ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กาลครั้งหนึ่ง..ในความฝัน

    ลำดับตอนที่ #10 : ขโมยยา!

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ค. 47


                  พักใหญ่ๆ.. เทเรซีแลเห็นหลังคาดำมืดของบ้านใหญ่ บ้านนี้ส่องสว่างรำไรด้วยแสงจันทร์ ทำให้เทเรซีมองเห็นประตูทุกด้านที่มี

    แม้จะไม่ถนัดนัก แต่ก็พอจะเห็น

                 พี่น้องเวกเตอร์จะน่ากลัวเพียงไรนะ เธอจะสามารถกลับไปได้หรือเปล่า

    อกของเทเรซีกระเพื่อมขึ้นลงเบาๆด้วยความตื่นเต้นปนหวาดกลัว

    เธอเดินย่องให้เบาและเงียบที่สุด แน่นอน เธอไม่ต้องการให้ใครก็ตามรู้ ว่าเธอกำลังจะบุกรุกบ้านสีดำหลังนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต

    รองเท้าที่เธอสวมเป็นรองเท้าบู๊ทหนังสีน้ำตาล ส่งเสียงดังกรอบแกรบเบาๆเมื่อเธอเหยีบเศษใบไม้แห้งที่กระจัดกระจายรอบตัวบ้าน

    ทำให้ตัวเธอเองตกใจและได้แต่ภาวนาว่าจะไม่มีใครได้ยิน

    เทเรซีย่องมาถึงหน้าต่างบานหนึ่ง ที่แสงไฟสีส้มในบ้านยังส่องสว่างลอดออกมา เธอค่อยๆขยับดวงตาเธอให้พ้นกรอบหน้าต่างนิดๆ

    ไม่ให้ใครสังเกตเห็น

        ภายในห้องที่เทเรซีแอบมอง แวมไพร์สาวที่แต่งกายด้วยชุดหนังสีดำนุ่งน้อยห่มน้อย สวมร้องเท้าบู๊ทสีเดียวกับเสื้อผ้ายาวถึงเข่า เครื่องประดับสีนิลห้อยระย้าเต็มสองแขน ปีกค้างคาวใหญ่ดำทะมึนแผ่กว้างจากแผ่นหลังสีเขียวขุ่น

    กำลังสนุกกับเครื่องดื่มสีแดงในแก้วไวน์ของเธอ ปิศาจสาวหัวเราะคิกคักกับแวมไพร์หนุ่มอีกตัวที่นั่งอยู่ข้างๆ

                    แวมไพร์หนุ่มสวมสูทและผูกไทค์สีดำ มีปีกหนากว้างแผ่ออกจากหลังเช่นเดียวกับเธอ มือสีเขียวขุ่นข้างหนึ่งสอดอยู่ในกระเป๋า ส่วนอีกมือถือแก้วไวน์ที่บรรจุของเหลวสีแดงเช่นกัน

    “ดีจริงๆที่มีพวกเด็กต้นไม้นั่นนะพี่” ปิศาจสาวเอ่ย หัวเราะในลำคอ และยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ

    “นั่นนะสิ เท่านี้เราก็ไม่มีปัญหาเรื่องอาหารแล้วล่ะวิคกี้” เจคตอบ ชนแก้วกับวิคกี้ หัวเราะหึๆ

    “นี่ถ้าอาเธอร์รู้ว่าเราอยู่อย่างสบายอย่างนี้ เขาจะต้องอยากมาอยู่กับเราแน่ๆ” วิคกี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม

    “แน่นอนทีสุด” เจคหัวเราะ

                    ในขณะที่สองปิศาจกำลังสนุกสนานกับเครื่องดื่มคล้ายเลือดนั่น เทเรซีก็ละสายตาจากพวกเขา และรีบย่องไปห้องอื่นๆ

    เพื่อหาห้องเก็บยาและน้ำยาสีขาวโดยเร็วที่สุด เธอมองผ่านหน้าต่างห้องๆหนึ่ง ภายในห้องมีเตาผิงที่มีไฟจุดอยู่

    เก้าอี้นวมท่าทางสบายน่านั่ง โต๊ะที่มีหนังสือภาษาอังกฤษมากมายคว่ำหน้า แสงไฟจากเตาผิงสะท้อนวูบวาบกับพรมสีแดงที่พื้น

    ดูน่ากลัวและเชิญชวนให้เข้าไปอย่างประหลาด

        ชั่วครู่ เทเรซีเคลิบเคลิ้มจนแทบจะปีนข้ามเข้าไปในห้องนั้นแล้ว แต่เธอตั้งสติทัน

    รีบดึงสายตาให้หลุดออกจากห้องนั้นและเดินหา ‘ห้องเก็บยา’ ต่อไป



                    บ้านหลังนี้กว้างมาก เธอต้องเดินวนผ่านห้องนอนสีดำที่มีแต่โลงศพแบบโรมันสองห้อง

    ห้องที่ดูเหมือนห้องอาหาร มีเชิงเทียนจุดสว่างริบหรี่กลางโต๊ะหนึ่งห้อง ห้องที่มีแต่ขวดของเหลวสีแดงเรียงรายราวกับโกดังหนึ่งห้อง

    ในที่สุดเธอก็พบห้องเก็บยา

                    ห้องนั้นเต็มไปด้วยหยากไย่และใยแมงมุม กระจกที่เทเรซีมองผ่านมีฝุ่นหนาติดอยู่เป็นนิ้ว

    เธอสอดสายตาผ่านห้องนั้นได้เพียงรำไรเท่านั้น เมื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นห้องนี้อย่างแน่นอน    

        เทเรซียื่นมือน้อยๆของเธอจับขอบหน้าต่าง และออกแรงยกมันขึ้นให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้

    เสียง ‘เอี๊ยด’ เบาๆทำให้เทเรซีหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อหน้าต่างแง้มขึ้นพอที่จะให้ลมผ่านได้แล้ว เธอค่อยๆออกแรงดันให้มากขึ้นทีละนิด หน้าต่างอยู่สูงไม่มาก แต่เธอแทบจะต้องเขย่งเท้าเลยทีเดียวในการดันหน้าต่างให้เปิดขึ้น

                   “คลิก” ขอบหน้าต่างที่เปิดเต็มที่แล้วล๊อคตัวมันเอง เอาล่ะ ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องเข้าไปในห้องนั้นจริงๆเสียที

    เทเรซีกลั้นหายใจ บรรจงก่ายขาของเธอกับขอบหน้าต่าง เพื่อไม่ให้เกิดเสียงที่จะบอกให้พวกเวกเตอร์รู้ว่าเธอคือผู้บุกรุก

    การปีนป่ายครั้งนี้ช่างลำบากเหลือเกิน ทั้งที่เมื่อครั้งที่เธออยู่ที่เมืองเมเยนด์ แทบจะพูดได้ว่าไม่มีต้นไม้ต้นไหนเลยที่เธอไม่สามารถขึ้นไปได้  



    คงเป็นเพราะการปีนครั้งนี้มีชีวิตของเธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั่นเอง เทเรซีกัดฟันยกตัวขึ้นทีละนิดๆ

    และในที่สุดเธอก็สามารถผ่านเข้ามาในห้องเก็บยานี้ได้ เนื้อตัวเลอะฝุ่นเต็มไปหมด แต่เธอไม่มีเวลามาสนใจ

    พื้นห้องมีฝุ่นติดหนาเป็นนิ้วๆเช่นเดียวกับหน้าต่าง ราวกับไม่มีคนย่างก้าวเข้ามาในห้องนี้นานเป็นศตวรรษแล้ว

    ทำให้เทเรซีจำเป็นต้องทิ้งรอยเท้าน้อยๆไว้บนพื้น

        เธอสอดส่ายสายตาหา ‘น้ำยาสีขาว’ อย่างรวดเร็ว แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะทำอย่างนั้น

    เครื่องแก้วที่บรรจุของเหลวทั้งหมดที่มีในห้องถูกปกคลุมด้วยใยแมงมุมจนแทบมองไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร

    เทเรซีค่อยๆแหวกใยแมงมุมออกจากชั้นวางยาทีละชั้นๆ ในที่สุดเธอก็มองเห็น! ขวดน้ำยาสีขาวทรงคนโท ส่องสะท้อนแสงจันทร์วิบวับ

    เธอพบแล้ว!



    แต่ขวดนั้นอยู่สูงเกินกว่าที่เธอจะหยิบถึง มันอยู่สูงจนแทบติดเพดานเลยทีเดียว น่าสงสัยจริงว่าพวกเวกเตอร์หยิบมันได้อย่างไร

    พวกเขาคงใช้ปีกดำๆนั่นแน่ๆ นี่เองกระมังที่ทำให้ห้องนี้ปราศจากรอยเท้ามนุษย์..

    เทเรซีพบบันไดไม้ไผ่เก่าๆที่ถูกปกคลุมด้วยหยากไย่อันหนึ่งวางพิงอยู่ริมห้อง เธอนำมันวางพาดกับชั้นยาที่พบคนโทนั้นทันที

    เธอต้องรีบหน่อยแล้วล่ะ ก่อนที่พวกเวกเตอร์จะรู้ตัว เทเรซีก้าวขาที่สั่นระริกขึ้นไปบนบันไดทีละขั้นๆ

    และเธอก็สามารถหยิบน้ำยานั้นได้ในที่สุด

    โชคร้ายที่บันไดไม้ไผ่นั่นเก่าเกินกว่าที่จะรับน้ำหนักเธอนานกว่านี้ มันเริ่มส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดอย่างไม่น่าไว้ใจ

    “โธ่ ไม่นะ” เทเรซีรำพึงเบาๆ สิ้นเสียง ‘เปรี๊ยะ’ ขั้นบันไดไม้ไผ่หักออก เทเรซีกอดคนโทแน่น หลับตาปี๋ ตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง

                   แต่ยังโชคดีที่ตกลงในความสูงที่ไม่ทำให้เธอบาดเจ็บ “โอ๊ย” เทเรซีอุทานออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

    ขวดน้ำยาอื่นๆในชั้นเก็บยาตกลงมาแตก “เพล้ง! เพล้ง!”



                   ปิศาจสองพี่น้องละจากบทสนทนาแสนสนุก หันหน้าขวับมายังห้องเก็บยา

    “มีคนบุกรุก! เจค!” วิคกี้คำรามลั่น แยกเขี้ยวแหลมคมน่าสยดสยอง

    “ฉันรู้ วิคกี้” เจคเอ่ยอย่างใจเย็น

    “ก็แค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น น่าดีใจที่มีอาหารสุดพิเศษมาหาเราถึงที่ไม่ใช่หรือ” เจคแสยะยิ้ม พลางวนของเหลวสีแดงในแก้วไวน์

    วิคกี้ยิ้มให้กับคำตอบ และพยักหน้า แววตาชั่วร้าย

        “โอย ตายล่ะ! ฉันต้องรีบออกไปจากที่นี่!” เทเรซีลุกขึ้นมา ตัวขะมุกขะมอม แต่ขวดยายังปลอดภัย เ

    ธอวิ่งตรงไปยังหน้าต่างที่เธอเข้ามา ไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าเสียงของเธอจะทำให้พวกแวมไพร์รู้ตัวหรือไม่

    เธอก้าวขาปีนป่ายออกไปจากห้องนั้นอย่างไม่ยากลำบากเท่าตอนที่เธอปีนเข้ามา

        ก่อนที่เทเรซีจะพาตัวออกพ้นห้องนั้น ปิศาจสาวพัดกระพือแรงลมด้วยปีกสีดำมหึมาของเธอ แยกเขี้ยวคำรามจนเทเรซีร้องกรี๊ด

    วิคกี้จ้องมองเธอจากด้านนอกของตัวบ้าน

    ความตกใจทำให้มือไม้พาลไร้เรี่ยวแรง เทเรซีล้มหงายเข้ามาภายในห้องเก็บยา

    “สวัสดีแม่หนู..” แวมไพร์บินลอดหน้าต่าง เข้ามายืนเก็บปีกอยู่ต่อหน้าเทเรซี

    “ดูซิว่าเธอเข้ามาทำอะไรในบ้านของฉัน” รอยยิ้มอย่างเป็นต่อปรากฏบนใบหน้าชั่วร้าย

    เทเรซีตัวสั่นงันงก ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากลำคอที่แห้งผากของเด็กหญิง

                    ปิศาจสาวแลเห็นขวดคนโทบรรจุน้ำยาสีขาวที่เทเรซีกุมไว้แน่นด้วยมือข้างเดียว และยิ้มอย่างพอใจ

    “เธอมาขโมยยาของฉันไปช่วยพวกเด็กต้นไม้สวะนั่นสินะ!” วิคกี้แยกเขี้ยวคำรามข่มขวัญ และมันก็ได้ผล

    เทเรซีกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เหงื่อแตกพร่าเต็มหน้าผาก ใบหน้าและริมฝีปากสั่นระริก มือข้างที่ว่างอยู่พยายามดันตัวให้นั่ง

    ตาเบิกโพลงอย่างกลัวตาย



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×