ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องเริ่มที่ การผิดใจกัน
มื้อเย็นของครอบครัวฮีทดี้ผ่านไปอย่างสนุกสนานและอิ่มหนำ
เรนา สามารถซื้อขนมปังฝรั่งเศสสำหรับเทเรซี พั๊ดเดิลและตัวเธอได้คนละก้อน กินกับซุปฟักทองอุ่นๆที่ทำเอง
เพียงเท่านี้ก็เป็นอาหารชั้นเลิศของครอบครัวเล็กๆที่ยังชีพด้วยการขายผักและสมุนไพรแล้ว                 
    เรนาเป็นเรี่ยวแรงหลักตั้งแต่พ่อแม่จากไป เธอต้องดูแลน้องสาวอายุสิบเอ็ดและน้องชายวัยหกขวบเพียงคนเดียว
ทั้งที่เธอเพิ่งมีอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น ความเป็นอยู่ของครอบครัวฮีทดี้จะเรียกว่า “ยากลำบาก” ก็คงจะได้
ความหิวทำให้อารมณ์ขุ่นมัวอยู่ได้เรื่อยๆ แต่พั๊ดเดิล น้องชายตัวเล็กไม่เคยบ่นเลยสักที เพราะไม่รู้จักความสบายมาก่อน จึงไม่มีปัญหานัก
ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก จะมีบางครั้งที่จะกระตุกผ้ากันเปื้อนสีมอของเรนาซึ่งวิ่งวุ่นทำงาน และบอกว่า “หิว” เท่านั้น
   
    แต่เรนากับเทเรซีไม่ใช่ เด็กทั้งสองคนเคยลิ้มรสความสบายเมื่อครั้งที่พ่อแม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่ 
สองคนคิดอยู่เสมอว่าชีวิตช่างยากลำบาก แต่ก็ยังหมั่นทำงานและอยู่อย่างร่าเริงมาตลอด เพราะสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถปฏิเสธได้
แต่บางครั้งสิ่งนั้นก็เป็นชนวนให้เรนากับเทเรซีทะเลาะกัน
    “เทเรซี! บอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่งกับสวนสมุนไพรฉัน!” เช้าวันที่อากาศสดใสอย่างนี้
พั๊ดเดิลกำลังเล่นดินอยู่ที่สวนหลังบ้าน แต่อารมณ์ของสาวๆตระกูลฮีทดี้กลับขุ่นมัว
เพราะเรนาขายของได้น้อยกว่าทุกวันและเทเรซีไม่อิ่มท้องนั่นเอง
    “ก็ฉันหิวนี่! อาหารเช้าของเรามีแค่ขนมปังที่เหลือจากเมื่อคืนเท่านั้นนี่!”
“เธอและฉันจะอิ่มมากกว่านี้ ถ้าเธอไม่คอยรุกรานกับแปลงสมุนไพรฉันอยู่เรื่อยๆ!”
“รุกรานเหรอ ? ฉันแค่เด็ดมันมานิดหน่อยเท่านั้น!!”
อากาศร้อนและท้องหิว ทำให้การมีปากเสียงครั้งนี้รุนแรงมากขึ้นกว่าที่เคย 
“ใช่! เธอเด็ดมันมานิดหน่อย แต่อย่าบอกนะว่านั่นคือสิ่งที่เธอควรจะทำ!”
“ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นเลย ถ้าเพียงแต่พ่อและแม่ยังมีชีวิตอยู่ หรือไม่พี่ก็สามารถเลี้ยงฉันกับพั๊ดเดิลให้อิ่มได้เท่าที่พ่อแม่เคยทำ!”
น้ำตาเทเรซีเริ่มปริ่ม เรนาก็เช่นกัน เพราะการที่ส่วนหนึ่งของครอบครัวจากไปไม่ทำให้ทั้งสองเศร้ามากน้อยไปกว่ากันเลย
“อ๋อ..มันเป็นความผิดของฉันงั้นสิ! ฉันหากระต่ายมาเลี้ยงยังง่ายกว่าน้องอย่างเธอเลย!”
เรนาหน้าแดง ตะโกนทั้งน้ำตา 
“ถ้าพี่เห็นว่ามันดีกว่าฉันก็เอาซี กระต่ายมันคงฉลาดกว่าฉันด้วยนี่!”
    เทเรซีหันหลังกลับ วิ่งไปยังสวนคาโมไมล์แต่เลยมันไป ต่อจากสวนคาโมไมล์เป็นกอหญ้าป่า สูงและหนาทึบ หลังกอหญ้านั่นมีดอกเดซี่และแดนดิไลออนบานสะพรั่ง สีขาวสลับกับเหลืองนวลสวยงามราวกับความฝัน ที่นี่คือ “ที่ลับ” ของเทเรซี
เธอมักหลบมาที่นี่เสมอเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงจากการไว้วานงานของเรนา 
ความงดงามของทุ่งแดนดิไลออนทำให้ใจเธอเย็นลง แต่ก็ยังไม่เย็นพอที่จะกลับไปขอโทษและคืนดีกับพี่สาวเธอ
เทเรซีล้มตัวลงนอนท่ามกลางทุ่งสีเหลืองนวลนั่น
มองท้องฟ้าอยู่ครู่หนึ่ง ความอ่อนนุ่มของหญ้าป่าและดอกเดซี่ทำให้เธอเคลิ้ม และหลับไปในที่สุด..
ผมสีทอง ยาว หยิกเป็นลอนราวตุ๊กตา ของเทเรซีแผ่กว้างไปท่ามกลางทุ่งดอกแดนดิไลออนและเดซี่ที่พยายามอวดโฉมยามต้องแสงแดด
ไม่ให้แพ้เรือนผมเธอ
ยามนอน เธอช่างเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ผิวเธอขาวใสอย่างผู้ดี
อันที่จริงผิวของเรนาก็ขาวราวไข่มุกเช่นกัน แต่ตอนนี้ออกคล้ำไปบ้างเพราะทำงานกรำแดดมานาน
แก้มเทเรซีสีชมพูระเรื่อพอๆกับริมฝีปาก หยาดน้ำตายังคงมีเหลืออยู่บนเปลือกตาที่ปิดพริ้ม
ขนตางอนยาวทำให้ใบหน้ายามหลับใหลเธอดูคล้ายเจ้าหญิงตัวน้อยๆจริงๆ
    นิทราแสนหวานของเทเรซีถูกขัดขวางลงด้วยมือของใครคนหนึ่งที่สัมผัสเส้นผมเธอ จนเธอรู้สึกตัว
“ใครน่ะ...เรนาหรือ?”  ดวงตาของเทเรซียังคงปิด มือปัดป่ายซ้ายขวาเบาๆอย่างรำคาญ ทว่าไม่มีเสียงตอบกลับมา 
“พั๊ดเดิล..? อย่ากวนฉัน” เมื่อไม่ใช่พี่สาว เธอก็เอ่ยชื่อน้องชาย แต่ว่าก็ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับมาเช่นกัน 
มือนั้นยังสัมผัสผมของเธอต่อไป อย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า
    ความสงสัยทำให้เทเรซีต้องตื่นขึ้น เธองัวเงียลุกขึ้นนั่งมองเจ้าของมือลึกลับที่ล่วงเกินเรือนผมเธอ  ทำให้เธอรำคาญ 
สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือกระต่าย  กระต่ายตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ ตาสีแดงราวทับทิม ขนฟูนุ่มสีขาวราวก้อนเมฆ 
เหมือนกระต่ายธรรมดาทั่วไปที่น่ารักน่าชังน่าเอามาเลี้ยง  ต่างออกไปตรงที่ว่ากระต่ายน้อยตัวนี้สวมทักซิโด้สีดำพอดีตัว
เหมือนตัดมาสำหรับตุ๊กตา ผูกหูกระต่ายสีแดง สวมหมวกทรงสูงคล้ายผู้ดีในปารีส ห้อยขวดโซดาขนาดเล็กไว้ที่คอ ฝาขวดเป็นจุกไม้ก๊อก
และยืนสองขา จ้องมองเทเรซีตอบ
เรนา สามารถซื้อขนมปังฝรั่งเศสสำหรับเทเรซี พั๊ดเดิลและตัวเธอได้คนละก้อน กินกับซุปฟักทองอุ่นๆที่ทำเอง
เพียงเท่านี้ก็เป็นอาหารชั้นเลิศของครอบครัวเล็กๆที่ยังชีพด้วยการขายผักและสมุนไพรแล้ว                 
    เรนาเป็นเรี่ยวแรงหลักตั้งแต่พ่อแม่จากไป เธอต้องดูแลน้องสาวอายุสิบเอ็ดและน้องชายวัยหกขวบเพียงคนเดียว
ทั้งที่เธอเพิ่งมีอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น ความเป็นอยู่ของครอบครัวฮีทดี้จะเรียกว่า “ยากลำบาก” ก็คงจะได้
ความหิวทำให้อารมณ์ขุ่นมัวอยู่ได้เรื่อยๆ แต่พั๊ดเดิล น้องชายตัวเล็กไม่เคยบ่นเลยสักที เพราะไม่รู้จักความสบายมาก่อน จึงไม่มีปัญหานัก
ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก จะมีบางครั้งที่จะกระตุกผ้ากันเปื้อนสีมอของเรนาซึ่งวิ่งวุ่นทำงาน และบอกว่า “หิว” เท่านั้น
   
    แต่เรนากับเทเรซีไม่ใช่ เด็กทั้งสองคนเคยลิ้มรสความสบายเมื่อครั้งที่พ่อแม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่ 
สองคนคิดอยู่เสมอว่าชีวิตช่างยากลำบาก แต่ก็ยังหมั่นทำงานและอยู่อย่างร่าเริงมาตลอด เพราะสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถปฏิเสธได้
แต่บางครั้งสิ่งนั้นก็เป็นชนวนให้เรนากับเทเรซีทะเลาะกัน
    “เทเรซี! บอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่งกับสวนสมุนไพรฉัน!” เช้าวันที่อากาศสดใสอย่างนี้
พั๊ดเดิลกำลังเล่นดินอยู่ที่สวนหลังบ้าน แต่อารมณ์ของสาวๆตระกูลฮีทดี้กลับขุ่นมัว
เพราะเรนาขายของได้น้อยกว่าทุกวันและเทเรซีไม่อิ่มท้องนั่นเอง
    “ก็ฉันหิวนี่! อาหารเช้าของเรามีแค่ขนมปังที่เหลือจากเมื่อคืนเท่านั้นนี่!”
“เธอและฉันจะอิ่มมากกว่านี้ ถ้าเธอไม่คอยรุกรานกับแปลงสมุนไพรฉันอยู่เรื่อยๆ!”
“รุกรานเหรอ ? ฉันแค่เด็ดมันมานิดหน่อยเท่านั้น!!”
อากาศร้อนและท้องหิว ทำให้การมีปากเสียงครั้งนี้รุนแรงมากขึ้นกว่าที่เคย 
“ใช่! เธอเด็ดมันมานิดหน่อย แต่อย่าบอกนะว่านั่นคือสิ่งที่เธอควรจะทำ!”
“ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นเลย ถ้าเพียงแต่พ่อและแม่ยังมีชีวิตอยู่ หรือไม่พี่ก็สามารถเลี้ยงฉันกับพั๊ดเดิลให้อิ่มได้เท่าที่พ่อแม่เคยทำ!”
น้ำตาเทเรซีเริ่มปริ่ม เรนาก็เช่นกัน เพราะการที่ส่วนหนึ่งของครอบครัวจากไปไม่ทำให้ทั้งสองเศร้ามากน้อยไปกว่ากันเลย
“อ๋อ..มันเป็นความผิดของฉันงั้นสิ! ฉันหากระต่ายมาเลี้ยงยังง่ายกว่าน้องอย่างเธอเลย!”
เรนาหน้าแดง ตะโกนทั้งน้ำตา 
“ถ้าพี่เห็นว่ามันดีกว่าฉันก็เอาซี กระต่ายมันคงฉลาดกว่าฉันด้วยนี่!”
    เทเรซีหันหลังกลับ วิ่งไปยังสวนคาโมไมล์แต่เลยมันไป ต่อจากสวนคาโมไมล์เป็นกอหญ้าป่า สูงและหนาทึบ หลังกอหญ้านั่นมีดอกเดซี่และแดนดิไลออนบานสะพรั่ง สีขาวสลับกับเหลืองนวลสวยงามราวกับความฝัน ที่นี่คือ “ที่ลับ” ของเทเรซี
เธอมักหลบมาที่นี่เสมอเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงจากการไว้วานงานของเรนา 
ความงดงามของทุ่งแดนดิไลออนทำให้ใจเธอเย็นลง แต่ก็ยังไม่เย็นพอที่จะกลับไปขอโทษและคืนดีกับพี่สาวเธอ
เทเรซีล้มตัวลงนอนท่ามกลางทุ่งสีเหลืองนวลนั่น
มองท้องฟ้าอยู่ครู่หนึ่ง ความอ่อนนุ่มของหญ้าป่าและดอกเดซี่ทำให้เธอเคลิ้ม และหลับไปในที่สุด..
ผมสีทอง ยาว หยิกเป็นลอนราวตุ๊กตา ของเทเรซีแผ่กว้างไปท่ามกลางทุ่งดอกแดนดิไลออนและเดซี่ที่พยายามอวดโฉมยามต้องแสงแดด
ไม่ให้แพ้เรือนผมเธอ
ยามนอน เธอช่างเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ผิวเธอขาวใสอย่างผู้ดี
อันที่จริงผิวของเรนาก็ขาวราวไข่มุกเช่นกัน แต่ตอนนี้ออกคล้ำไปบ้างเพราะทำงานกรำแดดมานาน
แก้มเทเรซีสีชมพูระเรื่อพอๆกับริมฝีปาก หยาดน้ำตายังคงมีเหลืออยู่บนเปลือกตาที่ปิดพริ้ม
ขนตางอนยาวทำให้ใบหน้ายามหลับใหลเธอดูคล้ายเจ้าหญิงตัวน้อยๆจริงๆ
    นิทราแสนหวานของเทเรซีถูกขัดขวางลงด้วยมือของใครคนหนึ่งที่สัมผัสเส้นผมเธอ จนเธอรู้สึกตัว
“ใครน่ะ...เรนาหรือ?”  ดวงตาของเทเรซียังคงปิด มือปัดป่ายซ้ายขวาเบาๆอย่างรำคาญ ทว่าไม่มีเสียงตอบกลับมา 
“พั๊ดเดิล..? อย่ากวนฉัน” เมื่อไม่ใช่พี่สาว เธอก็เอ่ยชื่อน้องชาย แต่ว่าก็ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับมาเช่นกัน 
มือนั้นยังสัมผัสผมของเธอต่อไป อย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่า
    ความสงสัยทำให้เทเรซีต้องตื่นขึ้น เธองัวเงียลุกขึ้นนั่งมองเจ้าของมือลึกลับที่ล่วงเกินเรือนผมเธอ  ทำให้เธอรำคาญ 
สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือกระต่าย  กระต่ายตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ ตาสีแดงราวทับทิม ขนฟูนุ่มสีขาวราวก้อนเมฆ 
เหมือนกระต่ายธรรมดาทั่วไปที่น่ารักน่าชังน่าเอามาเลี้ยง  ต่างออกไปตรงที่ว่ากระต่ายน้อยตัวนี้สวมทักซิโด้สีดำพอดีตัว
เหมือนตัดมาสำหรับตุ๊กตา ผูกหูกระต่ายสีแดง สวมหมวกทรงสูงคล้ายผู้ดีในปารีส ห้อยขวดโซดาขนาดเล็กไว้ที่คอ ฝาขวดเป็นจุกไม้ก๊อก
และยืนสองขา จ้องมองเทเรซีตอบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น