ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กาลครั้งหนึ่ง..ในความฝัน

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องเริ่มที่ การผิดใจกัน

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 47


    มื้อเย็นของครอบครัวฮีทดี้ผ่านไปอย่างสนุกสนานและอิ่มหนำ

    เรนา สามารถซื้อขนมปังฝรั่งเศสสำหรับเทเรซี พั๊ดเดิลและตัวเธอได้คนละก้อน กินกับซุปฟักทองอุ่นๆที่ทำเอง

    เพียงเท่านี้ก็เป็นอาหารชั้นเลิศของครอบครัวเล็กๆที่ยังชีพด้วยการขายผักและสมุนไพรแล้ว                  

        เรนาเป็นเรี่ยวแรงหลักตั้งแต่พ่อแม่จากไป เธอต้องดูแลน้องสาวอายุสิบเอ็ดและน้องชายวัยหกขวบเพียงคนเดียว

    ทั้งที่เธอเพิ่งมีอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น ความเป็นอยู่ของครอบครัวฮีทดี้จะเรียกว่า “ยากลำบาก” ก็คงจะได้

    ความหิวทำให้อารมณ์ขุ่นมัวอยู่ได้เรื่อยๆ แต่พั๊ดเดิล น้องชายตัวเล็กไม่เคยบ่นเลยสักที เพราะไม่รู้จักความสบายมาก่อน จึงไม่มีปัญหานัก

    ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก จะมีบางครั้งที่จะกระตุกผ้ากันเปื้อนสีมอของเรนาซึ่งวิ่งวุ่นทำงาน และบอกว่า “หิว” เท่านั้น

        

        แต่เรนากับเทเรซีไม่ใช่ เด็กทั้งสองคนเคยลิ้มรสความสบายเมื่อครั้งที่พ่อแม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่  

    สองคนคิดอยู่เสมอว่าชีวิตช่างยากลำบาก แต่ก็ยังหมั่นทำงานและอยู่อย่างร่าเริงมาตลอด เพราะสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถปฏิเสธได้

    แต่บางครั้งสิ่งนั้นก็เป็นชนวนให้เรนากับเทเรซีทะเลาะกัน



        “เทเรซี! บอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่งกับสวนสมุนไพรฉัน!” เช้าวันที่อากาศสดใสอย่างนี้

    พั๊ดเดิลกำลังเล่นดินอยู่ที่สวนหลังบ้าน แต่อารมณ์ของสาวๆตระกูลฮีทดี้กลับขุ่นมัว

    เพราะเรนาขายของได้น้อยกว่าทุกวันและเทเรซีไม่อิ่มท้องนั่นเอง

        “ก็ฉันหิวนี่! อาหารเช้าของเรามีแค่ขนมปังที่เหลือจากเมื่อคืนเท่านั้นนี่!”

    “เธอและฉันจะอิ่มมากกว่านี้ ถ้าเธอไม่คอยรุกรานกับแปลงสมุนไพรฉันอยู่เรื่อยๆ!”

    “รุกรานเหรอ ? ฉันแค่เด็ดมันมานิดหน่อยเท่านั้น!!”

    อากาศร้อนและท้องหิว ทำให้การมีปากเสียงครั้งนี้รุนแรงมากขึ้นกว่าที่เคย  

    “ใช่! เธอเด็ดมันมานิดหน่อย แต่อย่าบอกนะว่านั่นคือสิ่งที่เธอควรจะทำ!”

    “ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นเลย ถ้าเพียงแต่พ่อและแม่ยังมีชีวิตอยู่ หรือไม่พี่ก็สามารถเลี้ยงฉันกับพั๊ดเดิลให้อิ่มได้เท่าที่พ่อแม่เคยทำ!”

    น้ำตาเทเรซีเริ่มปริ่ม เรนาก็เช่นกัน เพราะการที่ส่วนหนึ่งของครอบครัวจากไปไม่ทำให้ทั้งสองเศร้ามากน้อยไปกว่ากันเลย

    “อ๋อ..มันเป็นความผิดของฉันงั้นสิ! ฉันหากระต่ายมาเลี้ยงยังง่ายกว่าน้องอย่างเธอเลย!”

    เรนาหน้าแดง ตะโกนทั้งน้ำตา  

    “ถ้าพี่เห็นว่ามันดีกว่าฉันก็เอาซี กระต่ายมันคงฉลาดกว่าฉันด้วยนี่!”

        เทเรซีหันหลังกลับ วิ่งไปยังสวนคาโมไมล์แต่เลยมันไป ต่อจากสวนคาโมไมล์เป็นกอหญ้าป่า สูงและหนาทึบ หลังกอหญ้านั่นมีดอกเดซี่และแดนดิไลออนบานสะพรั่ง สีขาวสลับกับเหลืองนวลสวยงามราวกับความฝัน ที่นี่คือ “ที่ลับ” ของเทเรซี

    เธอมักหลบมาที่นี่เสมอเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงจากการไว้วานงานของเรนา  

    ความงดงามของทุ่งแดนดิไลออนทำให้ใจเธอเย็นลง แต่ก็ยังไม่เย็นพอที่จะกลับไปขอโทษและคืนดีกับพี่สาวเธอ

    เทเรซีล้มตัวลงนอนท่ามกลางทุ่งสีเหลืองนวลนั่น

    มองท้องฟ้าอยู่ครู่หนึ่ง ความอ่อนนุ่มของหญ้าป่าและดอกเดซี่ทำให้เธอเคลิ้ม และหลับไปในที่สุด..





    ผมสีทอง ยาว หยิกเป็นลอนราวตุ๊กตา ของเทเรซีแผ่กว้างไปท่ามกลางทุ่งดอกแดนดิไลออนและเดซี่ที่พยายามอวดโฉมยามต้องแสงแดด

    ไม่ให้แพ้เรือนผมเธอ

    ยามนอน เธอช่างเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ผิวเธอขาวใสอย่างผู้ดี

    อันที่จริงผิวของเรนาก็ขาวราวไข่มุกเช่นกัน แต่ตอนนี้ออกคล้ำไปบ้างเพราะทำงานกรำแดดมานาน

    แก้มเทเรซีสีชมพูระเรื่อพอๆกับริมฝีปาก หยาดน้ำตายังคงมีเหลืออยู่บนเปลือกตาที่ปิดพริ้ม

    ขนตางอนยาวทำให้ใบหน้ายามหลับใหลเธอดูคล้ายเจ้าหญิงตัวน้อยๆจริงๆ

        นิทราแสนหวานของเทเรซีถูกขัดขวางลงด้วยมือของใครคนหนึ่งที่สัมผัสเส้นผมเธอ จนเธอรู้สึกตัว

    “ใครน่ะ...เรนาหรือ?”  ดวงตาของเทเรซียังคงปิด มือปัดป่ายซ้ายขวาเบาๆอย่างรำคาญ ทว่าไม่มีเสียงตอบกลับมา  

    “พั๊ดเดิล..? อย่ากวนฉัน” เมื่อไม่ใช่พี่สาว เธอก็เอ่ยชื่อน้องชาย แต่ว่าก็ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับมาเช่นกัน  

    มือนั้นยังสัมผัสผมของเธอต่อไป อย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า

        ความสงสัยทำให้เทเรซีต้องตื่นขึ้น เธองัวเงียลุกขึ้นนั่งมองเจ้าของมือลึกลับที่ล่วงเกินเรือนผมเธอ  ทำให้เธอรำคาญ  

    สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือกระต่าย  กระต่ายตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ ตาสีแดงราวทับทิม ขนฟูนุ่มสีขาวราวก้อนเมฆ  

    เหมือนกระต่ายธรรมดาทั่วไปที่น่ารักน่าชังน่าเอามาเลี้ยง  ต่างออกไปตรงที่ว่ากระต่ายน้อยตัวนี้สวมทักซิโด้สีดำพอดีตัว

    เหมือนตัดมาสำหรับตุ๊กตา ผูกหูกระต่ายสีแดง สวมหมวกทรงสูงคล้ายผู้ดีในปารีส ห้อยขวดโซดาขนาดเล็กไว้ที่คอ ฝาขวดเป็นจุกไม้ก๊อก

    และยืนสองขา จ้องมองเทเรซีตอบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×