ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] MARKBAM ll Sleep with me

    ลำดับตอนที่ #5 : Sleep with me free breakfast

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.85K
      219
      17 เม.ย. 58

     

    Sleep with me free breakfast

     

     
     

    สิ่งแรกที่มาร์คลืมตาตื่นขึ้นมาและทำก็คือการหันไปมองข้างกาย ในวินาทีที่พบว่าเรื่องเมื่อคืนผ่านมามันไม่ใช่ความฝัน เขาก็ดันอมยิ้มออกมาอย่างพออกพอใจ ขยับกายให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ มองผิวกายที่โผล่พ้นผ้าห่มที่พาดเอาไว้ลวกๆ ผ้าปิดเพียงยอดอกของอีกคนแค่เท่านั้น แผ่นอกที่สะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการหายใจมีร่องรอยสีแดงจากริมฝีปากของเขา เพียงเท่านี้มาร์คก็ถึงกับหลุดยิ้มเหมือนคนบ้า เขาเท้าแขนก่อนจะมองหน้าแบมแบมอย่างพิจารณา

    เขาชอบเด็กคนนี้...ชอบไอ้เด็กเศรษฐศาสตร์จอมงกข้างห้อง...

    มาร์คเคยคิดว่าความรู้สึกในตอนแรกของเขาที่มีต่อแบมแบมมันคือการหาเศษหาเลย การที่อีกคนเสนอมาและเขาก็ยินยอมสนองตอบ หากคิดเรื่องนี้แบบเด็กเศรษฐศาสตร์พูดถึงเรื่องต้นทุน กำไรและการขาดทุนล่ะก็...มาร์คบอกได้เลยว่าช่วงแรกเขาออกจะขาดทุนไปหน่อย แต่คืนที่ผ่านมาเขาทบต้นทบดอกเก็บทุกเม็ดแถมยังได้กำไรอีกบานเลย แต่มาร์คไม่ใช่คนหน้าเลือด ไม่ใช่พวกเห็นแก่ได้อย่างที่บอกเอาไว้เสมอ

    เขาก็ให้ใจแบมแบมแลกไปแล้วไง...แต่ไอ้เด็กนี่มันยังหลับอุตุไม่รู้เรื่อง...

    เปลือกตาขยับยุกยิกของคนที่มาร์คคิดว่าหลับทำให้เขารีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโผล่มาแค่ดวงตาและเส้นผม เปลือกตาปิดลงแต่แท้จริงก็แอบมอง แบมแบมตื่น ลืมตา ยันกายขึ้นนั่ง เกาหัวและสุดท้ายก็หันมามองเขาด้วยสีหน้าที่เดาไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ก่อนที่มาร์คจะได้ยินประโยคแรกดังลอดริมฝีปากอีกคนว่า

    “ชิบหายแล้วกู...”

    หลังจากนั้นแบมแบมก็เริ่มหันซ้ายหันขวาเหมือนหาอะไรบางอย่าง ยืดคอชะเง้อมองและมาร์คก็พอจะเดาได้ว่าเสื้อผ้าแบมแบมโดนเขาเหวี่ยงไปทางนั้นเมื่อคืนนี้ เขาอมยิ้มใต้ผ้าห่มหนา แบมแบมหันกลับมาหาเขาอีกครั้ง ไม่ได้พูดอะไรแต่บ่นพึมพำกับตัวเองไม่เป็นประโยค

    “เชี่ยยองแจ...กูนะกู...ไม่น่าเลย...โอ๊ย...พี่มาร์ค...”

    แบมแบมเหวี่ยงผ้าห่มออกจากตัว ก่อนจะสะดุ้งเฮือกแล้วปิดมันลงอีกหนเพราะผิวกายเปลือยเปล่า หันหน้ามามองมาร์คแล้วก็พึมพำอะไรอีกและมาร์คก็ไม่ได้ยินประโยคนั้น เขากลืนน้ำลาย ก่อนจะเห็นว่าแบมแบมตวัดผ้าห่มออกจากกายอีกหน เด็กหนุ่มนั่งหย่อนขาลงที่ปลายเตียง ก่อนจะลุกขึ้น

    “ซี๊ด...เจ็บด้วย...”

    แบมแบมนั่งลงที่เดิมอีกหน มาร์คไม่รู้จะขำหรือสงสารดี เอาเป็นว่าความรู้สึกตอนนี้กลายเป็นเอ็นดูอีกฝ่ายไปแล้ว มองท่าทางทำอะไรไม่ถูกของแบมแบม แล้วไม่นานเด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นอีกครั้ง มาร์คมองแผ่นหลังของแบมแบม มองไล่ต่ำจรดปลายเท้า เห็นท่าทางเก้งก้างของเด็กหุ่นบางไร้กล้ามเนื้อ ปลายเท้าที่เขย่งเดินโยกซ้ายทีขวาทีอย่างคนเมา ขณะขาสองข้างกางออกจากกันและหลบหลีกกองเสื้อผ้าเพื่อไปให้ถึงเสื้อและกางเกงของตัวเองที่อยู่ไกลออกไป

    “อ้าว? ตื่นแล้วเหรอครับน้องแบม”

    มาร์คดึงผ้าห่มออกจากตัว ตะโกนเรียกเด็กผิวขาวคนนั้น เขาจัดแจงท่านอนเป็นนอนตะแคงยกแขนขึ้นเท้าแก้ม แบมแบมสะดุ้งก่อนจะนั่งยองๆ ลงกับพื้นหันหลังให้ มาร์คยกมืออุดปากเพราะเกือบขำลั่นห้อง ไอ้เด็กตัวบางนั่งงอตัวอย่างกับว่ามันจะช่วยปิดบังซ่อนเร้นผิวกายหรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวเองได้ ไม่มีทางหรอก...น่าจะจำให้ได้บ้างว่าเมื่อคืนมีส่วนไหนบ้างที่มาร์คยังไม่สัมผัสด้วยมือและมองด้วยตา

    ไม่มีสักตารางนิ้วเลยล่ะ

    “เป็นอะไรน่ะ...” มาร์คทัก แบมแบมยังหันหลังให้ก่อนจะตะโกนลั่น

    “ไอ้เชี่ยพี่มาร์ค! อย่านะ! อย่าเดินมา...ดะ...เดี๋ยว...ผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้า”

    “พี่ก็ไม่ได้ใส่”

    มาร์คเอ่ยเสียงเรียบ ตีหน้าตายก่อนจะตวัดผ้าห่มส่งเสียง ‘ฮึ้บแล้วลุกไปจากเตียงแล้วเดินลงไปบ้าง เขาหยิบกางเกงมาสวมลวกๆ หยิบเสื้อมาใส่อย่างไม่ได้รีบร้อน เดินเลยไปหากองเสื้อผ้าแบมแบม ก่อนจะหันกลับมาพบเด็กคนนั้นนั่งกอดเข่าคุดคู้อยู่กับพื้น มาร์คยื่นเสื้อไปให้ ก่อนจะแกล้งด้วยการนั่งยองๆ ตรงหน้า

    “อ่ะเสื้อ”

    “เอาวางไว้” แบมแบมเค้นเสียงบอก แต่มาร์คยังสะกิดแขนอีกคนแล้วยื่นเสื้อไปให้

    “กางเกงด้วย เมื่อคืน...พี่ถอดกับมือเลยนี่หว่า”

    “ผมบอกว่าเอาวางไว้...” เสียงลอดไรฟันนั่นแผ่วเบาลง มาร์คหัวเราะในลำคอ ก่อนจะตัดสินใจดึงเด็กหนุ่มให้ลุกยืนกับตัวเอง แบมแบมนิ่วหน้า แต่มาร์คไวกว่าเพราะดันอีกคนให้ชิดเตียง แล้วโยนแบมแบมลงเตียงอีกรอบ

    “ขอโทษๆ ไม่ได้ตั้งใจให้เจ็บ เอาล่ะ...” มาร์คจัดร่างบางนั่นให้นอนบนเตียง ดึงผ้าห่มคลุมให้ คราวนี้แบมแบมรวบผ้าห่มแล้วกำแน่นเหมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจทันที เม้มปากแล้วยันแขนลุกขึ้นถอยร่นไปจนหลังชิดหัวเตียง

    ...น่าเอ็นดูจริงๆ

    “เจ็บขนาดนั้นน่ะ เดินไปไหนมาไหนยังไม่สะดวกหรอก เสื้อ นี่กางเกง” มาร์คว่าพลางโยนเสื้อผ้าไปให้แบมแบมที่นั่งบนเตียง

    “พี่จะทำมื้อเช้าให้ แล้วก็...เราต้องทำความสะอาดร่างกายด้วย”

    “อาบน้ำอ่ะเหรอ?” แบมแบมถาม กะพริบตากลืนน้ำลายก่อนจะเอ่ยเสียงแหบว่า “เดี๋ยว...เดี๋ยวจะ...จะอาบเอง”

    “ที่จริงเมื่อคืนใส่ถุงยางก็คงไม่มีอะไรให้จัดการมาก แต่เราคงเดินไม่สะดวกเท่าไหร่ ให้พี่อาบ...”

    “ไม่ต้อง! ผมจะอาบเอง ไปทำมื้อเช้าเลยไป”

    “อื้อ...ตามนั้น...” มาร์คเหลือบตามามองถุงยางที่ถูกฉีกใช้แค่อันเดียว และอีกสองถุงถูกวางอยู่เหมือนโดนทิ้งขว้าง เขาส่ายหน้าก่อนจะหันไปมองแบมแบมที่เม้มปากอยู่บนเตียง เลยเลือกจะเดินหนีออกมาเพราะเดี๋ยวเด็กคนนั้นจะโวยวายอะไรออกมาอีก

    เขาฮัมเพลงท่าทางอารมณ์ดีเดินเข้าห้องครัวที่เมื่อวานก็มายึดพื้นที่ มาร์คเปิดตู้เย็นก่อนจะพบว่าในห้องแบมแบมไม่มีอะไรพอจะประกอบอาหารได้เลย มีเพียงเครื่องดื่มกับอาหารสำเร็จรูปไม่ค่อยน่าทานนัก มาร์คผ่อนลมหายใจยืดยาวก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนเจ้าของห้องอีกครั้ง

    “แบมแบม..ไม่มีอะไรให้...โอ๊ะโอ๋...”

    มาร์คห่อปากเป็นรูปตัวโอ ภาพแบมแบมในห้องคือเด็กหนุ่มที่เพิ่งลงจากเตียงได้สำเร็จแต่ผ้าห่มพันอยู่แค่เอวและคลุมเพียงท่อนล่างเท่านั้น ก่อนที่หมอนบนเตียงจะถูกปามาใส่หน้า ตามด้วยเสียงกราดเกรี้ยว

    “ไอ้เชี่ย! ทำไมพี่ไม่เคาะประตู”

    “แล้วใครจะไปรู้วะ” มาร์คบ่น หมอนวางอยู่ที่พื้นและแบมแบมยังอยู่ในสภาพเดิมที่ออกจะล่อแหลม เขากรอกตามองเพดานก่อนจะเอ่ยพึมพำ

    “ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลยอ่ะ ไปห้องพี่แทนได้ไหม?”

    “งั้นเดี๋ยวหาอะไรกินเอง” แบมแบมบอก หมุนตัวกลับไปหยิบเสื้อที่วางบนเตียงจะสวม แต่มาร์คเดินมาใกล้ จิ๊ปากหงุดหงิดแล้วก้มต่ำมองเด็กตรงหน้า

    “ดูสภาพตัวเองหน่อย เจียมตัวนิดหนึ่ง เดินไม่ไหวหรอก ไปห้องพี่...อย่าดื้อ ฟัง มองหน้า นี่ไม่เล่น จริงจัง” ชี้นิ้วจิ้มมาที่หน้าตัวเอง

    “ก็ได้”

    ตอบแบบเลี่ยงไม่ได้ แล้วสุดท้ายมาร์คก็มายืนมองแบมแบมใส่เสื้อผ้าต่อหน้า (ยกเว้นตอนใส่กางเกงเด็กคนนั้นด่าเขาให้หันกลับไป) เขาประคองแบมแบมเดินออกมาจากห้องนอน เลี้ยวเข้าห้องพักของเขาพร้อมเสื้อผ้าที่จะใช้อาบน้ำ ก่อนที่มาร์คจะยกห้องนอนให้แบมแบมใช้ระหว่างที่เขากำลังทำมื้อเช้ารอ

     

     

     

    “โอ๊ย...”

    เสียงร้องโอดโอยที่ดังออกมาจากห้องนอนเป็นระยะยังทำให้มาร์คต้องคอยใส่ใจด้วยการวิ่งจากห้องครัวยื่นหน้ามองแบมแบมผ่านประตูห้องนอนที่เปิดกว้างเอาไว้ ตอนนี้เด็กหนุ่มไปนั่งริมขอบเตียง เช็ดผมด้วยใบหน้ายุ่งๆ และผมเปียกซ่ก เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นแบบสบายๆ ของเด็กคนนั้นเอ่ยพึมพำบ่นบางอย่างกับตัวเอง

    มาร์คเตรียมมื้อเช้าเรียบร้อย เขาเปลี่ยนมาใส่เสื้อกล้ามสีขาวและกางเกงขาสั้น ยืนเคาะประตูห้องตัวเองแล้วมองแบมแบมที่หันหน้ากลับมา

    “มื้อเช้าเสร็จแล้ว”

    “ผมยังไม่แห้งอ่ะ พี่หิวก็กินไปก่อนเลย” ตอบเสียงอู้อี้ทั้งที่ยังก้มหน้าเช็ด มาร์คเดินเข้าไปในห้อง หยิบไดร์เป่าผมออกมาก่อนจะยื่นให้

    “เอาไปเป่า”

    “ไม่ชอบอ่ะ ลมร้อน ผมเสีย” แบมแบมทำหน้ายู่แล้วปัดมือและไดร์มาร์คออกไปจากหน้าตัวเอง เขาห่อปากมองก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้า

    “เดี๋ยวเช็ดให้”

    “สะเหล่อ...เช็ดเองได้ ช่วงล่างผมง่อยแดกแต่ช่วงบนยังใช้การได้” แบมแบมเอ่ยเสียงอู้อี้แล้วก้มหน้าเช็ดผมแรงๆ จนน้ำกระเด็นใส่มาร์ค เขาหัวเราะ ก่อนจะดึงผ้าผืนเล็กออกจากมือแบมแบมปาไปทางอื่น ประคองแก้มสองข้างด้วยมือซ้ายและขวาของตัวเองพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้แบมแบม

    “ไหน...ลิ้นยังใช้การได้เปล่า...”

    มาร์คยื่นหน้าไปจูบเบาๆ ก่อนจะผละออกมา แบมแบมนั่งหน้าแดงเรื่อ เส้นผมสีดำส่วนที่เปียกแนบไปกับแก้ม มันตัดกันดีกับผิวกายที่ขึ้นสีแบบนั้น มาร์คอมยิ้มก่อนจะเอ่ยพึมพำว่า

    “เดี๋ยวเช็ดให้”

    “ตะ...แต่...คือเดี๋ยวทำ...ทำเอง...”

    มาร์คไม่ฟังเสียงตะกุกตะกักนั้น สายตาจ้องใบหูที่แดงพอๆ กับแก้ม อมยิ้มก่อนจะวางผ้าขนหนูแล้วเริ่มเช็ดผมให้แบมแบม เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก แบมแบมเองก็หยิบมือถือมากดอะไรเล่นรอเพราะไหนๆ มาร์คดันเสนอตัวจะเช็ดผมให้ เราเงียบกันไปครู่หนึ่งแล้วมาร์คก็กระแอมเบาๆ ก่อนจะทำลายความสงบนั่นด้วยคำถาม

    “เป็นไงบ้าง”

    “อะไรเป็นไง? ผมเหรอ? ก็ไม่ได้ป่วย” แบมแบมเงยหน้าตาแป๋วถาม มาร์คส่ายหน้า มือยังขยับเช็ดผมให้แล้วยื่นหน้าถามเสียงเบาหวิว

    “หมายถึง...เมื่อคืน รู้สึกดีไหม? แล้วตอนนี้...เจ็บมากรึเปล่า?”

    อีกครั้งที่คำถามนั่นทำให้หน้าแบมแบมแดงแปร๊ด มาร์คไม่ยักรู้มาก่อนว่าตอนอีกคนเขินมันก็ดูน่ารักดี ไหนจะตอนอึกอักกว่าจะตอบคำถามได้ เม้มปากแล้วเอ่ยด่าเขามาก่อนเสมอ

    “เชี่ย...ก็...ตอนนี้ไม่เจ็บเท่าตอนเพิ่งตื่น” แบมแบมเม้มปาก “ส่วนเรื่องเมื่อคืน...” ลากเสียงยาวอยู่นาน มาร์คไม่ได้ยินคำตอบสักทีเลยเชยคางอีกคนให้เงยหน้ามาสบตา แบมแบมเบนสายตาหลบไปด้านข้างแล้วเอ่ยเสียงสั้นออกมาว่า

    “...ก็ดี”

    “ให้ตาย...”

    เพราะคำตอบของคำถามนั้น มาร์คปาผ้าขนหนูในมือทิ้งลงพื้น เขาดันแบมแบมให้นอนลงไปบนเตียงตัวเองก่อนจะปีนขึ้นคร่อม โดยไม่ต้องอธิบายอะไร พอแบมแบมเผยอริมฝีปากจะถามอะไรบางอย่าง มาร์คก็อนุญาตให้ตัวเองจูบเด็กคนนี้ได้เท่าที่ตัวเองอยาก

    ท่าทีขัดขืนในตอนแรกของแบมแบมผ่อนคลายลงตอนพบว่ามาร์คไม่ได้จู่โจมจูบจาบจ้วง เขาเพียงแค่บดริมฝีปากแล้วแทรกปลายลิ้นเข้าไปในปาก กวาดเอาความหอมหวาน เก็บทุกซอกในปากซึ่งยังเจือกลิ่นมิ้นต์จากยาสีฟันในห้องน้ำของเขา มาร์คถอนจูบ มองดวงตาปรือปรอยของแบมแบม เขากดริมฝีปากไปทั่วลำคอ พยายามไม่ทำให้มันเป็นรอยแดงมากกว่านี้เพราะวันจันทร์เด็กคนนี้ยังต้องไปเรียน

    ฝ่ามือสากของมาร์คเลื่อนไล้สีข้างของแบมแบม เกี่ยวปลายนิ้วเข้ากับปลายเสื้อยืดจนได้แตะต้องผิวกาย แบมแบมบิดตัวก่อนจะส่งเสียงอึกอัก

    “พี่...พี่จะ...จะทำอะไรน่ะ...” เสียงนั่นถามแผ่วเบาและขาดห้วง เพราะฝ่ามือมาร์คยังวนเวียนอยู่แถวสะดือ ส่วนมืออีกข้างจับท้ายทอยแบมแบมแล้วลูบไล้

    “ทวนบทเรียนเมื่อคืน” เอ่ยเสียงแหบพร่าบอกออกไป

    “เดี๋ยว! เดี๋ยวนะ...หยุดก่อน...” แบมแบมดันไหล่มาร์คเอาไว้ หอบหายใจแรงก่อนจะกะพริบตามองหน้า

    “ผมไม่ได้ขอร้อง”

    “งั้นพี่ขอร้องแบมแบม...” มาร์คตอบด้วยการกระซิบไปที่ริมใบหู แบมแบมหดคอวูบ แต่ก็ยังถลึงตาใส่อีกฝ่าย ฝ่ามือกลายเป็นกำปั้นทุบไหล่ซ้ายเขามา 1 ทีหนักๆ

    “ขอร้องอะไร? จะให้ผมเป็นเมียพี่อีกรอบเหรอ? บ้าป่ะเนี่ย!

    “ไม่บ้า”

    มาร์คตอบเสียงเข้ม เขาก้มหน้าลงไปหาแต่แบมแบมเบี่ยงหลบ จากริมฝีปากที่หมายปองเลยได้จูบแก้มใสของอีกคนแทนเต็มแก้ม

    “แบมแบม...นะ...พี่จะรับผิดชอบ...”

    “ผมไม่ใช่ผู้หญิงไอ้เชี่ยพี่มาร์ค” แบมแบมเค้นเสียงต่ำ สองแขนยกขึ้นคล้องคอมาร์ค เขาออกจะงุนงงกับการกระทำนั้นของแบมแบม มองแผ่นอกที่กระเพื่อมขึ้นลงเพราะอีกคนหอบหายใจแรง

    “เงี่ยนก็บอกว่าเงี่ยน อย่ามาพูดจาหล่อๆ แต่เช้ารำคาญหู”

    แบมแบมเป็นคนยกตัวขึ้นจากที่นอน จูบนั้นเป็นจูบเก้ๆ กังๆ ของคนที่อยู่ในท่าไม่ถนัดเท่าไหร่ มาร์คหัวเราะในลำคอ เขาโน้มตัวลงไปหา แบมแบมนอนลงกับที่นอนอีกครั้ง เราจูบกันอย่างดูดดื่ม พอแบมแบมผละหน้าออกไป เด็กหนุ่มก็ยังคงรั้งคอมาร์คเอาไว้ ดึงใบหน้าเขาก่อนจะกระซิบชิดใบหูเขาด้วยเสียงแหบพร่าว่า

    “ถ้าผมเดินไม่ไหว...พี่ค่อย...รับผิดชอบผมเรื่องนั้นแล้วกัน...”

     

     

     

    ================= CUT ====================

     

     

     

     

    เข็มสั้นชี้อยู่ที่เลขสิบและเข็มยาวชี้ที่เลขสิบสองตอนพวกเรานั่งอยู่ในห้องครัวและมีอาหารเช้าวางอยู่ตรงหน้า มาร์คต้องอุ่นทุกอย่างอีกรอบหลังจากเขาหายไปเช็ดผมให้แบมแบม แต่สุดท้ายแล้วกลับได้เช็ดตัวให้อีกคนแทนเพราะแบมแบมต้องอาบน้ำอีกรอบและคราวนี้ก็ยืนด่าเขาลั่นเพราะเจ็บช่วงล่างจนแทบเดินไม่ไหว มาร์คเสนอตัวจะอุ้มด้วยซ้ำ แต่อีกฝ่ายก็ตวาดเสียงดังลั่น

    ผมไม่ได้เป็นง่อย!’

    จึงต้องทำแค่ประคองเด็กคนนี้จนมาถึงห้องครัว มาร์คยิ้ม เขามีความสุขมาก เป็นวันหยุดที่ยกเลิกนัดกับเพื่อนที่ทำงานแล้วเป็นแฟนปลอมๆ ของเด็กข้างห้องจนได้ดิบได้ดี ได้รู้ความรู้สึกตัวเองด้วยว่า...ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ แต่เป็นคนตรงหน้าเท่านั้นน่ะ

    “กินสิ เดี๋ยวเที่ยงพี่เลี้ยงข้าว”

    “คิดเงินป่ะ?” แบมแบมใช้ส้อมจิ้มไข่ดาวเข้าปากพลางถาม มาร์คหัวเราะขณะเทซอสมะเขือเทศใส่จาน

    “ก็บอกว่าเลี้ยงไง”

    “มีอะไรแลกเปลี่ยนอ่ะ ถ้า...ถ้าจะแบบเมื่อกี้หรือเมื่อคืนไม่ไหวแล้วนะ” แบมแบมตอบอ้อมแอ้ม หยิบน้ำเปล่ามาจิบแล้วเหลือบมองมาร์คอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่

    “ไม่มีแล้ว รีบๆ กินไปเหอะ กินเยอะๆ ด้วย”

    “รู้แล้วล่ะน่า” แบมแบมบ่นเสียงดังแล้วเงียบไป

    เรานั่งทานมื้อเช้ากันไปเงียบๆ มาร์คคอยมองอยู่เรื่อยๆ ว่าอีกคนอยากได้อะไรเพิ่มรึเปล่า เขาลุกไปหยิบน้ำมาเทใส่แก้วเติมไม่ให้มันพร่อง พอไข่ดาวหมดแล้วแบมแบมบอกอยากได้อีกฟองก็ลุกไปทำให้อย่างไม่อิดออด ไหนจะเบค่อนที่แบมแบมบอกว่าอยากได้เพิ่มก็ทำให้อีก ขนมปังอีก 3 แผ่นก็ปิ้งให้โดยไม่ได้บ่นอะไรสักคำ

    “แปลก พี่แปลกๆ ว่ะ”

    แบมแบมบ่นตอนยัดขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าปาก ทั้งพูดทั้งเคี้ยวจนเศษขนมปังปิ้งติด มาร์คยื่นมือไปเช็ดให้ แบมแบมยืดตัวหนี เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะพึมพำถามว่า

    “อย่าทำเหมือนผมเป็นผู้หญิงได้ไหม? ผมไม่ใช่เมียพี่จำไว้หน่อย”

    “ไม่อยากเป็นเมียพี่จริงๆ เหรอ?”

    พอลองแกล้งถามออกไปแบมแบมก็ยกนิ้วกลางให้พร้อมสีหน้าพร้อมเหวี่ยงเต็มที่ มาร์คหัวเราะ พอทานมื้อเช้า (ที่จริงควรเรียกว่ามื้อสายมากกว่า) เด็กหนุ่มก็ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้เพราะไม่อยากเดินมาก ส่วนมาร์คจัดการทำความสะอาดห้องครัวและจานชามจนเสร็จทุกอย่าง

    “เอาล่ะ ดูทีวีไหม?”

    “ก็คงต้องงั้น ผมไม่อยากเดินหรือขยับเลยให้ตาย! คราวหน้าพี่มานั่งถ่างขาให้ผมทำเลยนะ”

    “ต้องพูดตรงขนาดนี้ไหมเนี่ย!” มาร์คเดินมาเขกหน้าผากแล้วประคองแบมแบมให้เดินออกมาจากห้องครัว ก่อนจะพาเด็กหนุ่มมานั่งบนโซฟายาวในห้องนั่งเล่น

    เขาบริการแบมแบมทุกอย่าง รู้สึกเหมือนคนเห่อแฟน ที่จริงมาร์คไม่มีแฟนมาตั้งแต่เรียนจบเลยล่ะ เขาคบกับผู้หญิงคนล่าสุดก็ตั้งแต่ปี 3 พอเรียนจบก็เหมือนจบความสัมพันธ์ไปด้วยเพราะหล่อนหนีไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก ขณะที่มาร์คเริ่มทำงาน ดังนั้นนี่เลยถือเป็นอาการของคนมีความรักหลังจากที่ไม่เกิดความรู้สึกแบบนี้มานาน มาร์คเคยมีอะไรกับหญิงสาวที่เขาหิ้วมาค้างด้วยจากสถานบันเทิง เลยไม่ต้องแปลกใจหากลิ้นชักแทบทุกอันจะมีถุงยางอนามัยวางทิ้งไว้ โดยเฉพาะในห้องนอนมีหลายกล่องเป็นพิเศษ

    แต่มาร์คไม่เคยใจเต้นแรงกับการมีสัมพันธ์ทางกายกับใครมานานแล้ว...ยกเว้นแบมแบมนี่ไงล่ะ...

    เขาไม่ใช่เพลย์บอย ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้เอาแต่ได้หรอก ไม่ได้หิ้วผู้หญิงมาค้างทุกครั้งที่ไปเที่ยวสักหน่อย สำหรับเขาแล้วการมีอะไรกับผู้หญิงสักคนเป็นเรื่องปกติหากป้องกัน อีกอย่างมาร์คก็โสด แต่เขาไม่เคยไปมีอะไรแบบนี้กับใครหากว่ามีคนรักเป็นตัวเป็นตนหรอก ที่จริงแล้วพักนี้ตั้งแต่ได้จูบแบมแบมครั้งแรกนั่น ตั้งแต่ไอ้ข้อเสนอและการดีลบ้าบอของเรา มาร์คก็มักจะนึกถึงแบมแบมอยู่บ่อยครั้ง ใจลอยเพราะข้อความในไลน์จากไอ้เด็กนี่ก็หลายหน

    เขาถึงได้มั่นใจนักหนาไงว่าเขาชอบ...เขารักของเขา...

    มันไม่ได้แย่กับการที่มาร์คจะเลือกคบใครสักคนอีกหน และคราวนี้คนๆ นั้นที่เขาเลือกดันเป็นคนเพศเดียวกัน คือไอ้เด็กแสบที่กำลังนั่งโยนขนมเข้าปาก หน้าจ้องเป๋งไปทางทีวีไม่ได้รับรู้เลยว่าเขาแอบมองแล้วยิ้มอยู่ข้างๆ อย่างเอ็นดู มาร์คส่ายหน้าก่อนจะเขยิบไปนั่งข้างแบมแบมแล้วเอนหัวไปซบ

    “กระดูกพรุนเหรอทรงตัวเองไม่ได้ ออกไปเลย หนัก” แบมแบมเอ่ยเสียงดุหันมามองหน้าหงุดหงิด มาร์คหัวเราะก่อนจะซุกหน้าลงกับไหล่แบมแบมแล้วทิ้งน้ำหนักไปยิ่งกว่าเดิม

    “โอ๊ย! พี่มาร์ค! นี่! ทำไมพี่ทำตัวแปลกๆ วะ...”

    “แปลกยังไง นี่ก็หล่อเหมือนเดิมอ่ะ ที่เพิ่มเติมก็คง...มีความสุขมากขึ้นมั้ง” มาร์คเอ่ยแล้วยิ้มใส่หน้า แบมแบมกางมือมาผลักหน้าเขาออกไปไกล

    “ผมอยากกลับห้องแล้วอ่ะ”

    “ทำไมล่ะ อยู่นี่ก่อนสิ ยังไม่กินมื้อเที่ยงกันเลย”

    “เดี๋ยวผมสั่งร้านข้างล่างมาส่งก็ได้ ไปส่งหน่อย” แบมแบมขยับตัวแล้วทำท่าจะลุก มาร์คลุกขึ้นก่อนแล้วกดไหล่แบมแบมให้นั่งลง

    “นั่งนี่ล่ะ พี่ไม่กวนแล้ว”

    “พี่ไม่ได้กวน แต่พี่แปลก!” แบมแบมแหวใส่ เขยิบตัวหนีแล้วก็เม้มปาก

    “แปลกยังไง?” มาร์คถามกลับ หยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องไม่ยอมมองไปทางคนที่กำลังเอ่ยว่าเขาแปลกลั่นห้องเขา แบมแบมเม้มปาก เงียบไปนานจนมาร์คต้องวางรีโมทแล้วหันกลับมาเลิกคิ้วมองเพื่อเร่งเอาคำตอบ

    “ก็...” เอ่ยแค่นั้นแล้วก็เม้มปากเงียบ สุดท้ายก็ถอนหายใจ “พี่แปลกอ่ะ ทำไมมองผมแปลกๆ ดูแลดีแปลกๆ แล้ว...ไหนจะพูดว่ารักผมด้วย”

    “แล้วพูดไม่ได้เหรอ?”

    “เงี่ยนก็เงี่ยนดิ่ อย่ามาพูดว่ารัก!” แบมแบมตวาด “พี่ต้องแยกเรื่องที่อยากได้ผมกับเรื่องรักผมออกจากกัน เราเป็นแฟนปลอมๆ กันจำได้ไหม เราไม่ได้รักกัน ไอ้ที่เรามีอะไรกันเมื่อคืนเพราะผมอยากรู้ แต่เมื่อเช้า...พี่...เอ่อ...”

    “พี่ทำไม?” มาร์คถามย้ำเมื่ออีกคนเกิดติดอ่าง

    “พี่มาทำให้ผมอยาก!” แบมแบมยกมือขึ้นทึ้งหัวตัวเองเมื่อหลุดพูดประโยคบ้านั่นออกมา

    “แล้ว...แล้วจะมาพูดว่ารักทำไม ทุกครั้งที่มีอะไรกับใครพี่ต้องพูดว่ารักรึไงวะ มัน..มันแปลก มันทำให้ผมคิดว่าพี่รักผมจริงๆ และกำลังมีอะไรกับแฟนตัวเองน่ะสิ”

    หลังจากพ่นประโยคนั้นออกมา แบมแบมก็ซุกหน้าลงกับหมอนที่วางบนตักแล้วตะโกนใส่มันเหมือนหาที่ระบายทั้งที่มาร์คก็นั่งอยู่ตรงหน้า เขาหัวเราะ เขยิบเข้าไปหาแบมแบมแล้วยื่นมือไปลูบหัวคนที่ก้มหน้าร้องตะโกนใส่หมอน

    “แล้วคำว่ารักนี่คิดว่าพี่พูดเพราะไม่รู้สึกรึไง?”

    “หา?”

    แบมแบมเงยหน้ามาถามประโยคนั้นเหมือนกับพลาดสิ่งสำคัญในชีวิต เด็กหนุ่มอ้าปากเหวอ ผมเผ้ายุ่งเหยิงจนมาร์คอดไม่ได้ที่จะต้องเอื้อมมือไปจัดผมให้เป็นทรงกว่านี้ แล้วก็ประคองแก้มข้างขวาแบมแบมด้วยมือ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาด้วยแววตาและสีหน้าจริงจังเพื่อให้มันชัดเจนไป

    “ที่พูดว่ารักเมื่อคืนกับเมื่อเช้าก็พูดเพราะรู้สึกว่าอยากบอกน่ะสิ เพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ไงล่ะแบมแบม”

    “อะไรของพี่...” แบมแบมดึงมือมาร์คออกจากแก้มแล้วเอ่ยถามเสียงเบาหวิว

    “ก็รักไง”

    “รัก...?” แบมแบมอ้าปากพะงาบแต่ไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมา “พี่...รักผมเหรอ?” ชี้ปลายนิ้วเข้าปากตัวเอง มาร์คเลยยืนยันด้วยการชี้นิ้วตัวเองไปตรงหน้าอีกคนแล้วเอ่ยคำชัดเจนออกไป

    “พี่รักแบมแบม”

    “ตลก...เล่นตลกอะไรอีก...” แบมแบมส่ายหน้าเม้มปากเอ่ยเสียงเบากลับมา

    “เบื่อเล่นเป็นแฟนปลอมๆ แล้ว มาเป็นแฟนกันจริงๆ เถอะ”

    “พี่มาร์ค!” แบมแบมแหวใส่ก่อนจะถอยจนหลังติดพนักวางแขนอีกฝั่งของโซฟา มาร์คไม่ได้เขยิบเข้าไปใกล้เลยสักนิด ทำไมถึงทำหน้ารังเกียจกันขนาดนั้น เขาเม้มปากก่อนจะมองแบมแบมโดยไม่ได้พูดอะไร

    “เล่นตลกอะไรของพี่เนี่ย”

    จากนั้นแบมแบมก็หัวเราะจนตัวงอ เอามือกุมท้องแล้วส่งเสียงหัวเราะสดใสไม่ยอมหยุด มาร์คยังนั่งจ้องอยู่จนคิดว่าเขาเองนี่ล่ะที่ไม่ตลก มาร์คเขยิบเข้าไปใกล้แล้วดึงแขนแบมแบมเอาไว้ เด็กหนุ่มหัวเราะจนน้ำตาไหลตรงหางตา ก่อนจะชะงักไปแต่ยังยิ้มค้าง มาร์คเลื่อนหน้าเข้าไปจูบแผ่วเบา ก่อนจะเกลี่ยหยดน้ำตาเพราะแบมแบมเอาแต่ขำออกจากใบหน้าออกให้

    “เพราะพี่รักพี่ถึงทำแบบนั้นกับแบมแบม รวมถึงจูบเมื่อกี้ด้วย”

    มาร์คลุกจากโซฟา เขายืนมองแบมแบมที่เงียบกริบ นั่งตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ มาร์ครู้ว่าของแบบนี้มันต้องใช้เวลา สำหรับแบมแบมและเขา ความสัมพันธ์ของพวกเรามันไม่ได้เริ่มต้นดีเท่าไหร่ ต่อจากนั้นสายสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ก็เป็นการใช้ประโยชน์ให้แก่กันและกันถึงได้สนิทกันจนก้าวข้ามขั้นมาถึงเมื่อคืนและเมื่อเช้านี้

    “เอาไปคิดดูหน่อย...พี่ไม่ได้อยากเป็นพี่ข้างห้อง ไม่ได้อยากเป็นหมอนหรือห้องให้ใช้ไวไฟฟรี แต่พี่อยากเป็นแฟนแบมแบมจริงๆ เป็นคนที่รักแล้วกอดและจูบแบมแบมได้โดยไม่ต้องมีข้อเสนอแล้วต้องดีลน่ะ...”

    มาร์คเดินหายเข้าไปในห้องครัว เขาจะทำมื้อเที่ยงให้ไม่ว่าแบมแบมจะอยู่ทานด้วยกันรึเปล่าก็ตาม แต่ตอนนี้เขาต้องให้เวลาส่วนตัว ให้อีกฝ่ายได้คิด ได้พิจารณา มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่หวัง แบมแบมน่ะเก่งเรื่องทำทุกอย่างราวกับเป็นเรื่องเล่นๆ ไปซะหมด แต่ถ้าพูดแล้วไม่เชื่อ ต่อจากนี้มาร์คก็จะทำให้อีกคนเชื่อว่าเขาเอาจริง

    แบมแบมจะได้รู้สักทีว่าบางครั้งการคบกับใครสักคนโดยใจแลกใจน่ะ

    ...มันไม่ต้องมีข้อเสนอเพื่อแลกและดีลกันหรอก










    ฮึ้บ! มีเอนซีอีกล่ะเร๊าะ /ร้องไห้โฮ มีค่ะ... ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่มี แต่ก็คืนกำไรให้ป๋ามัคเขาไปล่ะกัน(?)
    เราจะไม่อัพไปอีกพักใหญ่ๆนะคะ ไปเปิดทอล์คตอนแรกที่บอกจะอัพเดือนละ 2 ตอนล่ะอยากจิกหัวตัวเอง
    คืออัพถี่มาก อะไรที่เคยบอกไว้ก็ไม่เคยทำได้ 555555555555555 แต่ก็หวังว่าอ่านตอนนี้จะฟินกันนะ
    ฟินแบบหน่วงๆ(?) .... 

    เราจะมาอัพอีกทีคงปลายๆเดือนนะคะ ห้ามงอแงทิ้งฟิคเรื่องนี้นะ เพราะ 7 ตอนก็จบแล้ว
    ขอบคุณทุกคนมากค่ะที่เป็นกำลังใจให้เรา ฟิคอะไรกากๆ กวนๆ แต่คนก็ยังอ่าน ฮืออออ /โบกมือปาดน้ำตา
    รอบนี้คงหาคัทกันเจอเนาะ ไม่เจอก็เข้าแท็ก #ficmbinbed นะคะ
    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ล่วงหน้าด้วยค่ะ

    ปล.มีคนถามเรื่องรวมเล่ม......เอาจริงอ่ะ 55555
    ถ้าใครสนใจลองๆ ยกมือหรือเม้นต์ทิ้งไว้นะคะ ถ้าเกิน 10 เดี๋ยวเรามาเปิดแบบฟอร์มให้กรอกอีกที

    ขอบพระคุณที่เป็นกำลังใจให้กันเสมอค่ะ

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×