอย่างไม่เนียน  ทำให้อีกสองคนที่เหลือสบนัยน์ตา กันอย่างรู้ทัน  ก่อนเฟรินจะเอ่ยปากชวนผู้มาใหม่บ้าง

                    นายก็มากินด้วยกันสิ  โร

                    ฉันกินเสร็จตั้งนานแล้วล่ะ  ใครๆเค้ากินกันหมดแล้ว  เหลือแต่นายสองคนนี่ล่ะ

                    ไม่  ยังมีคาโลอีก  แต่มันโดนมาทิลด้าลากตัวไปแล้ว

                    ก็แน่ล่ะ  นี่จะใกล้เวลาประชุมแล้วนี่  พวกนายก็เร็วๆด้วย  เค้าจะเข้าประชุมกันครบหมดแล้ว  ขอกินนี่หน่อยนะ

                    โรว่าพลางหยิบขนมปังก้อนหนึ่งจากจานของเฟริน  จนเจ้าของถลึงตาใส่

                    บ๊ะ  นายนี่  ขอกันซึ่งๆหน้า  แบบนี้เลย  สมเป็นขอทานจริงๆ  ว่าแต่ที่เค้าเรียกประชุมเนี่ยมันเรื่องอะไร  ใช่เรื่องเดียวกับที่เลโมธีเรียกประชุมพวกหัวหน้ารึเปล่า

                    เฟรินเปลี่ยนเรื่องถามคำถามที่ค้างคาใจมาตั้งแต่เมื่อวาน  ก็เจ้าชายน้ำแข็งมันคุยกับเธอที่ไหนล่ะ  จึงหวังให้ขอทานผู้รอบรู้ตรงหน้าช่วยขจัดความสงสัย  และมันก็ไม่ทำให้ผิดหวัง   เมื่อคำตอบออกมาหลังจากเจ้าตัวยกน้ำชาของเฟรินขึ้นจิบอย่างเช่นที่ทำก่อนการเฉลยคำตอบทุกครั้งให้คนฟังต้องประสาทเสียกับการรอ

                    ถูก

                    ตอบแค่นั้นก็ยกน้ำชาขึ้นจิบอีกให้คนเจ้าของถ้วยต้องอารมณ์ขาด

                    อ้าว เฮ้ย ! หลอกกินน้ำชาคนอื่นแล้วยังจะท่ามากอีก  เดี๋ยวปั้ด!”

                    แล้วรายการหัวขโมยต่อยขอทานก็จะเมขึ้นถ้าไม่ใช่เพราะถูกห้ามโดยนักฆ่าผู้ร่วมโต๊ะ  ด้วยเหตุผลของสวัสดิภาพคนให้ข้อมูล  เท่านั้นขโมยเลือดร้อนถึงได้ยอมหยุดแล้วค่อยหย่อนก้นที่ยังทวีความช้ำลงบนเก้าอี้  คนเกือบถูกต่อยถึงได้มีโอกาสเข้าเรื่อง

                    นายเคยได้ยินเรื่องการประลองเวทไตรภาคีมั๊ย

                    คำเกริ่นถึงเรื่องไม่คุ้นหู  เรียกความสงสัยปรากฏบนใบหน้าของเพื่อนทั้งสอง

                    ทุกๆ ห้าร้อยปีจะมีการจัดการแข่งขันประลองความสามารถทางเวทมนตร์ระหว่างสามโรงเรียนใหญ่ๆ  ซึ่งก็เป็นชื่อของการแข่งขันนั่นแหล่ะ

                    สามโรงเรียน?  ไม่เห็นเคยรู้เลยว่าในเอเดนมีโรงเรียนที่ใหญ่เท่ากับเอดินเบริ์กนี่อีก

                    คำถามแทรกขึ้นจากหัวขโมยที่ให้ความสนใจกับเรื่องจนไม่เอาความกับการจิบน้ำชาอีกครั้งของขอทานแห่งทริสทอร์  ซึ่งวางแก้วลงแล้วกล่าวต่อ

                    ไม่แปลกที่ไม่รู้เพราะมันไม่ได้อยู่ในเอเดน  โรงเรียนที่เหลือมาจากดินแดนไกลโพ้นเลยน่ะสิ  การแข่งครั้งนี้ถึงได้ชื่อว่าเป็นการประชันระหว่างดินแดนใหญ่ในแต่ละซีกโลกเลยก็ว่าได้   ฟังดูยิ่งใหญ่ดีมั๊ยล่ะ  ไว้พวกนายไปฟังรายละเอียดตอนประชุมดีกว่า

                    โร เซวาเรส ตัดบทแค่นั้น  แต่ก็พอจะทำให้ความอยากรู้ของเพื่อนอีกสองค่อยสงบลงบ้าง   จนคนที่อยากรู้มากกว่าใครต้องเอ่ยชม

                    แหม  นายนี่รู้ไปซะทุกเรื่อง  ถามจริงมีอะไรที่นายไม่รู้บ้าง

                    อืม....มี  หัวใจนายไง

                    ฮิ้ว..ว..  คำรับลูกคู่ดังจากเพื่อนนักฆ่าข้างๆ  ให้เฟรินต้องแยกเขี้ยวใส่  ก่อนไปเอาเรื่องกับคนแซวที่นั่งทำหน้าตาย

                    ไอ้บ้า  พอเลย  เดี๋ยวก็ได้ฟ้าผ่าตายหรอก  ดูสิ ขนลุกหมดแล้ว    แหม..เดี๋ยวนี้หัดเล่นมุกนะ

                    นัยน์ตาสีเขียวของคนเล่นมุกฉายวาวระยับ  ก่อนเอ่ยด้วยเสียงเนิบๆ

                    พูดแค่นี้ทำเป็นโมโห  สงสัยคงต้องเป็นเจ้าชายแห่งคาโนวาลเท่านั้นล่ะมั้ง  ถึงจะพูดประโยคนี้ได้

                    เท่านั้นหัวขโมยก็กระเด้งผึงจากเก้าอี้หมายจะเริ่มรายการต่อยขอทานอีกครั้ง  โดยให้เพื่อนร่วมโต๊ะผู้มีหน้าที่ห้ามต้องทำงานเป็นพัลวัน

                   

                   

     

                    นายนี่จริงๆเลยนะ   รู้ว่าก้นยังปวดอยู่  ไม่รู้จักจักเจียมสังขาร

                    คำก่นด่าดังจากเพื่อนนักฆ่าข้างๆขณะช่วยพยุงหัวขโมยไม่เจียมสังขาร  ไปท้าตีท้2ต่อยกับเจ้าขอทานที่ปกติมันก็ไม่ได้ถนัดเรื่องชกตีซักเท่าไร  อาศัยได้เปรียบที่คู่ต่อสู้สังขารไม่พร้อม  พอคนทาเริ่มโจมตี  คนไวกว่าจึงกระโดหลบแผล็วว่องไว  ให้หมัดกลางอากาศพุ่งไปในความว่างเปล่าก่อนร่างตัวเจ้าของหมัดจะร่วงตาม  เป็นผลให้แผลช้ำบนก้นกำเริบหนัก

                    ก็เจ้าโรมันปากมาก  พูดไม่เข้าหูนี่  คอยดูนะรักษาหายเมื่อไหร่  จะเอาให้เจ็บกว่าฉันสิบเท่าเลย

                    คนไม่เจียมสังขารบ่นพลางส่งเสียงโอดโอย  ขณะความคิดกลับไพล่ไปถึงอีกคนเมื่อพูดถึงคำว่ารักษา

                    ถ้าเป็นที่อื่นก็จะให้มันรักษาหรอก  แต่ถึงเรายอมมันก็ยังไม่ทำให้หรอก   แล้วจะหายมั๊ยเนี่ย

                    ความคิดถูกขัดแค่นั้น  เมื่อเจ้าหญิงคนสวยแห่งอเมซอน  ปรากฏตัวเบื้องหน้าพร้อมเสียงแหวลั่น

                    เอ้า !  รีบมาเข้าประชุมได้แล้ว  ต้วมเตี้ยมอืดอาดเป็นคนแก่อยู่ได้  คนอื่นเค้ามากันหมดแล้ว

                    นัยน์ตาสีน้ำตาลของคนโดนว่าเป็นคนแก่พราวระริก  แบบพร้อมจะหยอกกลับอย่างที่ทำเป็นประจำ  แต่ยังไม่ทันได้อ้าปาก   หัวคฑาแข็งก็โป๊กเข้ากลางหัว  เฟรินหันกลับไปดูก็พบกับอีกหนึ่งหัวหน้าสาวสวยแห่งป้อมอัศวิน

                    แองเจลีน่า  โรมานอฟ  เดอะวิชช์ออฟวิชช์

                    โดยไม่เปิดโอกาสให้ต่อความ  แม่มดแห่งวิชช์ก็สาดคำบ่นใส่อีกชุดใหญ่  จนคนในห้องประชุมพากันหันมามอง   กัส โทนีย่า  และครี้ด ธันเดอร์  หัวเราะคิกคัก

                    หลังจากคนชุดสุดท้ายที่ต้วมเตี้ยมมาถึงแล้ว   ประตูใหญ่ห้องเดียวกับเมื่อวานก็ปิดลง

                    แม่มดแห่งวิชช์เดินก้าวออกมาจากกลุ่มพวกหัวหน้าที่ยืนกันอยู่หน้าห้อง  ในมือมีแผ่นกระดาษจำนวนหนึ่ง   เธอสูดหายใจเพื่อจะเริ่มพูดแต่ก็ต้องชะงักค้างแค่นั้น  เมื่อสายตาไปสบกับร่างบางของคนมาช้าที่สุด  ยืนโด่เก้ๆกังๆอยู่หลังสุดของห้อง

                    เฟริน  เดอเบอร์โรว์

                    เฟริน  นั่นนายจะยืนทำอะไร  นั่งลงไป

                    น้ำเสียงเฉียบขาด  พาให้คนโดนดุทำหน้าจ๋อย  แต่ก็ยังไม่ขยับ

                    ไม่เอา   มันแข็งจะตาย

                    คำแก้ตัวที่คนฟังต้องพ่นลมหายใจแรงๆอย่างขัดเคือง

                    เพิ่งรู้ว่าน2ยก็ผิวบอบบางเป็นเหมือนกัน

                    คำเหน็บแนมที่มาพร้อมกับสายเย้ยหยัน  ก่อนเปลี่ยนเป็นดุดันเฉียบขาดกว่าเดิม

                    แต่นี่ไม่ใช่เวลามาทำเรื่องมากนะ  นั่งลงไปเดี๋ยวนี้

                    คำสั่งครั้งสองที่ทำให้เจ้าตัวยุ่งเริ่มหน้าเสีย  ส่งยิ้มแหะ แหะ  ในใจเริ่มคิด

                    ทำไงดีหว่า..จะขอยืนก็คงได้หรอก  แต่ไม่อยากบอกเหตุผล  เรื่องอะไรล่ะ เสียฟอร์มแย่

                    เอ่อ..  ฉันไม่อยากนั่งตรงนี้

                    แล้วจะนั่งตรงไหน

                    คนเรื่องมากหยุดชะงักนิดนึง  ก่อนเอ่ยเสียงใส

                    นั่งในหัวใจเธอไง  ฮิ้ว..ว..ว...

                    คำฮิ้วที่คนยืมมุกนายขอทานมาเล่น  ต้องชะงักค้าง  เมื่อทั้งห้องเงียบกริบ  คนข้างๆก็ไม่มีทีท่าจะช่วยเป็นลูกคู่  แถมยังส่งสายตาเหมือนทุกคนในห้องมา

                    เล่นอะไรของแก

                    ด้วยความหน้าแตก  คนเล่นไม่ถูกกาลเทศะจึงกระแอมแก้เขิน  ก่อนทำท่าจะพูดอะไร  แต่แล้ว  ร่างทั้งร่างก็ทิ้งดิ่งลงนั่งกระแทกเก้าอี้อย่างรวดเร็ว

                    จ๊าก..ก

                    ร่างนั้นกระเด้งยืนขึ้นมาอีกครั้งราวกับเก้าอี้เป็นของร้อน  สร้างความประหลาดใจให้คนทั้งห้อง  จนหัวหน้าคนสวยเริ่มคิดว่ามันมีอะไรตะหงิดๆ  จึงออกปากถามเจ้าคนร้องโอดโอยน่าเวทนา

                    เฟริน...นายเป็นอะไรรึเปล่า

                    คำถามที่เริ่มคลายความแข็งกร้าวลง  ให้คนเจ็บเริ่มใจชื้น  จึงจะเอ่ยตอบ  แต่รู้สึกถูกสะกิดจากขอทานแห่งทริสทอร์ข้างๆ  เมื่อหันไปดูก็เห็นเบาะนิ่มๆที่ขอยืมส่งต่อกันมาถูกวางอยู่บนเก้าอี้ตัวเองเรียบร้อย    รอยยิ้มจึงเหยียดกว้างแล้วหันไปตอบ

                    ไม่มีอะไรแล้วล่ะ  ประชุมเลย

     

     

                    คิล  เมื่อกี้นายฉุดฉันนั่งลงทำไม

                    เฟรินถามขึ้นเสียงเบา   เมื่อการประชุมเริ่มไปเล็กน้อย  ซึ่งก็พูดถึงสิ่งที่ได้ฟังจากนายขอทานมาบ้างแล้ว

                    คนถูกถามขมวดคิ้วเข้มน้อยๆ  เบือนหน้ามาแล้วถามกลับ  ใบหน้าหล่อเหลาฉายความประหลาดใจเต็มที่

                    ฉัน?  ฉันทำอะไรนะ

                    ก็เมื่อกี้นายดึงแขนฉันแรงๆให้นั่งลง  ไง  มันเจ็บนะโว้ย

                    เปล่านะ  ฉันนั่งเฉยๆเลยนะเมื่อกี้น่ะ  ฉันยังแปลกใจเลย  ทำไมนายจู่ๆก็นั่งลงอย่างนั้น

                    คำตอบนำความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้คนถามประสาทชาวูบ  ขนลุกซู่ขึ้นมาทันที  แล้วความคิดก็พาดไปถึงอะไรบางอย่างที่ไม่คิดอยากนึกถึง

                    เฮ้ย...  เป็นไปไม่ได้   ก็เมื่อกี้ฉัน...

                    เฟรินหยุดพูดแค่นั้น  ด้วยถูกสะกิดจากนายขอทานอีกครั้ง  ให้หันกลับมาฟังการประชุมที่เริ่มเข้าเรื่องแล้ว

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×